ความคิดเห็นทั้งหมด : 3

โครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับแพทย์ที่ทำงานอยู่3จังหวัดภาคใต้


   ตอนนี้ผมขึ้นกองกุมาร มข.ครับ ได้ผิดชอบทำหัวข้อเรื่อง สำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับแพทย์ที่ทำงานอยู่3จังหวัดภาคใต้ครับ.. คำถามโครงการสำรวจมีดังนี้ครับ
1.สถานการณ์ความรุนแรงตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาในพื้นที่มีอะไรบ้างครับ ..เท่าที่ทราบมามีส่วนของเรื่องโรงเรียนสอนศาสนา และส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นนะครับที่ถูกจับได้ครับ..
2.เกี่ยวความเป็นอยู่ของแพทย์ทางโน้นเป็นอย่างไรบ้างก่อนและเกิดสถานการณ์
เรื่องค่าครองชีพเพียงพอหรือไม่ครับ เราสามารถเปิดคลินิกได้เหมือนปกติรึเปล่าครับ
3.สถานการณ์ความรุนแรง ที่มีผลต่อ การทำงาน แผนการส่งเสริมสุขภาพ การใช้ชีวิตประจำวันของเรา ผลกระทบอื่นๆ
4.สถานการณ์ความรุนแรง ที่มีผลต่อ เด็กๆ ทั้ง กาย ใจ สังคมอย่างไรบ้าง
5.และพี่ๆมีมุมมองปัญหาเรื่องสถานการณ์ความรุนแรง นี้อย่างไรครับ
6.เหตผลที่เลือกไปหรือไม่ไปทำงานที่ภาคใต้ ..มีปัจจัยเกี่ยวข้องอะไรบ้าง
7.แล้วที่หมอลาออกกันเยอะๆนี่จะแก้ปัญหากันยังไงดี แนวทางออกของปัญหาทางไหนบ้าง

จึงอยากจะเรียนถามความเห็นครับ ..จะนำไปรวมไว้ในผลสำรวจของโครงการด้วยครับ ..ถ้าเป็นพี่ที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด ช่วยระบุไว้ด้วยนะครับ ..ขอบคุณครับ

***พี่ๆทุกคนร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ ไม่เฉพาะพี่ๆที่ทำงานอยู่ภาคใต้นะครับ
***พี่ๆอาจจะแสดงความเห็นในเฉพาะบางประเด็นที่สนใจเท่านั้นก็ได้นะครับ


Posted by : วีรวัฒน์ , E-mail : (Oaktech123@yahoo.com) ,
Date : 2005-08-13 , Time : 18:02:54 , From IP : 203-151-140-120.inte


ความคิดเห็นที่ : 1


   สำรวจแบบสอบถามทางกระดานข่าวที่ไม่ได้ใช้ชื่อนามสกุลหรือระบบลงทะเบียนที่ดี นี่อาจจะเกิดปัญหาด้าน methodology ในการวิเคราะห์ภายหลังได้นะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-13 , Time : 18:08:08 , From IP : adsl-203-156-37-20.j

ความคิดเห็นที่ : 2


   อาจารย์กำหนดมาเป็นเพียงแค่โครงงาน หรือรายงานเท่านั้นครับ ไม่ถึงขั้นทำเป็นวิจัยครับ ผมนำเสนอได้เท่าข้อมูลที่หาได้ครับ คงไม่ได้เน้นตัวเลขหรือ methodologyเท่าไหร่ครับ ..ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ..

Posted by : วีรวัฒน์ , E-mail : (oaktech123@yahoo.com) ,
Date : 2005-08-13 , Time : 18:26:19 , From IP : 203-151-140-123.inte


ความคิดเห็นที่ : 3


   เป็น Intern 1 ครับ ขออนุญาตเรียกพี่ เพราะ ไม่รู้ว่าเป็น Resident หรือเปล่า? ขอแสดงความคิดเห็นเป็นข้อๆ ดังนี้ (อะแฮ่ม ขอขัดเจตนาของอาจารย์ซักเล็กน้อยนะครับ)
1. สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงนั้น ถือว่า รุนแรงมากขึ้นครับ เมื่อเทียบกับสมัยก่อน(ก่อนเกิดเหตุปล้นปืน) ซึ่งพี่น่าจะทราบชื่อเสียงของจังหวัดผมดีอยู่แล้วเรื่องระเบิด ตอนนั้น ชาวบ้านก็รู้สึกเฉยๆกับสถานการณ์เพราะ ถึงพวกเขาจะเผาโรงเรียน วางระเบิดทางรถไฟ เขาก็ไม่ทำร้านชาวบ้าน ไม่ทำร้ายครู ไม่ถึงกับสังหารคนอื่นๆ แต่ตอนนี้ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มมาตราการณ์สังหารชาวบ้าน และ ข้าราชการต่างๆ ทำให้ประชาชนต่างก็รู้สึกหวาดผวา จากจังหวัดที่เคยน่าอยู่ สงบ สะอาด ประชาชนมีความสุขยิ้มแย้ม ก็กลายเป็น แดนมิกสัญญีเสียแล้ว กลางคืน ซัก 19.00-20.00 ก็จะไม่มีรถราสัญจรแล้วครับ เพราะ ต่างกลัวว่า จะมีตะปูเรือใบ กลัวว่าจะโดนดักทำร้าย เศรษฐกิจก็ซบเซานะครับ อย่างไรก็ตามชาวบ้านก็ยังทำงานตามปกติในเวลากลางวันครับ ผมมองว่า สถานการณ์จะค่อยๆวนไปเรื่อยๆตาม 3 จังหวัดครับ พอมีเหตุการณ์ก็จะเงียบ เว้นไปซักพัก คนก็จะเริ่มออกมาเดินออกมาออกกำลังกายกันบ้าง อย่างช่วงนี้เงียบไปหลายวันเมืองก็เริ่มคึกคัก วนเวียนอยู่อย่างนี้ครับ แต่ถ้าถามว่า ระดับความรุนแรง แบ่งเป็น mild moderate severe ผมยังมองว่าอยู่ในระดับ moderate ครับ เพราะ ยังไม่มีการจราจล สงครามแบบตลอดเวลาเหมือนในต่างประเทศ ยังไม่มีการสังหารชาวบ้านทีละมากๆ แต่อยู่ในระดับที่ต้องมีการแก้ไขในระยะยาวแล้วครับ(แบบเดียวกับ Asthma)
ส่วนสาเหตุปัจจัยนั้น ผมมองเป็นหลายๆกลุ่มครับ
1. กลุ่มผู้ก่อการ เขามองว่า จังหวัดแถบนี้ มีสภาพสังคม ศาสนา และ ประเพณีวัฒนธรรมแตกต่างจากภาคอื่นในประเทศไทย โดยเฉพาะ ภาษา จึงต้องการแยกตัวออกมาปกครองเอง และได้ดำเนินการเงียบๆเป็นคลื่นใต้น้ำมานานมากแล้ว โดยที่ทางการอาจจะทราบ หรือไม่ทราบ อันนี้ผมไม่ทราบครับ โดยเริ่มการปลูกฝังความรู้สึกเกลียดชังในหมู่เยาวชน โดยวิธีต่างๆ แต่ผมไม่เห็นด้วยที่พี่จะเหมารวมโรงเรียนสอนศาสนาทั้งหมด เพราะ ผมเชื่อว่าโรงเรียนสอนศาสนาไม่ได้มีการปลูกฝังอย่างนี้ทุกโรง (เพราะอีกอย่าง ผมเองก็ไม่เคยเข้าเรียนโรงเรียนสอนศาสนาด้วย) ตอนนี้เยาวชนเริ่มเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แข็งแรงพอที่จะเริ่มดำเนินการต่างๆอย่างที่เขาเชื่อ ต้องเน้นว่าเขาเชื่ออย่างนั้น เพราะ เขาเองก็ไม่ทราบหรอกว่า สิ่งที่เขาเชื่อน่ะผิดหรือถูก แม้แต่ประวัติศาสตร์ของเราเราเองเชื่อได้เหรอ ว่าจะไม่เป็นการเขียนขึ้นของผู้ชนะ แต่จากข่าวในสื่อต่างๆมองว่า กลุ่มผู้ก่อการนั้น มีปริมาณน้อย คือ ผู้ที่มีอุดมการณ์แบ่งแยกจริงๆนั้นมีน้อยครับ แล้วจะกล่าวถึงกลุ่มอื่นต่อไป ถือเป็นกลุ่มที่มีแนวคิดแบ่งแยกเชิงนโยบาย
2. กลุ่มแนวร่วมผลประโยชน์ พวกนี้ไม่มีอุดมการณ์เหมือนกลุ่มข้างบน แต่กระทำการ์เพราะเน้นผลประโยชน์มากกว่า ทั้งในแง่ของธุรกิจผิดกฏหมาย หรือ แสวงหารายได้ พวกนี้เรียกได้ว่าไม่มีศาสนา เพราะ ถ้าเป็นชาวมุสลิมก็เป็นการบาปอย่างรุนแรงมากๆๆๆ เป็นชาวพุทธ ก็ถือเป็นเดนมนุษย์ ผมเชื่อว่ากลุ่มที่กระทำการเชิงพฤตินัย คือ พวกนี้ ทั้งการเข่นฆ่าพระสงฆ์ ชาวบ้าน ยิงผู้คน ปล้นสะดม วางระเบิด การกระทำแต่ละครั้งได้ค่าจ้างนะครับ (เป็นข่าวลือวงใน ซึ่งไม่ทราบว่าจริงหรือไม่) คำถาม คือ ค่าจ้างเหล่านี้ได้มากจากไหน ถ้าไม่ใช่จากธุรกิจผิดกฏหมาย โดยเฉพาะ พื้นที่ที่มีความเอื้ออำนวยให้มีการข่นส่งสินค้าผ่านพรมแดนอย่าง 3 จังหวัดชายแดน เพราะ การก่อการก็มีมานาน 2 ปีกว่าแล้ว คิดว่า คงมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท พวกนี้ยังคงมีการกระทำการต่อไปแน่ เพราะ ถ้าบ้านเมืองไม่สงบก็ยิ่งมีช่องทางเล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ได้ง่าย (อย่าเชื่อครับ อันนี้ผมคิดวิเคราะห์เองครับ)
3. กลุ่มการเมือง แบ่งเป็น
3.1.การเมืองท้องถิ่น หรือ กลุ่มผู้มีอิทธิพลทางด้านสายบริหาร กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ว่าจะเกิดเหตุหรือไม่อย่างไรก็จะมีเสียประโยชน์ เพราะ ถึงแม้จะไม่มีเหตุการณ์เขาก็มีอิทธิพลมาก มีเหตุการณ์เกิดต้องแบ่งแยกจริงๆ เขาก็ไม่เสียประโยชน์แถมได้ประโยชน์จากการแบ่งปันผลประโยชน์ในพื้นที่เสียอีก พวกนี้จะไม่ทำอะไร แนวทางแก้ปัญหาก็จะออกมาไม่ค่อยเป็นรูปธรรม แก้แล้วก็ยังผิดพลาด ยังไม่เห็นผล เพราะ ถึงแก้ไม่แก้เขาก็ไม่เสียประโยชน์นี่แหละ ปัญหาถึงได้เรื้อรัง
3.2 การเมืองระดับประเทศ ผมไม่กล่าวถึงแนวทางหรือนโยบายที่รัฐมีต่อสถานการณ์ เพราะ เชื่อว่ายังต้องให้โอกาส แต่ผู้นำก็ไม่ควรกล่าวอะไรที่มันเกินกว่าเหตุ พวกนี้ก็เหมือนกัน มีการขัดแข้งขัดขากันเอง เพราะ ว่า มีกลุ่มผุ้มีอิทธิพลเก่าอยู่ในพื้นที่ กลุ่มอิทธิพลใหม่ที่เข้ามาก็มาหาผลประโยชน์ โดยออกมาในรูปข้าราชการบางท่าน แต่ละคนก็มีลูกน้องที่ต้องทำตามคำสั่ง ก็ขัดขากันไปมา ทำงานไม่ประสานกัน คนในพื้นที่ที่ทำงานตามหน้าที่ก็รุ้สึกอึดอัด อยากออกนอกพื้นที่ คนที่เข้ามาแทนก็ไม่ได้เต็มใจ แถมไม่คุ้นกับสภาพสังคม และภาษาอีกต่างหาก ปัญหาเลยไม่ได้แก้ แถมเวลามีเหตุการณ์ ด้วยความที่ไม่คุ้นชินกับสภาพพื้นที่ก็ยิ่งทำให้เสียเปรียบกลุ่มแนวร่วมก่อการเสียอีก
4. กลุ่มชาวบ้าน แบ่งเป็น
4.1 ชาวบ้านที่ไม่มีผลกระทบในอนาคต ขออนุญาตกล่าวสักเล็กน้อย ถ้าท่านถูกพาดพิงก็ขออภัย คือ ผมคิดอย่างนี้จริงๆ คือ กลุ่มชาวไทยมุสลิม 70% ของประชากร เพราะ แนวโน้มที่กลุ่มผู้ก่อการจะแยกแล้วเกิดเป็นรัฐอิสลามมีสูงมากกว่ารัฐที่มีการปกครองแบบอื่น ผมจึงมองว่า ไม่ว่าจะมีการแยกดินแดนหรือไม่ ชาวไทยมุสลิมก็จะไม่เดือดร้อน เพราะ อย่างไรก็สามารถดำเนินชีวิตได้ตามเดิม ดีซะอีกเหตุการณ์สงบด้วย ถ้าไม่แยกก็ดำเนินชีวิตแบบเดิม แต่ที่ส่งผลจริง คือ ปัจจุบันการก่อการ ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่อาคารที่ไม่มีชีวิต แต่เป็นการสังหารประชาชน ระเบิดเองก็ไม่มีตา ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ชาวมุสลิมก็โดนลูกหลงไปตามๆกัน ตอนนี้คือ ถ้ามองในแง่รวมแล้วชาวบ้านก็ส่งผลกระทบโดนหมด แต่มองอนาคตอันไกล(หรือว่าใกล้) ชาวบ้านกลุ่มนี้ไม่เสียประโยชน์แน่ ดังนั้น จึงมีข่าวอยู่บ่อยๆว่า ชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือ ในความคิดผม ร่วมมืออาจถูกพวกแนวร่วมฆ่า แต่ถ้าไม่รู้ไม่ชี้ก็ไม่เสียประโยชน์ เป็นคุณจะเลือกอะไร ผมเลือกข้อสองอยู่แล้ว
4.2 ชาวบ้านที่มีผลกระทบในอนาคต ได้แก่ กลุ่มชาวไทยพุทธ และ ชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ พวกนี้จะถูกกดดันมากกว่า เพราะ เขาเองก็อยู่ในพื้นที่มานาน ตั้งรกรากอยู่ในจังหวัด ประกอบอาชีพ เก็บทรัพย์สมบัติทั้งสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ไว้มาก จะย้ายออกนอกพื้นที่ก็เสียดายสิ่งที่อุตส่าห์ลงแรงทำมาค่อนชีวิต บางคนลูกยังเรียน ยังมีภาระมาก แต่มักมีใบปลิวขับไล่คนเหล่านี้ออกนอกพื้นที่ หรือ สั่งให้เปลี่ยนศาสนาถ้ายังต้องการอยู่ในพื้นที่ต่อไป อนาคตถ้ามีการแบ่งแยก คนเหล่านี้จะต้องเสียประโยขน์แน่ ไม่ว่าจะย้ายหรือไม่ย้าย ถ้าย้ายก็สูญเสียทรัพย์สมบัติที่สะสม ไม่ย้ายก็ต้องยอมรับสภาพที่ต้องเปลี่ยนศาสนามาเป็นชาวมุสลิม ซึ่งดูไม่ยุติธรรม แต่ชาวบ้านกลุ่มนี้ก็ไม่มีสิทธิ์เลือกมากนัก นอกจากการแก้ปัญหาของรัฐจะประสบผลสำเร็จ
จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่ากลุ่มที่ทำการแก้ปัญหายังมีความขัดแย้งไม่ลงรอย กลุ่มที่ก่อการก็ทำการโดยสะดวก กลุ่มที่รัฐขอความร่วมมืออย่างประขาชนส่วนใหญ่ก็ไม่เสียประโยชน์ ปัญหากลายเป็น Vicious Cycle อยู่อย่างนี้ ใครจะหาทาง break cycle นี้ได้บ้างไหมครับ? ---> ยังมีต่อ แต่ขอไปดูคนไข้ก่อนนะครับ


Posted by : Botsumu , Date : 2005-08-13 , Time : 21:19:55 , From IP : 203.156.44.107

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<