ความคิดเห็นทั้งหมด : 15

การทำงานนอกเวลาของแพทย์


   ผมได้มีโอกาสทราบเกี่ยวกับการทำงานของแพทย์โดยบังเอิญ
มีแพทย์จำนวนหนึ่งที่ไปรับทำงานนอก ที่รพ.เอกชน โดยที่งานภายใน รพ.ของ
ตนเองก็ยังไม่เสร็จปล่อยทิ้งไว้ ให้คนอื่นทำให้ตัวเอง จะว่า ว่าไม่มีจิตใต้สำนึกของความเป็นแพทย์ก็ว่าได้ ผมคิดว่าอย่างนี้ก็ไม่ต่างจากกิ้งก่าที่เปลี่ยนสีได้หรอกครับ มีจริงๆนะครับหมออย่างนี้ใน รพ. มอ.


Posted by : คนที่เคยเห็น , Date : 2004-11-11 , Time : 00:44:21 , From IP : 172.29.7.81

ความคิดเห็นที่ : 1


   ต้อองการอารายก๊าบบ

Posted by : ... , Date : 2004-11-11 , Time : 01:04:55 , From IP : 172.29.1.97

ความคิดเห็นที่ : 2


   ต้องการสังคมหมอที่รับผิดชอบผู้ป่วยมากกว่านี้ซิ ฮิ..ฮิ

Posted by : abc , Date : 2004-11-11 , Time : 13:05:30 , From IP : 172.29.3.158

ความคิดเห็นที่ : 3


   อย่าเป้นหมอต่อไปเลยครับ ไปเป็นนักมายากล หรือให้ดี ไปเป้นกิ้งก่าเลยดีกว่า


Posted by : คนที่เคยเห็น , Date : 2004-11-11 , Time : 15:21:27 , From IP : 172.29.3.249

ความคิดเห็นที่ : 4


   การทำงาน "นอกเวลา"?



Posted by : Phoenix , Date : 2004-11-11 , Time : 21:16:48 , From IP : 203.156.40.218

ความคิดเห็นที่ : 5


   หมายถึงการรับjobหรือเปล่า
ถ้างานประจำเสร็จ ไปรับงานอื่นต่อก็ไม่เห็นแปลก
ถ้าทิ้งงานที่ต้องรับผิดชอบไปหารายได้เพิ่ม ผมคิดว่าคงไม่เหมาะสม
แต่จะเป็นกิ้งก่า กิ้งอะไรนั้นผมไม่รู้
กิ้งก่าผิดตรงไหน มาเกี่ยวอะไรกับการรับjob


Posted by : megumi , Date : 2004-11-12 , Time : 00:07:12 , From IP : 172.29.7.247

ความคิดเห็นที่ : 6


   เดี๋ยวคุณก็เป็นแบบนั้น อย่าพูดโดยไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ
คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นนักเหรอ
อุดมการณ์มันกินได้เหรอ อย่ามาทำจอมปลอมหน่อยเลย
ทุกคนต้องกินต้องใช้
เป็นหมอแล้วงัย คุณคิดมั้ยว่าไล่เค้าอย่าเป็นหมออย่างนั้น ทำให้คนไข้เสียโอกาสในการรักษากี่คน
คุณคิดว่าที่เค้ามาเรียนหมอกัน เค้าอยากรักษาคนไข้เหรอ ไปถามสิ หรือถามตัวเองดูก่อน
ถ้าไม่ทำคนไข้ตาย หรือ เพิ่มความทุลพลภาพก็ดีแล้วหละ
( ไอ้งี่เง่า...มีหมอที่ไหนที่รักษาคนไข้หายแล้วไม่ดีใจ )
อย่ากระแดะมาทำตัวจอมปลอม มันน่าเกลียด ทำตัวเองให้ดี อย่าไปว่าใคร
ไม่เคยีใครสอนเหรอว่าอย่าไปตำหนิเพื่อนร่วมอาชีพ แล้วยกตนเอง เพราะถ้าวันหนึ่งถ้าตัวเองพลาด แล้วจะโดนกลับมา
คิดว่าตัวเองจะไม่พลาดเหรอ


Posted by : mabus , Date : 2004-11-12 , Time : 06:42:30 , From IP : 172.29.1.97

ความคิดเห็นที่ : 7


   ใจเย็น ๆ ครับ
มันก็ไม่ดีที่ถ้ายังไม่เสร็จงานประจำแล้วทิ้งงานไปทำอย่างอื่น แต่ว่า....
แต่ละคนย่อมมีเหตุผลในการกระทำไม่เหมือนกัน บางทีหมอที่คุณได้ยินเค้าอาจจะมีคนไข้ด่วนที่จำเป็นต้องเข้าไปดูในคลีนิคก่อนเวลาก็เป็นได้
อย่าใช้ความคิดตัวเองเป็นบรรทัดฐานแล้วอยากให้ผู้อื่นทำตามเลยครับ ไม่ดีหรอก


Posted by : คนผ่านไปผ่านมา , Date : 2004-11-13 , Time : 14:53:17 , From IP : 172.29.4.252

ความคิดเห็นที่ : 8


   นอกเวลา ให้ทำเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ดังนั้นหากงานในเวลาราชการที่ทำไม่เสร็จและไม่เป็นกรณีฉุกเฉิน ให้ทำต่อในวันรุ่งขึ้น ยกเว้นงานที่ต้องทำต่อเนื่องให้เสร็จ ยกไปทำวันรุ่งขึ้นไม่ได้ เช่น ผ่าตัดอยู่แล้วทำไม่เสร็จ ต้องทำต่อให้เสร็จเป็นราย ๆ ไป

ดังนั้น ไม่ว่าจะงานตรวจคนไข้ งานตรวจรายงานนักศึกษา งานเอกสาร งานผ่าตัด elective ที่ยังไม่ได้เริ่มในเวลาราชการและไม่มีเหตุให้ทำนอกเวลาราชการก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำ ให้ยกไปทำในเวลาราชการวันรุ่งขึ้น

นอกจากนี้ก็เป็นสิทธิ์ของบุคคลที่จะทำงานนอกเวลาราชการได้ตามความเหมาะสมของตนโดยไม่ทำให้งานในเวลาราชการได้รับผลกระทบ ยกเว้นผู้ที่รับเงินพิเศษกรณีไม่ทำเวชปฏิบัติส่วนตัว ซึ่งไม่เกี่ยวกับข้าราชการทบวงอยู่แล้ว

อย่ามั่วครับ


Posted by : พี่น้องและผองเพื่อน , Date : 2004-11-13 , Time : 22:54:00 , From IP : 202.129.18.132

ความคิดเห็นที่ : 9


   .....ไหนลองยกตัวอย่างสักคนดีไหมครับ?.....[ใช่วัตถุประสงค์แบบนี้หรือเปล่าครับ เจ้าของกระทู้?]......ไหนๆก็ไหนๆแล้ว....เราลองมาลุยพวก"กิ้งก่า"แบบนี้กันสักทีดีไหมครับ??.....เชิญเจ้าของกระทู้ก่อนเลยครับ....ผมจะรอดูว่าคุณกล้าแค่ไหน......:D...:D



Posted by : Death , Date : 2004-11-14 , Time : 11:22:32 , From IP : 172.29.3.249

ความคิดเห็นที่ : 10


   ....ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว......เจ้าของกระทู้ก็ไม่มา....เฮ้ออออ.......

.....เอาละ....เอาเป็นว่าผมเข้าใจในสิ่งที่ต้องการจะสื่อ....ผมเองผมก็เคยเจอแบบนั้นเหมือนกัน.....และผมก็ไม่คิดเช่นกันว่าอุดมการณ์นั้นกินได้....ผมต้องหาเลี้ยงครอบครัวเหมือนคนอื่นๆนั้นหละ.....แต่ผมคงทำอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ไม่ได้ในกรณี"กิ้งก่า"อย่างที่ว่า.....ถ้าเป็นเพื่อนกันหรือรุ่นน้องที่รู้จักก็พูดคุยกันได้.....แต่ถ้าแก่กว่า...ถึงแก่กว่ามากๆ....ก็จนใจครับ.....มันอาจจะจำเป็นที่ต้องไปทำงานนอกเวลา....แต่อย่างไรก็ตามการทอดทิ้งงานประจำที่ไม่เรียบร้อย....หรือพูดง่ายๆว่าทิ้งคนใข้.....คงไม่น่าจะได้รับการให้อภัย.......คงแนะนำได้แบบที่คุณ Phoenix ชอบแนะนำก็คือ"ร้องเรียน"ความไม่รับผิดชอบเหล่านี้ครับ....แต่ผมก็เข้าใจอีกเช่นกันว่าถ้ามันลำบากมาก....การโวยวายอะไรอันจะก่อให้เกิดผลเสียเข้าตัวเอง....ก็ไม่น่าทำนัก....บางทีการเขียนลงมาเลยในที่นี่....ที่คุณ Phoenix ต่อต้านนักหนาที่เรียกว่า Personal attack นั้น.....ผมเห็นว่าถ้าบางกรณีมันเลือดเข้าตาแล้ว....ก็ทำไปเถอะครับ....ดีกว่ามานั่งอัดอั้นจะตายเสียให้ได้เวลาเห็นไอ้พวก"กิ้งก่า"เหล่านี้มันเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ได้....อย่างน้อยก็อาจจะไม่มีคนสนใจ....กระทู้อาจจะถูกลบ....อาจจะถูกตามร้อยและร้องเรียนกลับ....แต่อย่างน้อยเราจะได้เห็นว่า....ไอ้พวก"กิ้งก่า"เหล่านี้มันหัวหดขนาดไหน....และเชื่อได้แน่ว่ามันคงจะต้องปรัปปรุงตัวไม่ว่าจะทางใดก็ตาม....ทำให้มันรู้สึกว่า....มันจะไม่สามารถเปลี่ยนสีได้ง่ายๆอีก....อาจจะเป็นทางที่ดีมั้ง?.....ไม่รู้นะครับ....:D

.....คิดดีๆหละกันนะเจ้าของกระทู้....แค่แสดงความเห็น.....โชคดีครับ....:D...:D



Posted by : Death......[From Hell] , Date : 2004-11-15 , Time : 09:39:42 , From IP : 202.129.48.122

ความคิดเห็นที่ : 11


   สาเหตุที่ผมไม่เห็นด้วยกับการทำ personal attack ในที่สาธารณะ ไม่ได้เกี่ยวกับเลือดเข้าตา หรือว่าคนอดนินทาแล้วจะอั้นใจตายต้องขอความเห็นใจหาทางออกหรอกครับ

แต่การทำ personal attack ตรงนี้นั้นมันไม่ได้มีอะไรปกป้องคนบริสุทธิ์ต่างหากที่ผมเป็นกังวล

หลักรัฐศาสตรที่ผมเคยได้ยินนั้น เรายินยอมปล่อยคนผิด 100 คน ดีกว่าการหลงทำโทษ ใส่ร้ายคนถูกแม้เพียงคนเดียว นั่นคือหลักการที่มาของการต่อต้าน personal attack ที่ว่า

คนเราเข้าใจเรื่องราวต่างๆจากหลายสาเหตุ และในหลายๆสาเหตุนั้น ความเข้าใจผิดก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่พอลมปากมันออกไปแล้ว ภาษิตจีนว่าไปเร็วม้าลมกรดมีปีกซะอีก

ผมคิดว่ายังไงๆ พวกเราในฐานะที่ต้องมีความรับผิดชอบในความเห็น หรือข้อสรุปที่เราจะให้ เพราะมันหมายถึงความเป็นตายร้ายดี เกี่ยวข้งกับชื่อเสียงของคนๆหนึ่งทั้งชีวิต ถ้าคิดอย่างนี้เหตุผลว่าเลือดเข้าตา หรืออัดอั้นตันใจต้องหาทางระบายมันจะลดความสำคัญลงไปได้หรือไม่? ลองเปลี่ยนคนที่อาจจะถูกเข้าใจผิดเป็นตัวเราเองหรือบุรพการีของเรา อะไรคือระบบที่เราอยากจะให้เกิด?

ผมคิดว่าเราเห็นตัวอย่างการยอมรับแบบต่างๆบนกระดานแห่งนี้และแห่งไหนๆมาพอสมควร ผมว่าให้แต่ละคนมีส่วนในการผลักดันสังคมไปในทางที่ตนเห็นว่าอยากจะให้ลูกหลานเติบโตมาอยู่ดีไหมครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2004-11-15 , Time : 17:33:48 , From IP : 203.156.42.65

ความคิดเห็นที่ : 12


   .....จะว่าไปมันก็จริงนะที่ไม่สามารถปกป้องอะไรคนบริสุทธได้......แต่เราแน่ใจได้ไงว่าคนที่ถูกกล่าวหาบริสุทธจริง........ผมเองยังไม่เคยเห็นคนดีจริงๆคนไหนโดนกล่าวหาเลย......ทุกคนมีด้านดีและด้านเลวทั้งนั้นหละ....ผมเองก็มีส่วนเลว....บางคนก็เกลียดผม....ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา....ถ้าจะมีแต่คนมารักผมมันคงเป็นไปไม่ได้.....:D...:D

......ผมเลยไม่เชื่อนักเรื่อง Personal attack ว่าอาจจะไม่มีประโยชน์....แต่นั้นหละ....ขึ้นกับว่าเลือดเข้าตาของเรามันมากแค่ไหน....บางทีมันเอาเปรียบเล็กน้อย....ทนได้ก็ทนไปสิ.....บางทีมันไม่ไหวมากไป.....จะทำอะไรได้...ก็มันเป็นหัวหน้าเรา[สมมติ] จะไปร้องเรียนที่ไหน....โวยวายไปก็โดนไล่ออก...ลูกเมียอดตาย....เงินเก็บก็"ม่มี.....เพื่อนฝูงก็ตีตัวออกห่าง ไม่มีคนคบเพราะเป็นไอ้ขี้ฟ้อง?....แบบนี้ดูๆแล้วมันเข้าท่าหรือเปล่าครับ?.....ผมเองก็ไม่ใช่วีรบุรุษอะไร [เท่าที่เคยได้ยินมา เราจะเรียกหรือยกย่องใครเป็นวีรบุรุษเมื่อตายแล้วทั้งนั้น....ซึ่งผมไม่อยากเป็นแน่นอน...:D]........ผมค่อนข้างเชื่อว่าเราไม่ได้อยู่ในโลกของสังคมที่มีความรักความเห็นใจ....มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่ทุกผู้คนหรอกครับ....เราอยู่ในสังคมที่ปะปนทั้งคนดีและคนเลว....และความเที่ยวธรรมจริงแท้นั้นไม่มี....ดังนั้นเราคงต้องดูแลตัวของเรากันเอง.....

.....ถ้าเป็นสัก 1000 ปีก่อน ถ้ามีใครมาด่าผม ผมคงชักดาบตัดหัวทิ่งศพให้หมาขี้เรื่อนข้างถนนกินก็ได้ถ้าผมยิ่งใหญ่พอ.....ปัจจุบันเราอ้างว่าเราเป็นผู้เจริญ.....ทำอะไรตามกฎหมาย.....แต่ก็เห็นอยู่บ่อยไปที่คนเลวไม่ต้องรับผิดเมื่อทำผิด.....บางคนก็บอกว่าให้รอเวรกกรม.....เมื่อไหรละเวรกกรมจะมา?.....ตามหลักที่คุณว่าปล่อยคนผิด 100 คนดีกว่าจับคนดีคนเดียว.....แล้วถ้า 1 ใน 100 คนผิดมันออกมาทำร้ายคนที่คุณรักหละ.....คุณจะคิดแบบนี้หรือเปล่า?.....ผมเลยไม่แน่ใจนักในโลกที่เราอยู่.....ถ้าโลกที่ดีแบบที่คุณว่าจะเป็นได้.....คุณอาจจะต้องฆ่าคนสัก 80-90% ของโลก.....และพาพวกคนที่คุณเลือกขึ้นเรือ Arc ไปยังโลกใหม่ที่ทุกอย่างจะเป็นอย่างที่คุณฝัน.....นั่น.....แน่นอน....คุณต้องฆ่าผมด้วย...HAHAHAHA...:D...:D

.....ผมอยากรู้จริงๆนะ....ว่าจะทำไงดี...ถ้าผู้บังคับบัญชาที่สามารถให้คุณให้โทษ และมีพลังด้านมืดอย่างล้นเหลือ....สามารถไล่ออก....ย้ายงาน...กดตำแหน่ง...ใส่ความ....และอะไรอีกหลายๆอย่างได้....เอาเปรียบคุณเนี่ย?.....คุณจะทนไหม?....ผมเคยเจอแล้วก็ลุยนะ....มันก็ตายเปล่า....เจ็บตัวแบบได้ไม่คุ้มเสียนัก.....มีทางไหนดีๆบ้างไหม?....แนะนำผมสักนิดเถอะครับ....ผมจะได้ไม่ใช่วิธีแบบบ้าระห่ำแบบที่ชอบอีก....บางทีเลือดมันเข้าตาเร็วทุกที.....เฮ้อออออ.....



Posted by : Death......[From Hell] , Date : 2004-11-16 , Time : 13:55:27 , From IP : 202.129.48.122

ความคิดเห็นที่ : 13


   เราพูดกันคนละประเด็น ผมไม่ได้มองว่าการส่งกระทู้ personal attack โดย anonymous โดยไม่ต้องมีหลักฐาน การสอบสวน ไม่ว่าจะโดยอัดอั้นตันใจหรือเลือดเข้าตานั้น อาจจะ มีประโยชน์ต่อความเจริญ ความเป็นมงคลของใครอย่างไรหรือไม่ ผมมองหาว่ามัน อาจจะ เกิดโทษอะไรอย่างไรกับใครได้หรือไม่

ผมไม่ทราบว่าการที่คุณ Death บอกว่า ผมเองยังไม่เคยเห็นคนดีจริงๆคนไหนโดนกล่าวหาเลย นั้น ต้องการ share personal experience หรือกำลังจะสรุปว่าการเข้าใจผิด การใส่ร้าย นั้นไม่มีในโลกใบนี้ ตัวผมเองเคยเข้าใจผิดคนจำนวนมาก และบางครั้งต้องมานึกเสียใจว่าเคยเข้าใจผิดคิดไม่ดีกับคนอื่น ตอนเด้กๆเคยแสดงออกไปอย่างไม่ยั้งคิด เพราะเชื่อมั่นว่าเรานี้โคตรฉลาดไม่เคยผิดมาก่อน ต่อมามันรู้สึกว่าตนเองโง่ลงๆเรื่อยๆ เลยพยายามจะระมัดระวังในการ "ตีค่า" ของคนอื่นอย่างมาก ตัวผมเองยังไม่ค่อยรู้จักดีเท่าไหร่เลยครับ นับประสาอะไรผมจะไปประเมินความดีเลวของลูกเขาเมียใครพ่อใครแม่ใคร คนที่มีความมั่นใจตรงนี้อาจจะมาช่วยบอกความลับว่าทำได้อย่างไร

อย่างที่ผมกล่าว ผมเชื่อในหลักการหลีกเลี่ยง "อวิชชา" อย่างหนึ่งคือ ผมเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นมีผลมาจากอดีต สิ่งที่เราทำอยู่ในปัจจุบันมีผลในอนาคต ดังนั้น สิ่งที่เราทำ ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้เห็นผลในวันนี้ แต่คนที่จะรับ "กรรม" ต่อไปก็คือคนรุ่นหลังๆ ลูกเรา หลานเรา นี่แหละครับ ผมไม่อยากจะเห็นพ่อใคร แม่ใครถูกใส่ร้าย คนเราไม่ได้ดีเลิศ 100% จริง แต่คนเราก็หาที่เลว 100% ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเราเชื่อในการทำ personal attack ลูกหลานเราก็จะรับผลแห่งความเชื่อนั้นๆต่อๆไปแน่ๆ สังคมรอบตัวเราก็จะแวดล้อมด้วยคนที่คิดเหมือนเรา มีคุณค่าอย่างเดียวกันนี่แหละครับ ดังนั้นผมว่าแต่ละปัจเจกบุคคลอยากจะอยู่ในที่แบบไหน แวดล้อมด้วยคนแบบไหน ก็จะสะท้อนมาจากที่เราเชื่อ เรากระทำ



Posted by : Phoenix , Date : 2004-11-16 , Time : 17:59:20 , From IP : 203.156.42.233

ความคิดเห็นที่ : 14


   เอ่อ.....ไม่ทราบว่ามีคนที่เลว>90% มั้ยครับ

Posted by : เหอๆๆ , Date : 2004-11-19 , Time : 17:56:15 , From IP : 172.29.4.253

ความคิดเห็นที่ : 15


   ปรดอย่าตัดสินคนจากสิ่งที่คุณเพียงแต่มองเห็น มองให้เป็นธรรมแล้วคุณจะพบความจริง

Posted by : tt , Date : 2004-12-02 , Time : 15:16:39 , From IP : 172.29.1.141

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<