ความคิดเห็นทั้งหมด : 14

มีรับน้องรึป่าว


   คืออยากรุ้ว่า คณะแพทย์จามีรับน้องรึป่าว แล้วรับช่วงไหน แล้วเข้าหอวันไหน
ครัยรุมั่ง ช่วยบอกด้วยนะ

Posted by : เวร , Date : 2005-05-12 , Time : 18:11:21 , From IP : 203.113.77.100

ความคิดเห็นที่ : 1


   มีอยู่แล้วจ้า แต่ไม่รู้วันไหน ก็คงหลังเปิดเทอมละมั้ง ตื่นเต้นๆ จะได้มีน้องเพิ่มอีกคน สดใสดี

Posted by : 1 , Date : 2005-05-12 , Time : 19:30:35 , From IP : 172.29.4.85

ความคิดเห็นที่ : 2


   มี
เตรียมใจไว้ดีๆ 8o|
แฮ่ส์

Posted by : Aoi_Ray , Date : 2005-05-12 , Time : 20:24:45 , From IP : fi.ba.117.131.revip2

ความคิดเห็นที่ : 3


   มันต้องมีแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วง ได้รับน้องสมใจ(พี่ๆ)แน่ๆ


Posted by : WILLY SAGNOL , E-mail : (TaRzAn) ,
Date : 2005-05-13 , Time : 02:54:52 , From IP : 172.29.4.193

ความคิดเห็นที่ : 4


   น้องคนไหนก็ตามที่จะเข้ามาpostที่webคณะ ขอความร่วมมือในการใช้ภาษาที่สุภาพและสำนวนที่เหมาะสม พี่อยากให้น้องให้ความเคารพกับwebของคณะ เพราะเป็นสิ่งสะท้องถึงคณะเรา พี่หวังว่าน้องจะเข้าใจดี เพราะจะเข้ามาเป็นลูกพระบิดาด้วยกัน คงต้องมีเลือดสีเขียวสีเดียวกัน และมันสมองระดับที่ไม่ต้องพูดให้มากความ นะ

Posted by : รุ่นพี่พวกคุณ , Date : 2005-05-13 , Time : 05:18:17 , From IP : 172.29.3.223

ความคิดเห็นที่ : 5


   ได้รับเเน่นอนอ่ะคร่ะ น้องงๆไม่ต้องเป็นห่วง

Posted by : เหอๆ , Date : 2005-05-13 , Time : 14:20:42 , From IP : 172.29.4.223

ความคิดเห็นที่ : 6


   พี่คะ ขอโทษนะคะ คือรู้ว่าจะมีรับน้องอยู่แล้ว แต่เห็นคณะวจก เค้าให้เข้าหอตั้งแต่วันที่24 รับน้อง4วัน แล้วเพื่อนบอกว่าจะมีจมมาที่บ้านด้วย บางคนก็บอกว่าเข้าหอวันที่26 ในซอง มันบอกว่าวันที่28อะคะ ถ้ารับน้องหลังเปิดเทอมก็แล้วไป นึกว่าจะรับก่อน แล้วประชุมเชียร์ คืออะรัย??

Posted by : เข้าเวร-ออกเวร , Date : 2005-05-13 , Time : 16:33:01 , From IP : 203.113.77.100

ความคิดเห็นที่ : 7


   คณะแพทย์ไม่มีประชุมเชียร์ครับ มีแต่การสอนน้องใหม่ใช้ชีวิต ซึ่งจะเป็นยังงัยก้อลองติดจามดูล่ะกันนะ


Posted by : FABIAN BARTEZ , E-mail : (TaRzAn) ,
Date : 2005-05-13 , Time : 16:48:13 , From IP : 172.29.4.193

ความคิดเห็นที่ : 8


   มันก้อครือกันน่ะแหละ

Posted by : ไม่เชิ่อลองดู , Date : 2005-05-13 , Time : 19:35:44 , From IP : 172.29.4.249

ความคิดเห็นที่ : 9


   อู้ยยยย สอนให้เรียนรู้ชีวิต พูดจาซะสวยหรู

ไปยืนทนฟังรุ่นพี่ตะคอก ขยับตัวกระดุกกระดิกไม่ได้ ร้องเพลงหมู่ ห้ามพูด ห้ามถาม ฟังโอวาทจากรุ่นพี่บรรยายความเป็นแพทย์ที่ดีในชนบทห่างไกล ทั้งๆที่รุ่นพี่มันก็ไม่เคยไปใช้ชีวิตหรือเคยเห็นภาพอย่างนั้นจริงๆเสียที ทำยังกับ เรียนลัทธิคอมมิวนิสต์ เหมาเจ๋อตุง

ผมเคยโดนหลอกไปประชุมเชียร์อะไรทำนองนี้อยู่ซัก 10 วัน ตอนหลังสำนึกได้ว่า พ่อแม่ส่งให้ตูมาเรียนเป็นหมอ ไม่ได้ให้มาเรียนเป็นทหาร หรือแรงกว่านั้นก็เป็นควาย เลยเลิกเข้าห้องเชียร์ตั้งแต่นั้น

จนถึงวันนี้ ไม่รู้เป็นหมอที่ดีหรือปล่าวนะ รู้แต่ว่าเป็นหมอมาเกือบ 10 ปี ไม่เห็นจะใช้ประโยชน์อะไรจากห้องเชียร์เลย

ปล. ถ้าจะแย้งว่า มันทำให้เกิดความสามัคคีกลมเกลียว ผมก็ไม่เชื่อ เพราะไอ้พวกที่เข้าห้องเชียร์ทุกวัน มันแข่งกันเรียน แล้วทะเลาะกันวายป่วง ส่วนคนที่ได้เป็นขวัญใจรุ่นเพื่อนๆรัก รุ่นพี่เอ็นดู มันก็โดดประชุมเชียร์
ถ้าจะบอกว่า ประชุมเชียร์ สอนคนให้เป็นคนดี เป็นหมอที่ติดดิน เพื่อนผมในรุ่นที่โดดเชียร์ตลอด 20 วัน ตอนนี้เป็น ผู้อำนวยการ รพ.เล็กๆในจังหวัดปัตตานีมา 5 ปี ได้รับรางวัลข้าราชการดีเด่นจากกระทรวงมาหลายสมัย
และถ้าจะบอกว่า ต้องยืนนิ่งๆเพื่อฝึกความอดทนเวลาผ่าตัด หรือ ดูแลผู้ป่วยหนักๆ ก็จะบอกว่า ผมนี่แหละ ยืนผ่าตัดผู้ป่วย บางเคสปาไป 6-7 ชั่วโมง ไม่ได้กินข้าว ไม่ไดนอน แต่ก็มีความสุขมากๆตอนคนไข้หาย

จะบอกให้ ตอนผมเป็น รุ่นพี่ อยู่ปี 4 รับผิดชอบเรื่องเชียร์ มีการโหวตว่า จะไม่มีการเชียร์ในรูปแบบเดิม แต่จะมีการเข้าค่าย พาน้องๆไปดูความเป็นอยู่ของรุ่นพี่ที่อยู่บนวอร์ด หรือ รพ.ใกล้ๆ ไม่มีการขู่เข็ญบังคับ ไม่มีการเก๊กหน้าให้น้องเกรงกลัว
มีคนเห็นด้วยกับความเห็นนี้อยู่ 30 กว่าคน ไม่แสดงความเห็นอีก 40 กว่าคน แต่ดันมีรุ่นพวกเราแค่ไม่ถึง 10 คน บวกกับ คนในสโม อีกไม่กี่คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการเชียร์แบบเก่าๆอยู่อีก จนต้องมี ประเพณีปฏิบัติไร้สาระสืบทอดอยู่จนถึงทุกวันนี้


Posted by : โซดา โค้ก , Date : 2005-05-14 , Time : 11:11:02 , From IP : gb.ja.99.48.revip.as

ความคิดเห็นที่ : 10


   ลองรื้อฟื้น model ที่ว่าดูอีกทีก็น่าสนใจนะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-05-14 , Time : 15:02:50 , From IP : 172.29.7.188

ความคิดเห็นที่ : 11


   ขอแสดงความคิดเห็นกับกระทู้ของคุณโซดา โค้กหน่อยนะครับ
ผมว่าการจะจบไปเป็นหมอที่ดี มันมีองค์ประกอบมากมายหลายอย่าง ไม่น่าเอาการเข้าประชุมเชียร์( แค่ 10 กว่าวัน ) กับการเป็นหมอที่ดีมาเปรียบเทียบกัน มันคนละเรื่อง ผมไม่เห็นด้วย คนไม่เข้าไม่ใช่จะเป็นหมอที่ไม่ดี คนที่เข้าก็ใช่ว่าจะเป็นหมอที่ดี มันเป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญอยู่แล้ว การที่คุณยกมาเปรียบเทียบกันมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหนอยู่แล้วนี่ครับ
ผมว่าห้องเชียร์มันมีประโยชน์ของมัน แล้วแต่ใครจะสัมผัสได้มากน้อยแตกต่างกันไป แต่คุณคงไม่มีสิทธิจะบอกได้ เพราะคุณเองเลือกที่จะโดดออกจากห้องเชียร์ไม่ใช่หรือครับ แล้วจะมาบอกใครได้อย่างไรว่าห้องเชียร์มีหรือไม่มีประโยชน์ตรงไหน ในเมื่อคุณเองก็ไม่เคยอยู่จนครบ
นอกจากนั้นคุณยังโพสอีกว่า
"ไปยืนทนฟังรุ่นพี่ตะคอก ขยับตัวกระดุกกระดิกไม่ได้ ร้องเพลงหมู่ ห้ามพูด ห้ามถาม ฟังโอวาทจากรุ่นพี่บรรยายความเป็นแพทย์ที่ดีในชนบทห่างไกล ทั้งๆที่รุ่นพี่มันก็ไม่เคยไปใช้ชีวิตหรือเคยเห็นภาพอย่างนั้นจริงๆเสียที ทำยังกับ เรียนลัทธิคอมมิวนิสต์ เหมาเจ๋อตุง"
โลกมันเปลี่ยนเร็วครับ ตอนนี้ที่เขาใช้ชื่อสอนน้องใหม่ใช้ชีวิตเพราะเขามีนโยบายไม่ใช้รูปแบบการตะคอกด่าน้องอย่างไร้เหตุผลกันแล้ว อย่างน้อยห้องเชียร์ปีที่แล้วพี่ๆก็ใช้เหตุผลคุยกับน้อง น้องเองก็พูดได้ ถามได้ แถมเกาเวลาคันได้อีก อ้อ หนำซ้ำกิจกรรมประชุมเชียร์สมัยนี้เค้าไม่บังคับกันแล้วครับ น้องที่ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา
สุดท้ายผมอยากจะบอกคุณโซดาโค้กว่าน้องๆ ( ผู้ทำโครงการ ) เค้ามีความตั้งใจและทุ่มเทในการทำงานนี้กันมาก ก่อนจะเข้ามาแสดงความคิดเห็น ผมอยากให้คุณเปิดใจและลองเดินเข้ามาดูห้องเชียร์รูปแบบใหม่ของน้องเขาก่อนแล้วถ้ามีตรงไหนไม่ถูกใจ สมควรปรับปรุงค่อยมาวิพากย์วิจารณ์หลังจากที่ได้ดูแล้ว จะเป็นความกรุณาแก่น้องๆอย่างสูง
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

Posted by : Tamujin , Date : 2005-05-15 , Time : 03:23:10 , From IP : 172.29.4.132

ความคิดเห็นที่ : 12


   ผมเห็นว่ากิจกรรมร่วมที่นักศึกษาทำด้วยกันสามารถมีได้ทั้งข้อดีและข้อเสีย คงจะต้องพิจารณาเป็นรายๆไป เหมารวมยากครับว่าจะดีหรือไม่ดี

บางครั้งเรื่อง "ส่วนรวม" ก็ต้องการแค่การ "ไปร่วม" แหละครับ ตรงนั้นก็เริ่ม "ได้" อะไรกลับบ้านแล้ว เช่น ความรู้สึกได้ share อะไรๆกับเพื่อนๆ จริงๆนักศึกษาใหม่นั้นก็กระตือรือร้นที่จะร่วมทำอะไรกับพี่ๆใหม่ๆอยู่แล้ว ตรงนี้ผู้จัดถ้าสามารถฉวยโอกาสนี้แนะนำตัวพี่ๆและแนะนำสถาบันแก่น้องๆให้ประทับใจได้ไม่ยาก และจะน่าเสียดายมากทีเดียวถ้าจัดแล้วมีคนเกิดรู้สึกว่าไม่น่ามาเลย

ระบบการเรียนการสอนแพทย์ไทย เป็นระบบพี่สอนน้อง พ่อแพทย์สอนลูกหลานแพทย์มาแต่ไหนแต่ไร การรับน้องควรจะมีผลสุดท้ายคือ ๑) รุ่นน้องรู้จักสถาบันดีขึ้น ๒) รุ่นน้องรู้จักวิชาชีพนี้ดีขึ้น ๓) รุ่นน้องรู้จักรุ่นพี่และอาจารย์ดีขึ้น ที่เหลือเป็นผลพลอยได้ เช่น รุ่นพี่ก็ได้รู้จักรุ่นน้อง นักศึกษาได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ที่จริงตรงนี้เป็นหัวใจในการทำงานต่อๆไปด้วย คือการธำรงซึ่งวัฒนธรรม "อันดี" ไม่ให้มัน "กลายพันธุ์" เป็นอื่น

และแน่นอนที่สุดครับ ผมว่าเราคงจะบอกไม่ได้ว่ามาเข้าหรือไม่มาเข้าร่วม "ทำให้เกิด......" ในอนาคต ก็ฝากน้องๆคนจัดงานก็แล้วกัน ลองวางแผนวางภาพให้ดีว่าอะไรคือ theme ของงานแบบนี้และอะไรคือวัตถุประสงค์ที่แท้จริง (หรือควรจะเป็น) พวกพี่ๆนี่แหละจะเป็นทูตานุฑูตแห่งวิชาชีพที่น้องรุ่นใหม่จะได้สัมผัส และบางคนก็จะมี impression ต่อๆไปได้อีกหลายสิบปี (ได้ทั้งสองทิศทาง)



Posted by : Phoenix , Date : 2005-05-15 , Time : 03:52:51 , From IP : 172.29.7.80

ความคิดเห็นที่ : 13


   ขอบคุณอาจารย์นกไฟที่แนะนำครับ ข้อความนี้จะถึงน้องๆผู้ทำโครงการนี้แน่นอนครับ

Posted by : Tamujin , Date : 2005-05-16 , Time : 18:46:48 , From IP : 172.29.4.132

ความคิดเห็นที่ : 14


   เอ แต่เข้าค่ายไปดูชีวิตพี่ๆบนวอร์ดก็น่าสนนะคับ
เพราะ เป็นชีวิตของหมอที่หลายๆคนจะไม่เคยเห็นและรับรู้
(ขนาดผมไปๆมาๆ รพ.กะห้อง ER บ่อยๆตั้งแต่อนุบาลยันปี2 ยังเห็นชีวิตของหมอได้ไม่เยอะเลย)


Posted by : Aoi_Ray , E-mail : (raynus4@hotmail.com) ,
Date : 2005-05-18 , Time : 20:38:28 , From IP : fi.ba.120.242.revip2

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<