ความคิดเห็นทั้งหมด : 12

Debate LXXXI: บทบาทของนักศึกษาแพทย์ กับเหตุการณ์แบบ Tsunami


   ในระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเราคงจะได้อ่าน ได้เห็น และบางคนได้สัมผัสจริงกับบทบาทและหน้าที่ของบุคลากรสายอาชีพสุขภาพกับ national (หรือ global) disaster ล่าสุดคือแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์มาพอสมควร การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงเป็นโอกาสที่สำคัญที่เราควรจะรีบยึด และรีบเรียน ผมอยากจะขออนุญาตเปิดเวทีตรงนี้ให้นักศึกษาแพทย์ มอ. ของเรา ลอง exercise ความคิด จินตนาการ หรือแม้กระทั่งจะออกมาเป็นโครงการ เป็นรูปธรรมว่า อะไรที่เราจะมาก่อร่างสร้างให้เป็นประโยชน์ ต่อตัวเรา ต่อคนรอบข้าง ต่อสังคม จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้บ้าง

ขอเชิญร่วมแสดงความคิดดังๆครับ

Be Mature, Be Positive, and Be Civilized



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-11 , Time : 21:25:30 , From IP : 203.156.41.23

ความคิดเห็นที่ : 1


   คิดไม่ออก รู้สึกว่า นศพ ไม่มีบทบาทอะไร อย่างมากก็น่าจะมีบทบาทเท่าๆกับชาวบ้านคนนึงเท่านั้น

Posted by : สสส , Date : 2005-01-12 , Time : 21:38:56 , From IP : 172.29.4.199

ความคิดเห็นที่ : 2


   มีนักศึกษาแพทย์ปี3 กลุ่มเล็กๆ จะเดินทางไปพังงาคืนนี้ค่ะ

โจทย์ของการไปครั้งนี้เริ่มจากประธานชั้นปีแจ้งว่าชาวบ้านน้ำเค็มที่พังงา ต้องการความช่วยเหลือในการดูแลเด็กที่พ่อแม่เสียชีวิต ไม่มีญาติเหลืออยู่เลย และขณะนี้สุขภาพจิตกำลังแย่มาก เราก็เลยลองพิจารณาศักยภาพเราดูว่าเราทำอะไรได้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน ประกอบกับได้คำชี้ทางสว่างจากอาจารย์ท่านหนึ่งว่า"ก็ดาราเค้าไม่ได้มีความรู้อะไรเค้าก็ยังไป ไหนจะชาวบ้านที่เค้าคอยช่วยกันเองอีกเค้ายังทำได้ เราเป็นตั้งนักศึกษาแพทย์มีความรู้เรื่องนี้มากกว่าเค้าเสียอีก ทำไมจะทำไม่ได้" เลยได้สติมาตรองดูเห็นจริงอย่างอาจารย์ว่า ก็เลยมารวมกลุ่มกันไป

กิจกรรมที่ตั้งใจจะทำในขั้นต้นคงเป็นการสำรวจความเสียหายของผู้ประสบภัยซึ่งในที่นี้เน้นกลุ่มเด็กที่สูญเสียพ่อแม่กลุ่มที่ว่านี้ค่ะ เนื่องจากทราบมาว่า กลุ่มของเราที่จะเข้าไปเป็นนักศึกษาแพทย์ มอ. กลุ่มแรก ก็จะพยายามรวบรวมข้อมูลต่างๆเท่าที่จะรวบรวมได้ โดยหวังว่าข้อมูลที่นำกลับมานี้จะใช้เป็นประโยชน์สำหรับการจัดทำโครงการความช่วยเหลือระยะยาวต่อไป ส่วนกิจกรรมที่เตรียมไปเพื่อช่วยบรรเทาสภาพเสียขวัญของเด็กเบื้องต้นก็เป็นกิจกรรมง่ายๆ เช่น การวาดรูป การใช้สื่อที่เข้าถึงเด็กง่ายๆ เช่น ดูการ์ตูนที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความสูญเสีย และการปรับตัวเพื่อเผชิญกับสภาพการสูญเสียของตัวละคร ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นกิจกรรมนำให้เด็กได้มีโอกาสระบายความรู้สึก ซึ่งถือเป็น primary care ของ กลุ่มอาการ post truamatic disorder ตามที่ได้ศึกษาข้อมูลมาอย่างคร่าวๆ ค่ะ นอกจากนี้คงจะได้สำรวจเกี่ยวกับสุขอนามัยของเด็กด้วยเช่น อาหาร น้ำดื่ม ที่หลับที่นอน การดูแลความเป็นอยู่ และชีวิตประจำวันของเด็กในช่วงนี้ รวมถึงปัญหาและความต้องการของเด็กหรือชุมชน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่ต้องการจะจัดโครงการความช่วยเหลือต่อไป อย่างไรก็ดีการเข้าพื้นที่ครั้งนี้ ทางกลุ่มได้ตกลงกันว่าเป็นการไปเพื่อสำรวจดังนั้นในด้านความช่วยเหลือ การบรรเทาสภาพเสียขวัญของเด็กอาจหวังผลไม่ได้เต็มที่นัก ถ้าพอจะทำได้บ้างก็คงแทรกกิจกรรมที่เตรียมไปตามสถานการณ์ี่เหมาะสม นับเป็นผลพลอยได้จากการเข้าพื้นที่ครั้งนี้ไป

ส่วนผลจากการเข้าพื้นที่และอุปสรรคที่ได้พบจะพยายามมาPost ไว้เพื่อแบ่งปันให้
ผู้ที่สนใจหรือกำลังตัดสินใจได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจบ้างเมื่อกลับมาค่ะ





Posted by : lucifer , Date : 2005-01-12 , Time : 22:40:10 , From IP : 172.29.4.133

ความคิดเห็นที่ : 3


   Post truamatic stress disorder ค่ะ
ข้างบนพิมพ์ตกไป


Posted by : lucifer , Date : 2005-01-12 , Time : 22:43:19 , From IP : 172.29.4.133

ความคิดเห็นที่ : 4


   ขอบคุณ คุณ Lucifer ที่กรุณา share เรื่องราวให้ฟังครับ หวังว่าทุกๆคนที่ไปจะได้อะไรกลับมาอย่างที่หวังไว้

เมื่อประมาณ 20+ ปีก่อน สมัยนั้นนักศึกษา (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจจะมหิดล) มีกลุ่มลักษณะแปลกๆ (จากตอนนี้) อยู่อย่างหนึ่งคือความคิดที่พลุ่งพล่านเพ้อฝันอุดมกงอุดมการณ์อะไรก็ไม่รู้ทำนองนั้น เรื่องราวรอบๆตัวดูมันเกี่ยวข้องไปกับตัวเรา เป็นของเรา ไปซะหมด เราเลยอยากจะออกไปดู ออกไปร่วม ออกไปเห็น แล้วก็ฝันว่าเรามีพละกำลังไม่รู้จักหมดสิ้นที่จะทำให้เกิด better world ก็ไม่ทุกคน และผมก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกนั้นเองหรอกนะครับ แค่เฉียดๆไปเฉียดๆมา (ชมรมเราอยู่ประตูติดกัน)

ยากที่จะวิเคราะห์สาเหตุ แต่อย่างนึงแน่ๆคือมันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้นักศึกษาตอนนั้นคิดว่ามันเป็นที่ที่พิเศษที่เราได้มาอยู่ในมหิดล มันมีสัญญาอะไรบางอย่างพ่วงมากับการได้เข้ามาใน "วงการ" และหลายๆคนคิดว่าหลังเข้ามาแล้ว เรา "ไม่ใช่" แค่ชาวบ้านธรรมดาๆ เราเป็นคนมีศักยภาพ และเรากำลังตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง ที่เป็น privilege ที่มีโอกาสพิเศษ เป็นงานของเราในอนาคตอีกไม่กี่ปีที่กำลังจะจบ

อืม...รำพันอดีต แก่แล้วๆ

ขอความเห็นเพิ่มเติมนะครับ คนอื่นๆ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-13 , Time : 00:26:19 , From IP : 203.156.42.10

ความคิดเห็นที่ : 5


   Lucifer ครับ ทางน้ำเค็มเป็นยังไงบ้าง ผมวนเวียนผ่านไปผ่านมาแถว ๆ พังงา ภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 1 จนถึงวันนี้ยังไม่ได้กลับมอ. เลย แต่ยังไม่มีโอกาสเข้าไปน้ำเค็มซะที ถ้าว่าง ๆ เล่าให้ฟังหน่อยนะครับ

วพส. จะนำบัณฑิตอาสา มอ. ลงพื้นที่ อ คุระบุรี พังงา วันอาทิตย์นี้ถ้า Lucifer ยังอยู่แถวนั้น อาจจะได้เจอกันครับ

บทความทางวิชาการข้างล่างนี้ ทางสถาบันวิจัยและพัฒนาสุขภาพภาคใต้ (วพส.) และหน่วยระบาดวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รวบรวมและแปลจากบทความหลาย ๆ แหล่ง ที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับหน่วยราชการ องค์กรเอกชน และประชาชน ในการนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์ครั้งนี้

หากเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ ช่วยกรุณาเผยแพร่ต่อๆ กันไป หรือ link website Online Disaster Resource นี้ (http://medipe.psu.ac.th/~vorasith/tsunami/disaster_resource.htm) ได้ตามต้องการครับ

การช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ
(http://medipe.psu.ac.th/~vorasith/tsunami/Aid/disaster-aid-Thai.ppt)
การให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมที่มีประสิทธิภาพ
(http://medipe.psu.ac.th/~vorasith/tsunami/Aid/donations.htm)
การแจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย
(http://medipe.psu.ac.th/~vorasith/tsunami/Aid/distribution_system.htm)
มาตรฐานขั้นต่ำของ สถานที่พักพิง การตั้งหลักแหล่ง และ สิ่งช่วยเหลือที่ไม่ใช่อาหาร
(http://medipe.psu.ac.th/~vorasith/tsunami/Aid/standard.htm)



Posted by : Top , E-mail : (vorasith.s@psu.ac.th) ,
Date : 2005-01-13 , Time : 16:35:06 , From IP : 203.156.27.39


ความคิดเห็นที่ : 6


   นักศึกษาแพทย์น่าจะสามารถนับได้ว่าเป็น adult learner ในบรรดาความหมายหลายๆอย่างของ adult learner คือ ความสามารถ (และการมีความปราถนา) ในการศึกษาเรื่องที่ตนเองสนใจ คิดว่ามีความหมาย หรืออย่างมีทิศทาง

Tsunami ที่เกิดขึ้น ทิ้งคำถามไว้ให้ generation ของเรา และของต่อๆไปอีกหลายช่วงอายุว่ามีอะไรไหมที่เราสามารถจะทำให้ better?

ป้องกันได้ไหม?
เกิดจากอะไร?
พยากรณ์ได้หรือเปล่า? ถ้าได้ล่วงหน้านานแค่ไหน?
เกิดขึ้นมาแล้วมีทางไหนที่จะ Limit damages ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน?
มีคนที่เราจะช่วยให้รอดเพิ่มขึ้นอีกไหม?
เราสามารถค้นหาคนสูญหายได้เร็วขึ้นหรือไม่?
ช่วยคนที่ประสบอุบัติภัยอย่างไรได้บ้าง?
มีแผนล่วงหน้า?
มีการซ้อมวางแผน?
หน้าที่ของใคร?
อะไรคือสิ่งของบริจาคที่มีประโยชน์ที่สุด?
ป้องกัน crimes ต่างๆที่เป็น opportunistic จากเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร?
มีผลอย่างไรต่อกาย ใจ สังคม และจิตวิญญาณ?
จะฟื้นฟูสภาพของผู้รอดชีวิตให้กลับคืนโดยเร็วที่สุดได้อย่างไร?
งานวิจัยอะไรบ้างที่เราต้องการต่อจากนี้?
คุ้มไม่คุ้มอย่างไรกับ วิจัย? แผน? ซ้อม? เกี่ยวข้องกับใครบ้าง มากน้อยแค่ไหน?
สังคมมีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นหรือไม่? อย่างไร? หลังเหตุการณ์?
ใครจะเป็นคนให้ความรู้?
หรือมีคนสนใจใคร่จะรู้อยู่หรือไม่?
ทำไมถึงสนใจ?
ทำไมถึงไม่สนใจ?

คงไม่จำกัดเฉพาะนักศึกษาแพทย์ซะแล้ว...



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-13 , Time : 21:59:50 , From IP : 172.29.7.188

ความคิดเห็นที่ : 7


   น้องluciferถ้ามีโอกาสได้ถามหรือประเมินเด็กๆในเรื่องgrief and bereavementคือภาวะเศร้าโศกจากการสูญเสียหรือการจากไปของคนอันเป็นที่รักอีกเรื่อง เพิ่มจากposttramatic stress disorderน่าจะดีนะ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นความทุกข์ที่เด็กๆไม่สามารถแสดงออกมาเป็นคำพูดให้เข้าใจได้ง่ายๆแบบเรา เพราะด้วยข้อจำกัดของความเป็นเด็กและการรับรู้เรื่องความตายที่แตกต่างกันตามวัย เพราะฉนั้นเด็กอาจแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น ซึมลง หรือก้าวร้าวขึ้นกว่าเดิม
การที่น้องๆเตรียมการสื่อสารกับเด็กๆโดยผ่านการเล่น การเล่าเรื่อง วาดภาพ เป็นเรื่งที่ดี ที่เราคุยกับเด็กผ่านสื่อพวกนี้
เอาใจช่วยนะ และน้องๆคงได้เติบโตจากการเรียนรู้เรื่องจริงของคนไข้ ที่ไม่ได้มาจากตำราหรือหนังสือใดๆอย่างเดียว พี่ว่ามีค่ามากเลยหล่ะ และขอชื่นชม


Posted by : pisces , Date : 2005-01-14 , Time : 07:21:37 , From IP : 172.29.7.50

ความคิดเห็นที่ : 8


   สรุปกิจกรรมบรรเทาสาธารณภัย อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
วันที่ 13 – 15 มกราคม 2548
โดยนักศึกษาแพทย์ ปี 3 จำนวน 17 คน
กิจกรรม
1.ทำกลุ่มจิตบำบัดสำหรับเด็ก ร่วมกับ UNICEF ที่ รร.บางม่วง
2.บริจาคยาสำหรับเด็ก ให้นักเรียน รร.บ้านน้ำเค็ม ที่ สอ. คึกคัก และ ให้นักเรียน รร.บ้านนอกนาที่สอ.ปากอ่าว ต. คอเขา
3.บริจาคหนังสือแบบเรียนให้นักเรียน รร. บ้านน้ำเค็ม
4.บริจาคอุปกรณ์ทำอาหารให้ผู้ประสบภัย จำนวน 3 ครอบครัว ที่ รร.บุญสูงอุปถัมภ์
5.จัดกิจกรรมจิตบำบัด ให้นักเรียน รร.บ้านนอกนา ต.คอเขา
ปัญหาที่พบและความต้องการของชุมชน
1.อาคาร/สิ่งก่อสร้างและของบริจาค
- โรงอาหาร ขนาดบรรจุ 120 คน พร้อมอุปกรณ์ครัว (รร.บ้านน้ำเค็ม)
-ห้องสมุด พร้อมหนังสืออ้างอิงและแบบเรียนทุกวิชาสำหรับชั้น ป.1- ม.3
(รร.บ้านน้ำเค็ม : จำนวนนักเรียนประมาณ 30 คน/ชั้น)
-แบบเรียนชั้นป.1– ป.6,หนังสือความรู้ทั่วไป,หนังสือนอกเวลา,สื่อการเรียนสำหรับเด็กประถม (รร.บ้านนอกนา: จำนวนนักเรียนประมาณ 10 คน/ชั้น)
-ห้องน้ำ ห้องส้วม ชั่วคราว (ศูนย์อพยพต่างๆ เช่น อบต.น้ำเค็ม)
-น้ำบาดาลหมู่บ้าน (บ้านนอกนา หมู่ 2 ต. คอเขา)
-จักรยานเด็ก (บ้านนอกนา)
-เครื่องมือประกอบอาชีพ เช่น เรือ อุปกรณ์การเกษตร
2สุขภาพจิต :
เด็ก- โรงเรียนบางม่วงและโรงเรียนบ้านนอกนา
วัยรุ่น- โรงเรียนเสนาณรงค์
ผู้ใหญ่ - บ้านนอกนา หมู่ 2 ต.ปากอ่าว
- ศูนย์อพยพชั่วคราว
3.สุขอนามัยเด็กที่โรงเรียนบ้านน้ำเค็ม (ประมาณ 300 คน )และ ศูนย์อพยพชั่วคราว
4.ยาสำหรับโรคเรื้อรังที่ขาดการดูแลต่อเนื่อง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และยาantibiotic ที่ใช้บ่อย เช่น amoxycillin
5.นมผง สำหรับ เด็กแรกเกิด-5 ปี (สอ.คึกคัก)
6.ยาน้ำสำหรับเด็ก เช่น ยาแก้ไอ และยาลดไข้
7.การปรับปรุงคุณภาพน้ำใช้และแหล่งน้ำ
8.หน่วยแพทย์เยี่ยมศูนย์ผู้อพยพชั่วคราว

ขณะนี้สโมสรนักศึกษาแพทย์กำลังจัดตั้งกลุ่มเฉพาะกิจเพื่อดำเนินโครงการต่อเนื่อง โดยกำลังพิจารณาความเหมาะสมระหว่างความต้องการของชุมชนกับความสามารถในการจัดการของนักศึกษา คาดว่าจะสรุปรายละเอียดโครงการได้ในเร็วๆนี้ แล้วจะประชาสัมพันธ์เชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการค่ะ


Posted by : lucifer , Date : 2005-01-19 , Time : 02:43:33 , From IP : 172.29.4.133

ความคิดเห็นที่ : 9


   อยากขอร้องให้คุณ lucifer สะท้อนความรู้สึกของคนที่ไป ภายหลังจาก "ได้เห็น" และ "ได้ร่วม ได้จัด" เหตุการณ์และกิจกรรมต่างๆในครั้งนี้ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆฟังหน่อยครับ

ขอแบบพรรณนาโวหารได้ไหมครับ อ่านแบบ list แล้วไม่ค่อยได้ความรู้สึก

ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-19 , Time : 15:49:45 , From IP : 172.29.3.109

ความคิดเห็นที่ : 10


   ตั้งใจว่าจะไปหาข้อมูล ก็ได้มาอย่างตั้งใจค่ะ และก็โชคดีที่โอกาสอำนวยเราเลยได้จัดกิจกรรมที่เตรียมไปให้เด็กๆ ด้วย ส่วนที่ดีกว่าที่คาดคือ กิจการนักศึกษาสนับสนุนการที่เราจะกลับเข้าไปอีก ซึ่งการกลับไปครั้งหน้าเราก็หวังว่าจะได้ช่วยอะไรได้เป็นรูปเป็นร่างมากกว่าครั้งนี้

ทีแรกว่าจะไปดูเด็กที่รร.บ้านน้ำเค็มแต่ด้วยสภาพไม่ค่อยเอื้อกับพยาบาลที่ประจำที่นั่นเล่าให้ฟังว่ามีที่อื่นอีกที่ไม่ค่อยมีคนเข้าไปแล้วก็แนะนำมา เราก็เลยตระเวนดูตามที่บอก ไปสรุปว่าได้จัดกิจกรรม 2 ที่ ตามสมาชิกเห็นสมควร คือ ที่รร.บางม่วง ต.น้ำเค็ม และ รร.บ้านนอกนา ต.คอเขา

ที่ศูนย์อพยพ อบต.บางม่วง ก็แวะเข้าไป สภาพเหมือนคลองเตยยุคแรกๆ คนเข้าออกไม่รู้ใครเป็นใคร ทั้งtent ผู้อพยพ และtent ความช่วยเหลือ จากทางราชการบ้างไม่ราชการบ้าง รวมกันอยู่ในนั้น กองของบริจาคที่ไม่มีการจัดการกระจายของ ปัญหาหลักๆเร่งๆที่เห็น ก็เป็น ขาดน้ำใช้ ขาดส้วม มีคนเล่าให้ฟังว่า ต้องไปทุ่ง(ใช้คำโบราณหน่อยเพราะคนเล่าอายุตั้ง80 กว่าแล้ว) ลองนึกถึงสภาพและปัญหาของชุมชนแออัดดู ยังไงก็ยังงั้นเลยค่ะ พาลคิดเอาเองว่า คนที่ไปช่วยน่ะ ตกลงไปช่วยคน หรือไปช่วยผลาญ (ทรัพยากรสาธารณะที่จำเป็นและกำลังขาดแคลนอย่างวิกฤต เช่น น้ำ!!!) เราควรชั่งน้ำหนักดูไหมว่า การเข้าไปจะเกิดผลแก่ผู้เดือดร้อนจริงๆ หรือไปเพราะแค่อยากจะไป แล้วเราช่วยให้คนที่เดือดร้อนจริงได้สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ได้จะบอกห้ามใครเข้าไปนะคะ แต่เพียงว่าของบางอย่างรอได้ เรื่องบางเรื่องเร่งด่วน คนเข้าไปก็ควรจัดลำดับความสำคัญของตัวเองก่อน จะได้ไม่เบียดเบียนใครโดยไม่เจตนา

ไปที่บ้านนอกนา ต.คอเขามาด้วย ภาพที่เราเห็นตอนเข้าไปที่บ้านนอกนา ชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นั่งรวมกันอยู่ใต้ต้นไม้หน้าโรงเรียน ถามเค้าว่ามาอยู่ทำไมกันตรงนี้ เค้าก็ว่า กลางวันมาอยู่รวมกัน เพราะยังกลัวน้ำจะมาอีก ถ้ามาจริงจะได้ช่วยพากันหนีทัน แต่กลางคืนก็กลับบ้านใครบ้านมัน ส่วนมากคนที่เสียบ้านก็จะมารวมกันอยู่ที่บ้านญาติที่ไม่พังเพราะน้ำไม่ถึง บ้านหนึ่งก็อยู่กันหลายครัว ที่เราเจอก็มีหลายสภาพตั้งแต่ยังพอมีกำลังใจบ้างไปจนถึง hopeless เรื่องเสียขวัญ เครียด ผวาตื่น กลางคืนนอนไม่หลับ เจอเยอะมาก บางคนคุยดีๆแต่ก็มีปัญหาสุขภาพจิตแฝง

ตอนจะกลับก็ได้ยินว่าเจ้าใหญ่นายโตในรัฐบาลท่านมาแจกทุนการศึกษา แต่ภาพที่เห็นมันรู้สึกปวดหัวใจมากกว่าจะยินดี เด็กคนหนึ่งที่เรารู้จักเดินฝ่าเปลวแดดตอนเที่ยงวัน ข้ามน้ำออกจากเกาะเพื่อเข้ามารับทุนที่ว่า รวมกับเด็กอื่นๆ ที่ถูกเกณฑ์ให้ไปรับแจกพร้อมกัน เดินทางลำบากค่ะ ร้อนมาก ไม่รู้ว่าจะได้มาสักกี่ตังค์ แต่คงต้องเอาเพราะตอนนี้ก็ไม่มีรายได้จากทางอื่น นอกจากเงินบริจาค
แม่เค้าเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนที่บ้านเป็นร้านขายของชำ เปิดโต๊ะสนุ๊ก พออยู่ได้ ตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลย บ้านไปกับน้ำหมด เสียสามีไปด้วย ไม่รู้จะเริ่มต้นใหม่ยังไง เอกสารอะไรก็จัดการไม่เป็น รถก็หาย ตอนนี้เหลืออยู่แค่มอเตอร์ไซค์คันเดียว วันก่อนนี้ที่เข้าไปในหมู่บ้าน เราไม่เจอแม่เด็ก แต่เจอยายกับน้องสาวคนเล็ก อายุแค่ 3 ขวบ ยายเค้าเล่าว่าแต่ก่อนมันช่างพูด พูดทั้งวันไม่หยุด ตอนนี้มันไม่ค่อยเล่นไม่ค่อยพูด ไปคุยกะมันมันว่าปวดหัว อย่ามายุ่ง ฟังแล้วก็อึ้ง เด็ก 3 ขวบพูดว่า “ปวดหัว”
อีกคนอึ้งกว่า เด็ก2 ขวบน้าเค้าอุ้มพาดบ่าไว้ ดูเค้าอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร เล่นด้วยก็ไม่เล่น เฉยอย่างเดียว เราก็คิดว่าน่าจะผิดปกติ ถามน้าเค้าก็เล่าว่าวันเกิดเรื่องแม่มันเอาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ขี่หนีน้ำ แล้วน้ำมันไล่ทัน ตอนนี้พอมีใครพูดให้ได้ยินว่าน้ำมามันก็ชวนย่าขึ้นเขา เราก็งงว่าเด็กจะพูดยังไงเพิ่งจะ 2 ขวบน้าเค้าเล่า “มันว่า “ย่า” “เขา” “ไป” ถ้าย่าไม่ไปมันร้องดิ้นจนต้องพามันไป” ฟังแล้วเหลือจะเชื่อ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเกิดแล้วจริงๆ ความสูญเสียที่ฝังลึกในใจ แม้แต่เด็กเล็กที่ยังไม่รู้ภาษา ผู้ใหญ่เองก็ไม่น้อย ตอนแรกที่คุยก็คุยเรื่อยๆ ไม่ได้ถามถึงตอนเกิดเหตุเพราะกลัวจะสะเทือนใจ ก็จริงอย่างคิด พอคุยไปเรื่อยเค้าก็เริ่มเล่าเอง ตอนเล่าก็ซึมแต่พอจับมือเค้า กอดเค้า ยายแกร้องสะอื้นเลย แกเสียสามี เสียบ้าน ตอนนี้ลูกทำงานอยู่ที่อื่นไม่ได้อยู่ด้วย ความรู้สึกเกินบรรยาย สำหรับคนที่สูญเสีย เค้าเสียกันจนไม่เหลือจริงๆ คนที่เสียคนในครอบครัวด้วยจะมีปัญหามากกว่าคนที่เสียบ้าน เสียของ
เล่ามาซะยาว จริงๆแล้วเรื่องที่พยายามจะสื่อก็คือ ทุกๆคนที่ลงไปในพื้นที่ตอนนี้ต่างมีข้ออ้างในการไปเหมือนกันคือ “เพื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือ” แต่สิ่งที่เราเห็นทำให้เราได้กลับมาคิดว่าจริงๆแล้วทุกคนหรือที่ไปเพื่อ “ช่วย”หรือบางคนไปเพราะเป็นโอกาสที่จะได้ “ฉวย” การหยิบประโยชน์บางอย่างที่ดูแล้วช่างน่าละอายแต่ก็ไม่เห็นว่าเค้าจะอาย เรื่องนี้น่าเศร้ายิ่งกว่าการได้เห็นได้รับรู้ความสูญเสียของเพื่อนมนุษย์เสียอีกค่ะ


Posted by : Lucifer , Date : 2005-01-19 , Time : 22:48:16 , From IP : 172.29.4.133

ความคิดเห็นที่ : 11


   ขอบคุณ คุณ Lucifer มากครับที่ช่วยกรุณาเปิดมุมมองให้พวกเราฟัง

มหาอุบัติภัยขนาดนี้ การแก้ปัญหาทางวัตถุแต่เพียงอย่างเดียวคงยากที่รื้อฟื้นที่สูญเสียให้กลับมาเหมือนเดิม สิ่งหนึ่งที่มหาอุบัติภัยแตกต่างจากอุบัติเหตุทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเทกระจาดซัก 10-20 คน ไฟไหม้ตึกสักหลังหนึ่งก็คือ ความสูยเสียในระดับสังคม เช่น หมู่บ้านทั้งหมู่บ้าน เมืองทั้งเมือง sense of security ทางจิตใจและจิตวิญญาณอาจจะไปถึงกับการมองว่านี่เป็นผลแห่งกรรมต่างๆ หรือเป็นการกระทำของ higher being ฯลฯ น่าเป็นห่วงว่าเรามีผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ที่จะจัดการเรื่องนี้เพียงพอหรือไม่

ความสูญเสียระดับนี้คงจะต้องใช้ resource ทั้งหมดที่มี ทั้งจากส่วนราชการและ NGO ทั้งส่วนย่อยสุดคือครอบครัวไปถึงระบอบสังคม เพื่อที่จะประคับประคองที่กำลังซวนเซอยู่

ความน่ากลัวและความสูญเสียที่แน่อาจจะไม่จำกัดอยู่แค่ในระยะ acute เท่านั้น ผลกระทบในวงกว้างน่าจะ fixed ยากกว่าที่ใครๆวาดภาพไว้



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-20 , Time : 01:58:31 , From IP : 172.29.7.21

ความคิดเห็นที่ : 12


   เท่าที่อ่านมา เราคงต้องเรื่มที่จะให้มีปัจจัย ความต้องการพื้นฐานสมบูรณ์สักนิดก่อนหล่ะมั้ง
เด็กจะไปโรงเรียนได้ ต้องมีที่ให้เรียน มีหนังสือ มี...
จะให้นอนหลับได้ต้องมีที่ให้นอน
จะให้มีแรงคิดสร้างสรรค์อะไร ท้องต้องอิ่ม.......อะไรอีกต่างๆนาๆ
สุดท้ายก็การจัดการเรื่องปัญหาทางจิตใจ

ดูเหมือนน้องๆจะวิเคราะห์เรื่องแบบนี้ออก พี่ขอชื่นชมนะ

ทีนี้ขอลงลึกไปถึงเรื่องที่น้องเล่าให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นการมารวมตัวกันของชาวบ้าน ตอนกลางวันเพราะกลัวน้ำมา เด็กร้องให้ยายพาขึ้นควน... พี่ว่านี่คือพฤติกรรมหลีกเลี่ยง หรือหลีกหนี ที่เกิดจากภาวะacute stress disorderนะ เราอาจช่วยเหลือพวกเขาได้ โดยโจทย์คือทำอย่างไรให้คนเหล่านี้กล้าเผชิญ กับสิ่งที่กลัวอยู่ คือทำexplosure ที่จริงการให้ได้เล่าถึงเรื่องคลื่นยักษ์ก็เป็นการกระตุ้นให้ได้เผชิญอย่างหนึ่ง มันเป็นการเผชิญในจินตนาการหน่ะ แต่เราอาจต้องเพิ่มความแรงของตัวกระตุ้นให้มากขึ้นกว่านั้นอีกสักนิดในครั้งต่อไป อาจในรูปกิจกรรมกลุ่ม เช่น ให้สามารถดูรูปคลื่นยักษ์ได้ สุดท้าย คงต้องกล้าลงทะเลนะ
อีกเรื่องที่น้องเล่ามาก็คงมีภาวะgriefซ่อนอยู่ แต่พี่คิดว่าเราอาจจะยังได้ข้อมูลไม่ลึกพอ โดยส่วนใหญ่เมื่อผ่านพ้นไป1หรือ2เดือนภาวะนี้จะจางลง พูดถึงความสูญเสียไม่ว่าจะสามี หรือลูกได้อย่างไม่มีอามณ์ติดค้างได้สบาย แต่ว่าถ้ายังเล่าไปร้องไป รู้สึกผิด หรือโกรธคนที่จากไป เราคงต้องพยายามไปค้นหาว่ามีโรคซึมเศ้ราที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มพวกนี้หรือไม่
ถ้าอย่างไรจะลองเสนอไปที่หน่วยกิจการให้หาเรื่องพวกนี้ให้อ่านก่อนออกไปอีกรอบในวันศุกร์ เสาร์อาทิตย์ นี้ ซึ่งพี่ได้ข่าวมาว่าน้องปี2 และปี1บางส่วนจะออกไปสานงานต่อจากพวกน้องๆใช่ไหม


Posted by : pisces , Date : 2005-01-20 , Time : 06:22:51 , From IP : 172.29.7.226

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<