ความคิดเห็นทั้งหมด : 3

โครงการบอกข่าวดี


   นี่คือจดหมายข่าวจากดังตฤณดอทคอม ฉบับวันพฤหัสที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๘

คงทราบข่าวน่าสลดกันเมื่อสองวันก่อนแล้วนะครับ
สหรัฐอเมริกาอีกตามเคย ฝีมือเด็กอีกตามเคย
ครูและเพื่อนนักเรียนตายแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีกตามเคย
แถมคราวนี้มีคนแก่คือตายายของมือปืนรุ่นเยาว์เป็นส่วนหนึ่งของผู้ตายเสียด้วย

รายงานข่าวกล่าวว่าเด็กเป็นพวกคลั่งลัทธินาซี
คือเป็นกลุ่มนาซีใหม่ หรือนีโอนาซี
โดยจะเป็นพวกที่เรียกตัวเองว่าทูตแห่งความตาย
ที่สันนิษฐานเช่นนั้นเพราะมือปืนเคยถูกตำรวจสอบสวนเกี่ยวกับเหตุยิงกลางโรงเรียน
ในวันครบรอบวันเกิดของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีมาแล้ว

ข่าวนี้ยังน่าสยดสยองอยู่ เพราะนานๆเกิดที
ทิ้งระยะห่างจากครั้งล่าสุดประมาณ ๕-๖ ปี
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าถ้าข่าวทำนองไหนเกิดขึ้นถี่ๆ
ข่าวทำนองนั้นจะกลายเป็นข่าวโหลไป
ผู้คนไม่เกิดความตื่นตัว ไม่เอามาเป็นหัวข้อสนทนากันอีก
เว้นแต่จะเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ
ลองคิดดูว่าถ้าตอนเรายังวัยรุ่น
แล้วเจอคนวัยเดียวกันมายิงกราดในโรงเรียน
ถ้ารอดชีวิตแล้วจะต้องกลายเป็นคนขวัญผวา
ประสาทกระตุก มองโลกในแง่ร้ายไปอีกนานขนาดไหน

ล่าสุดในไทยเกิดเหตุป้าโยนหลาน ๒ คนลงจากตึกสูง
แล้วตัวเองกระโดดตึกตายตาม
กระแสข่าวนี้เป็นที่มาของการแนะนำ "โรคอารมณ์ ๒ ขั้ว" ให้เรารู้จักกัน
ผมก็เพิ่งได้ยินชื่อนี้นะครับ แต่มีประสบการณ์พบผู้ป่วยทำนองนี้มานาน
กล่าวคือ "ผู้ป่วย" มีความผิดปกติทางจิตใจเป็นอย่างมาก
อารมณ์แปรปรวนสลับกันเป็นช่วงๆ ระหว่างครื้นเครงกับซึมเศร้า
อาจจะทันทีทันใดหรือค่อยเป็นค่อยไป
แถมที่ร้ายคือจะมีเหตุกระตุ้นทางอารมณ์หรือไม่ก็ได้

ตามข่าวนั้น ช่วงอารมณ์ครื้นเครงผู้ป่วยจะมีอาการพูดมาก
พูดไม่หยุด คุยฟุ้งคุยเฟื่อง มีความคิดความอ่านแตกแขนง
อยากทำโน่นทำนี่มีโครงการมากมาย
มั่นใจในตัวเองสูง เวลาถูกขัดใจจะหงุดหงิดโมโหง่าย
รายที่มีอาการมากอาจหลงผิดคิดเรื่องใหญ่เกินตัว
หรือมีความหวาดระแวงเกินกว่าเหตุ

ส่วนช่วงอารมณ์ซึมเศร้า จะมีอาการตรงกันข้ามคือ ไม่พูดไม่จา เก็บตัว
ไม่อยากพบปะผู้คน คิดอะไรไม่ออก ไม่อยากทำอะไร
กินไม่ได้นอนไม่หลับ น้ำหนักลด ซึมเศร้า ร้องไห้
ไม่มั่นใจตัวเอง มองตัวเองไม่ดีไม่เก่ง มองโลกในแง่ลบหรือแง่ร้าย

แพทย์จะเพ่งเล็งไปที่กรรมพันธุ์
และมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยทางรูปธรรมคือสารเคมีในสมอง
ซึ่งถ้ามองในแง่กรรมวิบากก็ต้องบอกว่าคนพวกหนึ่งไม่มีโอกาสเลือกนัก
เกิดมาภายใต้กระบวนการพัฒนาหนึ่งๆ
ซึ่งหลีกเลี่ยงจากการโตขึ้นเป็นผู้มีภาวะอารมณ์ ๒ ขั้วยาก

ทั้งพฤติกรรมก้าวร้าวระดับยิงคนไม่เลือกหน้า ไม่เว้นแม้ญาติผู้ใหญ่
และทั้งการมีอารมณ์ ๒ ขั้วขนาดโยนหลานตัวเองลงจากตึกได้นั้น
อาจทำให้เราต้องถามตัวเองว่ากำลังอยู่ในโลกแบบไหนกัน
และที่สำคัญคือพวกเราจะมีส่วนทำให้โลกแบบนั้นดีขึ้นได้ไหม

การรับฟังแต่ข่าวน่าหดหู่นั้น
จะทำให้เราโน้มเอียงที่จะเชื่อว่าโลกกำลังเข้าสู่กลียุค
และมีความททดท้อ ไม่อยากตั้งความหวังสดใสเรืองรองใดๆอีก
ผมเห็นเด็กรุ่นใหม่โตขึ้นมากับเกมฆ่าฟันย้อมจิตย้อมใจแล้ว
ก็รู้สึกว่าพวกเขาคงยิ่งรู้สึกนึกคิดในด้านลบด้านร้ายหนักขึ้น
ทั้งที่จริงโลกยังมีส่วนสว่าง ส่วนที่เต็มไปด้วยความหวังสดใสเรืองรอง
แม้เข้าอินเตอร์เน็ต เพียงคลิกถูก ก็เข้าไปเจอข่าวดี ข่าวมงคลมากมาย
แต่วิถีโลกจะดึงดูดให้คลิกผิด เข้าไปเจอข่าวร้าย ข่าวอัปมงคลเสียแทน

ผมว่าพวกเราน่าตั้ง "โครงการบอกข่าวดี" ขึ้นมานะครับ
ไม่ต้องตั้งชมรมอะไรหรอก
ทำกันตามกำลังของแต่ละคน
เจอข่าวดีอะไรก็เอาไปบอกเล่าญาติมิตรและคนที่เรารัก
เรื่องไม่ดีของคนอื่น เรื่องน่าสะเทือนใจทั้งหลาย
ลดได้ก็ลดเสียบ้าง
ธรรมชาติของคนเราจะชอบเมาท์กันเรื่องแย่ๆ
คือขอบ่น ขอระบาย ขอให้ช่วยกันแชร์ความหนักอก ว่างั้นเถอะ
หากเปลี่ยนไปเป็นการชักชวนกันร่าเริงในการบุญ
แชร์ความเบาอกเบาใจเสียบ้าง
อย่างน้อยสังคมเล็กๆในบ้าน หรือที่อยู่ในรัศมีตัวตนของเรา
ก็จะเป็นเขตบรรเทาโรคอารมณ์ ๒ ขั้วได้ไม่ยากเลย


Posted by : พรรณทิพย์ ฉายากุล , E-mail : (pantip.c@psu.ac.th) ,
Date : 2005-03-26 , Time : 13:23:54 , From IP : 172.29.3.71


ความคิดเห็นที่ : 1


   เห็นด้วยค่ะ อะฮั้นขอเป็นสมาชิกของโครงการคนหนึ่งนะคะ เริ่มตั้งแต่วินาที่นี้เลยค่ะ

Posted by : kik , Date : 2005-03-26 , Time : 16:48:54 , From IP : 172.29.7.80

ความคิดเห็นที่ : 2


   เห็นด้วยคับ ขอบคุณฮับอาจารย์ ^^..

Posted by : vecchio , Date : 2005-03-27 , Time : 22:25:27 , From IP : 203.155.29.60

ความคิดเห็นที่ : 3


   ดีค่ะ และเราน่าจะมาชื่นชมคนที่เราเห็นว่า เขาทำดีออกมาดังๆด้วยดีมั้ย
เรื่องแรกเลยค่ะ
วันนี้น้องๆexternรุ่นใหม่ของเรามากันแล้วนะ และกำลังเข้าอบรมintensive courseกันอยู่ โดยเริ่มต้นก็เป็นเรื่อง holistic docter program ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับintensive course เลยหล่ะ
มีอาจารย์บอกว่า น้องๆน่ารักดีนะ สดใสมาก ที่สำคัญนั่งเรียนตาแป๋วแหว๋วเลย แบบตั้งใจสุดๆ ไม่มีใครนั่งหลับเลย จนอาจารย์บางท่านอดชื่นชมไม่ได้ และฝากบอกมาว่า จะเป็นกำลังใจให้นะ เพราะหลังจากนี้สิ่งที่น้องๆจะต้องเจอคือความเหนื่อยยากจากการดูแลผู้ป่วยคงหนักกว่าที่ผ่านมาแน่นอน สู้ สู้ ค่ะ


Posted by : pisces , Date : 2005-03-28 , Time : 20:07:05 , From IP : 172.29.7.199

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<