ความคิดเห็นทั้งหมด : 7

Debate XXV: กตัญญูกตเวที มี่กี่บาท?


   ???



Posted by : Phoenix , Date : 2003-06-01 , Time : 23:44:18 , From IP : 172.29.3.216

ความคิดเห็นที่ : 1


   ไม่เข้าใจความหมายครับ...มันตีเป็นค่าเงินได้เหรอครับ?..:D...:D



Posted by : Death , Date : 2003-06-02 , Time : 02:40:04 , From IP : 172.29.3.225

ความคิดเห็นที่ : 2


   นั่นซิ มันมีค่า มีความหมายอยู่รึเปล่า?



Posted by : Phoenix , Date : 2003-06-02 , Time : 03:05:34 , From IP : 172.29.3.216

ความคิดเห็นที่ : 3


   นอกเรื่องหน่อยนะครับ.....

สำหรับ นศพ. การจัดตารางเรียนให้ใกล้ชิดอาจารย์มากๆก็ดีนะครับ ...... รู้สึกว่าความเป็นศิษย์ อาจารย์ใกล้เคียงกับตอนประถม มัธยมหน่อย....คือ เรารู้สึกว่าอาจารย์สอนเรา อาจารย์ช่วย ถือแม้ว่าจะด่า ติ แต่ก็ยังรู้สึกว่าอาจารย์สนใจ หวังดี....

ตัวอย่างที่ใกล้เคียงชั้น clinic ก็ของหวอดสูตินะครับ....คือ ตามสายตลอด 2 เดือน อยู่ด้วยกันทั้งวัน ทุกวัน......สอน ว่ากล่าว ตักเตือน พาไปเลี้ยง .....รู้สึกว่า ครูกับศิษย์

แต่หลายๆภาควิชาไม่มีแบบนี้.....มันเปลี่ยนไปเรื่อย สลับไปเรื่อย อาจารย์ก็จำ นศพ. ไม่ได้....นศพ ก็ไม่ผุกพันกับอาจารย์........มันกลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง นักศักษากับภาควิชา นักศึกษากับระบบการเรียน........มันทำให้เราห่างจากครู

แล้วเราจะคิดถึงเรื่องอื่นมากกว่า........เช่น จ่ายค่าเทอมมาเรียนนะ.....จะกตัญญูอะไรอีก ทำนองนี้นะ 55

ผมยกตัวอย่างนะครับ......แล้วส่วนตัว ผมว่า สูติ เขาจักการเีรียน สำหรับ นศพ ได้ดีครับ...


Posted by : กระเต็นน้อยธรรมดา , Date : 2003-06-02 , Time : 04:36:50 , From IP : 172.29.2.240

ความคิดเห็นที่ : 4


   ฝากหน่วยการศึกษาครับ รับทราบด้วยนะครั๊บ....เจ้านายยยยยย

Posted by : ทุกข์คนเมืองช่อง7 , Date : 2003-06-02 , Time : 19:38:59 , From IP : 202.57.170.121

ความคิดเห็นที่ : 5


   ผมจะรอแต่อาจารย์เลี้ยงเท่านั้นล่ะครับ เพราะเวลาอาจารย์เลี้ยงทีไรรู้สึกสัมพันธภาพระหว่างลูกศิทย์อาจารย์ดีขึ้นทุกที ฮาๆๆๆ

แต่อาจารย์ที่เก่งๆบางท่านก็สามารถทำให้ดีได้โดยไม่ต้องพาไปเลี้ยงเหมือนกัน แต่ว่ามีน้อยมากที่อาจารย์จะเก่งเรื่องผูกสัมพันธ์ลูกศิทย์อย่างนี้น่ะ


Posted by : ... , Date : 2003-06-02 , Time : 21:46:11 , From IP : 172.29.2.240

ความคิดเห็นที่ : 6


   เคยประทับใจกับการถูกเลี้ยงดูปูเสื่อโดยอาจารย์แพทย์เหมือนกัน น่าจะเป็นเพราะบรรยากาศการกินนั้นเสริมสร้างความรู้สึกแบบครอบครัวรึเปล่าไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆคือรู้สึกผูกพันกับอาจารย์ที่เราเคยคุยเล่นด้วยมากหลายคน

คนเรามีหมวกหลายใบ เวลาที่ดีที่สุดก็คือเวลาถอดหมวกที่ทุกคนลด barrier ลง ถึงตอนนั้น (เช่นในชุดว่ายน้ำ ขาสั้น กำลังปิ้ง BBQ) ดูมันจะง่ายขึ้นเยอะ น่าจะมี wear-shorties day ที่ทั้งโรงพยาบาลใส่ขาสั้นมาทำงาน ดูว่าบรรยากาสเป็นยังไง (ที่อังกฤษมี Wrong-Trouser day ที่ทุกคนจะใส่ชุดแปลกๆ เช่นขาสั้นถุงเท้าสีแดงแปร๊ด หรือถุงเท้าคนละสีเป็นต้น แล้วเก็บเงินเข้า charity จากคนที่เข้าร่วม คือต้องจ่ายตังค์ค่าแต่งตัวเพี้ยนๆนั่นเอง)

นั่นคงไม่เกี่ยวกับกตัญญูกตเวทีเท่าไหร่แฮะ ทำไมมันหาเรื่องพูดยากนักนะ เรื่องนี้?



Posted by : Phoenix , Date : 2003-06-02 , Time : 22:54:51 , From IP : 172.29.3.208

ความคิดเห็นที่ : 7


   กตัญญูกตเวที เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นจิตสำนึกของแต่ละคนไปแล้วล่ะครับ สังคมเปลี่ยนไป สภาพครอบครัวก็เป็นครอบครัวเดี่ยวสะเยอะ มองแค่สถาบันครอบครัวเดี๋ยวนี้เด็ก ๆ ก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง นิยมความเป็นปัจเจกบุคคลตามสังคมตะวันตกมากขึ้น ผู้ใหญ่มีเวลาใกล้ชิดน้อยกับเด็ก ๆ น้อยลง ทำให้สาร์นที่เคยถ่ายทอดกันผ่านความอบอุ่นผ่านสายใยของครอบครัวมันหายไป เรื่องกตัญญูกตเวทีนี้เลยเป็นอะไรที่แสดงออกยากและหายากมากขึ้นนะครับ อีกอย่างแม้แต่ผู้ใหญ่เองสมัยนี้ก็หาคนที่จะเป็นตัวอย่างที่น่าดำเนินรอยตาม น่าที่จะเอาเป็นแบบอย่างให้เกิดความรู้สึกศรัทธา รักและเทิดทูนก็หายากนะครับ ถ้าจะคิดเป็นบาทคงต้องใช้ "บาทแห่งคุณค่า" ครับ และคงต้องใช้หลายบาทด้วยกว่าจะเรียกสำนึกดี ๆ แบบนี้กลับมาสู่วัฒนธรรมไทยได้

Posted by : Mercury , Date : 2003-06-03 , Time : 15:29:44 , From IP : 172.29.1.195

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<