ความคิดเห็นทั้งหมด : 10

บันทึกของคนที่เคยข่มขืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนผู้หญิง อ่านดูสิครับบบบบบบบบบบ


   บันทึกลูกผู้ชายหัวใจเคย(รุม)โทรม

ข้อมูลจาก


หนังสือพิมพ์มติชน
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
"อารมณ์ประเภทไหนที่ทำให้ผู้ชายสามารถข่มขืนผู้หญิงได้?" คำถามนี้คงคาใจใครหลายคนไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย โดยเฉพาะเมื่อได้รับข่าวการล่อลวงเพื่อข่มขืน หรือฆ่า-ข่มขืนตามสื่อต่างๆ ไม่เว้นแต่ละวัน สำหรับข้อสงสัยนี้ วัยรุ่นชายซึ่งเคยผ่านประสบการณ์ดังกล่าวแห่งสถานฝึกและอบรมเยาวชนชาย "บ้านกาญจนาภิเษก" สะท้อนความนึกคิดผ่านบันทึกเรื่อง "ผมคือผู้ชายที่ไม่ข่มขืนผู้หญิง" หลังจากศึกษาบทความชื่อ เสี่ยงภัยข่มขืนว่า

"ผมเองก็เคยข่มขืนหรือรุมโทรมผู้หญิงมาแล้ว ทำให้ผมคิดมากเมื่อถูกจับกุม สิ่งที่ผมทำลงไปเพราะว่าเพื่อนชวน อารมณ์ชั่ววูบ การใช้เหล้า การดูสื่อลามก อีกอย่างคือผู้หญิงควรแต่งกายให้สุภาพ ไม่ควรแต่งตัวล่อแหลมหรือไปกับผู้ชายในที่ต่างๆ จะมองว่าเป็นการให้ท่า ผมอยากเตือนผู้หญิงให้ระมัดระวังคนใกล้ชิดด้วย"

"ผมเป็นผู้ชายที่เคยมีประวัติคดีรุมโทรม ผมคิดว่าเป็นเพราะความอยากรู้ อยากเห็น ตามเพื่อน ไม่คิดถึงผลที่ตามมา ผมอยากให้ผู้ชายคิดให้ดีก่อนจะทำกับผู้หญิง อยากให้ทุกฝ่ายเข้ามาแก้ปัญหานี้ และอยากให้คนในครอบครัวดูแลและอบรมเอาใจใส่ลูกหลานทั้งที่เป็นผู้หญิงและผู้ชาย อย่าคิดว่าผู้ชายไม่เสียหาย เพราะผู้ชายคือคนที่ติดคุก ในขณะที่ผู้หญิงเสียตัวไม่ดีเลยครับ"

"ผมเคยผิดพลาดกับเรื่องนี้มาแล้ว ซึ่งเป็นเพราะเมาและมีผู้หญิงอยู่ในกลุ่มของเราด้วย เขาหนีออกจากบ้านมา ทำเอาพวกผมซวยกันทั้งกลุ่ม ผมขอเตือนพวกผู้ชายที่คิดว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องสนุกนั้นไม่จริงเลย ถ้ามีโอกาสอีกครั้งผมก็ไม่เอาแล้วละครับ ช่วยตัวเองปลอดภัยกว่า ไม่เป็นเอดส์ ไม่ติดคุก"

"ผมเคยเป็นผู้ชายที่ข่มขืนผู้หญิง เพราะความคึกคะนอง ตอนนั้นผมกำลังดื่มเหล้ากันในบ้านหลังหนึ่ง และมีเพื่อนผู้หญิงมา ก็จีบกันไปจีบกันมา แต่ผู้หญิง 3 คน พวกผมมี 10 คน พอคนหนึ่งได้อีกคนไม่ได้ เพื่อนก็หาว่าไม่แบ่งกัน เราเลยต้องแบ่งกัน ถึงตอนนี้ในบ้านกาญจนาภิเษกสอนผมเยอะ เช่น การมีเซ็กซ์ต้องพร้อม ต้องเกิดจากความรัก และอยู่ในวัยที่สมควร ถ้ามีอารมณ์จริงๆ ก็ให้ช่วยตัวเองไม่ต้องอับอาย แต่ให้ทำในที่ส่วนตัว"

นอกจากผู้มีประสบการณ์ตรงแล้ว ยังมีเยาวชนชายในบ้านกาญจนาภิเษกอีกกลุ่มที่แม้จะไม่ได้ต้องคดีรุมโทรม แต่พวกเขาก็อยากฝากข้อความที่น่าสนใจเรื่องรักกับเซ็กซ์และและข้อคิดดีๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้หญิงด้วยว่า

"ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยข่มขืนใคร ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะสมยอม เพราะความรักผู้หญิงเขาคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ทำให้ความรักความผูกพันมากขึ้นมั้ง โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือขั้นแรกที่อาจนำพาให้ถูกข่มขืนได้ เพราะผู้ชายคิดแค่หลอกฟันเท่านั้นเอง และจากนั้นก็ให้เพื่อนๆ ต่อคิว"

"การป้องกันเรื่องแบบนี้อาจยากเพราะผู้ชายมีฮอร์โมนเพศเยอะต้องระบายออก ฉะนั้น ต้องแนะนำให้ผู้ชายรู้จักการยับยั่งชั่งใจให้มากขึ้น จะได้ไม่ติดคุก เสียอนาคตเพราะเรื่องเพศ และถ้ามีอารมณ์ก็ต้องรู้จักการระบายออกที่ไม่เดือดร้อน เช่น การช่วยตัวเอง การทำงานก็ช่วยกลบเกลื่อนอารมณ์ทางเพศได้สำหรับผม"

"ในฐานะที่ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่ง สิ่งที่ผมต้องทำให้ได้ถ้าผมจะเป็นผู้ชายที่ไม่ข่มขืนผู้หญิง ก็คือการควบคุมอารมณ์ตัวเอง เมื่อเห็นผู้หญิงแต่งตัวยั่วยวน และไม่เสพสิ่งเสพติดหรือของมึนเมา เพราะทำให้ผมขาดสติในการควบคุมตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ปฏิบัติยากเพราะวัยรุ่นต้องการเที่ยวและดื่ม แต่ผมก็จะทำเพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่และสังคมจะได้ไม่มีปัญหาจากคดีต่างๆ ครับ"

"ผมว่าควรสอนวิชาเพศศึกษาแบบบ้านกาญจนาภิเษก เพราะจะทำให้ผู้ชายรู้ว่ามีความเสี่ยงแต่ไหน เมื่อเวลามีเพศสัมพันธ์ และทำให้รู้ว่ามีวิธีอีกหลายวิธีที่ไม่ต้องไปข่มขืนใคร เช่น การช่วยตัวเอง"

"จากประสบการณ์ของผมๆ คิดว่าการให้ความรู้วิชาทักษะชีวิตและสิทธิทางเพศ ที่ในบ้านกาญจนาภิเษกช่วยได้มากเลยนะ ผมว่าน่าให้ความรู้กับวัยรุ่นทั่วๆ ไปด้วย และในส่วนตัวแล้วผมคือผู้ชายที่ไม่ข่มขืนผู้หญิงแน่ครับ เพราะผม...มีต้นทุนที่ดีพอครับ"

เมื่ออ่านหัวใจพวกเขามาถึงบรรทัดนี้ หวังว่าคุณผู้หญิงคงจะเริ่มเข้าใจ...

-----------------------------------------------------------------------


Posted by : ผีทะเล , Date : 2005-01-24 , Time : 21:59:03 , From IP : 172.29.4.55

ความคิดเห็นที่ : 1


   ขอมองโลกในแง่ร้าย และอย่างคนมีลูก (สาว) สำหรับบทความนี้

๑) ผมไม่เห็น remorse หรือการรำลึกถึง "ความผิด" ของตัวผู้เขียนที่ชัดเจน และการทบทวน "ความทุกข์" ของผู้หญิงที่ถูกข่มขืนจากบทความนี้ ในบรรดา "สาเหตุ" ทั้งหมดที่ยกมาที่พอจะเป็นของตัวคนเขียนนั้นมีแค่ "อารมณ์ชั่ววูบ" แค่นั้น ทีเหลือได้แก่ เพื่อนชวน เหล้า สื่อลามก ผู้หญิงแต่งตัวยั่วยวน ให้ท่า อยากรู้อยากเห็น ตามเพื่อน คนในครอบครัวไม่อบรม ผู้หญิงสมยอม ผูหญิงคิดว่ามีเพศสัมพันธ์ดี ผู้ชายมีฮอร์โมนเยอะ ต้องระบายออก วัยรุ่นต้องการเที่ยวและดื่ม" มีอยู่ตอนหนึ่งยังบอกว่าการมีผู้หญิงหนีออกจากบ้านมาอยู่ ทำให้ "เขาซวยไปทั้งกลุ่ม" ยังกับว่าพวกนี้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ถ้ามีผู้หญิงมาอยู่ด้วย จะต้องข่มขืน์??

๒) ผู้เขียนไม่ได้พยายามคิดถึง "ผลเสียของการข่มขืนต่อฝ่ายหญิง" มีอยู่คำเดียวคือ ผู้หญิงเสียตัวไม่ดี แต่กล่าวถึงผลเสียของฝ่ายชาย เช่น ติดคุก เสียอนาคต และที่ชัดเจนมากสำหรับเหตุผลที่จะไม่ข่มขืนคือ "ผมก็จะทำเพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่และสังคมจะได้ไม่มีปัญหาจากคดีต่างๆ " ผมคิดว่ากระบวนการคิดแบบนี้น่ากลัว เนื่องจากมุมกลับคือ โทษต่างๆจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ "เขาถูกจับได้" เท่านั้น แทนที่จะคำนึงถึงบาปกรรม ความทุกข์ทรมานของผู้ที่ถูกข่มขืน ณ เวลาที่ข่มขืน เป็นสาเหตุหลักของการไม่พึงกระทำ คล้ายๆกับถามว่า "ทำไมไม่ควรลอกข้อสอบ" แล้วแทนที่จะตอบว่า "เพราะมันทุจริต เป็นการโกง ไม่ควรทำ" กลับตอบว่า "เพราะถูกจับได้ จะมีโทษให้สอบตก" ถ้าสาเหตุที่แท้จริงเป็นการ Punishment เพราะถูกจับได้ ไม่ใช่เพราะตัวการกระทำนั้นไม่บังควร สังคมจะหมิ่นเหม่ต่อการที่เราพึงกฏหมายและผู้พิทักษ์สันติราษฏร์แทนที่จะพึ่งพาคุณธรรม

สรุปแล้วการแก้ไขจากบทความนี้ก็คือคนรอบข้างเป็นหลัก ส่วนตัวเองก็หาทางระบายออก และเหตุผลคือกลัว "ตนเอง" เสียอนาคต ไม่ใช่เพาะว่าเป็นการทำร้ายคนอื่น ผมไม่เข้าใจบทสรุปว่าหวังว่าคุณผู้หญิงคงจะเริ่มเข้าใจหมายความว่าอะไร?

และไอ้ที่บรรยายมาทั้งหมดนี่มันเป็น "ลูกผู้ชาย" ตามคัมภีร์เล่มไหนไม่ทราบได้



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-25 , Time : 01:10:05 , From IP : 172.29.7.234

ความคิดเห็นที่ : 2


   เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ

Posted by : Holocron , Date : 2005-01-25 , Time : 12:16:01 , From IP : 172.29.2.203

ความคิดเห็นที่ : 3


   ในฐานะลูกผู้หญิงคนหนึ่งเห็นด้วยกับอาจารย์นกไฟอย่างยิ่งและเป็นกระทู้ไม่สร้างสรรค์ค่ะ
ไม่เกิดประโยชน์ในการเก็บมาฝากผู้อื่น


Posted by : ไม่น่าอ่าน , Date : 2005-01-25 , Time : 16:56:21 , From IP : 172.29.7.30

ความคิดเห็นที่ : 4


   น่าจะทำให้เราเริ่มเข้าใจว่า
คนที่กระทำการ....มองความผิดของตนเองได้ค่อนข้างน้อยหรือมองไม่เห็นเลย แต่มองเป็นความผิดของคนอื่น และกล่าวโทษคนอื่นเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หญิง เพื่อน หรือพ่อแม่ เหล้า และ....
ไม่มีมุมมองที่คิดว่าเป็นความผิดของตนเองสักเท่าไหร่โดยเฉพาะ เรื่องความไม่สามารถยับยั้งความอยาก.... ดูๆไปก็คงเป็นพวก antisocialนั่นเอง ที่มีsuperegoเว้าแหว่งไม่รู้จักคำว่า ผิดหรือชั่ว ทางที่ดีหลีกให้ไกลได้เป็นดี


Posted by : pisces , Date : 2005-01-26 , Time : 05:40:53 , From IP : 172.29.7.25

ความคิดเห็นที่ : 5


   นั่นสิ เห็นด้วยกับ phoenix อย่างยิ่ง ผู้ชายพวกนี้ คิดได้แค่นี้เองเหรอ? ดีแต่โทษเพื่อน โทษเหล้า โทษสถานการณ์ โทษผู้หญิงว่ายั่ว ต่อให้ติดคุกอีกซัก 100 ปีมันก็ไม่มีวันสำนึกได้หรอกว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันทุเรศแค่ไหน รอไปสำนึกผิดในนรกก็แล้วกันนะ

Posted by : erik , Date : 2005-01-26 , Time : 21:29:38 , From IP : 61.19.202.46

ความคิดเห็นที่ : 6


   นั่นดิ เห็นด้วยกับอาจารย์มากๆ อ่านตอนแรกงงมาก ที่มันบอกว่า "ทำเอาพวกผมซวยทั้งกลุ่ม" ขอโทษเหอะ ถ้าแกไม่ไปข่มขืนเค้าแล้วแกจะซวยเรอะ ทำยังกะว่าผู้หญิงไปบังคับทำให้มันอยู่ในภาวะจำยอมต้องข่มขืนเค้างั้นแหละ ไอ้พวกนี้นี่คิดได้แค่นี้เอง

Posted by : w , Date : 2005-01-27 , Time : 02:07:55 , From IP : 172.29.4.123

ความคิดเห็นที่ : 7


   ไม่เคยเป็นเด็กกันหรือครับ

Posted by : โธ่ พวกคุณก็เหมือนกันแหละ , Date : 2005-01-30 , Time : 19:18:10 , From IP : 203.157.254.2

ความคิดเห็นที่ : 8


   ทุกคนเคยเป็นเด็กมาก่อนครับ แต่ไม่ค่อยมีสักกี่คนที่เที่ยวไปข่มขืนผู้หญิง อยากจะลอง share ประสบการณ์อะไรเพิ่มเติมบ้างไหมครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-30 , Time : 19:35:46 , From IP : 172.29.7.142

ความคิดเห็นที่ : 9


   การที่เขาคิดแบบนั้น น่าจะเป็นการส่งสัญญาณดี ที่เขาจะกลับตัวกลับใจ เราควรส่งเสริม ให้โอกาส และสอนเขาเพิ่มสิครับ ไปว่าเขาแบบนี้อย่เดียว ก็น้อยใจไปอีกสิ

Posted by : โธ่ พวกคุณก็เหมือนกันแหละ , Date : 2005-02-01 , Time : 17:08:01 , From IP : 203.157.254.2

ความคิดเห็นที่ : 10


   ส่งเสริมนั้นต้องส่งเสริมให้ถึงที่สุดครับ ถ้าเอาแค่เน้นพิธีการแต่ยังไม่ได้หลัก เราจะมีแต่ตัวเลขว่าเราอบรมจบไปกี่คน โดยผลที่ได้ไม่ตรงตามที่เราต้องการ

"กลับตัวกลับใจ?" จากบทความนี้ ผมว่ายังครับ จะน้อยใจก็ไม่เป็นไรครับ แต่อยากให้เขาอ่านสิ่งที่หลายๆคนได้ "สะท้อน" ความหมาย เวลาที่เรา "กลับตัวกลับใจ" นั้น เขาต้องมองเห็นก่อนว่าของเดิมมันไม่ดีอย่างที่สังคมบอกว่าอย่างไร ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ นั่นคือยังเข้าใจผิด เราก็สมควรจะอบรมต่อครับ คนที่มีแนวโน้มจะกลับตัวกลับใจน่าจะรับฟังคำตักเตือนต่อไปได้ ไม่ใช่ใจน้อยปุ๊บ ตูกลับไปข่มขืนใหม่ดีกว่า ถ้าอ่อนไหวระดับนี้ คำกลับตัวกลับใจมันก็ไม่ใคร่มีความหมายเท่าไหร่

สิ่งที่เราอยากจะให้เด็กชายคนนี้ได้คือ การข่มขืนนั้น "มันทำร้ายคนอื่นอย่างไร" ต่างหากครับ ไม่ใช่ทำร้ายตนเองอย่างไร

เหมือนกับที่เราพยายามสั่งสอนเด็กมหาวิทยาลัยของเราให้ใส่หมวกกันน็อคนั่นแหละครับ การที่เราออกเป็นกฏแล้ว นศง ปฏิบัติตาม เพียงเพราะ "กลัวถูกทำโทษ" ไม่ได้มีความเข้าใจว่า "ทำไม" หรือสาเหตุที่มา นศ.พวกนี้ ไม่ได้กลับเนื้อกลับตัว แม้แต่คนเดียว พี่ท่านทั้งหลายขี่รถคล้อยหลังยามไม่กี่เมตร ก็ขับมือเดียวถอดหมวกออก ยังไม่ทันพ้นสายตาซะด้วยซ้ำ เหมือนกันกับบทความนี้แหละครับ

ไม่ทำเพราะ "ตัวเองจะได้ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องติดคุก" ก็เหมือนกับใส่หมวกกันน็อคกันยามด่า ยามไม่ให้เข้ามหาวิทยาลัย ผลคืออะไร ก็ถอดหมวกกันน็อคตอนไม่มียาม ก็คือกลับไปข่มขืนกันใหม่ ถ้าเขาคิดว่าเขาจะไม่ถูกจับ ไม่ถูกเข้าคุกในครั้งต่อไป

คิดว่าสาเหตุเป็นเพราะ "เพื่อน พ่อแม่ไม่สั่งสอน ผู้หญิงใส่ชุดยั่วยวน" ทั้งหมดนั้นไม่ใช่ความผิดของตัวเขาเลย แปลว่าถ้ามียังงี้มาอีก บวกกับคิดว่าน่าจะรอดตัว ก็คงจะเกิดขึ้นอีกแน่ๆ

กระบวนการ rehabilitation น้นละเอียดอ่อน และผมว่าสังคมยังต้องคำนึงถึง victim ที่เสี่ยงเวลาคนที่ยังไม่ได้ "กลับเนื้อกลับตัวอย่างแท้จริง" ออกไปเดินถนนอีกรอบ

ถามง่ายๆก็คือ หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ใครอยากจะรับเด็กคนนี้ไว้ในบ้าน อยู่ร่วมหลังคาเดียวกับพี่สาว น้องสาว แม่ หรือลูกสาวบ้างหรือไม่ล่ะครับ ผมว่าคนๆนี้ยังมีอันตรายอยู่ ยังมองไม่เห็น guilt ไม่มี remorse แม้แต่นิดเดียว ไม่ได้บอกว่าเขาหมดโอกาสที่จะพัฒนา แต่ "ต้อง" ต่ออีกระยะหนึ่งครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-02-01 , Time : 17:43:40 , From IP : 172.29.7.189

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<