"ระพี สาคริก"ร่อนจม. ติงนายกฯอาจเอื้อมเป็น ปธ.ประกอบพิธีศาสนาในโบสถ์วัดพระแก้ว
จดหมายจากศ.ระพี สาคริก
เรียน คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เคารพ
ผมติดตามรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ แทบทุกวันศุกร์ ยกเว้นการเดินทางไปทำงานในพื้นที่
เพราะรายการที่คุณทำร่วมกับคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ มีเนื้อหาสาระที่ให้ประโยชน์ ทั้งในด้านเป็นข่าว และเป็นแง่คิดที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมของสังคม
เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คุณหยิบยกเอาประเด็นคณะรัฐมนตรีจะจัดประชุมสัญจร ที่ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง ซึ่งเมื่อ 60 ปีกว่ายังเป็นป่า ผมเคยไปเดินเกวียนอยู่ที่นั่น
ประเด็นสำคัญ คุณได้อธิบายชี้แจงว่า ปราสาทพนมรุ้งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับกษัตริย์ประกอบพิธี ซึ่งเป็นของสูงทางวัฒนธรรม แม้แต่ที่โบสถ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก็เป็นสถานที่ซึ่งพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้นที่จะเข้าไปทำพิธีได้
ถ้าคนแต่ก่อนเขาพูดก็คงพูดว่า -- คนธรรมดาเข้าไปทำอะไรระวังเหาจะขึ้นหัว
คุณสนธิบอกว่า ลูกน้องคิดทำให้เจ้านาย เพื่อยกย่อง ถ้าเราไม่ลืมสัจธรรมสิ่งหนึ่งซึ่งมีผู้พูดครั้งแล้วครั้งเล่าว่า "ลูกน้องมักทำให้ผู้ใหญ่เสียหาย" ถ้าผู้ใหญ่ลืมตัว ขณะนี้เป็นกันมากจริง ๆ ครับ
เมื่อคุณหยิบยกเอาข้อความที่ว่า เช่น ในโบสถ์วัดพระแก้วมรกต "เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วครับ" คุณสนธิก็คงจะมีอยู่ในใจแล้วก็ได้
เมื่อช่วงสงกรานต์ ผมชมข่าวทางโทรทัศน์ กล้องจับองค์พระแก้วมรกต กับจับที่คุณทักษิณ แยกกันเป็นทีละตอน ผมก็สงสัยแล้วว่าอาจเป็นที่เดียวกัน แต่ผมก็ไม่เชื่อสายตาว่าจะมีการอาจเอื้อมขนาดนั้น เพราะคนนี้ได้รับคัดเลือกมาจากประชาชนทั่วประเทศควรจะเป็นคนรู้จักเจียมตน
แต่วันรุ่งขึ้น ผมเห็นภาพสีเต็มหน้าหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และภาพสีในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ว่า นายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นประธานประกอบพิธีศาสนาในโบสถ์วัดพระแก้ว แถมยังแต่งตัวแบบลำลอง นั่งบนพรมสีแดง มีเจ้าหน้าที่เข้าไปก้มศีรษะมอบเครื่องกรวดน้ำให้
ผมไม่เคยเห็นภาพอย่างนี้มาก่อนในชีวิต
เห็นแต่องค์พระมหากษัตริย์หรือพระราชวงศ์แต่งฉลององค์ด้วยเครื่องราชอิสริยยศเท่านั้น
หลายคนเอาภาพนี้มาให้ดูกัน และคิดกันเอาเอง ทำให้ผมนึกในใจว่า ขณะนี้บ้านเมืองเกิดอาเพศขึ้นมาแล้วหรือ ?
อย่างที่โบราณกล่าวความตอนหนึ่งไว้ว่า กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม ผมดูแล้วใจหดหู่มากครับ
ที่คุณสนธิกล่าวสาปแช่งไว้ตอนใกล้จะปิดรายการ ผมว่ามันยังน้อยไป
คุณสนธิพูดเรื่อง เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ หากจำได้ เมื่อไม่กี่ปีมานี้มีเรื่อง "ผักสวนครัว รั้วกินได้" มีหนังสือพิมพ์ผู้จัดการมาขอสัมภาษณ์ความคิดเห็นจากผม ผมพูดไว้ตอนหนึ่งว่า
"ถ้าเอาเรื่องจริง ๆ อาจไม่มีคุกจะใส่พอ"
คนในเกษตร โกรธผมมาก ถึงกับกล่าวว่า "เกิดในเกษตร แท้ ๆ พูดยังงี้ได้ยังไง ?" ผมไม่อยากโต้เถียง เพราะถือว่าพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า "ถ้าไม่รักกันจริง ก็ไม่พูดตรง ๆ"
แต่การที่มีคนกลุ่มหนึ่งพูดว่า เกิดในเกษตรแท้ ๆ พูดได้ยังไง ? มันสะท้อนให้เห็นความรู้สึกของคนในเกษตรส่วนมาก ถือพวกมาตั้งแต่อยู่ในระบบการจัดการศึกษาแล้ว ยิ่งมาโดนนักการเมืองสมัยนี้ด้วย ยิ่งช้ำหนัก
ผมเคยตอบคำถามโทรทัศน์หน้าอนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์ ที่เขาถามว่า อาจารย์รักเกษตรหรือเปล่า ?
ผมตอบ รักสิครับเพราะเป็นของพื้นฐานแผ่นดินไทย แต่ผมไม่ใช่พวกเกษตร ?
ใครจะคิดได้ไม่ได้ก็แล้วแต่ครับ แต่มันเป็นมานานแล้ว จึงทำให้ปัญญามืดบอด ไม่ยังงั้นชีวิตเกษตรกรจะดีกว่านี้มาก
ด้วยความเคารพอย่างสูง
ระพี สาคริก
Posted by : เอามาให้อ่านกันทั่ว ๆ , Date : 2005-05-25 , Time : 01:11:40 , From IP : 172.29.7.26
|