ความคิดเห็นทั้งหมด : 17

แนะนำ web มงคลชีวิต 38 ประการ เพื่อ เป็น "มงคล" แก่ตัว


   http://www.kmitl.ac.th/~klsomcha/wdc/mongkol/

มีทั้งให้อ่าน และ download มาฟัง

หลวงพ่อท่าน เทศน์ ได้สนุกจริงๆ เอาไปฟังก่อนนอน ไม่น่าเบื่อ

เพื่อ "มงคล" แก่ตัวครับ


Posted by : OmniSci , Date : 2005-05-20 , Time : 08:54:48 , From IP : 172.29.7.227

ความคิดเห็นที่ : 1


   ม ง ค ล
คือเหตุแห่งความสุข และความเจริญก้าวหน้าของชีวิต
เป็นพระสูตรที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
ให้เป็นข้อควรประพฤติปฏิบัติ มีอยู่ ๓๘ ประการ ดังนี้

มงคลหมู่ที่ ๑ ฝึกตนให้เป็นคนดี
มงคลที่ ๑ ไม่คบคนพาล
มงคลที่ ๒ คบบัณฑิต
มงคลที่ ๓ บูชาบุคคลที่ควรบูชา

มงคลหมู่ที่ ๒ สร้างความพร้อมในการฝึกตนเอง
มงคลที่ ๔ อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม
มงคลที่ ๕ มีบุญวาสนามาก่อน
มงคลที่ ๖ ตั้งตนชอบ

มงคลหมู่ที่ ๓ ฝึกตนให้เป็นคนมีประโยชน์
มงคลที่ ๗ เป็นพหูสูต
มงคลที่ ๘ มีศิลปะ
มงคลที่ ๙ มีวินัย
มงคลที่ ๑๐ มีวาจาสุภาษิต

มงคลหมู่ที่ ๔ บำเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัว
มงคลที่ ๑๑ บำรุงบิดามารดา
มงคลที่ ๑๒ เลี้ยงดูบุตร
มงคลที่ ๑๓ สงเคราะห์ภรรยา - สามี
มงคลที่ ๑๔ ทำงานไม่คั่งค้าง

มงคลหมู่ที่ ๕ บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม
มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน
มงคลที่ ๑๖ ประพฤติธรรม
มงคลที่ ๑๗ สงเคราะห์ญาติ
มงคลที่ ๑๘ ทำงานไม่มีโทษ

มงคลหมู่ที่ ๖ ปรับเตรียมสภาพใจให้พร้อม
มงคลที่ ๑๙ งดเว้นบาป
มงคลที่ ๒๐ สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
มงคลที่ ๒๑ ไม่ประมาทในธรรม

มงคลหมู่ที่ ๗ การแสวงหาธรรมะเบื้องต้นใส่ตัว
มงคลที่ ๒๒ มีความเคารพ
มงคลที่ ๒๓ มีความถ่อมตน
มงคลที่ ๒๔ มีความสันโดษ
มงคลที่ ๒๕ มีความกตัญญู
มงคลที่ ๒๖ ฟังธรรมตามกาล

มงคลหมู่ที่ ๘ การแสวงหาธรรมะเบื้องสูงใส่ตัวให้เต็มที่
มงคลที่ ๒๗ มีความอดทน
มงคลที่ ๒๘ เป็นคนว่าง่าย
มงคลที่ ๒๙ เห็นสมณะ
มงคลที่ ๓๐ สนทนาธรรมตามกาล

มงคลหมู่ที่ ๙ การฝึกภาคปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลสให้สิ้นไป
มงคลที่ ๓๑ บำเพ็ญตบะ
มงคลที่ ๓๒ ประพฤติพรหมจรรย์
มงคลที่ ๓๓ เห็นอริยสัจจ์
มงคลที่ ๓๔ ทำนิพพานให้แจ้ง

มงคลหมู่ที่ ๑๐ ผลจากการปฏิบัติจนหมดกิเลส
มงคลที่ ๓๕ จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
มงคลที่ ๓๖ จิตไม่โศก
มงคลที่ ๓๗ จิตปราศจากธุลี
มงคลที่ ๓๘ จิตเกษม


Posted by : OmniSci , Date : 2005-05-20 , Time : 09:57:25 , From IP : 172.29.7.227

ความคิดเห็นที่ : 2


   
บุช > ใครเห็นดว้ยกับเราคือเพื่อนเรา ใครไม่เห็นด้วยกับเราคือศัตรูเรา

ความคิดเห็น> .ในโลกนี้ทรัพยากรจำกัดทุกคนมุ่งมั่นแต่จะกอบโกย

เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแย่งชิงทะเลาะเบาะแว้งได้

ใครกอบโกยได้น้อยย่อมไม่พอใจเกิดความเกลียดชัง

ความเกลียดชังนำไปสู่สงความ มงคลชีวีตใช้แทบไม่ได้

เพราะทำให้คุณอ่อนแอและยอมแพ้ในที่สุด.


Posted by : อินทรีย์ , Date : 2005-05-20 , Time : 13:04:02 , From IP : 172.29.7.186

ความคิดเห็นที่ : 3


   ถึงอย่างไรคนเราต่างก็กอบโกยได้มากน้อยตามศักยภาพของแต่ละคนอยู่ดี ยังไงก็ต้องมีคนที่ไม่สมปรารถนามากบ้างน้อยบ้างตามแต่กิเลสของแต่ละคนว่ามีมากน้อยหรือตั้งความหวังมากน้อยไว้อย่างไร
มงคลชีวิต38ประการช่วยให้คนเราเลือกดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงลงและหากผิดหวังหรือมีความสมหวังมากเกินไป ก็คงสามารถที่จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพราะถึงยังไงก็ผ่านพ้นไปอยู่ดีแม้อาจจะไม่ได้ด้วยดีก็ตาม


Posted by : Vaitong , Date : 2005-05-20 , Time : 16:24:07 , From IP : 172.29.3.164

ความคิดเห็นที่ : 4


   
มันเป็นนามธรรมยากในการนำไปใช้ ตราบใดคุณผอมโซเศษอาหาร

ในถังขยะคุณก็ต้องกินมัน บางคนปล้นจี้หรือขายยาเสพติดให้คนที่ฉวยโอกาส

เราสอนถึงวิธีหาเงินและสนับสนุนในการศึกษาอย่าให้เขายากจนเพราะการศึกษา

เช่นปัจจุบัน มงคลชีวิตเป็นแค่ความสุนทรีย์ชีวิตของคนมีฐานะแต่ผู้ด้อยกว่า

ยังกวักมือเรียกรัฐบาลให้ช่วยอยู่ทุกวันเพราะหวังว่าจะช่วยเขาได้ รัฐบาลก็ใจดี

เหลือหลายกระทืบซ้ำๆๆๆๆลงไปโดยขึ้นราคาสินค้า ผมไม่เห็นเป็นภาพที่ชัดเจนว่า

มงคลชีวิตจะช่วยคนกลุ่มนี้ช่วยชี้แนะ คงไม่ใช่ล่องลอยจับต้องไม่ได้แล้วเอามาใช้

ในสังคมเราทำไม.


Posted by : อินทรีย์ , Date : 2005-05-20 , Time : 23:31:53 , From IP : 172.29.7.184

ความคิดเห็นที่ : 5


   ผมเชื้อเชิญ คุณอินทรีย์เข้าไปฟัง หรืออ่านก่อนดีกว่าครับ
เลือกอ่านที่ท่านคิดว่าเป็นรูปธรรมก็ย่อมได้

เรียนเชิญครับ


Posted by : OmniSci , Date : 2005-05-21 , Time : 16:16:22 , From IP : 172.29.3.177

ความคิดเห็นที่ : 6


   ผมคิดว่าใครก็ตามที่คิดว่าสังคม ณ ขณะนี้มีวิถีการดำเนินไปได้เพียงอย่างเดียวคือเจริญรอยตามจอร์จ บุช เราก็คงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมาพูดถึง หรือตีความเรื่องมงคลชีวิตกันให้เสียเวลา เพราะมันไม่มีเฟืองอะไรจะไปเกี่ยวข้องกัน

อีกประการผมพึ่งเคยได้ยินคำวิจารณ์ว่า มงคลชีวิตเป็นแค่ความสุนทรีย์ชีวิตของคนมีฐานะ เป็นครั้งแรก นับเป็นการเปิดประเด็น เปิดมุมมองความคิดทีเดียว ผมเคยเข้าใจว่าศาสนาพุทธนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ตรงที่เป็นความผสมผสานของปรัชญาและศาสนา และในส่วนปรัชญาเองมีความเอกลักษณ์อยู่ที่เป็น intrinsic value ไม่เกี่ยวกับปัจจัยภายนอก การที่ "มงคลชีวิต" ทางพุทธศาสนากลายเป็น luxury items ของวรรณะใดวรรณะหนึ่ง น่าจะเป็น discrepancy ของการตีความเป็นแน่แท้

ผมมีความเห็นตรงกันข้างครับ คนที่กระเสือกกระสนไขว่คว้าฐานะความร่ำรวยนั้นรังแต่จะพบว่าตนเอง (จิต) จะยิ่งออกห่างจากมงคลชีวิตทั้ง 38 ประการออกไปเรื่อยๆ คนที่อิ้นรนฝึกฝนตนเองเข้าหาปรัชญาเศรษฐศาสตร์ตามพระบรมราโชวาท นั่นคือ เศรษฐศาสตร์แห่งความพอเพียงเท่านั้นจึงจะเข้ามาสัมผัสจับตองความ "สุนทรีย์" ของมงคลเหล่านี้ได้

ข้อดีของมงคลชีวิตคือ ไม่มีคำว่าอ่อนแอหรือพ่ายแพ้อยู่ในเส้นทางนี้ ไม่มีการหลงใจอ่อนกับโฆษณาหา vanity ส่ง SMS ไร้สาระทีละ 6 บาท 9 บาท 10 บาทไปบอกว่าวันนี้ร้อนจัง ที่นี่ร้อนด้วย ฯลฯ ไม่มีการวัดเพื่อต้องการเอา "ชนะ" แต่แรก แล้วเราจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร? สุยทรีย์ไม่ได้อยู่ที่ยี่ห้อ brand name แต่อาจจะเป็นแค่ภาพพระอาทิตย์ตกดิน หรืออุ้มลูกเดินไปมา ฐานะก็ไม่เป็นปัจจัยสำคัญเท่าไหร่นัก จริงหรือไม่?

จะมีข้อจำกัดอยู่อย่างเดียวของปรัชญาทางพุทธก็คือ จะเสพย์สุนทรีย์ได้นั้น แค่อ่านหรือแค่พูดถึงมันจะเป็นนามธรรมสุดๆ จับต้องไม่ได้อย่างโลกสุนทรีย์ของจอร์จ บุช แต่ทว่าหากใครที่ต้องการจะเสพย์สุนทรีย์แห่งปรัชญาพุทธแล้ว คงจะต้องมีการลงมือปฏิบัติ มีศรัทธาที่จะรอเฝ้าดูดอกผล แล้วเราจะรู้ว่าสุนทรีย์ที่แท้จริงนั้จับต้องไม่ได้จริงๆครับด้วยสฬายตนะ แต่ต้องสัมผัสด้วยจิตที่อิ่มเอมเท่านั้น



Posted by : Phoenix , Date : 2005-05-21 , Time : 16:52:47 , From IP : 172.29.7.166

ความคิดเห็นที่ : 7


    ผมหัวไม่ถึงคิดไม่ออกว่าในการนำมาใช้แล้วมันดีขึ้น

ขอช่วยยกตัวอย่างที่เป็นรูปเป็นร่างให้เห็นๆ

เหมือนที่ชาวบ้านทำนาข้าว

แปลงหนึ่งใส่ปุ๋ยสูตร 16-0-0

อีกแปลงปล่อยให้โตตามธรรมชาติ

ชาวบ้านเห็นแปลงที่ใส่ปุ๋ยงอกงามดี

เขาก็เชี่อจนบัดนี้ลบออกจากสมองไม่ได้

ยกตัวอย่างอีกหนึ่ง

เวลาไปวัดถวายอาหารเสร็จ

พระท่านสวดมนต์เราไม่รู้เรื่องเลย

ทุกๆครั้งเป็นอย่างนิ้

น่าแปลก!





Posted by : อินทรีย์ , Date : 2005-05-22 , Time : 05:01:15 , From IP : 172.29.7.186

ความคิดเห็นที่ : 8


   บัวจมน้ำ

มงคลที่ 1 เลย คือ ไม่คบคนพาล


Posted by : ยากจะพ้นน้ำ , Date : 2005-05-22 , Time : 11:50:48 , From IP : 203.113.77.36

ความคิดเห็นที่ : 9


    ขอบคุณ

usa โจมตีอิรักทหารไทยก็ตายในอิรัก

เรามีโรงงานผลิตเหล้าและบุหรี่

เรามีโสเภณีเยอะ

เราตั้งโรงงานอุตสาหกรรมแล้วถ่ายของเสียลงแม่ลำคลอง

นี่เป็นนโยบายปากว่าตาขยิบเพื่อความอยู่รอด

ศาสนาก็เช่นกันสอนอยู่นั่นแหละ

มงคลนั้นดีมงคลนี้ดี

แต่ในชีวิตจริงคนก็เมาทุกวัน

เพราะความอยู่รอดเขาต้องทำเช่นนั้น


Posted by : อินทรีย์ , Date : 2005-05-22 , Time : 13:14:56 , From IP : 172.29.7.135

ความคิดเห็นที่ : 10


   คุณอินทรีย์ครับ

ผมไม่แน่ใจว่าตัวอย่างที่คุณยกมาแสดงถึงการ "มีมงคล" แล้วไม่ work อย่างไร ผมคิดว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการ "ไม่ได้แสวงหา" มงคลแล้วลงเอยอย่างไรมากกว่า

มงคลข้อที่ 7 เป็นพหูสูต ฟังมาเยอะๆ เรียนรู้กว้างๆนั้น ไม่ได้หมายความถึงฟังและเรียนแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่เป็นการเรียนโดยใช้ปัญญาไตร่ตรอง คนที่เรียนแต่เปลือก เข้าใจว่าตนเองเข้าใจแล้ว ก็เลยสรุปออกมาลุ่นๆ แบบนั้นเรียก "อวิชชา" ครับ เป็นซอยแยกออกไปจากทางเดินแห่งมงคล สั่งสมความไม่เขาใจหรือเข้าใจผิดมากขึ้นเรื่อยๆ

ตัวอย่างที่สองผมไม่แน่ใจว่าคุณอินทรีย์ต้องการส่ออะไรที่เป็นประเด็นขัดแย้งต่อมงคลทั้ง 38 ประการ ถ้าคุณอินทรีย์ไม่รู้ภาษาบาลี ฟังพระสวดเป็นภาษาบาลีแล้วไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไรนั้น มันแปลกอย่างไรครับ? ข้อสำคัญมันเป็นการแสวงหามงคลอย่างไร? อันนี้ไม่ว่าจะเป็นไปฟังพระสวด บาทหลวงสวด โยคีสวด พระพุทธเจ้ามาเทศน์ด้วยตนเอง หรือต่อให้จอร๗ บุชคนโปรดของคุณอินทรีย์มาเล่าวิถีดำเนินชีวิต แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจภาษาที่เขาใช้มันก็ไม่เข้าใจแหละครับ ขอ reassure ว่ารับรองนี่เป็นเรื่องปกติธรรมดา

ถ้าคุณอินทรีย์สนใจว่ามงคล 38 ประการดีหรือไม่ดีจริง ก่อนเริ่มมาอภิปรายกัน สิ่งแรกที่อาจจะอยากทำคือไปอ่านก่อนดีไหมครับ เราจะได้มีจุดเริ่มคล้ายๆกันก้อนว่าเรากำลัง debate กันเรื่องอะไร



Posted by : Phoenix , Date : 2005-05-22 , Time : 13:20:44 , From IP : 203.156.38.241

ความคิดเห็นที่ : 11


   คุณอินทรีย์อาจจะแปลกใจที่ "มีคนไม่เมาทุกวัน" อยู่เป็นจำนวนมาก มีคนที่ไม่รู้สึกว่า "อบายมุข" เป็นสิ่งที่เลิกไม่ได้

ผมกำลังสนใจว่าประเด็นในการอภิปรายของเราไม่ตรงกันรึเปล่า หรือว่าในความเห็นของคุณอินทรีย์มงคลชีวิตเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้? เพราะที่แน่ๆตัวอย่างของเราทั้งสองฝ่ายมันชี้ตรงกันว่าถ้าไม่ดำเนินชีวิตตามมงคลที่ว่ามา มันมีแต่ผลเสีย ผมเลยไม่แน่ใจว่าเรากำลังสนับสนุนซึงกันและกันหรือเราเห็นไม่ตรงกันกันแน่?



Posted by : Phoenix , Date : 2005-05-22 , Time : 13:25:27 , From IP : 203.156.38.241

ความคิดเห็นที่ : 12


   Capitalism จะอยู่รอดนั้น ประการแรกที่เขาต้องทำคือ ทำให้ลูกค้าทั้งหมดเกิด mentality ว่า วิถีชีวิตแบบนี้ คุณค่าแบบนี้เท่านั้นคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ greed gluttony lustre vanity เป็นเรื่องที่ถูกต้องในการจัดการชีวิต

สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยภายนอก แต่ "มงคล" นั้นเป็นปัจจัยภายใน ทั้งสองประการมาสมดุลกันโดยปัจเจกบุคคลเป็นคนปรับ ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามเราสูญเสีย will power แรงบันดาลใจจากภายใน เราก็จะ "ตามกระแส" ไป ไม่ว่าผิด ไม่ว่าถูก

มีคนขายเหล้าบุหรี่ เราจำเป็นต้องดื่มต้องสูบหรือไม่? มีคนเสพย์อบายมุขเราควรจะรับรู้ว่าอย่างไร? ทราบว่าเพื่อนลอกข้อสอบทุจริตมิชอบ เราควรจะทำอย่างไร ปล่อยเลยตามเลย บอกครู? เห็นขโมยขึ้นบ้านเพื่อนบ้านทำอย่างไร ปล่อยเลยตามเลย แจ้งตำรวจ? เห็นพยาบาลกำลังจะให้ยา ให้เลือดผิด ควรจะทำอย่างไร ปล่อยเลยตามเลย หรือเข้าไปตักเตือน? ชีวิตเรามี "ทางเลิอก" ครับ และเป็นอิสระเสรีของแต่ละปัจเจกบุคคลว่าจะเลือกหรือไม่เลือก ที่มีคนอ้างว่าสังคมเขาทำกัน ใครๆกทำกัน ไม่มีทางเลือกนั้น คือ เสียงภายในศีรษะ ของเราเองต่างหากที่แสดงถึงความอ่อนแอ ความพ่ายแพ้ ต่อการล่อหลอกของอบายมุข ของอโคจร ของ capitalism

ถึงตอนนั้นจะบอกว่ามงคลมันทำไม่ได้ มงคลมันไม่มีอะไรดี นั่นไม่ค่ยเหมือน "คำวิเคราะห์" แล้วครับ แต่ผมว่าเหมือน "คำสารภาพ" มากกว่า



Posted by : Phoenix , Date : 2005-05-22 , Time : 13:37:26 , From IP : 203.156.38.241

ความคิดเห็นที่ : 13


   สาธุ ครับ คุณ ออมนิไชน์
ฟังธรรมตามกาล เป็นมงคลแก่ชีวิต
ไม่ทราบวันวิสาขะนี้ ท่านจะไป เวียนเทียนที่ได

ท่านอินทรีย์ ครับ มงคลซีวิตปฏิบัติ ไม่ได้จริงหรือ ถ้าทำตาม แล้วมันไม่ดีเลยหรือ
พระสวดไม่รู้เรื่องจริงเหรอ ผมว่ามันอยู่ที่เราเปิดใจรับหรือเปล่า ผมเข้าใจว่า ปู ย่า ตา ยาย ทวด ของผม ก็ไม่รู้ภาษาบาลีเหมือนกัน และเขารู้ว่าพระสวดอะไร
ผมเคยบวช แม้นจะใข้เวลาไม่มากนักเพราะติดด้วยภาระทางหน้าที่การงาน เวลาสวดก็ไม่รู้ภาษาบาลี แต่สักพัก จะรู้ว่าเรากำลังสวดอะไร มีบทสวดที่แปลบาลีเป็นไทยวรรคต่อวรรค ที่วัดที่เคยบวชใช้สวดทำวัตรเช้าและวัตรเย็น ประทับใจที่มียายข้างวัดคนหนึ่ง ตื่นมาฟังพระทำวัตรเช้าตั้งแต่ตีห้าทุกวันตอนเช้าก็ทำอาหารมาถวายพระทุกวัน แกแก่มากแล้วแต่แกดูมีความสุขดี
แม้เราไม่ได้ฟังคำสอนเหล่านี้จากพระพุทธเจ้าโดยตรง เป็นการเล่าสืบต่อกันมา อาจจะผิดไปบ้างตามการแปลความหมาย แต่ คิดว่าสิ่งที่เขาสอนยังทันสมัยใช้ได้ตลอดไป
ปล.

มีหลายประเทศ และคนอีกไม่รู้กี่แสนล้านคนที่ไม่ได้โจมตีอิรักและไม่ได้ตายที่อิรัก
พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยเป็นทุ่งนา สวนให้ชาวนาปลูกข้าว ปลลูกอีกหลายๆอย่างเลี้ยงคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่มีแต่โรงเหล้าโรงบุหรี่ โสเภณีไม่ได้มีเยอะเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด และน่าจะมีโรงงานที่มีระบบบำบัดน้ำเสียอย่างดีก่อนทิ้งลงลำคลอง รวมถึงคงไม่มีใครในโลกนี้ที่เมาได้ทุกวัน



Posted by : munich , Date : 2005-05-22 , Time : 15:47:33 , From IP : 172.29.7.81

ความคิดเห็นที่ : 14


   ผมคิดว่า "รากแห่งความแตกต่าง" ระหว่างความคิดของคุณอินทรีย์กับของผมน่าจะสรุปได้จากประโยคนี้ครับ

"ศาสนาก็เช่นกันสอนอยู่นั่นแหละ

มงคลนั้นดีมงคลนี้ดี

แต่ในชีวิตจริงคนก็เมาทุกวัน

เพราะความอยู่รอดเขาต้องทำเช่นนั้น
"

นั่นคือความรู้สึกว่ามัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อความอยู่รอด จนต้องยังชีวิตอย่างไม่ยึดมงคลชีวิต ประเด็นนี้ถ้าเราทั้งสองฝ่าย clarify เหตุผลที่มากันได้ อาจจะลงเอยได้ (รึเปล่า... ไม่แน่ใจ)

ผมคิดว่าคนเราอยู่รอดได้โดยไม่ต้องเมาทุกวันครับ และจริงๆแล้วผมอยากจะคาดหวังว่ามีเพียงคนส่วนน้อยในโลกนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้ตนเองเมาได้ทุกวัน

และที่ว่า
ในโลกนี้ทรัพยากรจำกัดทุกคนมุ่งมั่นแต่จะกอบโกย

เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแย่งชิงทะเลาะเบาะแว้งได้
"

ผมว่าจริงส่วนหนึ่งที่ว่าโลกเรานี้มีทรัพยากรจำกัด แต่ประโยคต่อมาที่ว่า "ทุกคนมุ่งมั่นแต่จะกอบโกย" นั้น ออกจะเป็น psychology ที่น่ากลัวนะครับ น่าจะมีคนที่ไม่ได้มุ่งมั่นจะกอบโกยเหลืออยู่บ้าง เริ่มต้นมาจากรอบๆตัวคุณอินทรีย์ หรือแม้แต่ตัวคุณอินทรีย์เองเป็นไงครับ ช่วยให้โลกนี้สดใสน่าอยู่มากขึ้นหรือไม่ ถ้าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแย่งชิงทะเลาะวิวาทได้จริง ผมว่ามันก็น่ากลัว ไม่น่าอยู่ มงคลไม่เกิดเหมือนกัน แต่ในประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมคิดว่าเราสามารถหลีกเลี่ยงการแย่งชิงทะเลาะวิวาทได้นะครับ มีมากมายหลายวิธีที่จะทำอย่างนั้น แต่ถ้าเราคิดว่าเราทำไม่ได้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรา ต้องโลภ ต้องกอบโกย ต้องเห็นแก่ตัว วิถีแห่งมงคลชีวิตก็คงจะดำเนินห่างออกจากเราไปเรื่อยๆแหละครับ





Posted by : Phoenix , Date : 2005-05-22 , Time : 18:24:58 , From IP : 203.156.38.241

ความคิดเห็นที่ : 15


   เซ็งวัดกลายธรรม

Posted by : ... , Date : 2005-05-23 , Time : 07:55:22 , From IP : 203.156.131.193

ความคิดเห็นที่ : 16


   ทำไมเวลาพูดเรื่องธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องมีคนพยายามแบ่งค่ายแบ่งพรรคแบ่งพวกอยู่เรื่อย ผมเข้าใจว่า มงคลชีวิต ก็เป็นธรรมะในพุทธศาสนาจะเป็นใครพูดก็มีเนื้อหาเดียวกันเพียงแต่อธิบายให้น่าสนใจ เข้าใจยากง่ายต่างกัน ผมว่าพุทธศาสนิกชนแท้ ๆ ไม่แบ่งหรอกครับว่ามาจากวัดใหน ๆ เพราะอย่างไรก็เข้าสู่หัวใจได้เหมือนกันถ้าเปิดใจรับ จะมีก็แต่พวกที่ชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว บอกว่าค่ายนั้นดีกว่าค่ายนี้ ข้าเป็นศิษย์สำนักนี้ อะไรที่นอกสำนักล้วนไม่ดี แต่พอถามเข้าจริงๆ ว่าไปวัดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ทำบุญ รักษาศีลครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ก็ตอบไม่ได้ ก็ตอบไม่ได้ แค่หาเรื่องว่าคนอื่นไปวัน ๆ

มีน้อยที่ยอมเปิดใจฟังคำสอนของพุทธศาสนาจริง เพราะส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชนแต่ในชื่อ บางคนบอกว่า ผมเป็นศิษย์สวนโมกข์ (ขอโทษครับแค่ยกตัวอย่างไม่ได้จะแบ่งพวก) พอถามว่าอย่างนี้ก็ต้องเคยอ่านคู่มือมนุษย์สิ หรือเคยอ่านพระสูตรเว่ยหล่างที่ท่านพุทธทาสเขียนใหม ก็เงียบ รู้จักฆารวาสธรรมใหม แม้แต่ถามว่ารู้จักศีลห้าครบใหม ก็ยังตอบไม่ได้เลย แล้วชอบมาแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

รู้จักเขาดีแล้วหรือครับถึงได้บอกว่าเขาไม่ดี หรือแค่อ่านหนังสือพิมพ์มาแล้วก็สรุปว่าเขาไม่ดี น่าจะรู้อยู่แล้วว่าความน่าเชื่อถือของหนังสือพิมพ์มีมากน้อยแค่ใหน กี่คั้รงที่เราต้องเจ็บปวดเวลาพวกนั้นเขียนถึงวงการสาธารณสุขอย่างไม่มีชิ้นดี กี่ครั้งที่เขียนถึงพุทธศาสนาอย่างเหลวแหลก เคยพิสูจน์ว่าเป็นความจริงได้สักครั้งใหม กี่ครั้งที่มาลงข้อขอโทษในกรอบเล็ก ๆ ที่ไม่มีคนอ่าน

ผมว่าเจ้าของกระทู้เขาหวังดีที่ฟังอะไรดีๆ มาแล้วอยากให้คนอื่นลองฟัง ถ้าไม่สนใจก็หลบไปไกล ๆ แต่ถ้าเปิดใจรับฟังดูก่อนแล้วค่อยตัดสิน จะดีกว่าใหม เราจะเสียใจแค่ใหนถ้าคนที่ยังไม่มีโอกาสได้รู้จักเรามาสรุปว่าเราเป็นคนไม่ดี

นอกเรื่องไปมาก อย่างไรเสีย มงคลชีวิตก็เป็น สิ่งที่น่าฟังน่าเรียนรู้อีกเรื่อง แค่เราเปิดใจ


Posted by : ขอทีเถอะ , Date : 2005-05-23 , Time : 17:19:49 , From IP : 172.29.7.143

ความคิดเห็นที่ : 17


   เมื่อวานนี้ผมไปประชุมชมรม Hospice and Palliative care แห่งประเทศไทย หัวข้อเรื่องการวิจัยในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบองค์รวม มีการคุยกันถึงเรื่องเราควรจะเอาอะไรเป็นเกณฑ์ อะไรเป็นเครื่องมือในการวัด domains ต่างๆ ส่วนของ physical psycho นั้นพอจะมีวิธีวัดที่ validate แล้วว่าใช้ได้ เช่น VAS หรือ questionaire หลายๆตัว แต่ของ spiritual นี้ยังยากอยู่

panel ท่านหนึ่งเป็นพระที่ทำเรื่องการศึกษา และ palliative care มานาน เป็นวิทยากรมาหลายที่ ผมเลยนิมนต์ท่านเรียนถามความเห็น ตั้งเงื่อนไขว่าผมขออะไรที่แปลเป็นภาษาสากล ภาษากลางสำหรับทุกความเชื่อ ทุกศาสนาให้ได้ เพราะผมมาจากภาคใต้มีความหลากหลายทาง spiritual ท่านคิดอยู่พักนึงยังกับดลใจก็บอกว่า ทำไมเราไม่ใช้มงคล 38 ประการล่ะ simple และวัดได้พอสมควร อีกทั้งภาษาก็ค่อนข้างเป็นกลาง คุณค่าเป็น common values ที่ทุกคน cherish พวกเราหยุดคิดอยู่พักนึงเริ่มเกิดพุทธิปัญญาเห็นแสงไรๆ อืม.... why and why not จริงๆ

ไปๆมาๆเราอาจจะมี parameter และ tool อยู่ข้างหน้าเราอยู่นานแล้วในเรื่องคุณภาพชีวิต แต่กรรมบังทำให้มองไม่เห็น (หรือจงใจปฏิเสธ)



Posted by : Phoenix , Date : 2005-05-24 , Time : 09:19:58 , From IP : 172.29.3.62

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<