ความคิดเห็นทั้งหมด : 67

ถึงน้องปี 2 บางกลุ่ม


   น้องๆปี2 น้องๆคิดว่าสิ่งที่น้องทำอยู่นั้นมันสมควรหรือไม่ กับการจัดงานปาร์ตี้ เปิดเพลงเสียงดังลั่น ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันตลอดเวลา บนระเบียงชั้น 5 บินหลา 1 ซึ่งเป็นสถานที่โล่ง ในเวลาตั้งแต่กี่โมงไม่รู้แต่ตอนนี้เที่ยงคืนครึ่งแล้วน้องๆก็ยังไม่เลิกงานกัน น้องๆรู้บ้างมั้ย ว่าแถวนี้มีหอพักอยู่ทั้งหมดกี่หอ แล้วน้องๆรู้บ้างมั้ย ว่ามีคนออกมายืนดูน้องๆจัดงานกันที่ระเบียงห้องของเค้า(หอพักที่ติดกับสนามบอล) แล้วน้องๆรู้บ้างมั้ย ว่ามีคนตะโกนด่ามาด้วย แต่พี่ว่าน้องคงไม่ทราบเพราะน้องอาจจะกำลังสนุกเฮฮากันอยู่ โดยลืมนึกไปแล้วว่าเวลานี้เป็นเวลาที่คนเค้าหลับนอนกันแล้ว หรือไม่น้องๆก็อาจจะไม่สนใจเหมือนกับคราวที่น้องจัดงานHBD ใต้ปีก A ตอนที่พวกพี่กำลังสอบ HEMATO อย่างไม่รู้จักเกรงใจ(จัดกัน 30 นาทีก็ยังไม่จบซักที) แม้กระทั่งมีพี่ปี 3 คนนึงตะโกนด่าลงมาแล้วพวกน้องก็ยังไม่ยอมเลิกงาน …….น้อง เสียงดังเนี่ย พวกพี่(บางคน)โอเคนะ เพราะน้องก็คือน้องคณะของพวกพี่เอง แต่ที่พี่มาโพสคราวนี้ ก็เพื่ออยากจะเตือนน้องๆว่า เราไม่ได้อยู่กันคณะเดียวในรัศมี 10 กิโลเมตรนะ น้องๆต้องหัดมีความเกรงใจหอข้างๆเสียบ้าง น้องๆเคยคิดบ้างมั้ยว่า หอข้างๆเค้าอาจจะต้องอดหลับอดนอนเพราะงานปาร์ตี้ของน้องๆ แล้วตื่นเช้าไปทำงาน หรือ งานปาร์ตี้ของน้องๆอาจจะไปทำให้ลูกเค้าตื่นร้องไห้งอแงได้ พี่ว่าพวกน้องต้องคิดให้มากกว่านี้นะ คิดให้ยาวๆ อย่าคิดแต่สนุกอย่างเดียว มองให้กว้างๆ แล้วน้องจะพบว่ามีใครที่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของน้องๆมาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้ว ตั้งแต่น้องๆอพยพกันมาอยู่บินหลา 1

Posted by : พี่ปี 3 ที่มีความคิดเห็นตรงกัน , Date : 2004-12-25 , Time : 00:34:37 , From IP : 172.29.4.88

ความคิดเห็นที่ : 1


   ต้องขอโทษกับพฤติกรรมของพวกเราด้วยครับ
ไม่ได้จะแก้ตัวอะไรเพราะก็ยอมรับว่าผิดจริง
คำ "ขอโทษ" อาจพูดง่ายไปไม่สมควรกับความเดือดร้อนของผู้อื่นทั้งพี่ๆที่ต้องทนและยังลามไปหออื่นอีก
แต่ก็ไม่มีคำไหนจะแสดงความรับผิดชอบได้ดีกว่านี้
และตั้งใจว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก....
ขอโทษจากใจจริงๆครับ


Posted by : ขอโทษจากใจ , Date : 2004-12-25 , Time : 02:42:43 , From IP : 172.29.4.223

ความคิดเห็นที่ : 2


   ไอ้สัตว์ มึงเป็นใครวะ แมร่งพูดจาหมาไม่แดกมีรุ่นพี่หมาๆอย่างนี้กูเอาหมามาทำพี่ดีกว่า พวกกูไม่ได้จัดกันทุกวันกันทุกวันนะโว้ย พวกมึงไม่ต้องมาทำเป็นคนดีหรอก

Posted by : godhand , E-mail : (......) ,
Date : 2004-12-25 , Time : 04:17:02 , From IP : 172.29.4.116


ความคิดเห็นที่ : 3


   สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล จริงๆ
ใครผ่านมาเห็นไม่อายเขาบ้างหรือ นี่น่ะหรือ คนมีการศึกษา


Posted by : ช่างไม่สำนึก , Date : 2004-12-25 , Time : 06:23:12 , From IP : 172.29.4.186

ความคิดเห็นที่ : 4


   อีกอย่าง คุณคิดบ้างไหมว่ามีใครบ้างที่เข้ามาอ่านกระทู้สาธารณะแห่งนี้
เขาจะคิดยังไง จะรู้สึกยังไง เรื่องง่ายๆแค่นี้ใช้สมองคิดเป็นไหม ใช้งานมันซะบ้าง อย่าเอาไว้ใช้กั้นหูอย่างเดียว


Posted by : ช่างไม่สำนึก , Date : 2004-12-25 , Time : 06:29:43 , From IP : 172.29.4.186

ความคิดเห็นที่ : 5


   เอาน่า...ก่อนอื่นก็ต้อง"ขอโทษ"จากใจจริง (จริง ๆ เลยนะ)สำหรับรุ่นพี่ทุกคนและหอพักข้าง ๆ ด้วย ไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น และก็ขอ"ขอบคุณ"รุ่นพี่ที่ออกมาตักเตือนนะครับ ที่เขาเตือนก็เพราะว่าเขายัง"ห่วง" การที่รุ่นพี่เตือนก็ไม่ผิดอะไร เราต้องรู้จักฟังกันบ้าง โต ๆ กันแล้วทั้งนั้น
เออ...แต่ขอฝากรุ่นพี่ไว้หน่อยนะครับ จะเตือนก็น่าจะเตือนกันตรง ๆ แบบซึ่ง ๆ หน้า ไม่ควรมา Post ใน Webboard ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นใครแบบนี้ หรือบางทีรุ่นพี่อาจต้องการจะประจานก็เป็นไปได้กระมัง


Posted by : DogTor , Date : 2004-12-25 , Time : 10:52:41 , From IP : 172.29.2.168

ความคิดเห็นที่ : 6


   ถึงคุณ gonad
เอ้ย godhand

ไอ้สัตว์ มึงเป็นใครวะ แมร่งพูดจาหมาไม่แดกมีรุ่นพี่หมาๆอย่างนี้กูเอาหมามาทำพี่ดีกว่า พวกกูไม่ได้จัดกันทุกวันกันทุกวันนะโว้ย พวกมึงไม่ต้องมาทำเป็นคนดีหรอก

Posted by godhand(......) 2004-12-25 , 04:17:02 , 172.29.4.116



ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนเปิดกระทู้หรอก แต่ความรู้สึกไม่ได้ต่างจากคนเปิดกระทู้

พูดอย่างนี้ ไม่ได้มีความสำนึก ยังโอหังอีก ผมเองก็ทนไม่ได้เหมือนพี่ๆหลายคน
ถ้าเป็นคนคณะแพทย์จริง เปิดเผยตัวเองซะแล้วลงมาคุยกะผมที่ห้องกระจก

ถ้าไม่ใช่คนคณะแพทย์ก็แล้วไป



ผมเคืองอย่างแรง(ที่ไม่ใช่สรรพนาม พี่ น้อง เพราะเริ่มรู้สึกว่าไม่ควรค่าใช้คำนี้)







Posted by : แปะ ปี 3 ณ ห้องกระจก บินหลา v , Date : 2004-12-25 , Time : 10:58:19 , From IP : 172.29.4.251

ความคิดเห็นที่ : 7


   เอ่อ......ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเลขIP ของผมถึงไปเหมือนกับคุณ godhand ได้อ่ะ

สำหรับเหตุการณ์เมื่อวานหรือครั้งก่อนๆๆ ที่พวกเราทำเสียงดัง ต้องขออภัยจิงๆสำหรับรุ่นพี่
และคนที่อาศัยอยู่ที่หอข้างเคียงแต่ถ้ารุ่นพี่รู้สึกไม่ดีจนทนไม่ไหวแล้วก็ขอให้มาบอกได้เลยครับ
เราจะปรับปรุงกันต่อไป ความเป็นพี่น้องคณะแพทย์เหมือนกันคงทำให้อะไรหลายๆอย่างดีขึ้น
ใช่มั้ยครับ


Posted by : 4625114 , Date : 2004-12-25 , Time : 14:24:09 , From IP : 172.29.4.130

ความคิดเห็นที่ : 8


   เอ่อ......ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเลขIP ของผมถึงไปเหมือนกับคุณ godhand ได้อ่ะ

สำหรับเหตุการณ์เมื่อวานหรือครั้งก่อนๆๆ ที่พวกเราทำเสียงดัง ต้องขออภัยจิงๆสำหรับรุ่นพี่
และคนที่อาศัยอยู่ที่หอข้างเคียงแต่ถ้ารุ่นพี่รู้สึกไม่ดีจนทนไม่ไหวแล้วก็ขอให้มาบอกได้เลยครับ
เราจะปรับปรุงกันต่อไป ความเป็นพี่น้องคณะแพทย์เหมือนกันคงทำให้อะไรหลายๆอย่างดีขึ้น
ใช่มั้ยครับ


Posted by : 4625114 , Date : 2004-12-25 , Time : 14:24:11 , From IP : 172.29.4.130

ความคิดเห็นที่ : 9


   ผมขอโทษรุ่นพี่ปี3 และบุคคลอื่นที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่พวกเราเสียงดังเมื่อคืนครับ ผมขอโษจริงๆครับ รวมถึงเหตุการณ์การอื่นๆที่พวกผมทำให้พี่ปี3เดือดร้อนครับ พวกผมเคารพรุ่นพี่เสมอพี่มีอะไรที่เห็นว่าพวกเราทำไม่เหมาะสมพี่สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้โดยตรงเลยครับ พวกเราพร้อมรับฟังเสมอครับ ผมขอร้อง ให้หยุดการโพสในกระทู้นี้ไว้เท่านี้เถอะครับอย่าให้ลุกลามจนไฟขึ้นหลังกระทู้เลย ที่นี่เป็นบอร์ดสาธารณะพวกเราไม่ควรใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพมาโพสทุ่มเถียงกันเลยครับ การโพสในเวปบอร์ดของผู้ที่ไม่กล้าเปิดเผยตัวและใช้ถ้อยคำไม่สุภาพข้างต้นนั้นผมว่าคงไม่มีความบริสุทธิ์ใจเท่าไหร่นัก ผมขอร้องผู้ที่โพสด้วยถ้อยคำไม่สุภาพนั้นได้โปรดอย่าก่อให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้บนเวปบอร์ดคณะเราอีกเลยครับมันมีแต่จะสร้างความแตกแยกและเป็นภาพที่ดูไม่ดีเลยครับ ขอโทษพี่ปี3และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอีกครั้งครับจากใจจริง

Posted by : โน้ตปี2 , Date : 2004-12-25 , Time : 15:22:57 , From IP : 172.29.4.31

ความคิดเห็นที่ : 10


   

ไอ้สัตว์ มึงเป็นใครวะ แมร่งพูดจาหมาไม่แดกมีรุ่นพี่หมาๆอย่างนี้กูเอาหมามาทำพี่ดีกว่า พวกกูไม่ได้จัดกันทุกวันกันทุกวันนะโว้ย พวกมึงไม่ต้องมาทำเป็นคนดีหรอก

รู้สึกเศร้ามากที่มีคน(หรือสัตว์?)
....คงเป็นอย่างหลัง เพราะสัตว์ต่อสัตว์ถึงจะพูดภาษาเดียวกัน...ก็ขอมีส่วนร่วมในฐานะสัตว์ตัวหนึ่งด้วยแล้วกัน

รู้สึกเศร้ามากที่มีคนที่คิดแบบนี้อยู่ร่วมชายคาเดียวกับเรา


จริงๆแล้วเมื่อโดยส่วนตัวเมื่อคืนก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เพราะว่าง
....หนังสือหนังหาก็ไม่ได้อ่าน แต่เห็นใจเพื่อนบ้านทีกำลังสอบ หรือกำลังพักผ่อนอยู่ในเวลาที่ควรพักผ่อนก็ต้องมาเดือดร้อนเพราะความเห็นแก่สนุกของคุณหมอ แต่คงไม่มีใครกล้าว่ากล่าวตักเตือนคุณหมอgodhand ตรงๆหรอกนะคะ เพราะตั้งแต่เมื่อคืนคนที่เดือดร้อนก็ไม่มีใครกล้าว่าอะไร อีกอย่างก็เห็นใจค่ะว่าไม่ได้จัดกันทุกคืน ไหนๆในอนาคตก็จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นอภิสิทธิชนในสังคมอยู่แล้ว ทำอะไรก็ไม่ผิดไม่มีใครกล้าว่าหรอก หมอคือผู้ถูกเสมอ สะสมความเคยชินกันไว้ก็ดีค่ะ จบไปเป็นหมอแล้วจะได้ไม่เขินเวลาอวดเบ่งตัวกูของกูกับประชาชน

ในฐานะพี่หมาๆ กับอุดมการณ์สัตว์ๆของตัวเองก็คงไม่กล้าเอ่ยปากว่ากล่าวตักเตือนเหมือนกัน ขออภัยที่ต้องใช้วิธีการPost ในกระดานสาธารณะ เพราะไม่รู้ว่า god hand เป็นใคร ก็เลยไม่รู้ว่าต้องไปเห่ากับใคร


Posted by : อัจราวดี ปี3 ณ ห้องกระจก , Date : 2004-12-25 , Time : 16:26:20 , From IP : 172.29.4.229

ความคิดเห็นที่ : 11


   happy new year 2005 ka

Posted by : dao 108 , Date : 2004-12-25 , Time : 22:57:32 , From IP : 172.29.4.216

ความคิดเห็นที่ : 12


   ขอโทษคะ ไม่ทันดู ผิดกระทู้

Posted by : dao 108 , Date : 2004-12-25 , Time : 22:58:16 , From IP : 172.29.4.216

ความคิดเห็นที่ : 13


   เป็นแค่คนผ่านมาค่ะ
แต่สลดใจจังค่ะ เดี๋ยวนี้รุ่นน้อง(บางคน)เขาใช้คำพูดกับรุ่นพี่แบบนี้แล้วเหรอคะ



Posted by : Sr , Date : 2004-12-26 , Time : 03:14:16 , From IP : 172.29.4.56

ความคิดเห็นที่ : 14


   การประชดประชัน ท้าทายกัน อย่างเปิดเผย กับการชี้แนะโดยสุภาพ ห่วงใย จากที่ไหนสักแห่ง

ล้วนแสดงถึงความกล้าในการแสดงความรู้สึกและต้องการของคน post
แต่เนื่องจากเลือกวิธีที่แตกต่างกันคงหวังผลที่แตกต่าง
และผลที่ได้รับก็คงแตกต่าง..

อย่างไรรุ่นพี่(เกือบทุกแบบ)ก็ยังคงถูกนำไปเป็นแบบอย่าง
..สิ่งที่เรา(จะ)ได้เห็น ก็คือสิ่งที่เรา(เคย)เป็น..
นีเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับว่ามีความเป็นจริงอยู่
ฉะนั้นเราเองก็ต้องทบทวนตนเองเช่นกัน ก่อนที่เราจะได้เห็นสิ่งที่เราเป็นในวันนี้
ด้วยสายตาตนเองผ่านตัวแสดงอื่น

และขอแสดงความคิดเห็นและความปรารถนาดี...จากมุมหนึ่ง


Posted by : brace , Date : 2004-12-26 , Time : 16:42:30 , From IP : 203.172.70.129

ความคิดเห็นที่ : 15


   ถึงน้องปี 2 ทุกคนและคนที่มีส่วนร่วมกระทู้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องปี 2 ที่มีspirit ขอโทษแทนเพื่อน

พี่รู้สึกเสียใจกับการกระทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง ซึ่งจริงๆแล้วอาจไม่รู้สึกเสียใจถ้าจะไม่มีใครมาบอกว่า น้องรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่พี่แสดงความเห็นไปเมื่อวันก่อน และก็คงจะไม่ได้ทบทวนการกระทำของตัวเองถ้าไม่มีความเห็นของคุณ brace

ด้วยเจตนาของการประชดประชันไม่ได้ต้องการให้เกิดความแตกร้าวระหว่างพี่น้อง ไม่ได้ต้องการให้เกิดข้อพิพาทระหว่างชั้นปี สิ่งที่ต้องการจริงๆ มีอยู่ 3 ประเด็นดังนี้

1.อยากแสดงให้รู้ว่า รู้สึกโกรธ ที่โกรธ ไม่ได้เพราะน้องเสียงดัง พี่ปี 3 เองบางทีก็ดังไม่เกรงใจน้อง ไม่เกรงใจเพื่อนบ้านเหมือนกัน ดังนั้นเราจะมาโทษกันกรณีนี้ก็คงไม่ได้ เราเองก็ไม่ได้ควบคุมดูแลกันเองดีพอที่จะตักเตือนน้องเรื่องนี้ แต่โกรธเพราะ response ต่อคำเตือนของพี่ที่ตั้งกระทู้นั้นเหลือจะรับ พี่เองไม่ได้เป็นคนตั้งกระทู้ แต่เข้าใจว่า พี่คนที่ตั้งกระทู้เองเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนที่น้องทำเสียงดัง เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะเห็นใจคนอื่นมากกว่า น้องเองจะเคยเข้าใจกันบ้างไหมว่า อาชีพที่น้องเลือกจะเจริญไปนั้นถูกคาดหวังเรื่องความเสียสละมากน้อยแค่ไหน น้องยังจำได้ไหมว่า สมเด็จพระบิดาท่านสอนเราให้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตน ดังนั้นการที่น้องไม่เพียงแต่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนอันเนื่องจากความสนุกสนานแล้วยังประนามผู้ที่ตักเตือนน้องอย่างรุนแรงอย่างนี้จึงเป็นเรื่องที่พี่รู้สึกโกรธ

2. เราตอนปลายที่อยู่ในวัยรุ่นตอนปลายที่ใกล้เป็นผู้ใหญ่เต็มทีแล้ว นอกจากความรับผิดชอบตัวเองที่น้องทำได้อย่างดีเลิศแล้ว เราน่าจะหวังความรับผิดชอบต่อผู้อื่น ต่อสังคมที่เราเป็นสมาชิกอยู่ได้บ้าง การที่น้อง god hand ปฏิเสธความรับผิดชอบอย่างไร้สำนึกเช่นที่น้องแสดงนี้ ก็เป็นเรื่องน่าผิดหวังอยู่ ด้วยจุดมุ่งหมายที่พี่มาอยู่ที่นี่ พี่ไม่ได้หวังเพียงว่า อยากเรียนจบ ได้ทำอาชีพหมอแล้วจบเรื่องกันไป แต่หวังอยากเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่อย่างแท้จริง อยากร่วมแบ่งปันความรู้ ทัศนะ ประสบการณ์ และอะไรก็ตามที่เราจะได้เจริญไปพร้อมกัน ทั้งความรู้ จรรยา จริยธรรม อะไรก็ตามที่เราจะได้เรียนรู้ไปเพื่อประโยชน์ของคนอื่นในวันข้างหน้า ดังนั้นสิ่งที่น้องแสดงจึงค่อนข้าง trauma ความรู้สึกของพี่(ไม่รู้รวมถึงความรู้สึกของพี่คนอื่นด้วยไหม?)

3. การที่เลือกใช้คำเดียวกันกับที่น้องใช้เพราะต้องการให้น้องรู้ว่าถ้ามีคนทำอย่างเดียวกันนี้บ้างน้องจะรู้สึกอย่างไร ข้อนี้ยอมรับว่าผิดมากอยู่ที่เลือกวิธีการแสดงออกได้ไม่เหมาะสมนัก เพราะความเป็นพี่ต้องมีวุฒิภาวะมากพอที่จะควบคุมการแสดงออกได้มากกว่าน้อง ดังนั้นถ้าน้องจะไม่ให้อภัยก็คงต้องยอมรับดีๆ ว่าผิดจริง ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือ ห่วงอยู่ว่าเมื่อน้องเรียนจบไป นายแพทย์และแพทย์หญิงหลายคนคงต้องไปเป็นหัวหน้าองค์กรที่น้องทำงานอยู่ การมีอำนาจการตัดสินใจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่ที่ตัวนั้น น้องจะ "ไม่ฟัง" ใครเลยก็ย่อมได้ แต่ด้วยวุฒิภาวะของน้องก็ลองตรองผลดี-เสียของการกระทำนั้นดู เวลาที่เราเรียนจบไปแล้ว เติบโตไปพร้อมด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิ ตำแหน่งหน้าที่อันให้คุณให้โทษแก่คนอื่น จะมีสักกี่คนที่กล้าเป็นกระจกส่องเงา ให้น้อง จะมีสักกี่คนที่กล้าตักเตือนน้องด้วยหวังดี วันนี้ยังมีพี่ มีเพื่อน มีผู้ใหญ่หลายคนคอยดูคอยห่วง ถนอมนักน้ำใจน้อง อย่าว่าแต่ว่าแรงๆ ตักเตือนเฉยๆ ยังเกรงใจ ถ้าน้องจะทำให้ตัวเองเคยชินกับการเพิกเฉยต่อความคิดเห็น หรือการว่ากล่าวของผู้ที่แสดงตัวแล้วว่า หวังดี กลัวว่าวันหนึ่งความเคยชินนี้ไม่เพียงปิดตาปิดหูน้อง แต่จะนำความเดือดร้อนสู่พี่น้อง พวกพ้อง และสังคม ดังเช่นกรณีเล็กๆ บนดาดฟ้าที่ผ่านมาด้วย

สุดท้ายก็ต้องขอโทษอีกครั้งที่แสดงกิริยาที่ไม่สมควรออกไป เข้าใจว่าจะระคายความรู้สึกใครหลายคน หวังอยู่ว่าจะได้รับการให้อภัยและโอกาสกลับมาเป็นพี่เป็นน้องกันอย่างเคยๆ อีกครั้ง
"ขอโทษและเสียใจจริงๆค่ะ"


Posted by : อัจราวดี พันธุ์มณี 4525132 , Date : 2004-12-26 , Time : 21:53:58 , From IP : 172.29.4.229

ความคิดเห็นที่ : 16


   ดาวนี่มั่วจิงๆเลย

Posted by : P|atino , Date : 2004-12-26 , Time : 22:18:40 , From IP : 172.29.4.36

ความคิดเห็นที่ : 17


   สังคมจะเป็นอย่างไร ก็พวกเราด้วยกันนี่แหละครับที่ช่วยกันสร้าง จะสร้างแบบที่บรรพบุรุษของเรานอนกระสับกระส่ายในโกฐิในหลุมหรือหลับตาได้สนิท จะสร้างแบบที่ตัวเราเองต้องอยู่แบบมีปืนเหล็บหลังมีดซุยเหน็บเอวหรือแบบกัลยณมิตร จะสร้างแบบที่ลูกหลานของเราเรียนรู้แต่ภาษากเฬวรากหรือมีสัมมาวาจา สัมมาทิฏฐิ

ล้วนแล้วแต่เป็นหน้าที่ภาระของเราทั้งสิ้น



Posted by : Phoenix , Date : 2004-12-27 , Time : 00:33:53 , From IP : 172.29.7.74

ความคิดเห็นที่ : 18


   ขอให้น้องๆทั้งสองฝ่ายทำความเข้าใจกันได้เร็วๆนะคะ ไม่อยากให้ปัญหาเล็กๆน้อยๆกลายเป็นชนวนพิพาทระหว่างชั้นปี คิดว่าเจ้าของกระทู้คงอยากเตือนโดยรวม คงไม่ได้มีเจตนาจะประจานน้องๆ เพราะอาจจะไม่รู้ว่าจะไปเตือนตรงๆกับใคร หรืออาจจะรู้แต่ไม่สนิท ไม่แน่ใจว่าเป็นคนที่มีเหตุผลรับฟังแล้วจะนำไปปรับปรุงหรือกลายเป็นได้รับปฏิกิริยาแบบที่ขอเรียกว่า ค่อนข้างหยาบคาย จนพี่เองไม่อยากเชื่อว่าเป็นคนที่จะจบมาเป็นแพทย์ ไม่ได้บอกว่าคนเป็นแพทย์จะไม่มีอารมณ์โกรธ แต่ควรมีวุฒิภาวะพอและมีวิจารณญาณที่จะเก็บคำตักเตือนไปขบคิดก่อน และแม้ว่าจะไม่เห็นด้วย ก็รู้ว่า ควรแสดงอารมณ์ในแบบไหน เมื่อน้องเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก็จะรู้ว่า ในโลกนี้มีอะไรอีกมากมาย ที่เราจะต้องเจอ และในบางสถานการณ์เราอาจจะไม่ชอบใจ การที่เราตอบโต้ด้วยคำพูดหรือกิริยาที่แย่ๆ เราอาจจะรู้สึกสะใจ แต่เชื่อเถอะว่ามันไม่มีผลดีเลย

Posted by : ฮิมาวาริจัง , Date : 2004-12-27 , Time : 10:42:47 , From IP : 172.29.3.170

ความคิดเห็นที่ : 19


   แสดงตัวออกมาเสียเถอะ Godhand
เรื่องจะได้เคลียร์กันอย่างส่วสนตัว

เรื่องนี้มันไม่ใช่ประเด็นชั้นปีหรอกครับ

มั่นใจว่าไม่มีปี 3 คนใดที่โกรธน้องในภาพรวมของชั้นปี
แต่ตอนนี้ยังไม่เจอเจ้าตัว

กล้าทำ ต้องกล้ารับ


Posted by : แปะ ปี3 ณ ห้องกระจกบินหลา1 , Date : 2004-12-27 , Time : 11:46:02 , From IP : 172.29.2.130

ความคิดเห็นที่ : 20


   ปล่อยๆเรื่องนี้ไปเถอะครับ ไม่นานมันก็ลืมๆกันไปเองนั่นแหละ ตามความคิดผมถ้ายิ่งไปฟื้นฝอยก็รังแต่จะเป็นการขยายบาดแผลให้มันกระทบความรู้สึกยิ่งขึ้นไปอีก ไม่รู้สิ_แต่ถ้าเป็นผมๆกลับแทบไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องนี้เลย พี่ๆน้องๆที่ผมรู้จักก็ยังรู้จักกันเหมือนเดิม ทักทายกันเหมือนเดิม มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องคิดเหมาเอาให้กลายเป็นเรื่องของทั้งรุ่นให้ปวดหัวไปเปล่าๆ ยังไงๆก็คงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าคุณสมบัติข้อหนึ่งของผู้ใช้webbroadในการวิพากษ์วิจารณ์ก็คือความซื่อสัตย์ชนิดที่หากันไม่ได้ต่อหน้า ความตรงไปตรงมาขวานผ่าซาก ความรู้สึกจริงๆในใจมันก็หลั่งไหลออกมาอยู่ในนี้ทั้งหมด มโนสำนึกของเราก็ใช่ว่าจะดีไปตลอด เราหลายๆคน(หรือทุกคน?)ก็คงเคยนินทาด่าประณามว่าร้ายผู้อื่นในใจแล้วไม่นานก็ลืมหายไป สังคมเราก็อยู่กันแบบนี้แหละ ห้ามพูดล่ะก็ง่ายนิดเดียวแต่ห้ามคิดนี่สิป่วยการเปล่าๆ

Posted by : ช่างเถอะ , Date : 2004-12-27 , Time : 13:32:57 , From IP : 172.29.4.68

ความคิดเห็นที่ : 21


   ความจริง ผม ว่าความเป็นพี่เป็นน้องกัน ของชาวมอ มีมากกว่า ที่อื่น อีกหลายที อย่าให้ความน่าภูมิใจเหล่านี้ หายไปพร้อม หลายสิ่ง หลายอย่างเลย

Posted by : Dr K , Date : 2004-12-27 , Time : 15:04:53 , From IP : 202.28.179.1

ความคิดเห็นที่ : 22


   ผมคิดว่า "ราก" ของปัญหาคือการที่เราไม่รู้สึกรู้สา ไม่รู้สึกถึงนัยสำคัญของผลแห่งการที่เราแสดงออกในที่สาธารณะ (ไม่ว่าจะแสดงตัวตนหรือ ID) หรือไม่นี่แหละครับ

แสดงออก ณ ที่นี้ มันเลย phase "คิด" มาเป็นแสดงออกแล้ว คนเราคิดอะไรสับสนวุ่นวายอยู่ในศีรษะก็จริง แต่ตราบใดที่ superego ยังทำงาน ตราบใดที่ยังมีความสนใจตาอความรู้สึกของ "สังคม" และบทบาทของตัวเราต่อผู้อื่น มันจะออกผลมาตรงการแสดงออกนี่เอง

การที่เราเคยชิน หรือช่างมันเถอะไปเรื่อยๆ ผลก็คืออย่างที่เห็น มีการ promote การใช้ภาษาอะไรก็ได้ การทำ personal attack การก่นด่ากันโดยเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องถูกต้อง (มีคนเคยใช้วิเศษณ์ "powerful") เป็นเรื่องมีประสิทธิภาพในการ convey the message โดยมีแค่ thin layer ของ anonymity เท่านั้น เป็นยางบางๆปลอบใจตนเองอยู่

ผมคิดว่าเรื่องนี้คงเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลที่ทราบตนเองและจะต้องเริ่มจาก "ต้องการ" จะปรับปรุงตัว ซึ่งจะต้องมาจากเห็นว่ามันไม่ดี มันไม่ควรก่อน ถ้าตรงนี้เริ่มไม่ได้ สังคมรอบๆตัวแต่ละคนก็ formed ขึ้นมาจากสิ่งที่เรา promote สิ่งที่เรายอมรับว่าดีนี่แหละครับ คนที่เขาไม่เห็นด้วย รังเกียจก็จะไม่มาแวดล้อมเรา คนที่แวดล้อมเราก็จะเป็นพวกที่พูดภาษาเดียวกัน



Posted by : Phoenix , Date : 2004-12-27 , Time : 16:07:51 , From IP : 172.29.3.206

ความคิดเห็นที่ : 23


   ไม่อยากจะเก็บเอาเรื่องของการ post ในกระทู้ลักษณะนี้มาเป็นอารมณ์ซักเท่าไหร่ เพราะเราก็ไม่สามารถจะเอาผิดใครได้ และก็คงไม่มีใครออกมายอมรับการใช้คำพูดรุนแรงเกินควรของตัวเองตรงนั้น

จริงๆแล้วคุณ Godhand อาจจะไม่ใช่คนในคณะแพทย์เราด้วยซ้ำไป

เราไม่ได้แคร์มากเรื่องน้องไม่ให้ความเคารพพี่อะไรพวกนั้นเท่าไหร่หรอก (ถึงมันจะเป็นสิ่งที่จำเป็นก็เถอะ) เพราะรู้ดีว่าพวกเราพี่ๆเองก็ไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีนักในเรื่องนี้ หลายครั้งที่เราเองก็ต้องออกมาบ่นพวกปี 3 ด้วยกันเองเรื่องเสียงดัง พอน้องๆดังกันเราก็เลยไม่สามารถจะไปว่าอะไรได้มาก

แต่เรื่องมันไม่ได้อยู่ที่ว่าพี่ดังได้น้องก็ดังได้ เพราะพี่ดังก่อนน้องเลยเอามั่ง ใครถูกใครผิด

พวกเราทุกคนกำลังจะจบไปเป็นหมอ จะเป็นคนที่สังคมคาดหวังว่าจะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ทำอะไรเพื่อคนอื่น การจัดกิจกรรมหรือพฤติกรรมอะไรที่รู้ๆอยู่ว่าจะก่อความเดือดร้อนให้คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้กันเอง การเชียร์บอลโดยใช้เสียงดังเกินความจำเป็น การhapกันยาวนานแบบไม่เกรงใจคนอื่น มันเป็นสิ่งที่เราน่าจะคิดกันได้ด้วยตัวเองนะ ว่าขอบเขตความเหมาะสมมันคือตรงไหน อย่าคิดถึงแต่ว่าตัวเองสนุก สะใจ ถ้าจะเกรงใจก็อย่าเกรงใจแค่คนที่เรารู้จัก หรือคนที่เอาเรื่องเราได้ คิดถึงคนอื่นๆ หออื่นๆที่เค้าได้ผลกระทบจากการกระทำของเราด้วย มันน่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในจิตสำนึกของคนที่จะเรียกตัวเองว่าหมอทุกคนนะ

อย่าเป็นหมอที่ทำได้แค่ท่องพระราชดำรัสของพระบิดา แต่เป็นหมอที่นำเอาสิ่งที่เราท่องมาปฏิบัติด้วย

ไม่ได้มาว่าใครเป็นพิเศษ แต่อยากให้ลองคิดกันดู(เราเองก็จะพิจารณาตัวเองหมือนกัน)

ขอบคุณที่รับฟัง


Posted by : ชุษณา เพชรพิเชฐเชียร 4525020 , Date : 2004-12-27 , Time : 17:53:03 , From IP : 172.29.4.210

ความคิดเห็นที่ : 24


   ###ผมว่าสมควรเพราะไม่ได้จัดทุกวันซักหน่อย ส่วนที่ว่าแฮปกันเสียงดังน่ะ ไว้วันเกิดพี่ๆที่ลงความเหนตรงกันน่ะ อย่าแฮปนะคร้าบ อย่าทำตัวให้มันนักแรงมากนะครับ เห็นใจคนที่เป็นเจ้าของวันเกิดมั่ง คิดนะพี่ ส่วนเรื่องเวลาอ่า สามทุ่มถึงกระทั่งมีพี่ไปโวยยามนั่นแหละประมาณเที่ยงคืนครึ่งมั้ง ส่วนที่พี่ว่าเสีนงดังลั่นหอน่ะผมอยู่ชั้นสองไม่ได้ยินไรเลยนะครับ จะดังไปถึงหอข้างบินหลาคงยากมั้ง ลำโพงคู่เดียว กีตาร์ตัวเดียว ยากอ่ะยิ่งรัศมี10กิโลเนี่ย เอาเครื่องบินไอพ่นมาเหรอ ###


Posted by : หัวเกรียง , Date : 2004-12-27 , Time : 18:36:24 , From IP : 172.29.4.109

ความคิดเห็นที่ : 25


   งะ

Posted by : ... , Date : 2004-12-27 , Time : 20:10:49 , From IP : 172.29.4.145

ความคิดเห็นที่ : 26


    มีเกร็ดประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งอยากเล่าให้ฟังเล่น ๆ (อาจจะยาวสักหน่อย ต้องขอโทษด้วย)
ในอดีต ตามพงศาวดารของจีน กษัตริย์ เหวินอ๋อง เป็นกษัตริย์ผู้ทรงคุณธรรม วันหนึ่ง พระองค์ทรงจัดงานเลี้ยงเหล่าขุนนางอำมาตย์ โดยที่มีพระสนมเอกประทับอยู่ข้างกาย ด้วยความงามของพระสนมนี่แหละ เป็นที่มาของเรื่องทั้งหมด
ก็คือ ขณะอยู่ในงานเลี้ยงเกิดมีลมพัดแรงมากจนทำให้ไฟดับ(สมัยนั้นคงใช้เทียน หรือตะเกียง เทือกๆนั้น) มีขุนนางคนหนึ่งอดใจไม่ไหว ฉวยโอกาสลวมลามพระสนม (ประวัติศาสตร์เค้าไม่ได้บอกว่าลวนลามไปแค่ไหน) พระสนมตกใจมากส่งเสียงโวยวายและคว้าเอาพู่ประดับหมวกของขุนนางผู้นั้นเอาไว้ได้ ขุนนางผู้นั้นตกใจมากและกลัวตายสุดชีวิต ไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าเมื่อไฟสว่างแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น
ท่านผู้อ่านอาจคิดว่า ก็คงไม่มีอะไร ในเมื่อพระสนมมีหลักฐานก็คงชี้ตัวได้ไม่ยาก และฮ่องเต้ก็คงจะรับสั่งให้ประหารชีวิตขุนนางผู้นั้น แต่เรื่องราวกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น ก่อนที่ขันทีจะจุดไฟขึ้นอีกครั้ง ฮ่องเต้กลับตรัสว่า "หยุดก่อน กงกง อย่าเพิ่งจุดไฟ" ทุกคนรวมถึงขุนนางผู้นั้นก็ต่างแปลกใจในการกระทำของฮ่องเต้ ฮ่องเต้ยังรับสั่งให้ขุนนางทุกคนปลดพู่ออกจากหมวก แล้วจึงให้จุดไฟ ทำให้ขุนนางผู้นั้นรอดพ้นราชโทษได้ ด้วยความเมตตาและให้อภัยขององค์ฮ่องเต้
ยังไม่จบ จากนั้นอีสิบสี่ปี ข้าศึกยกทัพมาประชิดเมืองหลวง ฮ่องเต้ต้องทรงออกรบเอง ขณะที่กำลังเพลี่ยงพล้ำนั่นเอง ก็มีทหารนายหนึ่งเข้ามาปกป้องอย่างถวายชีวิต จนในที่สุดพระองค์ก็สามารถตีฝ่าวงล้อมข้าศึกออกมาได้
ฮ่องเต้ทรงไต่ถามความเป็นมาของนายทหารผู้นั้น และแล้วพระองค์ก็ทรงถึงบางอ้อ ทหารผู้นี้ก็คือขุนนางที่เคยลวนลามพระสนมนั่นเอง
หากวันนั้น ถ้าไม่เพราะความมีเมตตาและการรู้จักให้อภัยของฮ่องเต้ที่มีต่อ นายทหารผู้นั้น วันนี้ชีวิตของพระองค์ก็คงหาไม่
การที่เรายึดมั่นถือมั่นอะไรมากจนเกินไป อาจไม่ส่งผลดีก็ได้ แต่หากเรารู้จักใจกว้าง ให้อภัย(แม้ในสิ่งที่ยากยิ่ง) ผลดีคงจะตอบแทนเราในสักวัน
คนเราจะเป็นใหญ่ได้(มีสถานภาพสูงกว่า ไม่ว่าด้านใด ๆ ) ที่สำคัญคือต้องเยือกเย็น mature กว่าผู้อื่น การกระทำด้วยอารมณ์ย่อมไม่นำมาซึ่งผลดีต่อใครทั้งสิ้น
ตรงกันข้าม หากผู้เป็นพี่ใจกว้าง ให้อภัยน้องได้ น้องก็คงซาบซึ้งในความน่านับถือของพี่ อีกทั้งหากเป็นน้องที่ดี(ทำผิดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ...ยังน่าให้อภัยอยู่) ก็ควรที่จะสำนึกในการกระทำของตนเอง ออกมาขอโทษพี่สักครั้ง เรื่องราวก็คงจบ(พี่ไม่เห็นด้วยกับการ เค้นคอให้รู้ว่าใครเป็นคนทำ)
สรุป การที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้อย่างราบรื่นคงเป็นเพียงความฝัน หากขาดความเข้าใจ และการยอมรับซึ่งกันและกัน พี่หวังว่าทุกฝ่ายคงจะประนีประนอมให้เรื่องราวจบลงอย่าง happy ending ในเร็ววันนะ


ด้วยรักนี้ พี่ให้แด่น้อง พี่ให้แด่น้อง ห้องทุกห้องดวงใจมอบให้หมดสิ้น
คำทุกคำแพทย์ศาสตร์สงขลานครินทร์ ยังได้ยินก้องหทัย ยังได้ยินก้องหทัย
แสงทองส่องฟ้านภาตระการ มาร่วมประสานจิตใจสองใจให้มั่น
ร่มนี้ศรีตรังยืนยังนิรันดร์ เป็นที่ผูกพัน "รวมใจเราพี่น้องเอย"


Posted by : nigdejavu , E-mail : (nigdejavu@yahoo.com) ,
Date : 2004-12-27 , Time : 22:57:13 , From IP : 172.29.4.129


ความคิดเห็นที่ : 27


   กำ

Posted by : P|atino , Date : 2004-12-27 , Time : 23:22:09 , From IP : 172.29.4.36

ความคิดเห็นที่ : 28


   เห็นด้วยกะnigdejavu เรื่องราวมันออกจะยืดเยื้อเลยเถิด

ยอมรับว่าแอบเคืองกะสิ่งที่น้องโพสต์ แต่นั่นคือคนแค่คนเดียว (หรือหลายคน)

ซึ่งจะไปสนใจอะไรกะเรื่องแค่นี้(วะ)

หยุดเถิด ทั้งพี่ทั้งน้อง

สิ่งที่พวกพี่ทำได้ คือ ทำตัวเองให้ดีซะก่อน อย่าให้น้องมันย้อนเอาได้ เดี๋ยวจะมีสรรพสัตว์เพ่นพ่านในเวบบอร์ดอีก ถ้าพี่ดี น้องก็มีตัวอย่างที่ดี


ส่วนน้องๆ โตๆกันแล้ว พี่เชื่อว่าคิดเองได้ ไม่อยากจะสอนใคร เพราะรู้ว่าตัวเองก็ไม่ได้ดี ร้อยเปอร์เซนต์

เมื่อโตขึ้นแล้วย้อนกลับมาดูตัวเองในวันนี้ จะรู้ว่าเรื่องแค่นี้มันไร้สาระ

ขอปิดกระทู้นี้ คงไม่ว่ากัน

นะจ๊ะทุกท่าน













Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2004-12-27 , Time : 23:34:55 , From IP : 172.29.4.205

ความคิดเห็นที่ : 29


   คงจะไม่ได้เกี่ยวกับการพิพาทระหว่างเด็กแพทย์นะคะแต่หลายๆครั้งพวกคุณทำเกินไปจริง คุณเคยคิดบางไหมว่าเวลาที่พวกคุณจัดงาน ( เสียงดัง ) มันรบกวนบ้านใกล้เรือนเคียงมาก มีหลายครั้งที่พวกเราต้องสอบวันรุ่งขึ้นแต่พวกคุณจัดงานกันดังมาก ขอให้เอาอุทาหรณ์ครั้งนี้กลับไปขึ้นเพื่อที่พวกเราทุกคนจะได้อยู่โดยไม่รบกวนกัน

Posted by : หอข้างเคียง , Date : 2004-12-28 , Time : 01:59:12 , From IP : 203.150.217.111

ความคิดเห็นที่ : 30


   สาวน้อยร้อยชั่ง นี่ช่างน่ารักจิงๆเลย

Posted by : P|atino , Date : 2004-12-28 , Time : 11:16:06 , From IP : 172.29.4.36

ความคิดเห็นที่ : 31


   Platino นี่ปากหวานจริง ๆ

Posted by : DogTor , Date : 2004-12-28 , Time : 16:06:53 , From IP : 172.29.2.74

ความคิดเห็นที่ : 32


   การจะบังคับให้ 120 คน คิดเหมือนกันหมดนั้นคงยาก พี่ๆคงไม่คิดจะโกรธน้องทั้งหมด เพียงเพราะการกระทำของคนๆเดียวที่อาจไม่ใช่น้องของพี่ก็ได้ใช่มั้ย

ไม่อยากจะย้อนเลยจริงๆ แต่ขอสัหน่อยเถอะ

กับการกระทำของผู้ที่เรียกตัวเองว่ารุ่นพี่และพยายามทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี
กับท่าทีที่พี่มีกับอาจารย์ (ได้ยินมาจากพี่พชท.) เห็นว่าคำประเมิณ และ feedback ที่พี่ให้นั้น ค่อนข้างรุนแรง หยาบคาย และไม่เหมาะสม (ค่อนข้างมาก) ทำให้อาจารย์ดีๆ บางท่านถึงกับ จะตัดสินใจไม่สอนให้กับพวกเราอีก (ขอย้าย) (ได้ข่าวว่า....)

อยากให้พี่พิจารณาเรื่องนี้ด้วย.
รวมกันไปขอโทษอาจารย์ตอนนี้คงยังไม่สาย

มหาวิทยาลัย คือที่ๆพวกเรามาเพื่อแสวงหาความรู้ มันอาจเกินหลักสูตรไปบ้าง แต่เชื่อเถอะว่ามันจะมีประโยชน์แน่ในสักวัน วิชาชีพของพวกเราพึ่งพิงแต่ตำราอย่างเดียวคงไปไม่รอด เพราะสิ่งสำคัญคือประสบการณ์ที่สั่งสมมา นั่นเองจึงเป็นสิ่งที่กระทู้นี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อตักเตือนกันและกัน เมื่อระบบ seniority ยังคงอยู่ เมื่อน้องเองต้องการรุ่นพี่เป็นที่พึ่ง และพี่เองก็คงไม่อยากให้สิ่งดีๆที่สั่งสมต่อๆกันมาเลือนหายไปกับกาลเวลา

กับสิ่งที่ได้ทำผิดไป ก็ต้องขอโทษด้วย
อยากให้รู้ว่า หมอก็คน
สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
อะไรผิดอะไรไม่ดีเราพี่น้องก็จงตักเตือนกันเถิด


Posted by : อะจึ๋ย , Date : 2004-12-28 , Time : 16:12:20 , From IP : 172.29.2.179

ความคิดเห็นที่ : 33


   จะไปโทษน้องๆก็ไม่ได้นะคะ อ ย่างนี้เค้าเรียกว่ากรรมตามสนองปี 3 ปี 3 จำไม่ได้เหรอว่าตอนน้องอยู่ปี 2 น้องได้จัดงานอะไร ในขณะที่พวกพี่ๆปี 3 กำลังอยู่ในช่วงสอบ ก่อนที่จะว่าใครน่าจะดูก่อนนะว่าตัวเองเคยทำอะไรไว้ เห็นแล้วยังว่าคนเราควรเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วยนะคะ

Posted by : พี่ปี4 , Date : 2004-12-28 , Time : 18:23:11 , From IP : ppp-210.86.223.221.r

ความคิดเห็นที่ : 34


   เอ่อ ผมคิดว่าประเด็นมันไม่ได้อยู่ในเรื่องของการส่งเสียงดังรบกวนแล้วล่ะครับ เรื่องนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึงที่พวกพี่ๆ ได้ตักเตือน พี่ๆ ก็ยอมรับว่าบางครั้งพวกพี่ๆ เองก็ทำเสียงดังเหมือนกัน แต่ตอนนี้ประเด็นมันอยู่ตรงที่การมีสัมมาคารวะของคุณ gadhand มากกว่าน่ะครับ เผยตัวออกมาซะเถอะน้อง ความลับไม่มีในโลกหรอก อย่าให้พี่รู้ทีหลังเลย พี่ไม่อยากเห็นน้องเรียกหมาตามใต้บินหลาหรือตามที่ต่างๆ ว่าพี่ ( อย่างที่น้องต้องการไงคับ )

Posted by : ปี 3 อีกคนที่มีความคิดเห็นตรงก , Date : 2004-12-28 , Time : 21:26:20 , From IP : 172.29.4.141

ความคิดเห็นที่ : 35


   ง่วงนอนจัง

Posted by : P|atino , Date : 2004-12-28 , Time : 22:33:20 , From IP : 172.29.4.36

ความคิดเห็นที่ : 36


   ปล่อยวางกันเถอะนะ ปล่อยวางๆๆๆๆ

Posted by : i will go pataya , Date : 2004-12-29 , Time : 01:10:31 , From IP : 172.29.4.243

ความคิดเห็นที่ : 37


   ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิต มากกว่า 1500 คนแล้ว

ตอนนี้มีน้องๆมาตั้งกล่องรับบริจาคอยู่ที่ห้องกระจก

ก็เอาของมาบริจาคได้นะ

เห็นน้องเค้าตั้งใจกันดี ก็อยากช่วยน่ะ

แฮ่ ดูจะผิดกระทู้ไปหน่อย แต่น่าจะมีคนอ่านเยอะนะ

ขอบคุณค้าบ

ปล. ใครจะมีอารมณ์รุนแรง ความโกรธขึ้ง เคืองขุ่น หมองใจกัน
ฝากไปกับลังบริจาคก็ได้นะเผื่อมันจะลอยหายไปกับซึนามิ อิอิ

อะจ๊าก ล้อเล่นนะจ๊ะ อย่าเคือง ๆ









Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2004-12-29 , Time : 02:33:21 , From IP : 172.29.4.205

ความคิดเห็นที่ : 38


   เป็นเรื่องปกติธรรมดามากครับน้อง จะเรียกว่ากรรมตามสนองก็คงไม่ผิด (ใช้คำพูดแรงไปเปล่าเนี่ย) และก็เป็นอย่างนี้ในทุกรุ่นทุกปี รุ่นพี่เองก็เคยแรงกับรุ่นพี่ แต่พอตัวเองต้องมาอยู่ในฐานะรุ่นพี่ เพื่อนในชั้นปีพี่ก็เคยโดนรุ่นน้องด่าว่าแรงๆจนเสียผู้เสียคนมาแล้ว มันเป็นวัฏจักรครับน้อง ตอนที่เราต้องมาเป็นรุ่นพี่ ความคิดและมุมมองของเราย่อมเปลี่ยนไปจากเดิม ในขณะที่ตอนที่เราอยู่ในฐานะรุ่นน้องเราอาจจะไม่เคยมองเห็นเลยด้วยซ้ำว่าเราเองก็เป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกันหรือเปล่า
เพราะฉะนั้น ในความคิดของพี่ น้องปีสามไม่จำเป็นต้องออกมาต่อว่าน้องๆอะไรให้มากมายในกรณีนี้หรอกครับ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่น้องๆเค้าได้ก้าวเข้าสู่ฐานะความเป็นรุ่นพี่อย่างที่น้องปีสามเป็นอยู่ในขณะนี้ แล้วเจอกับรุ่นน้องแรงๆไม่มีสัมมาคารวะ เค้าจะเข้าใจและตาสว่างได้ในทันทีครับว่าทำไมรุ่นพี่ของเค้าถึงได้กระฟัดกระเฟียดนักกับท่าทางไม่อ่อนน้อมของรุ่นน้อง


Posted by : ปีสี่ , Date : 2004-12-29 , Time : 11:03:40 , From IP : 172.29.4.72

ความคิดเห็นที่ : 39


   ผมไม่เข้าใจอย่างนึงว่า
สิ่งที่หลายๆคนคาดหวังคือ การเคารพรุ่น
แต่ละคนก็คนอยากให้มีการเคารพเชื่อถือให้เกียรติกันและกัน

แต่ๆๆๆ...การที่จะมีสิ่งนั้นได้ต้องผ่านกระบวนการขัดเกลาหล่อหลอมที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

ช่วยกันสร้างความน่าเคารพให้แก่ตัวเองและช่วยกันสั่งสอนรุ่นน้องให้รู้จักความเคารพ

สิ่งที่หลายคนทำอยู่คือสร้างตัวเองให้เป็นที่น่าเคารพ นั่นเป็นเรื่องที่ประเสริฐแล้ว
แต่สิ่งที่หลายๆคนไม่กล้าทำคือการสั่งสอนรุ่นน้อง

ผมว่ารุ่นน้องไม่ได้แก่เกินสั่งสอนหรอกครับ หากการสั่งสอนนั้นเป็นไปด้วยเหตุผลคามครรลองที่ถูกต้อง

ผมเองเป็นคนที่ไม่พอใจอย่างยิ่งกับการกระทำเยี่ยงนี้ของบุคคลที่ใช้ชื่อว่า godhand

บางคนอาจคิดว่า ทำไม ไอ้แปะ ต้องมาจองล้างจองผลาญตั้งแต่ตอนต้นของกระทู้นี้ยังตอนนี้

ผมตอบเลยครับว่า ในเมื่อทุกคนคาดหวังสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วไม่มีaction ออกมา ก็เป็นไปแค่ความคาดหวัง พอเกิดปัญหาก็มาว่ากัน ก็มีโอกาสทำอะไรดีๆแล้วไม่ทำ เรื่องก็เลยย้อนกลับมาหาตัวเองอีกรอบ ประวัติศาสตร์ซำรอยนั่นเอง

ไอ้ประวัติศาสตร์ซำรอยที่ว่า เนี่ย อย่าว่าผมฟื้นฝอยหาตะเข็บเลยครับ มันแค่บังเอิญอยู่ในความทรงจำที่ไม่ดี

ปีที่แล้วมีพี่คนหนึ่งที่พยายามช่วยเหลือน้องในกิจกรรมเชียร์ แต่เนื่องด้วยไม่มีการกำหนดบทบาทที่ชัดเจน จึงมีการกระกบกระทั่งกับน้อง แล้วลงเองว่าไงครับ

คำว่า กระเทยถฎเถ้า ก็มาปรากฏอยู่บนบอร์ดนี้ไงครับ

แล้วเรื่องก็เงียบหายไป ผ่านไปโดยไม่มีการจัดการอย่างจริงจัง
สุดท้าย มาเกิดเรื่องอีก

เอาเถอะ ตอนนี้ผมสิ้นศรัทธาในการสร้างสรรค์คำว่าพี่กับน้อง
ไปมากแล้ว และก็คาดหวังต่อไปว่า จะหวังให้พีน้องเป็นระบบที่ยั่งยืนอย่างจริงจัง คงเป็นไปได้น้อยลง

อย่างไรก็ดี ด้วยพื้นฐานผมเอง ขอเรียนตรงๆว่า ยังไงผมก็ยังคงศรัทธาต่อพี่ทุกคนอยู่ดี ด้วยเคารพในความอาวุโสคุณวุฒิ วัยวุฒิ

ที่มาโพส ไม่ได้ต้องการอะไรมากครับ
แค่...อยากระบายความรู้สึกส่วนตัวที่เป็นเรื่องส่วนรวม
เหนื่อยใจ... ครับ
ขอบคุณที่อ่าน


Posted by : แปะ ปี3 ณ ห้องกระจกบินหลา1 , Date : 2004-12-29 , Time : 12:31:29 , From IP : 172.29.2.123

ความคิดเห็นที่ : 40


   ขออนุญาต share ความเห็นของรุ่นพี่ (แก่ๆ) คนนึงนะครับ

ผม ไม่เชื่อ เรื่องการปล่อยตามยถากรรมแล้วการเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นเองตามกาลเวลา ผมเชื่อเรื่องประสบการณ์จะหล่อหลอมบุคลิก ความคิดของปัจเจกบุคคล ทุกขณะจิตที่เรารับรู้ข้อมูล รับฟัง feedback รับผลแห่งการกระทำ เราจะมีการกลั่นกรอง คัดเลือก และรับรู้ตามบริบท ตามความคิด ตาม preferences ที่เราแต่ละคนมีเหมือนกันบ้าง แตกต่างกันบ้าง ออกมาเป็น final outcomes คือตัวเรา ณ จุดหนึ่งของเวลานั้นๆ

แต่ละจุดเวลา เราจะมีความเห็นอย่างหนึ่งต่อเรื่องๆหนึ่ง อาจจะเป็นเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย แล้วเราก็แสดงออกมาตามที่เราต้องการ มีหรือไม่มี superego ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ identity ความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราแสดงออกต่อสังคม และความ concern ต่อความรู้สึกของสังคม

ผมเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละคนจะเลือกแสดงออกบุคลิกของตนเองออกมา หรือปกป้องกันแนวความคิด แนวทางปฏิบัติต่อสังคมที่ตนเองอาศัยอยู่ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราจะรับผลกระทบจากสังคมตลอดเวลาไม่ว่าจะชอบหรือไม่ ไม่ว่าจะมีถ้ำลับเก็บตัว ไม่ว่าจะคิดว่าสามารถหลบเข้าไปอยู่ ณ ที่ปลอดภัยได้เพียงไร แต่ละคนมีสิทธิ์ปกป้องการกระทำที่ตนเองยอมรับ รวมทั้งการปกป้องสิทธิการใช้ภาษากเฬวรากในที่สาธารณะถ้าเราคิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นมงคลต่อชีวิต เป็นความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์พ่อแม่ที่อบรมเรามาอย่างดีแล้ว และในทำนองกลับกันเราก็สามารถแสดงความคิดเห็นเพื่อจะปกป้องสิทธิการใช้ภาษาที่สุภาพได้เหมือนกันโดยไม่ต้องถูกกระแนะกระแหนว่าดีเกินไป ว่ามากไป แล้วคนอ่านก็ใช้วิจารณญานว่าอย่างไหนเป็นอย่างไร

ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตว่าคนไทยค่อนข้าง passive ในการที่จะต้องเผชิญหน้ากับ adversaries หรือสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย การตอบสนองส่วนใหญ่เป็นแบบไม่ต้องทำอะไร หวังว่า "อนาคต" หรือ "ยถากรรม" จะแสดงบทบาทของมันเอง มันก็แก้ไปเองบางส่วน แต่ผมว่านั่นเป็นวิธีที่ค่อนข้างเลื่อนลอย และในบางประเด็นมันเกือบจะเหมือนความไร้ผิดชอบไปเลย เช่น ที่พอ่แม่จะหวังให้ลูกเป็นคนดีถ้ามันโตพอแล้ว หรือครูที่จะหวังให้นักเรียนมันรู้มากขึ้นถ้าเวลาผ่านไปสักพัก ในกรณีนี้ก็คือสังคมมันจะดีขึ้นถ้าประชาชนแก่ขึ้นอีกสักปีสองปี เราก็จะมีคนดีมีคุณภาพขึ้นมาเอง

ใครจะเชื่อแบบไหนก็จะมีพฤติกรรมเป็นไปตามความเชื่อของแต่ละคน คนเราแต่ละคนมีสิทธิปกป้องสิ่งที่ตนเองคิดว่ามีค่า มีความหมายต่อชีวิตของเรา ต่อคนที่เรารัก ต่อสังคมที่เราอยู่อาศัย



Posted by : Phoenix , Date : 2004-12-29 , Time : 14:29:24 , From IP : 172.29.3.206

ความคิดเห็นที่ : 41


   ยังไม่จบอีกเหรอค่ะ เรื่องพวกนี้ น่าจะปล่อย ๆ ยอม ๆ กันได้แล้วนะค่ะ เอาเวลามาช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยไม่ดีกว่าเหรอค่ะ .......... เซง

Posted by : สาวบางโพ , Date : 2005-01-01 , Time : 10:14:22 , From IP : 61.19.27.198

ความคิดเห็นที่ : 42


   เห็นด้วยกะสาวบางโพเลย

Posted by : ปล่อยวางๆ , Date : 2005-01-02 , Time : 00:48:45 , From IP : 203.150.217.117

ความคิดเห็นที่ : 43


   เห็นด้วยกับที่น้องพัฒน์โพสไว้ครับ และที่มีปี 4 บางคนโพสบอกว่าเป็นเวรกรรมของน้องปี 3 ไรนั่น ผมถามหน่อยว่าคุณเป็นใครคับ อยู่ห้องไหน ผมเคยอยู่ปีก b ชั้นสองนะคับ ปีที่แล้วก็ไม่เห็นว่าปี 3 ปีนี้เสียงดังไรเลย อย่ามั่วดีกว่าครับ น้อง Med 30 ส่วนใหญ่เขาก็เคารพรุ่นพี่กันทุกคน
อ้อ แล้วก็ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง ใครจะทำตัวต่อรุ่นพี่ยังไง พี่ว่าคงต้องปล่อยเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วครับ ดูจากที่น้องเขาทำแสดงว่าเขาไม่เห็นความสำคัญของคำว่าลำดับอาวุโสเลย ซึ่งต่อให้เขาเปิดเผยตัว ( รับรองว่าไม่กล้า พวกนี้มักเก่งแต่ปาก )มาพูดกับพัฒน์จริงๆ ก็ไม่มีไรดีขึ้นครับ ดีไม่ดีต่อยกันปล่าวๆ เชื่อเถอะว่ากมลสันดานของคนเรามันเปลี่ยนยาก จะว่าไปปี 2 ปีนี้ก็มีน่ารักหลายคนอย่างน้องโน้ต น้องโบว์ เจอพี่ทีไรก็โค้งบ้าง ไหว้บ้าง น่าเอ็นดูมากครับ เพราะงั้นพี่ๆ เขาคงไม่เกลียดหรือมองในภาพรวมของชั้นปีหรอกครับ




Posted by : ปี 4 med29 ของจริง , E-mail : (immatana@yahoo.com) ,
Date : 2005-01-02 , Time : 00:53:24 , From IP : 172.29.4.127


ความคิดเห็นที่ : 44


   เฮ้ย นี่น้องๆ ทะเลาะกันตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ พี่ไป selective เดือนกว่าเอง...กลับมาบินหลาลุกเป็นไฟเลยเรอะ น่าเศร้าอ่ะ อ่านแล้วมันหดหู่ไงก้อไม่รู้ รู้สึกว่าความรัก กะความกลมเกลียวของคณะเรามันหายไปไหนหว่า อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ......ลบๆ ไปได้ป่าวอ่ะ กระทู้นี้ พี่กะว่าจะเข้ามาให้พรปีใหม่ ซ้ากหน่อย หมดอารมณ์ เลยอ่ะ ยังรักและเป็นห่วงน้องๆทุกคนนะ รีบดีดีกันเหอะ ขอร้องๆ
สวัสดีปีใหม่ ทุกคน นะ


Posted by : พี่ตูนปี 4 , Date : 2005-01-02 , Time : 01:05:36 , From IP : p76-rasskalf1.S.cslo

ความคิดเห็นที่ : 45


   ไม่มีไรหรอกพี่ๆ ไม่ต้องกังวล เรื่องธรรมดาของสังคมที่หลากหลายไปด้วยคนหลากหลายวัฒนธรรม เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคนไม่กี่คนครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องราวชั้นปีหรอก แล้วก็ที่ชอบมาโพสแล้วลงชื่อไว้อ่ะครับ กรุณาโพสให้ดูดีหน่อย เพราะมันจะติดลบหากคุณคิดมาน้อยเกินไป

Posted by : เบื่อพวกโพสเอาหน้า , Date : 2005-01-02 , Time : 14:22:37 , From IP : 203.150.217.111

ความคิดเห็นที่ : 46


   หวังว่าคงไม่ลุกลามมาถึงบินหลา 3 เหมือนแผ่นดินไหว

Posted by : ... , Date : 2005-01-02 , Time : 14:23:29 , From IP : 203.152.2.111

ความคิดเห็นที่ : 47


   ผมมีความเห็นที่ต่างกันออกไปสำหรับการลงชื่อรับรองสิ่งที่คิดครับ

เวทีนี้ไม่ใช่ตัวแทนของส่วนรวมแน่นอน นั่นเป็น basis ของกระดานข่าวทุกกระดานอยู่แล้ว ตรงกันข้าม เวทีนี้เป็นสถานที่ฝึกหัดการแสดงออกของปัจเจกบุคคล และที่สามารถฝึกได้คือการมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราคิดว่าถูกว่าควรแล้วกล้าแสดงออกมาในที่สาธารณะ

Alias หรือนามแฝงนั้นมีประโยชน์หลายอย่างก็จริง แต่อย่างหนึ่งที่ผมไม่อยากให้เราใช้ก็คือ ถ้าใช้เพราะเราไม่กล้าใช้ชื่อจริงในการแสดงความเห็นอย่างที่คิด เพราะเราละอาย รู้ว่าผิด กลัวครูบาอาจารย์พ่อแม่จะเสียใจถ้ารู้ว่าคิดอย่างนี้ หรือกลัวเสียหน้า นั่นแสดงว่าเราไม่ได้มั่นใจหรือมี conviction ในความเห็นนั้นๆว่าดีแล้ว ควรแล้ว ควรเผยแพร่ อย่างแท้จริง

เงื่อนไขการเป็นผู้ใหญ่ (mature) ที่ไม่ได้หมายถึงแก่แต่อายุอย่างเดียว คือการ own up ความประพฤติของตัวเราเองให้ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องถูกหรือผิด นั่นเรายังไม่ทราบ และบางทีเราต้องเรียนรู้เพิ่มเติมทีหลัง แต่การสามารถชี้ไปที่ความคิดความเห็นใดๆ และบอกต่อคนอื่นๆว่านั่นเราเห็นด้วย นั่นเราคิดตรงกัน เหมือนกัน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

หลักทดสอบจริยศาสตร์เบื้องต้นมีแค่สองข้อ หนึ่ง ไม่ละอายต่อตนเอง และสองสามารถป่าวประกาศต่อสาธารณะว่าเราคิดยังนี้ ผมสนับสนุนการใช้เวทีนี้เพื่อการนี้ เพื่อเราจะได้ Mature พอที่จะเป็นหมอจริงๆในอนาคตอันใกล้นี้ครับ

ด้วยความหวังดี



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-02 , Time : 16:52:47 , From IP : 172.29.7.205

ความคิดเห็นที่ : 48


   conviction แปลว่าไรก๊าบ

Posted by : P|atino , Date : 2005-01-03 , Time : 12:35:48 , From IP : 172.29.4.36

ความคิดเห็นที่ : 49


   แปลว่ามโนสำนึกหรือศรัทธาอย่างมั่นใจว่าดี ว่าถูกต้อง ว่าควรทำ ครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-03 , Time : 14:39:41 , From IP : 172.29.7.253

ความคิดเห็นที่ : 50


   ขอบคุณครับผม

Posted by : P|atino , Date : 2005-01-03 , Time : 15:54:05 , From IP : 172.29.4.36

ความคิดเห็นที่ : 51


   ก็อย่างที่เห็นอ่ะแหละ ติดลบๆๆ เห็นไหม หรือจะพูดอีกอย่างว่า รู้ตัวไหมว่าติดลบ

Posted by : เบื่อพวกโพสเอาหน้า , Date : 2005-01-04 , Time : 13:00:21 , From IP : 172.29.4.186

ความคิดเห็นที่ : 52


   เริ่มน่าสนใจครับ

ลองขยายความสักนิดนึงได้ไหมครับว่าการไม่ลงชื่อจริงเพื่อแสดงความเห็นบนกระดานข่าวนั้นเป็นการได้ผลบวกต่อตนเองอย่างไรบ้าง และการติดลบที่ว่านั้น นอกเหนือจากติดลบในสายตาของคนบางคนแล้ว มีผลลบอย่างไรต่อ integrity (แปลว่าความมั่นคง เชื่อถือได้ของตนเอง)

หรือว่าการติดลบในสายตาของคนบางคนนั้น จริงๆเป็นเรื่องเสียเสมอไปหรือเป็นเรื่องดีก็ได้ ตรงนี้เราเคยอภิปรายค้างไว้นานแล้ว เช่น ถ้าคนที่ชมเราเป็นมหาโจร เป็นฮิตเลอร์หรือพอลพต เรายังจะอยากติดลบหรือเป็นบวกในสายตาของคนเหล่านี้? ฉะนั้นค่าบวกค่าลบตรงนี้มันเป็นสัมพัทธ์หรือสัมบูรณ์? (relative or absolute)

ขอเรียนถามความเห็นเพิ่มเติมครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-04 , Time : 14:27:12 , From IP : 172.29.3.206

ความคิดเห็นที่ : 53


   อ่ะ อาจารย์ฟินิกส์โพสได้ดีจังคับ บางครั้งผมก็รู้สึกว่าตัวเองแคร์คนอื่นมากไป กลัวไปหมดว่าคนนั้นคนนี้เขาจะมองเราไม่ดี แท้จริงแล้วการกระทำใดๆก็ตามของคนเราโดยเฉพาะการกระทำในที่สาธารณะ คงไม่สามารถถูกต้องเหมาะสมในสายตาคนทุกคนได้ ดังนั้นใครก็ตามที่ออกมายืนหน้าฉากย่อมจะต้องตกเป้าหมายในการที่จะถูกใจคนบางคนพร้อมๆกับขัดใจคนบางคนในเวลาเดียวกันได้ ที่น่าเศร้าก็คือ เบื้องลึกของจิตใจคนเรามักมีความสุขกับการทำลายล้าง ทำให้ในบางครั้งเรายากจะแยกแยะได้ว่าใครเป็นคนดีหรือใครเป็นมหาโจร สิ่งที่คนหน้าฉากพอจะทำได้คือทำใจให้เชื่อมั่นในความดีของเราซึ่งแน่นอนว่ามันย่อมนำมาซึ่งความสุขใจในท้ายสุด คิดอย่างนี้พอไหวมะครับอาจารย์

Posted by : ลูกศิษย์อาจารย์ครับ , Date : 2005-01-06 , Time : 00:03:26 , From IP : 172.29.4.113

ความคิดเห็นที่ : 54


   การที่เราออกมารับผิดชอบสิ่งที่เราแสดงออกมายังไม่ได้เป็นการยืนยันความดีอะไรหรอกครับ ไม่ได้แปลว่าเราถูกหรือผิดด้วย แต่เป็นแค่คุณสมบัติหนึ่งของคนที่ mature แล้ว ซึ่งความหมายของคนที่ mature แล้วก็คือกล้ารับผิดชอบ และยอมรับความเป็นตัวตนของตนเองว่าเราคิดอย่างไร จะทำอย่างไร

ประเพณีตะวันตกนั้นเน้นเรื่องความเป็นตัวของตัวเองสูง หลักจริยศาสตร์ (ที่จัดเรียบเรียงเป็นองค์เป็นหมวด ก็โดยฝั่งตะวันตกก่อน ว่ามาตั้งแต่สมัยอริสโตเติล) ข้อแรกสุดก็คือ Principle of Autonomy ว่าด้วยสิทธิแต่กำเนิดในการดำรงชีวิตตามที่ปัจเจกเห็นชอบตราบใดที่ไม่ได้ไปรุกรานคนอื่น จะเห็นว่ามีรายการ talk show มากมายของฝรั่งถ้าใครดู UBC ไม่ว่าจะเป็น Jerry Springer หรือรายการสัมภาษณ์ ไม่ว่าจะเป็นความเห็นแปลก หลุดโลก หรือแม้กระทั่งบางครั้ง immoral ในสายตาของคนหลายคน ก็จะมีคนกล้าพูด กล้าแสดงออก แล้วออกมาอภิปรายกันในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยว่าทำไมเขาคิดยังงั้น จนกระทั่งบางครั้งผมสงสัยว่าคำว่า "หน้าแตก" ในดิกชันนารีฝรั่งอาจจะไม่มี ประเพณีที่ฝรั่งฉงนงงงวยในวรรณกรรมที่เกี่ยวกับญี่ปุ่นหรือจีนก็คือการที่คนตะวันออกจะ concern เรื่อง "FACE" อย่างมาก เช่นในหนังสือชุด Shogun, Taipan (+ Noble House 3 เล่ม) ของ James Clawell พวกเรามีแนวโน้มที่จะพยายามรักษา"หน้า" และหลีกเลี่ยงการ break harmony ในวงสนทนาทั้งอย่าง consciously and subconsciously

มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ นิกายหรือความเชื่อแปลกๆโลดโผนมันเลยออกมาในของฝรั่งเยอะ Church of Scientology ที่ดาราฮอลลีวูดมากมายเชื่อก็ประกาศอย่างโจ๋งครึ่มว่ามนุษย์สืบทอดมาจาก Alien และคนเราสามารถ step up merit ได้แปรตาม "ปริมาณ" เงินบริจาคเข้า มี package บุญหลาย sizes ตามกำลังศรัทธาให้เลือกซื้อ (ฟังคุ้นๆไหมครับ) แต่ของเราเรื่องจะแสดงความเชื่อ ความเห็นออกมาในที่สาธารณะมันยากเย็น มันมีอะไรต้องกังวลสูญเสียมากมายเหลือเกิน เราเลยมีประเพณีการออกมานินทาหลังที่ประชุม หลังการขอความเห็นเป็นทางการเยอะมากว่าไม่เห็นด้วยยังงี้ ยังงั้น แต่ไม่มีใครพูดในที่ประชุมอย่างโจ่งแจ้งเป็นทางการ

ลักษณะดังกล่าวยิ่งเห็นได้ชัดประเภทคำคมของคนตะวันออก เช่น คมในฝัก หรือ modesty is a Virtue (ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นมงคล เป็นความดี) ฝรั่งมาติดต่อกับญี่ปุ่นยุคแรกๆจะงงมาก เพราะอ่านหน้า อ่านใจไม่ออก ในหนังสือของ James Clawell แทรกการบรรยายไว้แยบคายว่า ตามความเชื่อของจีน ในการต่อรองการค้า หรืออะไรก็ตาม เขาจะหลีกเลี่ยงการเสนอความเห็นหรือพูดเสนอข้อตกลงก่อน เพราะจะเป็นการแสดงว่าเราจำเป็นหรืออยากจะได้สิ่งที่กำลังต่อรองมากกว่าอีกฝ่าย และจะกลายเป็นฝ่ายรับหรือตกเป็นรองในการต่อรองนั้นๆทันที ดังนั้น business lunch จะมีการทดสอบความอดทนของทั้งสองฝ่ายว่าใครจะเป็นคนเริ่มต้นเปิดการสนทนาเข้าเรื่องก่อน

พูดซะยาว สรุปว่าเราสามารถเริ่มหัดเป็นผู้ใหญ่ได้จากการรู้จักตนเอง กล้าแสดงความเป็นตัวของตัวเอง และรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำหรือคิด ในขณะเดียวกันถ้าจะให้สมบูรณ์ก็น่าจะมีการสั่งสม moral excellence ไปพร้อมๆกันครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-06 , Time : 08:50:04 , From IP : 172.29.3.206

ความคิดเห็นที่ : 55


   แล้วอาจารย์เคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า จงทำตัวดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย หรือไม่
และมีความคิดเห็นว่าอย่างไร หรืออาจจะเป็นเพราะอาจารย์เป็นคนหัวนอกเลยดูจะกล้ามากกว่าคนทั่วไป ไม่แคร์ ไม่สนใจว่าใครจะมี attitude ต่อตัวเรายังไง ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ผมคิดว่า ผมโพสต์อย่างนี้ไม่ลงชื่อ แต่ไม่ได้โพสต์สิ่งร้ายกาจอะไร แม้ผมจะโพสสิ่งดีๆ ก็เท่ากับว่าผมไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์ดีๆที่จะเกิดกับตัวผมจากสายตาคนอื่นๆเหมือนกัน ผมจึงถือเอาทางสายกลางเป็นหลักที่จะโพสต์ สร้างสรรค์ ไม่ทำลาย ไม่ขอเอาความดีความชอบ ไม่สร้างภาพ แต่ขอแชร์ความคิดดีๆ
ผมชอบทำตัวดี แต่ผมไม่อยากเด่นครับ ผมไม่อยากมีภัย


Posted by : เบื่อพวกโพสเอาหน้า , Date : 2005-01-06 , Time : 22:57:22 , From IP : 172.29.4.186

ความคิดเห็นที่ : 56


   ผมมีความเห็นทีแตกต่างออกไปอีกนิดหน่อยครับ และผมเคยได้ยินสุภาษิตมาพอสมควร ต่างกรรม ต่างวาระ และต่างภาษา ผมคิดว่ามันมีมิติในการตีความ และบริบทในการเลือกใช้ทุกอัน

ผมไม่คิดว่าคุณสมบัติของ maturity เป็นความหัวนอกแต่อย่างใด ความเป็นผู้ใหญ่นั้นไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่คนตะวันตก หรือมีข้อยกเว้นว่าคนไทยไม่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนคิดหรือกระทำแน่ๆ ความกล้าหาญของคนไทย กล้าแสดงออกในสิ่งที่ตนคิดว่าถูกต้อง มีตัวอย่างในสังคมมากมายมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ชาติไทยเริ่มมีการบันทึก ตัวผมเองไม่อยากสรุปหรือแม้แต่จะจินตรนาการว่า คนทั่วไป ในเมืองไทยเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนคิดตนทำ แต่ผมมั่นใจในทิศทางตรงกันข้ามครับ คุณหมอพรทิพย์ใช้การทำงานเป็นตัวบ่งชี้คุณค่าของแก ไม่ต้องกังวลเรื่องรูปลักษณ์เครื่องบ่งเครื่องแบบ มีคนวิจารณ์การบ้านการเมืองในสื่อต่างๆทำมาโดยคนทั้งบ้านเมืองก็รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน ตรงนี้มองอีกแง่หนึ่งก็คือ ถ้าความคิดของเราสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อคนส่วนรวม อาจจะมีคนสนใจมาต่อยอดหรือประสานงานร่วมมือกัน ประโยชน์มันก็จะมี และหากเราใช้ภาษาที่ดี ติเพื่อก่อ ไม่จาบจ้วง ไม่ส่อเสียด ไม่หยาบคาย "ภัย" ที่กลัวนั้นมันจะเกิดได้มากน้อยแค่ไหนล่ะครับ?

ความดีหรือเด่นนั้นเป็นความเห็นของ "คนอื่น" ครับ เป็นเรื่องที่เราช่วยไม่ได้ และตรวจสอบก็ไม่ได้ด้วยว่าเมื่อไหร่มันจะเด่น และที่ยากกว่าคือเมื่อไหร่ที่คนจะคิดว่าดี สรุปแล้วเอาแค่ด่านแรกคือตัวเราเองคิดว่าดีไว้ก่อน

ยกตัวอย่างง่ายๆ ที่คุณ post มาตำหนิคนที่ลงชื่อในการส่งกระทู้นั้น ผมเชื่อว่าคุณคงจะมีเหตุผลที่ดีอยู่และอยากจะแชร์ความคิดดีๆที่ว่า แต่ตรงนี้จะมีคนไม่เห็นด้วยหรือคิดว่ามันไม่ได้ออกมาแบบนั้นก็เป็นไปได้ ความสร้างสรรค์ที่ตั้งใจ มันอาจจะกลายเป็นอื่นไป คงเห็นด้วยใช่ไหมครับว่าว่าคำว่า "พวกโพสเอาหน้า" นั้น ฟังดูไม่ใคร่สร้างสรรค์ คำว่า "เบื่อ" นั้นมีความหมาย disapprove ว่าไม่เห็นด้วยรึเปล่า เป็นต้น

ตกลงที่ว่า "ติดลบ" นั้นคือ คุณคิดว่าจะมีภัยเกิดขึ้นต่อคนที่ใช้ชื่อจริงโพสต์ลงกระดานข่าวใช่ไหมครับ ลองขยายความสักนิดได้ไหมครับว่าทำไม มีเหการณ์ตัวอย่างเช่นไร ถึงสรุปออกมาเช่นนั้น



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-07 , Time : 00:26:40 , From IP : 203.156.41.208

ความคิดเห็นที่ : 57


    ผมว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นปัญหาเลยนะครับ บางครั้งพี่ปี 3 ก็ทำเสียงดังบ้าง บางครั้งพวกเราก็ส่งเสียงดัง เรื่องนี้ไม่เห็นจะแปลก เพราะที่นี่เป็นหอพัก มีคนตั้งมากมายมาอยู่รวมกัน ถ้าหอเงียบถึงจะแปลกมากกว่า อีกอย่างพวกเราก็จัดงานรื่นเริงที่นานทีปีหน พวกเราก็ขอแค่ทำกิจกรรมสนุกสนานเท่านั้น ไม่ใช่จะต้องนั่งในห้องอ่านหนังสือเงียบๆ อย่างเดียว แต่พวกเราพลาดตรงที่พวกเราไม่ได้ขออนุญาตจัดกิจกรรมก่อน ก็คงเป็นเพราะความไม่รู้
อีกอย่างคือ ผมอยากให้ทุกคนอดทนกับปัญหาเล็กๆน้อยๆบ้าง ไม่ใช่ว่าจะเห็นทุกอย่างเป็นปัญหาไปหมด และพวกเราก็ไม่เคยเอาเรื่องพี่ปี 3 ที่ส่งเสียงดังมาโพสลงกระทู้เลย(เช่น ตอน block commet ของพี่ปี 3 ตอนเทอม 1 พี่ส่งเสียงดังมาก ซึ่งน้องๆปี2 กำลังจะสอบพอดี )


Posted by : น้องปี2บางคน , Date : 2005-01-07 , Time : 20:42:34 , From IP : 172.29.4.169

ความคิดเห็นที่ : 58


   ข้อแรก คุณจะdiscredit หากคุณแชร์ความคิดที่ไม่ตรงประเด็น ไร้สาระ หรือยากที่เข้าใจ
ข้อสอง ภาพลักษณ์เสียล่วงหน้า เนื่องจากข้อหนึ่ง
ข้อสาม จากข้อสองและสาม สรุปได้ว่ามีภัย


Posted by : เปลี่ยนเป็น ไม่ชอบการโพสเพื่อห , Date : 2005-01-07 , Time : 23:41:21 , From IP : 172.29.4.186

ความคิดเห็นที่ : 59


   เอ่อ จากข้อหนึ่งและข้อสองครับ พิมพ์ผิด

Posted by : ไม่ชอบการโพสต์เพื่อหวังผล , Date : 2005-01-07 , Time : 23:42:28 , From IP : 172.29.4.186

ความคิดเห็นที่ : 60


   ขออนุญาตขยายความเห็นส่วนตัวเรื่องการแชร์เนื้อที่ความคิดตรงนี้สักนิด

คนเราทุกคนมีพื้นฐานเบื้องหลังที่มาของความคิดไม่เหมือนกัน ประเด็น จุดสนใจต่างกัน แต่เรื่องเดียวกันก็ยังมองได้คนละมุม ฉะนั้นเป็นเรื่องปกติที่มีความแตกต่างด้านความคิด และข้อสำคัญมากก็คือ "ความสามารถในการอยู่ร่วมกับความคิดที่แตกต่าง"

นั่นเป็นที่มาของความจำเป็นที่เราควรจะฝึกหัดการแสดงความเห็นต่อความคิดที่แตกต่างจากเราครับ จริงๆเราต้องฝึกตั้งแต่ความคิดที่เหมือนจนไปถึงความคิดที่ต่างทั้งหมด และข้อสำคัญคือ constructive criticism นั้น (ติเพื่อก่อ) จะต้องขยายไปถึง "วิธี" และ "ภาษา" ที่เราจะใช่สื่อด้วยเพื่อให้เกิดประโยชน์ สัมมาวาจาน่าจะเกณฑ์มาตรฐานเบื้องต้นที่ดี ไม่พูดจาหยาบคาย ส่อเสียด โกหกพกลม

"ประเด็น สาระ ยากที่จะเข้าใจ" นั้น เป็นการประเมินทางฝ่ายคนรับ เนื่องจากการสื่อประกอบด้วยสามส่วนคือ คนสื่อ คนรับ และบริบทเสมอ การนำเอาแค่ประเด็นเดียวมาเป็น parameter จะลดความแม่นยำไป ฉะนั้นเวลาเราแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก่อนที่เราจะสรุป (หรือตีคุณค่าว่ามันติดลบ ว่าไร้สาระ ว่าไม่ตรวประเด็น หรือยากเกินไป) นั้น ถ้าเราได้ขยายความว่าตรงไหน ความคิดส่วนไหนที่พูดๆกันเราไม่เห็นด้วย ความคิดแตกฉานมันจะได้มรโอกาสต่อยอดได้ ดังที่ผมเคยพูดมาตลอด เราอภิปรายบน "ความคิด" ไม่ใช่ตัวบุคคล เพราะความคิดของคนนั้นเปลี่ยนไปหลังได้รับการศึกษา เราไม่พึง attack บุคคลเพราะเราไม่ชอบความคิด แต่เราสามารถอภิปรายความคิดนั้นๆว่ามีเบื้องหลังที่มาอย่างไร ดีไม่ดีเพราะอะไร นำมาถก เราจะเห็นมุมมองอื่นๆของเรื่องเดียวกัน ประเด็นเดียวกันนั้นได้กว้างขึ้น ส่วนเรื่องยากเกินความเข้าใจนั้นยิ่งไม่ใช่เรื่องที่คนรับจะบ่นนะครับ อาจจะมีคนอื่นเข้าใจ หรือถ้าเราเห็นว่ายากเกินก็อ่านข้ามไป ถามคนอื่น (ถ้ายังสนใจว่าแปลว่าอะไร) หรือขอให้อธิบายเพิ่มเติม (ซึ่งผมเองทำอยู่เสมอเวลาไม่เข้าใจ) บางทีเรื่องที่เราไม่เข้าใจไม่ได้เพราะมันยาก แต่เพราะเราไม่ได้มีพื้นฐานทางนั้นมาก่อน ไม่ได้สนใจประเด็นมุมมองนั้นๆมาก่อนแค่นั้น เป็นโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมด้วยซ้ำ

เรื่องภาพลักษณ์นั้นผมพอจะมองเห็นลางๆ แต่ในความคิดของคนแก่ๆคนนึง ผมว่าภาพลักษณ์เป็นของเลื่อนลอย และยากที่คนๆนึงจะมีภาพลักษณ์ที่ดีถาวรสำหรับทุกคนครับ เราอาจจะดู cool สำหรับคนกลุ่มนึง แต่สำหรับกลุ่มอื่นเราอาจจะดู idiot ดื้อดึงดัน ก็เป็นไปได้ ถ้าเราไดเ form personality ที่มั่นคงแล้วระดับหนึ่ง เราจะมีภาพลักษณ์ "ของตนเอง" ที่เรามีความมั่นใจพอที่จะรักษา ไม่ต้องไปกังวลว่าคนข้างห้อง เพื่องข้างบ้าน เขาจะมองเราเป็นอย่างไรมากเกินไป และแน่ๆคือตรงนี้ไม่ได้เป็นภัยอะไรในการที่มีคนไม่เห็นด้วยกับความคิดของเรา

ผมคิดว่าการอ่านกระดานข่าว ถ้าได้เจอะเจอแต่ความคิดที่เราเห็นด้วยคงจะไม่สนุกเอาเลยทีเดียว ความแตกต่างทำให้เวทีนี้มีความหมาย เพียงแต่เนื่องจากที่นี้เป็นสังคมย่อยๆที่หนึ่ง ระเบียบสังคมกฏกติกามารยาทบางอย่างมันสามารถช่วยให้การสื่อสารเป็นไปโดยราบรื่นขึ้น มีความก่อร่างสร้างสรรค์มากขึ้นครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-09 , Time : 10:03:56 , From IP : 203.156.60.194

ความคิดเห็นที่ : 61


   ขออนุญาตแสดงความเห็นสำหรับของคุณ "น้องปี 2 บางคน" สักนิดนึงนะครับ

การทนปัญหานั้นก็เป็นการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งได้ครับ แต่ยั่งยืนหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับประเด็นในกระทู้นี้คือการทำเสียงดัง ณ หอพักรวมของนักศึกษาหลายชั้นปี ผมว่าทางแก้โดยการทนไปเรื่อยๆอาจจะไม่ตรงกับพยาธิกำเนิด การขออนุญาตจัดกิจกรรมก็ไม่ได้แปลว่าการอนุญาตให้จัดกิจกรรมที่หอพักจะไม่มีบทจำกัดเรื่องการส่งเสียงรบกวน

เมื่อน้องจบการศึกษาแล้ว ไปอยู่ข้างนอก จะเป็นหมู่บ้าน หรือทาวเฮาส์ คอนโด ฯลฯ อะไรก็ตามที กฏที่น้องจะต้องทราบจะไม่เพียงแค่กฏระเบียบหอพัก แต่เป็นกฏหมาย การส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้านนั้นมีกฏหมายควบคุมแน่นอนและการแก้ตัวว่านานๆที หรือปีนึงเกิดที หรือทีใครทีมัน อาจจะไม่ใช่สิ่งที่น้องจะนำมาใช้ในชีวิตจริงนอกรั้วมหาวิทยาลัย ตำรวจก็คงจะไม่ฟัง กฏหมายก็คงจะลดหย่อนผ่อนปรนได้น้อยกว่าในนี้

การแก้ว่าพี่ก็เคยทำนั้น ความหมายน่าจะเป็นพี่ไม่ควรจะทำครับ ไม่ได้แปลว่าน้องก็ทำได้ ไม่งั้นถ้ามีคนกงกินประเทศชาติแล้วจับไม่ได้ เราจะแปลเหมือนๆกันในอนาคตว่ายังงั้นเราก็ทำได้ แนงโน้มตรงนี้น่ากลัว ผมถามเด็กที่มาสอบสัมภาษณ์หลายคนว่าถ้าเขาเห็นคนจะลอกข้อสอบเข้า Entrance เขาจะทำอย่างไร คนที่ตอบว่ามันไม่ดีและจะบอกครู เหตุผลส่วนใหญ่คือเพราะถ้าถูกจับได้จะถูกห้ามสอบไปสามปี แต่น้อยคนมากหรือแทบจะไม่มีเลยที่จะตอบว่าเพราะมันทุจริต เพราะมันเป็นสิ่งเลว โกง หรือไม่ถูกต้อง ที่ผมว่าน่ากลัวเพราะความหมายโดยนัยคือถ้าทำแล้วไม่ถูกจับก็อาจจะไม่เป็นไร หรือถ้าโทษมันไม่แรงเท่าไหร่ก็น่าเสี่ยง

การอยู่หอพักคงจะไม่ต้องถึงขนาดเงียบเป็นป่าช้า หรือเข็มหล่นแก๊กนึงก็ได้ยินทั้งหอ แต่ก็ไม่ถึงกับว่าคนอยู่อาศัยจะได้บรรยากาศเหมือนนอนอยู่ข้างคอนเสิร์ตหลุดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอพักนักศึกษาแพทย์ที่มีการสอบของไม่ชั้นใดก็ชั้นหนึ่งอยู่เกือบตลอดเวลา อีกไม่นานพวกน้องขึ้นคลินิกยิ่งต้องมีคนที่อยู่เวรดึก และเวลานอนมีค่ามีความหมายมากขึ้น

การอยู่ร่วมในสังคมก็เป็นอีกพิสัยหนึ่งที่บัณฑิตควรจะพัฒนาขณะที่อยู่ในมหาวิทยาลัยครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-09 , Time : 18:18:02 , From IP : 203.156.41.49

ความคิดเห็นที่ : 62


   ดีจังครั้งนี้ไม่มีศัพท์ยาก ^^"

Posted by : P|atino , Date : 2005-01-10 , Time : 01:49:46 , From IP : 172.29.4.36

ความคิดเห็นที่ : 63


   อาจารย์ ฟินิกซ์ ความรู้เยอะจัง ทำไงเหรอครับ


Posted by : รน , E-mail : (คนอยากรู้) ,
Date : 2005-01-11 , Time : 11:46:46 , From IP : 172.29.2.166


ความคิดเห็นที่ : 64


   ครูผมสอนมา แล้วก็เลยพยายามจำครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2005-01-11 , Time : 17:10:18 , From IP : 203.156.60.252

ความคิดเห็นที่ : 65


   อยากให้อาจารย์โพสโดยใช้ภาษาที่ง่ายๆแบบนี้อ่ะครับ เพราะว่าเข้าถึงคนได้ง่าย การสื่อสารก็มีประสิทธิภาพมากกว่าด้วย ดีกว่าโพสยากๆ เบื่อจะอ่านเลยไม่อ่าน ทั้งๆที่คงจะมีประโยชน์มาก แต่ว่าขาดความน่าอ่านเพราะภาษาที่ยาก


Posted by : ง้องแง้ง , Date : 2005-01-14 , Time : 03:12:09 , From IP : 172.29.4.106

ความคิดเห็นที่ : 66


   เผอิญผ่านมาอ่านกระทู้นี้เข้า ยังงัยก็ต้องขอขอบคุณนศพ.ปี3 มากนะคะที่มาโพสตักเตือนนศพ.ปี2 เพราะจริงๆแล้วการกระทำของพวกเค้าสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านเค้ามาก ก็หวังเพียงแต่ว่าเมื่อพวกเค้าได้รับการตักเตือนจากรุนพี่ของเค้าแล้ว จะมีจิตสำนึกและมีมารยาททางสังคมขึ้นมาบ้าง

Posted by : คนที่อยู่หอข้างๆ , Date : 2005-03-05 , Time : 06:56:23 , From IP : 192.168.33.90

ความคิดเห็นที่ : 67


   หลายครั้งแล้วที่หนวกหู วันนั้นเป็นวันที่คณะอื่นสอบMid term กันอยู่ พวกคุณในฐานะคนที่ไม่ได้สอบ( ในตอนนั้น ) ก็ทำไป แต่ถ้าสลับกันบ้างล่ะ ถ้าพรุ่งนี้มะรืนนี้พวกคุณจะสอบ แล้วมีคนทำแบบนี้ พวกคุณจะตำหนิพวกเค้าไม๊ อย่างน้ิอยก็แอบด่าในใจล่ะว้า อย่าคิดมากเลย เดี๋ยวพวกคุณขึ้นปี 3 พอน้องปี 2 ทำแบบนี้ก็ไปตำหนิรุ่นน้องต่อไป เป็็นทอดๆ แบบนี้ไปเรื่อย.....ก็แค่นั้น ใช่มะ

Posted by : สาวๆ หอพยาบาล , Date : 2005-03-13 , Time : 23:31:41 , From IP : 203.155.172.100

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.025 seconds. <<<<<