ความคิดเห็นทั้งหมด : 8

Specialist VS. GP ???


   อยากรู้ว่า เพื่อนร่วมอาชีพทั้งหลาย มีความเห็นอย่างไรกันบ้าง
กับข้อเปรียบเทียบระหว่าง Specialist กับ GP(แพทย์โรงพยาบาลชุมชน)
มีข้อเท็จจริงที่ว่า ถ้าคนไข้ 100 คนมาหาเราที่โรงพยาบาลอำเภอ จะมี 50 คนที่เราต้อง refer เข้าโรงพยาบาลจังหวัด และจากโรงพยาบาลจังหวัดจะมีแค่ 1 คนที่ต้องพบSpecialist
ที่ตั้งกระทู้ขึ้นมาก็ไม่ใช่อะไรหรอก ผมแค่อยากชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ GP(แพทย์ที่โรงพยาบาลชุมชน) ใครที่อยากรักษาคนไข้มากๆ ได้ใช้ความรู้ในทุกแขนงที่เรียนมา เป็นความคิดตามอุดมการณ์
หรือถ้ามองในด้านค่าตอบแทน(เปิดคลินิก)
มีสถิติที่เค้าได้รวบรวมมาแล้ว
ในกรณีที่คุณเลือกเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลชุมชนและเปิดคลินิก
คลินิกคุณจะมีคนไข้ประมาณวันละ 60 คน (ค่าเฉลี่ยทั่วประเทศ)
คูณค่ารักษาเข้าไป...
ในกรณีที่คุณเลือกเป็น Specialist เปิดคลินิก(โดยมากก็เป็นในตัวเมือง)
คลินิกคุณจะมีคนไข้ประมาณวันละ 10 คน (ค่าเฉลี่ยคลินิกในเมืองทั่วประเทศ)
คูณค่ารักษาเข้าไป...
ค่ารักษา"ต่อคน"ของSpecialist อาจจะมากกว่า แต่ด้วยจำนวนคนไข้ที่ต่างกันมาก
จะเห็นผลต่างของเงินที่แพทย์จะได้รับ...
หรือถ้ามองในแง่สาธาณสุขระดับประเทศ
ประเทศไทย ยังขาดแคลน primary doctor อยู่มากถ้าเรามี เจตคติที่อยากจะเป็น primary doctor กันมากๆ จะมีการ screening , prevention and treatment
คนไข้ก่อนที่จะมีการส่งตัว ลด work load ของแพทย์ที่โรงพยาบาลศูนย์ ทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาดีขึ้นอีกมาก(ไม่เหมือนทุกวันนี้ คนไข้ 1 คนตรวจอย่างมาก 5 นาที)

....เข้าใจว่าเกินครึ่งของนักศึกษาแพทย์ "ยุคใหม่" มีปณิธานว่าจะเป็น Specialist
กันเป็นอย่างมาก ลองอ่านบทความนี้ แล้วลองทบทวนใหม่อีกซักครั้ง
...ยังมีคนไข้ในสถานชนบทอีกมากที่ ต้องการ"หมอที่ยังขาดแคลน" ไปรักษาอยู่
...ย้ำอีกครั้งว่า ผมแค่อยากชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ GPและอยากชวนให้เป็น primary doctor กันเท่านั้น ไม่ได้ต้องการก่อให้เกิดความขัดแย้งใดๆ






Posted by : อินทรีย์ทะเลทราย , E-mail : (desert _eagle@yahoo.com) ,
Date : 2005-03-08 , Time : 06:41:31 , From IP : 61.19.150.150


ความคิดเห็นที่ : 1


   เป็นหมอเฉพาะทางนะ และมีประสบการณ์ผิวเผินทั้งในการเป็นแพทย์primary doctors และในการทำpractice ในเมือง แต่ก็เห็นสภาพชีวิตหมอที่เป็นเพื่อนๆกันและเป็นหมอมานาน ก็อยากเปรียบเทียบระหว่างหมอ primary doctor กับ specialist ส่วนในชีวิตจริงนั้น การที่จะได้เป็นหมอspecialist นั้น ขึ้นกับว่าเราได้ฝึกอบรมหรือไม่ด้วย บางทีเราอยากเข้าฝึกอบรมมาก แต่เขารับฝึกอบรมน้อย เราก็อาจจะไม่ได้เป็นspecialistก็ได้ แต่การเป็นหมอที่มีความรู้ความสามารถนั้น สามารถศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเองได้โดยการเรียนจากคนไข้ที่เรารักษาร่วมกับการอ่านตำราและการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามระบบการส่งต่อหรือการปรึกษาพูดคุยเป็นการส่วนตัวรวมทั้งการเข้ารับการอบรมอย่างสมำเสมอ ส่วนการที่เราจะได้ไปทำงานที่ไหนนั้นก็ขึ้นกับจังหวะและโอกาสและโชคและดวงของเราด้วย
primary doctor ข้อดีคือ อาจมีคนไข้ที่ร้านเยอะ มีอิทธิพลในสังคมเยอะ มีauthorityในรพ.เยอะ สามารถช่วยเหลือคนไข้ชาวบ้านได้มาก การแก่งแย่งกันน้อยกว่า ชีวิตสงบกว่า ชีวิตครอบครัวน่าจะอบอุ่นและมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายกว่าซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวที่อยู่ในระยะเริ่มต้นจนลูกอายุประมาณ 12 ปีคือเรียนจบป 6
ข้อเสียคือ รักษาได้เฉพาะโรคง่ายๆ ความรู้อาจหดหายถ้าไม่คอยเพิ่มเติม มีข้อจำกัดในการเรียนรู้เพราะภาระงานเยอะและข้อจำกัดต่างๆเยอะ สรุปคือเป็นหมอที่เก่งได้ยากกว่า
ส่วนspecialist ก็เป็นหมอที่เก่งในการรักษาโรคกว่า เรื่องเรียนของลูกก็มีโอกาสเลือกโรงเรียนได้มากกว่า ส่วนเรื่องอืนก็จะกลับกันกับของ primary doctor
แต่ปัจจุบัน บ้านเมืองเจริญขึ้นมากจนความแตกต่างระหว่างเมืองกับเมืองเล็กลดน้อยลง specialist ก็ได้อยู่ในชนบทมากขึ้น ทำให้ความเป็นอยู่ทางสังคมไม่แตกต่างกันมากนัก ก็คงต้องเลือกเอาเองตามความชอบของตนเองว่าอยากทำงานแบบไหน แล้วก็ดิ้นรนไปตามนั้นละนะ


Posted by : แมวบ้าน , Date : 2005-03-08 , Time : 14:25:13 , From IP : 172.29.3.147

ความคิดเห็นที่ : 2


   เพื่อนคุณพ่อผมเป็น GP ครับแต่คนไข้ที่คลินิกเยอะมากๆ ชื่อเสียงก็ดังไปถึงจังหวัดตรงข้าม แถมยังมีฉายาว่า หมอพ่อพระซะอีก รวยรึเปล่าผมไม่แน่ใจ แต่ผมเคยตามคุณพ่อไปออกรอบ( ตีกอล์ฟ )กับแก แกบอกคุณพ่อผมว่าหักค่าใช้จ่ายแล้วตกกำไรวันละ หมื่นกว่าๆ (เท่านั้นเอง) นอกจากนั้นทรัพย์สินจากการทำงานประกอบด้วยบ้านราคา 50 ล้านรถยุโรปอีก 6 คัน มีลูกสามคนลูกเรียนหมอคนนึงอีกสองเรียนเตรียมอุดม ลองคิดกันดูแล้วกันก่อนจะบ้าตามกระแสเรียนเฉพาะทางกันหมด

Posted by : กุยแกตามหาโจโฉ , Date : 2005-03-08 , Time : 21:29:42 , From IP : ppp-210.86.184.70.re

ความคิดเห็นที่ : 3


   ก่อนจะเข้าสมการว่าใส่อะไรลงไปแล้วเกิดอะไร หยุดคิดนิดนึงว่าตัวแปรเรามันครบอย่างตัวอย่างรึเปล่า

นั่นเป็นประการที่หนึ่ง

ประการที่สองหมอจะเรียนหรือไม่เรียน "ตามกระแส" นั้น คงไม่ทุกคนที่บ้าตามเพราะสิ่งที่ listed มา คือ เงิน ส่วนความเป็นหมอพ่อพระนั้น ผมว่าไม่เกี่ยวกับการเป็น GP, specialist, หรืออะไรเลยครับ คนที่จะเป็นพ่อพระน่ะ ต่อให้ไปทำพยาบาล กายภาพบำบัด ขายลอตเตอรรีก็ยังเป็นพ่อพระอยู่ร่ำไป

ผมคิดว่าการเปรียบเทียบที่ดีสำหรับปัจเจกบุคคล คงจะต้องเอาปัจเจกบุคคลไปทาบเทียบเคียงวัดดูเอาเอง อย่าไป generalize หรือ stereotype เลยครับว่าใครจะรวย ใครจะส่งลูกไปเรียน inter ได้ ใครจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกได้ เพราะเป็น GP หรือ specialist



Posted by : Phoenix , Date : 2005-03-09 , Time : 00:59:10 , From IP : 203.156.37.228

ความคิดเห็นที่ : 4


   เอาอีกแล้ว อินทรีย์ ทะเลทราย โดยใจจริงๆ

ถ้าจะดูที่การเป็น GP หรือ Specialist อย่างไหนได้เงินมากกว่ากัน ผมเห็นว่ามันผิดวัตถุประสงค์ทั้งคู่เลย ในส่วนตัวผมไม่ได้คิดที่จะร่ำรวยจากอาชีพนี้เลย ถึงแม้ผมเป็นคนส่วนน้อยที่คิดแบบนี้
แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่อยากรวย ยังมีทางอื่นอีกที่คุณจะรวยได้แต่ไม่ได้เกิดจากอาชีพหมอโดยตรง เช่น การรู้จักออม หรือเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่น บุญเก่าที่พ่อแม่ให้มา
สรุปว่ามันไม่ดีครับ แต่ผมก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับความคิดว่าเป็นหมอแล้วจะรวยกว่าอาชีพอื่นๆ ถึงแม้ไม่ได้รวยที่สุด เพราะความเชื่อคนส่วนมากนี่เองครับที่สร้างความเชื่อ ทำให้ไม่ได้ผิดอะไรที่คุณจะคิด เพราะคนส่วนมากเค้าก็เป็นแบบนั้น
ลองคิดดูครับ นิสัยคนไทยที่ชอบแซงคิวเห็นเป็นประจำ อยู่เมืองไทยก็แซงกันไปแซงกันมา พอไปต่างประเทศจะไปแซงเค้ามันก็น่าเกลียดเพราะเค้าเข้าแถวกันเป็นระเบียบทุกคน ก็ต้องทำตามฝรั่งเค้า พอกลับเมืองไทย ก็เหมือนเดิน


ถ้าจะให้ผมเลือก โดยส่วนตัว ผมดูปัจจัยอื่น เช่น คุณภาพชีวิต การมีเวลาส่วนตัว ความเครียด ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน
แต่ถึงเวลานี้ก็ยังคิดไม่ออก คงต้องจบก่อนถึงจะรู้เอง










Posted by : EVO , Date : 2005-03-09 , Time : 03:10:29 , From IP : 172.29.4.211

ความคิดเห็นที่ : 5


   together หวา ตุ๊ดไหมมมมมมมมมม





Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-03-13 , Time : 04:00:16 , From IP : 172.29.4.118

ความคิดเห็นที่ : 6


   together หวา ตุ๊ดไหมมมมมมมมมม





Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-03-13 , Time : 04:01:04 , From IP : 172.29.4.118

ความคิดเห็นที่ : 7


   together หวา ตุ๊ดไหมมมมมมมมมม





Posted by : เด็กแนว , Date : 2005-03-13 , Time : 04:01:12 , From IP : 172.29.4.118

ความคิดเห็นที่ : 8


   together อะไรกันครับ
ผมเลิก ละ แล้วซึ่ง สุรา


Posted by : อินทรีย์ทะเลทราย , E-mail : (dessert_eagle@hotmail.com) ,
Date : 2005-03-13 , Time : 23:17:28 , From IP : 172.29.4.174


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<