ความคิดเห็นทั้งหมด : 9

คอมพิวเตอร์....กับการรักษาคนไข้...ดีจริงหรือ...


   ตอนนี้ที่รพ.เราได้เอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ทั้งที่ OPD และบน ward ซึ่งมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะ เท่าที่ได้ใช้มา รู้สึกว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ไม่ค่อยชอบคือ ตอนตรวจคนไข้ที่ OPD เนี่ยทำให้หมอขาดความสนใจคนไข้ ไม่มีการมองสบตา เวลาที่ควรจะใช้คุยกับคนไข้ก็น้อยลง เพราะถูกเบียดบังไปกับการที่ต้องมานั่งจิ้มคอมพ์แทน ยิ่งถ้าคนที่พิมพ์ดีดไม่ค่อยคล่องก็ยิ่งเสียเวลาไปกับตรงนี้เยอะ น่าจะมีใครลองสำรวจหรือถามความเห็นคนไข้ว่าเขารู้สึกอย่างไรบ้าง

ข้อเสียอีกอย่าง ก็คือ นศพ.หรือพชท.มักจะประหยัดเวลาด้วยการ copy&paste ทั้งประวัติและการตรวจร่างกายคนไข้ เอาไปใช้ในหลาย ๆ ที่ ซึ่งถ้าเป็นข้อมูลของตัวเองก็คงไม่เป็นไร แต่บางครั้งตัวเองไม่ซักประวัติ ไม่ตรวจร่างกายคนไข้เลย ใช้วิธี copy&paste ของคนอื่นแทนตลอด ดู ๆ แล้ว น่าจะมีผลเสียต่อการเรียนการสอนชั้นคลินิกด้วยนะ

ข้อดีก็มีอย่างที่รู้กัน ทำให้อ่านง่าย เป็นระเบียบ สั่ง lab ได้สะดวกขึ้น ดูผล lab ได้ง่ายขึ้น มีการเก็บข้อมูลที่เป็นระบบมากขึ้น ไม่ต้องมาเดาลายมือไก่เขี่ยของหมอที่อาจจะผิดพลาดได้ อ้อ...แต่มันทำ review treatment ไม่ได้ ต้องไปตาม off order ต่าง ๆ เอาเอง

ใครคิดยังไงกันบ้าง........


Posted by : โมนาลิซ่า , Date : 2005-03-05 , Time : 14:19:43 , From IP : 172.29.7.207

ความคิดเห็นที่ : 1


   สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปสังเกตการณ์ที่ OPD (เป็นกิจกรรมในการเรียนการสอน) สิ่งที่เห็นได้ชัดมากคือช่องว่าง

computr ทำให้ช่องว่างระหว่างหมอกับคนไข้ที่มีอยู่แล้ว กว้าง และกว้างขึ้นอีก

เพราะ(เฉพาะที่เห็น) หมอมัวแต่ห่วงคีย์ข้อมูล

แล้วก็ลืมที่จะสบตาคนไข้


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2005-03-05 , Time : 18:47:38 , From IP : 172.29.4.203

ความคิดเห็นที่ : 2


   อืม จากการที่ไปดู OPD เหมือนกันค่ะ สังเกตเห็นว่า ญาติคนไข้ก็ยืนอ้อมมาอยู่ข้างหลังหมอเพือดูว่าหมอพิมพ์อะไรไปบ้างเหมือนกันค่ะ

เอมันจะดีหรือเปล่าคะ ?


Posted by : กระป๋องน้อย , Date : 2005-03-07 , Time : 02:42:34 , From IP : 172.29.4.209

ความคิดเห็นที่ : 3


   เราจะพิมพ์อะไรลงไปใน OPD CARD ที่ญาติคนที่อยู่ในห้องตรวจกับผู้ป่วยมาตลอดไม่ควรเห็นหรือครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2005-03-07 , Time : 04:38:16 , From IP : 172.29.7.205

ความคิดเห็นที่ : 4


    เราจะพิมพ์อะไรลงไปใน OPD CARD ที่ญาติคนที่อยู่ในห้องตรวจกับผู้ป่วยมาตลอดไม่ควรเห็นหรือครับ?

Posted by Phoenix() 2005-03-07 , 04:38:16 , 172.29.7.205
ผมว่ามันไม่ได้อยู่ที่ว่าเราพิมพ์อะไร แล้วเขาควรเห็นหรือเปล่า
แต่ความเห็นของผม(ซึ่งไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้) ก็รู้สึกว่าไม่สมควร
การที่ใครสักคนมายืนดูข้างหลัง (ซึ่งไม่ใช่ที่ที่จัดไว้ให้เขายืน) แล้วมาดูคนอื่นทำงาน
โดยมารยาทไม่ควรทำอยู่แล้วครับ


Posted by : nathan , Date : 2005-03-09 , Time : 00:52:13 , From IP : 172.29.7.128

ความคิดเห็นที่ : 5


   ผมว่าเรื่องนี้อยู่ที่แพทย์แต่ละคนมากว่านะครับ ส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่า computer
เป็นตัวที่ทำให้เกิดช่องว่างในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนไข้ แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยหลัก
สะทีเดียว เพราะแพทย์บางคนมีหรือไม่มี ก็ไม่ต่างอะไรกัน
ในขณะที่แพทย์บางท่านใช้การพูดคุยกับคนไข้ให้มาก สอบถามข้อมูลจากคนไข้จนได้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการวินิจฉัย แล้วจึงเริ่มลง Diag สั่งยา สั่ง Lab ก็ไม่น่าจะ
เป็นปัญหาอะไร เพราะเราได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับคนไข้อย่างเพียงพอแล้วในตอน
แรก
ก็แสดงความคิดเห็นกันไปนะครับ ใครจะเสริมอะไรก็เชิญครับ


Posted by : แสดงความคิดเห็น , Date : 2005-03-09 , Time : 00:56:36 , From IP : 172.29.1.174

ความคิดเห็นที่ : 6


   อืม... คงจะขึ้นกับการจัดห้องตรวจแล้วล่ะครับ

ห้องตรวจศัลย์บางห้องเก้าอี้ญาติจะเยื้องต่อมาจนมาอยู่ด้านข้างค่อนไปทางหลังหมอ แปลว่าเห็นจอมอร์นิเตอร์ได้ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ ดังนั้นบริบทที่ว่า "ญาติยืนอ้อมมาอยู่ข้างหลัง" นั้นเป็นเพราะแกยืนของแกอย่างนั้นเนื่องจากไม่มีที่อื่นจะยืน หรือว่าจงใจ และถ้าจะเกี่ยวเนื่องไปกับกระทู้ต้น การเขียน OPD card นั้นก็ก้มหน้าก้มตาเขียนโดยที่ผู้ป่วยนั่งอยู่ข้างๆนั่นเอง ไม่ค่อยเห็นใครเอามือป้อง ไม่ให้ญาติหรือผู้ป่วยดูว่าเราเขียนอะไร "เรื่องชีวิตสุขภาพ" ของผป.ได้ นี่ยังไม่นับ นศพ. อีกสามสี่คนที่นั่งเป็นกลุ่มอยู่ข้างหลังหมอ

ย้อนกลับไปใหม่ ถ้าไม่ได้คำนึงถึงการมายืนเฝ้ากิจกรรมของเราตาเบิ่งพลง มันก็น่าอึดอัด คนเจ็บรายนี้มีกำลังภายในสูงส่ง ถูกตามล่าสุดของฟ้าโดยนักฆ่ามืออาชีพ เดินทางหาเบาะแสทันที



Posted by : Phoenix , Date : 2005-03-09 , Time : 01:11:12 , From IP : 203.156.37.228

ความคิดเห็นที่ : 7


   อืม .... มันเกิดอะไรขึ้นกับย่อหน้าสุดท้ายของสองสาม post ที่ส่งเมื่อคืนหว่า? เหมือนมี multiple personality ซ้อนกันอยู่ น่ากลัวแฮะ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-03-09 , Time : 08:48:44 , From IP : 172.29.3.62

ความคิดเห็นที่ : 8


   อาจารย์phoenixของเราหลับในมั้งค๊ะเลยมีslip of tongue แบบว่าunconscious thought มันโผล่ออกมาสู่สาธารณชนหน่ะ อ่านแล้วได้มุมค่ะ เหมือนว่ามีlossening of association of thoughtเลยหล่ะ
พักผ่อนมากหน่อยก็แล้วกันนะ คงดีขึ้น


Posted by : pisces , Date : 2005-03-09 , Time : 20:10:28 , From IP : 172.29.7.20

ความคิดเห็นที่ : 9


   ที่ได้รับเสียงสะท้อนจากคนไข้คือ หมอไม่ได้คุยอะไรเลย มายืนปลายเตียงแล้วก็ไป การมี small talk เล็กน้อยจะทำให้หมอดูน่ารักขึ้นอีกเยอะเลยนะ บางคน i/o มีปลายเตียงนะ graphic sheet ก็มี คนไข้ไม่ถ่ายมา 7 วัน (คนไข้ไม่พูด case NPLE ) เคยดูบ้างหรือเปล่า อยากให้สนใจคนไข้มากกว่าที่จะสนใจ com นะ เคยมีบางราย สั่งยา (ไม่รู้ว่าคิดรอบคอบหรือยัง) แล้วคนไข้จ่ายเงินเอง ยาไม่กี่บาทหรอก พอตามญาติมาซื้อ ปรากฏว่าเอายามาถึงward แล้วบอกว่า off ยา สงสารญาตินะ ถ้าเจอคนสูงวัย หรือชอบมีน้ำโห..ก็คงจะคิดนานกว่านี้มั่ง เพิ่มเติมนะ..สั่งยาเมื่อวานตอนเวรบ่ายแต่ไม่ได้ยาตอนนั้นเพราะไม่ได้เร่งด่วนมาก จึงplan ว่าให้ตอนเช้าได้ ถ้าเขาเป็นญาติของคุณแล้วจะรู้สึกอย่างไร

Posted by : jj , Date : 2005-03-10 , Time : 04:53:21 , From IP : 172.29.1.151

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<