ความคิดเห็นทั้งหมด : 60

มานี มานะ ปิติ ชูใจ ..........เพื่อนเก่าในความทรงจำ


   มานี มะนะ ปิติ ชูใจ ฉบับจบค่ะ
แพทย์หญิงมานี รักเผ่าไทย ออกจากห้องคนไข้คนสุดท้ายเมื่อเวลา 16.55 น.

พยาบาลที่รออยู่หน้าห้องรายงานว่า

มีสุภาพสตรีคนหนึ่งมาคอยพบอยู่ที่ห้องพักร่วมสองชั่วโมงแล้ว

มานีรู้สึกตื่นแต้นจนแทบระงับไม่ไหว

เธอขอบใจนางพยาบาลคนนั้นพลางถอดเสื้อคลุมและส่งเครื่องมือแพทย์ให้

แล้วรีบเข้าไปล้างมือในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด

มานีรู้ดีว่าสุภาพสตรีคนนั้นคือชูใจ

ชูใจเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันเลยตลอดเวลา

17 ปี แม้จะได้ส่งข่าวคราวโทรศัพท์ถึงกันและได้เห็นภาพถ่ายอยู่เสมอ

ก็ไม่ดีใจเท่าจะได้พบกันในวันนี้



เมื่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 แล้ว



ของมานีก็ส่งเธอไปเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาที่กรุงเทพมหานครเช่นเดียวกับมานะ

ส่วนชูใจเรียนต่อที่โรงเรียนประจำอำเภอ แล้วทั้งสองก็ไม่ได้พบกันอีกเลย

เพราะย่าของชูใจเสียชีวิต แม่ของชูใจมารับเธอไปอยู่ด้วยที่เพิร์ธ

ประเทศออสเตรเลีย พ่อเลี้ยงของชูใจเป็นประธานบริษัทเครื่องหนังที่ร่ำรวย

เขาเป็นหมันจึงรักชูใจเหมือนลูกแท้ๆของเขา ชูใจมีชีวิตที่สุขสมบูรณ์

เธอเรียนต่อด้านการออกแบบเครื่องหนัง

และทำงานในบริษัทของพ่อเลี้ยงนั่นเอง

และแต่งงานกับลูกชายรองประธานบริษัทซึ่งทำงานอยู่ด้วยกัน



วันนี้ชูใจมีโอกาสได้กลับมาประเทศไทย



เพื่อไปร่วมฉลองพิธีการแต่งงานของปิติที่จังหวัดลำปางในอีกสองวันที่จะถึงนี้

ปิติเรียนสำเร็จจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ได้พบกับเจ้าสาวของเขาระหว่างเรียนด้วยกัน

เจ้าสาวของปิติเป็นลูกสาวชาวสวนผู้มั่งคั่งของจังหวัดลำปาง



เมื่อมานีผลักบังตาเข้าไป สุภาพสตรีที่นั่งกระวนกระวายอยู่โผเข้ามากอด

ทั้งสองกอดกันแน่นหัวเราะพลางร้องไห้พลางด้วยความดีใจสุดขีด

"มานีจ๋า ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน"

"ฉันก็เหมือนกันจ้ะ ชูใจ เธอน่าจะชวนปีเตอร์มาด้วย"

มานีพูดถึงสามีของชูใจ

ชูใจคลายวงแขนออก จ้องมองเพื่อนรักทั้งๆที่น้ำตายังนองหน้า

"ปีเตอร์เหรอจ๊ะ

เขาอยากมาจะแย่ แต่ตอนนี้ไม่ว่าง คราวหน้ามานีแต่งงาน

ฉันพาเขามาด้วยแน่ๆ"

มานีหัวเราะ ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้ชูใจและตนเอง

จูงเพื่อนไปนั่งที่เก้าอี้ "ฉันคงไม่มีวันนั้นหรอกจ๊ะ"

"อะไรกัน? เธอน่ะทั้งสวย ทั้งดี จันทรเขาเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะ"

"อ้าว ไปพบจันทรกับเพชรมาแล้วเหรอ นี่เธอมานานแล้วซี

ไหนว่าจะนอนพักซักงีบ

เครื่องลงเมื่อตีสี่ไม่ใช่เหรอ"

"ใครจะไปงีบลงล่ะจ๊ะ หัวใจมันร่ำร้องอยากพบเพื่อนๆ

อากับอาสะใภ้ไปหาฉันที่โรงแรมเมื่อแปดโมง ฉันก็เลยมากับอา ไปบ้านอา

ไปกรอบคุณแม่ของเธอ คุณพ่อยังไม่กลับจากทำงาน

ไปบ้านปิติเจอแต่แม่ของปิติเหมือนกัน แล้วก็ไปบ้านจันทรกับเพชร

ร้านของเขาใหญ่โตดีนะ น้าของเขาก็มอบให้จันทรกับเพชรดูแลร้าน

ลูกคนเล็กของเขาน่ารักนะ อีกสองคนไปโรงเรียนเลยยังไม่ได้พบ

ถ้าฉันไม่มีทางจะมีลูกได้ ฉันจะขอลูกของจันทรไปเลี้ยง

ไม่รู้เขาจะให้หรือเปล่า" ชูใจคุยจ้ออย่างมีความสุข

"คงให้นะ เพราะจันทรกับเพชรก็รักและไว้ใจชูใจมาก

เออ....เสียดายครูไพลินกับคุณอาทวีปย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว

เธอเลยไม่ได้พบ"

"นึกถึงความหลังแล้วมีความสุขจัง ถ้าย่ายังอยู่ก็ดีนะ

ยายของปิติก็เสียแล้ว

พี่มานะอกหักแล้วยังหาใหม่ไม่ได้เหรอจ๊ะ ติดยศพันตรีแล้วไม่ใช่หรือ

กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยไหม แล้วพี่เขาจะกลับลำปางกับเราไหมจ๊ะ"

มานีหัวเราะเบาๆ "พี่มานะเขามีคนรักใหม่แล้ว

แต่ไม่รู้จะแต่งงานกันเมื่อไหร่

อาจจะได้พาปีเตอร์มาเร็วๆนี้ก็ได้นะ วันนี้วันศุกร์พี่มานะมาไม่ได้

พรุ่งนี้เขาจะมาแต่เช้า ไปกับเราด้วย"

"พี่วีระซินะ น่าสงสาร คนดีๆไม่น่าจะเป็นอย่างนี้เลย"

ชูใจรำพึงอย่างสลดใจ

"เขามีภรรยาไม่ดีจ๊ะ เลยกลายเป็นคนขี้เมาหยำเป เสียสติ เลอะเลือน

เพชรต้องดูแลลุงกับป้าแทน เพชรเป็นคนดีมาก ฐานะของเขาดีทีเดียว

น้องๆได้เรียนสูงๆทุกคน"

"ตอนเขากับจันทรแต่งงานกัน ไม่มีใครบอกฉันเลย" ชูใจตัดพ้อ

"เขาไม่ยอมให้บอกจ๊ะ มีสตังค์แล้วจะพาลูกๆไปเยี่ยมเธอเอง"

"ขอให้จริงเถอะ เธอก็เหมือนกัน บอกว่าจะไป จะไป ไม่เห็นไปสักที"

ชูใจควักค้อน

"เพิร์ธน่ะน่าอยู่น่าเที่ยวนะ ฉันไปเที่ยวมาหลายแห่งแล้ว

ไม่ชอบใจเท่าเพิร์ธเลย ฉันชอบไปที่บุญที่วัดโพธิญาณกับแม่บ่อยๆ

บางทีพ่อก็ไปด้วย พ่อเลี้ยงของฉันเป็นพุทธศาสนิกชนไปแล้วรู้ไหม"

มานีหัวเราะชอบใจ "ชูใจยังใช้ภาษาไทยได้ดีอยู่นะ

จากไปตั้งสิบกว่าปีแล้ว"

"ฉันพูดภาษาไทยกับแม่เสมอ แต่เรื่องเขียนนี่สิ

ต้องขอบใจมานีที่เขียนจดหมายถึงฉันอยู่เรื่อยๆ

ทำให้ฉันได้อ่านและเขียนภาษาไทย ไม่ลืมภาษาไทย

พจนานุกรมที่เธอส่งไปให้น่ะ

ฉันใช้อยู่เสมอเวลาเขียนจดหมายถึงเธอ

ม่ายงั้นคงเหมือนกับโคลงโลกนิติที่ว่า

อักขระห้าวันหนี เลยจ๊ะ"

"ชูใจหิวไหมจ๊ะ" มานีถามด้วยความเป็นห่วง

"ไม่หรอกจ๊ะ ก่อนมาหาเธอ จันทรเขาทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ให้ทาน อร่อยจังเลย

ไม่ได้ทานนานแล้ว"

"เย็นนี้เราก็จะไปทานข้าวที่บ้านจันทร

เธอจะกลับไปค้างที่โรงแรมหรือเปล่าจ๊ะ"

"เรื่องอะไร? " ชูใจค้อน "ฉันเตรียมกระเป๋ามาแล้ว นอนกับเธอ

พรุ่งนี้เราก็ไปลำปางกันเลย เพชรเขาจะขับรถพาไป

แต่ทางโรงแรมเขาบริการเอง"

"ปิติคงตื่นเต้นดีใจมากนะ นี่คงจะอยากมาหาพวกเราเต็มแก่

ถ้าไม่ติดว่าจะต้องเป็นเจ้าบ่าว"

"ฉันโทรไปหาเขาแล้ว" ชูใจพูดยิ้มๆ "ดีใจมากเลย เสียงเอะอะโล้งเล้งตามเคย

นี่เดี๋ยวคงโทรมาหาพวกเรา"

"ถ้าเช่นนั้น เราไปบ้านจันทรกันดีกว่านะ"

มานีพูดพลางลุกขึ้นหยิบกระเป๋าถือ

"เดี๋ยวจะวานให้รถโรงพยาบาลไปส่ง ฉันไม่มีรถ ใช้แต่จักรยาน"

"ไม่ต้องหรอกค่ะ ท่านรองผู้อำนวยการผู้แสนมัธยัสถ์

ฉันมีรถตู้ของโรงแรมมาส่งและคอยรับใช้อยู่ตลอดเวลา

ตามคำสั่งของแด๊ด..เอ๊ย...ของพ่อ

พ่อจองโรงแรมให้และสั่งให้โรงแรมบริการทุกอย่าง ของฝากเธอก็อยู่ในรถ

ฉันมีกระเป๋าถือเก๋ๆ ที่ฉันออกแบบเองมาฝากเธอด้วยล่ะ"

"เฮ้อ...คนมีสตังค์ล่ะก็ เนรมิตอะไรได้ทุกอย่างนะ" มานีพูดยิ้มๆ

"ชดเชยกับที่ฉันเคยลำบากเมื่อเล็กๆไงล่ะ แหม คิดถึงย่าจังเลย"



ทั้งสองเดินเกี่ยวก้อยคุยกันไปยังที่จอดรถ

ซึ่งมีรถคันหรูของโรงแรมมีชื่อจอดอยู่

"เธอสั่งงานไว้เรียบร้อยแล้วหรือ จะพักร้อนตั้งอาทิตย์เชียวนะ

เห็นจันทรบอกว่าเธอเป็นหมอที่เอาใจใส่ห่วงงานมาก

แม้จะมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้อำนวยการแล้วก็ตาม คนทั้งอำเภอรักเธอ

ชอบเธอมากนี่ เมื่อตอนโรคฉี่หนูระบาด

เขาว่าเธอไม่ได้หลับได้นอนเลยนี่ใช่ไหมจ๊ะ"

"จ๊ะ ตอนนั้นแย่หน่อย หมอ พยาบาล เหน็ดเหนื่อยกันทุกคน

ตอนนี้ค่อยยังชั่ว

ถ้าเธอมาตอนนั้น หรือปิติแต่งงานตอนนั้น ฉันคงลำบากใจเหมือนกัน"



เมื่อทั้งสองขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว

รถคันงามก็ออกจากโรงพยาบาลมุ่งไปสู่ตัวเมือง

มานีกับชูใจนั่งคุยไปตลอดทาง

สมกับความรักความคิดถึงที่มีต่อกัน

มิตรภาพอันอบอุ่นเมื่อเยาว์วัยหวนกลับมาสู่หัวใจของคนทั้งสอง

ชูใจมองเพื่อนรัก แล้วพูดเบาๆว่า "แล้วเราก็ได้พบกันนะ มานี

แต่อีกไม่กี่วันเราก็ต้องจากกัน"

"แล้วเราก็จะได้พบกันอีกไม่ใช่หรือชูใจ ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่

เราก็จะได้พบกันแน่นอน"

"แน่นอนจ๊ะ มานี เราจะได้พบกัน" ชูใจตอบพร้อมยิ้มอย่างเป็นสุข

เมื่อนึกถึงเวลาแห่งความเบิกบานที่จะได้อยู่กับเพื่อนรักตลอดสัปดาห์นี้

แล้ว....เราก็ได้พบกัน

ไม่ทราบว่าอ่านกันแล้วเป็นงัยบ้างเอ่ย ไม่ได้แต่งเองนะคะ เรื่องราวทั้งหมด original จากคนแต่งคนเดียวกันค่ะ


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-06 , Time : 23:58:43 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 1


   




Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-07 , Time : 00:03:37 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 2


   





Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-07 , Time : 00:06:54 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 3


   




Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-07 , Time : 00:10:36 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 4


   





Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-07 , Time : 00:13:40 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 5


   





Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-07 , Time : 00:17:05 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 6


   ฮือ....คิดถึงตอนเด็กๆจังเลยรู้สึกว่าจะได้เรียนมานีมานะตอนป.1ถึงป.6ตอนนั้นภาษาไทยสนุกจังเลย(พอขึ้นม.ต้นแล้วน่าเบื่อมากก)



Posted by : Rpoo , Date : 2003-05-07 , Time : 00:48:33 , From IP : 203.157.14.247

ความคิดเห็นที่ : 7


   โหย คิดถึงมากที่สุดเลยครับ ไม่นึกว่าสาวน้อยร้อยชั่งจะรู้จักเพื่อนผมเหล่านี้ด้วย ผมได้ข่าวว่าหลังจากผมจบ ป.๖ ไม่กี่ปี พวกเขาก็อำลาขากวงการหนังสือเรียนภาษาไทยที่แสนสนุกไป ได้ข่าวแต่ว่าหนังสือ a-day เคยสัมภาษณ์อาจารย์ผู้ที่เขียนเรื่องนี้และลงตอนจบของเรื่องไว้ ไม่รู้ใช่ตอนเดียวกับของคุณสาวน้อยฯไหม ผมไม่ได้อ่านเพราะหาซื้อ a-day ไม่ได้ในหาดใหญ่ สมัยเรียนมัธยมผมคุยกับเพื่อนสนุก ๆ อยู่ว่า ต่อไป ชีวิตของครูไพลินกับเกษตรอำเภอจะเป็นอย่างไร ว่าแต่เจ้าโตกับเจ้านิลยังสบายดีอยู่หรือ


Posted by : พี่ว่าว , Date : 2003-05-07 , Time : 11:24:56 , From IP : 133.1.67.161

ความคิดเห็นที่ : 8


   ร้อยชั่ง เป็นรุ่นสุดท้ายค่ะ รุ่นน้องถัดมาเค้าเรียน แก้วกะกล้า

เรื่องที่เอามาให้อ่านกัน เป็นเรื่องเดียวกันกับในหนังสือ a day ค่ะ
แต่เค้ามีตอนพิเศษของชีวิตมานะด้วยนะคะ พยามยามหาแล้วแต่หาไม่เจอ
ชีวิตครูไพลินกะคุณทวีปก็เหมือนกัน มีค่ะ แต่เปิดดูไม่ได้ ไม่รู้ทำไม (ช่วงนี้คอมที่บ้านไม่ค่อยปกติเท่าไหร่)
ลอง search google คำ พวก มานี มานะ ปิติ ชูใจ อะไรพวกเนี้ยค่ะ ก็จะเจอ เยอะพอสมควรทีเดียว

คุยกับเพื่อนเก่าให้หายคิดถึงนะคะ พี่ว่าว


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-07 , Time : 17:50:04 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 9


   แง...ไม่เคยเรียนเล่มนี้
(ความเศร้าของเด็กวัดนาคกลาง.... sniff..)





Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-07 , Time : 19:36:16 , From IP : 172.29.3.223

ความคิดเห็นที่ : 10


   เอ๊ะ แล้วคุณ phoenix เรียนเล่มไหนเหรอคะ


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-07 , Time : 20:28:41 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 11


   นิทานร้อยบรรทัด ฉบับที่รูปประกอบเขียนโดยครูเหม เวชกรครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-07 , Time : 23:20:04 , From IP : 172.29.3.223

ความคิดเห็นที่ : 12


   คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกันครับ

Posted by : ลิงน้อยก้นแดง , Date : 2003-05-08 , Time : 01:54:40 , From IP : 203.145.28.76

ความคิดเห็นที่ : 13


   หนังสือ A day หาซื้อได้ในหาดใหญ่นะครับ เพียงแต่ว่าหมดเร็วมาก คงต้องถามคนขายล่ะครับ และมีเพียงบางร้านเท่านั้น (future book ที่ ลี การ์เดนส์มีนะ)

และเรื่อง มานี มานะ ใน A day ยังลงต่อเนื่องอยู่เลย ยังไม่จบนี่นา เรื่องที่สาวน้อยร้อยโล(ชั่ง) เอามาลงนี่เคยอ่านมานานแล้วนะ ใน internet นี่ล่ัะ แน่ใจเหรอว่าแต่งโดยคุณรัชนีน่ะ

เอ่อ คุณ Phoenix ครับ ถ้าจะให้ดี ลองเล่าเรื่องสมัยคุณให้ฟังกันบ้างก็ดีนะครับ
เด็กๆแถวนี้คงอยากฟัง (รวมทั้งผมด้วย)


Posted by : ArLim , Date : 2003-05-08 , Time : 03:57:19 , From IP : maliwan.psu.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 14


   นิทานร้อยบรรทัด?????

ฮ้า จริงเหรอ งั้น ต้องขออภัยในความผิดพลาดด้วยนะคะ

พี่ลิ้ม สาวน้อยร้อยโลอย่างง้านเหรอ ฮื่มมมมมมม หยาบคายมาก พี่ล้น


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-08 , Time : 12:24:25 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 15


   พี่ลิ้ม วันหลังเอาเรื่องที่ลงใน a day มาโพสต์ม่างดิ (แต่จะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธ์ไม๊เนี่ย)
นะ นะ พี่ลิ้มนะ


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-08 , Time : 12:26:34 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 16


   เอ่อ คุณ Phoenix ครับ ถ้าจะให้ดี ลองเล่าเรื่องสมัยคุณให้ฟังกันบ้างก็ดีนะครับ เด็กๆแถวนี้คงอยากฟัง (รวมทั้งผมด้วย)


โอ๊ย....เจ็บใจ (โดนว่าแก่อย่างสุภาพ!!! )

ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นร้อยกรอง (กลอดแปดพื้นบ้าน) สมัยโน้นนะหลานๆ เราเชื่อกันว่าเด็กชอบอะไรๆที่มันเป็นจังหวะจะโคน (ฝรั่งใช้ Rhym) นัยว่ามันจำง่ายกว่าร้อยแก้ว ที่มีน้อยกว่าเป็นเพราะคนแต่งจะหืดขึ้นคอก่อน นอกจากนิทานร้อยบรรทัด ก็มีหนังสือดรุณศึกษา (เล่มนี้เริ่มหน้าตาน่ากลัวดูคล้ายหนังสือเรียนมากขึ้น) ผมไม่แน่ใจจะมีใครเก็บ copy นิทานร้อยบรรทัดไว้บ้าง ถ่ามีก็อยากอ่านเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพลายเส้นของครูเหม เวชกรนั้น เป็นมรดกศิลปของไทยอย่างแท้จริง เขียนได้บรรยากาศและเก็บรายละเอียดของสภาพความเป็นอยู่ของไทยว้ได้อย่างเป็นเลิศ

ขอพูดถึงหนังสือครูเหมก็แล้วกัน สำนักพิมพวิริยะได้จัดตีพิมพ์ชุดภูติผีปีศาจของไทยซึ่งเป็นผลงานแนวประพันธ์แบบเดียวของครูเหม (นิทานร้อยบรรทัดนั้น ครูวาดประกอบอย่างเดียวครับ) มีสองเล่มคือ "วิญญาณที่เร่ร่อน" และ "ปีศาจของไทย" โดยยังคงไว้ซึ่งภาพประกอบลายเส้นของครูไว้ด้วย ไปหาซื้อมาอ่านดูนะครับ จะเป็นคนละแบบกับผีโมเดอร์นของสรจักร แต่ในด้านบรรยากาศ (ซึ่งปัจจุบัน เด็นรุ่นใหม่อาจจะเห็นว่าเสียเวลาทำมาหากิน) รับรองได้ว่ากินขาดใครๆก็ตาม ผมเห็นวางขายในร้านซีเอดที่ Diana (ที่ Lotus มีบ้างไม่มีบ้าง ผลุบๆโผล่ๆ) มีหนังสือปกแข็งรวมภาพศิลป์ครูเหมฉลองวาระร้อยปีของครูไปไม่นานนี้ (ดันขายเล่มละพัน ใครจะไปซื้อวะ)

ดูจากภาพหนังสือมานีมานะของหลานๆเนี่ย รู้สึกดีมากเลย ไม่แน่ใจว่าสำหรับชั้นไหน (อนุบาลรึเปล่า ฮิ ฮิ) ออกจะโคบาลนิดๆ (เด็กบ้านนอกเราขี่ม้าเล่นด้วยเหรอ?) ผมเรียนดรุณศึกษาตอนชั้นประถม ตะเบ็งท่องร้อยกรองพร้อมๆกันทั้งชั้น (ร้อยแก้วทำไม่ได้ครับ มันไม่มีจังหวะ) เช่น ระฆังดังเหง่งหง่าง ฆ้องใหญ่กว้างครางหึ่งๆ กลองหนังดังตึงๆ ตีกระดึงดังกริ่งๆ นักเลงร้องเพลงพลาง ตรงหน้าต่างไกว่ห้างหยิ่ง.....บุ๋มๆๆๆๆ เฮ้อ...อยากกลับเป็นเด็ก



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-08 , Time : 13:15:50 , From IP : 172.29.3.221

ความคิดเห็นที่ : 17


   คุณ phoenix คะ หม่ามี๊ ฝากบอกว่า เรียนเล่มเดียวกันเลยค่ะ อิอิ

รูปที่เอามาให้ดูเป็นแบบเรียนป.1

ชั้นสูงขึ้นไป จะเป็นเนื้อหาที่สนุกมาค่ะ

เช่น ตอนที่เพชรโดนจับตัวไปขังไว้ที่โรงเลื่อยร้างน่ะ แล้วแอบส่งรหัสลับให้เพื่อนๆ จนแก้รหัสได้ และช่วยเพชรได้สำเร็จ ยังจำกันได้ไม๊เอ่ย

นอกจากนี้ ช่วยทวนความจำกันหน่อยเ้ร้ววววววว


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-08 , Time : 13:34:14 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 18


   เท่าที่ผมรู้ งานของครูเหมนอกจากจะเป็นแนวผีแล้ว ครูยังวาดรูปหญิงเปลือยอกได้สวยมาก ถันของหญิงในการ์ตูนของครูเหมอวบอิ่มพอเข้ากับเอวองค์ที่ครูมักจะวาดให้เพรียวแล้วดูงามอย่าบอกใครเชีย

พี่ว่าว หลานลุงนิวัต


Posted by : พี่ว่าว , Date : 2003-05-08 , Time : 15:00:11 , From IP : 133.1.67.161

ความคิดเห็นที่ : 19


   ไหน ๆ ก็คุยกันเลื่องหนังสือแล้วอะ HP5 วางขายแล้วหรือยังอะครับ และที่หาดใหญ่ฉบับของ Broom ขายเล่มละกี่ตังค์อะ

พี่ว่าวอะดิ


Posted by : พี่ว่าว , Date : 2003-05-08 , Time : 15:07:23 , From IP : 133.1.67.161

ความคิดเห็นที่ : 20


   โห สำนวนพี่ว่าวเหรอเนี่ย
ทามมายวายรุ่นจาง


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-08 , Time : 16:13:16 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 21


   นิวัตฺ กองเพียรคงดีใจว่าสำนวนแกวัยรุ่น รวมเล่มของแก (นิวัต) เขียนโดยนิธิ เอียวศรีวงศ์!!! hardly a teenager at all!!!

HP5 The Order of the Phoenix จะวางขายที่อังกฤษปลายเดือนมิถุนายนนี้ ร้านซีเอด และ ร้านหนังสือชั้นสามลีการ์เด็นรับสั่งจอง (เข้าใจว่า version อังกฤษแต่คนรับสั่งจองทำหน้างงๆตอนถามว่าอังกฤษหรืออเมริกัน หน้าปกออกการ์ตูนที่วางขายแล้วๆมาเป็นหน้าปกของอเมริกัน) ในราคาประมาณ 670+ - 740 บาท (ฉบับภาษาอังกฤษ ร้านบนลีการ์เด็นถูกกว่าหน่อยนึง) ฉบับแปลคงต้องอีกสักระยะหนึ่งถึงจะแปลเสร็จ

ครูเหมเขียนเรื่องผีเฉพาะบทประพันธ์ แต่งานของครูจริงๆแล้วเป็นงานจิตรกรรม ประกอบนิยายภาพพื้นเมืองและตำนานไทยมากมาย หนังสือรวมภาพที่ผมว่าได้รวบรวมไว้เยอะพอดูทีเดียว อาวัฒน์อาจจะ adopt ของครูมาไม่มากก็น้อย



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-08 , Time : 16:28:08 , From IP : 172.29.3.221

ความคิดเห็นที่ : 22


   แก้คำตก เขียน "นิยม" โดยนิธิ ไม่ใช่เขียนโดยนิธิ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-08 , Time : 16:29:30 , From IP : 172.29.3.221

ความคิดเห็นที่ : 23


   เอามาฝากคุณ phoenix ค่ะ

แต่ไม่รู้จะใช่ นิทานร้อยบรรทัดของคุณ phoenix หรือเปล่า

------------------------------------
มีหนังสือเรียนสำหรับเด็กประถมศึกษาปีที่ 2 ปีประมาณ 2508-2510
เป็นหนังสือคล้ายๆว่าจะชื่อ นิทานร้อยบรรทัด
ผมจำได้บางวรรคว่า

....สองพี่น้องเห็นวิหคนกพูดได้
ก็พอใจอยากจะรักเป็นหนักหนา
ต่างนึกชอบชิงกันตอบสกุณา
ทั้งสองข้าไปโรงเรียนเพียรประจำ...
---------------------------------------
@ อย่าเกียจคร้านการเรียนเร่งอุตส่าห์
มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน
จะตกถิ่นฐานในคงไม่แคลน
ถึงคับแค้นก็พอยังประทังตน

@ อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว
แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดคงเกิดผล
อาจจะชักเชิดชูฟูสกนธ์
ถึงคนจนพงศ์ไพร่คงได้ดี

@ เกิดเป็นชายชาวสยามตามวิสัย
หนังสือไทยก็ไม่รู้ดูบัดสี
ต้องอับอายขายหน้าทั้งตาปี
ถึงผู้ดีก็คงด้อยถอยตระ[u]KUL[/u]**

@ จะต่ำเตี้ยเสียชื่อว่าโฉดช้า
จะชักพายศลาาภให้สาบสูญ
ทั้งขายหน้าญาติวงศ์พงศ์ประยูร
จะเพิ่มพูนติฉินคำนินทา

@ หนึ่งหนังสือหรือตำรับฉบับบท
เป็นของล้วนควรจดจำศึกษา
บิดาปู่สู้เสาะสะสมมา
หวังให้บุตรนัดดาได้ร่ำเรียน

@ จะได้ทราบบาปบุญทั้งคุณโทษ
ปะบุตรโฉดต่ำช้าก็พา[u]เฮี๋ยร[/u]**
ไม่สมหวังดังบิดาปู่ตาเพียร
เนิ่นจำเนียรแพลงพลัดกระจัดกระจาย
............................................................
จากหนังสือนิติสารสาธร
ของ
พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยาง[u]Kura[/u]**)
.............................................................
หมายเหตุ:
**ไม่สามารถเขียนคำจริงได้ต้องเลี่ยงรูปอักษรแทน
เพราะอักษรบางคู่ไม่ผ่านกรองคำของ bookcyber...-_-!
--------------------------------------


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-08 , Time : 16:50:21 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 24


   รู้สึกจะเป็นผสมๆกันหลายเล่ม "อันความรู้รู้กระจ่าง.."นั้นคล้ายๆใน "พระอภัยมณี" หรืออะไรทำนองนี้ นิทานแต่ละเรื่องมีความยาวพอประมาณ (หลายหน้าอยู่) แต่ก็ขอบพระคุณมากครับ ช่วยกรุณาเป็นธุระหามาให้



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-08 , Time : 18:22:22 , From IP : 172.29.3.221

ความคิดเห็นที่ : 25


   เรื่องที่เอามาลงให้อ่านมาจากผู้แต่งคนเดิมครับ ( อ.รัชนี ศรีไพวรรณ ) ลงใน a day เล่มเก่าแล้ว
จากนั้นเมื่อมีคนสนใจกันมากขึ้น อ.จึงได้แต่งเรื่องนี้เพิ่ม โดยลงใน a day เป็นตอนๆ ล่าสุดถึงตอนที่ 7 แล้วครับ
ถ้าพี่ว่าวต้องการยืมอ่านก็ได้นะครับ ผมมี a day ทุกเล่ม (ก็ซื้อในร.พ.ทุกเล่มนั่นแหละ)
เอารูปตอนล่าสุดมาให้ดู






Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2003-05-08 , Time : 20:14:19 , From IP : 172.29.3.210

ความคิดเห็นที่ : 26


   มานะมานีมีให้อ่านตั้งแต่ป.1จนถึงชั้นป.6เลยครับ ตัวละครทุกตัวมีบุคลิคที่ต่างกัน และร่วมเติบโตพร้อมกับเด็กนักเรียนที่อ่านทั่วประเทศ เป็นเหมือนนิยายเรื่องยาวที่ต้องตามอ่านกัน 6 ปีเชียว (จำได้ว่าได้หนังสือใหม่มาแล้ว แกะอ่านมานะมานีจนจบทุกครั้งเลย)

เรื่องที่ลงในอะเดย์นี่ ยาวเหมือนกันนะ ไว้อยากอ่านจะเอาอะเดย์ไปให้อ่านเลยละกัน

สาวน้อยร้อยโลเล่น bookcyber ด้วยเหรอ พี่ก็เล่นอยู่เวบนั้นนะ แต่ช่วงๆนี้เบื่อน่ะ ไม่สนุกเลย

แวบๆว่าช่อง ITV เอาเรื่องผีๆของครูเหมมาทำเป็นละครสั้นนี่นา เคยดูอยู่ 1 ตอน อืม อืม อืม ไม่อยากวิจารณ์อ่ะ ไม่เคยอ่านมาก่อน


Posted by : ArLim , Date : 2003-05-08 , Time : 20:15:53 , From IP : netturbo5.cscoms.com

ความคิดเห็นที่ : 27


   ข้างบนนั่นเป็นรูปของเพชรกับตายิ้มครับ
ลืมบอกไป ภาพอาจจะไม่ค่อยชัดครับ ถ่ายด้วย sony clie NR70V




Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2003-05-08 , Time : 20:18:34 , From IP : 172.29.3.210

ความคิดเห็นที่ : 28


   หนังสือ "ปีศาจของไทย" ของครูเหมที่อาจานนกไฟกล่าวถึงนั้น ผมไปจับๆดูแล้วเหมือนกันครับ รูปวาดดูแล้วเก่าๆ ขลังดี แต่ยังไม่ได้อ่านข้างในนะครับ ดูเรื่องมันโบราณๆยังไงไม่รู้ เลยไม่ได้ซื้อมา
แต่ได้เรื่อง " เพราะ เช่น ซึ่ง จึง กับ แต่ ต่อ" ของ สำนักพิมพ์วันอังคาร ซึ่งเป็นเรื่องสั้น 103 เรื่องจาก 103 นักเขียนมาแทน เพราะรู้สึกว่าคุ้มดี ถึงแม้ว่าจะสั้นจริงๆก็ตาม(เรื่องละ 1-2 หน้า)
อ้อ พูดถึงหนังสือ มีเล่มโปรดของพี่ว่าวด้วยครับ ผมกำลังสั่งกับทาง a day เป็นรวมบทสัมภาษณ์ ประภาส ศาสดาของพี่ว่าว โดยวงศ์ทนงค์ ชื่อ "เหมือนไขมัน" พี่ว่าวกลับมาจากดาวอังคารก็มายืมได้




Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2003-05-08 , Time : 20:25:41 , From IP : 172.29.3.210

ความคิดเห็นที่ : 29


   ละครที่ ITV ทำนั้น "ไม่ถึง" เลยครับ

เป็นที่รู้กันมานานแล้วว่าหนังสือผีนั้นทำเป็นหนังยากที่สุด เป็นเพราะความกลัวนั้นต้องค่อยๆ built ขึ้นมาโดยจินตนาการ และแต่ละคนก็จะมีจินตนาการไม่เหมือนกันซึ่งการอ่านจากหนังสือจะช่วย customize ได้ นอกจากนี้บรรยากาศก็อีก ละครทีวีที่ดูกันกลางวงข้าวนั้นยังไงๆก็ไม่น่ากลัว หนังโรงอาจจะช่วยได้บ้างแต่ก็มีข้อจำกัดที่เวลาและ "การเดา" ของผู้กำกับว่าคนชมจะกลัวอะไร

ข้อสำคัญคือผีของครูเหมนั้นเป็นผีห่วงหาอาทรครับ น้อยผีที่เป็นผีพยาบาท เป็นการล้อความรู้สึกด้านลึกของที่มาของผีได้อย่างดี เพราะทุกคนที่ยังติดอยู่กับโลกย์ก็จะมีคนที่ห่วงหาอาทรอยู่ทั้งนั้น วัยรุ่นที่คาดว่าจะเจอผีแหกอกแบบบ้านผีปอบ หรือผีซาดิสต์แบบ Evil Dead (ของ Sam Raimi ที่ถอดมุขมาจากชุดสยองขวัญ Night of the Living DEAD, Zombies ของ George Romero) ก็ bypass ไปได้เลยครับ

ใครชอบอะไรที่หนักๆด้วยเนื้อหา ก็มีปกแข็งสองเล่มครับ "ปฏิจจสมุปบาท" และ "อิทิปปัจจยตา" ทั้งสองเล่มโดยท่านพุทธทาส

หนังสือกำลังภายในตีพิมพ์ใหม่สองเรื่องที่ worth เก็บไว้ใน collection ได้แก่ "ฤทธิ์มีดสั้น" และ "นักสู้คะนองศึก" คอหนังสือกำลังภายในทุกคนต้องรู้จัก ลี้คิมฮวง หรือ เซี่ยวลี้ถ้ำฮวย มีดบินไม่เคยพลาดเป้าของโก้วเล้ง และ เซียวชิวจุ้ย ผู้ฝึกวิชาในบันทึกฟ้าลืมรัก ของอุนเลี้ยงเง็ก

อ่านสั้นๆแต่เนื้อหาไม่สั้น เห็นจะเป็น "นิกายเซ็น" ของหม่อมคึกฤทธิ์ แฟนๆคาดด้ว่าจะหวังอะไรจากงานเขียนของปราชญ์ไทยท่านนี้ได้ตามปกติครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-08 , Time : 21:09:22 , From IP : 172.29.3.221

ความคิดเห็นที่ : 30


   อ่านที่อาจานนกไฟว่าแล้วสงสัยได้ไปถอย"ปีศาจของไทย"มาอ่านแน่ๆเลย




Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2003-05-08 , Time : 21:14:18 , From IP : 172.29.3.210

ความคิดเห็นที่ : 31


   มีหนังสืออะไรจะช่วยแนะนำกันอีกไม๊คะเนี่ย
เป็นหนอนหนังสือคนนึงเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยรู้จักหนังสือดีๆมากนัก (นอกจากในตู้หนังสือ--แบบเก่าเก็บ--ของพ่อ)
เอาแบบดีแต่ราคาย่อมเยาหน่อยนะคะ
ยังไม่มีรายได้เป้นของตัวเอง


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-08 , Time : 23:18:30 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 32


   ผมเริ่มลุยจาก "หนังสือเก่าเก็บของพ่อ" นั่นแหละครับ ดีที่สุด ภาษาไทยไม่เน้นคำนามธรรมที่ความหมายลึกล้ำแบบอังกฤษ แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่าพรรณนาโวหารของเราก็โดดเด่นเปนเอกลักษณ์ภาษาศาสตร์เหมือนกัน พรรณนาสาธกอุปมาของเราหาได้ง่ายในวรรณกรรมและวรรณคดีเก่าๆง่ายกว่าของร่วมสมัย รวมทั้งตำนานประวัติศาสตร์ชาติเพื่อนบ้านที่เราแปลออกมา

พวกออก fantasy นิทานพื้นบ้านและ classic ที่ตีพิมพ์แล้วกับที่อยากให้ทำ เช่น รามเกียรติ์ อิเหนา สังข์ทอง พระอภัยมณี ไกรทอง ขุนช้างขุนแผน โสนน้อยเรือนงาม พระรถ-เมรี (หรือนางสิบสอง ซึ่งเป็นเรื่องชาติก่อนของ พระสุธน-มโนห์รา) ปลาบู่ทอง ฝนสามฤดู เป็นนิทานที่อ่านตอนเด็กๆได้ดีมากๆ หลังจากนั้นก็แนะนำพวก ไซอิ๋ว สามก๊ก ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน (ชื่อเดิมว่า ซ้องกั๋ง) อ้อ..ถ้าลืมชุดเพชรพระอุมาคงจะโดนเขวี้ยงหัวแน่ๆ

พวกดรามาก็จะหนีไม่พ้นของ นมส. ดอกไม้สด คึกฤทธิ์ เช่น ผู้ดี สี่แผ่นดิน อืม....อะไรอีกหว่า brain blocking ผมไม่ใคร่ถนัดหนังสือผู้หญิงเท่าไร แต่ทมยันตี โสภาค และอีกหลายๆท่านก็ครองยุทธจักรละครดรามาทั้งบนวรรณจักรและโลกทีวีมาหลายสิบปี

แอกชั้นของไทย ก็ serie เล็บครุฑ ของพนมเทียน เสือใบของคุณปรีชา อินทรปาลิต (ผู้เขียน พล นิกร กิมหงวน อันโด่งดัง)

เรื่องสั้นชุดมีมากมาย เช่น ชาวเหมืองของคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ (หนังสือของชอุ่ม ปัญจพรรค์ ก้ไม่เลวครับ) ชาวเขื่อนของป้ามนันยา ลูกอีสาน ของคำพูน บุญทวี เรื่องสั้นของรงค์ วงศ์สวรรค์ ต้นกำเนิดฮิปปี้ฉบับ original ของไทย ทุกๆท่านที่สามารถเขียนลงต่วยตูนถือว่าใช้ได้ทั้งสิ้น

นอกนั้นคงเป็นหนังสือแปลแล้วล่ะครับ ผมแนะนำเด็กๆควรจะอ่านพวกร้อยกรองให้หมดก่อน เพราะผู้ใหญ่จะมีความอดทนน้อยกว่า จะมีประโยชน์มากตอนเรียน ผมจำได้ทุกบททุกตอนของรามเกียรติ สังข์ทอง อิเหนา ที่ถูกคัดมาในบทเรียนนั้นผมเคยอ่านฉบับจริงจบแล้วทั้งสิ้น มันได้บรรยากาศที่ต่างกันออกไปจริงๆเวลาเอานิทานพวกนี้มาเรียนอีกทีนึง

สนันสนุนการอ่านจากห้องสมุดครับ หรือแม้กระทั่งเช่าอ่าน เป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆที่ราคาหนังสือบ้านเราทะลุฟ้าแบบนี้ ไม่รู้ว่ารัฐบาลปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร สมัยก่อนเด็กประถมเก็บเงินเบี้ยเลี้ยงไม่กี่บาทผมก็ซื้อพลนิกรกิมหงวนฉบับรวม 6 เล่มได้สบายๆ สมัยนี้เล่มบางกะจ๋อยเล่มละ 60 บาท ซื้อไม่ลงจริงๆ








Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-09 , Time : 00:33:01 , From IP : 172.29.3.216

ความคิดเห็นที่ : 33


   นั่นสิครับ ผมก็เป็นคนนึงที่ชอบอ่าน พล นิกร กิมหงวน มากๆ เมื่อก่อนใช้วิธีหาซื้อเล่มเก่าๆตามร้านหนังสือเก่า เช่นที่สวนจตุจักรเอา เพราะราคาถูกกว่าเยอะ ไม่งั้นไม่พออ่าน ชุดที่ชอบรู้สึกจะเป็นชุด"วัยอลเวง"(ไม่แน่ใจว่าถูกหรือเปล่า ถ้าจำผิดแก้ให้ด้วยครับ) อ่านแล้วหัวเราะอยู่คนเดียว
เดี๋ยวนี้หาซื้อยากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นชุด"วัยหนุ่ม" รวม3ตอนใน1เล่มใหญ่ๆ ขายแพงด้วย อีกสำนักพิมพ์ที่เห็นก็พิมพ์เป็นตอนๆแต่พิมพ์อย่างดี ราคาแพง ซื้อไม่ไหวเหมือนกัน คือเล่มเดียวพอไหวหรอกครับ แต่พอคิดว่าถ้าจะสะสมให้หมดทูกตอน แย่แน่ๆเลย




Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2003-05-09 , Time : 02:33:10 , From IP : 172.29.3.210

ความคิดเห็นที่ : 34


   แม้ผมจะเกิดทันพลนิกรกิมหงวน แต่ไม่เคยอ่านครับ อาจเป็นเพราะไม่ได้อยู่ในกรุของพ่อ ผมเริ่มจับหนังสือจากกรุของแม่ครับ สมัยนั้นแม่ชอบมนันยา สมัยแรกของนักเขียนท่านนี้เป็นเรื่องสั้น เช่น เลขานินทานาย ชาวเขื่อน หนังสือแปลจากห้องสมุดประถมที่ผมเทียวยืมอ่านก็บ้านเล็กในป่าใหญ่ ปีทองอันแสนสุข มัธยมผมติดแนวเขียนของศิษย์สะดือครับ ตามอ่านไปยาลใหญ่ทุกเล่ม รวมทั้งรวมเรื่องสั้นของนักเขียนทีแตกหน่อจากหนังสือเล่มนี้เช่น โอ๊ต โน้ต เพลงดาบฯ หรือประภาสยุคต่อมาผมสนใจอ่าน how to อยู่พักหนึ่ง ตามอ่านท่านพุทธทาสหลายเล่มอย่างคู่มือมนุษย์ ฮวงโป และเว่ยหลาง การ์ตูนต้องเป็นชินจัง ทุกเล่มของขอจาย์ฟุจิโกะ และไข่กวน paperback ผมสะสม Crichton M Palmer M กับ Bach R หลังสุดนี้กำลังนิยมหนังสือแนวอนุรักษ์และเศรษฐศาสตร์ ครับ หากคุณสาวน้อยฯ น้องกระหลั่วเป็ด หรือพี่นกไฟอยากแลกเปลี่ยนก็ยินดีครับ

หรือเราจะมาตั้งงชมรมหนอนกับชมรมหนังกันดี


Posted by : พี่ว่าว , Date : 2003-05-09 , Time : 08:40:30 , From IP : 133.1.67.161

ความคิดเห็นที่ : 35


   ชมรมหนอนหนังสือ จะรับหนอนตัวกลมๆ ดำๆไม๊คะ

Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-09 , Time : 12:15:56 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 36


   ผมก็เป็นลูกหม้อของศิษย์สะดือคนหนึ่งเหมือนกันครับพี่ว่าว ส่วนใหญ่จะตามเก็บพ๊อกเก็ตบุ๊ครวมเรื่องสั้นของนักเขียนค่ายนี้เช่นกัน
พี่ว่าวสะกดชื่อผิดครับ ต้องเป็น โอ๊ทส์ ไม่ใช่โอ๊ต อย่าลืม ดอนเขียน อีกคน




Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2003-05-09 , Time : 18:25:08 , From IP : 172.29.3.118

ความคิดเห็นที่ : 37


   ชมรมหนอนนั้นจะเป็น dream ทีเดียวครับถ้ามี memberที่ active คอย maintain อยู่ เกรงว่าจะหาคนประจำไม่ได้ ผมว่าผมอ่านได้หลายรูปแบบ แต่ก็ยังไม่ entertain เท่าที่ควรครบทุกรส หนังสือเคยโล้ะครังใหญ่ไปครั้งนึงประมาณพันกว่าเล่ม ได้ข่าวมีผู้มารับไปเยอะเหมือนกัน ตอนนี้กำลังงอกใหม่เหมือน hydra (แต่เร็วกว่า!!)

เห็นๆ ก็คง Harry Potter Fan Club ล่ะมั้ง ร่วมสมัยหน่อย discuss กันได้ทุกเพศทุกวัย LOTR อาจจะหนักไปนิด และคงไปได้ไม่ถึงไหนถ้ายังไม่ได้อ่าน The Simarillion กันมาก่อน

ชมรมหนังก็น่าสนใจครับ เอา video หนัง classicๆ หรือ old favourite มาดูแล้วมา discuss น่าจะบันเทิงไม่น้อย (จริงๆผมเคยบังอาจเสนอแนะชมรมภาษาอังกฤษที่นี่จัดกิจกรรม movie club เพื่ออภิปรายเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ทราบว่าป็นยังไงบ้างแล้วเหมือนกัน) ถ้าหาดใหญ่ keep soundtrack อยู่ได้สักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็จะดีมาก นี่บางเรื่องเล่นมี sound track อยู่สองสามวันเท่านั้นเอง



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-10 , Time : 01:11:06 , From IP : 203.155.144.57

ความคิดเห็นที่ : 38


   อ่านๆลงมากำลังมีความคิดจะแนะเรื่องตั้งชมรมอยู่พอดีเลย พี่ว่าวแนะก่อนซะแล้ว

จะ maintain ได้มั้ย ผมว่าไม่ยากนะฮะ มีน้องๆพี่ๆไฟแรงอยู่แล้วนี่นา

อยากทำกันจริงๆหรือเปล่าล่ะครับ
ขอเสียงหน่อย...



กลุ่มกิจกรรม Eng ยุบไปแล้วนะครับ เพราะผลงานไม่เข้าตา
กลุ่มกิจกรรมหนัง ก็น่าเบื่อเหลือทน
...ไม่ไหว อย่างนี้ต้องปฎิรูป

หนอนตัวกลมๆดำๆเอาไปทำอะไรได้บ้างอะ่ เต้น"นวล"ให้ดูก่อนสิ


Posted by : ArLim , Date : 2003-05-10 , Time : 02:26:59 , From IP : maliwan.psu.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 39


   หนอนทำได้ทุกอย่าง หึ I thing ican do อิอิ

Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-11 , Time : 16:27:13 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 40


    กิจกรรมหนังในฝันของผมอยากเป็นกลุ่มที่จัดฉายหนังพวกหนังนอกกระแสแล้วมาวิพากษ์กันในเชิงจิต-สังคมบ้าง หรือฉายหนังประเภทเกี่ยวกับชีวิตแพทย์แล้วจับกลุ่มวิจารณ์ จัดบอร์ดวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังฉาย (Thai or English) เก็บสะสมวิดีทัศน์หรือ CD หนังที่คิดว่าเป็นประโยชน์ เช่นผมว่าเราน่าจะมี collection ของ ER ที่ Times-Warner ได้ทำออกมาตั้งนานแล้ว หรือ collection เถื่อนของ Oscar nominee ในปีก่อน ๆ ชมรมสามารถใช้งบประมาณที่เก็บจากค่าดูหนัง ค่ายืมวิดีทัศน์ หรือหาสปอนเซอร์ครับ ปัญหาคือเรื่องการ maintain ชมรมเนี่ยะแหละที่ต้องคิด

Posted by : พี่ว่าว , Date : 2003-05-12 , Time : 09:08:56 , From IP : 133.1.67.161

ความคิดเห็นที่ : 41


   ชมรมนี่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์เยอะมาก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อรูปแบบและคุณสมบัติของผู้ maintain กิจกรรม

ภาพยนต์นั้นเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจมาก การสร้างภาพยนต์อย่างเดียวเป็นศิลปที่เกี่ยวข้องกันหลายกระแส ทั้งจินตนาการอุดมคติที่จะถูกถ่ายทอดออกเป็นภาพและเสียง แค่นี้ก็โดนไปสอง sections


Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-12 , Time : 14:07:35 , From IP : 172.29.3.160

ความคิดเห็นที่ : 42


   ชมรมนี่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์เยอะมาก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อรูปแบบและคุณสมบัติของผู้ maintain กิจกรรม

ภาพยนต์นั้นเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจมาก การสร้างภาพยนต์อย่างเดียวเป็นศิลปที่เกี่ยวข้องกันหลายกระแส ทั้งจินตนาการอุดมคติที่จะถูกถ่ายทอดออกเป็นภาพและเสียง แค่นี้ก็โดนไปสอง sections คือ Sound และ Visual โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาจากหนังสือซึ่งคนชมมีการคาดหวังไว้เรียบร้อยแล้ว ยังมีเทคนิคทางด้านดนตรีประกอบ และปัจจุบันอาจจะรวมทั้ง special effects ด้วย

แต่ถ้าเราต้องการให้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการคิดการมองการอภิปราย ภาพยนต์ หนังสือ หนังสือพิพม์ หรือ media อะไรก็ได้สามารถเอามาเป็นวัตถุดิบ แต่ข้อเสียคืออาจจะไม่ focus และดึงดูดแฟนเฉพาะกลุ่มได้เท่าที่ควร ขึ้นอยู่กับสมาชิกที่จะเข้าร่วมที่จะต้องเห็นประโยชน์และความหมายของกิจกรรมจริงๆจึงจะสามารถ maintain ได้



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-12 , Time : 14:14:55 , From IP : 172.29.3.160

ความคิดเห็นที่ : 43


   คิดถึงตอนเรียนประถมจังเลย
ส่วนนิทานร้อยบันทัดเคยอ่านมีอยู่ในห้องสมุดโรงเรียนที่ร้างไปแล้ว
รุ่นแม่เคยเรียนและแม่เคยท่องให้ฟังแบบที่พี่ Phoenix ท่องเลยค่ะ
น้ำตาไหลเลย เว่อร์ไปไหมเพราะว่ามันมีความทรงจำมากมายในตอนนั้น
ดีใจจังที่ได้เห็นรูปเก่าๆ อีก
อยากได้เก็บไว้จังเลย
กลับบ้านครั้งหน้าจะรื้อลังเอามาเก็บให้ดีเลย
ไม่แน่ใจว่ายังอยู่หรือเปล่า
พล นิกร กิมหงวน เคยอ่านของลุงเขย
มีหลายตอนมาก
เหม เวชกร เคยอ่านของปู่
เราเป็นรุ่นทำลายเพราะยังเด็ก เอามาอ่าน
แล้วเอาเป็นของตัวเอง
แล้วหายไป
ขอบคุณมากนะสาวน้อยที่ post อะไรที่ดีๆ น่ารักๆ มาเสมอ


Posted by : nurse , Date : 2003-05-12 , Time : 15:12:12 , From IP : 172.29.3.240

ความคิดเห็นที่ : 44


   ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ คุณ NURSE

Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-12 , Time : 23:48:43 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 45


   การที่จะ maintain ชมรมให้ยั่งยืนได้นั้นก็ต้องอาศัยคนที่มีไฟและมีความต้องการอย่างแน่ชัดว่าต้องการให้เกิดอะไรขึ้น และเพื่อจุดประสงค์อันใดอย่างที่พวกพี่ๆว่า
ซึ่งผมว่าการที่จะให้นศ.ปี1 ที่เข้าใหม่เป็นคนตั้ง หรือคาดหวังที่จะให้น้องๆ maintain ชมรมให้อยู่ได้นั้น เป็นเรื่องที่แทยเป็นไปไม่ได้เลย
ผมเห็นว่าหน้าที่ในการตั้งกลุ่มและดำรงกลุ่มให้คงอยู่นานๆนั้นเป็นหน้าที่ของพวกปีสูงๆหรือพี่ๆแพทย์ อาจารย์มากกว่า โดยที่นศ.ปี 1 ปี 2 เป็นสมาชิกที่ยังต้องการการเรียนรู้อีก
คุณ Phoenix และพี่ว่าว สนใจจะตั้งหรือเปล่าล่ะฮะ ส่วนผมไม่มีปัญหา ทุ่มให้ได้อยู๋แล้ว ส่วนนัง"สาวน้อยร้อยชั่ง" นี่ไปบีบคอมาได้ฮะ


Posted by : ArLim , Date : 2003-05-14 , Time : 15:11:25 , From IP : 172.29.2.127

ความคิดเห็นที่ : 46


   อย่าทำไรเค้านะ เค้ากัวแย้วววววว

Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-14 , Time : 17:04:11 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 47


   Book club นั้นเป็นความฝันผมตอนแก่เลยลัครับ ถ้าได้นั่งอ่านหนังสือท่ามกลางหนอนวัยต่างๆ น่าจะเป็นความสุขอย่างที่สุด แต่ที่ว่าต้องตอนแก่นั้นเป็นเพราะเรื่องเวลาครับ

จะเห็นได้ว่า activity บนกระดานของผมส่วนใหญ่จะเป็นยามวิกาล เป็นเพราะกลางวันเราต่างก็มีหัวโขนและบทบาทที่ต้องเต้นกันไปตามเพลง หยองแหยงๆจนหมดเวลาราชการ (แบบหมอๆ) แล้วจึงค่อยมีเวลาจะทำอะไรที่เป็นงานอดิเรกที่ตนเองชอบ บางท่านยังมีภาระต้องอยู่กับครอบครัว เอาลูกเข้านอน ฯลฯ จิปาถะ เพราะเหตุนี้ web board จึงเป็นเสมือน sanctuary den สำหรับผมมานานแล้ว เป็นที่ที่เราถอดหัวโขนแล้วมาสวมอะไรสบายๆที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นโอกาสอันดีที่เราอาจจะได้ทราบว่าคนอื่นคิดอย่างไรกับเราหรือความคิดของเรา โดยที่อาจจะไม่มีวันได้ยินต่อหน้าต่อตา (ประโยชน์ของการใช้ alias หรือ handle name)

จะว่าไปเราก็สามารถทำได้เกือบทุกอย่างบน virtual world นี้ ยกเว้น physical contact อาจจะไม่ real time แต่ก็มีประโยชน์ที่เราได้กลั่นกรองและมีเวลาพอสมควรก่อนที่คนอื่นจะรับรู้ความคิดของเรา (อันนี้เป็น risk ที่สำคัญของ face-to-face)

ลองเริ่มดูบ้างก็ยังได้นะครับ ถ้ามีใครสนใจมากพอ เลือกหนังสือมาสักเรื่อง แยกย้ายกันไปอ่าน แล้วกลับมาคุยกันบนนี้ อย่าเอาหนังสือที่ specific preference เกินไป



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-14 , Time : 23:06:34 , From IP : 172.29.3.208

ความคิดเห็นที่ : 48


   ถ้างั้นเริ่มสักเรื่องเลยเป็นอย่างไรครับ
แต่ผมไม่มีเรื่องจะเสนอนะครับ เพราะผมขาดการอ่านหนังสือ(นอกเวลา)มานานแล้ว

เกี่่ยวกับกลุ่มกิจกรรม(หรือชมรมของน้องปี1) Eng และ ดูหนัง คงต้องรอให้เปิดเทอมก่อนล่ะครับ แล้วผมจะลองไปกระชุ่นน้องๆเขาดู


Posted by : ArLim , Date : 2003-05-15 , Time : 03:40:27 , From IP : maliwan.psu.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 49


   เอาไทยหรือเทศ? เห็นๆตอนนี้ก็มี Harry Potter ตอนไหนก็ได้ในสี่ตอนแรก อ่านมาหลายเที่ยวมากแล้ว

อยากให้คนอื่นเสนอความเห็นมาครับ ถ้าเป็นหนังสือที่พอหาซื้อได้ยิ่งดี



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-15 , Time : 04:11:21 , From IP : 172.29.3.208

ความคิดเห็นที่ : 50


   อ่านแล้วหลงคิดว่า พวกเขาเหล่านั้นคือเพื่อนร่วมชั้นกับผมตั้งแต่สมัย
ป.1-ป.6 แล้วก็แยกย้ายหายจากไป


Posted by : ชาวสวน , Date : 2003-05-18 , Time : 11:21:46 , From IP : 172.29.2.124

ความคิดเห็นที่ : 51


   หาอ่านได้ใน aday

Posted by : N R T , Date : 2003-05-20 , Time : 18:51:02 , From IP : proxy1.chula.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 52


   เพิ่งเห็นคับว่ามีกระทู้นี้อยู่
เพิ่งจารู้ว่ามีการรวมตัวของหนอนหนังสือแถวๆนี้
หนูเล็กขออยู่ring sideแล้วกันนะคะ..
ไม่ได้อ่านหนังสือมากนัก.. แต่ชอบอ่านค่ะ..
ชอบมาตั้งแต่เด็กๆเลย..
แม่บอกว่าอ่านมาตั้งแต่ก่อน5ขวบ..
(จริงหรอคะ เด็กเริ่มอ่านหนังสือได้ตอนกี่ขวบคะ)
ที่จำได้คือเริ่มจากพวกนิทานตัวหนังสือโตๆตั้งแต่อนุบาล
แล้วเปลี่ยนมาเป็น " สตรีสารภาคพิเศษ " ตอนที่6ขวบมั้งคะ
(สตรีสารเป็นนิตยสารผู้หญิงค่ะ แต่มีภาคพิเศษ เป็นภาคของเด็กๆ
มีทั้งนิทาน การ์ตูน เรื่องสั้น เกม .. สนุกมาก)

a day น่ะ.. ซื้อไม่เคยทันเลย.. เฮ้อ..

ชมรมหนอน.. น่าสนนะคะ ^_^

อ้อ.. คุณพี่ว่าวก็เรียนเล่มนี้หรอคะ..
อิอิ.. รุ่นเดียวกันเลยดิ..
รุ่นมานีมานะ..



Posted by : nu+lekk , Date : 2003-05-20 , Time : 19:43:46 , From IP : 172.29.2.80

ความคิดเห็นที่ : 53


   ได้อ่านภาคต่อของมานีมานะแล้วดีจังคิดถึงตอนเด็กๆ หนังสือเรียน ตั้งแต่ ป1-6 แม่ยังเก็บไว้ให้ดูอยู่เลย แต่ไม่เคยรู่เลยว่ามีภาคต่อ
ถ้าจะเริ่มอ่านหนังสือเริ่มจากรื้อตู้หนังสือพ่อนั่นแหละดีที่สุด ไม่เปลืองด้วย แต่เราเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่ปู่ยังหนุ่มๆอยู่เลยตอนนี้ก็จะเก็บหนังสือทั้งหมดไว้ให้ลูกต่อ


Posted by : หนึ่ง , Date : 2003-05-25 , Time : 05:41:48 , From IP : 172.29.3.38

ความคิดเห็นที่ : 54


   คิดถึงมอ.ก็เลยเปิดเข้ามาในเว็บไซ์ของมหาลัย และ link มาจนถึงเว็บบอร์ดของคณะแพทย์
ไม่ยักรู้ว่ามีเวบบอร์ดกับเค้าด้วย อ่านแล้วก็อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้วย โดยเฉพาะ เรื่องที่ได้อ่าน มันทำให้คิดถึงตอนเด็กๆ ยังจำบทท่องจำบทหนึ่งได้
.......วันหนึ่งม้าแก่ นอนแผ่ชูคอ เด็ก10 คนรอ ขอขี่ทุกวัน
บ้างว่าแก่ไป จะไม่ขี่มัน 9 คนพากัน อยู่บ้านพอใจ
มีเด็กหนึ่งคน ซนจะขี่ม้า เอาไม้ตีขา ม้าลุกเร็วไว
ม้าลุกเด็กแย่ ล้มแผ่ลงไป ม้าวิ่งไม่ได้ ล้มทับเด็กซน....
จำได้ประมาณนี้แหล่ะค่ะ แต่ก็รู้สึกดีที่ได้คิดถึง
เป็นเด็กก็ดีนะ ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน วิตกกังวล และแก่งแย่งแข่งขัน
อยากอ่านเรื่องของคุณตั้งแต่ต้นจนจบแนบไฟล์มาให้ได้มั้ยค่ะ


Posted by : เจี๊ยบ:) , E-mail : (patthamawadee_j@hotmail.com) ,
Date : 2003-05-27 , Time : 18:52:02 , From IP : 202.28.179.1


ความคิดเห็นที่ : 55


   ร้อยชั่งเองก็ยังหาอ่านไม่ได้เลยค่ะ
แต่ว่ากันว่ามีให้อ่านต่อเนื่องใน a day แต่ไม่แน่ใจว่าเป้นตอนเดียวกับที่เอามาให้อ่านในนี้หรือเปล่านะคะ

ถ้าเกิดคุณเจี๊ยบไปอ่านเจออะไรดีๆล่ะก็ อย่าลืมเอามาฝากหนอนแถวนี้บ้างนะคะ


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-28 , Time : 22:20:18 , From IP : 172.29.2.160

ความคิดเห็นที่ : 56


   อ่านแล้วคิดถึงเพื่อนเก่าๆคับสมัยเรียนประถม .....คิดถึงชีวิตตอนเ็ด็กมันเป็นอะไรที่ประทับใจมากครับคิดถึงตอนนั้นแล้วมีความสุข อยากกลับไปเป็นเด็กอีกจัง .......

Posted by : ภาค , Date : 2006-05-16 , Time : 12:42:23 , From IP : 202.5.87.153.rev-ip.

ความคิดเห็นที่ : 57


   ถ้าจะทำหนังก็จงถ่าย dinamic shot จงถ่าย long take จงถ่าย shot side จงถ่าย extibit shot จงถ่าย full shot จงถ่าย full medium shot จงถ่าย medium shot จงถ่าย medium close up shot จงถ่าย close up shot จงถ่าย extream close up shot จงถ่าย super extreme close up shot จงถ่าย dolly zoom shot จงถ่าย deep focus shot จงถ่าย mise en scence shot เท่าที่ สไตลหนัง และงบจะเอื้ออำนวย จงตัดต่อ before cut จงตัดต่อ still cut จงตัดต่อ after cut จงตัดต่อ paching shot จงตัดต่อ ambeant จงตัดต่อ dialoc จงตัดต่อ score จงตัดต่อ sound effect จงตัดต่อ sound จงตัดต่อ dialoc sequence จงตัดต่อ action sequence จงตัดต่อ triller sequence จงตัดต่อ mongtage sequnce จงตัดต่อ ryhmic mongtage จงตัดต่อ tonal mongtage จงตัดต่อ nerative mongtage จงตัดต่อ hiphop mongtage จงตัดต่อ fast editing จงตัดต่อ slow editing จงตัดต่อ dissove จงตัดต่อ fresh fame จงตัดต่อ iris shot จงตัดต่อ over lap จงจัดแสง ไฟ3ดวง จงจัดแสง hight key จงจัดแสง low key จงจัดแสง key light จงจัดแสง fill light จงจัดแสง back light จงจัดแสง back ground light จงจัดแสง hair light จงจัดแสง kik light จงจัดแสง hight contrast จงจัดแสง low contrast จงใช้ scrime จงใช้ testing จงใช้ ิbandor จงใช้gell blue จงใช้ gell orenge จงใช้ gell red จงบริหารจัดการกองถ่าย

Posted by : 12 , Date : 2006-11-26 , Time : 17:10:21 , From IP : 222.123.4.186

ความคิดเห็นที่ : 58


   จงเขียน บท จงใส่ โครงสร้าง จงใส่ scence structure จงใส่ value จงใส่ situation จงใส่ character จงใส่ smooth transition จงใส่ main character จงใส่ sub character จงใส่ valid character จงสร้าง hero จงสร้าง antihero ดีๆ จงใส่ heroen จงใส่ anti heroen จงใส่ action จงใส่ปม anticlaimax จงใส่ conflict จงใส่ character relation ship จงใส่ character relation ship to situation จงใส่ character relation ship to action จงใส่ character relation ship to anti claimax จงใส่ relation ship จงใส่ will to power จงใส่ will จงใส่ need จงใส่ want จงใส่ desir จงใส่ diabolic จงใส่ metafer จงใส่ index จงใส่ icon จงใส่ sign จงใส่ โครงสร้าง โครงสร้าง และโครงสร้าง จงใส่ความหมาย จงใส่การเป็นส่วนกับสังคม จงใส่ ผลิตภาวะ จงเขียน plot จงพัฒนาตัวละคร จงเขียนฉาก จงพัฒนาฉาก จงเขียน trement จงพัฒนา trement จงเขียน screen play จงพัฒนา screen play จงเขียน scenario จงพัฒนา scenario จงเขียน shooting script จงพัฒนา shooting script จงเขียน conceptual board จงพัฒนา conceptual board

Posted by : 12 , Date : 2006-11-26 , Time : 19:00:40 , From IP : 222.123.4.186

ความคิดเห็นที่ : 59


   จงเตรียมการถ่ายทำ จงวิพากษ์ตัวเองสัก 5 หน้าก่อนลงมือเขียนหรือพัฒนาบทแต่ละครั้ง จงหาทุนสร้าง จงหาทีมงาน จงหาตากล้อง จงหานักแสดง จงหาผู้จัดการกอง จงหาผู้กำกับ จงหาโปรดิวเซอร์ จงหานายทุน จงหาผู้กำกับศิลป์ จงหาซาวนด์แมน จงหาบูมแมน จงหาคอสตูม จงหา พร๊อบ จงหา สถานที่ถ่ายทำ จงหาอุปกรณ์ถ่ายทำ จงเบรคดาวน์ จงทำคอลชีท จงพรีดักซ์ชั่น จงออกกองถ่าย จงจัดการ logistic จงพัฒนาความมั่นใจให้ทีมงาน จงถ่ายในขอบเขตุแต่ละวัน จงเลี้ยงข้าวกองถ่าย จงเตรียมการถ่ายในแต่ละวัน จงซ้อมบท ซ้อมคิว ซ้อมบล็อคกิ้ง จงอดทนในการถ่ายหนังให้มากๆ จงอย่าสนออสการ์ จงทำหนัง อินดีไม่ว่า ฐานะความเป็นอยู่จะดีขึ้นแค่ไหนก็ตาม จงทำหนังเพื่อวันนี้ในทุกวัน จงเขียนบทตั้งแต่ 3โมงเช้า ถึงเที่ยงทุกวัน จงวิพากษ์วิจารย์ทุกอย่าง

Posted by : 12 , Date : 2006-11-26 , Time : 19:10:40 , From IP : 222.123.4.186

ความคิดเห็นที่ : 60


   และจงเป็นคนที่โชคดีให้มากกว่าเป็นคนที่ดี

Posted by : 12 , Date : 2006-11-26 , Time : 20:37:27 , From IP : 222.123.4.186

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.035 seconds. <<<<<