ความคิดเห็นทั้งหมด : 7

บอร์ดสาธารณะ : ประโยชน์อะไรที่ได้จากการ post ที่ไม่ต้องระบุตัวตนที่แท้จริง


   อย่าง บอร์ดอันนี้

1.การไม่สามารถระบุตัวตนได้ ทำให้สามารถใช้แสดงความคิดเห็นที่แท้จริง ได้อย่างเต็มที่

หรือ ข้อเสีย

1.ทำให้ใช้ด้านมืดของตนเองได้อย่างเต็มที่
2.ยั่วยุให้ 2 ฝ่ายที่เถียงกันอยู่ ทะเลาะกันได้ เช่น เรื่องที่เกี่ยวกับ พยาบาลกับหมอ พอดี มีมือที่ 3 ที่ไม่ใช่ทั้ง 2 ฝ่ายก็แอบอ้างตนเอง เพื่อยั่วยุให้ทะเลาะกัน สนุกดี
3.ไม่จริงใจ
4. คุณ Garnet ทำงานหนักขึ้นถ้าต้องจัดการระบบ login


ดีหรือไม่ดีถ้ามีการ login????

ไม่รู้ว่ามีคนถามแล้วหรือยัง


Posted by : anonymous , Date : 2005-02-07 , Time : 11:56:00 , From IP : 172.29.7.168

ความคิดเห็นที่ : 1


   เราเคยมีอภิปรายเรื่องนี้ไปแล้วครับ รู้สึกจะติดอยู่ในกระดานเก่าเพราะเรามีการย้ายเพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่มาครั้งนึงเมื่อประมาณ 2 ปีมาแล้ว ผมเป็นคนตั้งกระทู้เองหัวข้อทำนอง "เหตุผลและหลักการการใช้นามแฝงในกระดานกระทู้" ไม่ทราบคุณ Garnet ยังเก็บ Archieve อยู่รึเปล่า

ข้อดีของการใช้นามแฝง (handle, alias, nickname) ในการแสดงความเห็นมีอยู่หลายประการ ได้แก่
๑) ปรับ focus ให้อยู่ที่ contents ไม่ใช่ identity
๒) ลด barrier ในการแสดงความเห็นในกรณีที่ class system อาจจะมีผลต่อการแสดงออก เช่น อายุ ตำแหน่งหน้าที่
๓) ในที่ที่เป็น open source เช่น Newsnet หรือ open bulletin board ประเภท everything goes ที่เราอาจจะไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับคนในกระดานนั้นอีกหรือไม่อยากให้คนในกระดานนั้นมายุ่งเกี่ยวกับเราและครอบครัวอีก ก็ใช้นามแฝง

ยังมีที่ใช้อย่างอื่นของนามแฝงแต่ไม่ใคร่เป็นข้อดีเท่าไหร่ เช่น
๑) fake identity เพื่อที่จะได้ทำอะไรที่ตัวตนดิบตนเองอยากทำ แต่ไม่กล้าทำถ้ามีคนอื่นรู้ identity
๒) ปลอมเป็นคนอื่นอย่างเจตนา
๓) ปลอม "สถานะ"

เนื่องจากนามแฝงเป็นคล้ายปลดภาระความรับผิดชอบที่สำคัญในการอยู่ในสังคมคือ "ความเป็นเรา" ออก จะเห็นว่า hell breaks loose ได้เยอะ บางทีนอกจากนามแฝงตนเองจะทำหน้าที่ดังกล่าวแล้ว เผลอๆอาจจะสามารถตัดความสัมพันธ์ตามปกติของเจ้าของนามแฝง ทั้งๆที่เราทราบว่าเป็นใคร และแสดงออกอย่างที่ปกติตนเองจะไม่เคยกล้าทำอย่างนั้นออกมาก็ได้ ตรงนี้เป็นพยาธิสภาพของเด็กที่ติด internet ที่เข้าใจว่า virtual world นั้นไม่ได้มีผลอะไรต่อตัวตน หารู้ไม่ว่านั่นคือที่ที่เรากำลังปลดปล่อย "ตัวตน" ที่ไม่มีกรอบศีลธรรม จรรยาบรรณ จริยธรรม ควบคุมตามปกติออก ยิ่งถ้าอยู่ใน virtual world นานๆเข้า ไอ้ที่แสดงออกใน internet มันจะปลิ้นทะลักออกมาในชีวิตประจำวันข้างนอกมากขึ้นๆ เริ่มต้นจะเป็นแบบ passive คือปกป้องตนเอง ภายหลังจะถึงขนาดใช้เป็น offensive คือโจมตีคนอื่นโดยอาศัย fake identity เป็นเกราะ

เมื่อไหร่ก็ตามที่ Id ได้รับการปลดปล่อยออกมาเรื่อยๆ basic instinct ดิบ มันจะได้รับการ release ออกมามากขึ้น Insight ที่เราเองจะถูกสะท้อนเวลาทำไม่ดีจากคนภายนอกถูกเบี่ยงเบนไปให้ fake identity แทน ความต้องการพัฒนาตนเองหรือปรับปรุงตนเองจะไม่เกิด เกิด blame culture ระดับ root คือซ่อนตัวตนไว้หลัง fake identity ไม่ว่าใครจะมาแนะนำหรืออะไร ก็จะเบี่ยงส่งไปที่อื่นหมด

สรุปแล้ว alias นั้น ก็เหมือนของทุกชนิดแหละครับ คือมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ผมเคยเสนอคุณ Garnet เรื่อง member-only สำหรับการ post (แต่ open สำหรับอ่าน) ก็ยังต้องปรับกันเยอะกระมังครับ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเราพัฒนาให้เป็นการใช้ alias เฉพาะข้อดีได้ล่ะก็ น่าจะเป็นอุดมคติที่สุด จะเกิดการเรียนรู้แบบ bi-directional ได้ ทั้งทาง vertical และ horizontal แต่ผมอาจจะ optimistic มากเกินไปก็ได้ เวลาเรารับวัฒนธรรมอะไรมาอย่างรวดเร็วและได้แต่ "เปลือก" มา เช่น การขับรถ การใช้ถนน มันจะต่างจากที่ที่เขาเริ่มพัฒนาตั้งแต่รถม้า รถจักรยาน มาเป็นรถยนต์ บนถนนในเมืองตั้งแต่แรก กระดานข่าวก็เหมือนกัน คนใช้ก็ต้องมี etiquette และ ethics ในการใช้ไม่แพ้ชุมชนอื่นๆเช่นกัน



Posted by : Phoenix , Date : 2005-02-07 , Time : 12:59:37 , From IP : 172.29.3.109

ความคิดเห็นที่ : 2


   ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ไม่ควรฝึกให้อยู่ใน virtual world นานๆเ เพราะไอ้ที่แสดงออกใน internet มันจะปลิ้นทะลักออกมาในชีวิตประจำวันข้างนอกมากขึ้นๆ ได้อย่างไม่รู้ตัว


ก็ควรจะมีระบบ login สามารถ identify ตัวได้ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เช่นกำหนด ผู้มีอำนาจในการตรวจสอบที่ยุ่งยากหน่อย แต่ให้ตามตัวได้ ในเมื่อสังคมจริงยังมี กฏระเบียบ ในลักษณะเดียวกัน board ก็น่าจะมีระเบียบ เป็นการฝึกให้ผู้ใช้ board รู้จักควบคุมตัวเอง

ผมว่าผลดีมากกว่าผลเสีย




Posted by : OmniSci , Date : 2005-02-07 , Time : 14:51:04 , From IP : 172.29.7.91

ความคิดเห็นที่ : 3


   โดยเฉพาะการให้ร้าย กล่าวโทษ
การทำให้เกิดความบาดหมางกัน หรือการสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นต่างๆ นานา ย่อมสามารถกระทำได้ หากไม่สามารถระบุตัวตนผู้กระทำได้ ผลต่อโลกแห่งความจริงนั้นมีอยู่ บุคคลที่สาม (หรือแม้แต่ที่สอง) ย่อมได้รับผลจากการกระทำของคนเหล่านั้นได้

ยิ่งต้องมีการระบุตัว



Posted by : OmnoSci , Date : 2005-02-07 , Time : 15:08:40 , From IP : 172.29.7.91

ความคิดเห็นที่ : 4


   อย่างเช่น

มีคนรู้ไหมว่า anonymous = OmniSci



Posted by : OmniSci , Date : 2005-02-07 , Time : 15:23:22 , From IP : 172.29.7.91

ความคิดเห็นที่ : 5


   ที่คุณ OmniSci (ตกลงจะอ่านแบบที่คุณ Munich ว่าไว้หรือแบบไหนครับ?) ว่ามานั่นจะไปอิงประเด็นคุณสมบัติของ "ผู้ใหญ่" หรือ maturation ด้วย

ถ้า "ผู้ใหญ่" ต้องมีคุณสมบัติคือ "รู้สึกรับผิดชอบต่อการกระทำ การแสดงออก และความคิดเจตคติ" การที่เจตนาใช้ anonymity เพื่อ "หลบหลีก" ความรับผิดชอบที่ว่าก็เหมือนกับกระบวนการ regression นั่นเอง กลายเป็นเด็กทารกที่ทำอะไรตาม impulse ไม่ต้องถูกทำโทษตามกฏสังคม หรืออย่างมากก็แค่ถูกเอ็ด ตีมือ เสร็จแล้วก็วิ่งเจี๊ยวจ๊าวไปเล่นต่อ

sense of responsibility นี่มีความสำคัญ "ใหญ่หลวง" เพราะสังคมจะถูกกระทบโดยตรง ถ้าคนเราไม่มี sense of responsibility ต่อหน้าที่ของตนเองซะแล้ว อย่านึกฝันเลยว่าเขาเหล่านั้นจะมีต่อครอบครัว ต่อคนอื่นๆ ต่อสังคม ทุกอย่างจะวางอยู่บนผลประโยชน์หรือความพอใจส่วนตัวเท่านั้น ใส่หมวกกันน็อคก็เพื่อให้ตนเองสามารถเข้าประตู รพ.ได้แค่นั้น การมองหาเหตุของความผิดต่างๆจะเหมือนกับกระทู้ "ผมข่มขืนผู้หญิง" นั่นแหละครับ คือเกิดจากผู้หญิงมันยั่ว เพื่อนมันชวน พ่อแม่ไม่ยอมสอน ครูไม่ยอมสอน ผู้หญิงดันมาขอค้างด้วย "พวกผมก็เลยซวยไป" ไม่มีแม้แต่นิดเดียวที่จะแสดงว่าตนเองเป็นนายของการกระทำของตนเอง

อย่างนี้น่าจะเข้าถึงปรัชญาวิชาชีพของพวกเราได้ยากทีเดียว



Posted by : Phoenix , Date : 2005-02-07 , Time : 15:56:58 , From IP : 172.29.3.109

ความคิดเห็นที่ : 6


   ประโยชน์ที่ได้คือ : ได้ระบายความอัดอั้นตันใจ คับข้องใจ ที่ไม่สามารถจะพูดกับใครได้ ด้วยเหตุผลอันใดก็แล้วแต่ จุดประสงค์เพียงเพื่อ "ได้ระบาย"

Posted by : เดียวดาย , Date : 2005-02-08 , Time : 11:09:21 , From IP : 172.29.7.48

ความคิดเห็นที่ : 7


   ก็จะตกอยู่ใน indication ข้อที่สองครับ คือลด barrier หรืออุปสรรคที่ไม่อาจจะแสดงออกเพราะปัญหาเรื่อง status

ขอให้ไม่ลืมว่าเราต้องเคารพในสิทธิของผู้อื่นด้วย จะระบาบยังไงก็ได้ครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-02-08 , Time : 11:51:46 , From IP : 172.29.3.185

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.02 seconds. <<<<<