ความคิดเห็นทั้งหมด : 12

อยากให้หมอลาออกกันให้หมด


   อยากให้หมอลาออกกันให้หมด เบื่อกับความไม่ยุติธรรมของสังคมที่มีต่อหมอแล้วล่ะ หมอก็คนมีทั้งดีมากกับดีไม่มาก ก็เหมือนกับอาชีพอื่นๆ มีแต่คนจ้องจะหาประโยชน์กับหมอ หมอไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกคนไข้ แต่นักข่าวมีสิทธิ์เลือกที่จะเขียนแต่ข่าวที่ทำลายหมอมาเขียนตัวโต เพื่อให้ขายหนังสือพิมพ์ได้ ทั้งๆที่เวลาลงข่าวผิดมาขอโทษ ก็ลงกรอบเล็กๆ ตัวหนังสือเล็กกว่าตั้งไม่รู้กี่เท่า
มีแม่คนนึงพาลูกมาร.พ.เพราะว่าไข้สูงมา 2-3 วันกินยาแล้วไม่หาย หมอบอกว่าสงสัยเรื่องไข้เลือดออก เห็นเด็กเพลียมากแนะนำให้นอนร.พ.เพื่อตรวจก่อนเนื่องจากผลเลือดยังไม่แสดง แม่เด็กไม่ยินยอม หลังจากนั้นเด็กเสียด้วยไข้เลือดออกอีก 2-3 วันที่ร.พ.อื่น ญาติๆต่างเอาแต่โทษหมอร.พ.แรก ว่าไม่ดูแล โดยแม่เด็กไม่พูดความจริงอะไรเลยซักคำ
เรื่องแพ้ยาจนตาบอด ถ้าซักประวัติแต่แรกแล้วไม่ได้ประวัติเรื่องแพ้ยาเลย คนไข้ก็ไม่รู้มาก่อน แล้วใครมันจะไปรู้ล่ะขนาดคนแพ้ยังไม่รู้เลย การให้เงินช่วยเหลือมันเป็นอะไรที่ดีมากๆเลย แต่สื่อกับศาลกลับทำเหมือนกับว่าเงินดังกล่าวร.พ.ต้องจ่ายเพราะร.พ.กับหมอเป็นฝ่ายผิด เบื่อๆๆๆๆ
ทำดีไม่ใครชมไม่เป็นไรเพราะสุขใจอยู่แล้ว แต่ทำดีแล้วยังถูกด่าถูกตำหนิ ประเทศไทยถึงได้มีแต่นักการเมืองที่ดีแต่พูด ข้าราชการที่คอรัปชั่น เอกชนที่เอาเปรียบ และโจรก่อการร้ายไงครับ
จะมีใครที่ความเห็นคล้ายๆเราไหม


Posted by : หมอนกเขา , Date : 2005-08-15 , Time : 00:18:37 , From IP : 172.29.7.137

ความคิดเห็นที่ : 1


   ลาออกแล้วปัญหามันถูกแก้อย่างไรนะครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-15 , Time : 00:37:34 , From IP : 203.156.122.39

ความคิดเห็นที่ : 2


    ผมเป็นแค่นกเขาตายไปก็ไม่อาจฟื้นจากเถ้าถ่าน..
ความเห็นข้างบนบอกว่าอยากจะ..ครับ ไม่ได้จะทำจริง..
ผมเป็นหมอเพราะผมอยากจะเป็น..
อยากให้ความคิดข้างบนสะกิดใจคนบ้างเท่านั้นเอง..


Posted by : หมอนกเขา , Date : 2005-08-15 , Time : 01:09:51 , From IP : 172.29.7.145

ความคิดเห็นที่ : 3


   ก็สะกิดใจจริงๆครับ ถึงได้เรียนถาม

ผมให้ความสำคัญของ "อยากจะ" พอสมควร อย่างน้อยมันมีความหมาย ที่มา และคุณค่า ในตัวเอง ผมเข้าใจว่าคุณหมอนกเขามีอะไรที่ต้องการจะ "สื่อ" เลยสานต่อให้สื่อให้ครบว่ากำลังคิดอะไรอยู่เท่านั้นเองครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-15 , Time : 01:37:22 , From IP : 172.29.7.23

ความคิดเห็นที่ : 4


   อาจารย์ Phoenix มีข้อแนะนำยังไงบ้าง


Posted by : นกกระจอก , Date : 2005-08-15 , Time : 18:42:23 , From IP : 172.29.1.165

ความคิดเห็นที่ : 5


   ได้แสดงความเห็นไว้บางส่วนในกระทู้

นายกแพทย์สภา



Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-15 , Time : 19:16:49 , From IP : adsl-203-156-37-80.j

ความคิดเห็นที่ : 6


   ......อายตนะภายในและภายนอกทั้งหกกลุ่ม หากมาประจวบพบกันที่จุดใด ก็เป็นปัจจัยให้เกิดขันธ์ห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ เสมอ และการจะแสดงออกมาทางกาย วาจา ใจ จะเป็นกุศลกรรมบ้ง อกุศลกรรมบ้าง เป็นกลางบ้าง สุดแต่ระดับการ ฟังรู้ ดูออก เคยได้ยิน เคยได้เห็น ของแต่ละบุคคล แตกต่างกันไปตามแรงขับของกิเลส ตัณหา อุปาทาน ขบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นแปรปรวนไปตามเหตุปัจจัย (อนิจจัง) เดือดร้อนไม่สิ้นสุด (ทุกขัง) และไม่อาจกำหนดได้ (อนัตตา) ทุกเหตการณ์ในโลกก็เกิดอย่างนี้ซำซากวนเวียนอยู่ทั่วตามกฏของไตรลักษณ์
จะเห็นว่าชีวิตคนเรามันสั้นนัก มักขึ้นอยู่กับเหตุภายนอกเป็นหลักมากกว่าการกำหนดจากภายในตัวเราเอง สิ่งที่ดีที่สุดเลยคงเป็น
จงตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทตลอดเวลา.....
ขอความสันติจงมีแก่ทุกท่าน


Posted by : องคต , Date : 2005-08-16 , Time : 13:57:22 , From IP : 172.29.1.176

ความคิดเห็นที่ : 7


   ชอบจังที่บอกว่าชีวิตคนเรามันสั้นนัก แต่กว่าเราจะรู้ตัวว่าการกำหนดจากภายในเป็นสิ่งที่สำคัญก็ปาเข้าไปค่อนชีวิตแล้ว ส่วนการที่เรารับรู้เรื่องภายนอกทั้งที่มีผลหรือไม่มีผลโดยตรงต่อเราก็ทำให้เราทุกข์ได้อย่างมากโดยไม่เกิดประ
โยชน์อันใดเลย อยากรู้ความพอดีว่าอยู่ตรงไหนระหว่างความดูดายทอดธุระหรือธุระไม่ใช่ กับการวางเฉยอย่างเข้าใจต่อเหตุปัจจัยแต่ก็อยู่เฉยๆปล่อยให้ผู้เกี่ยวข้องจัดการกันไปตามหน้าที่เหมือนกัน ระยะหลายปีมานี้โดยเฉพาะในยุครัฐบาลทรท มีเรื่องที่เรารับรู้แล้วก็ทำอะไรไม่ได้มากมาย ต้องนิ่งดูการโกงกินหรือการจัดการเรื่องต่างๆอย่างผิดพลาดซึ่งส่งผลต่อคนจำนวนมากโดยที่เราก็ไม่รู้จะไปทำอะไรให้มันเกิดการแก้ไขได้ เรื่องอึดอัดใจแบบของคุณนกเขาเลยกลายเป็นเรื่องของคนกลุ่มเล็กๆไปเลย แต่หมออย่าลาออกเลยนะ เพราะหมอยังช่วยคนไข้ได้อีกเยอะแยะ เรื่องที่เป็นข่าวเป็นเพียงหนึ่งในล้านของงานดีๆที่หมอทำ


Posted by : ไก่ย่าง , Date : 2005-08-16 , Time : 14:16:11 , From IP : 172.29.3.198

ความคิดเห็นที่ : 8


   ผมพอจะเคยอ่านหนังสือธรรมะ มาบ้าง รู้แบบงูๆปลาๆครับ

รูป คือ กาย
สัญญา คือ ความจำ
สังขาร คือ ความคิดปรุงแต่ง
เวทนา คือ ความรู้สึกชอบ-ชัง-เฉย
แล้ววิญญาณ นี่มันคืออะไรครับ

ผมพยายามทำความเข้าใจแล้วก็ยังไม่เคลีย เหมือน 4 ขันธ์ข้างบน

รบกวนผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ


Posted by : นอกประเด็น , Date : 2005-08-16 , Time : 14:22:01 , From IP : 172.29.1.181

ความคิดเห็นที่ : 9


   ขันธ์ (กอง) ๕
กองรูป (รูปขันธ์) คือธาตุทั้ง ๔ ประชุมกันเป็นกาย พร้อมทั้งรูปที่อาศัยธาตุทั้งสี่ปรากฏ เช่น ความเป็นหญิง ความเป็นชาย เป็นต้น
กองเวทนา (เวทนาขันธ์) คือความรู้สึกเป็นสุข เป็นทุกข์ หรือไม่ทุกข์ไม่สุข
กองสัญญา (สัญญาขันธ์) คือความจำได้หมายรู เช่น จำรูป จำเสียง
กองสังขาร (สังขารขันธ์) คือความคิด หรือเจตนา ที่ดีบ้าง ชั่วบ้าง
กองวิญญาณ (วิญญาณขันธ์) คือความรู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เช่น รู้สึกว่าเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น เป็นต้น

วิภังค์ อภิธัมมปิฏก ๓๕/๕๔๒



Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-16 , Time : 18:12:29 , From IP : 172.29.7.219

ความคิดเห็นที่ : 10


    ขอบพระคุณอาจารย์ฟินกซ์อย่างสูงครับ พอเข้าใจแล้วครับ

Posted by : นอกประเด็น , Date : 2005-08-17 , Time : 13:47:06 , From IP : 172.29.3.208

ความคิดเห็นที่ : 11


   ดิฉันได้อ่านกระทู้แล้ว รู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ ถ้ายังงั้นก็นั่งอยู่เฉยๆ กันให้หมดเลยนิ เจ็บป่วยก็ไม่ต้องไปสน เดี๋ยวมันก็ตายเอง

Posted by : จะเป็นคนดีของสังคม , Date : 2005-08-18 , Time : 15:31:35 , From IP : 203.172.181.222

ความคิดเห็นที่ : 12


   ไม่ใคร่เข้าใจครับ ตรงไหนที่บอกว่าเจ็บป่วยให้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องสนใจนะครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-18 , Time : 17:37:14 , From IP : 172.29.7.58

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.009 seconds. <<<<<