ความคิดเห็นทั้งหมด : 14

เรียนมาจนจะสอบ Block ที่ 6 แล้วก็ยังไม่เข้าใจ?


   ขอเกริ่นก่อนว่านี้เป็นความคิดเห็นของผม(คนเดียว)เท่านั้น เพื่อนๆ คนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วย หรืออาจจะด่าผมด้วยซ้ำว่า"มันคิดอะไรของมัน"
ด้วยความเป็นนักศึกษาปี 2 ที่ยังไม่ค่อยจะรู้อะไรมากเท่าไรนัก และก็ยังไม่เข้าใจกับระบบการเรียนที่คณะแพทยศาสตร์ มอ. ทั้งๆ ที่ย้ำนักย้ำหนาว่าเน้นการเรียนระบบ "PBL" และระบบ "SDL" แต่ว่าข้อสอบที่ออก MEQ กลับออกข้อสอบใน "Lecture" ที่อาจารย์สอนแทบทั้งสิ้น ใครต้องการคะแนนเยอะ ๆ ก็ดู VCD Lecture เข้าไป แกะ Lecture และก็ท่องแต่ Lecture เข้าไป ออกมาคะแนน MCQ ก็สูง กับไอ้คนฉลาดน้อยบางคนที่ไปอ่านหนังสือนอก แต่ข้อสอบไม่ออก ก็เลยซวยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งคนฉลาดน้อยเหล่านั้นบางคนก็ทราบดีว่าถ้าอยากได้คะแนนดี ๆ ก็ต้องเน้น Lecture เยอะ ๆ แต่ในระบบที่เรียน Lecture วันละ 1-2 ชั่วโมงมันจะได้อะไรหนักหนา ถ้าไม่อ่านเพิ่มเติมจากหนังสือนอก (ที่ไม่ออกสอบ)
นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว (ย้ำรอบที่ 2 แล้วนะ) ไม่ได้โวยวายว่าระบบไม่ดี ไม่ได้ขอร้องให้เปลี่ยนแปลงระบบ แต่ขอร้องว่าเพื่อนบางคนที่ไม่เห็นด้วยก็บอกได้แต่อย่าหลอกด่าโดยใช้ชื่อปลอม ๆ แล้วกัน
ขอบคุณที่ทนฟังคำระบาย


Posted by : DogTor , E-mail : (DogTor48@hotmail.com) ,
Date : 2005-01-19 , Time : 18:16:15 , From IP : 172.29.2.196


ความคิดเห็นที่ : 1


   น้องdogtorจ๋า ความรู้สึกแบบนี้พี่ก็เคยเกิดสมัยที่เป็นนศพเหมือนกันนะ อ่านแล้วแหมมันเหมือนกอบปี้ความคิดพี่ออกมาเลย เพียงแต่พี่อาจนุ่มนวลกว่าน้องสักหน่อย

พี่ว่าต่อนะ
ความคิดของพี่ที่คิดแบบน้องเนี่ยนะเกิดชัดเจนสุด ก็ตอนที่อยู่ปี4 ต้องเรียนบนward คือพี่หน่ะชอบการดูคนไข้ ศึกษาเรื่องราวของคนไข้ด้วยตนเอง ทำlab ย้อมเชื้อ โอ๊ยต่างๆนาๆ และชอบมากๆเลยที่จะเดินตามต้อยๆพี่ เพื่อจะสังเกตุการณ์รุ่นพี่ทำหัตการต่างๆ ช่วงนั้นพี่คิดเพียงว่าในอนาคตเราต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ถ้าทำอะไรไม่เป็นจะต้องแย่แน่เลย ซึ่งเรื่องแบบนี้มันก็คงเหมือนกับการเรียนSDLของน้องตอนนี้ ที่น้องพยายามหาอะไรเรียนรู้นอกกรอบlecture

พี่รู้สึกภูมิใจตัวเองมากเลยนะ ว่าเราน่าจะรู้เยอะ เพราะเห็นมาก แต่ว่าการทำแบบนี้ทำให้เวลาที่เหลือที่จะเอาไปอ่านหนังสือlectureก็น้อยลง ผลสอบออกมาก็ได้คะแนนไม่ดีเท่ากับคนอื่นที่อ่านหนังสือเก่ง ก็มีน้อยใจนิดหน่อย แต่พี่ไม่ได้โกรธหรือโทษใคร คิดเพียงแต่ว่า ไม่เป็นไร ถ้าข้อสอบมันไม่สามารถวัดความสามารถของเราได้ทั้งหมด หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าข้อสอบมันวัดส่วนที่เราไม่รู้ ก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่เก่ง แต่เรารู้ไม่รอบก็เท่านั้น เราก็ต้องเติมเรื่องที่เราไม่รู้ต่อไป
อาจเป็นเพราะพี่มีความมั่นใจตัวเองสูงและสามารถทนรอผลของความสำเร็จของความพรากเพรียรได้มั้ง พี่คิดเพียงว่า สิ่งที่จะพิสูจน์ความสามารถของพี่ได้ชัดเจนน่าจะเป็นช่วงการเป็นextern พี่ว่าพี่จะต้องทำอะไรได้มากกว่าใครๆ หรือไม่ก็พี่อาจจะคิดเชิงคลินิกได้เก่ง ไม่ใช่เชิงตำราหรือตามหนังสือ เพราะที่ผ่านมาก็ฝึกคิดมามากพอควร

แต่พี่ก็ไม่ลืมดูที่weak pointของพี่นะ ถ้าอาจารย์ชอบออกข้อสอบในlectureนะ โอ๊ยอยากจะรัก กระโดดกอดอาจารย์เลยหล่ะ เพราะพี่คิดว่าอาจารย์คงเมตตาสงสารเราไม่อยากให้เราทำงานหนักอ่านหนังสือเครียดมากไป อ่านที่ท่านสอนก็เพียงพอ พี่ว่าพี่จะรักอาจารย์แบบนี้นะ ทำให้เราอ่านหนังสือสอบง่ายขึ้น ที่สำคัญพี่จะได้มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นที่พี่คิดว่าสำคัญงัย คือมีเวลาไปคุยกับคนไข้ ก็คงเหมือนน้องเนี่ยแหละ จะได้มีเวลาไปอ่านอะไรที่อยู่นอกกรอบlecturงัย ไม่เสียหายหรอกการที่เราจะรู้อะไรมากกว่าคนอื่น แต่คะแนนสอบมันไม่โชว์

แต่ว่า ความรู้ที่อยู่ในกรอบมันก็ต้องสอบให้ผ่านเกณฑ์ด้วยนะ ไม่งั้นมันไม่ได้ผ่านขึ้นแต่ละชั้นปี ก็ไม่ได้เป็นหมออยู่ดี ส่วนความรู้นอกกรอบมีเอาไว้ให้เราภูมิใจในตนเอง รางวัลแห่งความเพียร จะเกิดกับน้องเองในภายหลังจ้า ต้องอดทนสูงจริงๆ

น้องdogtorอ่านแล้วขัดแย้งไหม หรือเห็นว่างัยคุยกันต่อได้นะ เป็นห่วงจ้า


Posted by : aries , Date : 2005-01-19 , Time : 19:36:40 , From IP : 172.29.7.195

ความคิดเห็นที่ : 2


   ขอบคุณอาจารย์ครับที่ให้กำลังใจครับ
จริงๆแล้วที่ผมเป็นห่วงอยู่ก็คือ "ความรู้ของเราที่ได้จาก มอ.นี้ จะเทียบเท่ากับการเรียนของมหาวิทยาลัยแพทย์อื่น ๆ หรือไม่? " (ไม่ได้ดูถูก มอ. นะครับ) เพียงแค่อาจารย์ช่วยย้ำให้มั่นใจหน่อยครับ เท่าที่ทราบมาว่ารุ่นผมเป็นรุ่นแรกที่สอบข้อสอบระดับประเทศนะครับ กลัวจะสอบตก
เรื่องคะแนน MEQ นี่จริง ๆ ผมก็ไม่แคร์เท่าไร (จริง ๆ ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ) แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการติดคะแนน(ประจาน)ก็เลยไม่อยากได้น้อย
ขอตัวไปอ่าน Lecture ก่อนนะครับ จะสอบพรุ่งนี้แล้ว เดี๋ยวจะตกเอา


Posted by : DogTor , Date : 2005-01-19 , Time : 20:11:46 , From IP : 172.29.2.180

ความคิดเห็นที่ : 3


   PBL หรือ SDL เป็น "รูปแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้" ส่วนการสอบนั้นเป็นส่วนของ "การประเมิน" ครับ

เนื้อหาของวิชาชีพนี้มีทั้งหมดสามพิสัย คือ ปัญญาพิสัย (cognitive domain) จลนพิสัย (psychomotor domain) และเจตคติพิสัย (attitude domain) ไม่ว่าจะแตกเป็นวิชาย่อยอะไรก็ตาม ก็หนีไม่พ้นสามหมวดนี้ เนื่องจากไม่ทราบว่าน้องเข้าใจคำทั้งสามอย่างไร ขออนุญาตขยายความนิดนึงก็แล้วกัน cognitive ก็พวกที่อ่าน เราจำ เราเข้าใจ ส่วน psychomotor ก็พวกหัตถการ ความชำนาญ พวกที่ต้องทำซ้ำๆให้เกิดความเชี่ยวชาญ พวกที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดประสานกันเพื่อการเรียนรู้ (ไม่ใช่แค่อ่านๆๆๆๆ อย่างเดียว) และ attitude ก็เป็นความตั้งใจ ความพึงใจ ความเห็นชอบ ทัศคติต่อวิชาชีพ

วิธีการเรียน หรือการจัดประสบการณ์เรียนรู้มีหลายแบบใช่ไหมครับ แต่ละแบบจะมีจุดแข็ง จุดอ่อน ในการให้ความรู้ในพิสัยต่างๆข้างต้นไม่เหมือนกัน lecture ก็จะมีเนื้อหาส่วนที่เป็น cognitive เยอะๆ แต่ส่วนหัตถการต่างๆ ความชำนาญในการสืบค้นข้อมูล ในการวิเคราะห์ข้อมูล ในการแยกแยะข้อมูลจะมาจากการเรียยโดยอภิปราย แลกเปลี่ยนความเห็นที่แตกต่างเพื่อให้ความรู้สดนั้น ย่อย แตกฉาน แล้วจึงค่อยดูดซึม

คะแนนสอบ MCQ หรือ MEQ นั้นเป็นทดสอบด้าน cognitive เป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นการที่มันจะตรงกับกระบวนการสอนที่เน้น cognitive ก็ไม่น่าแปลกใจ ทีนี้ถ้าน้องถามว่าแล้วเราประเมินพิสัยอื่นๆ เช่น จลนพิสัย ของวิชาต่างๆ อาทิ อ่านแปลผล X-Ray ทำ lab cbc u/a สรุป chart หรือทำผ่าตัด ทำหัตถการอย่างไร ตรงนี้ก็จะต้องใช้วิธีอื่น นอกเหนือจาก MCQ หรือ MEQ เช่น OSCE, observation, short-case, long-case หรือแม้กระทั่ง log-book ที่อาจจะเน้นที่ "จำนวน" ประสบการณ์มาเป็น parameter ในการประเมิน มีความชำนาพื้นฐานอย่างหนึ่งที่แพทยสภาอยากให้ตุ๊กตาแพทย์รุ่นใหม่ หรือคุณหมอยุค IT ทำได้คือ evidence-based medicine หรือ ความสามารถในการค้นคว้าหาความรู้ต่อยอด ความสามารถในการแยกแยะข้อมูลห่วยจากดี ความสามารถในการวิเคราะห์แลเปลี่ยน ตรงนี้ก็โดยการ Observe กิจกรรมของ PBL นั่นเอง ถ้าน้องไปดูน้ำหนักก็จะพบว่าความชำนาญต่างๆเหล่านี้มีน้ำหนักเยอะมากทีเดียว ไม่แพ้พวก cognitive test

อย่างไรก็ดี จะทำหัตถการอย่างไร ก็ต้องรู้ Indication , contraindication หรือส่วน cognitive ของหัตถการนั้นๆก่อน ฉะนั้นน้ำหนักของ cognitive กับ psychomotor จึงไม่เท่ากันเป๊ะๆ ถ้าน้องเอาแค่คะแนน MEQ MCQ มาดูเห็นความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ยังไม่สามารถจะแปลว่าคนที่เก่งทฤษฎีจะผ่าตัดได้ จะส่ท่อช่วยหายใจได้ จะทำหัตถการได้อย่างชำนาญแท้จริง อย่างที่พี่ Aries ว่า เราจะเป็นหมอเต็มตัว ไม่ว่าด้านใดด้านหนึ่งของทั้งสามด้านเราต้องได้ไปทั้งหมดครับ

เมื่อถึงเวลา น้องจะรู้ว่าแหล่งความรู้ที่แท้จริงจะอยู่บนหอผู้ป่วย ที่ข้างเตียงคนไข้ ที่ห้องฉุกเฉิน ที่ห้องผ่าตัด ที่ OPD ไม่ใช่ที่หอ ห้อง Lecture หรือว่าหน้าคอมพิวเตอร์ ถ้าเราอยากจะมี clinical skill อย่างแท้จริง


Posted by : Aquarius , Date : 2005-01-19 , Time : 20:43:29 , From IP : 172.29.7.64

ความคิดเห็นที่ : 4


   เรื่องการติดคะแนนประกาศบอกให้รู้โดยทั่วกันว่าเราได้เท่าไหร่ พี่ไม่เคยworryมากนักว่าพี่ได้เท่าไหร่ หลายครั้งที่พี่เป็นคนติวเพื่อน แต่คะแนนได้น้อยกว่าเพื่อน ก็ยังโดนแซวเลยว่า ถูกศิษย์ล้างครู แต่พี่เองก็รู้สึกเฉยๆนะ เพราะอย่างงัยเสีย พี่รู้ว่าทุกคนรู้ว่าพี่เป็นอย่างไร อีกอย่างถึงพี่จะเสียท่า เสียฟอร์ม พี่ก็ยอมรับเพราะนั่นมันคือ ตัวพี่เองในอีกมุมที่คนอื่นไม่คาดคิด สิ่งที่พี่ทำต่อไปคือ วิเคราะห์ว่าพลาดเพราะอะไร แล้วแก้ไข แก้ตัวไหม่ ก็ยังติวเพื่อนเหมือนเดิมนะ
พี่ว่าสิ่งหนึ่งที่พวกเราที่จะเป็นหมอในอนาคตทุกคนพึงฝึกให้มี พี่ว่า มีหลายเรื่องนะก็คือ
ความหนักแน่น ไม่สั่นคลอนด้วยอะไรง่ายๆ
ไม่ต้องกลัวการเสียหน้า เพราะความจริงทุกอย่างไม่ว่าจุดดีจุดด้อย ล้วนเป็นตัวเรา ต้องยอมรับมันเข้ามาไว้กับตัว อย่าปฏิเสธ หรือผลักไสมันไปไหนเลยเพราะมันไม่ยอมไปไหนหรอก
ไม่ต้องอายที่จะมีคนรู้ว่าเรามีจุดด้อย ไม่ต้องพยายามปกปิด
กล้าพูดและยอมรับออกมาดังๆ เพราะที่สำคัญ เราพร้อมที่จะพัฒนามัน ก็เท่านั้น
ไม่โทษคนอื่นว่าทำให้เราพลาดท่า เช่นโทษข้อสอบ โทษโพย โทษอาจารย์ ....เพราะมันทำให้เราไม่เห็นตัวเราที่แท้จริง และเหมือนว่าเราปฏิเสธความจริง
เอาพอหอมปากหอนคอก่อนนะ เดี๋ยวกลายเป็นว่าพี่สอนสั่งมากไป

เรื่องสุดท้าย จะสอบอะไรก็ตามถ้าเราทำเต็มที่ ไม่ว่าจะได้ระดับไหนของประเทศ ช่างมันเถอะ ให้ได้จบเป็นหมอที่รักษาคนไข้ได้ไม่ผิดพลาดเลย รักคนไข้ ก็น่าจะพอใจแล้ว อย่าเปรียบเทียบให้เสียเวลา เพราะอาจเจอภาพลวงตาแบบผลการสอบอีก
ที่สำคัญพี่รัก และภูมิใจที่จบ มอ พี่ไม่เคยคิดดูถูกหรือลบหลู่เลยสักนิด และพี่ก็ไม่อยากมานั่งแบ่งแยกด้วยว่าเพื่อนร่วมงานของพี่จบมาจากสถาบันใด เพราะสุดท้ายเราก็ต้องมานั่งทำงานร่วมกัน เป็นทีมงัย ยิ่งต่างอาจยิ่งดี มองต่างมุมได้เยอะ ก็สร้างสรรค์ได้มาก
น้องสอบเสร็จแล้วมาแสดงความคิดเห็นต่อนะ โชคดีในการสอบจ้า


Posted by : aries , Date : 2005-01-20 , Time : 05:42:14 , From IP : 172.29.7.226

ความคิดเห็นที่ : 5


   โทษทีครับ พิมพ์ MCQ เป็น MEQ หมดเลย อาจทำให้อาจารย์เข้าใจผิดไปบ้าง
ยังสอบไม่เสร็จครับ พรุ่งนี้มี OSPE กับ MEQ


Posted by : DogTor , Date : 2005-01-20 , Time : 11:41:23 , From IP : 172.29.4.170

ความคิดเห็นที่ : 6


   ชอบคำพูดที่ว่า สิ่งที่จะพิสูจน์ความสามารถของพี่ได้ชัดเจนน่าจะเป็นช่วงการเป็นextern

Posted by : ปี 5 ครับ , Date : 2005-01-21 , Time : 15:07:15 , From IP : 172.29.4.172

ความคิดเห็นที่ : 7


   ขอบคุณนะ น้องปี5 ที่คำพูดบางประโยคของพี่ มันโดนใจน้องนะ
อีก1-2เดือนแล้วใช่ไหม น้องก็จะได้ถูกพิสูจน์ผลงานที่น้องได้อดทน สั่งสม ฝ่าฟันเพื่อให้ได้มันมาในตลอดช่วง5ปีที่ผ่านมา แต่การเรียนเราก็ยังคงไม่หยุดนิ่งนะ ไม่ว่าน้องจะออกไปเป็นexternอยู่ข้างนอก หรืออยู่ข้างในก็ตาม อาจเป็นไปได้ว่าสิ่งที่เราคิดว่ารู้แล้ว มันก็ยังอาจไม่เต็มตามที่เราคิด น้องต้องฟังทีมของเราให้มากๆนะ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ห้ามดูถกเขานะ แต่เราควรเอาสิ่งที่เขาเสนอหรือแนะนำมาขบคิด เพราะเขามีประสบการณ์มากกว่าเราแน่นอน
ขอให้น้องโชคดีนะ มีความทุกข์หรือมีความสุขอย่างไรมาแบ่งปันหรือ เข้ามาคุยกันได้เสมอจ้า


Posted by : aries , Date : 2005-01-21 , Time : 21:13:27 , From IP : 172.29.7.173

ความคิดเห็นที่ : 8


   ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน ไปเกาะคอเขาที่พังงามาครับเลยไม่ได้เข้ามาดู ขอบคุณสำหรับข้อคิดต่าง ๆ มากนะครับ เดี๋ยวจะไป emersion คงไม่ได้เข้ามาอีกประมาณ 2 สัปดาห์ครับ

Posted by : DogTor , Date : 2005-01-25 , Time : 00:51:46 , From IP : 172.29.4.170

ความคิดเห็นที่ : 9


   กลับมาแล้ว มีpointอะไรที่อยากแลกเปลี่ยน มาคุยกันต่อได้นะ

Posted by : aries , Date : 2005-01-25 , Time : 06:47:33 , From IP : 172.29.7.172

ความคิดเห็นที่ : 10


   จะตามไปดูที่ immersion ครับ น้อง Dogtor ไปจังหวัดอะไรครับ?



Posted by : Aquarius , Date : 2005-01-25 , Time : 11:33:18 , From IP : 172.29.3.109

ความคิดเห็นที่ : 11


   ขอโทษด้วยที่ตอบช้าหนะครับ....พอดีว่ากลับมาแล้ว

Posted by : DogTor , Date : 2005-02-09 , Time : 21:32:56 , From IP : 172.29.4.219

ความคิดเห็นที่ : 12


   แล้วดีอยู่ใช่ไหม ท่าทางน่าจะสนุกนะ ได้เปิดโลกทัศน์ มีมุมมองไหม่เพิ่มมาด้วยใช่ไหม

Posted by : aries , Date : 2005-02-10 , Time : 06:28:19 , From IP : 172.29.7.35

ความคิดเห็นที่ : 13


   ดีครับแต่ผมว่า 2 สัปดาห์ค่อนข้างนานเกินไป คิดถึงเพื่อน ๆ อ่ะ

Posted by : DogTor , Date : 2005-02-10 , Time : 21:58:24 , From IP : 172.29.4.170

ความคิดเห็นที่ : 14


   ชีวิตเราในอนาคตก็อาจเหงาแบบนี้ น้องคงต้องฝึกหาทางคลายเหงาไว้บ้างนะ
เคยมีรุ่นพี่คนหนึ่งบอกพี่สมัยตอนพี่เป็นนศพเหมือนกันว่า อยู่รพ ชุมชนเนี่ยมันเงียบจริงๆ และขาดแคลนคน เวลาเหงามากๆนะ มองดูแพะหรือแกะก็รู้สึกว่ามันสวยงามเหมือนหญิงสาวเลย .....มันดูออกไปทางน่ากลัวหน่อยนะ ...พวกรักสัตว์หน่ะ


Posted by : aries , Date : 2005-02-11 , Time : 06:23:29 , From IP : 172.29.7.219

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.012 seconds. <<<<<