เรื่องเกี่ยวกับ3 จังหวัดชายแดนใต้
บทความขอรับบริจาค ที่อยากให้คุณอ่านมากที่สุด
ไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสลงใต้ไปร่วมสัมนาปัญหาภาคใต้ที่ มอ.ปัตตานี รายละเอียดของวงสัมนามีอะไรบ้างผมขออนุญาตไม่แจกแจง ข้ามไปเรื่องที่ผมอยากจะเล่าเลยดีกว่าครับ วันที่สามของการสัมนาในหมายกำหนดการเจ้าภาพได้จัดให้ผู้เข้าร่วมสัมนาลงพื้นที่สัมผัสกับชีวิตผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาภาคใต้ ระหว่างการลงพื้นที่ผู้เข้าร่วมสัมนา (ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่มุสลิม) หลายคนตั้งข้อสังเกตุกับผมว่าคนที่นี่ดูเข้าใจชีวิตมากทีเดียว คนที่เสียลูก เสียคนที่ตัวเองรักไปกลับชอบพูดว่า อัลลอฮฺกำหนดไว้แล้ว ผมก็เพิ่งสังเกตุพยักหน้ารับ แล้วอธิบายเรื่องกอฎอ กอดัรกับเขาอย่างภูมิอกภูมิใจ เรื่องนี้ผมมานั่งนึกทีหลังว่าจริงๆ แล้วอิสลามไม่ได้แค่สอนมนุษย์ แต่อิสลามปลูกฝังปรัชญาลงไปในวิธีคิดของมนุษย์เลยทีเดียว เวลามนุษย์ดีใจมากเกินไปก็จะเบรกด้วยการใช้ให้ขอบคุณอัลลอฮฺ เพราะความสำเร็จไม่ได้มาจากมนุษย์ ขณะที่เมื่ออารมณ์แกว่งมาด้านความเศร้าเสียใจ ผิดหวังอิสลามก็เบรกอารมณ์เหล่านั้นไม่ให้มากเกินไปด้วยการจำนนต่อการกำหนดของอัลลอฮฺ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมได้รับรู้จากการร่วมสัมนาครั้งนี้ สำหรับผมนี่เป็นเรื่องเศร้าที่สุดในรอบปีเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ บ่ายวันนั้นผมกับคณะประมาณเกือบยี่สิบคนไปถึงชุมชนหนึ่งใน ตำบลเจะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้ไปรู้จักคนคนหนึ่ง คนแถวนั้นเรียกว่าอาจารย์นุรซี ผมจะเล่าประวัติคร่าวๆ ของอาจารย์ท่านนี้ให้ฟัง อาจารย์นุรซีเป็นมุสลิมภาคใต้โดยกำเนิด ผมไม่มีข้อมูลว่าท่านร่ำเรียนจากที่ไหน เอาเป็นว่าอาจารย์นุรซีเป็นคนมีความรู้เรื่องอิสลามคนหนึ่งเลย และไม่ใช่แค่รู้อย่างเดียวยังเป็นนักเผยแพร่อีกด้วย หลายปีก่อนหน้านี้อาจารย์นำอิสลามไปเผยแพร่ (แทนมุสลิมทุกคน) ที่ภาคเหนือ ตามป่าตามดอย ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ ลำปางอาจารย์เอาข่าวเรื่องอัลลอฮฺ เรื่องร่อซูลไปดเล่าให้ชาวเขาฟังอยู่หลายปี จนมีเยาวชนกลุ่มหนึ่งเริ่มสนใจอิสลาม และประกาศรับอิสลามบนนั้น หลังจากนั้นอาจารย์นุรซีต้องการต่อยอดความรู้ด้านสามัญให้กับเด็กๆ และอยากให้เด็กๆ ได้ลงมาสัมผัสกับสังคมมุสลิม จึงชวนพวกเขา ลงมาที่นี่ ที่นราธิวาสอาจารย์ปลูกบ้านเป็นห้องแถวชั้นเดียว 4-5 ห้องเรียงติดกันใกล้ๆ มัสยิด เป็นปอเนอะกลายๆให้เด็ก ใช้อยู่ใช่เรียน
วันที่ผมไปมีเด็ก 20 กว่าคน เด็กผู้หญิงประมาณ 7-8 คน ที่เหลือเป็นผู้ชาย ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เรียนโรงเรียนมัธยมแถวนั้น บางคนสอบติดที่ มอ.ปัตตานี เด็กทั้งหมดมาจากภาคเหนือ ทั้งหมดเป็นมุอัลลัฟไม่มีที่พึ่ง ที่พ่อแม่ยังนับถือศาสนาเดิมอยู่ วันนั้นพอลงจากรถ พวกเด็กๆ ก็ต้อนรับพวกเราด้วยการเลี้ยงผลไม้ ร้องอะนาชีด แล้วก็ส่งตัวแทนออกมาอ่านกุรอาน แนะนำตัวเล่าเรื่องราวต่างๆ ของพวกเขาให้พวกเราฟัง วันนั้นอาจารย์นุรซีไม่อยู่... น้องที่ขึ้นไปพูดเขาเล่าไปร้องไห้ไป สรุปเรื่องราวที่น้องเขาพยามจะสื่อคือ เขาพยายามบอกเราว่าพวกเขารักและเคารพอาจารย์นุรซีของเขามากแค่ไหน อาจารย์นุรซีให้อาหารให้ที่อยู่ ให้โอกาสได้เรียน ให้ความรักทั้งๆ ที่ไม่ใช่ลูกไม่ใช่หลาน ที่สำคัญเอาอิสลามไปให้พวกเขาถึงบนป่าบนดอย
ถึงตอนนี้ผมรู้สึกชื่นชมองค์กรที่สนับสนุนโครงการของนี้ของ อาจารย์นุรซีจริงๆ เขาใช้จ่ายเงินได้คุ้มค่าทีเดียวเมื่อเทียบกับการสร้างมัสยิดราคาเป็นสิบๆ ล้านในกรุงเทพฯ แต่องค์กรที่ผมกำลังแอบชมกลับไม่มีตัวตน คนที่นั่นบอกผมว่า อาจารย์นุรซีเป็นคนมีมรดก และแกก็ขายไร่ขายนา ทีละแปลงๆ เอาเงินนั่นมาอุปการะเด็กๆ ซึ่งตอนนี้ มรดกก็หมดลงเรียบร้อยแล้ว ทุกวันนี้ก็ได้ญาติๆ ของอาจารย์ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ... ไม่พูดพร่ำทำเพลงผมขอเรียกร้องให้พี่น้องร่วมบริจาคด้วยครับ ผมไม่รู้ว่าบทความขอรับบริจาคกันเขาเขียนอย่างไร แต่ขอเถอะครับ ส่งกำลังใจไปให้น้องๆ มุอัลลัฟที่นั้น ผมอยากให้พวกเขาสัมผัสกับความอบอุ่นของศาสนาของนี้
...ตอนนี้อาจารย์นุรซีตายแล้วครับ ความจริงผมไม่เคยเจอแกเลย อาจารย์ตายก่อนผมจะไปที่นั่นเกือบปีแล้ว ตอนนี้เด็กๆ ลำบากมาก วันที่คณะผมไปเยี่ยม เขาเอาผลไม้มาเลี้ยงพวกเรา เราเอาข้าวไปกินกันที่นั่นกัน แล้วเราก็มารู้กันทีหลังว่าวันนั้นพวกเขาไม่ได้กินข้าวกันครับ เอาเงินไปซื้อผลไม้ และพวกเราก็กินข้าวกินผลไม้ต่อหน้าพวกเขา เห็นได้ชัดว่าเขาดีใจที่มีคนนึกถึงเขา ก่อนกลับผมตั้งใจจะเอาเรื่องนี้มาเล่าให้คนที่กรุงเทพฯ ฟัง และอยากหาโอกาสกลับไปเยี่ยมที่นั่นอีก หรืออย่างน้อยก็จะส่งความช่วยเหลือบางอย่างไปให้ (อินชาอัลลอฮฺ) อาจจะเป็นในรูปของอาชีพที่เขาจะเอาไปใช้เลี้ยงตัวเอง, หรือเสื้อผ้า, ของใช้, และที่สำคัญที่สุด ดุอาอฺ จากพี่น้องใน กรุงเทพฯ หรือถ้าเขียนไปถึงพวกเขาตามที่อยู่ข้างล่างจะดีมากเลยครับ บางทีเขาอาจต้องการกำลังใจมากกว่ากำลังเงินด้วยซ้ำ
..
ที่อยู่ : 150/3 หมู่ 1 ต.เจะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 96110
ปล. อาจารย์นุรซีถูกยิงตายครับ ทีแรกผมว่าจะไม่เล่าเรื่องนี้ แต่นึกอีกทีก็อยากให้พี่น้องเข้าใกล้ความรู้สึกของเด็กๆ ให้มากที่สุด อาจารย์นุรซีถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่รัฐ วันนั้นภรรยาอาจารย์ที่อยู่ในครัวได้ยินเสียงอาจารย์เรียกจากหน้าบ้านให้เอาน้ำไปเลี้ยงตำรวจหน่อย หลังจากนั้นภรรยาอาจารย์ก็ได้ยินเสียงปืน วิ่งออกมาดูพบสามีถูกยิงเสียชีวิตที่หน้าบ้าน และมีรถขับหนีออกไป วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว อุสตาสที่ถูกสงสัยว่าเลี้ยงชาวเขาเอาไว้เพื่อก่อการร้าย ขณะนี้ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว!
...เศร้าไหมครับ
Posted by : อยากให้อ่าน , Date : 2005-07-28 , Time : 07:50:22 , From IP : 172.29.7.213
|