ความคิดเห็นทั้งหมด : 47

รวมพลัง พชท.


   ได้อ่านกระทู้ก่อนหน้านี้ เรื่องการย้ายหอไปอยู่ 2 คน
ก็ไม่อยากทะเลาะกับใครเหมือนกัน เหนื่อยแล้ว ทำงานก็เหนื่อยมากพอแล้ว
ก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน เมื่อหมอไม่ช่วยหมอ แล้วใครจะช่วยเรา
ครั้งนี้ขอพลังชาว พชท.ทุกคน จงพร้อมใจกันไม่ย้ายไปหอใหม่
ยอมทนอยู่ในที่แคบ ๆ แบบนี้เถอะครับ หอนั้นทางคณะจะยกให้ใครอยู่ก็ช่างเถอะ
(ขอทนอยู่ที่เก่าซักปี แล้วทางคณะช่วยหางบประมาณสร้างใหม่ให้หน่อยนะครับ เพราะการแก้ปัญหาหอไม่พอ ไม่ควรจับหมอไปยัดเยียดอยู่กัน)


Posted by : พชท. , Date : 2005-01-17 , Time : 21:35:39 , From IP : 172.29.7.186

ความคิดเห็นที่ : 1


   เอาเลยเห็นด้วยหนึ่งเสียง ไม่ย้ายปีสุดท้ายแล้วจะเอายังไงกับเราอีก

Posted by : ไม่ย้าย , E-mail : (ไม่ย้าย) ,
Date : 2005-01-17 , Time : 21:38:14 , From IP : 172.29.7.46


ความคิดเห็นที่ : 2


   เห็นด้วยอย่างยิ่ง เห็นเราเป็นยัง ทำงานวันหนึ่งเกือบ 10 ชั่วโมง
ไม่มีใครเห็นใจ ถ้าอาชีพเดียวกันไม่ช่วย ใครจะมาช่วย


Posted by : ไม่อยากให้ใครเอาเปรียบ , Date : 2005-01-17 , Time : 21:43:15 , From IP : 172.29.7.174

ความคิดเห็นที่ : 3


   เห็นด้วยกับทุกคนที่เห็นว่าหอพักไม่พอ สำหรับแพทย์และพยาบาล ซึ่งเราไม่ควรมานั่งเขียนกันเอง ควรเอาเรื่องนี้ไปคุยกับงานหอพัก ซึ่งผมคิดว่าการที่จะให้คนที่อยู่กั 1 คน (อาจมีแฟน ญาติมาอยู่ด้วย) แล้วย้ายไปอยู่ห้องละ 2 คน คิดว่าไม่มีใครเห็นด้วย ดังนั้นคิดว่าใครที่จะไม่ย้าย ก็ไม่ต้องย้าย แต่ไม่ต้องเอาหมอหรือพยาบาลใหม่เข้ามาอยู่ในหอเดิม เช่น ดาราคาม อีกแล้ว ซึ่งคิดว่าอีกประมาณ 2-3 ปี ก็คงจะหมดปัญหา เพราะหมอหรือพยาบาลใหม่ก็จะไปอยู่หอใหม่กันหมด (ซึ่งอยู่กัน สองคน/ห้อง)


Posted by : doctor , Date : 2005-01-17 , Time : 22:27:56 , From IP : 172.29.7.70

ความคิดเห็นที่ : 4


   เห็นด้วยครับ เราควรจะมีสิทธิ์เลือกว่าจะอยู่ที่ไหน...
ถ้าต้องย้ายแล้วต้องอยู่ 2 คน ก็ขออยู่ที่เดิมดีกว่าครับ
คิดดู 4 คน ห้องน้ำ 1 ห้อง ตีกันตาย ตอนเช้าๆ อาบน้ำ คน 30 นาที
ถ้าไม่มาราว 8.30 น. ก็ต้องตื่นตี 5 ละครับ...
...กว่าจะราวเย็นเสร็จ 6 โมง - ทุ่ม กินข้าวเสร็จ เกือบ 3 ทุ่ม
วันไหนไปกินน้ำชากับกิ๊ก กินเสร็จเกือบ 4 ทุ่ม...
(เดือนละหนได้ ที่เหลือนอนตายที่หอ)
กว่าจะกลับมา อาบน้ำเสร็จ ยังไม่ได้นอนหรอกครับ
ไหนจะอ่าน case อ่าน jaunal ใหม่ๆ งานวิจัยที่ต้องทำ กว่าจะได้นอน
ตี 1 ตี 2 นอนได้ 3 ชั่วโมง ตี 5 ตื่นมาแย่งกันอาบน้ำ ไม่งั้นสาย...
------------------------------------------------------------------
คิดดูครับ...
1. เวลาว่างอยากนอน mate ไม่ง่วงจะดู TV
2. เวลาว่างอยากอ่านหนังสือ ทำงานใช้ความคิดเงียบๆ
mate อยากฟังวิทยุ ต้องไปอ่านใต้ตึกแดงให้ยุงกินเลือด
3. แม่มาเยี่ยม อยากค้างด้วยเพราะ 3 ปี กลับบ้านครั้ง
ห้ามขาด ห้ามลา แล้ว mate ไปนอนไหน
4. แต่งงานแล้ว ต้องแยกกันนอนกับเมียคนละห้อง
mate มี VDO อัดได้ทั้งกลางวันกลางคืน...ต้องไปเปิดโรงแรมนอน
5. อื่นๆ อีกมากมาย...ใครช่วยผมพิมพ์หน่อยครับ


Posted by : Jugusleang , Date : 2005-01-17 , Time : 23:06:20 , From IP : 172.29.3.247

ความคิดเห็นที่ : 5


   ใครใคร่ย้าย..ย้ายเถอะครับ ใครใคร่อยู่ที่เดิมก็อยู่ที่เดิมเถอะครับ

Posted by : เห็นใจ , Date : 2005-01-18 , Time : 00:15:34 , From IP : 172.29.4.134

ความคิดเห็นที่ : 6


   อือม์....ก็น่าเห็นใจ ทำงานก็หนัก น่าจะได้ที่พักดี ๆ บ้าง

คิดว่าน่าจะหาตัวแทนพชท.แล้วไปคุยกับผู้ที่รับผิดชอบดีมั้ยจ๊ะ คุยแบบสร้างสรรค์นะ..นะ...อย่าเพิ่งใช้อารมณ์


Posted by : ก็น่าเห็นใจ , Date : 2005-01-18 , Time : 02:54:55 , From IP : 172.29.7.46

ความคิดเห็นที่ : 7


   ในการเรียกร้องอะไรก็ตามที หากหวังผล (หมายถึงไม่ใช่แค่บ่นเฉยๆ) คงต้องคำนึงปัจจัยหลายๆอย่าง
๑) มี formal representative นั่นคือกลุ่ม และตัวแทนกลุ่ม "อย่างเป็นทางการ"
๒) เพิ่ม credibility ให้แก่ representative หรือกลุ่ม ด้วยการโต้แย้งด้วยข้อมูลและเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์
๓) เพิ่ม power ด้วยการ inclusion ไม่ใช่แตกแยก ผมไม่เข้าใจ logic การแตกประเด็นไปทะเลาะกับคนที่ต้องมาร่วมชะตากรรมเดียวกัน หรือ motto ประเภทหมอไม่ช่วหมอแล้วจะไปช่วยใคร จริงอยู่เรามีสายอาชีพเดียวกัน แต่ประกาศอย่างนั้นเป็นการกั้นแยกคนอืน (ซึ่งสามารถและมีศักยภาพที่เป็นพวกเดียวกัน) ออก การแยกคนอื่นออกไปก็เหมือนกับการแยกตัวเองให้โดดเดี่ยว
๔) รูปแบบการแสดงออกสำคัญมาก บนกระดานข่าวเป็น Informal platform และ attract response จากทุกทิศทาง จากใครก็ได้ หวังดีไม่หวังดี ใครจงใจแสดง tantrum ออกมาคนที่เหลือก็ถูก discredit ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ และผมเชื่อว่าที่ผ่านมายังไม่ได้แสดงถึงความสามารถที่แท้จริงในการ convey message จากพวกเราซึ่งเป็นระดับปริญญาเอกกันทั้งนั้น
๕) เมื่อมีกลุ่ม ก็ไปพบผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ จะได้ข้อมูลบางส่วนที่เราขาด และกำลังคาดเดา (ซึ่งอะไรก็ตามที่คลาดเคลื่อน และไม่ตรงกับที่เพื่อนคนอื่นของเรารู้ จะทำให้การแสดงออกนั้นๆ weakening ลง) เอาข้อมูลนั้นๆกลับมาให้กลุ่มรับทราบ แล้วหาทางออกหรือข้อเสนอที่ feasible ต่อรองอย่างมีหลักการ

ด้วยความหวังดี



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-18 , Time : 08:02:08 , From IP : 172.29.7.143

ความคิดเห็นที่ : 8


   .....รบกวนถามหน่อยสิครับ คุณ Phoenix....:D...:D

...ข้อแรก....ตัวแทนกลุ่มแบบเป็นทางการ...นี่คือมีรายชื่อผู้ร้องเรียนครบถ้วน...พร้อมทั้งหัวหน้ากลุ่มอย่าชัดเจนใช่ไหมครับ....เอาไอ้ใบรายชื่อนี้เป็นบัญชีดำให้โรงพยาบาลใส่บันทึกไว้หรือเปล่าครับ.....หัวหน้ากลุ่มคือหัวหน้าแกงค์...ผู้ร่วมร้องเรียน....กลายเป็นพรรคคอมมิวนิสต์แบบนั้นหรือ?....แบบที่ชื่อผมกลายเป็นบัญชีดำของบางภาควิชาแบบนั้นหรือเปล่า?....น่าสนใจ....น่าคุ้มที่จะลองเสี่ยงดู....จากแพทย์ใช้ทุนอาจจะกลายเป็น"ผู้ขัดขวางความเจริญของโรงพยาบาล"แทน....อืมมมม...คล้ายๆมีชนักปักหลัง....วันดีคืนดี...เกิดทำเรื่องอย่างอื่นผิดพลาด...อาจจะถูกไล่ออกแบบไม่ต้องพิจารณาอะไรมากก็ได้....เช่น...."อ้าว....ไอ้นี่มันผู้นำม็อบหอพักเมื่อปีก่อนนี่นา"....???

....ข้อสองผมเห็นด้วยนะ...แต่คนที่จะฟังที่ผมพูดนี่....มีกี่คนจริงๆนะ...ที่กล้ายอมรับว่าจะมาฟังความเห็นของแพทย์ใช้ทุนชั้นต่ำอย่างพวกผมแบบจริงๆจังๆนะ?....

....ข้อสาม....ผมเองก็ยังเห็นด้วยอีก....แต่รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน....ขนาดผมเขียนแบบเป็นกลางในกระทู้ก่อนยังโดนด่าเลย....ข้อนี้อาจจะไม่ใช่ปัจจัยของความร่วมมือฝ่ายเดียวก็ได้....แต่เอาเถอะ...ข้อนี้น่าพยายาม...แต่จะเป็นไปได้หรือเปล่า....ไม่สำคัญเท่าไรนัก....บางทีการมีคนมากแต่ปริมาณ....อาจจะประโยชน์น้อยกว่ามีน้อยแต่คุณภาพดีก็ได้....ไม่แน่ใจ...

...ข้อสี่....โอเคกระดานข่าวอาจจะดูไม่เข้าท่านัก....แต่เท่าที่ผ่านมาคุณคงเห็นแล้วนี่...เรื่องที่ลงกระดานข่าวได้และมีคนสนใจ...มักจะมีทางแก้ไข...หรือมีผู้รับผิดชอบโดยตรงมาแสดงตัวในระยะเวลาอันไม่นาน....เทียบกับการไปร้องเรียนอะไรตามปกติ...มีแต่แบบว่า...."เบื้องบนสั่งมา"...หาไปหามา....โบ๊ยไปโบ๊ยมา...ไม่รู้ว่าใครเป็นเบื่องบนตัวจริง....อย่างน้อยในกระดานข่าวมักมี"แพะ"ของเบื้องบนออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง....ก็ยังดีหรือเปล่า?....ข้อดีอีกอย่าง...เวลามีโอกาสที่คนทั่วโลกจะอ่านกระทู้ได้....โอกาสที่คนจะพยายามเอาเปรียบหรือตุกติกแบบจะจะสมัยก่อนจะลดลง....เพราะชักไม่แน่ใจว่าวันใดวันหนึ่งชื่อจะโผ่ลบนกระดานข่าวไปทั่วโลกว่าโรงพยาบาลมีการตุกติกเรื่องหอพัก???....

....ข้อสุดท้ายข้อที่ห้าไม่มีข้อสงสัยครับ.....การได้ข้อมูลเพิ่มย่อมมีประโยชน์ครับ...แต่จะมีคนให้ข้อมูลหรือเปล่า...หรือปิดบังข้อมูลหรือเปล่า...สร้างหรือแก้ไขข้อมูลหรือเปล่า...นั้นอีกเรื่องครับ...:D...:D

....ขออภัยที่มารบกวนอารมณ์แต่เช้า....ผมแค่รู้สึกไม่แน่ใจในบางข้อว่าน่าทำจริงหรือไม่ครับ.....น้องๆที่กำลังจะเริ่มลงมือทำอะไร....จะได้ระวังไว้บ้างครับ....



Posted by : Death , Date : 2005-01-18 , Time : 08:37:01 , From IP : 172.29.3.247

ความคิดเห็นที่ : 9


   องค์กรที่ตั้งขึ้นมาจะเหมือน mob หรือเหมือนผู้ใหญ่ขึ้นอยู่กับการกระทำขององค์กรนั้นๆเองแหละครับ เวลาเรารับฟังความคิด ความเห็น การแสดงออก เราพอจะประเมินได้ว่าเราพูดอยู่กับใครใช่ไหมครับ เช่น คนที่อภิปรายน่าจะเป็น พชท 1 หรือ chief resident เป็นหมอหรือเป็นวิศว เป็นนักการเมืองหรือเด็กมัธยม ผม "เชื่อ" ว่าถ้าเราทำอะไรให้เป็นหลักเป็นฐาน โอกาสที่เราจะกลายเป็นกุ๊ย เป็น mob จะลดลง ตรงกันข้ามกับถ้าเราทำอะไรที่หลบๆซ่อนๆ เหมือนไม่มั่นใจในเหตุผลในความถูกต้อง คนก็มองเราอีกแบบ นั่นเป็นความคิดของผม ส่วนใครจะมีข้อสรุปอย่างอื่นก็จะลงเอยมีพฤติกรรมที่ต่างกันออกไปกันอยู่แล้ว ไม่ว่ากัน ส่วนเรื่อง conspiracy ว่าใครจะถูกไล่ออกโดยไม่มีเหตุผลนั้นก็เป็นหนังตัวอย่างที่ฉายมานานแล้วแต่ไม่เคยมีออกโรงซะทีนะครับ บัญชีดำแดงนำเงินฟ้าเขียวภาคฯไหนมีอะไรก็น่าตื่นเต้นเร้าใจดีว่าผู้บริหารกำลัง plot อะไรเหล่านี้อยู่ จริงเม็จแค่ไหนขอให้พูดตาม evidence-based หรือ อย่างน้อยก็ facts ก็ยังดี ไม่งั้นมันออกจะเป็น scare-mongering เฉยๆ แล้ว credibility ก็จะเสียไปเปล่าๆ

จะมีคนไหน ประเภทไหน มาฟังเรานั้นขึ้นอยู่กับ "วิธี" การสื่อที่เราเลือกใช้แหละครับ ถ้าเริ่มจากไอ้เหี้ย ไอ้ห่า มาฟังกูพูดหน่อย ก็จะเป็นผู้ฟังกลุ่มหนึ่ง ถ้าเริ่มอีกอย่างก็จะเป็นผู้ฟังอีกกลุ่มหนึ่ง ตรงนี้เราเองเป็นผู้เลือก ส่วน effectiveness ของกระดานข่าวในการต่อรองนั้น ผมค่อนข้าง sceptic ว่าไอ้ที่ว่าได้ผลนั้นมีอะไรสูญเสียไปบ้าง ความสัมพันธ์ภายในวิชาชีพ integrity ของอาชีพ role model ของบัณฑิตมหาวิทยาลัยอะไรเหล่านี้อาจจะเป็นเดิมพันที่เราใช้วิธีต่างๆกันในการนำเสนอตัวเราเอง

กลุ่มที่มีอำนาจในการต่อรองนั้นต้องมีรากมาจาก credibility หรือความน่าเชื่อถือก่อนครับ ความน่าเชื่อถือเกือบจะเป็น synonym กับ identity เวลาเราให้ข้อมูลกับผู้ป่วยถ้าพูดต่อหน้า จับมือคนไข้ มันจะได้ผลต่างกันกับฝากบอกพยาบาลหรือเขียนโน้ตให้คนไข้อ่าน credit นั้นมาจากประวัติการทำงาน ประวัติการแสดงออกของเรานี่เองแหละครับ เราเป้นคนสร้างบุคลิกของเราเองว่าเรานี้เป็นคนทำงานเป็นทีมหรือประเภทข้ามาคนเดียว เป็นคนทำงานแบบเน้นที่หลักการหรือเน้น mob เป็นคนทำงานประเภทแสดง tantrum หรือคุยด้วยเหตุผลและข้อมูล

ผมไม่เห็นประโยชน์อะไรแม้แต่น้อยในการที่พวกเรากำลังต่อรองกับผู้บริหารแล้วดันลากไปทะเลาะกับผู้ร่วมงานเราเองคือพยาบาล แถมยัง isolate ตัวเองประเภทแพทย์เพื่อแพทย์อะไรแบบนั้น มันบ่งว่าถ้าเมื่อไหร่วิศวเป็นผู้บริหารก็จะกลายเป็นวิศวเพื่อวิศว พยาบาลเพื่อพยาบาล พวกกูเพื่อพวกกู ผมว่ามันเป็นการแสดงออกที่ discredit ตนเอง บั่นทองอำนาจต่อรองแทนที่จะสร้างเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่ม

ดีใจที่ยังทราบว่ามีคนทั่วโลก (ที่อ่านภาษาไทยออก) สามารถมาอ่านความคิดความอ่านของเราตรงนี้ครับ ทางที่ดีมองต่อไปอีกสักนิดว่าเรากำลังทำอะไรให้กับภาพพจน์ของแพทย์อยู่โดยรวม จะทำยังงั้นอาจจะต้องดึงตัวเราออกมาจากสมการก่อนนะครับ แล้วมองไปว่าภาพที่ออกมานั้นต่อสายตาคนอื่นเป็นเช่นไร อย่างที่พี่ว่าวเคยประเมินไว้ คนที่ถูก attack นั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นฝ่ายสูญเสีย credit เสมอไป การแสดง tantrum หรืออะไรแบบอื่นๆอาจจะลดความ maturity ของคนพูดไปได้อย่างมากมาย ขึ้นกับว่าเราแคร์มากน้อยแค่ไหน หรือเห็นว่าเป็น virtual self จะแสดงยังไงก็ได้ เราก็ได้เคยวิเคราะห์ไปแล้วว่านี่แหละคือ "ตัวตนจริงๆ" ของเรา

สรุปแล้ว การเรียกร้องความต้องการของกลุ่มนั้นเป็นริเริ่มที่ดีครับ ควรจะไปด้วยกันกับวุฒิภาวะ คุณวุฒิ วุฒิปัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราหวัง action อย่างน้อยที่สุดการแสดงออกของเราควรจะให้ third party คือคนกลางอ่านแล้วรู้สึกว่าเรา mature ใช้เหตุผล ไม่ใช่ mob เป็นบัณฑิตที่ผ่านการศึกษาการอบรมเป็นอย่างดี ก็น่าจะเป็นกลยุทธที่พอใช้ได้

ก็แล้วแต่ทางเลือกแหละครับ ไม่ได้จะฝืนใจข่มขืนใคร



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-18 , Time : 11:35:27 , From IP : 172.29.3.185

ความคิดเห็นที่ : 10


   ...ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ.....:D

.....ผมถามข้อเดียวดีกว่า.....ไม่รู้คุณจะตอบผมหรือเปล่านะ.....:D

....ถ้าคุณเป็นแพทย์ใช้ทุนตอนนี้....คุณจะ"ย้าย"หรือ"ไม่ย้าย"ไปอยู่หอใหม่ครับ?

....อย่าที่คุณว่าไว้....."ก็แล้วแต่ทางเลือกแหละครับ ไม่ได้จะฝืนใจข่มขืนใคร"



Posted by : Death , Date : 2005-01-18 , Time : 12:17:16 , From IP : 172.29.3.247

ความคิดเห็นที่ : 11


   ได้ความคิดดีๆ จาก ท่าน phoenix
ขอบคุณครับ


Posted by : OmniSci , Date : 2005-01-18 , Time : 13:59:38 , From IP : 172.29.7.73

ความคิดเห็นที่ : 12


    แล้ว OmniSci จะย้ายหอกะเค้าบ้างไหมหละ

Posted by : หุหุ , Date : 2005-01-18 , Time : 14:04:11 , From IP : 172.29.3.247

ความคิดเห็นที่ : 13


   ตอนนี้ผมอยู่กับภรรยาและลูกสองคนครับ ลำพังหอที่เวชคามมีสองห้องนอนก็ไม่พอแล้ว เท่าที่ย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านได้ก็นับว่าคุณภาพชีวิต improved ขึ้นเยอะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-18 , Time : 15:16:33 , From IP : 172.29.3.109

ความคิดเห็นที่ : 14


   PS ผมอาจจะไม่ใช่ role model ในการวิจารณ์คุณภาพหอพักเท่าไหร่ ตอนผมเป็น พชท. ผมนอนที่ห้องพักแพทย์ศัลย์ตั้งแต่อยู่ปี 4 จนยันปี 7 ก่อนผมไปเรียนต่อ หอพักมีไว้เป็นที่เปลี่ยนเสื้อผ้าตอนเช้าแค่นั้นแหละครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-18 , Time : 15:22:24 , From IP : 172.29.3.109

ความคิดเห็นที่ : 15


    ถ้าให้ย้ายไปอยู่ 2 คน พวกเรารวมหัวไม่ย้ายกันดีกว่า
สรุปว่าถ้าไม่อยากย้ายก็ไม่ต้องย้าย ใครสมัครใจ อยากจะย้ายก็ย้าย
แต่ห้ามมาบังคับกัน ว่าต้องย้าย เพราะพวกเราจะรวมหัวกันไม่ย้าย
ยังไงก็ไม่ย้ายถ้าไม่ไล่ออก แต่ถ้าจะไล่ออกก็ดี ไปหาที่อยู่ที่อื่นที่สบาย ๆ กว่านี้มีตั้งเยอะแยะ งานก็น้อยกำลังดี ค่าตอบแทนก็ได้มากกว่า ที่อยู่ก็ดีกว่า เวลาส่วนตัวก็เยอะกว่า คุณภาพชีวิตก็ดีกว่า--> ทำให้ประสิทธิภาพงานดีขึ้นกว่าเดิมแน่ ๆ
มีเวลาให้คนไข้ , ให้ตัวเอง และให้ครอบครัวมากขึ้น
ถ้าให้ย้ายไปอยู่ 2 คน พวกเรารวมหัวกลับบ้านกันดีกว่า
คุณพยาบาลไม่เคยอดนอนใช่มั๊ย (ก็แหงละซิ ทำงานวันละแค่ 8 hr. +ลาพักผ่อนได้อีกต่างหาก )
เคยรู้รสชาติของการอดนอน แล้วที่อยู่ที่นอนมันไม่อำนวยบ้างหรือเปล่า
กลับคฤหาสน์ดีกว่า รวยอยู่แล้วไม่รู้ว่าจะมาทนลำบากกันทำไม



Posted by : doctor , E-mail : (คุณหนู) ,
Date : 2005-01-18 , Time : 17:27:19 , From IP : 172.29.7.249


ความคิดเห็นที่ : 16


   ฮ่ะ ความเห็นข้างบน เนี่ยแปลก ๆ แฮ่ะ หุหุหุ
ผมยินดีอยู่สองคนครับ ยินดีแบ่งห้องให้คุณหนูครึ่งหนึ่ง


Posted by : คุณแมว , Date : 2005-01-18 , Time : 22:12:59 , From IP : 172.29.3.232

ความคิดเห็นที่ : 17


   ฉันก็ไม่ย้าย
ถ้าผู้บริหารต้องการเอาใจใคร ก็ยกให้เค้าทั้งหอเลยแล้วกัน


Posted by : คับที่อยู่ได้ , Date : 2005-01-19 , Time : 00:42:27 , From IP : 172.29.7.142

ความคิดเห็นที่ : 18


   เมื่อคุณ doctor (คุณหนู)ไม่พอใจเรื่องย้ายหอทำไมต้องพาดพิงพยาบาลด้วยตอนนี้พยาบาลจบใหม่พักหอพักคณะพยาบาลอยู่นะ แล้วการที่พยาบาลมีวันหยุด มีวันพักร้อน ของคุณหมอก็มีไม่ใช่เหรอ แล้วก็ไม่ใช้เอง

Posted by : พยาบาล , Date : 2005-01-19 , Time : 04:04:48 , From IP : 203.156.190.37

ความคิดเห็นที่ : 19


   ตกลง "คับที่อยู่ได้" จริงๆหรือ
แล้วใคร "คับใจ" อยู่หละเนี่ย


ไม่ใช่มั้ง


Posted by : งง , Date : 2005-01-19 , Time : 08:30:18 , From IP : 172.29.7.170

ความคิดเห็นที่ : 20


    อ่านมาหมดนี่ ไม่มีใครย้ายหอเลย แล้วโรงบาลจะทำไงหละนี่ สร้างหอมาทำไมฟะ

Posted by : อุอุ , Date : 2005-01-19 , Time : 12:09:59 , From IP : 172.29.3.247

ความคิดเห็นที่ : 21


   ยิ่งง่ายใหญ่เลย

ยกหอพักใหม่ให้พยาบาลอยู่เลย

พชท อยู่กันที่เดิม ก็มีความสุขดีแล้วนิ


ลงตัวที่สุดแก้ปัญหาได้เหมือนกัน


Posted by : เห็นด้วยไหม , Date : 2005-01-19 , Time : 12:34:32 , From IP : 172.29.7.74

ความคิดเห็นที่ : 22


   YES!!!

Posted by : . , Date : 2005-01-19 , Time : 16:44:07 , From IP : 172.29.7.82

ความคิดเห็นที่ : 23


   อย่าทะเลาะกันเลยนะ
พี่เคยอยู่หอพยาบาลที่แสนจะคับแคบเหมือนกัน
สุดท้ายก็ปากกัดตีนถีบดิ้นรนตอนนี้มีบ้านอยู่ด้วยน้ำพักน้ำแรง (ของสามี)
แต่ยังไงก็ตามรู้สึกเห็นใจทุกๆ ฝ่ายทั้งหมอและพยาบาล
อย่าหลงกลมาทะเลาะกันเองเลยนะ
ยังไงก็ขอให้ตกลงกันได้
ผู้ใหญ่ก็ควรเพิ่มหอให้มากขึ้นนะ ไม่ต้องหรูก็ได้แต่ให้น้องๆ เค้ามีความเป็นส่วนตัว
มากกว่าห้องละ 2x2 ก็คงจะดีมาก


Posted by : พี่ , Date : 2005-01-19 , Time : 16:50:30 , From IP : 172.29.1.183

ความคิดเห็นที่ : 24


   ถ้าเอาตัวเลขจากคนที่มาปฐมนิเทศน์แพทย์ใช้ทุน แพทย์ประจำบ้านมาคำนวณ เราน่าจะมี population ของบุคลากร backbone ของเรากลุ่มนี้ประมาณ 200+ คนครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-19 , Time : 20:49:01 , From IP : 172.29.7.64

ความคิดเห็นที่ : 25


    ชีวิตต้องสู้ ฉลามสู้ชีวิต

Posted by : psykik , Date : 2005-01-19 , Time : 23:16:27 , From IP : 203.155.183.246

ความคิดเห็นที่ : 26


   เรื่องมาก กันนัก ก็ไปอยู่ ข้างนอก ซิวะ

รำคาญว่ะ พวกไม่ลงทุน แล้วยังเรื่องมาก


Posted by : r , Date : 2005-01-20 , Time : 12:34:01 , From IP : 172.31.0.172

ความคิดเห็นที่ : 27


   ใจเย็นๆ กันนะครับ
ผมว่าชักจะไปกันใหญ่แล้ว
ขอให้ใช้ความสุภาพหน่อยนะครับ

หันหน้าเข้าคุยกันดีกว่า ทำกันอย่างนี้ มีแต่ผลเสียกับตัวเองเปล่าๆ

ทราบมาว่าตอนนี้ ผู้มีอำนาจ กำลังคิดหาทางกันอยู่ ครับ
ใจเย็นๆ ครับ เป็นห่วงและเห็นใจทุกคนจริงๆครับ
อย่าให้กระดานข่าวอย่างนี้ ทำให้เรา มีแต่เรื่องทุกข์ใจกันเลย


Posted by : พี่เอาใจช่วย , Date : 2005-01-20 , Time : 19:53:24 , From IP : 172.29.7.49

ความคิดเห็นที่ : 28


   อย่าเพิ่งตื่นตูมครับผมไปดูหอใหม่มาแล้วแหละก็โอเคนะสำหรับ 2 คนไม่ถึงกับแคบหรอกและห้องน้ำในตัวครับมีระเบียง เพื่อนผมพชท หรือdent ที่กทม ไม่ว่าจะเป็นราชวิถี ศิริราช รามา จุฬา อยู่ห้องละ 2-3 คนจริงๆ และแคบมาก ผมว่าก่อนจะพูดอะไรเราต้องไปพิสูจน์ก่อนนะ เราเป็นหมอเราต้องมีความสุขุมไม่ใจร้อน และเท่าที่ทราบหอที่ต้องย้ายคงจะเป็นแค่บินหลาเท่านั้น หออื่นไม่ต้องย้ายก็ได้ หรือใครไคร่ย้ายก็ย้ายได้และรุ่นเราจะมีสิทธิเลือกห้องได้ด้วยครับก่อนรุ่นน้องที่กำลังจะมาใหม่

Posted by : sasak , Date : 2005-01-21 , Time : 00:22:46 , From IP : 172.29.7.65

ความคิดเห็นที่ : 29


   ไม้ย้าย ไม่ย้าย

Posted by : ไม้อยากย้าย , Date : 2005-01-21 , Time : 02:49:15 , From IP : 172.29.1.215

ความคิดเห็นที่ : 30


   น่าจะสอบถามข้อมูลที่แท้จริงก่อนนะว่า อยู่ 2 คนจริงหรือเปล่า กลุ่มไหนที่ต้องไป มีปัญหาอะไรบ้าง... แล้วเสนอความเห็นไปทางผู้จัดการหอพัก ปรึกษาหารือกันโดยคำนึงถึงการประสานผลประโยชน์ของทุกฝ่าย อีกวิธีหนึงก็เรียนปรึกษาท่านคณบดีโดยผ่านสายตรงคณบดี

Posted by : มณีแดง , Date : 2005-01-21 , Time : 09:40:05 , From IP : 172.29.3.105

ความคิดเห็นที่ : 31


   สงสัยจัง ถ้าให้อยู่คนเดียวได้ แต่ไม่ให้สวัสดิการเลย ให้เสียค่าหอราคาถูก ค่าน้ำ ค่าไฟเองจะมีคนอยู่ไหมหนอ?

Posted by : อยากรู้ , Date : 2005-01-21 , Time : 11:48:22 , From IP : 172.29.1.133

ความคิดเห็นที่ : 32


   เห็นด้วยกับ Jugusleang มากเลย
ผมไม่อยากให้เราไปเรียบเทียบกับที่อื่นเลยครับ ทำไมต้องไปสนใจว่ารามา หรือศิริราชเขาอยู่กันห้องละกี่คน ในเมื่อ มอ ให้สวัสดิการ พชทได้ดีกว่าก็ถือเป็นสิ่งที่ดีนี่ครับ หรือสังคมเดี๋ยวนี้เห็นใครเลวเราต้องเลวตาม?
ผมว่าปัญหามันคือในตอนแรกได้มีการปล่อยข้อมูลออกมาว่าจะให้อยู่กันห้องละ 1 คน( ซึ่งแหล่งข่าวเป็นบุคลากรของคณะที่น่าเชื่อถือได้ ) ทำให้ พชท หลายคนตั้งความหวังกับการได้อยู่ห้องคนเดียว ซึ่งพอมาเปลี่ยนเอาทีหลัง ทำให้ใครหลายคนคัดค้านกับเหตุผลที่ต้องแบ่งหอให้พยาบาล ทั้งที่ตอนแรกคณะได้ตั้งใจสร้างหอใหม่ขึ้นมาสำหรับ พชท เท่านั้น
อ้อ แล้วไอ้การที่ นาย sasak มาโพสว่าอย่าให้ตื่นตูมไปก่อน หอใหม่กว้างอยู่ได้สองคนสบายๆ อะไรนั้น ผมว่าเป็นการแสดงความเห็นที่ไม่ได้เข้าใจปัญหาเลยแม้แต่น้อย เพราะจริงๆ แล้วสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการคือความเป็นส่วนตัวต่างหากครับ ไม่ได้สนกันหรอกกว้างไม่กว้าง


Posted by : ... , Date : 2005-01-21 , Time : 21:30:39 , From IP : 172.29.4.162

ความคิดเห็นที่ : 33


    เวลาเปรียบเทียบอะไรก็ตาม ต้องเปรียบเทียบในหลาย ๆ ด้านเสมอ ไม่ใช่แค่หอพัก ระบบการทำงานในโรงพยาบาลของมหาลัยอื่น+ ภาระการงาน ความหนัก ความเหนื่อยมันไม่เท่ากัน ที่เห็นได้ชัด คือ ในด้านการเรียนการสอน กิจกรรมวิชาการ ที่มันต่างกัน "มันเทียบกันไม่ได้" อย่าทำให้ เราต้องด้อยกว่ามหาลัยอื่นในทุก ๆ ด้านเลย

Posted by : ////// , Date : 2005-01-22 , Time : 00:01:52 , From IP : 172.29.7.171

ความคิดเห็นที่ : 34


   หมอตัวนัอย ตัวนิด...หมอตัวน้อย ตัวนิด...หมอมีฤทธิ์น่าดู...อู้ฮู...อู้ฮู...

Posted by : มดตัวน้อย , Date : 2005-01-22 , Time : 00:18:16 , From IP : 172.29.7.183

ความคิดเห็นที่ : 35


   น่าจะคุยกันได้แบบคนที่เจริญแล้ว หมายถึง พชท.กับผู้บริหาร หรือไม่ก็ลองไปคุยกับอ.สุภาภรณ์ที่ดูแลทาง postgrad อยู่ เล่าปัญหาและความต้องการของพวกน้อง ๆ ให้อ.เข้าใจ ใช้เหตุและผล อย่าใช้อารมณ์ น่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดี

โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าน่าจะเริ่มให้มีการย้ายออกแบบสมัครใจ และค่อยจัดให้พชท.รุ่นใหม่เข้าอยู่หอใหม่ในปีการศึกษาหน้า


Posted by : อ.มอ. , Date : 2005-01-22 , Time : 12:33:48 , From IP : 172.29.7.67

ความคิดเห็นที่ : 36


   ทราบมาว่าไม่ได้บังคับย้ายสำหรับแพทย์ที่อยู่เดิมยกเว้นบางหอที่จะมีนักศึกษาแพทย์เข้าอยู่ จำไม่ได้แล้วลองปรึกษาทางหอพักดูดีกว่า

Posted by : มณีแดง , Date : 2005-01-22 , Time : 15:30:47 , From IP : 172.29.7.127

ความคิดเห็นที่ : 37


   ถ้าเค้าต้องการเวลาพักผ่อน
ก็ดูมีเหตุผลนะ
ลองอ่านกันหน่อยนะ
" evidence base "

พึ่งลง new england สดๆ ร้อน ๆ

Extended Work Shifts and the Risk of Motor Vehicle Crashes among Interns

Laura K. Barger, Ph.D., Brian E. Cade, M.S., Najib T. Ayas, M.D., M.P.H., John W. Cronin, M.D., Bernard Rosner, Ph.D., Frank E. Speizer, M.D., Charles A. Czeisler, Ph.D., M.D., for the Harvard Work Hours, Health, and Safety Group

ABSTRACT

Background Long work hours and work shifts of an extended duration (24 hours) remain a hallmark of medical education in the United States. Yet their effect on health and safety has not been evaluated with the use of validated measures.

Methods We conducted a prospective nationwide, Web-based survey in which 2737 residents in their first postgraduate year (interns) completed 17,003 monthly reports that provided detailed information about work hours, work shifts of an extended duration, documented motor vehicle crashes, near-miss incidents, and incidents involving involuntary sleeping.

Results The odds ratios for reporting a motor vehicle crash and for reporting a near-miss incident after an extended work shift, as compared with a shift that was not of extended duration, were 2.3 (95 percent confidence interval, 1.6 to 3.3) and 5.9 (95 percent confidence interval, 5.4 to 6.3), respectively. In a prospective analysis, every extended work shift that was scheduled in a month increased the monthly risk of a motor vehicle crash by 9.1 percent (95 percent confidence interval, 3.4 to 14.7 percent) and increased the monthly risk of a crash during the commute from work by 16.2 percent (95 percent confidence interval, 7.8 to 24.7 percent). In months in which interns worked five or more extended shifts, the risk that they would fall asleep while driving or while stopped in traffic was significantly increased (odds ratios, 2.39 [95 percent confidence interval, 2.31 to 2.46] and 3.69 [95 percent confidence interval, 3.60 to 3.77], respectively).

Conclusions Extended-duration work shifts, which are currently sanctioned by the Accreditation Council for Graduate Medical Education, pose safety hazards for interns. These results have implications for medical residency programs, which routinely schedule physicians to work more than 24 consecutive hours.

NEJM.ORG 13-1-2005

จะได้ไม่ต้องมาล้อมคอกกันเด้อ ....




Posted by : นกยักษ์ , Date : 2005-01-22 , Time : 21:01:35 , From IP : 172.29.3.254

ความคิดเห็นที่ : 38


   หากเกิดกรณีโวยวายแบบนี้ ผู้บริหารเองน่าจะเก็บข้อมูลสอบถามจากพยาบาลที่บางคนตอนนี้พักห้องละสองคนดูนะคะว่าเป็นยังไง อยู่ได้ไหมหรืออย่แบบจำเป็นต้องอยู่ ไม่อยู่แบบนี้แล้วจะให้ไปอยู่ใหน จะไปเช่าวัดโคกนาวก็อายญาติคนไข้ บอกคนอื่นว่าทำงานอยู่ร.พมอ แต่สวัสดิการด้านหอพักไม่พอ ต้องมาทะเลาะแย่งหอพักกันเอง หมอก็เหมือนกันจะมาประท้วงโวยวายว่าหอใหม่สร้างเพื่อหมอเท่านั้น จะไม่แบ่งให้พยาบาลแล้วทีหมอไปอยู่หอพยาบาลห้องละคน และให้พยาบาลอยู่ห้องละ2 คน บางคนอยู่รพ. ชั้น 6/13 ,บางคนอยู่หอพักนักศึกษาทำไมไม่ย้อนดูกรณีนี้บ้าง อย่าคิดว่าเป็นใหญ่ฝ่ายเดียว มาพาดพิงถึงพยาบาลบ่อย พยาบาลทนไม่ได้อาจรวมตัวก่อม๊อบบ้างนะคะ

Posted by : Noonong , Date : 2005-01-25 , Time : 03:44:51 , From IP : 172.29.1.215

ความคิดเห็นที่ : 39


    คิดว่ามีปัญญาเหรอ? เอาสิ รออะไรอยู่ แน่จริงก่อม็อบให้ดูสักทีสิค่ะ
หอเขาสร้างมาให้หมออยู่แต่แรก จะขออยู่ด้วยทั้งทีน่าจะพูดจาให้ดีกว่านี้หน่อยนะค่ะ หน้าด้านแล้วยังทำเป็นปากเก่งอีก
ถ้าคิดจะเห่าไปเห่าที่อื่นเถอะค่ะ


Posted by : เบื่อพวกไม่แน่จริงดีแต่เห่า , Date : 2005-01-25 , Time : 08:40:34 , From IP : 172.29.3.247

ความคิดเห็นที่ : 40


   ฉันว่านะ
ข้างบนนี้ไม่ใช่หมอเป็นคนเขียนหรอก
มันต่ำเกินไป

โปรดใจเย็นกันหน่อย
ตอนนี้มีพวกมือที่ 3 อยากให้ หมอกะ พยาบาลตีกัน

หมอกะพยาบาลต้องรักกัน จึงจะทำงานอย่างมีสุข

อย่าหลงเชื่อ มือที่สาม นะจ๊ะ พวกที่ชอบเห็นคนอื่นตีกัน


Posted by : ... , Date : 2005-01-25 , Time : 11:37:46 , From IP : 172.29.7.235

ความคิดเห็นที่ : 41


   มีพยาบาลบางคนคิดว่าเรามีวันหยุด วันลากันจริงๆครับ
มันเป็นเพียงตัวเลขครับ เอาไว้มาคุยกันว่าใครเหลือ...
ไม่ได้ใช้เยอะกว่ากัน เพราะหากผมลา 1 วัน นั่นหมายถึง
เพื่อนหมอที่น่าสงสารของผม ต้องทำงานเพิ่มในส่วนผมด้วย
...ง่ายๆครับ ถามพยาบาลที่มี ผ. เป็นหมอซิครับ
เค้ามีเวลาทำอะไร ด้วยกันบ้าง นอกจากบนเตียง
เคยไปเที่ยวดูหนังด้วยกันบ้างมั้ย
ใครหาเงิน ใครใช้เงิน...
------------------------------------------------------------
ส่วนเรื่องหอใหม่นะครับ..
1. กระทู้นี้ก็มีมาตั้งนานแล้ว
จะมีใครออกมาอธิบายมั้ย ก็ไม่มี
2. ขอมูลที่อยากได้ คำถามที่ต้องการคำตอบ
3. การทะเลาะกันที่ไม่มีใครต้องการ
4. การเปรียบเทียบกับ ชนชั้นเมืองหลวง
5. การใช้อารมณ์ เหนือเหตุผล
6. และสุดท้าย..การเพิกเฉยของคนที่มีอำนาจ
และคนที่เกี่ยวข้อง


Posted by : Jugusleang , Date : 2005-01-26 , Time : 00:52:16 , From IP : 172.29.3.247

ความคิดเห็นที่ : 42


   1. กระทู้นี้มีไว้ให้บ่น ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินการจริง หนทางที่อยากให้มีการดำเนินการนั้นมีอยู่ ไม่ใช่มีอะไรก็บ่นในที่แจ้ง แล้วรอผล
2. ผู้เกี่ยวข้อง ทำหรือไม่ทำ ก็ไม่ต้องมาแจ้งตรงนี้
3. การไม่มาแจ้งตรงนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เพิกเฉย
4. board นี้ มีผู้บริหารเข้ามาดูอย่างสมำเสมอหลายท่าน
5. อย่าทำตัวเป็นเด็ก หัดใช้เหตุผล และกระทำแบบที่ผู้ใหญ่ทำกัน

กรุณาทำความเข้าใจใหม่ด้วย


Posted by : โปรดเข้าใจ , Date : 2005-01-26 , Time : 10:07:20 , From IP : 172.29.7.151

ความคิดเห็นที่ : 43


   นี่ นี่ "โปรดเข้าใจ"
1. ไม่เห็นมีบอกตรงไหนกระทู้ใช้บ่นนิ คุณ Garnet ไม่เห็นเขียนไว้เลย - เมายาหรือเปล่า?, หนทางมีอยู่? - อยู่ไหนอะคับ บอกหน่อยแหละ?
2. ไม่เป็นไรหรอก เรารู้รู้กันอยู่แล้ว "หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" - ผ่านมากี่วันแล้วนะกระทู้นี่ - ไม่ต้องแจ้งก็ได้ ไม่อยากรู้หรอกคับ
3. ยิ่งเข้าใจง่ายใหญ่เลยคับ ว่าไม่ได้"เพิกเฉย"
4. ใช่แล้วเข้ามา"ดู" ไง - เด็กอนุบาลก็รู้นะคับ
5. แบบที่คุณเขียนนี่คือผู้ใหญ่ใช่ไหมคับ ผมยังเด็กไม่ค่อยรู้เรื่องอะคับ

เหมือนอ่านตลกเลยคับ ที่เขียนมาเหมือนด่าตัวเอง มาเล่นตลกให้ดูแก้เครียดใช้ไหมคับ ขอบคุณมากเลยคับ 55555555555555


Posted by : ไหนนะผู้บริหาร.....ว๊ายยยยยย , Date : 2005-01-26 , Time : 11:51:17 , From IP : 172.29.3.119

ความคิดเห็นที่ : 44


   หลักเกณฑ์ในการรับสมัครบุคคลากรของโรงพยาบาล [ฉบับปรับปรุงแก้ไข]

1. จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษถ้าผู้สมัคร ไม่มีความรู้ใดๆเลยเรื่อง Computerและ Internet, ใช้หรืออ่านและเขียนกระดานข่าวไม่เป็นเลย, จะได้รับความสนใจเป็นกรณีพิเศษมากๆถ้ามีหลักฐานใบรับรองแพทย์ว่าแม้แต่เปิดเครื่อง Computer ก็ทำไม่เป็น

2. เงียบและไม่บ่นเวลาเกิดปัญหาจากการบริหารงานของโรงพยาบาล จะดีมากๆเลยถ้าเป็นใบ้ ยิ่งปัญญาอ่อนหน่อยๆจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง

3. สามารถอยู่อาศัยได้ในทุกที่ที่โรงพยาบาลจัดหาให้ ไม่ว่าจะอยู่ 10 คนต่อหนึ่งส้วม หรือ 50 คนต่อสองส้วม และต้องรีบย้ายที่พักได้ทันทีตลอดเวลาที่โรงพยาบาลอยากให้ย้าย ไม่ว่าสภาพแวดล้อมที่จะย้ายไปใหม่จะเป็นสลัมหรือส้วมก็ตาม

4. ห้ามมีปัญหากับบุคคลากรทุกระดับชั้นของโรงพยาบาลโดยเฉพาะชนชั้นผู้บริหาร ทุกครั้งที่ได้รับการสั่งงานหรือมอบหมายงาน ห้ามบ่นหรือเถียง ต้องลงท้ายทุกคำพูดด้วยว่า "ครับท่าน!!!"

5. ต้องเซ็นสัญญาก่อนเข้าทำงานว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทำงาน จะต้องไม่ไปแจ้งตำรวจ ฟ้องศาลปกครองหรือ สคบ หนังสือพิพม์ไทยรัฐ ไอทีวี ดีแทค หรือแม้แต่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งหรือมูลนิธิปวีณา

6. ห้ามหยุด ห้ามพัก ห้ามลา ห้ามขาด ห้ามป่วย ได้หยุดกรณีเดียวคือตาย ในกรณีที่ขาดคนมากๆก็ห้ามตายด้วย และไม่ต้องถามถึงวันหยุดตามสิทธิของแรงงานหรือลูกจ้าง เพราะวันหยุดเหล่านั้นมีไว้เท่ๆ เผื่อกรมแรงงานมาตรวจสอบจะได้เห็นว่าเรามีวันหยุดให้ด้วยเหมือนหน่วยงานอื่นๆ

7. นึกไม่ออกแล้ว ใครนึกออกช่วยด้วย


Posted by : คลายเครียดครับ! , Date : 2005-01-26 , Time : 12:23:34 , From IP : 172.29.3.247

ความคิดเห็นที่ : 45


   คงมีไม่กี่คนหรอก ที่เป็นแบบ ไอ้พวกข้างบนนี้ พลอยทำให้ พชท เสียชื่อหมด

Posted by : เบื่อพวกมันจริงๆ , Date : 2005-01-26 , Time : 14:49:33 , From IP : 172.29.7.64

ความคิดเห็นที่ : 46


   รู้สึกเห็นใจหมอ...เนื่องจากเคยเจอปัญหาที่ศรีตรัง 1 >>> คนที่อยู่ห้องคู่กันไม่ค่อยเกรงใจ ใช้ห้องน้ำนานมาก ชอบหยิบของส่วนตัวไปใช้ ไม่เคยช่วยทำความสะอาดห้องน้ำ มีลูก + สามีอยู่ด้วย เลยต้องรีบขอย้ายหอ (ถ้าเป็น RN คงคุยกันได้ แต่นี่เป็น...)
แต่ก็รู้สึกพอใจกับการจัดสรรหอ >>
1.น้องที่จบใหม่ก็อยู่ศรีตรัง 1 / 6
2.พอแก่ตัวก็ลงชื่อขอย้ายไปศรีตรัง 2/3/4/5/7
3.พอมีครอบครัวก็ลงชื่อขอย้ายไปประสานใจ งามทักษิณ ( 9 ปีแล้วยังไม่ได้เลยคะ )


Posted by : . , E-mail : (.) ,
Date : 2005-01-29 , Time : 05:22:47 , From IP : 172.29.7.52


ความคิดเห็นที่ : 47


   พชท. บอกว่าจะไม่ย้ายมาอยู่หอใหม่ห้องละ 2 คน แต่รู้มั้ย พยาบาล มอ. 2 รุ่นที่ผ่านมา จบแล้วยังต้องอยู่ หอพักนักศึกษาพยาบาล หรือไม่ก็อยู่ที่ ห้องพิเศษที่ตึก 13ชั้นห้องละ 2คน เคยมีใครเก็บข้อมูลบ้างมั้ย ว่าปัจจุบันมี พชท. จำนวนเท่าไหร่ที่มาพักที่หอศรีตรัง 1-7 ซึ่งเป็นหอพักพยาบาลโสด แล้วพยาบาลที่มีครอบครัวแล้ว ยังอยู่หอพักศรีตรังอีกเท่าไหร่ แต่กลับพบว่า หอเวชคาม กลับมีพชท.โสดพักอยู่ห้องละ 2 คน ผู้บริหารมีคำอธิบายมั้ย

Posted by : momo , Date : 2005-01-29 , Time : 21:08:55 , From IP : 172.29.7.179

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.016 seconds. <<<<<