แม่ทัพฉิ่งเตือนเหตุรุนแรง!เข้าขั้นปะทะเดือดเดือนหน้า
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9470000085712
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤศจิกายน 2547 15:19 น.
อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และที่ปรึกษานายกฯ ระบุเดือนหน้าขบวนการป่วนใต้เดินแผน ขั้นที่ 7 จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขั้นแตกหัก เหมือน 28 เมษายน ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แนะรัฐบาลต้องจัดตั้งองค์กรภาคประชาชนเข้าไปดูแลตามหมู่บ้าน เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวบ้านและชุมชน
พล.อ.กิตติ รัตนฉายา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวในรายการ สภาท่าพระอาทิตย์ ออกอากาศทางช่อง 11 news 1 และวิทยุเอฟเอ็ม 97.5 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อเช้าวันที่ 22 พ.ย. ถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จากการประเมินในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีขบวนการโจรแบ่งแยกดินแดน หรือขบวนการก่อการร้าย
เมื่อดูโครงสร้างพบว่า ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนองค์กรนำ ที่อยู่ในประเทศและนอกประเทศ ส่วนกองกำลังอยู่ในประเทศขณะนี้ไม่เป็นกลุ่มก้อน แต่มีคนของขบวนการอยู่ร่วมกับชาวบ้าน อาวุธที่มีก็ซ่อนอยู่ เมื่อต้องการดำเนินการก็เอาอาวุธออกมา และอีกส่วนหนึ่งก็คือ ส่วนแนวร่วม
รัฐบาลมองว่าการแก้ปัญหาใน 3 ส่วนนี้ มีงานอยู่ 3 งานที่รัฐบาลต้องทำคือ งานแนวทางสันติวิธี ซึ่งต้องดำเนินการกับส่วนนำ เพราะในองค์กรนำ หรือคนที่อยู่ในองค์กรนำ บางคนอยู่ในต่างประเทศ อยู่ในมาเลย์ อยู่ในตะวันออกกลาง อยู่ในยุโรปด้วย งานอีกงานหนึ่งก็คืองานทางการทหาร ซึ่งทำอยู่แล้ว โดยให้กองทัพภาค 4 กับตำรวจภูธรภาค 4 ดำเนินการ ส่วนงานที่ทำกับแนวร่วมก็คือ งานพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม
งาน 3 งานนี้ต้องมอบให้องค์กรเฉพาะมาดำเนินงาน แต่ในขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีแม้ว่าจะมีการจัดตั้งกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กอ.สสส.จชต. แต่ก็เป็นส่วนควบคุม ส่วนที่จะเข้าไปดูแลงานทั้ง 3 งานต้องมีองค์กรเป็นภาคประชาชน ซึ่งไม่ใช่เอ็นจีโอ หรือภาคประชาชนที่กำลังดำเนินการเอง เป็นภาคประชาชนของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลต้องตั้งขึ้นเพื่อทำงานในเรื่องแนวทางสันติวิธี
คือต้องไปจัดตั้งเป็นองค์กรใหม่ ไม่ใช่องค์กรเดิมนะ เพราะองค์กรเดิมโดนโดมิเนตโดยขบวนการเกือบหมดแล้ว รัฐบาลต้องตั้งใหม่ โดยอาจจะให้ข้าราชการเกษียณ หรืออดีตแม่ทัพหรืออดีตผู้ว่าราชการซึ่งรัฐบาลมีความไว้ใจ เข้าใจในปัญหาไปร่วมกันตั้งเป็นคณะทำงานกับคนไทยมุสลิม ผู้นำทางจิตวิญญาณ เพื่อดำเนินการในเรื่องสันติวิธี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
พล.อ.กิตติ ได้ประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะรุนแรงขึ้นในเดือนหน้า อาจถึงขั้นแตกหัก เพราะฝ่ายก่อการต้องการที่จะทำให้เรื่องมันแรงขึ้นเพื่อทำให้กลายเป็นปัญหามุสลิมของโลก อาจจะเลยการแบ่งแยกดินแดนไปแล้ว
พล.อ.กิตติย้ำว่า ตามข้อมูลที่ได้รับขณะนี้มีการสะสมกำลัง มีการฝึกคนแล้วเอาไปอยู่ตามหมู่บ้าน ส่วนอาวุธที่รวบรวมได้ไม่ต่ำกว่า 2 พันกระบอก พร้อมที่จะมีงานใหญ่โดยกองกำลังติดอาวุธจะมารวมกันเรียกว่าตำรวจบ้าน กองกำลังที่อยู่กับประชาชน แล้วรวมกับเยาวชนที่เรียกว่า เยาวชนกู้ชาติปัตตานี
3 ส่วนมารวมกันอาจจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะแบบ 28 เมษายน อาจจะก่อเหตุการณ์ต่อสถานีตำรวจทั่วทั้งจังหวัดก็อาจจะเป็นได้ มันเป็นแผนที่เขาเรียกว่า แผน 7 ขั้น มันก็ขั้นที่ 7 คือขั้นปฏิวัติ แย่งชิงอำนาจ ตอนนี้เข้าขั้นที่ 7 จะเข้าขั้นที่ 7 ถ้าให้ผมมองในการปฏิบัติการเมื่อวันที่ 28 เมษายน เป็นการประกาศการใช้อาวุธของขบวนการโจรก่อการร้ายเลยตัดสินใจ แต่เขาก็พลาดพลั้ง เขาประมาทไป พล.อ.กิตติ กล่าว
อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลแก้ 3 ส่วนนี้ได้ก็มองเห็นแสงสว่าง มองเห็นจุดหมายว่า มันจะจบด้วยอะไร เพราะว่าการก่อความไม่สงบนี้จะจบด้วยการเจรจา ไม่ใช่ว่าจะจบด้วยการใช้กำลังทหาร เรามีบทเรียนแล้ว เราตึงต้องมีองค์กรมาทำหน้าที่ เพียงแต่ว่าเป็นองค์กรที่มีศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะว่าพวกโน้นไปอ้างอิงศาสนา ผู้ที่เข้าไปแก้ไขต้องเป็นมุสลิม มามีส่วนร่วมอย่างมากด้วย
Posted by : ผู้จัดการออนไลน์ , Date : 2004-11-22 , Time : 22:07:30 , From IP : 172.29.4.132
|