ความคิดเห็นทั้งหมด : 2

เธอ..เส้นผมที่มองไม่เห็น


   เรื่อง: เธอ..เส้นผมที่มองไม่เห็น
ที่มา: สายลมทะเล


"หนา" ไม่ได้จัดว่าหน้าตาดีหรือน่ารักไปกว่าผู้หญิงทั่วไปที่ผมรู้จัก
ออกจะธรรมดาๆ เสียด้วยซ้ำ

...ยังจำได้ว่า เราเจอกันในเย็นวันที่ฝนตกหนัก
ผมกำลังขับรถกลับบ้านต่างจังหวัด
เห็นเธอเดินตากสายฝนที่ตกมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ข้างหน้าไม่มีแม้ที่ให้หลบฝน กว่าจะถึงปั๊มถัดไปก็หลายกิโลอยู่
..ผมจอดรถเทียบข้างตัวเธอ “ขึ้นรถซิครับ”
โดยไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ เธอมุดเข้ามานั่ง
กระชับแขนสองข้างแล้วก็ซุกตัวของเธอเงียบๆ
“จะไปไหนครับ ” เธอไม่ตอบ
..ร่างเธอสั่นน้อยๆ ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่แค่เพียงสายฝนที่เปียกโชกตัวเธอ
..ไม่มากก็น้อย ก็คงมีน้ำตาผสมอยู่บ้าง ...ผมไม่ได้ถามเธออีก

“พี่จะไปลพบุรี เราจะลงที่ไหนก็บอกนะ”
เธอยังคงนิ่งเฉย ..ผมจึงปล่อยให้เธอคิดอะไรของเธอไปตามลำพัง
แม้อยากจะชวนคุยให้เธอรู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่เจ้านิสัยไม่ชอบถาม
กับอัธยาศัยชั้นเลวยังคงชนะและทำให้ผมนั่งบื้ออยู่ต่อไป

“ไปอาบน้ำซ่ะ” ผมโยนผ้าขนหนูและเสื้อผ้าเก่าๆ สมัยเรียนหนังสือของผม
ที่เล็กจนผมใส่ไม่ได้แล้วให้เธอ เธอไม่ได้อิดออด ไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย

สักพักเธอก็กลับมา ..ผมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่
..เสื้อผ้าผมมันยังคงใหญ่รุ่มร่ามสำหรับเธอ แต่ดูไปดูมาก็น่ารักดี..

ผมไม่ใช่ผู้ชายใจดี และออกจะชาเย็นอยู่บ้าง
“นอนข้างล่างแล้วกันนะเรา เอ้า นี่ที่นอน ปูเอาเองนะ มีอะไรก็ขึ้นไปเรียกแล้วกัน”
ผมทิ้งเธอไว้ตามลำพังอีกครั้ง และขึ้นไปทำงานของผม

อาจเพราะขับรถท่ามกลางสายฝนมานาน
ความเพลียเลยทำให้ผมเผลอง่วงหลับคาโต๊ะหนังสือ
แต่ก็ไม่ทันได้หลับสนิท เสียงเคาะประตูก็ทำลายภวังค์ความเงียบขึ้นมา
...เธอไม่ได้สบตาผมเช่นเคย ผมพยายามคิดหาเหตุผลว่า
ทำไมผมถึงควรให้เธอเข้ามานอนด้วย
...เธออาจกลัวความมืด หรืออาจรู้สึกแปลกที่
หรืออาจเพราะ...อะไรอีกร้อยแปด หรือผมกลัวเธอจะคิดอะไรสั้นๆ
ผมตอบไม่ได้... แต่ผมก็ให้เธอเข้ามา

เธอขดตัวนอนข้างๆ เตียงผม... แล้วก็หลับไปในความเงียบ
ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้ามืด เธอยังคงหลับอยู่
ขอบตาสองข้างยังมีคราบน้ำตาแห้งๆ ให้สังเกตเห็นได้
ผมลุกขึ้นจากเตียงเบาๆ อาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน
...ทิ้งเธอไว้กับอาหารในตู้เย็นเพียงลำพัง

สามคืนแล้วที่ฝนยังคงตกอยู่จนเกือบเช้า
และก็สามคืนแล้วเช่นกัน ที่เธอนอนร้องไห้เงียบๆ อยู่ในความมืด
...แต่คืนนี้ต่างไปจากทุกคืน ผมลุกจากเตียงทรุดตัวลงนอนข้างเธอ
และกอดเธอเบาๆ เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร...
ผมหลับไปทั้งกอดเธออย่างนั้น

เธอกินอยู่ง่ายๆ ไม่เคยเรียกร้องอะไร ผมกินอะไรเธอก็กินเหมือนๆ ผม
...นานๆ ครั้งผมก็พาเธอไปเดินหาซื้อของบ้าง
ถามว่าอยากได้อะไร เธอก็ดูจะไม่ต้องการไปเสียหมด
...แต่ในสิ่งที่ผมซื้อให้ ดูเธอจะดีใจ
และทะนุถนอมมันราวกับเธอจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีก

ถึงเธอจะอยู่กับผม แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกรักหรือผูกพันอะไรเป็นพิเศษ
ซึ่งเธอเองก็คงจะรู้ และดูเหมือนเธอจะเข้าใจและก็อยู่กับสถานะนั้นอย่างเงียบๆ ได้
...ผมไม่เคยพาเธอออกงานที่ไหน ไม่เคยแนะนำให้ใครรู้จัก
รวมถึงทุกครั้งที่ผมออกไปเที่ยวกับพี่ๆ น้องๆ ผมก็ทิ้งเธอไว้กับบ้านและอาหารในตู้เย็น
แต่...ไม่ว่าผมจะกลับมาดึกแค่ไหน เธอก็จะยังคงรออยู่
..ทุกครั้งเธอจะยิ้มและกอดผมอย่างมีความสุขโดยที่ผมรู้สึกได้ว่าเธอไม่ได้ฝืนทำ
...เธอไม่เคยตั้งคำถามกับผม เช่นเดียวกับที่ผมไม่เคยถามอะไรเธอ...

มีบ้างบางครั้ง ที่ผมพาเธอเดินเล่นตอนเย็นๆ ซึ่งก็ไม่ได้บ่อยอะไร
เพราะกว่าผมจะกลับจากที่ทำงานก็เย็นมากแล้ว
...มีสระน้ำเล็กๆ ไม่ไกลจากบ้านผมนัก
วันไหนที่พอมีเวลาผมก็พาเธอมาเล่นเรือใบลำจิ๋วริมสระน้ำ
เธอวิ่งไปทางโน้นทีทางนี้ทีราวกับเด็กๆ
...ดูเธอมีความสุข ผมได้แต่นั่งมองเธอเงียบๆ...

“หนา” “เรียกหนาแล้วกัน” นั่นเป็นชื่อที่เธอให้ผมเรียก ...
“หนา เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพี่จะไปราชการต่างจังหวัดเดือนนึง
ช่วงพี่ไม่อยู่จะเอาอะไรไหม” เธอสั่นหัวเป็นคำตอบ
จริงๆ ผมก็ไปราชการต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ แต่ทุกครั้งก็ไปแค่สองสามวัน
แต่ครั้งนี้ไปนานถึงเดือนนึง ผมเองไม่ได้ห่วงอะไรเธอมากนัก
ออกจะตื่นเต้นที่จะได้ไปเจอสาวๆ ต่างถิ่นเสียด้วยซ้ำ
...ก่อนเดินทาง ผมซื้อของใส่ตู้เย็นไว้จนเต็ม
และทิ้งเงินฝากไว้กับรุ่นน้องที่สนิทกันว่าให้แวะมาดูหน่อย
เผื่อขาดเหลืออะไรก็รบกวนช่วยซื้อให้ด้วย
เพราะผมรู้ดีว่าเธอไม่มีทางจะออกไปไหน
เธอกินเท่าที่มี...ไม่เคยให้ผมต้องลำบากเลยด้วยซ้ำ
...แต่ผมก็ไม่เคยนึกถึงเธอ

ไปราชการคราวนี้ ผิดไปจากทุกครั้ง...
เราต้องไปสนับสนุนหน่วยอื่นในพื้นที่ป่าภูเขา
ต้องนอนเต็นท์ และหุงหาอาหารกินกันแค่พออยู่ได้
จะอาบน้ำแต่ละครั้งต้องเดินไปสามสี่กิโล
เราจึงอาบกันแค่หลังเลิกงาน..วันละครั้ง
งานไม่ได้ก้าวหน้าอย่างที่คิด พายุและอุทกภัยทำให้เราทำงานกันอย่างยากเย็น
..เดือนนึงผ่านไปแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าเราจะได้กลับบ้าน
...ผมเลิกโกนหนวดหลังจากที่พยายามโกนอยู่ทุกๆ สามวัน
..ปล่อยให้มันขึ้นและดูรกตาไปตามธรรมชาติ และก็เลิกนับวันรอ..
ในใจเริ่มรู้สึกเป็นห่วงหนา ไม่รู้เธอจะเป็นไงบ้าง
แม้ว่าจะฝากข่าวไปทางวิทยุกับน้องที่สนิทกันแล้ว
...แต่ผมก็ยังรู้สึกเป็นห่วงเธอบอกไม่ถูก

ลูกน้องแต่ละคนกระสับกระส่าย และเริ่มหงุดหงิด
แต่เราก็พยายามดูๆ และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน...
ผมไม่มีเวลาจะห่วงตัวเองมากนัก ได้แต่พยายามทำให้งานลุล่วงไปโดยเร็วที่สุด
และพยายามแก้ปัญหาลูกน้องที่ทะเลาะกัน
เพราะเรื่องเล็กๆ พูดจาไม่เข้าหูกันซึ่งชักเกิดขึ้นบ่อยทุกทีๆ
...หลายเรื่องที่รุมเร้าและอาจจะมีความเหงาปนอยู่บ้าง “หนา คิดถึงเธอจัง”

กลับไปคราวนี้ พี่จะดีกับเธอมากๆ ...แม้จะตอบไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่
แต่ตอนนี้พี่รู้ตัวว่า...ความรัก..มันได้ก่อตัวขึ้นแล้ว

สัญญา...กลับไปคราวนี้ มื้อแรกที่เธอจะได้ทาน
จะไม่ใช่อาหารที่พี่ชอบกินเหมือนอย่างทุกวัน
แต่จะเป็นอาหารที่เธอควรจะได้กินมานานแล้ว...อัลโป้...อาหารสำหรับเธอ


ปล.เรื่องนี้อุทิศให้กับหมาหลงทางทุกๆ ตัว ฮ่า งงล่ะซี้


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2004-10-31 , Time : 20:10:07 , From IP : 172.29.4.135

ความคิดเห็นที่ : 1


   หักมุมได้เยี่ยมยอด

Posted by : tikah , Date : 2004-10-31 , Time : 23:11:41 , From IP : 172.29.7.225

ความคิดเห็นที่ : 2


   รู้ได้ไงว่าเราชอบกินอัลโป้ เราชอบกิน KFC ตะหากเฟ้ย

Posted by : ไม่บอก , Date : 2004-11-01 , Time : 03:21:52 , From IP : 172.29.1.192

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<