ความคิดเห็นทั้งหมด : 49

สงสัยจาไม่ติดซะแล้ว ....แพทย์ม.อ.(อยากร้องไห้หว่ะ)


   สงสัยจะไม่ติดซะแล้วล่ะครับ

กับคะแนนเอนท์ที่ห่วยบรมได้ขนาดนี้


ผมเองคงจะทำได้ดีที่สุดเท่านี้

กับคะแนนเอนท์ที่ได้เเค่425.5 จีแพคห่วยๆแค่52

รวมๆได้แค่477.5 ไม่มีทางจะติด......แหง




คงมาได้ถึงแค่นี้

เพราะที่บ้านคงไม่มีทางให้ออกมาเอนท์ได้อีกรอบแน่



ขอบคุณสำหรับทุกคนทุกความเห็นที่ข้าพเจ้าเคยได้กล่าวถามและกรุณาตอบไว้




ความฝันที่จะได้เป็นแพทย์ชนบทอย่างที่เคยหวังไว้คงจะไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว

ขอขอบคุณอีกครั้ง สำหรับทุกๆคนที่ข้าพเจ้าเคยได้ลงประเด็นคำถามไว้และกรุณาตอบมา




จาก ผู้ที่อยากและหวังอย่างยิ่งที่จะได้เป็นแพทย์เพื่อชาวไทยในแดนไกลจริงๆ(สาบาน)



ปล.ผู้ชายร้องไห้ผิดไหมวะ........


ปล2...แดรกเหล้าแมร่งปางตายเรยดีก่า....

ปล3..แพทย์โครงการรับผู้จบปริญญาตรีเข้ายากไหมครับ...

ปล.4 กุร้องไห้อีกทีดีก่า......

ขออีกปล. ใครจะว่าโง่แด๊กเหล้าก้อไม่ว่า ลองมาเป็นดูสิ แล้วจะรู้

เหล้าไม่ใช่คำตอบ แต่อย่างน้อยๆ มานก้อช่วยให้ลืมคำถามได้(วะ)


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-01 , Time : 23:52:54 , From IP : gb.ja.29.252.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 1


   อย่าเพิ่งท้อ ลองเลือกไว้ก่อนดิ... อาจจะติดก็ได้

Posted by : Euphoria , Date : 2005-04-02 , Time : 00:07:25 , From IP : 172.29.4.200

ความคิดเห็นที่ : 2


   ขออีกที


อย่างที่ผมเคยได้พูดเอาไว้

ไม่ใช่ว่าผมทำตามกระแสสังคม อยากเป็นหมอ


แต่ผมอยากเป็นจริงๆ เพื่อคนอื่นๆ

ประเทศไทยยังมีอีกมากมายหลายแห่งที่ต้องการแพทย์ไปประจำ


ตามสถิติ แพทย์ต่อคนไข้ในกรุง ประมาณ5ต่อ1
แต่ แพทย์ต่อคนไข้ในชนบท จะมีอัตราประมาณ1ต่อ1หมู่บ้าน หรือมากกว่านั้น

1ต่อหมู่บ้าน เลยนะครับ

ถึงผมจะไม่มีโอกาศได้เป็นแพทย์แล้ว
ก้อหวังได้แต่เพียงว่า จะมีใครสักคนในพวกท่าน "แพทย์แห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์"อย่างน้อยเพียงสักคนหนึ่ง ได้คำนึงถึงจุดนี้
และอุทิศตนแก่ผู้ที่ยากไร้ตามชนบทห่างไกล

ผมคงทำได้แต่หวังเพียงเท่านี้

ขอความกรุณาจากนศพ.ทั้งหลายที่ได้เข้ามาอ่าน ณ กระทู้แห่งนี้
ที่ได้โพสจาก คนไทยคนหนึ่ง ที่ไม่มีโอกาสได้ทำตามที่ตนเองหวังไว้
ได้แต่เพียงหวังว่า จะมีใครสักคน ที่เห็นพ้อง และทำตามความคิดของกระผม

ขอฝากไว้

จากพสกนิกรผุ้หนึ่งจากหกสิบสองล้านคนที่อยู่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทของล้นเกล้า ที่รักและเทิดทูน และหวังจะได้ตอบแทนพระคุณของล้นเกล้าที่ปราถนาให้คนไทยทุกคนมีความสุข ...แม้สักเพียงนิดก้อตาม

อาจจะดูเพ้อเจ้อ แต่ก้อมาจากใจของพสกนิกรคนนี้


กระผมคงไม่มีโอกาสได้ช่วยเหลือพระองค์ในจุดนี้แล้ว

แต่จะสาบาน ว่า จะทำหน้าที่ของตนเอง ให้ได้ดีที่สุดต่อไป ไม่ว่าจะในตำแหน่ง หรือจากจุดใดก้อตามแต่

เพื่อเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินไทยที่พระองค์รัก


ขอฝากความหวังและความฝันของข้าพเจ้าไว้กับ แพทย์ และ นศพ.ทุกๆคนแห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์




ขอขอบพระคุณครับ










ปล.ขอขอบคุณจากความเห็นที่13 จากกระทู้ "ตัดผมดีไหม"ที่กล่าวให้กำลังใจ
และจากทุกๆท่านให้มอบความเห็นอันมีค่าแก่กระผม



Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-02 , Time : 00:08:03 , From IP : gb.ja.29.252.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 3


   เอ่อ อีกนิดนะครับ...


ไม่ได้อยากโอ้อวดอะไร

แต่แค่อยากจะบอกถึงความตั้งใจจริงเอาไว้



เคยได้ยินไหมครับ เด็กนักเรียนที่ทำงานล่วงเวลาในแผนกopd-er รพ ศิริราช

งานเริ่มสี่โมงถึงหนึ่งทุ่ม แต่กระผมมักจะทำเกินเวลาถึงสองทุ่ม หรือเท่าที่เกินได้เสมอ

และมาทำงานในวันที่ไม่มีฝึกด้วย


หากท่านไม่เชื่อ อาจจะหาว่าผมโม้ก้อได้

แต่ท่านลองไปถามพยาบาลที่แผนกนี้ หรือ เคยอยู่แผนกนี้เมื่อช่วงซัมเมอร์ มี.ค.-พ.ค. 45ได้
เวลา 16-19น.

ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่มีความจำเป็น หรือเหตุอันสมควรที่จะมาโพสต์ ข้อความอันไร้สาระนี้เสียด้วยซ้ำ



ผมโพสต์ เพียงเพื่อ อยากให้มีใครสักคน สานต่อความปราถนาของ คนโง่ๆคนนี้
แทนตัวเขาเอง


ขอบขอบพระคุณ และขอโทษมา ณ โอกาสนี้



ขอบคุณครับ


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-02 , Time : 00:15:33 , From IP : gb.ja.29.252.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 4


   ขอร้องไห้เถอะ ..

ผู้ชายร้องไห้คงไม่ได้น่าสมเพศมากเกินไปใช่ไหม......







































ชีวิตกรูจะไม่มีอะไรดีสักอย่างเรยใช่ไหมเนี่ย...สาดเอ้ยยยยยยยยยย




Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-02 , Time : 00:19:41 , From IP : gb.ja.29.252.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 5


   น้องคะ พี่ว่าน้องอย่าเพิ่งท้อสิ คะ
entrance ครั้งหน้าก้ยังมีโอกาส เราต้องให้โอกาสตัวเอง ไม่ได้สายเกินไปนะคะ พี่ยังอยากเห็นน้องเป็นเเพทย์ที่ดีในสังคมนะ เเละพี่จะรอค่ะ โอกาสไม่ได้มีใครหยิบยื่นให้ง่ายๆนะคะ เเต่น้องต้องสร้างมันเอง อย่าปิดกั้นนะคะ


Posted by : med คนหนึ่ง , Date : 2005-04-02 , Time : 00:23:20 , From IP : ppp-210.86.221.226.r

ความคิดเห็นที่ : 6


   เอนทรานซ์ครั้งหน้า ยังมีโอกาส ก้อจริงอยู่ครับ



แต่ด้วยสถานัชะที่บ้าน และ ปัญหาหลายๆอย่างที่มีอยู่

คงไม่มีคำว่า โอกาสหน้าแล้วแหละครับ



จนกว่าผมจะเรียนจบ ปริญญาตรี แล้วหางานทำส่งตัวเองเรียนแล้วแหละครับ





ไม่ได้อะไร แต่ แค้นใจในจีแพคตัวเองจริงๆ


เพราะความเลวของตัวเอง ทำให้จีแพคต่ำ

และความซวยหลายๆอย่าง จากหลายเหตุการณ์ที่คงไม่สามารถเล่าสู่กันได้ ณ ที่นี้


จีแพคห่วย ก้อซวยไป

เพราะเท่าที่ได้ศึกษามา คนที่สอบติดหมอแต่ละคน จีแพคไม่เคยมีต่ำกว่า70 ในอันดับสุดท้ายของแต่ละคณะแพทย์ ทุกที่


ส่วนเรื่องของคะแนนเอนท์ ไม่อยากจะพูด...

ผมมันทำตัวเองจริงๆ คงโทษใครไม่ได้



ขอขอบคุณทุกรีพลายที่เป็นกำลังใจให้

และหวังว่าจะได้เห็นทุกท่าน ได้เป็นผู้ช่วยเหลือสังคมต่อๆไปในอนาคต

ขอขอบคุณทุกท่าน...


(สาดดดดดดด...ฮือ)


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-02 , Time : 00:32:18 , From IP : gb.ja.29.252.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 7


   ขอฝากไว้อีกนิดหนึ่ง สำหรับกระทู้ คนป่วนอยากตรวจ แต่ไม่ได้ตรวจ



มันอาจจะเป็นความเห็นของผมเเต่เพียงผู้เดียวนะครับ แต่ก้ออยากให้ได้รับทราบกัน



แพทย์ คือ ผู้บริบาลผู้ป่วย....ให้มีความสุข ณ เวลานั้นๆ ในช่วงเวลาที่เหลือของชีวิต

ไม่ว่าในอนาคตอันใกล้ ผู้ป่วยอาจจะต้องเสียชีวิต หรือเสียคุณค่าในการดำรงชีวิตก้อตาม



นึกถึงกรณีของผู้ป่วยที่เป็นเนื้องอกในสมอง หรือ มะเร็งตับอ่อน หรือเด่นชัดที่สุด ในกรณี ของผู่ป่วยโรคเอดส์

การปัดความรับผิดชอบสู่ระบบสาธารณูปโภคของรัฐบาลที่ไม่ได้ความ ไม่ควรออกมาจากปากของ แพทย์ ในอุดมคติของผม


แพทย์ คือ ผู้ที่ตัดสินใจที่จะเสียสละ เวลาอันมีค่าของชีวิตตน เพื่อผู้ป่วย

แม้ว่าจะเป็นสาเหตุจากสิ่งเล็กน้อยเพียงใดก้อตาม


อาจจะหาว่า ผม ไม่ใช่แพทย์ ณ จุดนั้น ผมก้อไม่เข้าใจความรู้สึกหรอก

ถูกของท่านที่มีความเห็นดังนั้น ผม ไม่ใช่แพทย์ และไม่ได้อยู่ ณ จุดนั้น

แต่ คุณ เลือกที่จะเสียสละ เลือกที่จะมาทำหน้าที่ ณ จุดนี้ ณ จุดที่เรียกได้ว่า

เป็นผู้บริบาล เป็นแพทย์ ที่ผู้ป่วยฝากความหวังไว้

จึงไม่ควรที่จะทำให้ ความหวังอันนั้น ต้องเสียไป จากเหตุเพียงแค่ว่า คุณเหนื่อย และ ไม่มีเวลามากพอ

คนเจ็บ ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่คุณ "ผู้เป็นแพทย์"ทุกคนนะครับ

ไม่ว่าจะเพียงแค่ปวดขา-ขาชาเพียงเล็กน้อย

ลองคิดดู ว่าเค้าคนนั้นอาจจะเป็นโรคที่หนักกว่าทีคุณคิดก้อได้

อย่าง ภาวะหลอดเลือดอุดตัน หรือ อื่นๆก้อได้


โปรดอย่าละเลยกับสิ่งเล็กน้อยเพียงเพื่อความสบายของตัวเองนะครับ



ปณิธานของแพทย์ คงไม่ได้ลืมกันนะครับ


จะว่าผมเสือก ก้อได้ครับ

แต่ อยากจะเห็นผู้ที่ได้รับโอกาส ได้ทำตัวให้เหมาะสมกับโอกาสที่ได้รับ


เพราะมีอีกหลายคน ที่ไม่ได้มีโอกาสอย่างคุณ



อีกนิด สำหรับเรื่องของผู้ที่จะชดใช้ทุนเป็นเงิน แทนที่จะไปทำงาน


ที่มหาลัยของกระผม มีอยู่มากเหมือนกัน


ผมด่าได้ก้อด่า เตือนไม่ได้ ก้อได้แต่แนะ และเก็บไว้ในใจ


ทำตัวให้สมกับคำว่า แพทย์ นะครับ


หลายคนที่มีความตั้งใจจริง แต่พลาด ไม่ได้มีโอกาสอย่างคุณ มีอีกมากมาย


ขอบพระคุณครับ


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-02 , Time : 00:53:42 , From IP : gb.ja.29.252.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 8


   โห ถ้าจบมาแล้วเปนแบบที่ว่าจิงก็น่านับถือนะ แต่ทำไมไม่ตั้งใจตอนม.ปลายให้มากๆล่ะจ้ะ แล้วเสียใจไปกินเหล้าก็ไม่ดีหรอก จิงๆนะ ถ้าเอนท์ครั้งหน้าได้ก็ลองดูอีกทีสิ ไม่ลำบากหรอก

Posted by : .... , Date : 2005-04-02 , Time : 02:02:47 , From IP : dial-21.ras-1.pbi.c.

ความคิดเห็นที่ : 9


   ขอขอบคุณ ความเห็นที่8 ที่แนะนำและให้กำลังใจครับ


สมัยอยู่มอ.ปลาย ก้อยอมรับว่างี่เง่าจิงๆ


ทั้งเล่นมากไป

และทั้งที่กะจะเก็บวิชาที่ชอบ วิชาที่ถนัดอย่างเดียว

ผมเป็นเด็กพรีโอลิมปิก ชีววิทยาของโรงเรียน ก้อพอจะได้เรียนเสริมและทำเกรดในส่วนนี้บ้าง(ถึงจะไม่ติดรอบแรกก้อเหอะ)

แต่ขณะเดียวกัน ผมก้อ"ทิ้ง"ฟิสิกส์ไปเรย

จีแพคห่วยก้อเพราะฟิสิกส์นี่แหละครับ

ฟิสิกส์มอปลาย ไม่เคยเกิน1

ที่เหลือ 3 กะ สี่


อ่อ มีพระพุทธศาสนา2.....


อยากฝากไว้กับน้องๆ มอปลายทุกคน อย่าทิ้งวิชาใดวิชาหนึ่งนะ

พยายามเก็บๆเข้าไว้ ถึงจะไม่เริ่ด แต่มันก้อจะพยุงๆกัน

รบกวนพี่ๆและผู้ที่มีน้องๆที่เรียนมอปลายเตือนด้วยก้อดีนะครับ

ไม่อยากให้เกิดเหตุ"ตายน้ำตื้น"แบบนี้ กันน้องๆคนอื่นอีก


ส่วน เอนท์ครั้งหน้า อาจจะไม่มีแล้ว......สำหรับผม และอาจจะสำหรับน้องมอหกรุ่นหน้าด้วย ...ก้อถือว่าซวยไป สำหรับผู้บริหาร....ชุดนี้

(กระทั่งเอาลูกตัวเองที่ไม่จบอะไรเรย..มาเปงคณะกก.โอลิมปิก)

(คห.ส่วนตัวนะครับ สำหรับรัฐบาลทุกสมัย ที่ไม่เคยเห็นประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก สรรหาแต่ประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง
ขนาดเอามา"งอน"กันได้....ประเทศเป็นของพวกท่านๆซะแล้วละมัง)




ปล. เหล้าไม่ใช้คำตอบ....แต่มันก้อช่วยให้ลืมคำถามได้(ก้อยังดีวะ)


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-02 , Time : 02:24:02 , From IP : gb.ja.29.252.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 10


   ขออนุญาติจิ้กเอารีพลายนี้มาแปะ




ก้อชีวิตเป็นของคุณนี่

แล้วเจอกัน ว่าที่น้องMED"33

Posted by utherus() 2005-03-30 , 17:49:14 , 172.29.2.127


เชื่อไหมครับ แค่ตัวหนังสือไม่กี่คำนี้ สร้างความหวัง และความดีใจให้แก่ผู้รับแค่ไหน



มากมายเกินจะบรรยายเทียวละครับ


ผมเปิดรีพลายนี้หลังจากได้ยลคะแนนเอนท์ตัวเองแล้ว


แทบจะร้องไห้ออกมาเสียทันทีที่ได้อ่าน



ขอโทษ ที่ไม่สามารถทำให้คำพูดของคุณพี่คนนี้เป็นจริงขึ้นมาได้


ผมไม่อยากจะโทษปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก่อนที่และขณะสอบเอนท์สะท้าน...



โทษไปก้อไม่ได้อะไร มันก้อคือ หนีความจริง และไม่ยอมรับตัวเอง

ว่าที่สุดแล้ว มันก้อได้แค่นี้ ทำตัวเองแล้วจะไปโทษอะไรใครที่ไหนได้



ขอบพระคุณจริงๆ ที่พี่คนนี้ได้เขียนรีพลาย

กำลังใจ เป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตนะครับ


ขอฝากไว้กับผู้ที่ชอบตอบแบบ ตัดทอนจิตใจด้วยนะครับ

เอาใจเขา มาใส่ใจเราดูบ้าง แล้วจะรู้ว่า เวลาคนที่เค้าได้รับสื่อ จะรู้สึกอย่างไร

ขอขอพระคุณครับ








ปล. เซงชีวิตหว่ะ......




Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-02 , Time : 02:33:45 , From IP : gb.ja.29.252.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 11


   เอ่อ ใช่ๆ เกือบลืมสิ่งสำคัญไป



ขอขอบคุณ และขออภัย สำหรับการมาใช้บอร์ดแห่งนี้ โดยมิได้รับอนุญาติจากใครก่อน

ถึงแม้จะเป็นบอร์ดอิสระ ใครจะเข้ามาโพสต์ก้อได้


แต่ก้อถือว่า เป็นบอร์ดของ คณะแพทย์ มอ.


ขออภัย หากคำกล่าวใดๆ ที่กระผมได้เคยกล่าวไว้ ได้ไปล่วงเกินผู้ใดในที่นี้

ขอบพระคุณ สำหรับบอร์ดนี้ ที่ผมได้ใช้สื่อความคิด
และทุกๆรีพลาย อันมีค่า



ขอบพระคุณครับ


หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกๆรีพลาย จะมีประโยชน์ต่อพี่และเพื่อนคณะแพทยศาสตร์ มอ.

หากรีพลายใด โพสต์ไร้สาระ อันก่อความรำคาญ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ






สุดท้าย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้มีโอกาสมาใช้บอร์ดแห่งนี้ ในฐานะ นศพ.มอ.นะครับ(ถึงสุดท้ายจะได้แค่หวังน่ะนะ)


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-02 , Time : 02:39:49 , From IP : gb.ja.29.252.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 12


   ตงจะผิดหวังและเสียใจมาก

ได้แค่คะแนน
แต่ยังไม่ลองสมัครดูไม่ใช่เหรอ

ลองดูก่อน...อย่าเพิ่งสิ้นหวัง



อีกอย่าง

หนทางแห่งการเป็นแพทย์...ไม่ได้หมดแค่นี้หรอกครับ

ยกเว้นว่าตัวน้องจะยอมแพ้เองก่อนแล้ว
. . .




Posted by : ArLim , Date : 2005-04-02 , Time : 03:33:00 , From IP : ppp-210.86.142.220.r

ความคิดเห็นที่ : 13


   ถ้าน้องตั้งใจจริง เข้ามาอีกรอบก็ไม่สาย พี่เองก็ซิ่วเข้ามา หนแรกคะแนนน้อยกว่านี้อีก รอบหลังติดชัวร์ๆ คะแนนเพิ่มมา 50
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ในเมื่อตั้งใจทำงานล่วงเวลาตอนฝึกงานแล้ว ลองตั้งใจฟิตให้เต็มที่ดูดิ


Posted by : คาราบาวแดง , Date : 2005-04-02 , Time : 09:01:23 , From IP : p68-lirnrtmt1.S.cslo

ความคิดเห็นที่ : 14


   พี่ว่าไม่มีสิ่งไหนที่จะน่าเสียใจไปกว่า...มีโอกาสได้พยายามแต่เราไม่ได้ลองทำมัน...แบบนี้น่าจะเสียใจทีหลัง กรณีของน้องพี่รู้ว่าผิดหวังกับผลคะแนนที่ออกมา แต่ก็ไม่ได้เป็นคะแนนที่น่าเกลียดเลย ลองพยายามดูนะ พี่ๆที่นี่เป็นกำลังใจให้อยากได้น้องที่หวังดีกับคนอื่นจริงๆแบบน้องมาเป็นพี่น้องร่วมสถาบันเดียวกัน

Posted by : พี่อีกคน , Date : 2005-04-02 , Time : 12:10:19 , From IP : 172.29.4.210

ความคิดเห็นที่ : 15


   บอกตรงๆ นี่ก้อเอนท์ครั้งที่สี่แล้วล่ะครับ


ขอบคุณสำหรับทุกรีพลาย และความเห็น


ไม่รู้จะกล่าวอะไรได้ แต่จะพยายามทำหน้าที่ของตวเองให้ดีที่สุดละกันครับ


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-02 , Time : 14:18:16 , From IP : gb.ja.123.7.revip.as

ความคิดเห็นที่ : 16


   บางครั้งถึงแม้ว่าน้องจะไม่ได้ยืนดังจุดที่หวังแต่น้องก็มีอีกหลายหนทางให้น้องเลือกเดิน อย่างน้องต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังมีหลายอาชีพที่สามารถช่วยได้นะ อย่างน้อยก็พยาบาลงั๊ยผู้ชายก็เป็นได้นะ บทบาทการทำงานก็อยู่ในสายงานเดียวกันทำทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ให้คนไข้เหมือนกัน พี่เองยังยินดีรับน้องเข้าคณะพยาบาลศาสตร์ มอ.อยู่นะถ้ามาด้วยแรงกล้าจริง

Posted by : Digitalis , Date : 2005-04-02 , Time : 22:57:54 , From IP : 203.113.76.11

ความคิดเห็นที่ : 17


   คนที่ผมรู้จักเขาเอ็นท์ 6 ครั้งครับ จึงติดหมอ
. . .


Posted by : ArLim , Date : 2005-04-02 , Time : 23:55:28 , From IP : ppp-210.86.142.220.r

ความคิดเห็นที่ : 18


   ขอขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจ และคำแนะนำครับ


จริงๆ ให้ผมเอนท์ใหม่ปีหน้าก้อยังได้


ถ้ามันไม่ติดปัญหาที่มีอยู่ ในตอนนี้เสียก่อน

ไม่แน่นะครับ ผมอาจจะได้เข้าไปเปงน้องๆทุกท่านในปีการศึกษาหน้าก้อได้


แต่ อยากให้ติดในตอนนี้มากกว่า


ก้อได้แต่ภาวนาแหละครับ


ขอขอบคุณมาก สำหรับรีพลายด์ของคุณบุรุษพยาบาล

พยาบาลเป็นผู้ให้กำลังใจผมได้เสมอจริงๆ ตั้งแต่สมัยฝึกงานแล้ว


ตอนนี้ หากเป็นไปได้ อยากจะขอรบกวนลงรายละเอียดการรับตรงรอบสอง แพทย์ศาสตร์ มอ. ลงที่นี่ด้วย จะเป็นพระคุณมากครับ

ผมพยายามตามข่าวอยู่ตลอด ก้อดูเวปของpsuทุกวันละครับ
จิงๆทุก4ชมก้อว่า...

หากเป็นไปได้ ต้องขอรบกวนตามเรื่องรับตรงรอบสองให้ด้วยนะครับ

อยากได้ข้อมูลจากทุกๆทาง ให้ได้เร็วที่สุดก้อดีน่ะครับ


ขอขอบพระคุณทุกๆท่าน



ปล. ผมเข้ากระทุ้นี้ตลอดละครับ หลัง4โมงก้อทุกๆชั่วโมง ถ้าอยู่บ้านนะ



ขอบคุณอีกครั้ง




Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-03 , Time : 00:24:35 , From IP : gb.ja.123.7.revip.as

ความคิดเห็นที่ : 19


   จะระบายอารมณ์ อะไรก็ไม่ว่าหรอกนะ
แต่หัดใช้คำพูดที่สุภาพหน่อยได้ไหมครับ
อย่างน้อย คุณ ก็รู้นี่ว่านี่เป็นบอร์ดสาธารณะ
เด๋วสาดเอ้ย เด๋วกรู เด๋วไรต่อมิอะไรมากมาย
ผมแนะนำว่า เอาเวลาที่เข้ามาโพสนี่หรือเอาเวลาที่ดื่มเหล้าไปอ่านหนังสือดีกว่าไหมครับ
อย่างน้อยปีหน้า โอกาสได้เรียนหมอคงมากขึ้น
ไม่งั้น....
ปีหน้าคุณอาจต้องเข้ามาร้องไห้ฟูมฟายในกระดานข่าวนี้อีกครั้ง


Posted by : ยาขมมีประโยชน์ครับ , Date : 2005-04-03 , Time : 01:28:31 , From IP : 172.29.4.191

ความคิดเห็นที่ : 20


   จะเป็นหมอน่ะมันไม่ง่ายหรอกนะน้องงงง.....หมอมีหลายแบบ หมอพานิชย์ ....หรือหมอที่เห็นประโยชน์ของคนอื่นเป็นที่ตั้ง ....ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอย่างแรกจึงทำให้อยากมาเรียนหมอ
เพราะการทำงานกับการเรียนไม่เหมือนกัน ...ถ้าคิดอยากสบาย ..ขอร้องอย่ามาเรียนหมอ....ถ้าอยากสบายจริง ไปเรียนอย่างอื่นเถอะ


Posted by : . , Date : 2005-04-03 , Time : 08:32:14 , From IP : 61.19.24.122

ความคิดเห็นที่ : 21


   น้องครับ เลือกเลยๆ ไม่แน่หรอกถ้าคิดถึงว่าสถานการณ์ภาคใต้อาจส่งผลต่อการเลือกคณะของเด็กจากส่วนกลางและภาคอื่นๆอยู่มาก พี่ว่าคะแนนอาจตอกลงจากเดิม ถ้าไม่ติดพี่แนะนำให้น้องเตรียมตัวอ่านหนังสือเสียแต่ตอนนี้เลยครับ ปีหน้าแนวโน้มที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานรินทร์ จะสมัครโดยการจัดสอบเองสูง(ปีหน้าเป็นระบบ admission) เตรียมตัวลงมาสอบเลยครับ อ้อ อย่าลืมอ่านฟิสิกส์มากๆด้วยล่ะ พี่ว่าฟิสิกส์เป็นวิชาที่ข้อสอบทำได้ไม่ยากครับ

Posted by : Botsumu , Date : 2005-04-03 , Time : 11:40:02 , From IP : 203.209.126.140

ความคิดเห็นที่ : 22


   ขอบคุณสำหรับ3รีพลายใหม่ครับ

อาจมีหลุดๆมาบ้าง ก้ออย่าถือสานะครับ

ผมเองก้อได้กล่าวขออภัยหากหลุดคำบางคำออกมาแล้ว

หลายรอบอยู่


เวลาเขียนกระทู้มันก้อคล้ายๆกับชีวิตจริงแหละครับ

ไม่มีใครสามารถกลับไปแก้อดีตได้

แต่มันจะเป็นบทเรียน เป็นครูของเรา

และอดีตของคนอื่น ก้อเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำไปใช้ชีวิตนะครับ

ถูกไหม....


สำหรับรีพลาย20


ผททิเคยกล่าวว่าต้องการทำงานสบายๆ

เป็นหมอน่ะ ไม่ง่าย ถูกแล้วครับ

บางที ผมอาจจะติดอยู่กับความคิดของผมเองมากเกินไป

แต่ผทก้อพูดแล้ว ถ้าคิดจะเรียน จะทำงานเป็นแพทย์

ก้อเตรียมตัวเสียสละเวลา-ความสบายส่วนตัวได้

ผมมั่นใจ ว่าไม่ใช่พวกแรกอย่างที่คุณตั้งความเห็นไว้แน่ๆครับ

หวังว่าคุณเอง คงจะอยู่ในกลุ่มเดียวกับผมนะครับ
(ไม่ได้จะเหน็บนะ)
ก้อต้องขอขอบคุณ สำหรับคำแนะนำครับ


สำหรับรีพลาย21

ขอบพระคุณมากสำหรับคำแนะนำและกำลังใจครับ

คราวนี้ ทำฟิสิกส์ได้57.5 ขึ้นมาสิบเจ็ด.ห้าคะแนน

เพราะความตึงเครียดด้วย และเตรียมตัวไม่เต็มที่

คนรู้จักผมหลายคนแนะนำให้ไปเรียนศิลป์ซะเหอะ

ผลงานต่างๆก้อมี คะแนนนก้อได้ ดันทุรังมาเรียนวิทย์ทำไม

ก้อใจมันรักนิครับ

งานสบายแต่ใจไม่รัก ก้อได้แต่นั่งโต๊ะไปวันๆแหละครับ

ถูกไหม


ขอบพระคุณที่ให้ความสนใจ
และมอบคำแนะนำดีๆแก่กระทู้นี้ครับ


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-03 , Time : 12:24:40 , From IP : gb.jb.98.119.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 23


   อย่าเพิ่งท้อสิจ๊ะ ลองเลือกไปก่อน อาจจะติดก้อได้ เพราะพี่ว่าคงไม่มีใครกล้าลงมาเลือกทางใต้มากหรอก

Posted by : พี่คนหนึ่ง , E-mail : (...) ,
Date : 2005-04-03 , Time : 13:53:37 , From IP : 203.113.76.10


ความคิดเห็นที่ : 24


   เลือกมาก่อนเหอะ เราก็คะแนนน้อยนะ คิดว่าไม่ติดแล้วแต่ยังเลือกมา อาจจะโชคดีที่ติด บางทีการที่นายตั้งใจจะเป็น ...คนที่อยากช่วยคนอื่นอย่างจริงใจ... อย่างที่นายเป็นอยู่ตอนนี้จะส่งให้นายติดมานะ เป็นคนสุดท้ายก็ยังดีไม่ใช่เหรอครับ เราไม่อยากให้นายต้องคิดว่า ทำไมเราไม่เลือกนะ หลังจากที่นายรู้ผลในอนาคต คราวที่แล้วคะแนนเราต่ำกว่าคะแนนต่ำสุดปีก่อนอยู่กว่า20คะแนน ยังผ่านมาได้ นายน่าจะลองนะ ไม่ต้องคิดว่าเราจะได้ไหม อยู่ที่เราทำมันถึงที่สุดหรือยังถ้าเราทำดีที่สุดแล้วเราจะไม่เสียใจเพราะโทษตัวเองว่าทำไมเราไม่ทำให้ดี ยังไงมันก้อดีที่สุดแล้วนะ คราวก่อนเราก็คิดว่าตัวเองไม่มีโอกาสแล้วนะแต่ยังผ่านมา นายน่าจะเป็นอีกคนที่ผ่านมา เราคิดงั้นนะ

นี่ ๆ คราวก่อนเรามาขอพรพระบิดาด้วยหละ บอกว่าถ้าเราติดจะบริจาคเลือดอ่ะ ตอนนี้ก็ได้บริจาคจริง ๆ แล้วนะ ลองดูสิ เอาใจช่วยสำหรับคนอยากเป็น med 33 อย่างนายนะ


Posted by : พี่อีกคน , Date : 2005-04-03 , Time : 16:59:57 , From IP : 172.29.2.147

ความคิดเห็นที่ : 25


   น้องเพี้ยนไปแล้ว รึเปล่ามาบ่นบ้าอะไร ไม่เกิดประโยชน์ อย่ามาแสดงความอ่อนแอ แบบไร้สาระ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนว่ามีปัญหาทาง จิตเวช

Posted by : แง่งๆ , Date : 2005-04-03 , Time : 18:17:48 , From IP : 172.29.7.179

ความคิดเห็นที่ : 26


   เห็นด้วยกะความคิดของคุณ แง่งๆ มากเลย....เอาแต่ท้อ เข้มแข็งหน่อยสิ

Posted by : pp , Date : 2005-04-03 , Time : 18:39:16 , From IP : 203.113.76.7

ความคิดเห็นที่ : 27


   ทำในสิ่งที่ตนเองรักและปรารถนาเถอะครับ หากทนอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบมันก็ทรมานเปล่าๆ พี่ก็เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะเข้ามาเรียนที่นี่ เข้ามาเป็นหมอ แล้วพี่ก็ตั้งใจจนเข้ามาได้ เก็บทุกวิชาทั้งที่ชอบและไม่ชอบ ทนเรียนวิชาคณิตม.ปลายทั้งที่ไม่ชอบ
แต่น้องรู้ไหม เมื่อพี่ได้เข้ามาเรียนหมอแล้ว มันทำให้พี่รู้สึกว่า พี่เป็นคนที่มีความสุขและรู้สึกมีค่าเพียงใดที่ได้เรียนหมอ ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักและมีความสุขไปกับมัน
จริงๆนะ
เข้มแข็งหน่อยสิ


Posted by : Med PSU , Date : 2005-04-03 , Time : 21:20:07 , From IP : 203.113.71.133

ความคิดเห็นที่ : 28


   เอ้ามีระเบิดสนามบินหาดใหญ่แล้ว คราวนี้คนเลือกน้อยลงอีกแน่ (ข้อความข้างหลังนี่ล้อเล่นนะครับ) อ๊ะๆ แผนการของน้องรึปล่าว 5555

Posted by : Botsumu , Date : 2005-04-03 , Time : 21:47:35 , From IP : 202.57.163.238.rev-i

ความคิดเห็นที่ : 29


   เอ่อ ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ


ส่วนคุณแง่งๆ ไม่ถูกใจ ก้ออย่ามาอ่านสิครับ

ไม่เห็นยากหนิ กดปิดไปก้อสิ้นเรื่อง


ก้อไม่ได้อะไรหรอกครับ


เคยได้ยินไหม การรับฟังความเห็น คือการสร้างปัญญา
ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา เคยได้ยินไหมครับ


ส่วนไร้สาระ ผมว่า สิ่งที่ผมเขียน กับสิ่งที่คุณเขียน


คงต้องให้ผู้อ่านท่านอื่นตัดสินหล่ะครับ ว่า"ของใคร"

ผมคิดว่า ผมพูดอย่าง ผู้ที่เป็นปัญญาชนละนะ


ถ้า ไป"แทงใจดำ"ก้อต้องขออภัยด้วย

ผมยังเป็นคนนอกบอร์ดอยู่ คงไปเถียงไรมากไม่ได้
เด๋วจะเป็นการไม่เคารพสถานที่กัน

เด็กที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ มันน่าคุยกว่าผู้ใหญ่ความคิดเด็กๆนะ

เนอะ.....

แต่ผมก้อคงบ่นพล่ามมากไปจริงๆ ขอโทษด้วยละกัน







Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-03 , Time : 21:52:56 , From IP : gb.ja.85.249.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 30


   ซะอย่างนั้น


ระเบิดสนามบินเรยหรือนี่



ไม่รู้ว่าพวกนี้คิดอะไรอยู่จิงๆ


แยกตนเป็นอิสระแล้วมีปัญญาปกครองก้อใช่ว่า



ใครจ้างมาป่าวหว่า


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-03 , Time : 23:13:51 , From IP : gb.ja.85.249.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 31


   สู้เค้านะ น้อง เอาใจช่วย คนมีอุดมการณ์

Posted by : พี่ มอ , Date : 2005-04-03 , Time : 23:23:56 , From IP : 203.113.71.201

ความคิดเห็นที่ : 32


   เข้าความรู้สึกนะ แต่ถ้าต้องการฟังแค่คนมาปลอบใจแล้วไม่ฟังความคิดที่แปลกแยกออกไป แล้วมันจะเกิดปัญญาขึ้นได้อย่างที่คุณพูดหรือ

แล้ว คำพูดปัญญาชน!?! อา.. ช่ายแล้ว คนอ่านเค้าจะตัดสินใจได้เองว่าของใครที่ไร้สาระ...

ฝากไว้อีกอย่าง ล้มแล้วต้องลุก ชีวิตไม่เคยสิ้นหวัง อย่ามัวแต่มานั่งท้อ โทษตัวเองไปก้อไม่มีอะไรดีขึ้นมา


Posted by : o-o , Date : 2005-04-03 , Time : 23:25:26 , From IP : 203.113.76.74

ความคิดเห็นที่ : 33


   ขอบพระคุณครับ

รับฟังหมดแหละครับ

แต่การแนะกลับก้อเป็นสิ่งจำเป็นนะครับ

สร้างปัญญา ต้องแบ่งปันกันครับ




อ่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์วางระเบิดด้วยนะครับ



ใครพอทราบอะไร หากเป็นไปได้ คงต้องขอรบกวนมาแจ้งข่าวด้วยนะครับ


Posted by : แง่มๆ , Date : 2005-04-03 , Time : 23:32:25 , From IP : gb.ja.85.249.revip.a

ความคิดเห็นที่ : 34


   เคยเจอมานะ พยายาม ent เข้าหมอ8ครั้ง ตอนที่ได้ก็มีงานทำอยู่ แต่ว่าอายุก็ปาเข้าไปเกือบ40ปีแล้ว แบบว่าอดทนยอดเยี่ยมมากเลย ในการตามล่าความฝันสูงสุดที่ตนเองมีอย่างไม่ลดละเลยทีเดียว
ว่าแต่ผลงานของความมุ่งมั่นและอดทน บางครั้งอาจต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้ชื่นใจ ก็แบบกรณีที่กล่าวมานั่นแหละ น้องไหวไหมหล่ะ


Posted by : pisces , Date : 2005-04-04 , Time : 07:09:14 , From IP : 172.29.7.110

ความคิดเห็นที่ : 35


   ทททท

Posted by : ทท , Date : 2005-04-04 , Time : 15:52:30 , From IP : 172.29.2.93

ความคิดเห็นที่ : 36


   พี่ว่า ลองเลือกดูนะ อาจจะติดก้อได้ สู้ๆๆๆ

Posted by : พี่ , Date : 2005-04-04 , Time : 21:55:26 , From IP : 203.107.198.237

ความคิดเห็นที่ : 37


   เราเองก้อยากเป็นหมอ อยากทำตามฝันของตัวเองเหมือนกัน
แต่คะแนนเรามันน้อยมากเลย แต่ยังโชคดีที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำมา
เราเลยจะลองเลือกดู เลือกเป็นอันดับหนึ่งเลยอะ
เราอยากเป็นหมอโรคหัวใจอะ แต่ก้ออยากเป็นหมอเด็กด้วย...ไม่รุมานเข้ากันได้ไง
มันเป็นความฝันของเราอะนะ แล้วเราก้ออยากไปพอสว. ด้วยทุกครั้งที่ดูข่าวแล้วกลับมานึกถึงมันยิ่งทำให้เราอยากเป็นหมอ
เราเองก้อไม่รุว่าเราจะทำได้มั้ย แต่เราก้อเชื่อว่าสิ่งที่เราทำทั้งหมด เราทำอย่างเต็มความสามารถแล้ว


อืมๆ รบกวนถามคะ... ปีหน้าพวกหนูมีสิทธิ์ซิ่วด้วยเหรอคะ รร.หนูเค้ายกเว้นม.6 ไม่ต้องสอบNT แล้วหนูจาซิ่วยังไงอะคะ


ก้อหวังเพียงแค่อยากจะเป็น ลูกพระราชบิดา



Posted by : อยากเปงหมอ , Date : 2005-04-04 , Time : 23:55:06 , From IP : 203.188.5.186

ความคิดเห็นที่ : 38


   การ "อยากเป็น" อะไรนั้นจะมีผลต่อ "พฤติกรรม" ของเรามากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าเรา "เข้าใจ" ในสิ่งที่เราอยากเป้น อยากทำนั้นอย่างไรครับ ถ้าเราไม่เข้าใจ "บริบท" ในการที่เราจะนำมาใช้ควบคุมพฤติกรรมของเราจะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หรือความต้องการตามความเป็นจริง

เช่น อยากเป็นหมออายุรกรรม แต่จริงๆเราถนัดศิลป อยากเป็นวิสัญญีแพทย์แต่เราถนัดเตะฟุตบอล อยากเป็นแพทย์แต่เป้าหมายสูงสุดคือรวย มันจะส่งผลให้ "การเตรียมตัว" มันไม่ตรงกับภาพตรงปลาย

หรือการนำเอาข้อมูลที่เกียวข้องมาใช้ได้ เช่น เกณฑ์คะแนนขั้นต่ำ หรือเกณฑ์การคัดเลือกเข้ามาเรียนวิชาและสถาบันที่เรา "อยาก" เรียน อยากเข้า มันจะบ่งชี้เองว่าเรา "จริงจัง" แค่ไหนในความอยากนั้นๆ เรื่องที่ว่าเรา "อยากจะ" ทำอะไรตลอดทั้งชีวิตที่เหลืออยู่นี่ ผมว่าคนที่ mature แล้ว น่าจะทราบดีว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวให้ดีมานานพอสมควร นานพอสมควรในที่นี้คือหลายๆปีก่อนที่จะถึงจุดที่เจาจะเข้าร่วมโอกาสที่จะไปทำ ไปเรียน คงไม่มีใครจะตัดสินใจเรื่องสำคัญๆอย่างนี้โดยความคิดชั่ววูบ ตอนไปเที่ยวกับเพื่อน หรือเรียนตามแฟน เรียนไปแกนๆเเพราะไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดี หรือเรียนไปโดยไม่มี clue แม้แต่นิดเดียวว่าไอ้ที่เราประกาศว่าอยากเรียน อยากทำนั้นมันมีองค์ประกอบ ความหมาย หรือต้องทำอะไรบ้าง ข้อสำคัญคือถามตนเองว่าเรามี "ภาพที่เป็นรูปธรรม" ของอาชีพนั้นๆชัดเจนแล้วหรือยัง หรือว่าทราบแต่ "ภาพนามธรรม" ของอาชีพนั้นๆเพียงอย่างเดียว?

Here and Now จะทำได้จริงๆนั้น บริบท thought และ อารมณ์ มันต้องจดจ่อกับสิ่งที่สัมผัสได้ ทำอยู่ ณ ขณะนั้นๆ สมาธิจึงบังเกิด เมื่อสมาธิบังเกิดฉันทาก็มา ความเพียรพยายามก็ไม่ยากเย็น การไตร่ตรอง การวิเคราะห์โดยปัญญามันก็จะพรั่งพร้อม สุดท้ายกิจจะสำเร็จ หรือถูกกระทำอย่างดีที่สุดเต็มความสามารถที่แท้จริง ถึงจุดนั้นสำเร็จ ไม่สำเร็จ นอกเหนือจากกำหนด ควบคุมโดยเราก็ไม่สำคัญเท่าไหร่ เพราะเราได้พยายามทำเต็มความสามารถแล้ว ไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องโอดครวญ แต่มีสมาธิที่จะไตร่ตรองวิเคราะห์ และสามารถเสพผลแห่งการกระทำได้โดยจิตที่นิ่ง



Posted by : Phoenix , Date : 2005-04-05 , Time : 01:21:59 , From IP : 203.156.38.250

ความคิดเห็นที่ : 39


   เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ ยังไงก็ลองเลือกดูเถอะ อย่างน้อยก็ไ%B

Posted by : นศพต่างคณะ(แฮะๆ แอบเข้ามาอ่านน , Date : 2005-04-05 , Time : 21:01:16 , From IP : dns2.mahidol.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 40


   เห็นด้วยกับอาจารย์นกไฟค่ะ เป็นไปได้ไหมว่าน้องคนนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของเด็กไทยที่มีความตั้งใจที่ดี มีความฝัน แต่ขาดการชี้แนะจากผู้ใหญ่ ผู้รู้ ว่าต้องทำอย่างไรในการเตรียมตัว ในการแก้ปัญหา และการ cope กับปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนผู้ใกล้ชิด ส่วนผู้มีความรับผิดชอบโดยตรง และสังคม

การแนะแนว การสอนจากประสบการณ์ชีวิตโดยตรง เรียนจากการเห็น การทดลองจริงและเป็นแบบอย่างยังเกิดขึ้นในสังคมของเราน้อย ความรู้ที่ได้จากห้องเรียนก็เป็นเชิงทฤษฎีนำไปปฏิบัติในชีวิตได้ยาก เช่นเราเรียนว่ากินเหล้าไม่ดีต่อสุขภาพ (และอาจมีผลร้ายต่อทั้งตนเองและด้านอื่นๆได้ เพราะการดื่มสุราทำให้ขาดสติ) แต่เด็กไม่มีประสบการณ์หรือขาดคำแนะนำที่ดีว่าเขาจะต้องจัดการอย่างไรกับปัญหา

ถึงเวลาที่เราต้องทำอะไรบางอย่างกับระบบการศึกษาของเมืองไทยแล้วค่ะ เราจะเริ่มต้นกันอย่างไรดี


Posted by : RS , Date : 2005-04-06 , Time : 12:14:22 , From IP : wbar13.lax14.32.239.

ความคิดเห็นที่ : 41


   เห็นด้วยกับพี่ RS (ข้างบน) นี้ค่ะ เพราะหนูเป็นเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในสภาพอย่างพี่ว่า หนูเรียนที่ร.ร.ประจำอำเำภอในจ.อุบลราชธานี ถือว่าบ้านนอก แต่ก็โรงเรียนค่อนข้างมีคุณภาพค่ะ หนูเรียนดีมาตลอดสอบติดค่าย โอลิมปิกค่าย 1 และ2ได้ ทั้งตอนม.4 และ ม.5 สอบแข่งขันระดับจังหวัดได้ในหลาย ๆ งาน เป็นตัวแทนโรงเรียนตลอด ซึ่งการที่หนูได้ไปนู่น ไปนี่ นี่แหละค่ะทำให้หนูได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง และมีโลกกว้างกว่าเพื่อนคนอื่นที่ไม่ได้ไป ที่ ร.ร. ไม่ค่อยมีใครแนะนำเหมือนเด็กในเมืองหรอกค่ะ เพื่อน ๆ ก็ไม่มีการแนะนำข้อมูลให้ทันโลกเค้ากันเลย หนูจึงต้องขวนขวายหาข่าวและเรื่องราว รวมทั้งประสบการณ์ต่าง ๆ เอาเอง พอจะสอบเอ็นหนูก็เตรียมตัวมาตลอดนะคะ แต่ไม่เข้มข้นและไม่รู้เลยว่าจะอ่านหนังสือแนวไหน ไม่รู้เลยว่าต้องทำข้อสอบย้อนหลังหลาย ๆ ๆ ๆสิบ พ.ศ. (เพราะหนูทำ 5 พ.ศ.ก็คิดว่าพอแล้ว)ฃ
ไม่รู้อะไรต่อมิอะไรหลาย ๆ อย่าง
สรุปคือ งมโข่งด้วยตัวเองค่ะ

แต่พอผลคะแนนออก ........โอ้..อออ... ไมุ่ถึง 300คะแนนเลยค่ะ !!!!!!!....
แต่gpa เกือบเต็บเลยค่ะ หนูหมดกำลังใจสุด ๆๆๆๆ เหมือน ๆ กับ เรียนดีแต่ไม่ได้ดีประมานนั้นค่ะ ครูในร.ร.ผิดหวังกับหนู หนูก็งง สุดจะบรรยาย
พอถามเพื่อนค่ายโอลิมปิกที่เรียนอยู่ร.ร.ในตัวตัวจังหวัดที่หนูเคยติวให้ กลับติดแพทย์เฉยเลยค่ะ ที่กลุ่มเดียวกันก็คะแนนสูง ๆ ทั้งนั้น
หนูช้ำใจสุด ๆ แต่ก็ได้แต่ตั้งสติ

สุดท้ายหนูเลือกคณะที่คะแนนพอจะเข้าเรียนไนมหาลัยได้ โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าชอบรึเปล่า
หนูเรียน 1ปีเต็ม ๆ

พอเดือนตุลาหนูก็ Ent ใหม่ หาข้อมูลใหม่ พยายามจะตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมเพื่อนถึงได้คะแนนสูง ๆ ทั้ง ๆ ที่เราก็หัวดีพอ ๆ กัน ....

Ent เดือนมีนา คะแนนก์ออกมาน้อยเหมือนเดิมค่ะ ทั้งเรียนที่มหาลัยก็เหนื่อยมากแล้วยังมาอ่านหนังสือสอบ Ent ด้วยแถมเครียดที่ตัวเองยังไม่ทำอะไรสักอย่างซะที .....
แต่.สิ่งสำคัญที่หนูได้จากการเรียนในมหาวิทยาลัยคือ หนูได้คำแนะนำจากเพื่อนต่างคณะเพื่อนแพทย์ เพื่อนทันตะ (ที่หนูพยายามตีสนิทด้วย ...แต่หนูก็จริงใจกับเพื่อนนะคะ) เพื่อนแนะนำการอ่านหนังสือ แนะนำหลาย ๆ อย่าง ที่ทำให้เด็กบ้านนอกมีโลกที่กว้างขึ้นได้
พอขึ้นปี 2 หนู ดรอปไว้ทั้งปีเลยค่ะ และมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองมาก ปรึกษาเพื่อนๆ พี่ๆ
แล้วEntใหม่เป็นรอบที่ 5กะ6 และตอนนี้หนูก็ตอบคำถามได้แล้วค่ะว่าคะแนนหนูก็ได้เท่า ๆกับเด็กในเมืองได้เหมือนกัน
....พยายามและตั้งใจเฉย ๆ มันไม่พอมันต้องมีคำแนะนำที่ดี ผู้ชี้แนะแนวทางที่ดี ตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จได้ด้วยและหนูคิดว่ามันสำคัญมากสำหรับเด็กบ้านนอกอย่างหนูที่กว่าจะมารอลุ้นเป็น นสพ.ในปีนี้ได้
หนูฝากให้ผู้ใหญ่อย่างพี่ RS ช่วยทำอะไรสักอย่างด้วยนะคะ เด็กบ้านนอกคนอื่นที่เป็นเหมือนหนูมีอีกเยอะ ฝากด้วยนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นจริงของเด็กไทยค่ะ


Posted by : เด็กซิ่ว , E-mail : (-) ,
Date : 2005-04-07 , Time : 15:40:25 , From IP : 202.28.38.253


ความคิดเห็นที่ : 42


   ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นใช่ไหมคะ ขอแสดงความยินดีกับน้องด้วยค่ะ ที่ในที่สุดก็จะได้เข้ามาเรียนเป็น นศพ. แล้ว (พี่เข้าใจถูกใช่ไหมคะ พอดีพี่ไม่ทราบว่าปัจจุบันมีการคัดเลือกกันอย่างไร)

เริ่มจากสิ่งใกล้ตัวก่อนดีไหมคะ พี่ให้ความสำคัญกับสี่สิ่งแรกคือ พ่อ-แม่-ครู-ตัวผู้เรียน พ่อ-แม่ต้องไม่ปล่อยให้หน้าที่การศึกษาเป็นเรื่องของครู-นักเรียน พ่อ-แม่สามารถเป็นแบบอย่างเรื่องการจัดเวลาการเรียนรู้ การอ่านหนังสือ การทำการบ้าน การพาไปห้องสมุด กระตุ้นให้เด็กรู้จักคิด สังเกตุ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ต้องเริ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเริ่มได้ บางครอบครัวอาจเริ่มได้ตั้งแต่เด็กก่อนเข้าวัยเรียน ถ้าเด็กพร้อม และต้องทำให้ต่อเนื่องจนเด็กโต

ครู- อย่างน้อยครูต้องมีความสามารถและเทคนิคที่ดีในการสอน มีทัศนะคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีจิตวิทยาที่ดี พี่ไม่เน้นว่าครูจะต้องมีความรู้ท่วมหัว หรือตอบคำถามเด็กได้ทุกอย่าง ครูอนุบาลเป็นครูที่มีความหมายมาก (สำหรับพี่) เพราะจะเป็นจุดแรกที่เจอกับเด็ก และปลูกฝังทุกอย่างลงในเด็ก เท่าที่พี่ทราบครูไทยยังขาดจิตวิทยา และเทคนิคการสอนที่ดี ยิ่งประเทศเรามีสื่อการเรียนการสอนที่ยังไม่ทั่วถึง ครูจึงมีความสำคัญมากๆ

ตัวผู้เรียน- เป็นผู้นำเอาคำสอน คำแนะนำทุกอย่างไปสู่การปฏิบัติ ต้องมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ (เรียนเพื่อรู้เป็นหลัก ไม่ใช่เรียนเพื่อการแข่งขัน หรือเพื่อคะแนน แต่พี่ก็เข้าใจนะคะ ว่าถ้าระบบการคัดเลื่อกใช้คะแนนเป็นเกณฑ์ เราก็ต้องให้ความสำคัญมากเหมือนกัน)

สิ่งไกลตัวออกไปคือ ระบบการศึกษาของประเทศ หัองสมุดสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ ระบบการสอบ และการคัดเลือกเด็ก ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เราแต่ละคนคงจะทำอะไรได้ยาก ได้แต่หวังว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการศึกษา เปิดหูเปิดตาพัฒนาอย่างจริงจัง แล้วก็มีปัญญาชนเป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนในการผลักดันสิ่งดังกล่าวให้เกิดขึ้นค่ะ


Posted by : RS , Date : 2005-04-09 , Time : 02:29:57 , From IP : wbar13.lax14.32.239.

ความคิดเห็นที่ : 43


   วันก่อนผมคุยกับอาจารย์ท่านนึงเรื่องอะไรไม่แน่ใจ (เราทั้งคู่เป็น abstract ต่างกันตรงผมเป็น abstract sequential แต่แกเป็น abstract random ซึ่งลงเอยที่ว่าการสนทนาแต่ละครั้งจะสามารถสรุปหรือลงเอยตรงกับตอนที่เริ่มได้) แต่บทลงท้ายน่าสนใจคือ "อะไรเป็นวัตถุประสงค์ปลายของทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ?"

เป็นคำถามประเภทเดียวกันกับ title หนังสือของ Stephen Hawking เรื่อง "Theory of Everything" นั่นแหละครับ แต่เราออกมาในทำนองดังนี้

วัตถุประสงค์หลักของการทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะโดยหลักส่วนตัว ส่วนรวม หรือแม้แต่หลักศาสนา (ใดก็ตาม) เราทำเพื่อ CONTROL หรือเพื่อได้มาซึ่ง sense of control หรือ sense of controllable ทั้งสิ้น

สิ่งที่เราไม่ชอบทั้งหมดก็เกิดจากการสูญเสีย sense of control นี่แหละครับ ความไม่แน่ใจ ความกลัว ความเขลา ความไม่รู้ ความไม่แน่นอน ความไม่มั่นใจ ความเสียใจ ความโกรธ ความ ฯลฯ ทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงล้วนแต่เกิดจากการสูญเสียความสามารถในการควบคุม และการสลายทุกข์เหล่านี้ก็คือ ความสามารถในการควบคุม

พิจารณาดูลึกๆแม้แต่การสำเร็จฌานสมาบัติ หรือตรัสรู้ นั่นก็เป้นการหลุดพ้นจากแรงผลักนอกเหนือจากการควบคุมของเรา เรา "หยุด" สิ่งที่เป็น unpleasant เป็น causes of suffering ได้

กลับมาที่ประเด็นของกระทู้ เราต้องเรียนเพื่อสามารถ "control" ได้ครับ จึงเกิดความสุข ถ้าเรียนแล้วยิ่งสูญเสียความสามารถในการควบคุม จะยิ่งทุกข์ เรียนแล้วตกเป็นทาสของ concept ของ theory ของ agenda, dogma ยิ่งทุกข์ เพราะเหมือนหนอกสำรอกใยพันตัวเอง แน่นเข้าๆเรื่อยๆที่สุดก็หายใจไม่ออกตาย เด็เราถ้าเรียนโดย score-oriented แล้วล่ะก็ ระวังในอนาคตเราจะ "ติด" วิธีการคิดแบบนี้ มันจะออกมากับการกระทำ เหมือนกับที่เราจะทำอะไรก็ต้องถามก่อนว่าเขาจะทดสอบเรื่องอะไร ก็คือการรู้โพยข้อสอบนั่นเอง พวกเราเก่งมากที่จะแสวงหาโพยข้อสอบ เพื่อที่ว่าเราไม่ต้องเรียน ต้องทำตามปรัชญาของเรื่องนั้นๆ แต่หันไปทำเพื่อให้ได้คะแนนเยอะๆแทน ทางลัด ง่ายกว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่า เสียอย่างเดียวก็คือจิตใจสติปัญญาไม่ได้งอกงามไปในทิศทางที่ปรัชญาของการทดสอบนั้นๆได้วางไว้

ถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องหาคน blame ว่าใครนำเอาวัฒนธรรม โพยมาให้เด็ก ก็ในเมื่อเด็กมันเห็นการหาโพยเหมือนกันของผู้ใหญ่รอบข้าง การเรียนรู้ที่ดีที่มีประสิทธิภาพก็น่าจะเป็นไปอย่างที่คุณ RS ว่าไว้คือต้องเริ่มที่บ้าน เริ่มรอบๆตัว เริ่มจากบริบทแห่งการกระทำจริง ไม่ใช่ท่องบ่นหรือออกคู่มือ ทำจริงตามปรัชญาไม่ใช่ตามโพย

เราจึงจะสามารถผลิตคิดค้น เป็นผู้ขาย เป็นผู้วิจัย ไม่ใช่ผู้ซื้อตลอดไป



Posted by : Phoenix , Date : 2005-04-09 , Time : 10:15:00 , From IP : ppp-203.118.113.67.r

ความคิดเห็นที่ : 44


   น้องอย่าเพิ่งท้อครับ
พี่เชื่อมาตลอดว่าคนจะเป็นหมอได้ไม่ใช่คะแนนสูงอย่างเดียว
ยังต้องมีอะไรอีกหลายๆอย่างด้วย
พี่เป็นคนหนึ่งครับที่เป็นแพทย์โครงการ
และพี่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าพี่จะได้เป็น
แต่พอพี่เป็นแล้วพี่ก็ต้องแบกรับความคาดหวังของคนใกล้ตัวและคนที่จังหวัด
พี่เชื่อว่าโชคและดวงมีส่วนทำให้พี่มีวันนี้ครับ ไม่ใช่แค่คะแนอย่างเดียว
ลองพยายามใหม่นะครับ
ขอแค่น้องอย่าท้อแล้วกัน
แล้ววันหนึ่งมาเป็นรุ่นน้องพี่นะครับ
สู้ๆครับ


Posted by : Mr . Fungi , Date : 2005-04-12 , Time : 08:08:11 , From IP : 172.29.4.91

ความคิดเห็นที่ : 45


   อย่าเพิ่งยอมแพ้นะน้อง ตอนนี้พี่เข้าใจความรู้สึกของน้องดี พี่ก็เป็นอีกคนที่มีใจรัก และศรัทธาในวิชาชีพแพทย์ ถึงตอนนี้ก็ยังอยากเป็นแพทย์อยู่แม้ว่าอายุจะเข้า
หลักสามสิบแล้ว ในฐานะที่พี่พอจะมีข้อมูลอยู่บ้างพี่ขอเสนอแนวทางให้น้องลองพิจารณาดูดังนี้
ตอนนี้พี่ไม่แน่ใจว่าน้องเรียนอยู่คณะอะไร/ ปีไหน แต่ถ้าให้เดาไม่น่าจะเกินปี2 นะ และจากที่คะแนนสอบน้องได้ตั้ง425.5รวมจีพีเอ+พีอาร์ได้ 477.5แสดงว่าไม่ธรรมดาถือว่าเป็นคนเก่งคนนึงที่เดียว เท่าที่อ่านจากที่น้องโพสต์มาแสดงว่าน้องมีความตั้งใจจะเป็นแพทย์มาก ทีนี้ที่น้องเสียใจคือคะแนนยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะติดคณะแพทย์ของทุกสถาบัน พี่อยากจะบอกว่าน้องยังมีโอกาสอีกมากที่จะได้ก้าวเข้าสู่การเป็น นศพ. ตอนนี้พี่คิดว่าน้องมีปัญหา2-3ข้อดังนี้คือ
1.)กลัวว่าคะแนนที่ได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่จะติดคณะแพทย์ในปีนี้
2.)ถ้าจะออกมาEnt ใหม่ในปีหน้า ครอบครัวคงไม่ยอม
3.) คิดว่าจากนี้ต่อไปตัวเองคงหมดโอกาสที่จะได้เป็นแพทย์แล้ว
พี่คิดว่าน้องอย่าเพิ่งเสียใจจนท้อใจไป ทำใจให้สบาย พี่เห็นด้วยกับกระทู้ที่ พี่นศพ.มอ.ที่ตอบน้องว่าEntปีนี้ ให้เลือกมอ.ดู เพราะอย่างน้อยเหตุการวางระเบิดที่เกิดขึ้นคงส่งผลต่อจำนวนผู้เลือกแพทย์มอ.ในการEnt ปีนี้อยู่แล้ว นั่นหมายถึงว่าอาจทำให้สัดส่วนการแข่งขัน/ คะแนนอาจจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมาก็ได้
ถ้าสมมติว่าปีนี้น้องไม่ติดจริง ๆ ปีหน้าน้องอ่านหนังสือเพิ่มอีกปี แล้วลองสอบดู (แต่ยังไม่ต้องลาออกจากคณะที่กำลังเรียนอยู่ )เพราะอย่างที่รู้ก็คือ ปีหน้าจะมีแนวโน้มที่คณะแพทย์แต่ละสถาบันจัดสอบเองเยอะมาก บางแห่งไม่ใช้ผลสอบของ สกอ.เลย
ปีนี้มีหลายๆแห่ง( ในกรุงเทพฯ )ที่สอบตรงที่พี่ทราบข้อมูลก็คือ
- ศิริราช รับด้วยการสอบตรงทั้งหมด ( ประมาณ 230 กว่าคน ) และใช้ข้อสอบของมหาลัยเอง ทั้ง 100 % เลย ( ไม่ใช้ข้อสอบสกอ. )
- แพทย์รามารับตรง 60- 70 คน และรับรวม 70 ( ใช้ผลสอบ สกอ. ) ( ของรามาพี่จำตัวเลขไม่แม่นเท่าไรแต่เป็นราว ๆ นี้แน่นอน )
-แพทย์จุฬา รับตรงทั้ง 150 คน (ใช้ผลสอบของสกอ. 7 วิชา = 700 คะแนน + ทางคณะแพทย์จัดสอบความถนัด,วัดเจตคติอีกอีก = 300 คะแนน รวมเป็น =1,000 คะแนน เกณฑ์รับเข้่าสัมภาษณ์ต้องได้ไม่น้อยกว่า 700 คะแนน)
- ที่น่าสนใจที่สุด ก็คือ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า รับตรง 100คน ( ใช้คะแนน 7 วิชา 01-07 ของ สกอ.รวม = 700 คะแนน(ไม่ใช้ GPA,PR ) เกณฑ์รับเข้าสัมภาษณ์คือ ต้องได้คะแนนรวมตั้งแต่ 420 คะแนนขึ้นไปและแต่ละรายวิชาต้องได้ไม่ตำ่กว่า 35 คะแนน (ซึ่งพี่มั่นใจว่าน้องเข้าเกณฑ์ทั้งสองข้อเลยและถ้าน้องได้สมัครมีโอกาสลุ้นแน่นอน )แต่เป็นที่น่าเสียดายมากเพราะปิดรับสมัครไปแล้ว ( อ้อเกือบลืมไปผู้สมัครจะเป็นนร.ม6หรือจบม.6ไปแล้วก็ได้ แต่ต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปีณ.วันสมัคร---ปีนี้เปิดรับสมัครราวๆ ปลายเดือน ธันวาคม47- มกราคม 48 )
- นอกจากนี้ยังมีโควต้า ของคณะแพทย์รามาฯในโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท ที่ร่วมมือกับรพ.ศูนย์ของกระทรวงสาธารณสุขอีกประมาณเกือบร้อยคน แยกเป็นกลุ่มผู้สมัครที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ที่กำหนด (ซึ่งครอบคลุมจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ ภาคอีสานรวม หลายสิบจังหวัด ที่สำคัญคือรับทั้งนร.ที่ กำลังเรียนม.6หรือจบม.6ไปแล้วก็ได้ แต่ต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี )--พี่ไม่ทราบว่าน้องมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดอะไร บางที่อาจโชคดีอยู่ในเขตพื้นที่ที่กำหนดก็ได้ และคาดว่าปีหน้าโครงการนี้ก็จะยังมีอีกต่อไปเพราะเป็นโครงการเร่งผลิตแพทย์เพิ่มของครม.


Posted by : ตั้งใจจะเป็นแพทย์เหมือนกัน , E-mail : (sommdmsu@thaimail.com) ,
Date : 2005-04-21 , Time : 01:22:51 , From IP : 203-151-140-115.inte


ความคิดเห็นที่ : 46


    ต่อจากข้างบนครับ
ที่พี่อธิบายที่ผ่านมานั้นเป็นการรับเข้าเรียนแพทย์สำหรับผู้จบ ม.6 แต่ยังมีการรับเข้าเรียนแพทย์อีกกลุ่มหนึ่ง คือสำหรับกลุ่มผู้จบปริญญาตรี ซึ่งจริง ๆ แล้วมีข้อแตกต่างกันในหลายประเด็น และแต่ละสถาบันก็กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครไว้ไม่เหมือนกันเลย แต่ที่เหมือนกันอยู่ข้อนึงก็คือ หลักสูตรแพทยศาสตร์ที่รับผู้จบ ปริญญาตรีนี้ ใช้เวลาเรียน 5 ปี ( โดยปกติสำหรับผู้จบม.6 จะใช้เวลาเรียน6 ปี )
สำหรับสถาบันที่รับผู้จบปริญญาตรีเข้าเรียนแพทย์ ในปัจจุบันมี 5 แห่งดังนี้
- จุฬาฯ รับปีละ 30 คน (เริ่มรับรุ่นแรก ปี 2530 )
- ธรรมศาสตร์ รับปีละ 15 คน ( เริ่มรับรุ่นแรก ปี 2534 )
- มอ. รับปีละ 10 คน ( เริ่มรับรุ่นแรกปี 2538 )
- ม.ขอนแก่น รับปีละ 16 คน ( เริ่มรับรุ่นแรกปี 2545 แต่ไม่มีผู้ผ่านการ คัดเลือกในปีนั้น ปีถัดมา 2546 จึงมีผู้สอบผ่านเข้าไปเรียนได้ )
-ม.นเรศวร รับปีละ 60 คน ( เริ่มรับรุ่นแรกปี 2546--ปีแรก รับ 30 คน-- )

ทั้งนี้แต่ละสถาบันก็กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครไว้แตกต่างกันไปเช่นอายุของผู้สมัคร, GPA ,จำนวนหน่วยกิตวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ,สาขาที่จบการศึกษา ฯลฯ ซึ่งพี่จะยังไม่กล่าวถึงในที่นี้ ( เริ่มเมื่อยมือแล้วครับ ) เอาเป็นว่าตอนนี้น้องก็รอลุ้นผลสมัครเข้ามหาวิทยาลัยดู ถ้ายังไม่ประสบผลสำเร็จค่อยว่ากันอีก ยังงัยก็แล้วแต่ขอให้น้องจงเข้มแข็ง อย่าเพิ่งท้อแท้ ลองเปรียบเทียบว่าถ้าการก้าวไปสู่การเป็นแพทย์ เปรียบได้กับการเดินทางไปกรุงเทพฯ ซึ่งไปได้หลายทางคนที่ไปทางเครื่องบินอาจถึงเร็ว( คนที่สอบโควต้าติด+Entติดแพทย์ตั้งแต่ครั้งแรกที่สอบเลย ) คนที่ไปด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ถึงเร็วรองลงมา(สอบ 2 ปี / 2 ครั้งจึงติด )
คนที่ไปรถทัวร์, รถไฟก็ถึง ถัดลงมา ( สอบ3 ปี /3 ครั้ง,4 ปี / 4 ครั้งจึงติด )และท้ายที่สุด คนที่ต้องนั่งรถยนต์ แล้วไปต่อรถโดยสารและไปต่อรถไฟถึงช้าที่สุด แต่ก็ไปถึงเมือนกัน(กลุ่มนี้เปรียบกับผู้จบป.ตรีแล้วไปเรียนแพทย์ต้องใช้เวลานาน แต่ในท้ายที่สุดก็สำเร็จได้เป็นแพทย์เหมือนกัน) ขอให้น้องจงมั่นใจในความสามารถของตนเอง อย่าเพิ่งยอมแพ้ยังมีอีกหลากหลายเส้นทางที่จะนำพาเราไปสู่จุดหมายได้
สำหรับตัวพี่เองตอนนี้ก็ยังพยายามที่จะเดินไปให้ถึงจุดหมายเช่นกัน บอกอย่างไม่อายเลยว่าพี่ผ่านการสอบโครงการรับผู้จบปริญญาตรีของมอ.มาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จก็ต้องพยายามต่อไป ยังงัยก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องสมหวังได้เป็น Med 33 PSU สมดังที่ตั้งใจนะครับ หากมีข้อสงสัยอยากถาม/อยากคุย/หรือปรึกษา ก็ mail มาได้นะครับ หรือจะโทรมาก็ได้ ที่ 01-320-3412 หวังว่าคงจะได้อ่านข้อความที่พี่โพสต์เข้ามานี้ และขอให้น้องโชคดีครับ


Posted by : ตั้งใจจะเป็นแพทย์เหมือนกัน( ต่ , E-mail : (sommdmsu@thaimail.com) ,
Date : 2005-04-21 , Time : 02:24:27 , From IP : 203-151-140-115.inte


ความคิดเห็นที่ : 47


   นู๋ก็เป็นคนหนึ่งที่อยากเป็นหมอมากๆๆ..แต่เหตุผลคงไม่สวยรู้อย่างพี่
นู๋อยากเป็นหมอเพราะนู๋ชอบงานทางด้านนี้..มันน่าสนใจมันน่าตื่นเต้น..มันท้าทาย..มันมีเกียรติใครๆยกย่อง..มันได้ช่วยคนอื่น..มันเงินดีเลี้ยงครอบครัวได้และมันเป็นความภูมิใจของพ่อแม่...แต่นู๋ก็ฌรียนไม่ค่อยเก่งเท่าไร..ไม่โง่แต่ก็ไม่เก่ง..กำลังพยามยามเพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะเอ็นท์..แอดมิชใช้GPAรวม30..แทบร้องไห้เกรด3.45ทะอะไรได้.อ่านข้อความพี่แล้วเหมือนมันเข้าใจ..โทษใครไม่ได้นอกากตัวเราเอง..ใช่โทษใครไม่ได้แต่ถึงโทษตัวเองไปก็ไม่มีประโยชน์..ลงทันตะดิค่ะ..คะแนนก็สูงนี่ค่อยซิ่วที่หลังอย่ายอมแพ้ซะละ..เป็นกำลังใจให้อยู่และหวังว่าพี่จาเป็นกำลังใจให้นู๋เหมือนกันนะ
ปล.อาจโพสช้าไปมากกกก..แต่ก็จะเอาใจช่วยไปตลอดแหละ..โชคดีนะค่ะ


Posted by : โง่..แต่ก็อยากเป็นหมอเหมือนกัน , E-mail : (dan2boom_fanclub@hotmail.com) ,
Date : 2005-05-22 , Time : 12:18:22 , From IP : 203-151-140-113.inte


ความคิดเห็นที่ : 48


   ทำไมพี่ถึงเศร้าขนาดนี้ล่ะ

Posted by : oo , Date : 2005-07-02 , Time : 14:17:20 , From IP : 203-151-141-193.inte

ความคิดเห็นที่ : 49


   หนู2คนก็อยากเป็นหมอเหมือนกันแต่คงมีโอกาสน้อยเราก้อเด็กบ้านนอก กว่าจะรู้ข่าวอารายก้อช้ากว่าคนอื่นๆ พี่ยังมีโอกาสไปฝึกงานที่ศิรราช แต่พวกนู๋ ศิริราชอยู่ไหนยังไม่รู้เลย แล้วอีกอย่างหนึงเรียนพอใช้ได้แต่ก้อไม่ถึงอัจริยะอารายนักหหนา จะว่าไปพีก็เก่งกว่าพวกหนูมากๆยังติดยากเลย ภาษาอะไรกับหนู2คนเกรดไม่เท่าไหร่ แต่ยังไงหนูก็ยังคิดที่จะสอบเป็นแพทย์อยู่ดี พี่พูดถูกที่แพทย์ต้องเสียสละทุกๆอย่าง หนูก็เห็นด้วยแต่จุดมุ่งหมายของหนูที่อยากเป็นแพทย์จิงๆก็คือ ชาตินึงที่หนูเกิดมาขอทำอะไรเพื่อสังคม เพื่อผู้อื่นสักชาตินึง เพราะไม่รู้ว่าชาติหน้าจะได้เกิดเป็นอะไร เห็นพี่เขียนอะไรมาเยอะแยะหนูก็ยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้น

Posted by : Aor ka Ja , E-mail : (jaja_uda@hotmail"com) ,
Date : 2006-08-09 , Time : 12:02:20 , From IP : 202.143.143.196


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.019 seconds. <<<<<