ความคิดเห็นทั้งหมด : 11

Block Pre- and Post-operative Care การสอบแบบใหม่ Open Book


   นศพ. block Pre- and Post-operative Care รุ่นปัจจุบันจะได้ทำข้อสอบแบบใหม่ 1-2 ข้อแทน MEQ คือการสอบแบบ open-book ในการสอบลง block ที่จะถึงนี้

ที่แน่ๆคือ 1 ข้อเป็นเรื่อง fluid and Electrolytes จะเป็นโจทย์ผู้ป่วยให้ประเมินและให้สารน้ำ โจทย์จะดึงเอามาจาก 1 ใน 40 cases ที่ นศพ. รายงานมานั่นแหละครับ ผสมๆกันนิดหน่อย อีกข้ออาจจะเป็นของ orthopaedics

Open-book หมายความว่า นศพ.จะหิ้วหนังสืออะไรเข้าไปก็ได้ตามที่ตนเองคิดว่าจำเป็น (หิ้วเข้าไปเยอะก็เปิดไม่ทันนะจ๊ะ) ทำโจทย์ใน 1/2 ชม. ฉะนั้นโจทย์พวกนี้จะเป็นโจทย์ applied ที่มีข้อมูลต่างๆวางตรงหน้า คล้ายๆกับการดูคนไข้จริงบน ward ที่ นศพ.จะคัดกรองเอาข้อมูลที่จำเป็นมาใช้อย่างเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องจำสูตร หรืออะไรที่ในชีวิตจริงเราก็ไม่ได้จำมันอยู่แล้ว มีเวลาไปเปิดอ่านได้ตลอดเวลา

May the Force (and Knowledge) Be With You



Posted by : Phoenix , Date : 2004-11-06 , Time : 07:39:36 , From IP : 203.156.42.11

ความคิดเห็นที่ : 1


   แต่ผมว่าไม่น่าจะยกเลิกการสอบ MEQ นะครับ เพราะคิดว่าวัดความรู้ได้ดี อย่างน้อยถ้าจะเพิ่ม open book เข้ามาก็นะจะเป็นสอบร่วมกัน หรือเป็น formative อีกอย่างที่น่ากลัว รุ่นต่อๆไปถ้ามีโพย open book น่าจะแย่ๆ เพราะอาจจะมีการนำเอาเข้าห้องสอบมาลอกกันสบายเลย เหมือนข้อสอบของบางภาค

Posted by : Edward , Date : 2004-11-06 , Time : 12:39:00 , From IP : 172.29.3.138

ความคิดเห็นที่ : 2


   ไม่เอาครับ

Posted by : zaya , Date : 2004-11-06 , Time : 13:07:15 , From IP : 172.29.4.98

ความคิดเห็นที่ : 3


   ไม่ได้ยกเลิกครับ MEQ ยังมีอยู่

การสอบ openbook นั้น จะต้องเลือกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับ recall cognitive ครับ เน้นความเข้าใจและการ apply ประยุกต์ใช้ เป็นการสอบความเข้าใจ applied cognitive ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าการจำหรือตามโพยมาก

บ่อยครั้งที่การสอบความเข้าใจ หรือการสอบวิชาที่ต้องบูรณาการเยอะๆ นักศึกษาตอบไม่ได้เพียงเพราะลืมสูตรบางสูตร หรือจำค่าคงที่ ค่ามาตรฐานบางตัวไม่ได้ ซึ่งในบริบทจริงที่เราใช้งานเราสามารถจะเปิดหาอ่าน ยืนยันข้อมูลดังกล่าวได้โดยง่าย ดังนั้นถ้าใครสอบไม่ผ่านเพราะเหตุนั้นก็ไม่น่าจะตรงกับสิ่งที่เราต้องการจะรู้ว่าทำได้หรือไม่ได้อย่างแท้จริง

Open-Book สามารถจะทำแบบ MEQ ก็ได้แล้วแต่ลักษณะข้อมูลที่จะนำมาใช้ว่าเป็น sequential หรือ cross-sectional แต่ที่เราจะใช้ในครั้งนี้เป็น cross-sectional 1 process จึงไม่ได้ทำแบบ MEQ วิธีการสอบจะสอดคล้องกับการประเมินสิ่งที่เราหวังว่า นศพ.ควรจะรู้ครับ แต่ละวิธีคงจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ใครสนใจจะอภิปรายข้อดีข้อเสียเชิงแพทยศาสตร์ศึกษา ผมยินดีอย่างยิ่งที่เราจะมาแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2004-11-06 , Time : 15:13:14 , From IP : 203.156.41.179

ความคิดเห็นที่ : 4


   ผมว่าไม่ดีเลยครับ เพราะว่าหนังสือห้องสมุดมันมีไม่พอกับนักศึกษา ต้องไปแย่งกันอีก แล้วคนที่ไม่ได้หนังสือจะทำยังงัยล่ะครับ

Posted by : สอบ , Date : 2004-11-06 , Time : 16:44:24 , From IP : 172.29.4.45

ความคิดเห็นที่ : 5


   คุณ phoenix ครับ สิ่งที่กำลังทำอยู่ผมเคยคิดแล้ว แต่นี่ไม่ใช่การพัฒนาทางความคิดและสร้างความขยันในการเรียนในวิชาชีพนี้นะ...คิดดีๆ เตือนด้วยความเป็นห่วง ...ไม่ทราบว่าเคยอ่านหนังสือเรื่อง "พ่อแม่รังแกฉัน" หรือเปล่าตอนเด็กๆ

Posted by : Surgery , Date : 2004-11-06 , Time : 19:24:10 , From IP : 172.29.7.204

ความคิดเห็นที่ : 6


   สิ่งนี้ไม่ใช่ผมคิดครับ ผมเป็นแค่ผู้สื่อข่าวของ block ว่าเราจะมีการสอบนี้เท่านั้น เราสามารถจะอภิปรายเรื่องนี้ได้โดยไม่ต้องนึกถึงว่าใครเป็นคนคิดก็ได้ครับ ถ้าเราไว้วางใจทีมแพทยศาสตร์ศึกษาของคณะเรา ผมคิดว่าถ้าอภิปรายบนฐานว่านี่คือ idea ของผมอาจจะไม่ได้ constructive discussion เท่าไหร่นัก

คุณ surgery กรุณาขยายความสักนิดได้ไหมครับว่าทำไมการสอบแบบ open book จึงเข้าทำนองพ่อแม่รังแกฉัน เราจะได้มีเนื้อหาในการอภิปรายความคิดกัน

การเตรียมสอบ fluid electrolyte นั้น ที่บอกว่าให้นำเอาหนังสือเข้าไปได้ ให้อยู่ในวิจารณญานของผู้สอบครับว่าเอาเล่มไหนไป แค่ไหนพอ ดีที่สุดน่าจะเป็น short note ของตนเองหลังจากที่อ่านหนังสือ อ่าน lecture note และที่ตรงที่สุดก็คือการบ้านที่ให้ไปประเมินสารน้ำผู้ป่วยที่แจกให้รับกันนั่นก็พอแล้วครับ ส่วนที่ใครจะหิ้ว textbook เข้าไปเพื่อทำข้อสอบครึ่งชั่วโมงนั้นอาจจะได้ไม่เท่าเสีย (เวลา)

การสอบแบบ open book นั้นมีหลักการกว้างๆในการเลือกและการทำอยู่บ้าง ผมไม่ใช่ expert แต่ขอแสดงความเห็นเล็กๆตรงนี้ ใครเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างไร เราอาจจะเชิญท่านผู้รู้ หรือกรรมการ block มาช่วยตอบคำถามต่อไปก็แล้วกันนะครับ ในบรรดา cognitive knowledge เบื้องต้นคือ memory (recall) แทรกซึมลึกไปเรื่อยๆจนถึงวิเคราะห์ สังเคราะห์ ปฏิรูป ปฏิบัติดัดแปลง สิ่งที่เราต้องการให้เกิดขึ้นคือการนำเอาบริบทจริงมาบูรณาการกับทฤษฎี และใช้ในลักษณะที่เราใช้ประโยชน์จริงๆ

ในทางปฏิบัติสูตร สมการ ค่าคงที่ ค่ามาตรฐาน ฯลฯ บ้างก็พิมพ์ลงในใบรายงาน บ้างก้อยู่ใน chart ใกล้ตัว หรือหนังสือคู่มือ ในชีวิตจริงเราไม่ต้องบรรจุความจำทั้งหมดเพื่อใช้งานของทำนองนี้ แต่เราจะรวบรวมข้อมูลที่ relevant จากเวชระเบียนผู้ป่วย คัดบางส่วนที่เกี่ยวข้อง เสร็จแล้วก็ "คิด" แล้วจึงสั่ง order อันไหนไม่ได้พบบ่อย อันไหนไม่มั่นใจก็เปิดหนังสือ เปิดคู่มือดู (ในสถานการณ์จริงเราก็ไม่ได้ถึงกับเปิด textbook หรอกนะครับ อย่างมากก็ pocket bok หรือ PDAซะด้วยซ้ำ) ที่เราจะทดสอบว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ตรงจะดึงข้อมูลที่มีมาใช้จริงมากกว่า

ดังนั้นลักษณะการสอบแบบ Open book นี่ อาจจะเป็นเวชระเบียนสักเล่มหนึ่ง มี admission note มี progress note มีใบ lab ต่างๆให้ แล้วใน นศพ. ประเมินภาวะสารน้ำผู้ป่วย ก็แค่นั้นครับ ไม่ได้ตื่นเต้น คอขาดบาดตาย และไม่คิดว่าการสอบแบบไหนๆจะเป็นการสร้างความขยันหรือพัฒนาความคิดหรอกครับ พวกนั้นอยู่ที่เจตคติก่อนหน้านี้ ไม่ได้อยู่ตอนจะประเมินลงกอง ถ้านักศึกษาไม่เข้าใจในเรื่องนั้นๆจริง มีข้อมลตรงหน้าก็ไม่ทราบว่าจะใช้อย่างไร ถ้าเข้าใจ และใครเคยทำการประเมินสารน้ำในคนไข้ตนเองสักสี่ห้าราย จะไม่ใช้หนังสือหรือเปิดคู่มือเลยก็ยังทำได้อยู่แล้ว การ open book จะตัดประเด็นที่ใครเกิดจำรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ จำค่าคงที่ จำอะไรไม่ได้ ซึ่งเราคิดว่ามันไม่ได้ตัดสินความรู้ที่เราต้องการ เราก็ให้อิสระที่จะเตรียม จะจัดหาตรงนี้ให้พอใจเอง เนื่องจากเราไม่ได้ประเมินว่าใครจะอยากจำ ไม่อยากจำตรงไหนบ้าง ก็ให้อิสระในการเตรียม Note กันเองเองครับ รายชื่อคู่มือและหนังสือ references มีไว้เรียบร้อยแล้ว

ผมอยากฟังเหตุผลและ elaboration ของคุณ surgery เพิ่มเติมครับ รายวิชานี้รับผิดชอบโดยผมกับ อ.มยุรี เราคิดว่าเราพร้อมที่ฟังการอภิปราย พร้อมเหตุผลอยู่แล้ว



Posted by : Phoenix , Date : 2004-11-06 , Time : 19:48:57 , From IP : 203.156.40.110

ความคิดเห็นที่ : 7


   สำหรับเรื่อง fluid & electrolyte นี่ เห็นด้วยกับ อ.phoenix นะครับที่จะให้มีการสอบแบบ open book เนื่องจากในชีวิตจริง ๆ เราก้อเปิดตำรากันอยู่แล้ว การทดสอบนี้เป็นการทดสอบความเข้าใจ มิใช่ทดสอบความจำ
ส่วนเรื่อง orthopedics นี่ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ครับ อาจเป็นเพราะว่ายังมองไม่ออกว่าจะออกข้อสอบมาอย่างไร ????
แต่ขอฝากนิดนึงนะครับ ข้อสอบแบบนี้ควรเปลี่ยนทุกกองทุกปีนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นเหมือนความเห็นข้างบนบอก คือเอาโพยข้อสอบไปลอกได้ ทีนี้การวัดผลก้อจะเสียเปล่าเหมือนกับไม่ได้วัดอะไรเลย......


Posted by : F#m , Date : 2004-11-06 , Time : 21:40:41 , From IP : 172.29.4.215

ความคิดเห็นที่ : 8


   ทาง orthopaedics แค่เปรยๆ ยังไม่แน่ (เท่าที่ทราบ) ว่าจะเริ่มรึยังในครั้งนี้ครับ

อย่างที่คุณ F#m แสดงความเห็น ผมเห็นด้วยว่าวิชาไหนก็ตามที่เราต้องการทดสอบ "ความเข้าใจ และการตีความนำเอา "ข้อมูล" มาใช้" ไม่ใช่การทดสอบความจำ วิธีนี้สามารถนำมาดัดแปลงกับการทดสอบอันนั้นได้ ซึ่งไปๆมาๆผมว่า cognitive ทุกวิชา เราไม่ได้ต้องการทดสอบ recall level กันทั้งนั้นแหละครับ เราอยากทดสอบอะไรที่มันมากกว่านั้น ยิ่งในทางปฏิบัติจริงเรายังต้อง consult คู่มือกันปกติอยู่แล้ว เพื่อตรวจทานความถูกต้องของพวกตัวเลข เราไม่ควรจะใช้การสอบที่ต้องใช้ความจำสิ่งเหล่านี้มาใช้ในการตอบคำถามเลย เพราะเป็นการเบี่ยงเบนจากสิ่งที่เราอยากรู้จริงๆ

ทาง Orthopaedics น่าจะมีไม่น้อยที่เน้นเรื่องความเข้าใจ ไม่เน้นเรื่องความจำในรายละเอียด ผมว่าในทีมกรรมการ block มีคนที่เข้าใจเบื้องหลังการเลือกใช้เครื่องมือทดสอบเหล่านี้อยู่ไม่น้อยนะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2004-11-06 , Time : 22:42:37 , From IP : l224ppp157.ksc.net.t

ความคิดเห็นที่ : 9


   ประเมิณผล ไม่สำคัญเท่าเอาไปใช้จริงได้ หรือไม่ และ ชีวิตจริง บางครั้ง pda ก็ไม่ได้ใช้ จ๊ะ ขึ้น กับนักศึกษา แล้วละครับ
แต่ถ้าจะมองว่า ควบคุมคุณภาพของนักศึกษาที่จบจากที่แห่งนี้ วีธีเดิมๆ เช่น ท่องจำ และ ความเข้าใจ ก็ มีประโยชน์
จำนวน หนังสือที่เอาเข้าไป หรือ textbook ไม่ได้สำคัญเลย


Posted by : ให้กำลังใจ , Date : 2004-11-07 , Time : 11:36:46 , From IP : 203.150.217.117

ความคิดเห็นที่ : 10


   ที่สุดแล้วที่เราต้องการเห็นสำหรับ session open-book ก็คือ นศพ.เลือกพกแค่ short memo-note อย่างที่เราอาจจะใช้ในชีวิตจริงแหละครับ

ข้อสอบ openbook นั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นการแข่งกันระหว่างใครหิ้วหนังสือเล่มโตกว่ากัน หรือเปิดตำราเร็วกว่าแล้วจะได้คะแนนมากกว่า ข้อสอบที่ดีสำหรับการสอบแบบนี้ก็คือ "ถ้า" คนไม่เข้าใจจริงๆ ต่อใหนั่งในห้องสมุด ให้เวลาวันหนึ่งทำก็ยังทำไม่ได้ ตอบไม่ถูก ตัวอย่างเช่น ข้อสอบ analysis epidemiology ของคณะเราฯที่ อ. Alan ออก (ขออนุญาตพาดพิงนะครับ) ถ้าไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้ว่าจะดึงข้อตรงไหนมาใช้ ต่อให้แบกหนังสือเข้าไปคนละตั้ง และให้เวลาทั้งวันก็ตาม

ฉะนั้นข้อสอบที่จะนำมาออกแบบ openbook จะไม่ใช่กลุ่มเดียวกับ MCQ คือการแข่งเปิดหนังสือหาคำตอบเร็ว ใครเร็วกว่าตอบได้มากกว่าแบบนั้น ในสายวิชาชีพอื่นจะเห็นสายคำนวณ เช่น วิศวะ สถาปัตย์ math statistics เขาใช้วิธีนี้กันหลายสิบปีแล้วครับ ข้อสอบ choice นั้นไม่ได้ตรวจสอบ "การใช้" โดยผู้สอบอบ่างแท้จริง ข้อสอบ MEQ อาจจะเหมือนกับข้อสอบ openbook ก็ได้หากเพิ่มข้อมูล recall ทั้งหมดให้ประกอบ แต่ข้อสอบ MEQ สามารถทดสอบทั้งความเข้าใจ และ recall ในเวลาเดียวกัน ต่างจาก opnebook ที่ทดสอบแต่ความเข้าใจและการนำไปใช้อย่างเดียวเท่านั้น



Posted by : Phoenix , Date : 2004-11-07 , Time : 12:12:45 , From IP : 203.156.41.129

ความคิดเห็นที่ : 11


   แล้วของ block อื่นๆละครับ




Posted by : ArLim , Date : 2004-11-09 , Time : 05:55:52 , From IP : ppp-203.144.143.165.

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<