>> > >>> >อ่านชื่อเรื่องแล้วอาจแปลกใจ ทักษิณหรื อที่ว่าจน >>> >ตั้งชื่อเรื่องผิดหรือเปล่า >>> > >>> >ลองอ่านนิทานเรื่องหนึ่งดูน ะครับ >>> > >>> > >>> >ในขณะที่มหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์สมบัตินับแสนล้านคนหนึ่งกำลัง ปรึกษาธุรกิจกับ >>> >ภรรยา >>> > "ท่านครับ มีขอทานสกปกคนหนึ่งรออยู่หน้าบ้าน บอกว่าอย ากพบท่าน >>> >ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปครับ" >>> > "คงจะมาไถเงินอีกนะซิ น่าเบื่อจริงๆ +++พวกไม่รู้จักทำมากิน >>> >ไปบอกให้มันมานี่ >>> > เมื่อขอทานมาถ ึง เศรษฐีกับภรรยายังคุยกันอยู่ >>> >มิได้สนใจขอทานที่มายืนอยู่ข้างๆ >>> > "ปีที่แล้ว เฉพาะตรงนี้ เราขาดทุนไปเป็นร้อยล้าน >>> >ฉะนั้นปีนี้เราต้องทำทุกวิถีทางให้ได้กำไรซักหมื่นล้า น >>> >ยิ่งเราเสียไปมากเท่าไหร่ เราต้องเอาคืนร้อยเท่า" >>> > ขอทานได้ฟังดังนั้นก็รู้ สึกสะท้อนใจ เศรษฐีที่มีสมบัติมหาศาล >>> >มีที่ดินนับพันนับหมื่นไร่ >>> >มีเงินทองมากม ายที่พอจะซื้อความสุขได้แทบทุกสิ่งบนพื้นพิภพนี้ >>> >ยังมีความต้องการอยากได้เงินอีกหมื่นล้าน >>> > "เอ้า ว่าไง+++ขอทานแกจะพบฉันมีธุระอะไร" >>> > "ตะกี้นี้ ผมตั้งใจจะขอเงินท่านซัก 10 บาท ค่าข้าวครับ" >>> > "นี่..เอาไป" >>> > เศรษฐีโยนเหรีย ญ 10 บาท ลงพื้นด้วยความสมเพช >>> >เงิน10บาทแทบหาค่าอะไรไม่ได้เลยเมื่อเทียบกับทรัพย์สมบัติที่ เขามีอยู่ >>> > "ผมไม่ต้องการแล้วละครับ ผมขาดเงินแค่ 10 บาท คงหาข้างหน้าได้ยาก >>>แ ต่ท่านซิ >>> >ยังขาดเงินอยู่อีกตั้งหมื่นล้าน เก็บ 10 บาทของท่านไว้เถอะครับ" >>> > >>> >ขอทานมอบเงิน 10 บาท คืนแก่เศรษฐี ท่านคิดว่าขอทานที่ต้องการเงิน 10 บาท >>> >กับเศรษฐ ีที่ต้องการเงินหมื่นล้าน ใครจนกว่ากัน..!? >>> > >>> >คำถามที่น่าคิดก็คือความรวยความจน ใช้สิ่งใดวัด >>> >มีเงินเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่ารวย บางคนบอกว่ามี 10 ล้านคือรวยแล้ว >>> บางคนว่ามี >>> >100 ล้านถึงจะเรียกว่ารวย ส่วนขอทานในเรื่องข้างต้น >>> >อาจจะพอใจและมี ความสุขเพียงแค่ได้เงิน 10 บาท พออิ่มท้องได้ 1 มื้อ >>> > >>> >เมื่อเป็นเช่นนี้ ความรวย -ความจน จึงไม่สามารถวัดได้ด้วยจำนวนเงิน >>> >แต่ต้องวัดใช้ความรู้สึกของคนไปวัด ความรู้สึกไม ่เพียงพอคือความจน >>> >ความรู้สึกว่ามีเพียงพอแล้วนั่นแหละคือความรวย >>> > >>> > ในบรรดาผู้คนทั้งหลายที่อาศัยอยู่ใต้ฟ้าเมืองไทยเดียวกันนี้ >>> >ผมได้เห็นว่าชีวิตของคนเราช่างต ่างกันมาก ขอทานคลานอยู่บนทางเท้า >>> >นอนใต้สะพานลอยเนื้อตัวมอมแมม ผ้าขี้ริ้วในบ้านเศรษฐี 1 ผ ืน >>> >อาจจะยังมีค่ามากกว่าทรัพย์สมบัติที่เขามีอยู่ >>> >กรรมกรแบกหามทำงานตรากตรำเหนื ่อยสายตัวแทบขาด กลับมีเงินไม่พอใช้ >>> >แต่เศรษฐีอยู่เฉยๆ แค่เงินดอกเบี้ยก็ใช้ไม่หมด เงิน 1 พัน >>> >สำหรับคนๆหนึ่งอาจหมายถึงว่าเดือนนี้จะมีเงินพอค่าข้าว ค่านมลูก ค่ายาแม่ >>>ฯล ฯ >>> >หรือไม่ แต่สำหรับบางคน 1 พันบาทอาจซื้อได้แค่อาหารเลิศรสจานเดียว >>>หรือบางที >>> >อาจไม่พอซื้อสุราต่างประเทศชั้นดีขวดเดียว >>> > >>> >สำหรับผม เงิน 10 ล้านคื อเงินมหาศาล ที่จะทำให้ผมตั้งตัว มีบ้าน มีรถ >>> >มีธุรกิจส่วนตัวฯลฯได้ >>>แต่กับบาง คนอาจซื้อได้เพียงพรมเปอร์เซีย(ผมขอเรียกว่า >>> >ผ้าเช็ดตีน)ราคาแพงผืนเดียว >>> > >>> >ผมอดคิดไม่ได้ว่า "ถ้าคนที่มีเหลือ แบ่งปันให้คนที่ขาด >>> >สังคมจะน่าอยู่เพียงใด" >>> > >>> >มีวันหนึ่ง มีคนมาขอบริจาคเงินผม >>> >เพื่อนำไปซ่อมหลังคาโรงเรียนในชนบทแห ่งหนึ่ง >>> >ผมควักเงิน 100บาทให้ไปด้วยความเสียดายหน่อยๆ >>> >แต่ก็เพื่อช่วยเหลือเพื่ อนร่วมชาติ >>> >ใจจริงถ้าผมมีเงินซักหน่อยผมอยากจะให้ซักหมื่นบาท แต่ผมทำไม่ได้ครับ >>> >หมื่นบาทนี่ผมต้องทำงานงกๆทั้งเดือน ให้ไปแล้วผมจะเอาที่ไหนกิน >>> > >>> >ผมอดรำพึงในใจ ไม่ได้ว่า "เมืองไทยยังมีโรงเรียนที่ไม่มีหลังคาอีกเหรอ >>> >แล้ว+++พวก ที่มันมีเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้านเมืองไทยก็มีตั้งเยอะแยะ >>> >มันเอาเงินไปทำอะไรกันหมด ทำไมมัน ไม่รู้จักบริจาคกันมั่ง(วะ)" >>> > >>> >แล้วผมก็อดนึกถึงท่านทักษิณไม่ได้ >>> > >>> >สมมุติว่าท่านมีเงิน หมื่นล้าน ท่านบริจากซัก 10% ก็คือพันล้าน >>> >ท่านก็ยังเหลือเ งิน 9 พันล้าน ซึ่งก็ยังเป็นเงินมหาศาล >>> >หาความสุขได้ชั่วชีวิตไม่มีทางหมด >>> >และเง ินเพียงพันล้านที่ท่านบริจากจะช่วยซ่อม-สร้างโรงเรียนได้กี่หลังกัน >>> > >>> >ในความจริง ก็คือท่านทักษิณมีทรัพย์สมบัติมากกว่านั้น >>> >และความเป็นจริงอีกก็คือ >>> >ท่านไม่เคยบ ริจาคเงินขนาดนั้น(เว้นแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง) แค่ซัก 1 >>>ล้านบาท >>> >ก็ยากเต็มทน >>> > >>> >ผมคิดว่าท่านยังรวยไม่พอ >>> >ผมพอเข้าใจ นักธุรกิจ ต้องเอาเงินไปต่อยอ ดธุรกิจ >>> > >>> >ณ.วันนี้ธุรกิจของทักษิณได้กอบโกยผลประโยชน์ไปจากประเทศไทยไม่รู้เท่าไ หร่ >>> >น่าเสียดายที่ท่านแทบจะไม่เคยมอบสิ่งใดคืนให้กับสังคมไทย(ฟรีๆ) >>> > >>> >นอกจากท่านจะไม่ให้แล้ว สิ่งที่เป็นอยู่กับตรงกันข้าม >>> >ทางใดที่จะ หลบ-หลีก-เลี่ยง >>> >การเสียภาษีหรือค่าใช้จ่ายใดๆให้รัฐฯได้ท่านจะทำ >>> >ท่านมักจะ "บกพร่องโดยสุจริต" เสมอๆ ท างใดที่จะกอบโกย ทางใดที่จะเอากำไร >>> >ท่านจะทำทุกวิถีทาง นั่นคือสิ่งที่เป็นอยู่เวลานี้ >>> >สำหรับคนที่เราคิดว่าร่ำรวยที่สุดในประเทศ >>> > >>> >มือถือระบบ AIS ของท่าน >>> >ทุกวันนี้ยังคิดค่าบริการเอาเปรียบลูกค้า(แต่ก็ยังมีคนฉลาดน้อยใช้กันอยู่) >>> >ถ้าไม่มี คู่แข่ง คงเอาเปรียบได้มากกว่านี้ เหมือนตอนสมัยเริ่มแรกที่ AIS >>> >ผูกขาดตลาด >>> > >>> >ผมไม่เข้าใจว่า ท่านต้องการเงินทองไปทำไมอีก หรือว่าตายไปแล้ว >>> >ท่านจะหอบไปด้วย >>> > >>> >ท่านเป็นนักธุรกิจโดย+++ แสวงหาทรัพย์สมบัติเป็นอาชีพ >>> >จนอาจจะลืมคิดไปว่าจะเอาไปทำอะไร >>> > >>> >คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดไว้ว่า "ถ้าผมทำธุรกิจ >>> >ผมคงไม่ประสพความสำเร็จเท่าคุณทักษิณ แต่ผมจะไม่ติดสินบนใคร >>> >แล ะผมจะไม่เอาเปรียบลูกค้า" >>> > >>> >วันนี้จัดได้ว่า ทักษิณ เป็นคนที่ประสพความสำเร็จสู งสุดในชีวิต >>> >ในแทบทุกๆด้าน >>> >ในด้านการเรียน ก็จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจด้วยคะแ นนอันดับ 1 ของรุ่น >>> >สุดท้ายก็ประสพความสำเร็จถึงขั้นจบด๊อกเตอร์ >>> >ด้านการรับราชก ารก็เป็นถึงพันตำรวจโท >>> >ถ้าไม่ลาออกก่อนป่านนี้คงได้เป็นพลตำรวจเอก ด้านชีวิตครอบครัว >>> >ก็มีครอบครัวที่อบอุ่น ด้านการทำธุรกิจ >>>ท่านก็สำเร็จถึงขั้นรวยที่สุดในประเทศ > >> >มีกิจการนับแสนล้าน มีดาวเทียมในครอบครอง และชื่อของท่าน >>> >ได้กลายเป็นชื่อมหาวิทยาลัยแห่ งหนึ่ง >>> > >>> >มีชีวิตใครบ้างที่จะเพอร์เฟคสมบูรณ์ได้อย่างท่าน...แล้วท่านยังจะต้องกา รอะ >>> >ไรอีก >>> > >>> >ยังครับ ยังไม่พอ เมื่อท่านเล่นการเมือง >>> >ก็ ได้รับตำแหน่งสูงสุดของชีวิตนักการเมืองไทยขณะนี้ >>> >คือการได้เป็นนายกรัฐมนตรี >>> > >>> >ผู้ที่ชักนำท่านมาสู่วงการเมืองก็คือ พลตรีจำลอง ศรีเมือง แต่ในวันนี้ >>> >ท่านบอกว ่า พลตรีจำลอง เป็นแค่คนรู้จัก! >>> > >>> >ผมคิดว่าท่านน่าจะพูดว่า พลตรีจำลอง เป็นคนที ่หมดประโยชน์สำหรับท่านแล้ว >>> >น่าจะตรงกว่า >>> > >>> >หลักจากที่ท่านได้เป็นนา ยกฯ ก็ได้โชว์ความสามารถในการเป็นผู้นำ >>> >หลายๆโครงการของรัฐบาลประสพความสำเร็จอย่างน่าชื่นช ม >>> > >>> >น่าเสียดายที่ท่านยังไม่ทิ้ง+++นักธุรกิจ >>> >นักธุรกิจย่อมไม่ทำอะไรโดยไม่หวังผลกำไร >>> >ทักษิณแทบจะไม่เคยทำอะไรให้สังคมไทยฟรีๆ > >> >สิ่งที่ซ่อนไว้หลังความสำเร็จอันสวยงามของรัฐบาล คือความจอมปลอม >>> >การมุ่งสร้างคะแนนเสีย ง รักษาฐานอำนาจ ผลประโยชน์ทับซ้อน >>> >เอื้อประโยชน์ให้คนใกล้ชิด ปั่นหุ้น ฮุบกิจการ >> > >การพยายามขยายธุรกิจขยายอำนาจทางธุรกิจไปทุกๆด้าน เทคโอเวอร์ประเทศไทย >>>ฯลฯ >>> > >>> >4 ปีหลังการบริการประเทศของท่าน มูลค่าทรัพย์สินในตระกูลชินวัตร >>> >เพิ่มขึ้นมากก ว่า แสนล้านบาท >>> > >>> >แสนล้านบาทที่ได้มา แม้ไม่ใช่ได้มาด้วยด้วยการคอรัปชั่น(แบบตร งไปตรงมา) >>> >แต่การใช้อำนาจหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจตัวเอง >>> >กอบโกยผล ประโยชน์ไม่รู้จักสิ้นสุด แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็พอจะเรียกได้ว่า >>> >"โกง" >>> > >>> >ธุรกิจของเครือชินวัตร ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสัมปทาน >>> >การเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของต ัวเองเป็นเรื่องที่พอจะให้อภัยได้ >>> >ถ้าไม่ทำจนน่าเกลียดเกินไป >>> > >>> >แต่ค วามต้องการของคนช่างมี ไม่สิ้นสุดจริงๆ >>> >แม้มีเงินเป็นแสนล้านแล้วก็ยังไม่รู้จักพอ ตลอด 4 ปี ของการบริการ >>> >ทักษิณได้แสดงอาการตะกละตะกามจนน่าเกลียดหลายเรื่อง >>>ในที่นี้จะขอยก ตัวอย่างแค่ >>> >7 เรี่อง >>> > >>> >1.การพยายาม เทคโอเวอร์ประเทศไทย จากการแปร รูปกิจการของรัฐ ทั้งไฟฟ้า >>> >โทรศัพท์ ฯลฯ รวมทั้งการควบคุมสื่อ อย่าง ITV >>> > >>> >2.กรณีแปรสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ผมไม่มีรายละเอียดมากนัก >>> >รู้แต่ว่าธุรกิ จในเครือชินวัตรได้ประโยชน์มากมาย >>> >สุดท้ายหุ้นกลุ่มชินวัตรขึ้นมหาศาล) >>> > >>> >3.คุณหญิงพจมาน ชินวัตรได้ซื้อที่ดินย่านรัชดาจากภาครัฐ ในราคา772 >>> >ล้านบาท >>> >ซึ่งถูกกว่าความเป็นจริงไม่น้อยกว่า5เท่า >>> >โดยมิได้มีการเปิดประมูลอย่างโปร่งใส >>> > >>> >4.หลังจากซื้อเข้าหุ้นITVแล้ว ITVก็ได้ลดค่าสัมปทาน สุดท้าย หุ้น ITV >>> >ก็ขึ้ นแบบติดจรวด ITV กำไรดี แทนที่จะคิดจ่ายผลประโยชน์คืนให้รัฐมากขึ้น >>> >กลับทำทุกทางเพื่อจ่ายใ ห้รัฐน้อยลง >>> > >>> >5.ปล่อยเงินกู้ 4 พันล้านให้รัฐบาลขิ่นยุ้นต์ของพม่า >>> > เป็นเงินกู้ตามโครงการสื่อสารโทรคมนาคม 962 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไข >>> >รัฐบาลพม่าต้องนำเงินที่ก ู้ไปซื้อสินค้าและบริการจากไทย ดูเหมือนว่าจะดี >>> >แต่ปรากฎว่าผู้ขายส่วนใหญ่อยู่ในเครือชินวัต ร >>>เอาเงินภาษีของประชาชนไปเสี่ยง >>> >ล่าสุดรัฐบาลขิ่นยุ้นต์โดนยึดอำนาจแล้ว พม่าจะช ำระเงินกู้ >>> >เมื่อไหร่อย่างไรไม่รู้ แต่ธุรกิจในเครือชินวัตรได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆแล้ว >>> > >>> >6.การคิดซื้อหุ้นลิเวอร์พูล อ้างทำเพื่อผลประโยชน์ชาติ >>> >มีการตกลงเจรจาท ี่ทำเนียบรัฐบาล แต่ปรากฏว่า "บุญคลี ปลั่งศิริ" >>> >ประธานกรรมการบริหารชินคอร์ปฯ ร่วมเจรจาที่ ทำเนียบฯด้วย ผลประโยชน์ชาติ >>> >หรือผลประโยชน์ใคร? ทำโจ่งครึ่มในทำเนียบฯ เห็นประชาชนเป็นอะไร ? >>> > >>> >7.การใช้เงินรัฐบาลหาเสียง >>> >พูดได้ว่าแม้มีเงินมหาศาลแล้วก็ยังพย ายามหากำไรทุกวิถีทาง >>> >โดยเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้ ล่าสุดจัดงาน "เหลียวหลังแลหน้าฯ" >>> >ถือเป็นการหาเสียงเต็มๆ ใช้เงินรัฐไป 200 กว่าล้านบาท >>> >มีการลดแลกแจกแถมในงานสารพัด >>> >ได้คะแนนเสียงเต็มๆแต่ตัวเองไม่ต้องควักเงินซักบาท >>> >หรือแม้กระทั่งตอนคิดซื้อหุ้นลิ เวอร์พูลเพื่อเอาใจแฟนบอล >>> >ท่านก็โชว์ความเป็นนักธุรกิจอีกครั้ง >>> >นักธุรกิจย่อมไม ่ลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น >>> >ก็เลยยัดเยียดความเสี่ยงให้ประชาชน "ได้คะแนนนิย มเยอะจัง ตังค์อยู่ครบ" >>> > >>> >ทักษิณเป็นคนที่ฉลาดมาก ฉลาดจนน่ากลัว >>> >กล โกงของทักษิณทุกอย่างทำได้อย่างแนบเนียน >>>แทบไม่มีทางที่กฏหมายจะเอาผิดได้ >>> >ความคิ ดความอ่านของทักษิณ อยู่ในระดับ เซียนเหนือเมฆ นอกจากจะเอาผิดไม่ได้ >>> >ยังมีความสามารถเปลื่ยน ดำให้เป็นขาว >>> >หาคำพูดสวยหรูมาปกปิดพฤติกรรมได้แทบทุกครั้ง ทุกวันนี้ทักษิณ >>> >กำล ังดูถูกประชาชนว่าโง่ โดยเฉพาะคนจนในชนบท ที่ใช้เงินซื้อได้ >>> >ปั้นคำหวานหน่อยก็เชื่อ ส่วนคนท ี่มีความรู้ พอจะรู้เท่าทัน ก็โดนดูถูกว่า >>> >"ถึงเอ็งรู้ทันข้า เอ็งก็ทำอะไรข้าไม่ได้" >>> > >>> >การกระทำทุกๆอย่างข้างต้นล้วนแต่บ่งบอกว่า ท่านยังไม่รวย >>> >และคนจนคนนี้ยั งมีความสามารถที่จะกอบโกยทรัพย์สมบัติจากประเทศไทยได้อีกมาก >>> > >>> >ทักษิณบอกว่า จะข จัดความยากจนให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย ผมขอบอกว่า >>> >ท่านน่าจะขจัดความยากจนในใจท่านก่อน >>> >ทักษิณบอกว่า จะปราบปรามคอร์รัปต์ชั่น ผมขอบอกว่า "เมื่อหมาป่าครองเมือง >>> >มีประโยชน์อ ันใดที่จะไปปราบหมาจิ้งจอก" >>> > >>> >ที่ผมเขียนมาทั้งหมด ไม่ได้ต้องการจะบอกว่า ทักษิณ >>> >ไม่เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรี >>> > >>> >นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารประเทศ >>> >ไม่ใช่มีหน้าที่ขึ้นแท่นยกย่องบูชาว่าเป็นคนดี >>> > >>> >ด้วยความรู้ความสามา รถของทักษิณ >>> >ในจำนวนตัวเลือกทั้งหมดที่คนไทยมีอยู่ขณะนี้ >>> >ทักษิณจะยังเป็นตัวเลื อกที่ดีที่สุดของคนไทย ผมไม่ปฏิเสธ >>> > >>> >สิ่งที่ผมต้องการคือ ให้พวกเราช่วยกันสอดส ่องดูแลผลประโยชน์ของพวกเรา >>> >และเราต้องแสดงพลังว่าเรารู้ทันเขา เราไม่ได้โง่ >>> > >>> >และอีกอย่างที่ผมต้องการคือ หากเป็นไปได้ ผมอยากให้ท่านทักษิณ >>> >หยุดพฤติกรรมบาง อย่างซะ(หากเสียงเล็กๆของผมจะได้ยินถึงท่าน) >>> >ด้วยความรู้ความสามารถของท่านทำให้ผมเสียดาย >>> >ผมเคยหวังให้ท่านเป็นผู้นำแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย เสมอมหาเธร์ >>> >มุฮัมมัดของมาเล เซีย เสียดายที่ท่านมุ่งกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัวไม่สิ้นสุด >>> >และไม่มีความจริงใจกับประชาชน น่า เสียดายจริงๆ >>> > >>> >ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทักษิณทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้ได้จำนวน ส.ส. >>> >มากที่สุด โดยตั้งเป้าถึง400 เสียง โดยเฉพาะการใช้ "พลังดูด" >>> >มีพรรคการเม ืองหลายพรรค โดนดูดอย่างรุนแรง ถึงขนาดถูกกลืนไปทั้งพรรค >>> > >>> >ดังนั้น ยังไงๆซะ ทั กษิณ จะชนะการเลือกตั้ง >>> >ได้เป็นนายกฯอีกสมัยอย่างแน่นอน >>> > >>> >และหากทัก ษิณได้เสียงในสภาถึง 400 เสียงจริง >>> >นั่นหมายถึงว่าคนไทยโง่และรู้ไม่เท่าทัน ต่อไปจะกอบโกยสิ ่งใดจากประเทศไทย >>> >ย่อมง่าย >>> > >>> >แต่ถ้าได้เสียงในสภาประมาณ 250 - 300 เ สียง ทักษิณก็จะฟังประชาชนมากขึ้น >>> >ประเทศชาติก็จะได้ประโยชน์มากขึ้น >>> >การแสวงหา ผลประโยชน์จากสมบัติของชาติก็จะน้อยลง >>> > >>> >ช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ของพวกเราเถอะคร ับ >>> > >>> >อย่าสนใจฟุตบอลอังกฤษ มากกว่าการเมืองในประเทศ >>> >อย่าสนใจเงินใน กระเป๋าตัวเอง มากกว่าเงินในกระเป๋าชาติ >>> >อย่าให้คนที่ไม่มีทางรวยอย่างทักษิณ ชินวัตร >>> >กอบโกยผลประโยชน์-เผาพลาญสมบัติชาติอีกต่อไป >>> > >>> > >>> > >>> >เรียบเรียงโดย.. ชาวนา หมายเหตุ กระทู้นี้แค่อยากฟังความคิดเห็นของพี่น้องชาวคณะแพทย์ของเราอ่ะครับ ตัวผมเองไม่มีความรู้พอจะพิจารณาความน่าเชื่อถือของบทความนี้ได้ ยังไงถ้าส่อในทางหมิ่นประมาทฝาก WM ลบทิ้งด้วยแล้วกันครับ ขอบคุณที่อ่านครับ" />
นักธุรกิจทำอะไรย่อมหวังผลกำไรเสมอ Posted by : กิฟท์ซี่ , Date : 2005-01-24 , Time : 01:50:25 , From IP : 172.29.3.102 |
อย่าว่าคนบ้านนอกเลย นักวิชาการในมอ.ที่หน้ามืดตามัว ยังหลงคำโกหกของนายทักษิคนนี้เลย หลายคนด้วย Posted by : BTV , Date : 2005-01-24 , Time : 08:27:33 , From IP : 172.29.1.133 |
ใครเลือก ไอ้แม้ว ก็เขา งอกว่ะ Posted by : y , Date : 2005-01-27 , Time : 12:39:49 , From IP : 172.31.0.128 |
น่าจะมีนิทานคำเมือง! Posted by : fff , E-mail : (-) , Date : 2005-09-17 , Time : 16:11:39 , From IP : 203.155.169.16 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<< |