ความคิดเห็นทั้งหมด : 27

ลองดูว่าคนนอก...มองเราอย่างไรบ้าง


   พอดีเข้าไปอ่านในพันทิพย์....
คงไม่ใช่ในคณะแพทย์เรา หรอกนะ


........เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีเวลาเข้ากรุงห้าวันก็ไปเดินเล่นโรบินสันแยกสีลม เมื่อสมัยเรียน10ปีก่อนก็ไปเดินเล่นประจำตอนพักกลางวันและก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้...
ตอนที่ผมกำลังเลือกนมสดอยู่ มีคนอยู่ข้างสามคนใส่ชุดยาวๆสีขาวกำลังหยอกล้อกันและเลือกนมอยู่ ตอนแรกคิดว่าเป็นคนจัดชั้นนม พอมองชัดๆ นี่มันนักศึกษาแพทย์นี่หว่า...? เฮ้ย..เดินข้ามถนนมาทั้งเต็มยศเลยหรือเนี่ย ชุดนั้นมันชุดกันเชื้อไม่ใช่หรือ ใส่มาเดินห้างมันเหมาะสมหรือ หรือว่าม้นเทห่.......งง?
พอจ่ายของเสร็จก็เดินข้ามทางม้าลายมาฝั่งโรงพยาบาลเพื่อขึ้นแทกชี่ สวนกับอีกสองคนคราวนี้พ่อเดินคุยไปแกว่งที่ฟังหัวใจเป็นวงกลมติ้วเลย ที่ฟังหัวใจนะอันนึงมันถุกมากนักหลอ...มีใครเคยเจอแบบผมบ้างครับเนี่ย .......



Posted by : องคต , Date : 2005-07-28 , Time : 12:16:06 , From IP : 172.29.1.196

ความคิดเห็นที่ : 1


   ฟังจากที่อ่านชุดกันเชื้อที่ว่านั่นคงเป็นเสื้อกาวน์แหละ
ถามว่าเหมาะสมไหม แล้วมันจะอะไรกันนักกันหนา
มันก็แค่เครื่องแบบของนศพแบบนึงนั่นแหละ
เหมือนอย่างตำรวจหรือพยาบาล ใส่ชุดฟอร์มนอกเวลาทำงานผิดด้วยเหรอ?
แกว่งที่ฟังหัวใจแล้วไง? ก็ของเค้าซื้อมาเค้าอยากทำอะไรก็เรื่องของเค้า
พังเค้าก็ซ่อม เสียเค้าก็ซื้อใหม่ จะไปยุ่งกับเค้าทำไม
แกว่งแล้วจำเป็นต้องพังไหม ก็ไม่
แพงมากไหม? มันก็มีตั้งแต่ 3-4 พันจนเป็นหมื่น แต่แล้วไงล่ะ?
เอา Stat มาแกว่งยังดีกว่าเอาเงินไปใช้สุรุ่ยสุร่ายอย่างอื่นล่ะน่า
เห็นแค่นี้แล้วมันอึดอัด คันปากมากนันหรือไงถึงกับต้องมาโพสแบบนี้น่ะหา?


Posted by : ไร้สาระ , Date : 2005-07-28 , Time : 16:00:16 , From IP : 172.29.4.241

ความคิดเห็นที่ : 2


   เรื่องชุดที่ใส่ บอกตรงๆเฉยๆว่ะ
แต่ไม่ชอบที่พูดว่า "ชุดกั้นเชื้อ" กั้นเชื้อไรฟ่ะ
ก็แค่ย้อม sputum UA ดู stool exam ก็เท่านั้น
และจะใส่ชุดไหนไปเดินที่ไหนก็ไม่น่าจะเป็นอะไร

แต่เรื่องแกว่งสะเต๊ด เรากลับไม่เห้นด้วยว่ะ
มันอาจจะไม่ได้ขึ้นกับราคา แต่อย่างน้อยมันก็คือ เครื่องมืออย่างหนึ่ง
ไม่สมควรที่จะเอามาแกว่งเล่น


Posted by : golden , Date : 2005-07-28 , Time : 19:17:57 , From IP : 203.156.48.194

ความคิดเห็นที่ : 3


   เรื่องชุดที่ใส่ บอกตรงๆเฉยๆว่ะ
แต่ไม่ชอบที่พูดว่า "ชุดกั้นเชื้อ" กั้นเชื้อไรฟ่ะ
ก็แค่ย้อม sputum UA ดู stool exam ก็เท่านั้น
และจะใส่ชุดไหนไปเดินที่ไหนก็ไม่น่าจะเป็นอะไร

แต่เรื่องแกว่งสะเต๊ด เรากลับไม่เห้นด้วยว่ะ
มันอาจจะไม่ได้ขึ้นกับราคา แต่อย่างน้อยมันก็คือ เครื่องมืออย่างหนึ่ง
ไม่สมควรที่จะเอามาแกว่งเล่น


Posted by : golden , Date : 2005-07-28 , Time : 19:18:06 , From IP : 203.156.48.194

ความคิดเห็นที่ : 4


   ดูได้แถวๆ โลตัสเองก็พบบ่อยเหมือนกัน...
บอกตามตรง...รับไม่ได้...
เอ.......รึว่ามันเท่มาก........รึว่ากลัวคนไม่รู้
ว่าเราเรียนหมอ...

นี่ถ้าเจอะคนนอนชักอยู่...จะเข้าไปช่วยมั๊ยเนี่ย?
(อย่าลืมว่าชุดมันฟ้อง!!!!!)



Posted by : Dr.DD , Date : 2005-07-28 , Time : 20:41:02 , From IP : 172.29.7.28

ความคิดเห็นที่ : 5


   ช่วยดิ ถึงไม่ใส่ชุด ก้อจะช่วย :)

Posted by : bfy , Date : 2005-07-29 , Time : 16:16:03 , From IP : 172.29.2.153

ความคิดเห็นที่ : 6


   จริงหรือจะช่วย... เห็นแต่ละคนทำตัวเหมือนจะลอยได้

Posted by : ประชาชน , Date : 2005-07-30 , Time : 00:20:33 , From IP : 172.29.7.155

ความคิดเห็นที่ : 7


   จริงหรือจะช่วย... เห็นแต่ละคนทำตัวเหมือนจะลอยได้

Posted by : ประชาชน , Date : 2005-07-30 , Time : 00:20:43 , From IP : 172.29.7.155

ความคิดเห็นที่ : 8


   หมอก็คนนี่ครับ
เวลาหมอเหนื่อย หมอช่วยคน ไม่เห็นเคยยกย่อง
พอมีอะไรนิดๆหน่อยๆที่(อาจจะ)ดูไม่ดีก็ขุดคุ้นกันใหญ่
คิดเอาเองละกัน


Posted by : DreamCatcher` , Date : 2005-07-30 , Time : 18:40:03 , From IP : 192.168.26.37

ความคิดเห็นที่ : 9


   เมื่อไหร่...จะเลิกใส่กาวน์เดินห้างกันซะทีเนี่ย?
คิดว่า...เท่เสียเต็มประดา...
เบื่อ...พวกชอบโอ้อวด...
เฮ้อ!...เซ็ง!...


Posted by : GOD FATHER , Date : 2005-07-30 , Time : 21:06:22 , From IP : 172.29.7.194

ความคิดเห็นที่ : 10


   เมื่อไหร่...จะเลิกใส่กาวน์เดินห้างกันซะทีเนี่ย?
คิดว่า...เท่เสียเต็มประดา...
เบื่อ...พวกชอบโอ้อวด...
เฮ้อ!...เซ็ง!...


Posted by : GOD FATHER , Date : 2005-07-30 , Time : 21:07:22 , From IP : 172.29.7.194

ความคิดเห็นที่ : 11


   เสื้อกาวน์...จะเริ่มใส่...ก้อตอนเริ่ม contact คนไข้มากขึ้น...
แล้วทำไม...เราต้องเอาสิ่งสกปรก เชื้อโรค...ไปแพร่กระจายสู่ชุมชนด้วย
กะอีแค่...ความสะดวกสบายเล็กๆ น้อยๆ...

ผมว่า...เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ...กันก่อนเถอะครับ...พี่น้อง...


Posted by : A1 , Date : 2005-07-31 , Time : 19:58:22 , From IP : 172.29.7.242

ความคิดเห็นที่ : 12


   ใส่กราวด์ได้ซื้อของที่ Lotus นี่ผิดมากหรอครับ
มันไม่ดียังไงช่วยแจงเหตุผลหน่อยสิครับ ถ้ามีเหตุผลก็พูดกันได้ครับ


Posted by : หึ , Date : 2005-07-31 , Time : 23:41:33 , From IP : 172.29.4.245

ความคิดเห็นที่ : 13


   ผมคิอว่าคงจะใช้ universal rule มาอธิบายเรื่องนี้ลำบาก แต่ถ้าจะว่าเป็นบริบทก็จะได้ทั้งสองทาง เช่น

ทางไม่ควรใส่
ที่ผมว่ามีเหตุผลหนักแน่นที่สุด เห็นจะเป็นเมื่อเสื้อผ้าเราได้มีโอกาส expose ต่อสิ่งคัดหลั่งประเภทต่างๆจากผู้ป่วยนั่นแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นการทำแผลใหญ่ๆ การทำหัตถการที่ bedside หรือใน้อง lab ที่มีสารคัดหลั่งผู้ป่วย พวกเราเป็นบุคลากรที่มีความเสี่ยงสูงในการเป็นพาหะ และถ้าเราคำนึงเรื่องนี้มากๆ จะทราบเองว่าบาง
วันเรากลับบ้าน จะแทบไม่อบากให้ลูกมาเล่นด้วยจนกว่าเราจะอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนชุดไปแล้ว

ทางจะใส่ก็ได้ ไม่เห็นแปลก
ชุดเสื้อกาวน์ (Gown ... ไม่น่าจะอ่านเป็นกราวน์นะครับ) ก็เป็นเครื่องแบบอย่างหนึ่ง เหมือนๆกับชุดทหาร ตำรวจ เจ้าพนักงาน lotus ฯลฯ ซึ่งควรจะใส่ไปที่ไหน ก็ขึ้นกับว่าชุดที่ว่านั้นเรียบร้อย ถูกกาละเทศะ และถูกสุขอนามัยพอรึเปล่า ต้องอาศัยวิจารณญานคนใส่ประกอบ
ตรงนี้เปรียบเทียบกับหลักจริยศาสตร์ การที่เราคิดว่าไม่มีอะไรอาจจะไม่พอ ถ้าสาธารณะชนมีความเห็นที่จะเกี่ยวกับความเสื่อมเสีย ก็คงต้องดูเป็นเรื่องๆไป ในเรื่องเสื้อกาวน์นี่ ถ้าเป็นกาวน์ยาวผมว่ายิ่งน่าจะเปลี่ยนออกมากกว่ากาวน์สั้น เพราะมันเหมือนใส่กันเปื้อนมากกว่า และชวนให้คิดว่ามันเปื้อนอะไรมาบ้าง เสมหะ น้ำลาย น้ำตา เลือก มูต คูถ อุจจาระ ปัสสาวะ ของคนไข้ร้อยแปด ฯลฯ เสื้อเชิร์ตสั้นนี่ดูไม่ค่อย expose เท่าไหร่ แต่นี่ก็เป็น "ความรู้สึกรับรู้" ของแต่ละคนกำหนด มันแปรได้หลากหลายมหาศาล

ในทางเหตุและผล ผมคิดว่าเราต้องคิดถึงการรับรู้ของคนพอสมควร กะเลาๆว่าคนส่วนใหญ่เขากังวลวิตกแค่ไหน แต่ในกรณีที่ชัดๆ เช่น เสื้อเรามีรอยเปื้อนเลือด เปื้อนอะไรมา หรือพึ่งทำ CPR มา ก็น่าจะมี common sense ว่าคนอื่นคงจะรู้สึกไม่ค่อยดีที่จะมาใกล้ชิดกับชุดของเรา แต่ถ้าวันนั้นเราทำงานที่ไม่ contaminated และชุดก็ดูสะอาดสะอ้านดี กาวน์สั้นของ มอ. ก็ไม่ต่างจากพี่ๆหมอที่ รพ.ชุมชน หรือ รพ.อำเภอสักเท่าไหร่ ผมก็เห็นพวกพี่ๆก็ใส่ออกไปทานอาหารกลางวันข้างนอก มีชาวบ้านมาไหว้ทักทายกันดี

กาวน์ที่สะอาดนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกของเรา ผมคิดว่าพนักงานโลตัส ตำรวจ ทหาร หมอ ครู สามารถใส่เครื่องแบบของตนเองอย่างภาคภูมิใจโดยไม่จำเป็นต้องเป็นการโอ้อวดอะไร ชุดนักศึกษาก็มีคนว่าได้ว่าโอ้อวดว่าเรียนมหาวิทยาลัยเรอะ ชุดนักเรียนใส่พระเกี้ยวก็หาว่าโอ้อวดว่าเรียนเตรียมอุดมเรอะ ยังไงๆน้ำมันก็ถูกกวนให้ขุ่นได้ตลอดเวลา



Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-01 , Time : 00:25:06 , From IP : 172.29.7.219

ความคิดเห็นที่ : 14


   ใส่ไปซื้อของหน่ะ...ไม่เท่าไหร่
แต่...ใส่ไปนั่งกินข้าวในผับแถวๆ เนี้ย
บอกตามตรง...รับไม่ได้

เข้าไปทัก...ก็หาว่าพี่เฉือก

เฮ้อ!...เด็กรุ่นใหม่ คิดยังงัยกันเนี่ย...


Posted by : รุ่นเก๋า , Date : 2005-08-01 , Time : 00:47:52 , From IP : 172.29.7.74

ความคิดเห็นที่ : 15


   

Posted by : bfy , Date : 2005-08-01 , Time : 04:11:59 , From IP : 172.29.4.251

ความคิดเห็นที่ : 16


   ผมไม่แนะนำให้ใส่เสื้อกาวน์ไปข้างนอก
- ถ้าเราพบผู้ป่วยแล้วเราไม่เข้าไปช่วย จะดูแย่มาก
- ถ้าทำกริยาที่ดูไม่ดี แม้เป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปเขาทำกัน เราจะดูไม่ดีเป็นอย่างมาก
- ถ้าใส่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะอันตรายมาก


Posted by : คนแก่ , Date : 2005-08-01 , Time : 10:46:45 , From IP : 203.156.51.155

ความคิดเห็นที่ : 17


   เหตุผลขอลคุณคนแก่น่าสนใจในแง่คามนัยนะครับ

1 ถ้ามีคนต้องการความช่วยเหลือบนถนน บนรถ ในร้านอาหาร สิ่งแรกที่เราคิดคงจะเป็นเราจะช่วยอะไรได้บ้างจากความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ไม่ใช่ว่าเราจดูแย่แค่ไหนถ้าไม่ช่วย (ทั้งๆที่ทำได้) ครั้งหนึ่งเคยมีประกาศในเครื่องบินหาหมอบนเครื่องว่ามีใครบ้าง เพราะมีผู้โดยสารไม่สบาย ผมก็เห็นมีการรวม doctor committee กันหลายคนดีแต่ละคนก็นอกเครื่องแบบกันทั้งนั้น

2 กิริยาที่ดูไม่ดี มันดูไม่ดีไม่ว่าจะแต่งชุดอะไร การไม่แต่งเสื้อกาวน์ไม่ได้ทำให้น่าละอายลดลงแต่อย่างไร เพราะเราก็ยังคงความเป็นบุคคลที่มีความละอายคนเดิมใช่ไหมครับ

3 ผมคิดว่าอาชีพของเรานั้น ไม่ได้ไปสู้รบตบมือกับใคร และถ้าใครจะมาทำอะไรจริงๆมันหลบไม่ได้ งาน สถานที่ทำงานเรามันโจ๋งครึ่มออกอย่างนั้น ถ้าเขาคิดจะทำเพื่อให้เกิดความรุนแรง คงไม่จำเป็นต้องรอให้แต่งเสื้อกาวน์ออกนอกสถานที่กระมัง ชุดธรรมดาๆนี่ก็ไม่ยากที่จะรู้กันในชุมชนว่าใครเป็นใคร อาชีพอะไร

เหตุผลที่ใช้ทั่วๆไปในเรื่องการแต่งกาย และผมว่าสก็ยังนำมาใช้ได้อยู่ เช่น แต่งกายตามกาละเทศะ ก็น่าจะเพียงพอ การปรากฏกาย ณ สถานที่ "อโคจร" ต่างๆนั้น ก็คล้ายๆกับข้อสองแหละครับ ตราบใดที่เราไม่ได้ใส่หน้ากาก เราก็กำลังแลกเปลี่ยนท้าทายในการที่เราปรากฏกาย ณ ที่นั้นๆอยู่แล้ว



Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-02 , Time : 03:11:11 , From IP : adsl-203-156-36-155.

ความคิดเห็นที่ : 18


   ก็บอกแล้วว่าให้ใส่กาวน์ยาวคลุมจะได้ถอดง่ายเวลาไปไหน หมดปัญหา

แหม คนที่คิดว่ากาวน์เป๋นการโอ้อวดนี่ มันโอ้อวดตรงไหนหว่า มันก็คือชุดๆหนึ่ง เอางี้ ถ้าเราบังคับคุณว่าหลังเลิกงาน คุณห้ามออกไปไหนต่อ นอกจากจะกลับไปเปลี่ยนชุดที่บ้านหรือที่หอก่อนทุกครั้ง คุณว่ามันจะยุ่งยากกับชีวิตคุณเพิ่มขึ้นมั๊ย โอเค วันสองวันมันก็คงทำได้ แต่ถ้าให้ทำทุกวันเป็นปีเนี่ย ถามตัวคุณเองวาคุณทำได้มั๊ย ลำพังเวลาปกติก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว
ลงจากวอร์ทุ่มนึง จะออกไปกินข้าวโลตัสซักแป็บก็ต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อก่อน ทั้งๆที่รพมันก็อยู่ใกล้กันแค่นั้น
แถมยิ่งถ้าวันไหนต้องเข้าเวร ก็ต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อก่อน กินเสร็จเปลี่ยนเสื้อกาวน์กลับแล้วค่อยมาเข้าเวร ดีมั๊ยล่ะคุณ เสียเวลามั๊ย หรือว่าพกเสื้อมาเปลี่ยนกันที่รพเลยดีมะ

อีกอย่างไอ้การที่จะแพร่เชื้อต่อชุมชนอ่ะนะ คือว่าถ้าชุดเรามันเลอะขนาดนั้น แล้วตัวเราเองที่ใส่เสื้อนั้นอยู่กับตัว กะเนื้อเราเองเนี่ย ก็คงติดโรคก่อนเพื่อนไปแล้ว เราคงไม่สกปรกถึงขนาดจะใส่ชุดเปื้อนๆไปเดินเที่ยวหรือกินข้าวก่อนหรอกนะ


Posted by : กลุ้มว่ะ อย่าอคตินักเลย , Date : 2005-08-05 , Time : 20:35:58 , From IP : 172.29.4.82

ความคิดเห็นที่ : 19


   ผมเสนอว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม มีมุมมองต่างกันหลายๆฝ่าย เนอกเหนือจากเรามีเหตุผลฝ่ายเราเอง (ที่เราเข้าใจเป็นอย่างดี) ทางที่จะลงเอยได้ หรือหาทางออกได้ คือพยายามมองลงไปในของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย จะดีไม่น้อย

ในเรื่อง "จริยศาสตร์" เห็นง่ายที่สุดครับ บางครั้งนอกเหนือจากที่เราทำไปโดยมีจิตใจบริสทธิ์ ไม่ได้คิดอะไรเลย มีเหตุผล "ของเรา" อยู่เต็มเปี่ยม แต่ถ้าสาธารณะ หรือคนอื่น เขาเกิดความคิดที่ไม่ดี แล้วมันจะเสียภาพพจน์รวม เราก็ต้องคิดคำนึงเอาใจเขามาใส่ใจเราอยู่เสมอ ถามว่าแล้วเมื่อไหร่ "เขา" จะเอาใจเราไปใส่ใจเขาบ้างล่ะ เบื่อเอาใจเขามาใส่ใจเราเต็มทนแล้ว นั่นต้องย้อนกลับไปที่ว่า "ทำไม" บางอาชีพมันถึงมีคนยอมรับเคารพนับถือ มี privilege บางอย่างของฐานะ ของอาชีพ ส่วนหนึ่งที่ตามมากับ privilege นี้ก็คือ การที่เราต้องทำงานและรับผิดชอบคิดถึงคนอื่นๆมากกว่านั่นเอง

ฉะนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าเรามั่นใจว่าเสื้อเราสะอาด สะอ้านอย่างเดียวครับ ประเด็นมันอยู่ที่ว่าชาวบ้านเขาอาจจะนึกว่าไอ้สีแดงๆจางๆบนปกเสื้อเรา หรือด่างๆตรงแขนเสื้อเรา มันเป็นอะไรของคนไข้รึเปล่า อีกประการหนึ่งก็คือ มุมมองที่ว่าคนได้ทำอะไรอย่างที่ตนชอบ กับคนที่ทำอะไรเผื่อคิดถึงคนอื่นนั้น ในการดำรงชีวิตของตนเองแบบไหนเป็นแบบที่เราคิดว่าดี

จะไปที่ใกล้หรือไกลคงจะไม่ใช่ประเด็นหลักแล้วถ้าเป็นเช่นนี้ คาร์ฟูกับโลตัสก็จะต่างกันใช่ไหมครับ ประเด็นมันคืออะไร? ตรงไหนกันแน่?

เชื่อหรือไม่ว่า เรื่องบางเรื่อง เครดิตหรือผู้ชนะไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ได้ทำอย่างที่ตนเองต้องการหรือเห็นว่าดีเสมอไป บางทีเครดิตมันไปตกอยู่กับคนที่ "ยอม" คิดเผื่อคนอื่นก็ได้เหมือนกัน ที่นี้ไอ้อาชีพของเรานี่ มันมีกรอบ มีอะไรที่ว่ากันถึงเรื่องแบบนี้ คล้ายกันทำนองนี้บ้างหรือไม่?



Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-05 , Time : 22:07:11 , From IP : adsl-203-156-36-57.j

ความคิดเห็นที่ : 20


    เมื่อไหร่...จะเลิกใส่กาวน์เดินห้างกันซะทีเนี่ย?
คิดว่า...เท่เสียเต็มประดา...
เบื่อ...พวกชอบโอ้อวด...
เฮ้อ!...เซ็ง!...

Posted by GOD FATHER() 2005-07-30 , 21:06:22 , 172.29.7.194



"to God father"
ดีนะที่ใส่เสื้อกาวน์ไปเดินห้าง ไม่ได้ใส่ไปเดินบนหัวพ่อง


Posted by : bfy , Date : 2005-08-06 , Time : 04:15:48 , From IP : 172.29.4.204

ความคิดเห็นที่ : 21


   ผมเชื่อว่าที่เราคุยกันเรื่องนี้ ไม่ได้มีผลทำให้เกิดกฏระเบียบบังคับเรื่องนี้ออกมา แต่อย่างน้อยน่าจะเป็นการ "สะท้อน" ว่าเราทำอะไรไปวันๆ ใช้เหตุผลด้านไหนเป็นเกณฑ์ และแสดงออกอย่างไรเวลามีคนไม่เห็นด้วยใน ที่สาธารณะ

โดยปกติทั่วๆไป เรามักจะทราบว่าตัวเราเองมีเหตุผลอะไรบ้าง อยากทำอะไรบ้าง แล้วเราก็ทำไปเพราะเหตุผลนั้นๆ มันสะดวกกว่า มันง่ายกว่า แต่บางทีเราก็ทำไปเพราะกฏระเบียบสังคม เช่น เรายังใส่เครื่องแบบทำงาน (ทั้งๆที่เรามีชุดที่ cool กว่าเยอะในตู้) เราสวมถุงเท้ารองเท้าทั้งๆที่บางทีอยากจะลากรองเท้าแตะมา เวลาไปงานศพเราก็ยังแต่งชุดดำเพราะระเบียบประเพณีมันว่ายังงั้น แต่เมื่อไรที่มีโกสเราก็จะทำอย่างที่เราเองสะดวก

จะมีประโยชน์ต่อตัวเราหรือไม่อย่างไร ถ้าเราลองนึกถึง "คนอื่น" เพิ่มจากปกติธรรมดาแล้วทำไปเพราะเหตุผลเหล่านี้? ผลประโยชน์ที่ได้คงจะเป็นนามธรรมซะส่วนใหญ่ เพราะมีแต่ตัวเราเท่านั้นที่รู้ว่าเราเสียสละความสะดวกส่วนตัวทำไป เช่น ยอมเดินกลับหอไปเปลี่ยนชุดก่อน ยอมเปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนผ้าทั้งๆที่อาจจะ "ไม่จำเป็น" ลำดับความสำคัญตรงนี้ต่างหากที่ทำให้เรามีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป โดยไม่เกี่ยวกับกฏเกณฑ์อะไร




Posted by : Phoenix , Date : 2005-08-06 , Time : 15:57:21 , From IP : 172.29.7.75

ความคิดเห็นที่ : 22


   วันนี้นู๋เจอพวกพี่ๆ กำลังเฮ และชนแก้วกันในร้าน sugar rock ทั้งชุดฟอร์ม
ว่าไปแล้วก็ไม่น่าดูเลยแหละ เพื่อนนู๋เองที่ไปด้วย(ต่างคณะ)ก็บอกว่าดูไม่ดีเลย
มันบอกว่า ถ้าเจออีกจะถ่ายปาปารัสซี่มาให้ดู ว้า...เสียชื่อหมดเลย


Posted by : เด็กจบใหม่ , Date : 2005-08-06 , Time : 22:14:02 , From IP : 172.29.7.192

ความคิดเห็นที่ : 23


   ถ้าคุณเคยใส่กาวน์ไปเดินห้าง แค่ครั้งเดียว คุณก็จะรู้ว่าคุณจะไม่มีทางใส่มันอีก


Posted by : white girl , Date : 2005-08-07 , Time : 00:07:05 , From IP : 172.29.4.167

ความคิดเห็นที่ : 24


   แต่แบบนี้มันทำให้เสียภาพพจน์ของหมอนะราว่า

Posted by : เรา , Date : 2005-08-11 , Time : 01:46:54 , From IP : 172.29.3.236

ความคิดเห็นที่ : 25


   ใช่...อ่านแล้วเราเองก็รู้สึกเห็นด้วย
ร่วมด้วย...ช่วยกัน(ปฏิบัติ)ดีกว่านะคะ


Posted by : เพื่อนเองจ้า , Date : 2005-08-14 , Time : 20:22:26 , From IP : 172.29.7.122

ความคิดเห็นที่ : 26


   ใส่ก็ได้ แต่ถ้าสกมกมาจะใส่ทำไม มันอันตรายกับตนเองและผู้อื่นนี่นา เวลาใส่ก็สำรวมหน่อยละกัน จะก๊งกันก็เอาชุดอื่นเถอะ แถมฝากบอกน้องๆปี1เวลาใส่เนคไทคณะอย่าไปที่ที่มันดูไม่ดีเลยนะ ถึงไม่มีเจตนา แต่คนอื่นเค้าไม่เข้าใจหรอก

Posted by : เด็กแพทย์ , Date : 2005-09-28 , Time : 00:05:14 , From IP : 172.29.4.39

ความคิดเห็นที่ : 27


   ถ้าหากคนตั้งกระทู้ต้องเข้าเวรแล้วไม่มีข้าวกินตอนกลางคืนที่โรงพยาบาล คุณไปกินข้าวที่โลตัสแล้วจะกลับมาเข้าเวรต่อ มีคนมาว่าคุณเหมือนที่คุณตั้งกระทู้จะรู้สึกอย่างไร

Posted by : I am , Date : 2005-10-18 , Time : 01:20:13 , From IP : 172.29.4.139

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.01 seconds. <<<<<