เออ..คนเรานี่มันโง่ดี..ถ้าสักขอกับเคียวแล้วมันเกี่ยวสตางค์ได้จริง คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องมัวเหนื่อยไปทำมาหากินหรอก สักขอกับเคียวไห้เต็มตัวก็รวยแล้ว ล้างแค้น... มือปืนเมืองเพชร...เมาแอ๋เข้ามาหาพระ มันชูปืนขึ้น..แล้วเดินเป๋ เข้ามา หลวงพี่เห็นชายอาการท่าทางเมาเดินควงปืนมาแต่ไกล หลวงพี่ก็เลยโดดหลบเข้าข้างเสา เพราะพระก็เสียวเป็นเหมือนกัน มันบอกว่า..หลวงพี่ต้องเป็นพยานให้ผมด้วย...ไอ้แคล้วมันฆ่า พ่อผมตาย..ผมขอสาบานต่อหน้าพระว่า ผมจะต้องล้างแค้นให้ พ่อผมให้ได้...ถ้าผมฆ่าไอ้แคล้วไม่ได้..ชีวิตนี้นอนตาไม่หลับ หลวงพี่โผล่ออกมาจากเสา..แล้วบอกว่า..สาธุ..ขออนุโมทนา บุญกับโยมด้วยที่คิด จะล้างแค้น คนทั้งศาลาหันมามองหน้า พระเป็นตาเดียว...โธ่...ก็มันถือปืนส่ายอยู่อย่างนั้น จะให้พระ ทำยังไง...น่าจะเห็นใจพระบ้างนะ.. อาตมาก็พูดกับมือปืนต่อว่า....ล้าง..หมายถึง..ทำให้สะอาด การล้างแค้นเป็นเรื่องดี เรามีความแค้น..แสดงว่า..ความแค้น มันมาเปื้อนจิตใจ เรา..การล้างแค้น...คือ ล้างที่จิตใจของเรา ให้สะอาด.. ให้ความแค้นมันหมดไปจากใจเรา...การไปยิงเขา ตายอีก...เป็นการเพิ่มความแค้น...ลูกหลานเขาก็ตามจะมายิง มาฆ่า เราอีก..วนเวียน อย่างนี้ไม่จบสิ้น การล้างแค้น..จึงเป็นการอโหสิกรรม..หมดเวรหมดกรรม อาตมาจึงขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วย... พูดเสร็จพระก็หลบไปยืนบังเสาไว้ พระไม่กลัวมันหรอก..แต่ พระไม่ประมาท ใส่บาตรวันเกิด เหล้ากินเข้าไปแล้วก็ขาดสติ...มีเรื่องเล่าว่า วันเกิดของผู้ใหญ่ ท่านหนึ่งกลางคืนเลี้ยงฉลองร่ำสุรากันเต็มที่..เมาแประ.. รุ่งเช้าอยากใส่บาตร ทำบุญเอาฤกษ์ ขณะตักข้าวจะใส่บาตร ด้วยความเมาทำข้าวหก หมาก็วิ่งกรูกันเข้ามาแย่งกันกินข้าว กัดกันเจี๊ยวจ๊าว พันแข้งพันขาจนเดิน ไม่ได้..ด้วยความโมโห.. เงื้อเท้าเตะหมาเต็มแรง...หมามันก็หลบทัน แต่พระหลบไม่ทัน โดนหน้าแข้งเต็มๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ร่วมแย่งข้าวด้วยสักหน่อย ขณะใส่บาตร..รู้สึกว่ากับข้าวที่เตรียมไว้ ไม่พอดีกับพระ แก ตะโกนเรียกหลานลั่นเลย...."อีหนู เอาปลาทูมาอีกสององค์ วันนี้พระมาสี่ตัว..." เหล้ามันทำให้คนกินไม่เป็นผู้เป็นคน..พูดผิด..คิดผิด ยายหนู เอาปลาทูมาให้ลุงอีก 2 องค์ซิ บังเอิญพระมา 4 ตัว เออ เอากับเค้าซิ รู้ว่ากินเหล้าเข้าไปแล้วทำอะไรผิดๆ เพราะสติมันไม่อยู่กับตัว แล้วยังจะกินมันอยู่อีกหรือ........ เจ๊กหมดทุนเจ๊กหมดทุน..... มีชายคนหนึ่งอยู่สุไหงโกลก..ชื่ออาฮัง..อาฮังหรือ..เจ๊กฮัง.. ค้าขายขาดทุนปีเดียวสามสี่แสนบาท ลงทุนทำกิจการอะไรก็ ขาดทุน พอขาดทุนทีไม่เป็นอันทำ มาหากินเลย ครั้งสุดท้าย ขาดทุนสี่แสนก็มานั่งทำท่าเหมือนลิงป่วย.....หมดแรง...หมด อาลัย ตายอยาก พูดพร่ำอยู่คำเดียวทั้งวัน อั๊วขาดทุนหมดแล้ว อั๊วขาดทุนหมดแล้วจนญาติๆ ระอา ไม่รู้จะทำอย่างไร เลย หามมาส่งที่วัดสวนโมกข์...อาตมาอยู่สวนโมกข์ได้ 7ปี พอดี ปรากฏว่ามันก็มานั่งที่ตรงหินโค้ง นั่งเป็นทุกข์ในท่าเจ๊กหมดทุน ท่าเดิม...นั่งบ่น..อั๊วเจ๊งหมดแล้ว..อั๊วขาดทุนหมดแล้ว อาจารย์พุทธทาสก็เลยเข้าไปถามว่า ฮัง...ลื้อขาดทุนแน่หรือ แน่ซิครับ สี่แสนปีเดียวหมดเกลี้ยง ผมขาดทุนย่อยยับหมดเลย คิดให้ดี...ขาดทุนจริงๆ นะเหรอ.... จริงซิครับ...อย่ามาถามยั่วโทสะผมนะ...... อาจารย์พุทธทาสก็เลยถามต่อว่า...โยมอาฮัง... อาตมาเห็นเลย เข้าไปพูดด้วย ที่ลื้อบ่นขาดทุน..ขาดทุนนี่..ลื้อเกิดมาลื้อมีทุน ติดตัวมาเท่าไร.. วันที่ลื้อเกิดมานะ อาฮังนั่งคิดอยู่พักหนึ่ง..เอ๊ะ..ใครมันจะไปดึงทุนออกมาจาก ท้องแม่ได้ในวันเกิดนะ พระนี่ถามอะไรแปลกๆ... อาฮังตอบว่า ..ไม่มี.. อาจารย์พุทธทาสท่านก็ถามต่อ...เดี๋ยวนี้หม้อหุงข้าวลื้อมีไหม.... หม้อหุงข้าวมี.. เสื้อผัามีใส่ไหม... มี... บ้านมีอยู่ไหม.... มี... ถามอะไรต่อมิอะไร..มันก็ตอบว่า..มีๆๆ... อาจารย์พุทธทาสท่านจึงบอกว่า...อาฮัง...ลื้อไม่ได้ขาดทุนหรอก ลื้อมี อาตมาถามต่อ.........ตัวมีเสื้อผ้าติดมาด้วยหรือเปล่า มีบ้านช่องอย่างนี้ไหม อาฮังได้คิด ตอบว่าไม่มี เกิดมาก็มาตัวเปล่า อาตมาจึงบอกว่าเกิดมาแต่ตัว ที่มีติดตัวอยู่ทุกวันนี้ลื้อว่า ขาดทุนอีกหรือ ลื้อคิดซิว่า ลื้อไม่ได้ขาดทุนหรอก เพียงแต่กำไร มันลดลงไปนิดหน่อยเท่านั้น คุณพระช่วยด้วย พวกเราชอบอ้อนวอน..ชอบบนบานศาลกล่าวกันจนเคย โดยเฉพาะผู้หญิงขอให้พระ ช่วยจนติดปาก เกิดมีอะไรขึ้น หรือตกใจอะไร จะต้องร้องว่า "คุณพระช่วย" ทุกครั้ง... วันหนึ่ง..อาซิ้มนั่งขายของอยู่ในร้าน หน้าร้านมีคนมาทำ ความสะอาดท่อ แล้วเปิดฝาท่อทิ้งไว้ ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตกท่อ.. แล้วตะโกนว่า "ว้ายคุณพระช่วย" อาซิ้มหัวเราะตัวงอ..แล้วเดินออกมาหาหญิงผู้เคราะห์ร้าย พระช่วยลื้อไม่ล่ายหรอก..เพราะเมื่อเช้านี้พระก็ตก " />คลายเครียด แต่มีสาระ

ความคิดเห็นทั้งหมด : 1

คลายเครียด แต่มีสาระ


   คติและก็อารมณ์ขัน จากพระพยอม

อ่านแล้วได้ทั้งคติและก็อารมณ์ขัน จากพระพยอม

ของแปลก
แท๊กซี่บางคน อาตมานั่งไปด้วยแล้วรำคาญ มันขี้โมโห
หงุดหงิดทั้งวัน
วันนั้นนั่งจากหมอชิตไปโรงพยาบาลศิริราช มันด่าคนไปตลอดทาง
ไอ้คนนั้นขับไม่ดีไอ้คนนี้เฮงซวยขับช้า ไอ้บ้านี่ตัดหน้า
ไอ้เปรตนี้หยุด
ไม่เปิดไฟเลี้ยว
มันพูดแต่ว่าแปลกจริง.....แปลกจริง......แปลกจริงทาง
ม้าลายมีไม่ข้าม...แปลกจริง >เวลาจะเลี้ยวทำไมไม่เปิดไฟเลี้ยว..แปลกจริง
ที่ห้ามจอดดันทะลึ่งจอด อาตมาทนรำคาญไม่ไหว ใกล้ถึงศิริราชแล้ว
อาตมาถามว่า คุณขับรถมากี่ปีแล้ว...


หลายปีแล้วครับ
ปีหนึ่งๆมีคนมายั่วทำให้โกรธอย่างนี้บ่อยไหมครับ........
บ่อยครับ..วันหนึ่งหลายสิบครั้ง...
อาตมาก็เลยบอกว่า มันมีบ่อยๆ วันละหลายสิบครั้ง....มันจะแปลก
ยังไง ของแปลกมันต้องนานๆ เกิดครั้งหนึ่ง วันนี้เกิดบ่อยๆ
ยังตวาด
อยู่ได้ว่าแปลกจริง...แปลกจริง...อยู่นั่นแหละ มันน่าจะบอกว่า เออ....
ธรรมดาจริง..บ่อยจริงมากกว่า

เทศน์ช้าไปหน่อย
วันก่อนอาตมาไปเทศน์ในคุก อาตมาบอกว่า..พวกเราที่มาติดอยู่
ในคุกเนี่ย...เราไม่ได้ติดคนเดียวนะ..เรา เอาพ่อเอาแม่มาติดด้วย
พ่อแม่ต้องลำบากตรากตรำ หาเงินมาซื้อข้าวปลาอาหาร ข้าวของ
เครื่องใช้ และค่ารถค่าเดินทางที่จะมาเยี่ยมเราทุกอาทิตย์...
และเรายังทำร้ายจิตใจท่าน ให้ต้องทุกข์ทรมานตลอดเวลาจนกว่า
เราจะพ้นโทษ.... นักโทษคนหนึ่งมันสำนึกบาป ร้องไห้โฮ อย่างไม่
อายใคร... ท่านทำไมเพิ่งจะมาเทศน์ตอนนี้ ทำไมท่านไม่เทศน์ก่อน
ที่ผมจะทำชั่ว
ไอ้พวกนี้..เวลามันทำชั่วทำอะไรไม่ดี มันโยนให้พระหมด
อาตมาเทศน์มาตั้งนานแล้ว โยมไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่มาฟังเอง.....

คิดก่อนจึงทำ
การให้ทาน...ตถาคตไม่สรรเสริญ...แต่ตถาคตสรรเสริญ..
คนที่คิดใคร่ครวญดีแล้ว จึงให้...เพราะเมื่อใคร่ครวญแล้ว
จะไม่มีใครเดือดร้อนจากการให้...
ที่สุพรรณบุรี...มีอยู่ช่วงหนึ่ง พระพุทธรูปในวัดหายเป็น
จำนวนมาก..หลายวัด...เสี่ยเจ้าของโรงสี..อดรนทนไม่ได้
หลวงพ่อครับ..ขโมยมันรบกวนพระเหลือเกิน..ผมสงสาร
ท่าน ผมขอถวายปืนให้ ท่านกระบอกหนึ่ง
มันโง่จริงๆ ไม่รู้เลยว่าอะไรควรถวายอะไรไม่ควรถวาย.....
ตัวมันน่ะไม่เดือดร้อน แต่พระน่ะ..ติดคุก

โสเภณีที่รัก
วันหนึ่งมีคนมานิมนต์ให้ไปเทศน์ให้โสเภณีฟัง ตั้งแต่บวชมา..
เพิ่งจะเจอครั้งนี้แหละ...มันเทศน์ยากพิลึก พอไปถึง ทุกคน
มองพระเหมือนตัวประหลาด..เ ข้ามาทำไมวะเนี่ย
พอนั่งปุ๊บ..มองไปรอบๆ..ไม่มีใครสนใจสักคน....คิดในใจว่า..
จะเอาสูตรไหนมาเทศน์สู้กับมันดีวะเนี่ย .....
ทำใจดีสู้เสือ..เริ่มต้นคำแรกว่า....
"สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง.." ได้ผลแฮะ...ได้ผลดีเกินคาด
ทุกคนหันมามอง ตั้งใจฟังหูผึ่งว่าพระจะพูดอะไรต่อ....
ได้โอกาส..พระเลยปล่อยไม้เด็ดเลย สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนา
สูง..ผู้ขายของเก่ากินโดยไม่ต้องลงทุน เมื่อน้องหญิงอยู่ที่บ้าน
คนทั่วไปจะเรียกน้องหญิงอย่างยกย่องว่า.. กุลสตรี ยกย่องว่า
เป็นเพศแม่ แต่พอน้องหญิงมาอยู่ในสถานที่อย่างนี้ ความเป็น
กุลสตรี ความสูงส่งของเพศแม่ มันถูกทำลายไป เขาเรียกน้องหญิง
ว่า...อีตัว....(อันนี้เซ็นเซอร์หรือเปล่าหวา)
เวลาเขาจะหาความสุข
จากเรือนร่างเธอ..เขามารับเธอไป..เขาไม่ได้พูดให้เกียรติ เธอเลย
แทนที่เขาจะบอกว่ามาเชิญเธอไป เขากลับใช้คำว่าหิ้วไป
ใช้คำว่า หิ้ว เห็นเราเหมือนเป็ดเหมือนไก่ ไม่ให้เกียรติเราเลย
เราน่าจะกลับไปอยู่บ้าน ใช้ชีวิตทำมาหากินเหมือนเดิม ถึงแม้
จะไม่ร่ำรวย แต่ เราก็อยู่อย่างมีเกียรติ ทุกคนนั่งนิ่ง
ทำตาแดงๆ
เป็นโอกาสดีของพระแล้วที่จะดึงเธอมาเป็นพวกจึงสนทนา
สอบถามเพื่อผ่อนคลาย บรรยากาศ น้องหญิงหลายคนสัก
ตุ๊กแกไว้ที่ต้นแขน..สักทำไมหรือ..อ๋อ..เวลาผู้ชายมาใช้บริการ
จะได้จับผู้ชายให้ติด เพราะตุ๊กแกขามัน เหนียวเกาะแน่น
แกะไม่หลุด... โอ..หลักการดี อาตมาเลยแกล้งหยอกไปว่า
ตุ๊กแกมันเกาะแต่ผู้ชายอย่างเดียวหรือ มันเกาะเอาซุปเปอร์
โกโนเลียมาด้วย หรือเปล่า
ทุกคนเงียบกริบ รอยยิ้มเริ่มหายไป...บรรยากาศชักไม่น่า
ลงทุนแล้ว...อาตมาเลยถามต่อ
อ้าว...แล้วบางคนที่สักขอกับเคียวไว้ที่ต้นแขนละ มีความหมาย
ว่าอย่างไร
ก็เอาไว้เกี่ยวสตางค์จากกระเป๋าคนมาเที่ยวไงเจ้าคะ..
>เออ..คนเรานี่มันโง่ดี..ถ้าสักขอกับเคียวแล้วมันเกี่ยวสตางค์ได้จริง
คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องมัวเหนื่อยไปทำมาหากินหรอก
สักขอกับเคียวไห้เต็มตัวก็รวยแล้ว

ล้างแค้น...
มือปืนเมืองเพชร...เมาแอ๋เข้ามาหาพระ มันชูปืนขึ้น..แล้วเดินเป๋
เข้ามา หลวงพี่เห็นชายอาการท่าทางเมาเดินควงปืนมาแต่ไกล
หลวงพี่ก็เลยโดดหลบเข้าข้างเสา เพราะพระก็เสียวเป็นเหมือนกัน
มันบอกว่า..หลวงพี่ต้องเป็นพยานให้ผมด้วย...ไอ้แคล้วมันฆ่า
พ่อผมตาย..ผมขอสาบานต่อหน้าพระว่า ผมจะต้องล้างแค้นให้
พ่อผมให้ได้...ถ้าผมฆ่าไอ้แคล้วไม่ได้..ชีวิตนี้นอนตาไม่หลับ
หลวงพี่โผล่ออกมาจากเสา..แล้วบอกว่า..สาธุ..ขออนุโมทนา
บุญกับโยมด้วยที่คิด จะล้างแค้น คนทั้งศาลาหันมามองหน้า
พระเป็นตาเดียว...โธ่...ก็มันถือปืนส่ายอยู่อย่างนั้น จะให้พระ
ทำยังไง...น่าจะเห็นใจพระบ้างนะ..
อาตมาก็พูดกับมือปืนต่อว่า....ล้าง..หมายถึง..ทำให้สะอาด
การล้างแค้นเป็นเรื่องดี เรามีความแค้น..แสดงว่า..ความแค้น
มันมาเปื้อนจิตใจ เรา..การล้างแค้น...คือ ล้างที่จิตใจของเรา
ให้สะอาด.. ให้ความแค้นมันหมดไปจากใจเรา...การไปยิงเขา
ตายอีก...เป็นการเพิ่มความแค้น...ลูกหลานเขาก็ตามจะมายิง
มาฆ่า เราอีก..วนเวียน อย่างนี้ไม่จบสิ้น
การล้างแค้น..จึงเป็นการอโหสิกรรม..หมดเวรหมดกรรม
อาตมาจึงขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วย...
พูดเสร็จพระก็หลบไปยืนบังเสาไว้ พระไม่กลัวมันหรอก..แต่
พระไม่ประมาท

ใส่บาตรวันเกิด
เหล้ากินเข้าไปแล้วก็ขาดสติ...มีเรื่องเล่าว่า วันเกิดของผู้ใหญ่
ท่านหนึ่งกลางคืนเลี้ยงฉลองร่ำสุรากันเต็มที่..เมาแประ..
รุ่งเช้าอยากใส่บาตร ทำบุญเอาฤกษ์ ขณะตักข้าวจะใส่บาตร
ด้วยความเมาทำข้าวหก หมาก็วิ่งกรูกันเข้ามาแย่งกันกินข้าว
กัดกันเจี๊ยวจ๊าว พันแข้งพันขาจนเดิน ไม่ได้..ด้วยความโมโห..
เงื้อเท้าเตะหมาเต็มแรง...หมามันก็หลบทัน แต่พระหลบไม่ทัน
โดนหน้าแข้งเต็มๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ร่วมแย่งข้าวด้วยสักหน่อย
ขณะใส่บาตร..รู้สึกว่ากับข้าวที่เตรียมไว้ ไม่พอดีกับพระ แก
ตะโกนเรียกหลานลั่นเลย...."อีหนู เอาปลาทูมาอีกสององค์
วันนี้พระมาสี่ตัว..."
เหล้ามันทำให้คนกินไม่เป็นผู้เป็นคน..พูดผิด..คิดผิด
ยายหนู เอาปลาทูมาให้ลุงอีก 2 องค์ซิ บังเอิญพระมา 4 ตัว
เออ เอากับเค้าซิ รู้ว่ากินเหล้าเข้าไปแล้วทำอะไรผิดๆ
เพราะสติมันไม่อยู่กับตัว แล้วยังจะกินมันอยู่อีกหรือ........


เจ๊กหมดทุนเจ๊กหมดทุน.....
มีชายคนหนึ่งอยู่สุไหงโกลก..ชื่ออาฮัง..อาฮังหรือ..เจ๊กฮัง..
ค้าขายขาดทุนปีเดียวสามสี่แสนบาท ลงทุนทำกิจการอะไรก็
ขาดทุน พอขาดทุนทีไม่เป็นอันทำ มาหากินเลย ครั้งสุดท้าย
ขาดทุนสี่แสนก็มานั่งทำท่าเหมือนลิงป่วย.....หมดแรง...หมด
อาลัย ตายอยาก พูดพร่ำอยู่คำเดียวทั้งวัน อั๊วขาดทุนหมดแล้ว
อั๊วขาดทุนหมดแล้วจนญาติๆ ระอา ไม่รู้จะทำอย่างไร เลย
หามมาส่งที่วัดสวนโมกข์...อาตมาอยู่สวนโมกข์ได้ 7ปี พอดี
ปรากฏว่ามันก็มานั่งที่ตรงหินโค้ง นั่งเป็นทุกข์ในท่าเจ๊กหมดทุน
ท่าเดิม...นั่งบ่น..อั๊วเจ๊งหมดแล้ว..อั๊วขาดทุนหมดแล้ว
อาจารย์พุทธทาสก็เลยเข้าไปถามว่า ฮัง...ลื้อขาดทุนแน่หรือ
แน่ซิครับ สี่แสนปีเดียวหมดเกลี้ยง ผมขาดทุนย่อยยับหมดเลย
คิดให้ดี...ขาดทุนจริงๆ นะเหรอ....
จริงซิครับ...อย่ามาถามยั่วโทสะผมนะ......
อาจารย์พุทธทาสก็เลยถามต่อว่า...โยมอาฮัง... อาตมาเห็นเลย
เข้าไปพูดด้วย ที่ลื้อบ่นขาดทุน..ขาดทุนนี่..ลื้อเกิดมาลื้อมีทุน
ติดตัวมาเท่าไร.. วันที่ลื้อเกิดมานะ
อาฮังนั่งคิดอยู่พักหนึ่ง..เอ๊ะ..ใครมันจะไปดึงทุนออกมาจาก
ท้องแม่ได้ในวันเกิดนะ พระนี่ถามอะไรแปลกๆ...
อาฮังตอบว่า ..ไม่มี..
อาจารย์พุทธทาสท่านก็ถามต่อ...เดี๋ยวนี้หม้อหุงข้าวลื้อมีไหม....
หม้อหุงข้าวมี..
เสื้อผัามีใส่ไหม...
มี...
บ้านมีอยู่ไหม....
มี...
ถามอะไรต่อมิอะไร..มันก็ตอบว่า..มีๆๆ...
อาจารย์พุทธทาสท่านจึงบอกว่า...อาฮัง...ลื้อไม่ได้ขาดทุนหรอก
ลื้อมี
อาตมาถามต่อ.........ตัวมีเสื้อผ้าติดมาด้วยหรือเปล่า
มีบ้านช่องอย่างนี้ไหม
อาฮังได้คิด ตอบว่าไม่มี เกิดมาก็มาตัวเปล่า
อาตมาจึงบอกว่าเกิดมาแต่ตัว ที่มีติดตัวอยู่ทุกวันนี้ลื้อว่า
ขาดทุนอีกหรือ ลื้อคิดซิว่า ลื้อไม่ได้ขาดทุนหรอก เพียงแต่กำไร
มันลดลงไปนิดหน่อยเท่านั้น

คุณพระช่วยด้วย
พวกเราชอบอ้อนวอน..ชอบบนบานศาลกล่าวกันจนเคย
โดยเฉพาะผู้หญิงขอให้พระ ช่วยจนติดปาก
เกิดมีอะไรขึ้น
หรือตกใจอะไร จะต้องร้องว่า "คุณพระช่วย" ทุกครั้ง...
วันหนึ่ง..อาซิ้มนั่งขายของอยู่ในร้าน หน้าร้านมีคนมาทำ
ความสะอาดท่อ แล้วเปิดฝาท่อทิ้งไว้ ผู้หญิงคนหนึ่งเดินตกท่อ..
แล้วตะโกนว่า "ว้ายคุณพระช่วย"
อาซิ้มหัวเราะตัวงอ..แล้วเดินออกมาหาหญิงผู้เคราะห์ร้าย
พระช่วยลื้อไม่ล่ายหรอก..เพราะเมื่อเช้านี้พระก็ตก





Posted by : อ.มอ. , Date : 2005-06-09 , Time : 22:19:28 , From IP : 172.29.7.158

ความคิดเห็นที่ : 1


    ตลกดีครับ คลายเครียดดี ขอบคุณสำหรับบทความที่นำมาลง คราวหน้าเขียนมาอีกนะครับ

Posted by : กบ , Date : 2005-06-28 , Time : 14:09:42 , From IP : 172.29.3.239

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<