Part II Professionalism
reference: จาก slide บรรยายที่คณะฯเชิญ อาจารย์นายแพทย์ปรีดา ทัศนประดิษฐ์ มาพูดเมื่อ 29 มีนาคม 2548 นี้
Profession : Any state-supported organization
staffed by licensed experts with
esoteric knowledge, and to whom
the government has given the
privilege of autonomous, monopolistic
control over the delivery of services
that are essential for promoting
certain vital social values.
ขออนุญาตแปล
"วิชาชีพ" คือ องค์กรที่รัฐเป็นผู้ให้ "อุปถัมป์รับรอง" ที่ประกอบด้วยบุคลากรที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ใช้ความรู้ที่ตจำเป็นต้องมีการฝึกอบรมเป็นพิเศษ กระทั่งรัฐได้มอบหมายอำนาจแห่งสิทธิเสรีภาพในการทำงานและบริหารองค์กรด้วยตนเอง โดยงานที่กระทำนั้นๆสังคมตระหนักถึงความจำเป็น และนัยสำคัญต่อคุณค่าของส่วนรวม
คำว่า "รัฐอุปถัมป์รับรอง" หมายความว่าอย่างไร?
State-support :
- legal protection
- financial support
- education
- services
- research
- prosecutor practices without license
- social privilege with condition (e.g. - acceptable quality of services)
- not for individual benefit
- extremely conscientious in carrying duties)
รัฐออกกฏหมายรับรององคกร แนวทางปฏิบัติ และปกป้องสิทธิเสรีภาพของวิชาชีพ ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ การฝึกอบรม การบริการ การวิจัย การให้สิทธิและกฏหมายควบคุมใบอนุญาตประกอบกิจการทำงาน ตอบแทนกับ ศักดิ์ฐานะพิเศษทางสังคม โดยแพทย์การันตีมาตรฐานคุณภาพของบริการที่สัญญาว่าจะทำ ไม่ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน และตระหนักถึงหรือมีมโนสำนึงในหน้าที่ ความรับผิดชอบอยู่ตลอดเวลา
ผลแปลเองโดนไม่ได้รับการยินยอมหรือ approved จากใคร ผิดพลาดตรงไหนผมรับผิดชอบครับ
อะไรคือ "ศักด์ฐานะพิเศษ" ที่ว่า? (social privilege)
นั่นคือสิทธิที่พวกเรา "ปกครองกันเอง" ตรวจสอบกันเอง มีสภา มีกฏเกณฑ์ ของวิชาชีพเรากันเอง เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมีเสรีภาพในการเลือกการรักษา (ตราบใดที่เสรีภาพนั้น serve the only purpose คือ "คุณภาพชีวิตประโยชน์ ของประชาชน") ทั้งนี้เพราะเวลาเรารักษาผป. แต่ละคน เขาก็มี autonomy ที่จะต้องการๆก้หลากหลาย หมอก็ต้องสามารถมีสิทธิพลิกแพลง ใช้ความรู้ความสามารถที่ดีที่สุดตามบริบทของตน ทำให้แก่ผป.เป็นรายๆไปให้ได้
ทีนี้ตราบใดที่เรายังทำ "ให้" สังคม รัฐ หรือสังคมก็ยังให้การอุปถัมป์เราอย่างที่เราสมควรจะได้ตรงนี้น่าจะตอบคำถามที่มีคนถามกันหลายต่อหลายครั้งว่า "แล้วหมอมีสิทธิแพทย์ เหมือนๆกับผป.มีสิทธิผป.หรือไม่" คำตอบคือ "มี" ครับ จริงๆแล้วที่เขาพูดถึงสิทธิผป.กันมากขึ้นนั่นเป็นเพราะ หมอเรา take over autonomy ผป."มากเกินไป" หรือกำลังจะมากเกินไปขึ้นเรื่อยๆต่างหาก มีการให้ ผป. เซ็น consent form โดยยังไม่ได้ inform ซักกะหน่อย (ชื่อเต็มของ form นี้คือ "informed consent" นะครับ แปลว่า ต้อง informed แล้วค่อย consent) ผป. บอกความลับอะไรต่อมิอะไรมากมาย หมอยังถามล้วงลึกมากกว่านั้นได้อีก นี่ก็เป็น privilege แลกกับการที่เราจะต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเกี่ยวกับ "ประโยชน์ของ ผป." เท่านั้น และต้องรักษา confidentiality เอาไว้เหนืออื่นใด (ยกเว้นผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง เช่น ภาวะโรคระบาด) สิทธิของหมอโดยอาชีพนั้นเยอะมาก แต่ต้องแลกกับ "หน้าที่ ความรับผิดชอบ" ของเราที่รัฐ และประชาชนได้ประโยชน์นะครับ ถ้าเมื่อไหร่หน้าที่ความรับผิดชอบของเราไป serve share-holders, stake-holders (literally) หรือผลประโยชน์ส่วนบุคคล ด้านอื่นๆ privilege และ protection, legal protection, supportive system ที่ว่าก็ไม่ applied อีกต่อไป
Posted by : Phoenix , Date : 2005-05-09 , Time : 01:16:12 , From IP : 203.156.119.53
|