ความคิดเห็นทั้งหมด : 24

การใช้ที่จอดรถ


    มหาวิทยาลัยและคณะแพทย์ ไม่อนุญาติให้นักศึกษานำรถยนต์มาใช้ และไม่มีที่จอดรถให้แน่นอน จะเห็นว่าทุกหอพักไม่มีที่จอดรถ ผู้ปกครองและนักศึกษาทราบดี เพราะแจ้งระเบียบนี้ให้ทราบก่อนเข้ามาศึกษาในมหาลัย
แต่คณะแพทย์ใจดีไม่ได้คุมเข้มเรื่องนี้ และได้จัดที่ให้นำไปจอดบริเวณรอบอ่างบำบัดน้ำเสีย หรือบริเวณรอบที่พักที่ไม่รบกวนผู้พักอาศัยที่เป็นบุคลากร แน่นอนห้ามนำเข้าไปจอดในที่จอดรถใต้แฟลตบุคลากร เพราะสร้างไว้เพื่อผู้พักอาศัย (เป็นอย่างอื่นไม่ได้) ไม่มีใครอ้างสิทธิหรือยึดถือครอง แต่สังคมมันมีระเบียบกฎเกณฑ์ ผู้ระเมิดกฎผิดแน่นอน เมื่อระเมิดกฏระเบียบแล้วมาเรียกร้องผลประโยชน์ โยนความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ผู้มีการศึกษาน่าจะพิจารณาได้ว่าควรหรือไม่
ความเดือดร้อนที่เห็นได้ชัดจากการใช้รถยนต์ของนศพ.ที่เข้ามาจอดรถรอบแฟลตประสานใจ
1. ขับรถเร็วขาดความระมัดระว้ง
2. จอดรถขวางทางจราจร เพราะไม่ถนัดในการเข้าจอดในที่แคบ
3. จอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน
4. สร้างความแออัดจอแจในเขตที่พักอาศัย สร้างมลภาวะ
ผู้มีการศึกษาย่อมปฏิบัติตามกฏระเบียบของสังคม อย่าสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ด้วยความคิดแคบๆ
บุคลากรที่อาศัยแฟลตดังกล่าวมีครอบครัว มีเด็ก มีคนชรา เป็นเขตที่พักอาศัย ไม่ใช่ลานจอดรถหรือที่ขับรถเล่น ขอความกรุณานำรถไปจอดตามที่คณะจัดไว้ให้ รอบอ่างบำบัดน้ำเสีย ถ้าไม่พอใจหรือไม่ได้ดังใจต้องการ ร้องเรียนไปยังฝ่ายกิจการนักศึกษาได้ แต่ไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น


Posted by : I*L , Date : 2005-03-02 , Time : 01:38:51 , From IP : 172.29.1.133

ความคิดเห็นที่ : 1


   -ขอพูดถึงบุคลากรของคณะพยาบาลและคณะแพทย์ที่มาจอดรถบริเวรหอประสานใจด้วย วันนี้ก็เห็นความไม่มีมารยาทในการจอด โดยจอดรถปิดท้ายรถของผู้พักอาศัยแถมล๊อคเสียทุกระบบ พอผู้พักอาศัยจะเอารถออกเดือดร้อนเอารถออกไม่ได้ ไปทำงานสายอีก
อย่านึกแต่จะสะดวกสบายของตัวเองนะจ๊ะ


Posted by : 007 , Date : 2005-03-02 , Time : 03:54:02 , From IP : 172.29.7.190

ความคิดเห็นที่ : 2


    ถ้าจะให้เเลกหอพักกัน อ.เเพทย์ที่อย่ เวชคาม มาอย่ที่ประสานใจ 1 2 3
ปัญหาก็คงไม่เกิด อ.เเพทย์ไม่ยอมอยู่เเล้ว ทุกคนเห็นด้วยมั้ย คณะก็เหมือนกัน อะไรที่เป็นปัญหาของ จนท.ที่ไม่ใช่ที่ไม่ใช่เเพทยื ปัญหาจะไม่ได้รับการแก้ไข


Posted by : 123 , E-mail : (download) ,
Date : 2005-03-02 , Time : 08:31:44 , From IP : 172.29.7.248


ความคิดเห็นที่ : 3


   ขอตอบคุณ Death นะ!
1. กระทู้ก่อนหน้านี้ กับกระทู้นี้ ไม่ใช่คนเดียวกัน แต่บังเอิญความเดือดร้อนเหมือนกัน และสื่อด้วยเหตุด้วยผลเหมือนกัน
2. จากการสื่อสารของคุณ Death แสดงว่าความรอบรู้ยังมีน้อย ขอตอบให้ตาสว่างและเลิกกร่างโอ้อวดเสียที
กฏที่ว่าเป็นระเบียบและข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้พักอาศัย กองกิจการนักศึกษา ฝ่ายอาคารสถานที่ ประธานนักศึกษา โดยมีรองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ (อาจอ้างถึงผิดพลาด..ขออภัย..ไม่มีเวลาไปค้นเอกสาร) ประชุมร่วมกันที่หอบินหลา 3 และฝ่ายกิจการนักศึกษารับที่จะไปชี้แจงและสื่อให้นักศึกษาทราบถึงกฏระเบียบดังกล่าวทุกปี แต่ระยะหลังอาจจะไม่ได้ดำเนินการสมำเสมอ ขอถือโอกาสนี้ช่วยเตือนความจำ
3. คุณ Death ต้องไม่ใช่บุคลากรที่พักแฟลตประสานใจแน่ๆ จึงแสดงออกในลักษณะที่ค่อนข้างพิกล "การแสดงออกหรือแสดงความคิดเห็นใดๆก็ตามต่อสาธารณ สิ่งที่ควรคำนึงคือการคิด และประมาลความคิดอย่างรอบด้าน นอกจากตัวเราแล้ว สภาพแวดล้อม บุคคลอื่นๆ และสถานการต่างๆ ต้องนำมาพิจารณาด้วยเหตุและผล ไม่ใช่รู้แค่กว้างยาวหนาของอวัยวะตัวเองแล้วเพียงพอ สังคมเราปัจจุบันว่นวายเพราะแสดงออกซึ่งความเห็นที่ขาดสติ
4. ได้อ่านการแสดงออกของคุณ Death จากกระทู้ก่อนหน้านี้แล้วดูเป็นคนใจกว้าง จนดูเหมือนเจ้าของกระทู้ใจแคบ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นการแสดงออกจากสภาพแวดล้อมและความเดือร้อนที่ต่างกัน การใช้ของร่วมกันในสังคมอาจแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ
1. ของสิ่งนั้นมีเพียงพอ ทุกคนได้ใช้อย่างเหลือเฟือ แน่นอนสังคมนั้นย่อมไม่มีปัญหา
2. มีพอที่จะแบ่งปันกันได้ ในพวกพ้องเดียวกัน สังคมก็ไม่มีปัญหา น่าจะเป็นสังคมที่คุณ Death สิงสถิตอยู่
3. ของสิ่งนั้นไม่เพียงพอกับความต้องการ เกิดการแย่งชิง โจรกรรม สังคมแบบนี่จะอยู่ได้ ต้องมีกฏเกณฑ์ ซึ่งน่าจะเป็นสังคมของแฟลตประสานใจ
ความมีน้ำใจและแบ่งปันของชาวแฟลตประสานใจ มีให้ตลอดทั้งต่อนักศึกษาและบุคลากรด้วยกัน มีหลายมาตรการที่จะดำเนินการได้แต่ไม่ทำเพราะจะทำให้เกิดความเดือดร้อน
มาตรการที่ชาวแฟลตต้องการคือ ขอร้องอย่านำรถเข้าไปจอดในที่ที่ผู้พักอาศัยติดป้ายไว้ กรุณาอย่าจอดขวางทางเข้าออก และขับช้าๆด้วยความระมัดระวัง

ถึงคุณ Death - การแสดงความคิดเห็นใดๆก็ตาม ต้องใช้หลายๆส่วนมาประมาลร่วมกัน ไม่ใช่เขียนได้พูดได้ก็เพียงพอ ตอนเราเด็กๆนอกจากพูดได้แล้ว พ่อแม่และคุณครูยังต้องสอน ให้พูดไพเราะ พูดในสิ่งควรพูด ให้คำนึงถึงผู้ฟังผู้รู้เห็น โตขึ้นมีครอบครัว สามีภรรยาคอยเตือนคอยเบรค เรื่องใดควรไม่ควร หรือแม้แต่ลูกๆยังสามารสอน ให้ได้สำนึกว่าควรหรือไม่ควร รู้หรือไม่รู้
"จงทำในสิ่งที่รู้จริง จงนิ่งในสิ่งที่คิดว่ารู้"


Posted by : I*L , Date : 2005-03-02 , Time : 09:40:15 , From IP : 172.29.1.118

ความคิดเห็นที่ : 4


   ขอตอบคุณ GraveDigger
1. กลับไปอ่านกระทู้ก่อนหน้านี้
2. คุณ GraveDigger ทำดีแล้ว แต่อย่าหลงลืม คิดว่ามีตัวคนเดียว สังคมของคูณมีอีกกี่คน


Posted by : I*L , Date : 2005-03-02 , Time : 09:49:33 , From IP : 172.29.1.118

ความคิดเห็นที่ : 5


   ....ใช่ครับ....ผมไม่ได้อยู่ที่หอประสานใจหรอกครับ....แต่หอที่ผมอยู่ก็คล้ายๆกัน....ผมว่าผมเองไม่เดือดร้อนนะ....ไม่มีที่จอด...ผมจอดที่ไหนก็ได้...ข้างกำแพง...ใต้ต้นไม้...หน้า 7-11....ผมไม่เคยคิดว่าพื้นที่ใต้หอเป็นของผม...ใต้หอผมจอดได้สองที่แต่ดูคนที่อยู่แต่ละชั้นแล้วก็คงมีรถสัก 6 คันได้.....ยังไงๆก็ไม่พอจอดอยู่แล้ว....ผมไม่เห็นต้องดิ้นรนให้ได้มาซึ่งที่จอดรถเลย?.....หรือผมเป็นพวกแปลกๆอย่างที่ว่าไม่รู้???.....

.....ผมว่าเรารู้กันอยู่หรอกนะ....ว่าพื้นที่ใต้หอน่าจะ..."น่าจะ"นะครับ...เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถของผู้อาศัย....แต่มันไม่จำเป็นเสมอหรอกครับ....เพราะมันไม่ใช่"บ้าน"ตามกรรมสิทธิของคุณ......ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอ้างระเบียบหรือกฎอะไรก็แล้วแต่....มันไม่ทำให้คุณมีสิทธิหรือมีเสียงใดๆมากขึ้นในสิ่งที่"ไม่ใช่"ของคุณอยู่แล้ว.....ลองคิดดูก็ได้ครับ....ถ้ามีการร้องเรียนเรื่องการถือครองสิทธิของพื้นที่ทางราชการ....คุณจะเอาระเบียบอะไรของคุณนั่นไปอ้างอย่างเต็มปากเต็มคำหรือเปล่า......

.....ผมว่าครั้งนี้ผมเห็นด้วยกะคุณ Phoenix นะ....คุณคงต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกับคนที่คุณคิดว่าเขามาจอดที่ที่ไม่ใช่ของคุณ....ถ้าคุณแสดงออกแบบนี้ในที่ที่คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นของโรงพยาบาล...คุณจะมีแต่เสียกับเสีย.....เหมือนคุณมานั่งโวยวายทั้งๆที่รู้ว่ากำลังจะเสียสิทธิที่คุณไม่เคยมีอยู่แล้ว.....ถ้าจะมีการประชุมที่ว่านั้นจริง...ผมแนะนำว่าได้เวลาที่จะประชุมอีกรอบแล้วหละมั้ง.....และคุณคงต้องพูดดีๆด้วย....ไม่งั้นถ้าต่างฝ่ายต่างอ้างกฎที่เหนือกว่านี้ขึ้นมา....คุณอาจจะไม่ได้ที่จอดกลับมาก็ได้ครับ....ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ.....เพราะอย่างน้อยกฎระเบียบที่คุณอ้าง....มันอ่อนกว่ากฎหมายบ้านเมืองอยู่แล้วหละครับ.....

....ขออภัยนะครับ...เพราะผมคงอยู่ในฐานะบุคคลที่สามเช่นกัน.....แต่คิดว่าความเห็นของผมน่าจะมีประโยชน์บ้าง....



Posted by : Death , Date : 2005-03-02 , Time : 10:09:51 , From IP : 172.29.3.192

ความคิดเห็นที่ : 6


   "และคุณคงต้องพูดดีๆด้วย....ไม่งั้นถ้าต่างฝ่ายต่างอ้างกฎที่เหนือกว่านี้ขึ้นมา....คุณอาจจะไม่ได้ที่จอดกลับมาก็ได้ครับ"

ดิบๆ อีกแล้ว....กลัวจัง


Posted by : I*L , Date : 2005-03-02 , Time : 10:28:35 , From IP : 172.29.1.133

ความคิดเห็นที่ : 7


   ....ไม่ค่อยได้อ่านกระทู้หละสิ....ผมว่าปัญหาของแพทย์เยอะแยะไปก็ไม่ได้รับการแก้ไขเหมือนกัน.....ลอง Review กระทู้ช่วงนี้อ่านดูบ้างก็ดีนะครับ....:D

....ผมกำลังงงเหลือเกินตั้งแต่กระทู้ก่อนหน้านี้แล้ว....ผมคิดว่าคนเขียนน่าจะเป็นคนเดียวกันเพราะสำนวนการเขียนดูคล้ายๆกัน....ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยด้วย....

.....ผมถามหน่อยสิ?
......ที่ว่าสังคมมี"ระเบียบกฎเกณฑ์"เนี่ย....ใคร?เป็นคนกำหนด?....สังคมที่ไหน....แล้วใครถือเป็นคนในสังคมบ้าง?...."สังคมนิยม?"หรือเปล่า?....

....ถ้าคุณตอบผมไม่ได้....คุณอาจจะตอบไม่ได้อีกว่า...อะไรคือตัววัดหรือบ่งบอกว่า"ใคร"ทำผิดกฎ?.....เพราะกฎที่คุณอ้างถึง....ไม่ใช่กฎหมาย....ไม่มีรัฐธรรมนูญรองรับ....เพียงแค่กล่าวอ้างลอยๆว่าที่นี่ทำแบบนี้....เหมือนกฎหมู่ว่าหมู่บ้านนี้ทำแบบนี้....ใครที่ผ่านมาไม่ทำตามถือว่าผิด???....อย่างงั้นหรือ?....นี่คือตัวอย่างของประชาธิปไตยที่เรากำลังแสดงตัวอย่างให้คนภายนอกเห็นหรือเปล่า?

....ตอบผมหน่อยสิเจ้าของกระทู้.....ขอบคุณครับ...

....เออ...ผมว่าคุณ Phoenix น่าจะอ่านกระทู้นี้นะ....รบกวนหน่อยครับถ้าอ่าน...ผมอยากเข้าใจ"กฎ"ที่ผู้เขียนกระทู้อ้างถึงว่าเราสามารถนำมากล่าวอ้างผู้อื่นว่า"ผิด"ได้จริงเหรอ?....ขอบคุณนะครับ



Posted by : Death , Date : 2005-03-02 , Time : 11:49:25 , From IP : 172.29.7.42

ความคิดเห็นที่ : 8


   อุอุ ชอบพี่เดธโพสจริงๆ เลย เห็นด้วยอย่างแรงคับ
"แต่สังคมมันมีระเบียบกฎเกณฑ์ ผู้ระเมิดกฎผิดแน่นอน เมื่อระเมิดกฏระเบียบแล้วมาเรียกร้องผลประโยชน์ โยนความเดือดร้อนให้ผู้อื่น " ใครเรียกร้องผลประโยชน์อะไรครับ งง เรื่องนี้มันเริ่มที่บุคลากรหอประสานใจออกมาบ่นก่อนเองนะครับ ไม่ใช่พวกผมนศพ ยังว่าโยนความเดือดร้อนให้ผู้อื่นอีก โยนไรกันอีกยิ่งโพสยิ่งงงกันไปใหญ่ ผมเองก็ใช้รถเหมือนกันครับ โดยส่วนตัวแล้วก็จอดมันที่บ่อบำบัดนำที่ว่ามาตลอดแหละครับ แล้วเท่าที่ดูนี่นศพส่วนใหญ่ก็จอดกันแถวบ่อบำบัดนะครับ ไม่ทราบเป็นการกล่าวหาเกินจริงหรือเปล่า แล้วยังพูด เอ้ย โพสมาได้ว่าไม่ใช่ที่ขับรถเล่น พุทธโธ่พุทธถัง ใครมันจาไปบ้าขับเข้าๆออกๆเล่นสนุกสนานกันล่ะครับ ยิ่งช่วงนี้นำมันแพงๆ อยู่ อ่านแค่นี้ก็ชัดแล้วว่ากล่าวหาเกินจริงกันชัดๆเลย


Posted by : GraveDigger , Date : 2005-03-02 , Time : 12:11:10 , From IP : 172.29.4.162

ความคิดเห็นที่ : 9


   กฏสังคมนั้นมีสามระดับ (กว้างๆ) คือ กฏหมายอย่างหนึ่ง กฏระเบียบ (written rules) ของชุมชน และประการสุดท้ายคือจริยธรรมของชุมชน (taboo, culture, norm, etc)

กฏหมายก็ตรงไปตรงมา กฏระเบียบของชุมชนน่าจะมีคู่มือ ณ ที่ใดที่หนึ่ง เช่นในสัญญา ใน contract ตามป้ายประกาศ office ศาลากลาง ส่วนอันสุดท้ายนั่นไม่ได้เขียนแต่ assume ว่า "รู้กัน" เรื่องนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าอยู่ในไหนของสองอันหลัง

ขอยกประโยชน์ว่าสมมติ "ไม่ใช่" อันที่สอง ถามว่า "ระเบียบสังคม" แบบที่สามในที่นี้นี่แหละที่คน "ในสังคม" พึงตีความ วัตถุประสงค์คือการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อย่างอะลุ่มอะล่วย ประนีประนอม และมีความเคารพนับถือในสิทธิซึ่งกันและกัน ตรงนี้บางครั้งมันจะไม่ลงเอยแบบทุกคนได้ตามที่ตนเองอยากจะได้ แต่หมายถึงการรอมชอม ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน การต้อรองให้เกิดผลดังกล่าวสำคัญมากที่จะไม่ใช่อารมณ์ ไม่ใช้การยั่วยุ และพยายาม "เอาใจเขามาใส่ใจเรา"

ในฐานะบุคคลที่สามซึ่งไม่ทราบข้อมูลอะไรมากไปกว่าที่เขียนกันบนนี้ (และค่อนข้างจะใช้อารมณ์) ขอแสดงความเห็นกว้างๆไว้ว่า การกระทำอะไรก็แล้วแต่ ทางที่ดีอย่าเปรียบเทียบว่าเราจะ "ได้อะไร" แต่ขอให้เปรียบเทียบว่า "ใครจะมีโอกาสสูญเสียอะไร" แทน ถ้าเราสามารถคิด "เผื่อคนอื่น" เป็นจุดเริ่มต้น อุณหภูมิมันอาจจะขึ้นช้าลงได้

สุดท้าย เรื่องอะไรที่ตกลงกันอย่างประนีประนอมไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายแข็งเข้าหากัน มันจะค่อยๆเลื่อนระดับของกฏไปตามขั้นเองแหละครับ คือ จากวัฒนธรรมธรรมดาๆที่คนดีๆรู้กันว่าควรทำยังไง ก็กลายเป็นกฏตราขึ้น เขียนขึ้น มีข้อจุดหนึ่ง จุดสอง มี reinforcement system ที่จะทำให้กฏมันศักดิ์สิทธิ์ ถ้าผลกระทบกว้างออกไปในที่สุดก็กลายเป็นกฏหอพัก กฏคณะฯ และกฏหมายในที่สุด ชอบแบบไหนก็พยายามดันๆกันไปก็จะได้แบบนั้นมาเอง อาจจะคล้ายๆกับตอนที่เขียนกันเรื่องเวลา elective นั่นแหละครับ ถ้าการประนีประนอม การอยู่กันแบบพูดจาเฉยๆไม่สามารถ settle ได้ ในที่สุดก็จะต้องกาง "กฏ" ออกมา ตรงนี้มันจะไม่ยืดหยุ่นได้อีกต่อไป

สรุปถ้าอยากจะใช้กฏที่เขียน หรือกฏที่พูดจากันก็ลองช่สยๆกันคิด ช่วยกันปรึกษาทั้งสองฝ่าย คำนึงถึงข้อดีข้อเสียเอาหน่อย ก็คงจะพอมองเห็นข้อสรุปกระมังว่ากฏที่เขียนนั้น เวลาถูก reinforce จริงๆจะมีผลอย่างไรกันบ้างครับ จะมีความสุข ความสงบเกิดขึ้นไหม



Posted by : Phoenix , Date : 2005-03-02 , Time : 12:33:58 , From IP : 172.29.7.188

ความคิดเห็นที่ : 10


   ....ท่าทางผมจะเขียนไม่ถูกใจ....ขอโทษด้วยหละกัน......ผมมันเอาใจใครไม่ค่อยเป็นด้วยสิ.....เฮ้อออออ....

.....คงบอกได้แค่ว่าในมุมมองของคนนอกอย่างผมคงไม่เห็นด้วยกับกฎที่คุณอ้างเท่าไรนัก.........ผมอ่านแล้วผมไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนักกับการแอบอ้างอะไรที่มันไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไรนัก.....ยังไงก็.....ตามแต่สะดวกจะคิดก็แล้วกันครับ....



Posted by : Death , Date : 2005-03-02 , Time : 12:38:14 , From IP : 172.29.3.192

ความคิดเห็นที่ : 11


   ใช่แล้ว.. มุมมองคนนอกย่อมไม่ค่อยเห็นด้วย ถ้าได้ลองคลุกวงในกลับมาเป็นคนในดูบ้าง แล้วค่อยแสดงความเห็นก็ไม่สายไปนะ

Posted by : คนใน , Date : 2005-03-02 , Time : 12:59:01 , From IP : 172.29.1.209

ความคิดเห็นที่ : 12


   ".........ผมอ่านแล้วผมไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนักกับการแอบอ้างอะไรที่มันไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไรนัก....."
คุณ Death...
คงไม่มีใครโกรธใคร หรือให้อภัยหรือต้องขอโทษใคร ขอฝากให้ไปคิดและวิเคราะห์ดู คำที่คุณใช้ ."แอบอ้าง".คำนี้รุนแรงมากคุณกล่าวหาคนอื่น บนพื้นฐานของความไม่รู้ ประโยคที่ว่า "มันไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไร" ขอถามหน่อยคุณรู้จักคำนี้แค่ใหน- เป็นธรรมกับใคร? และอีกหลายๆประโยคที่นำมาใช้ เป็นการสื่อที่ไม่เหมาะสม ขอให้คิดก่อนที่จะเขียนบนนี้

ขอให้โชคดีกับวิถีของคุณ


Posted by : I*L , Date : 2005-03-02 , Time : 15:05:26 , From IP : 172.29.1.133

ความคิดเห็นที่ : 13


   เมื่อวานผมลองไปเดินๆดูแถวใต้หอพักประสานใจ 1 น่ะครับ แต่ผมก้ไม่ยักเห็นรถของนศพจอดอยู่นี่ครับ หรือยังไง ถ้ามีจอดอยู่จริงๆ หมายถึงตอนนี้เลยน่ะครับ กรุณาโพสบอกรูปพรรณของรถให้ทราบหน่อยได้ไหมครับ เลขทะเบียนก็ได้ ประเด็นตอนนี้มันสรุปตีความกันไปแล้วว่าเป็นรถของนศพแต่อาจเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้นะครับ จริงอยู่ว่าบินหลา 3 กับประสานใจ 1 อยู่ใกล้กัน แต่ไม่ได้หมายความว่ารถที่จอดใต้ประสานใจ 1 ต้องเป็นของนศพนี่ครับ ดีไม่ดีอาจเป็นรถของบุคลากรด้วยกันเองด้วยซำ ที่สำคัญถ้าเรื่องมันยังเป็นแบบนี้ เดี๋ยวเรื่องมันจะกลายเป็นมาเอาผิดกับนศพทั้งๆที่อาจไม่ได้เป็นเจ้าของรถที่คุณว่ามาก้ได้นะครับ ( นศพก็มีใช้รถกันแค่ไม่กี่คนหรอกครับ จำกันได้หมด ของใครเป็นของใคร )

Posted by : GraveDigger , Date : 2005-03-02 , Time : 18:25:47 , From IP : 172.29.4.162

ความคิดเห็นที่ : 14


   ผมชักไม่แน่ใจว่าประเด็นคือผู้อยู่อาศัยไม่ต้องการให้ "นศพ." มาจอดรถ หรือผู้อยู่อาศัยไม่อยากให้ "คนที่ไม่ใช่ผู้อยู่อาศัย" มาจอดรถใต้หอ เพราะมันมีความหมายคนละอย่างกัน อย่างแรกแปลว่าใครคนอื่นจะมาจอดก็ได้ยกเว้นนศพ. อย่างหลังแปลว่าเขาไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกหอพักมาใช้ที่จอดรถ (นศพ. เป็นแค่ subset)

ความเข้าใจผมเป็นอย่างหลัง แต่ของคุณ GraveDigger ดูเหใอนเป็นแบบแรก (รึเปล่า?)



Posted by : Phoenix , Date : 2005-03-02 , Time : 18:59:27 , From IP : 203.156.62.72

ความคิดเห็นที่ : 15


   คุณ Death ผมเป็นคนเริ่มเองแหละครับ....และใช้ชื่อว่า "คนอาศัย" เท่านั้นเพราะผมเป็นคนนอก(ภรรยาอยู่แต่ตัวเองไม่ค่อยได้อยู่) แต่ผมได้รับฟังปัญหาจากเพื่อนบ้านหลายๆท่าน และผมไม่ได้กล่าวหาเฉพาะเจาะจงว่า เป็น นศพ. หรือใครๆ แต่หมายถึงบุคคลที่นำรถมาจอดบริเวณนี้(ส่วนใหญ่เป็นบุคลากร+นศพ.)

คุณ death อาจจะไม่เข้าใจถึงหัวอกของคนที่นี่จึงได้พูดออกมาแบบนั้น สิทธิ ไม่ใช่ กรรมสิทธิ์ หมายถึงผู้พักอาศัยมีสิทธิจอดรถ แต่ไม่ใช่ว่าจะนำที่จอดรถไปทำอย่างอื่นอันนี้เรียกว่าไม่มีกรรมสิทธิ์

คนที่อยู่ประสานใจเค้าทนมานานแล้วครับกลับเรื่องที่จอดตั้งแต่ก่อนปรับปรุง พอหลังจากปรับปรุงก็ดีขึ้นในช่วงแรกหลังจากนั้นก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ ผมไม่ได้เรียกร้องสิทธิอะไรมากมาย แต่อยากวิงวอนผู้ที่นำรถมาจอดโปรดคำนึงถึงคนที่พักด้วย(ส่วนใหญ่ก็อยู่ร่วมกันโดยสงบ)

เจตนากระทู้ไม่ได้อยากกล่าวร้ายป้ายสีใครๆทั้งสิ้น แต่อยากให้เกิดระเบียบ กฎ หรือวินัย หรืออะไรแล้วแต่จะเรียก เพื่อให้ทุกฝ่ายไม่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนตัวเห็นใจกับผู้ที่พยายามหาที่จอดรถ(เข้าใจความรู้สึก) แต่ก็อยากให้อย่าลืมนึกถึงผู้อื่นด้วย....ขอเพียงเท่านี้หวังว่าทุกๆฝ่ายคงเห็นใจต่อกัน


Posted by : คนอาศัย , Date : 2005-03-02 , Time : 21:43:37 , From IP : 172.29.4.192

ความคิดเห็นที่ : 16


   อ้อ...อีกเรื่องนะครับคุณ Death ถ้าผมมีตังค์ซื้อบ้านหรือซื้อที่จอดก็คงไม่อยากมาโพสต์

Posted by : คนอาศัย , Date : 2005-03-02 , Time : 22:00:01 , From IP : 172.29.4.192

ความคิดเห็นที่ : 17


    ผมคิดว่าเป็นนิสัยปกติของคนไทยเราโดยส่วนใหญ่ครับ คือมักง่าย เห็นแก่ตัว ทำอะไรไม่ค่อยคิดถึงผู้อื่น เอาสะดวกตัวเองเข้าว่า
เราจึงพบเห็นการจอดรถที่ไม่เข้าท่าอยู่เป็นประจำ
ตอนนี้ลานจอดรถจยย.บริเวณหลังอาคาร 13 ชั้น ใกล้อาคารแพทยศาสตร์ศึกษา จอดกันมั่วมากเลย ขนาดตีเส้นให้แล้วก็ยังจอดไม่เป็นระเบียบ ร้ายกว่านั้นคือจอดปิดทางเข้า-ออกไปเลย ไม่เหลือให้ผ่านแม้กระทั่งคนเดินเท้า ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ก็บุคลากรคณะแพทย์ทั้งนั้น โดยเฉพาะพยาบาลที่มาเข้าเวรบ่าย เห็นรีบร้อนกันขึ้นเวร คนเลิกงาน 4 โมงครึ่งก็ต้องมาเลื่อนรถ ขยับรถกันเองจึงจะออกได้
ผมจึงค่อนข้างเห็นใจคนตั้งกระทู้อยู่เหมือนกัน รวมทั้งชาวหอประสานใจ 1-2-3
เคยมีคนเรียกร้องให้สร้างที่จอดรถเพิ่มเติมบริเวณที่พักศรีตรังทั้งหมด ซึ่งกรณีตัวอย่างที่ประสานใจคงพอเป็นอุทธาหรณ์ไ้ด้ดี เพราะสร้างที่จอดรถเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอครับ ลองนับจำนวนผู้พักอาศัยดูเถอะ ถ้าทำที่จอดรถเพิ่มเมื่อไหร่ รับรองได้ว่า ความเงียบสงบที่เคยมีจะลดลง มลภาวะต่างๆก็จะตามมาทันที
มีบางท่านแนะนำได้ถูกต้องแล้วครับ ต้องเก็บเงินไปซื้อบ้านอยู่เอง น่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง เพียงแต่ต้องใช้เวลาหน่อย


Posted by : ร่วมด้วยช่วยกัน , Date : 2005-03-02 , Time : 22:14:13 , From IP : 172.29.7.108

ความคิดเห็นที่ : 18


   ......ผมว่าผมก็พอจะเข้าใจเรื่องไม่มีที่จอดรถนะครับ....บางทีหอที่ผมอยู่เองก็มีคนอื่นมาจอดบ้าง....แต่ไม่บ่อยนักหรอก....แรกๆผมก็เบื่อหรือเซ็งว่าไม่มีที่จอดอีกแล้ว.....แต่อยู่ๆไปผมก็คิดได้ว่ามันไม่ใช่ของๆผม....ผมเลยเฉยๆ....มีก็จอด...ไม่มีก็ไปจอดที่อื่นตากแดดตากฝนก็บ่อยไป....ใครจะจอดก็ช่าง.....ทำไมไม่ลองคิดแบบนี้บ้าง....มันสบายใจดีนะ....ดีกว่ามานั่งดูว่าวันๆนี่รถใครมาจอดที่นี่ได้ไงอะไรแบบนั้น.....แต่ผมว่าผมคงเสนออะไรที่ทำได้ยากเกินไป.....

........ขอบคุณนะครับคุณ"คนอาศัย".....เพียงแค่คุณอยากให้แต่และฝ่ายเห็นใจซึ่งกันและกัน....เท่านั้นคงพอแล้วหละครับ....ผมเองก็ไม่มีเงินซื้อบ้านเหมือนกัน...เลยต้องหัดทำใจครับ.....:D



Posted by : Death , Date : 2005-03-02 , Time : 22:47:58 , From IP : 172.29.7.106

ความคิดเห็นที่ : 19


   คนที่ประสานใจเค้าทำใจเรื่องที่จอดรถมานานเป็นปีๆแล้วคุณ

แต่การที่รถโดนทำให้เสียหายนี่ หลายคนรับไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้ทำไง คงต้องทำใจอย่างเดียวแต่ทำใจอย่างเดียวโดยที่คนอื่นยังเอาแต่ใจตัวเองอย่างนี้ นานๆเข้าก็รับไม่ค่อยได้เช่นกัน

ใครหาทางออกได้ช่วยแสดงความคิดทีสิครับ มุมมองคนกลางอาจจะมีประโยชน์ ต่อผู้อื่นบ้างก็ได้นะ แต่คงไม่ใช่บอกว่าให้ "ทำใจ"


Posted by : คนอาศัย , Date : 2005-03-02 , Time : 23:45:32 , From IP : 172.29.4.192

ความคิดเห็นที่ : 20


   โดยทั่วไป เราทำอย่างที่คงทำกันไปแล้ว คือถ้อยทีถ้อยอาศับ พูดจากัน

แต่ถ้ามันไม่ work หรือคนที่ทำให้การถ้อยทีถ้อยอาศัยนั้นยังไม่ได้ถูดสื่อจาก media นี้ (เช่นไม่ได้อ่านกระดานข่าว) เวลามี civil disturbance ก็ต้องไปหาที่พึ่งคือหน่วยงานที่รับผิดชอบของชุมชนนั้นๆ ถึงแม้หน่วยงานนั้นเคยออกกฏระเบียบอะไรไปแล้ว แต่ถ้าปัญหายังมีอยู่ ก็คงต้องเรียกร้องให้เกิด reinforcement ของทางแก้ หรือหาวิธีทางแก้ใหม่ โดยปกติหน่วยงานที่ว่าน่าจะติดต่อไป หรือมีช่องทางให้ติดต่อได้จากหอพักโดยตรง น่าจะมีโอกาสแทงหวยถูกกว่าโอกาสที่จะสื่อผ่านทาง media นี้ (การดานข่าว) รึเปล่า ไม่แน่ใจ แต่ผมว่ากระดานข่าวนี่มันลื่นและเลื่อนไปเรื่อยๆ คนที่ไม่มาอ่านบ่อยๆจริงๆ จะไม่ทราบว่าเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองถูก Posted มาลงรึเปล่า เมื่อไหร่ และ crisis ขนาดไหนครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-03-03 , Time : 00:05:12 , From IP : 172.29.7.26

ความคิดเห็นที่ : 21


   ......ผมว่าคงเป็นทางออกที่ดีแล้วหละ.....การทำใจเนี่ย....เพราะผมคิดว่า....คนส่วนใหญ่ไม่จอดที่หอคุณอยู่แล้ว....ผมเองก็ไม่เคยจอดเหมือนกัน....เพราะมีป้ายแขวนเต็มไปหมดว่าเฉพาะผู้พักอาศัยจอด......คนมีการศึกษาทั้งหลายที่มี"ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี"คงไม่ไปยุ่งกับที่จอดของคุณหรอกครับ.....

.....จะมีก็แต่ส่วนน้อยที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น.....แบบว่าจะจอดก็จอด....ผมว่าส่วนนี้มีน้อย....แต่พวกคุณทำอะไรไม่ได้หรอกครับ....ผมถึงบอกให้ทำใจไงหละ....เพราะคุณจะโวยวายแบบเจ้าของกระทู้....แบบนี้คนกลางคนนอกแบบผมอ่านผมยังไม่ชอบใจเลย.....เกิดมีคนที่อยากจอดที่หอคุณมากๆเขาไปโวยวาย....คุณก็อ้างกฎอะไรนั่นได้อย่างไม่เต็มปากเต็มคำเพราะมันไม่ใช่"ที่ดิน"ของคุณจริงๆ....จะกลายเป็นคุณเสียที่จอดไปอีก....ถ้อยถีถ้อยอาศัยอย่างที่คุณ Phoenix ว่าก็น่าจะดีแล้วหละครับ......คนเรามีการศึกษาเหมือนๆกัน....ไอ้คนที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจมันมีไม่มากหรอกครับ......

......คุณคงได้แต่"หวัง"ว่ามันจะไม่มากไปกว่านี้....มันจะมีคนที่ไม่มี"ความเกรงใจ"มากไปกกว่านี้.....เพราะถ้ามันมีมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ...."ทำใจ"อาจจะดีสุดก็ได้มั้ง....???....เข้าใจความหมายของผมหรือยังหละครับ......อาจจะต้องทำใจต่อไปอีกเป็นปี.....แต่อย่าโวยวายเลย....ยิ่งทำให้"คนนอก"ที่ไม่รู้เรื่องมองไม่ดีมากไปกว่าเดิมอีก.....เอาไปขึ้นศาลก็แพ้ครับแบบนี้....

.....แต่จะว่าไป....ผมเพิ่งนึกทางออกได้....ทำไมไม่ลองทำบัตรติดหน้ารถ....แล้วจ้างยามสักคนคอยดูแลทางเข้าออกหอหละ.....อย่างน้อยคนที่ไม่รู้จักหอที่นี่....เวลาเจอยามยืนอยู่คงไม่กล้าเข้าไปจอดหรอก....น่าจะช่วยได้บ้าง.....ไม่งั้นอาจจะต้องล้อมรั้ว...แต่ดูน่าจะเป็นทางออกที่ลำบากไป......คิดว่าไงหละครับ?.....เฮ้ออออออออ.........



Posted by : Death , Date : 2005-03-04 , Time : 11:47:48 , From IP : 172.29.3.247

ความคิดเห็นที่ : 22


   เท่าที่ผมอ่านดู ผู้โพสหมายถึงข้างถนนที่อยู่ระหว่างบินหลา 3 กับประสานใจหรือเปล่า เพราะว่าจะมีรถมาจอดเต็มเกือบทุกวัน

ถ้าใช่ผู้เขียนก็หมายความว่า
1.ไม่อยากให้ใครมาจอดตรงนั้นเนื่องจากมันเข้าออกลำบาก
2.ผู้เขียนน่าจะหมายถึงการไปจอดที่ใต้ถุนประสานใจเลยด้วย

ในข้อ 1 นั้น เท่าที่เห็น พบว่าเป็นรถ นศพ.ส่วนใหญ่จริง บางครั้งอาจมีบุคคลากรที่มาจอดตอนกลางวันด้วย ดังนั้นขออนุญาตตัดสินว่า ทุกคนมีสิทธิทีจะจอดตรงนั้น เพราะไม่ว่าจะเอา กฏอะไร ก็ตามที่คุณ phoenix ว่ามา ก็ไม่สามารถมาอ้าง ไม่ให้จอดรถตรงของถนนแถวนั้นได้

ในข้อ 2 นั้น ผมเคยเห็น นศพ.เอารถไปจอดใต้ถุนประสานใจ หรือไม่ ผมไม่เคยเห็นเลย แต่มีกรณีที่ใกล้เคียงคือจอดปิดทางเข้า แต่ผมเห็นการกระทำอย่างนั้นเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น และรถคันนั้นก็ไม่ได้จอดค้างคืน

ผมไม่ได้เฝ้ามองที่จอดรถแถวนั้นตลอดครับ แต่คุณก็เช่นกัน

ว่าแต่ว่าคุณเคยร้องเรียนไปที่หน่วยกิจการมั้ยครับว่าอยากจะขอคุยกับ นศพ.เอง บางครั้งคุณอาจจะได้ข้อมูลจริงๆก็ได้ว่าที่คุณเดือดร้อนอาจไม่ใช่ นศพ.


Posted by : เหอๆๆ , Date : 2005-03-05 , Time : 04:04:58 , From IP : 172.29.3.97

ความคิดเห็นที่ : 23


   ก็ติดป้าย ห้าม พวก นศพ. จอดซะเลยซิ พวกนี้ อ่อนหัด เพิ่งเคยขับรถกันทั้งนั้น แต่ละคัน บุบๆ บี้ๆ บ่งบอกถึงความสามารถในการขับเป็นอย่างดี

Posted by : r , Date : 2005-03-10 , Time : 23:44:15 , From IP : 203.113.77.100

ความคิดเห็นที่ : 24


   เก๋าจริงหรอ แข่งกันมะ อยากเจออ่ะ

Posted by : r , Date : 2005-05-21 , Time : 21:22:52 , From IP : 203.113.77.4

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.01 seconds. <<<<<