ความคิดเห็นทั้งหมด : 5

แพทย์ป่วย นอน admit อยู่ สั่งการรักษาตัวเองได้หรือไม่


   ขอความเห็นจากอ. ผู้รู้ แพทย์ป่วย นอน admit อยู่ สั่งการรักษาตัวเองได้หรือไม่
ขอความกระจ่าง ทั้งในแง่กฏหมาย และการปฏิบัติ


Posted by : อยากรู้ , E-mail : (kkkk) ,
Date : 2005-04-05 , Time : 18:39:16 , From IP : 172.29.7.123


ความคิดเห็นที่ : 1


   พี่ว่าขอเริ่มกันในแง่ของการปฏิบัตินะ.......... เวลาที่หมอเป็นคนป่วย เราต้องรู้ตัวว่าเรากำลังอยู่ในบทบาทใด

1 ถ้าเรานอนป่วย ในสภาพที่ว่ามีแพทย์อีกคนหนึ่งเป็นแพทย์เจ้าของไข้ตัวเรา แบบนี้มันก็คงคล้ายๆว่า เราคงต้องเล่นบทบาทเป็นคนไข้นะ ไม่ใช่หมอ (ต้องอย่าหลงนะ) เพียงแต่ว่าเราเป็นคนไข้ที่มีคว่ามรู้ทางการแพทย์ด้วยก็เท่านั้นเอง ทีนี้ทางออกที่ดีที่สุด ก็คือ
เราคงต้อง set ความสัมพันธ์ doctor-patient relationship กับแพทย์เจ้าของไข้ แบบผู้ป่วยคนอื่นๆเขาทำกันนั่นแหล่ะ เพียงแต่มันอาจจะมีความโน้มเอียงไปทางsocial relationshipได้สักหน่อย ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ดั้งเดิมของเรากับแพทย์เจ้าของไข้ของเรานั่นแหล่ะ ว่าที่ผ่านมามันลึกซึ้ง หรือห่างเหินกันมากน้อยแค่ไหน
เราควรต้องให้เกียรติหมอเจ้าของไข้ของเราด้วย ไม่ควรระแวง ถ้าครั้งใดมีความเห็นที่แตกต่าง สิ่งง่ายๆที่ควรทำก็คือ การ sharing ข้อมูลกันในส่วนที่เราเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งมันน่าจะเป็นการง่ายเสียอีก เพราะคุยกันรู้เรื่องภาษาเดียวกัน ให้ข้อมูลกันไปมาก็ง่าย และทำได้สะดวกมากกว่าผู้ป่วยธรรมดาๆเสียอีก

2 ถ้าเราป่วย และเราเป็นหมอเจ้าของไข้ตัวเราเอง อันนี้คงไม่ต้องบอกมั้ง สั่งorderเองได้หมดทุกอย่างตามที่ใจอยากได้แน่นอน
ว่าแต่มันออกจะแปลกๆหน่อยไหม ที่เราป่วยจนขนาดต้อง admit แล้วจะยังมีเรี่ยวแรงเป็นหมอเจ้าของไข้ตนเอง ทางที่ดี ถ้าป่วยหนักขนาดนั้น หมอยอมเล่นบทบาทเป็นคนไข้บ้าง ให้คนอื่นorderเราบ้างก็น่าจะไม่เป็นไรหรอกนะ
น้องว่างัย แลกเปลี่ยนกันต่อได้นะ


Posted by : aries , Date : 2005-04-05 , Time : 22:00:06 , From IP : 172.29.7.148

ความคิดเห็นที่ : 2


   ในแง่กฏปฏิบัตินะครับ

ถ้าแพทย์นอน รพ. น่าจะแสดงว่าได้ลางาน ไม่ได้ทำงานตามปกติ และแปลต่อไปว่าได้ admit โดยมีแพทย์อีกท่านเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ถ้าเป็นเช่นนี้ผู้รับผิดชอบในการสั่ง order ไม่ใช่คนที่นอน รพ.เป็นผู้ป่วย ต้องเป็นแพทย์เจ้าของ หรือแพทย์ที่อยู่ในทีมรักษา เป็นผู้สั่งการรักษา

อาจจะ Blur ถ้านอนใน รพ.ที่เราทำงานอยู่ แต่อาจจะนึกภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ถ้าวาดภาพเรานอน รพ.ที่ต่างประเทศ เรามีสิทธิ (เหมือนผู้ป่วนยอื่นๆทั่วๆไป) ในการสอบถามการรักษา ยินยอม หรือปฏิเสธการรักษาตามสิทธิของ adult ได้ แต่สรุปออกมายังไง เราก็ไม่ได้เป็นคนสั่ง order อยู่ดีในฐานะผู้ป่วย

ต่างกันกับ OPD CASE นะ ผมว่า เพราะเรายังทำงานอยู่ ไม่ได้ admit


Posted by : Aquarius , Date : 2005-04-05 , Time : 23:14:32 , From IP : 172.29.7.25

ความคิดเห็นที่ : 3


   เวลาพ.admit แล้วสั่งorderให้ตัวเอง พยาบาลไม่รับ order จะผิดหรือไม่ เพราะขณะนี้เขาเป็นผู้ป่วย

Posted by : อยากรู้ , E-mail : (kkk) ,
Date : 2005-04-08 , Time : 22:47:47 , From IP : 172.29.7.146


ความคิดเห็นที่ : 4


   ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้ เราไม่ควรจะใช้กฏถูกผิดมาเป็นแนวคิดลำดับแรกครับ น่าจะต้องเอาบริบทมาคำนึงถึงมากๆก่อน รวมทั้งการพูดคุยกัน ทำความเข้าใจกัน ก่อนที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะกางกฏหมาย คว้าไม้เรียว

ประเด็นแรกๆที่น่าจะไต่ถามคือทำไมแพทย์ท่านนั้นจึงเห็นความจำเป็นต้องสั่ง order รักษาตนเองขณะเป็นผู้ป่วย ตรงนี้มีได้หลาบบริบทและหลายความหมาย เช่น คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ช่วยๆกันก็ได้ ยกตัวอย่างหมอลืมสั่งยาคลาดเครียดทั้งๆที่ตกลงกันตะกี้ก่อนเดินไปว่าจะสั่งให้แต่ลืม ปกติถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน ผมก็ไม่คิดว่าใครจะลุกขึ้นมาสั่ง order ตนเอง ใน รพ.แปลกหน้า โดยมีหมอที่ไม่รู้จักเป็นเจ้าของไข้ ผมว่าในกรณีนี้จะเกิดก้คือหมอ admitted อยู่ใน รพ.ที่ตนเองทำงานอยู่ และรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยกันหมอเจ้าของไข้อย่างมากๆ ผนวกกับเป็นคนไม่ค่อยคำนึงถึงกฏเกณฑ์ ระบบระเบียบอะไรนัก ก็เลยสั่งไป (หรือพยายามสั่ง)

มันจะเป็นคนละเรื่องกับการที่หมอท่านนี้สั่งยาเองเพราะเกิดความรู้สึกว่าตนเองถูกรักษา inadequate ซึ่งก็คงจะต้องเกิดใน รพ.ที่ตนเองทำงานอยู่อยู่ดี ผมไม่คิดว่าพยาบาลศิริราชจะยอมรับ order ของหมอจาก รพ.อื่นที่มาป่วยที่ศิริราชแน่นอน ถ้าเป็นเช่นนั้นการกระทำอย่างนี้ก็จะเป็นการข้าม shot อย่างแรงทีเดียว

แต่ทีนี้เวลาเราพูดว่า "พยาบาลไม่รับ order" นั้น ผมว่าเราจำเป็นต้องเลือกคำที่จะใช้เยอะพอสมควร อันดับแรกคือการเขียนหรือการสั่งการรักษาจาก ผป. เราจะเรียกมันว่า order (คำสั่งแพทย์) ได้หรือไม่ ผมว่าตรงนี้ค่อนข้างเคลียร์ว่า เราไม่น่าจะเรียกอะไรแบบนั้นว่า order และเมื่อพยาบาลไม่ทำตามข้อเรียกร้องอันนี้จาก ผป. ก็ไม่น่าจะเรียกว่า "ไม่รับ order" อันดับต่อไป severity ของ hoax อันนี้คือ? เช่น ความเป็นตายของผป. (ห้ามเข้าไปใน hot spot ขณะเกิดเรื่อง) ฉะนั้นก็ไม่ควรจะเขียนในรับรองในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ และตนเองก็ไม่ได้วัดเช็คอะไรทั้งนั้น


Posted by : Aquarius , Date : 2005-04-08 , Time : 23:47:39 , From IP : ppp-203.118.113.219.

ความคิดเห็นที่ : 5


   ปัญหามันไม่น่าจะมีนะ ถ้าทุกคน.................
1 รู้ว่าเรากำลังอยู่ในบทบาท (role) อะไร หมอ หรือ คนไข้ หรือ เป็นคนกันเอง
2 set relationshipให้ตรงกันว่า ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะอยู่ตรงเส้นแบ่งrelationship สุดโต่งไปทางไหน ด้าน professionalแบบห่างเหินกันไปเลย หรือแบบ socialเป็นเพื่อนกันไม่ต้องเกรงใจกันมาก หรือเจอกันตรงกลางดี ซึ่งก็น่าจะดีที่สุด
3 มีทักษะในการสื่อสารที่ดี เอาแบบที่เรียกว่าassertiveเลยทีเดียว คือสามารถบอกความต้องการของตนเองออกมาให้คนอื่นรู้ได้แบบตรงไปตรงมา ก็จะได้ไม่ต้องมานั่งอ้ำอึ้งกัน หรือทนไม่ได้ก็ต้องมาสั่งorderให้กับตนเอง คนอื่นก็สับสน
4 ให้เกียรติ และไว้วางใจคนอื่นที่ทำหน้าที่แบบเรา ถ้าเราไม่ใว้วางใจหมอคนอื่น มันก็น่าจะมีความหมายถึงว่า เราเองก็ไม่ใว้ใจตัวเราเองว่าเป็นหมอที่เก่งพอ พอเราต้องมาตกอยู่ในสภาพเป็นคนไข้ ก็เลยรู้สึกว่าหมอคนอื่นก็คงไม่เก่งเช่นเรา เราก็เลยกังวล ต้องคอย control orderหมอคนอื่นที่รักษาเรา เฮ้อเหนื่อยจังเลยนะ
ถ้าคิดออกอีกจะมาเพิ่มให้นะ


Posted by : aries , Date : 2005-04-09 , Time : 19:59:00 , From IP : 172.29.7.73

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<