ความคิดเห็นทั้งหมด : 2

"กำนันอนุพงศ์" พลิกลิ้น แฉเหตุซัดทอด ส.ส.เพราะถูก ตร.ข่มขู่


   กำนันอนุพงศ์" พลิกลิ้น แฉสิ้นเหตุปรักปรำ “นัจมุดดีน” เพราะถูก ตร.ข่มขู่ หวั่นความปลอดภัย ร้องศาลขอคุ้มครองชั่วคราว

วันนี้(27 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ความคืบหน้ากรณีผู้พิพากษาในศาลอาญานัด สืบพยานโจทก์ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนัจมุดดีน อูมา ส.ส.จังหวัดนราธิวาส พรรคไทยรักไทย จำเลยที่ 1 และนายอารี หรือฮารีฟ โซ๊ะโกะ เป็นจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน สะสมกำลังพลและอาวุธ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่สมคบกันเป็นซ่องโจร และข้อหาอื่นๆ รวม 12 ข้อหา

โดยในนัดสืบพยานโจทก์วันนี้ อัยการได้เบิกตัว นายอนุพงศ์ พันธชยางกูร อดีตกำนัน ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องขึ้นเบิกความ สรุปใจความว่า เคยพบและร่วมประชุมกับจำเลยที่ 1 ครั้งแรก ที่บ้านนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.นราธิวาส เป็นการประชุม ส.ส.พรรคไทยรักไทยในพื้นที่ จ.นราธิวาส ก่อนการเลือกตั้งเมื่อปี 2543 โดยไม่มีการพูดคุยเรื่องการแบ่งแยกดินแดนเป็นรัฐปัตตานีแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้มีการประชุมของ ส.ส.กลุ่มวาดะห์กันอีกหลายครั้ง แต่พยานไม่ได้ร่วมประชุมด้วย

นายอนุพงษ์ยังเบิกความต่อว่า สำหรับการก่อตั้งองค์การบูซาก้าในพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่เด็กที่นับถือศาสนาอิสลาม ส่วนโรงเรียนปอเนาะจะสอนด้านศาสนาโดยไม่มีการจำกัดช่วงอายุ สำหรับโรงเรียนตาดีกาจะเป็นการศึกษาในระดับประถม และจะมีการเรียนในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งมีอยู่ในทุกหมู่บ้าน โดยจะมีครูหรืออุสตาซส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งมีความรู้ด้านศาสนาอิสลาม มาคอยสอนในโรงเรียนปอเนาะและโรงเรียนตาดีกา บรรยากาศการเรียนการสอนในโรงเรียน เวลาเช้านักเรียนทุกคนจะต้องมาเคารพธงชาติเหมือนกับโรงเรียนทั่วไป ไม่มีการร้องเพลงรัฐปัตตานี หรือเพลงภาษายาวีใดๆ ทั้งสิ้น ในการจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียนตาดีกาใน ต.โต๊ะเดง ที่มีการใส่ชุดทหารในการเดินขบวนพาเหรดนั้นเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่ทางอำเภอมีคำสั่งให้คอยควบคุมดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กนักเรียนเท่านั้น

นายอนุพงษ์ยังได้ตอบข้อซักถามของอัยการโจทก์ เกี่ยวกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนหรือรัฐปัตตานีในพื้นที่ภาคใต้ว่า พยานทราบเรื่องดังกล่าวเหมือนกับประชาชนทั่วไปที่รับรู้ข่าวสารจากสื่อมวลชน แต่ไม่เคยเห็นการการจัดกิจกรรม หรือนิทรรศการต่างๆ ในจังหวัด ที่เกี่ยวกับประวัติรัฐปัตตานี พยานโจทก์ปากนี้ยังเบิกความถึงเหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายกองพันทหารพัฒนาที่ 4 และเผาโรงเรียน เมื่อเดือนมกราคม 2547 ว่า ในคืนวันที่ 3 มกราคม2547 ตนไปร่วมพิธีดะวะห์ที่มัสยิดเป็นเวลา 3 คืน เพื่อทำจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ตามหลักศาสนาอิสลาม และไม่มีกลุ่มวาดะห์ มาร่วมประชุมกันในสถานที่ดังกล่าว

กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 4 มกราคม 2547 ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ มีชาวบ้าน มาบอกว่ามีการวางเพลิงที่โรงเรียน แต่ก็ไม่มีใครออกจากมัสยิดไป และฝนคืนเดียวกันก็เกิดการปล้นปืนขึ้นที่กองพันทหารพัฒนาที่ 4 ซึ่งตนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งสองและมาทราบข่าวภายหลังพร้อมกับชาวบ้าน ต่อมาวันที่ 5 มีนาคม 2547 เวลาประมาณ ตี 4 ได้มีตำรวจกองปราบปรามจำนวนกว่า 60 นาย มาจับกุมตนที่บ้าน และปิดตาด้วยผ้าดำ จากนั้นจึงพาไปที่บ้านแห่งหนึ่งติดชายทะเล และสอบถามเกี่ยวกับการปล้นปืน และยังข่มขู่ด้วยว่าหากไม่บอกที่ซ่อนปืน จะต้องตาย พยานจึงตอบไปว่าถึงตายก็บอกไม่ได้ เพราะว่าไม่รู้ นอกจากนี้ยังถามถึงการจ้างวานฆ่า ด.ต.ปัญญา นาราฮึม ตำรวจ สภ.อ.สุไหงปาดี ตนได้ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด

“ตนได้ถูกนำตัวไปยัง สภ.ต.ตันหยง ซึ่งตั้งแต่ถูกจับกุมจนถึงขั้นตอนการสอบสวนไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและลงบันทึการจับกุมแต่อย่างใด ทั้งนี้ ขณะที่ถูกควบคุมตัวมายังกรุงเทพฯ ยังถูกทำร้ายร่างกายบนเครื่องบินจนฟันกรามหัก 2 ซี่ และยังนำเหล้ามาราดใส่ปากตน ซึ่งเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงเพราะผิดหลักศาสนาอิสลาม” นายอนุพงษ์ ระบุในศาล

จากนั้น นายอนุพงษ์ในฐานะพยานโจทก์ ยังได้เบิกความในประเด็นต่างๆ นอกจากนี้ ได้แถลงต่อศาลขอให้ศาลให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนและครอบครัว เนื่องจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีนายตำรวจยศพันตำรวจเอก ไปสอบถามถึงภรรยาว่าจะเดินทางมายังกรุงเทพฯเมื่อไร และก่อนที่จะมาให้การเป็นพยาน ในวันนี้ได้มีนายตำรวจระดับนายพลมาข่มขู่ว่าหากไม่ให้การอย่างที่ต้องการจะเห็นดีกันแน่ จึงเกรงว่าจะได้รับอันตรายด้วย.



จาก http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9470000102907


Posted by : bfy , Date : 2004-12-27 , Time : 18:48:56 , From IP : 172.29.4.207

ความคิดเห็นที่ : 1


   อาไรของมันเนี่ย

Posted by : bf y , Date : 2004-12-27 , Time : 18:49:26 , From IP : 172.29.4.207

ความคิดเห็นที่ : 2


   ความอยุติธรรมยังคงมีมากนัก โดยเฉพาะกับคนที่ถูกตราบาป
ทั้งๆที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยกลับต้องมารับกับเหตุการณ์ที่เลวร้าย
ที่เกิดจากมนุษย์ด้วยกัน เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้เกิดจากอะไร
คุณ(ตำรวจ)รู้อยู่แก่อก แล้วทำไมต้องมาปรักปรำผู้บริสุทธิด้วย
สักวันคนในท้องที่อาจเกิดความรู้สึกอยากแบ่งแยกดินแดนขึ้นมาจริงๆ
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น (ส่วนตอนนี้ทุกคนยังรักประเทศไทยอยู่เหมือนเดิม)
แต่ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ (ถูกกดขี่ ข่มเหง)อนาคตก็ไม่แน่ว่าจะรักประเทศไทยอยู่รึเปล่า


Posted by : 123 , E-mail : (-) ,
Date : 2005-01-06 , Time : 01:05:24 , From IP : 172.29.4.88


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<