อันดับแรกคือ "ข้อมูล" ก่อนครับ ที่จะตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไร
เพระถ้า Fact คือ มีหออยู่จำนวน "เท่านี้" ห้อง มีบุคลากรอยู่จำนวน "เท่านี้" คน และเป็นบุคลากรที่สถาบัน commit ว่าควรหรือต้องอยู่ในนี้ ผมว่าทางออกมันจำกัดมาก จนไม่รู้จะบ่นเรื่องอะไรต่อ หรือพูดอีกอย่างก็คือบ่นทั้งรู้ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้าเป็นยังงั้นก็ป่วยการที่จะมี action ส่วนคนจะเถียงกันเองว่าฉันขออยู่สบายกว่าคนอื่นนั้น ยิ่งแสดงออกมามาก ผมคิดว่ายิ่งลดศักดิ์ศรีของตนเองครับ อันนี้ไม่ใช่ข้อสรุปแต่เป็นแค่ความเห็น ลอง sound เสียง พชท. และแพทย์ประจำบ้านทั้งหมดประมาณ 200 คนดูก่อนก็ได้ว่า พวกคุณมีความเห็นอย่างไรว่าถ้าจำเป็นต้อง share หอพักกับบุคลากรอื่น ควรจะลงเอยอย่างไร เอาบริบทของพวกคุณเองนั่นแหละครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมอยู่บ้านพักแพทย์เลยคิดแบบคุณไม่ออก
แต่ถ้าเกิด "มีทางออกอื่น" ที่ควรจะมีอันดับแรกคือสโมสรหรือสหภาพผู้รับจ้างครับ และทางที่ดีไม่ควรจะแยกหมอ พยาบาล ทางที่ดีควรเป็นสหภาพของผู้รับจ้างทั้งหมด เพราะมันจะมีกำลังมากกว่า ตรงนี้ก็คงแล้วแต่พวกคุณกระมังว่าอยากจะรวมหรือแยกกับพยาบาล เพื่อนร่วมอาชีพ (และชะตากรรม) ของคุณทั้งในที่นี้และในอนาคตข้างนอก เอาตามบริบทความคิดภูมิหลังของพวกคุณเองนั่นแหกละครับเป็นตัวตั้ง ไม่ต้องเอาแบบผม
เสร็จแล้วก็มีตัวแทนไปต่อรองเรียกร้อง "สิทฺธิ" ของคุณ ในที่นี้คือสิทธิที่พึงมี ก็แปลว่าน่าจะมีที่มาพอสมควร เช่น อยู่ใน contract อยู่ในระเบียบทั่วไปของพนักงานของรัฐ หรือจากมาตรฐานทั่วๆไปของสถาบันอื่นๆลักษณะคล้ายๆกัน (แต่ผมได้ยินว่าที่จุฬา อยู่หอสี่คนต่อห้อง และไม่พอสำหรับทุกคนซะด้วยซ้ำ) เอามาเป็นมาตรฐานว่าอย่างน้อยเราก็น่าจะได้อย่างคนอื่น เสร็จแล้วก็ "ฟัง" คำชี้แจงและข้อมูลของผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบว่าข้อเสนอต่างๆทำได้ ไม่ได้เพราะอะไร เอามาคิดไตร่ตรองว่ามันจริงอย่างที่ง่ารึเปล่า ถ้าเราคิดได้ดีกว่านั้น มีทางออกที่เรา happy กว่านั้นก็เสนอขึ้นไป
ข้อดี:
๑) ไม่ใช่ individual project นั่นคือ ที่เสนอเป็นความเดือดร้อนของส่วนรวม ไม่ใช่ความเป็นคุณหนูส่วนตัว
๒) ความเป็นตัวตน representative ที่ official ข้อมูลที่ได้สามารถเข้าและกระจายให้สมาชิกเข้าใจได้รวดเร็ว ไม่เกิด rumour effects
๓) facilitate การขอข้อมูล official ถ้าเป็น request ที่เป็นทางการจาก officially-organized group
๔) ถ้าทำอย่างข้างต้นทุกอย่าง ผมไม่เห็นหนทางที่จะมีใครถูกไล่ออก หรือเหตุผลที่ว่า ด้วยสาเหตุใด
๕) นี่ "ไม่ใช่" การตรวจสอบความโปร่งใสของการยริหาร และสหภาพแรงงานที่ไหนๆในโลกนี้ก็ไม่ได้มีปรัชญาว่าจะตรวจสอบความโปร่งงสของการบริหาร ปรัชญาของสหภาพแรงงานคือ well-being ของคนงาน ซึ่งจริงๆแล้วในองค์กรที่เน้นคุณภาพ มันเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หรือมาตรวัดอยู่แล้ว (QCDIPSM = quality, cost, delivery, productivity, safety, and morale)
ส่วนใคร "โกง" ใคร อย่างไร คงจะต้องมีการ define ให้ชัดเจนครับ คำๆนี้มีความหมายชัดเจนตามกฏหมาย ไม่ใช่คำที่ sensationalize เล่นโก้ๆ ถ้ามีโกง ก็มีบทลงโทษตามกฏหมายแน่นอน
ส่วนการเคลื่อนไหวที่ไม่ Official นั่นเขาเรียกว่า mob ครับ และ mob ที่ทำให้สาธารณชนเดือดร้อนก็ผิดกฏหมายแน่นอนเหมือนกัน และ mob ของแพทย์ที่จะทำให้ผป.เดือดร้อนโดยตรง เพื่อเรียกร้องอะไรที่ public ไม่เห็นด้วยก็ยิ่งออกมา ugly มากยิ่งขึ้น
ผมไม่ทราบว่าคุณประเมินผลของกระทู้ที่ผ่านออกมาว่า win ขนาดไหน แต่ผมเห็นสองอย่างคือ ๑) กระทู้ที่ผ่านมาไม่ได้สร้างกำลังเพิ่ม แต่ไปทะเลาะกับพยาบาลซึ่งเป็นผู้รับกรรมเหมือนกับพวกคุณเอง และ ๒) เป็นการบ่นที่ไม่มี strategy ไม่มีการแสดงออกถึงข้อสัญญาที่ได้รับต่อสาธารชนคนเข้ามาอ่าน บุคคลที่สามมาอ่านจะเกิด negative thought ต่อพวกคุณได้พอๆกับการสงสาร แต่ใน climate ปัจจุบัน การสงสารแพทย์จากมวลชนเป็นอย่างที่คุณว่าคือน้อยลงเยอะ tactic นี้ผมไม่เห็นว่าจะเกิด pressure แต่อย่างใด whatsoever กับเป้าหมายสุดท้ายที่พวกคุณอยากได้
Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-30 , Time : 22:54:18 , From IP : 172.29.7.102
|