คณะฯ ลงทุนซื้อฐานข้อมูลที่เราสามารถ download full text journals มาอ่านได้ปีๆละหลายล้านบาท ผมว่าเราอาจจะหยุดเพื่อพิจารณาว่าเราได้ใช้ "คุ้ม" หรือยัง?
การเรียนแพทย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ เรายังไงๆก็ใช้ textbook ภาษาอังกฤษประกอบมาตลอด ตั้งแต่สมัยก่อนที่ใช้ Grant Atlas, Grant Method, Moor Embryology หรือ Guyton & Ganong Physiology โครงการตำราศิริราชเคยฮึดเขียนตำราประกอบภาษาไทย ปรากฏว่าความรู้ในปัจจุบันมันไปเร็วมาก edition ใหม่ๆที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง concept ออกมาเร็วมาก จนคนแปลเองก็หมดพลังในการแปล เพราะแต่ละท่านแค่ติดตามเรื่องใน field ของตัวเองให้ทันสมัยก็หืดขึ้นคอแล้ว แปลหนังสือยิ่งใช้เวลามากกว่าอ่านเยอะ
คำนึงถึงผลพลอยได้ที่หาก นศพ. สามารถอ่านภาษาอังกฤษได้แตกฉานเหมาะแก่ระดับบัณฑิตปริญญาโท ประโยชน์ในอนาคตนั้นมากมายมหาศาล อย่าได้รังเกียจว่ามันไม่ใช่ภาษาไทย เรื่องนี้ไม่ควรจะเป็นอุปสรรคในการเปิดตนเองต่อความรู้ ถึงจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความเพียรพยายาม และความอดทนในระยะเริ่มต้น ผลลัพธ์มันคุ้มกันเยอะ เปิด Dictionary เยอะๆยิ่งดีครับ น้องรู้ไหม หนังสือประเภทที่ขายดีที่สุดในประเทศอังกฤษเองก็คือกลุ่มพจนานุกรมหรือ Dictionary นี่แหละ เพราะภาษามันเปลี่ยน ความหมายมันพัฒนาตลอด แม้แต่เจ้าของภาษาเขาเองยังเห็นความสำคัญที่จะต้องเข้าใจเรื่องภาษษ เพราะนี่เป็นพื้นฐานในการสื่อสาร และมนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคมที่อยู่ได้โดยปฏิสัมพันธ์และสื่อสาร แลกเปลีร่ยนความรู้นี่แหละครับ เปิด English-Thai dictionary อย่างเดียวก็ไม่พอ ผมว่าควรจะเปิดอ่าน Oxford หรือ Longman English-English dictionary เราจะได้ศัพทฺเพิ่มเติมเป็นทวีคูณ จนถึงระดับหนึ่งมันจะง่ายขึ้นๆ จนน้องสามารถอ่าน Harry Potter หรือ Lord of The Ring ต้นฉบับได้เอง จะสนุกสนานและเปิดโลกทัศน์ได้อีกเยอะทีเดียว
Posted by : Phoenix , Date : 2004-12-23 , Time : 22:25:38 , From IP : ppp-203.118.112.21.r
|