ความคิดเห็นทั้งหมด : 48

ความบริสุทธิ์เป็นจริยธรรมมั้ยคะ


   ตอนบ่ายวันธรรมดาไม่ใช่เวลาที่เคยเฝ้าดูโทรทัศน์เลย แต่อังคารที่ผ่านมา ระหว่างคอยติดตามงาน มือก็เปิดทีวี ไล่ไปทุกสถานี ตั้งแต่ช่อง 8 ถึง 1 คือช่อง 3

พบรายการที่น้องชายคุณ ไตรภพ ลิมปพัทธ์ เป็นพิธีกร (เสียมารยาทหน่อยที่จำชื่อไม้ได้ แต่ขอแก้ตัวนิดว่าไม่ใช่นักดูทีวี อยู่แล้ว) กำลังถามคุณ พล ตัณฑเสถียร (จำได้เพราะเป็นพระเอกและเห็นหน้าบ่อยกว่า)

ขึ้นต้นลงท้ายเป็นรายการอะไรไม่รู้ แต่ถามว่า ที่ผู้ชายอยากแต่งงานกับหญิงพรหมจารี อาจเป็นเพราะผู้หญิงมีจำนวนมากกว่าชายหรือเปล่า (ชายจึงมีโอกาสที่ปรารถนาอย่างนั้นได้)

คุณพลใช้ความคิดและพยายามตอบ มีอยู่ประโยคหนึ่งบอกว่า ผู้ชายต้องการสิ่งที่ดีที่สุด

ได้ยินอย่างนั้นเลยปิดโทรทัศน์ ก็คงผิดในแง่วิพากษ์วิจารณ์ หากฟังเขาไม่ครบถ้วนกระบวนความแล้วมาให้ความเห็น ก็พอดีไม่ต้องการให้ความเห็นเรื่องรายการ หรือเรื่องใดอื่น อยากพูดแค่ประเด็นที่ว่า ถ้าผู้ชายคิดว่าพรหมจารีของผู้หญิง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด คือถ้าอยากแต่งงานก็อยากแต่งกับหญิงพรหมจารี เพราะมีสิ่งที่ดีที่สุดคือ ความบริสุทธิ์ทางกาย ที่ยังไม่สูญเสียไปให้ใครก่อนแล้วอย่างนั้น ส่วนอื่นๆ ของหญิงคนนั้น ไม่ว่าอุปนิสัยใจคอ กมลสันดาน บุคลิกลักษณะ ความคิดอ่าน ฯลฯ อันเป็นส่วนที่เกิดจากจิต ก็มิใช่สิ่งที่ดีที่สุดของหญิงคนนั้นเพราะถูกความสำคัญทางกายมานำหน้าเสียแล้ว

พูดอย่างนี้เหมือนกำปั้นทุบดิน ฟังดูเหมือนเถียงไม่ได้ แต่ที่จริงก็เถียงได้ เนื่องจากพิจารณาให้ถึงที่สุดแล้ว คนพูดอาจใช้คำผิด หรือไม่ได้คิดเกี่ยวกับคำให้ทะลุปรุโปร่ง เพราะคงไม่มีใครมุ่งเรื่องพรหมจารีเสียจนหูหนวกตาบอด กับเรื่องอื่นๆ ไปเสียทั้งหมด

ดังนั้น ในเรื่องนี้จึงมีประเด็นสำคัญให้พูดถึงสองเรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องรองคือเรื่องของภาษา เราไม่รู้จักภาษาของเราดีพอจะใช้สื่อสารความคิดได้ตามต้องการ
เรื่องหลังที่เป็นเรื่องหลักก็คือ เราคิดว่าพรหมจารีของหญิงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดจริงหรือ
ถ้าไม่ใช่อย่างที่กล่าวข้างต้น เราอยากใช้คำเกี่ยวกับพรหมจารีว่าอย่างไร

เรารักผู้หญิงคนหนึ่งตรงที่ยังเหลือเยื่อพรหมจารีหรือ
หรือเป็นหญิงที่ไม่เคยผ่านความรักผ่านผู้ชายมาก็ดีหน่อย แต่ถึงจะเคยผ่านมาแล้ว ถ้าจะรักก็ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ หรือเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในความสนใจมาแต่แรก ที่ไม่อยู่ในความสนใจเป็นเพราะยุคสมัยนี้มัวคิดถึงพรหมจารีก็คงประสาท หรือไม่เห็นสำคัญอะไรเลยมาแต่แรก ไม่มียุคสมัยมาเกี่ยวข้องกับความคิดเลย หรือที่จริงมีเหตุผลเกี่ยวเนื่องประกอบกัน เป็นแต่ใช้เหตุผลในด้านสร้างสรรค์

ลองคิดทบทวนสองสามตลบ ถามตัวเองอีกทีดีๆ เพราะถ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้ ก็คงยากที่จะเข้าใจเรื่องราวที่ต้องการการยอมรับ จากใจคอที่กว้างขวาง เรื่องอื่นๆ

ข้อมูลจาก
หนังสือพิมพ์มติชน


Posted by : . , Date : 2003-04-30 , Time : 01:35:12 , From IP : 203.107.210.112

ความคิดเห็นที่ : 1


   คำถามในรายงานเป็นคำถามที่น่าสนใจ และคำตอบนั้นค่อนข้างเขลา

คำถามนั้นน่าสนใจเพราะผมสงสัยว่าพรหมจารีเป็น factor สำคัญที่ผู้ชายส่วนใหญ่พิจารณาเพื่อแต่งงานจริงหรือไม่ และอีกประการหนึ่งคือ "ควร" จะเป็นหรือไม่ ส่วนคำตอบที่ผมว่าค่อนข้างเขลานั้นเป็นเพราะพิธีกรได้ commit ตัวเองตอบ yes ทั้งสองประเด็นไปเรียบร้อยโดยมีข้อมูลที่ไม่เพียงพอสำหรับประเด็นที่หนึ่ง และ make judgement of value ในประเด็นที่สองโดยง่ายดาย

ถ้าค่านิยมที่ว่าเป็นความจริง ผู้ชายสามารถมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานแล้วจะต้อง demote คนรัก (หรือคู่นอน) ลงไปไม่ต่างจากผู้หญิงเกรดสองทันทีเพราะว่าเธอไม่ "ดีที่สุด" อีกต่อไปแล้ว (โดยฝีมือตนเอง) แต่ที่สำคัญมากที่สุดคืออะไรคือนิยามของผู้หญิง "ดี"สำหรับการที่จะแต่งงานด้วย

การแต่งงานนั้นผู้หญิงจะสูญเสียพรหมจรรย์ (ส่นใหญ่ก็แล้วกันนะครับ) ถ้าหากผู้หญิงคนนี้หย่าหรือสามีตาย ผู้หญิงคนนี้จะสูญเสียความ "ดีที่สุด" ไปเพราะพรหมจรรย์หรือไม่?

รวมทั้งพรหมจรรย์ที่เสียไปโดยกำลัง (ถูกข่มขืนเป็นต้น) เป็นการสูญเสียพรหมจรรย์หรือไม่? อาจจะเสียในแง่ physical แต่ผมว่าโดย mental and moral เธอยังไม่ได้สูญเสียไปหากเธอสามารถรวบรวมจิตใจและปรับตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ จริยธรรมนั้นผมว่า relate กับจิตใจมากกว่าร่างกาย



Posted by : Phoenix , Date : 2003-04-30 , Time : 11:02:49 , From IP : 172.29.3.160

ความคิดเห็นที่ : 2


   เหอ ๆ คิดมาก

Posted by : เหอ ๆ , Date : 2003-04-30 , Time : 14:56:21 , From IP : 203.130.145.55

ความคิดเห็นที่ : 3


   แปลว่า
1.สำหรับตัว Phoenix เองถือว่าการเสียความบริสุทธิ์ไม่ใช่ความผิดทางจริยธรรม
อย่างนั้นใช่มั้ยคะ
2.แล้วภรรยาของ Phoenixจำเป็นต้องบริสุทธิ์หรือเปล่าคะ


Posted by : กำลังรอkantมาตอบอีกคน , Date : 2003-04-30 , Time : 17:07:03 , From IP : 203.107.194.71

ความคิดเห็นที่ : 4


   คำถามที่หนึ่ง
ถ้าอ่านที่ผมเขียนดีๆแล้วจะเห็นว่าผม raise question ว่านิยามของการสูญเสียพรหมจรรย์นั้นคืออะไร และผมขยายความต่อไปว่าอาจจะเป็น physical กับ mental/moral ได้หรือไม่ การที่ผมโยนลงเป็นคำถามนั้นเพราะผมคิดว่า frame of mind and reference นั้นแต่ละคนน่าจะต่างกัน ตัวผมเองไม่เคยคิดที่จะตั้งนิยามเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้หรอกนะครับ ไม่ได้อยู่ใน to-do list
ที่นี้คำถามที่ว่า สำหรับตัว Phoenix เองถือว่าการเสียความบริสุทธิ์ไม่ใช่ความผิดทางจริยธรรม อย่างนั้นใช่มั้ยคะ นั้นยังไม่ชัดเจนนะครับ ว่าหมายถึงทั้งผู้หญิงผู้ชาย และเสียความบริสุทธิ์ในบริบทอย่างไร ซึ่งผมว่าอาจจะมีนัยสำคัญต่อ original question เพราะว่า frame ของคำถามตั้งต้น (ในรายการ) ดูเหมือนเป็นคำถามในสังคมที่มี discrimination of sex อยู่มากพอประมาณ ผมจะตอบเป็นตัวอย่างก่อนก็แล้วกันนะครับ ถ้าไม่ตรงก็ช่วยชี้แนะหรือถามให้จำเพาะกว่าเดิม
การเสียความบริสุทธิ์ ไม่เป็นความผิดทางจริยธรรมอย่างแน่นอน นอกจากคุณจะเชื่อว่าเพศสัมพันธ์นั้นเป็น immoral มิฉะนั้นแล้วคู่สามีภรรยาใหม่ (ที่สดจริงๆ) ก็จะทำพิธีการผิดจริยธรรมแกันทุกๆคู่ ก็แปลกดีครับ

คำถามที่สอง"แล้วภรรยาของ Phoenixจำเป็นต้องบริสุทธิ์หรือเปล่าคะ"
โดยทั่วๆไปการ debate ในที่ public นั้น เวลาอภิปรายจริยธรรมจะไม่มีการเอาชื่อหรือบุคคลมาวางบนโต๊ะนะครับ เป็นมารยาทอย่างหนึ่งที่ผมคาดว่าทุกครนควรจะรับทราบ อย่างไรก็ดีผมก็ขอตอบก็แล้วกันว่าไม่จำเป็นครับ การที่ผมจะแต่งงานกับผู้หญิงสักคนหนึ่ง นั่นแปลว่าผม OK กับทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตและในปัจจุบัน และพิจารณาแล้วว่าเธอเป็นคนที่มีค่าและผมรัก เหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกผม และผมต้องการดูแลเธอมีทุกข์สุขร่วมกับเธอ กระบวนการนี้ผมไม่ได้ classify veriginity เป็น factor ครับ แล้วตัวคนถามล่ะครับ พอจะ share ข้อมูลในที่สาธารณะหรือไม่? (ไหนๆเราก็ละเมิดมารยาทกันแล้ว มาเน้น academic กันก็ดีครับ)



Posted by : Phoenix , Date : 2003-04-30 , Time : 17:41:26 , From IP : 172.29.3.160

ความคิดเห็นที่ : 5


   ขอบคุณคะ
ถามใหม่นะคะการเสียความบริสุทธิ์ ก่อนการสู่ขอ หรือไปอำเภอเพื่อจดทะเบียนสมรส หรือจัดงานเพื่อประกาศว่าจะเป็นสามีภรรยาให้คนอื่นรับรู้ ผิดมั้ยคะ


Posted by : . , Date : 2003-04-30 , Time : 17:58:34 , From IP : 203.107.194.71

ความคิดเห็นที่ : 6


    ผมขอนุญาติแสดงความคิดเห็นครับ ไม่ทราบว่าจะใช้ชื่ออะไรแทนผู้ตั้งกระทู้ครับ ผมคิดว่ามีอยู่ 2-3 ประเด็นครับ ประเด็นแรกอยู่ที่ความใคร่ (ขออภัยด้วยถ้าใช้คำรุนแรงหรือไม่เหมาะสม) ผมหมายถึงการที่คนสองคนมี ... ซึ่งอาจจะมีความรักหรือไม่ก็ได้ ผมไม่สามารถตอบได้หรอกครับว่าผิดหรือถูก เพราะมันขึ้นอยู่กับนิยามของความถูกผิดของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามหากสิ่งที่กระทำลงไปไม่ได้เป็นผลเสียต่อตัวเอง สังคม หรือคนรอบข้าง มันก็อาจจะไม่ผิดใช่มั๊ยครับ ในทางกลับกันก็อาจเป็นสิ่งผิดในบางสถานการณ์ก็ได้ ผมไม่ได้มีเจตนาจะตอบว่าการเสียพรหมจรรย์หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้แต่งงานเป็นสิ่งดีหรือไม่ดี เนื่องจากการแต่งงานไม่ใช่คำตอบของชีวิตครับดังจะเห็นได้จากในสื่อต่างๆ ว่าก่อนแต่งก็ดูรักกันดี แต่พอแต่งได้ไม่นานก็เลิกกัน ประเด็นที่สองก็คือความรัก ความเข้าใจ ผมคิดว่าสำคัญครับเพราะสิ่งนี้จะทำให้ชีวิตคู่ยั่งยืน ผมก็ไม่ได้หมายความว่าการมีชีวิตคู่ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์นะครับ (เนื่องจากเราเป็นปุถุชนย่อมมีกิเลสครับ) ประเด็นที่สามหากคนสองคนมีความเข้าใจกัน มีความรัก หรืออาจรวมถึงมีเพศสัมพันธ์ด้วย ไม่ทราบว่าดีหรือไม่ครับ ผมคิดว่าจริยธรรมในบางครั้งอาจไม่คำว่าถูกหรือผิดครับ มันคงไม่ได้อยู่ที่อะไรคือถูก อะไรคือผิดหรอกครับ มันอยู่ที่เหตุผลของการกระทำมากกว่า อย่างที่ผมได้กล่าวไว้แล้วครับ ในบางสถานการณ์อาจทำให้บางสิ่งถูกหรือผิดได้ ผมอาจไม่ได้ตอบคำถามของผู้ตั้งกระทู้นะครับ (ขอโทษด้วยครับ ไม่รู้จะใชชื่ออะไรดี) เนื่องจากอาจเป็นได้ทั้งสองทางครับ

Posted by : free bird , Date : 2003-04-30 , Time : 18:35:05 , From IP : 172.29.1.195

ความคิดเห็นที่ : 7


   แล้วเหตุใดผู้หญิง(ส่วนใหญ่)จึงไม่คิดจะคัดเลือกผู้ชายที่บริสุทธิ์มาแต่งงานด้วยบ้าง?



Posted by : phobee , Date : 2003-04-30 , Time : 19:22:49 , From IP : 172.29.2.166

ความคิดเห็นที่ : 8


   
"โดยทั่วๆไปการ debate ในที่ public นั้น เวลาอภิปรายจริยธรรมจะไม่มีการเอาชื่อหรือบุคคลมาวางบนโต๊ะนะครับ เป็นมารยาทอย่างหนึ่งที่ผมคาดว่าทุกคนควรจะรับทราบ"

น่าจะเป็นชื่อบุคคลที่สามแต่นี่เค้ากำลังถามคุณมันไม่สุภาพตรงไหนไม่ทราบจริงว่าใครเป็นคนตั้งกฎ
แล้วมันจำเป็นต้องเชื่อเค้าด้วยเหรอ
หรือว่าคุณไม่อยากตอบ
เป็นเพราะคุณไม่มั่นใจในคำตอบหรือเปล่า
หรือว่ากลัวว่าชื่อคุณจะเสื่อม มันเป็นนามแฝงอยู่แล้วนี่
หรือว่าเพราะที่ผ่านมาแต่ละกระทู้
คุณมักจะตอบเป็นประเด็นกว้างๆ
อุดมไปด้วยสิ่งที่น่าจะเป็นและควรจะเป็นตามหลักการ
แต่ไม่เลือก
พอเจอคำถามที่ต้องเลือกก็เลยอึดอัด

ชอบไอเดียของmercuryนะ
" สำหรับผมกระดานนี้คือกระดานอภิปรายเพราะงั้น เราควรจะมีอิสระที่จะคิดที่จะนำเสนอ โดยวิธีการของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องมาขีดคั่นให้แต่ละคนต้องคิดอย่างเดียวกันหมดไปทุกอย่าง ."

ขอโทษที่นอกเรื่อง



Posted by : ขอโทษจริงๆ , Date : 2003-04-30 , Time : 19:33:26 , From IP : 203.107.201.82

ความคิดเห็นที่ : 9


   ย้อนกลับไปหลายกระทู้ตอนที่เรายังตั้งคำถามกันว่ากระดานอภิปรายให้อะไรแก่เรา และเราควรจะอัปเปหิกระทู้ประเภทใดหรือความเห็นอย่างไหนออกไปจากกระดาน ใครที่ตามเรียนกับกระดานนี้มาจนเป็นแฟนพันธุ์แท้คงจำได้ว่า ทุกครั้งทุกคราที่เรามาใช้ที่นี่เป็นที่ถกเถียง วิเคราะห์วิจารณ์ปัญหา เราถือประโยชน์ของกระดานอย่างหนึ่งที่ว่า เราไม่จำเป็นต้องรู้จักกันโดยส่วนตน ไม่จำเป็นต้องสนใจในฐานะหรือเพศของผู้อภิปราย เพื่อให้การแสดงความเห็นเป็นไปอย่างเสรีและมีประโยชน์ พี่นกไฟเป็นคนหนึ่งที่เอ็นดูและอยู่กับกระดานมานานจนผมเชื่อว่า Phoenix ตั้งความหวังอะไรบางอย่างกับกระดานนี้ ไม่ว่าจะด้วยจริตความเป็นอาจารย์ เป็นกัลยานมิตรหรือแกนึกครึ้มใจอะไร เราไม่อาจล่วงรู้ แต่อาจรู้สึกสำนึกรัก
ความรู้สึกของผมที่อยากกล่าวอย่างตรงไปตรงมาก็คือการไปตั้งคำถามซึ่งเกี่ยวพันกับคนใกล้ชิดของผู้ร่วมอภิปรายและคั้นให้ตอบอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นการไม่ให้เกียรติกันอย่างรุนแรง ไม่มีใครเขียนไว้หรอกครับว่าห้ามเอ่ยถึงชื่อใคร หรือ ห้ามเขียนอะไร แต่หากเรารู้ธรรมเนียมกันดีพอและคาดหวังร่วมกันว่าการตั้งวงคุยกันแบบนี้จะคงอยู่ต่อไปได้ รักษาน้ำใจและให้เกียรติกันสิครับ
ไม่เฉพาะในโลกไซเบอร์ ในชีวิตจริงก็ตามเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าการกระทำ ความคิด คำพูดของเรา จะบั่นทอน dignaty ของผู้อื่นแล้วละก็ หยุดเถอะครับ

เรื่องความบริสุทธิ์ ขอไปคิดก่อนแล้วจะลองมาตอบบ้าง
แค่คิดก็สยิวแล้วอะ

พี่ว่าว


Posted by : พี่ว่าว , Date : 2003-04-30 , Time : 20:43:56 , From IP : 133.1.67.161

ความคิดเห็นที่ : 10


   เพราะเหตุที่ผมยึดอุดมคติ

ผมเชื่อว่าอุดมคตินั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องพยายามยึดถือ

แต่ความตั้งใจของผู้สอนอุดมคติ กับตัวของผู้สอนอุดมคตินี่เป็นคนละเรื่องกัน

หากสิ่งที่สอนเป็นเรื่องดี คุณก็พิสูจน์ด้วยตนเองได้ คุณปฏิบัติตามคุณก็ได้รับผลดี

คุณไม่มีสิทธิไปเอาลักษณะส่วนตัวของผู้สอนมาเป็นข้ออ้างที่จะไม่รับฟังเหตุผล

เขาจะเป็นอย่างไรก็เรื่องของเขา คุณไม่มีสิทธิไปตัดสินเขา



Posted by : Immanuel Kant , Date : 2003-04-30 , Time : 22:07:11 , From IP : 172.29.2.171

ความคิดเห็นที่ : 11


   เข้าประเด็นเลย -

คุณรักแบบไหนกันครับ แบบกามารมณ์หรือแบบเมตตา

แบบกามารมณ์นั้นคุณไม่ต้องพูดถึงเรื่องดีหรอก คุณจะไปมีกามารมณ์กับใครหรืออะไรก็ตามแม้แต่สัตว์หรือสิ่งของมันก็"ไม่ดี"หรือ"เลว"เท่ากันหมด

ถ้ารักแบบเมตตา คุณรักได้เท่ากันทั้งหมดครับไม่ว่าสัตว์สิ่งของหรือแม้แต่ศัตรูของคุณเอง

ความพยายามที่จะหา"สิ่งที่ดีที่สุด" อย่างที่ดาราเขาว่า มันเป็นความยึดถือหรือสำคัญมั่นหมายไปเอง ให้คุณหลงตัวเองเล่นๆว่า "คุณได้ครอบครองทรัพย์สินก่อนคนอื่น คือได้ของใหม่"นั่นเอง

ในทางปรัชญาถ้าพูดตามทัศนะของค้าน มีเพียงสิ่งเดียวที่จะมีค่าในตัวเอง(intrinsic value) นั่นคือ ความดี หรือ หน้าที่ ครับ

ถ้าคุณคิดดี " ทุกสิ่ง" ก็ดีหมด ไม่ต้องไปสัมพัทธ์หรือไปยึดเอาตัวตนภายนอกหรอกครับ



Posted by : Immanuel Kant , Date : 2003-04-30 , Time : 22:17:46 , From IP : 172.29.2.171

ความคิดเห็นที่ : 12


   ถ้าถามคำถามเดียวกันที่ถามphoenix
กับคุณว่าว และ kant จะกล้าตอบตรงๆมั้ยละ

หรือว่า ผู้ชายทั้งโลกไม่กล้า?


Posted by : ผู้หญิง , Date : 2003-04-30 , Time : 22:31:07 , From IP : 203.107.200.111

ความคิดเห็นที่ : 13


   ถ้าคุณถามผม ผมจะไม่ตอบอะไรทั้งนั้น




ผมจะบอกได้แต่อุดมคติและเหตุผลอ้างอิง

ผมจะไม่บอกให้ใครมาเอาผมเป็นตัวอย่าง

ไม่มีประโยชน์ที่ใครจะมารู้เรื่องของผม

ถ้าผมยังไม่ดีพร้อมเหมือนที่พูดไว้ก็เป็นหน้าที่ของผมที่ต้องแก้ไขตัวเองต่อไป



Posted by : Immanuel Kant , Date : 2003-04-30 , Time : 22:40:18 , From IP : 172.29.2.171

ความคิดเห็นที่ : 14


   ผมบอกได้ว่าคุณกำลังใช้เหตุผลวิบัติอยู่หลายประการ

1.อ้างสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้ว่าใจจริงผมเป็นอย่างไร

2.ตั้งคำถามซ้อน เพราะในคำถามคุณกำลังตีความโดยทางอ้อมว่ากลัวใจตัวเอง และผู้ชายเลวทุกคน

3.สรุปเหมารวม เพราะคุณสรุปเหมารวมผู้ชายทุกคน ซึ่งผมอยากถามคุณว่า คุณรู้จักกับผู้ชายทุกคนแล้วหรือ





Posted by : Immanuel Kant , Date : 2003-04-30 , Time : 23:06:46 , From IP : 172.29.2.90

ความคิดเห็นที่ : 15


   Hmm น่าสนใจครับ แต่ยังเรียบเรียงความคิดไม่ได้ครับ ช่วงนี้ค่อนข้างกระเจิง ขอเวลาสักหน่อยครับ

Posted by : Mercury , Date : 2003-04-30 , Time : 23:18:43 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 16


   ตอบข้อหนึ่งก่อนน่ะครับ เรื่องการเสียความบริสุทธิ์เป็นการผิดจริยธรรมหรือไม่ ?
Hmm ก่อนอื่นข้อตีความคำว่า จริยธรรมก่อนนะครับ จริยธรรม คือแนวทาง ประพฤติปฏิบัติตนเพื่อการบรรลุถึงสภาพชีวิตอันทรงคุณค่าพึงประสงค์ โดยทั่วไปจริยธรรมมักอิงอยู่กับศาสนา ทั้งนี้เพราะคำสอนทางศาสนามีส่วนสร้างระบบ จริยธรรมให้สังคม แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจริยธรรมอิงอยู่กับหลักคำสอนทาง ศาสนาเพียงอย่างเดียว แท้ที่จริงจริยธรรมยังหยั่งรากอยู่บนวัฒนธรรมขนบ ธรรมเนียมประเพณี และโดยนัยนี้ บางท่านเรียกหลักแห่งความประพฤติอันเนื่องมาจากคำสอนทางศาสนาว่าศีลธรรม และเรียกหลักแห่งความ ประพฤติอันพัฒนามาจากแหล่งอื่นว่าจริยธรรม ที่นี้ผมไม่ทราบว่าคุณผู้ตั้งกระทู้ต้องการให้ผมเอาเกณฑ์ไหนมาวัดละครับ คือถ้าให้มองบนความเท่าเทียม ผมก็จะบอกว่าไม่ผิดครับ แต่ถ้าเป็นจริยธรรมที่อิงด้วยคำสอนทางศาสนา อันนี้คงต้องมามองกันที่เจตนาละครับว่า การที่ผู้หญิงเสียความบริสุทธิ์นี้เกิดจากอะไร ? เราก็คงต้องพิจารณากันไปตามเหตุนะครับ เช่นโดนข่มขื่นมันก็คงไม่ผิดจริยธรรมเพราะไม่ได้มีเจตนา แต่ถ้าเป็นไปเพือเสพรสแห่งกามารมณ์โดยเฉพาะรู้อยู่แกใจว่าอีกฝ่ายมีคู่อยู่แล้วอันนี้ก็ผิดแน่นอน (ผิดศีลข้อ 3) ในข้อนี้คำตอบที่ชัดเจนจึงไม่สามารถตอบได้นะครับเพราะว่ามันอยู่ที่แต่ละท่านจะใช้เกณฑ์ใดมาวัด สำหรับตัวผมนั้นอยู่ที่ต้นเหตุก่อนเลยนะครับ...... :-)


Posted by : Mercury , Date : 2003-05-01 , Time : 00:03:28 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 17


   ตอบคุณ "ขอโทษจริงๆ"
เอ้อ...ถ้าคุณอ่านที่ผมตอบต่อจากที่ผมแนะนำไปเรื่องมารยาท คุณจะพบว่าผมได้ตอบคำถามที่ว่าด้วยนะครับโดยละเอียดพอสมควร ทุกๆคนมีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดครับ หรือสิ่งใดก็ตามบนกระดานกระทู้ ผมคิดว่าผมเคยเห็นอะไรมาผมก็มา share กับพวกเราที่นี่ ผมไม่สามารถทำให้ใครเชื่อได้หรอกนะครับว่าอะไรเป็นมารยาทที่ดีหรือไม่ดี ผมขอให้พิจารณาดูเหตุผลกันเอาเองก็แล้วกัน ความมั่นใจในคำตอบคงจะไม่เกี่ยวนะครับ เพราะผู้อ่านมี background ไม่เหมือนกัน ค่านิยมต่างกัน เพียงแต่ผมอาจจะรู้สึกอะไรที่เป็นค่านิยมสากล (ที่ผมเคยเจิเจอมา) ก็เลยบังอาจแนะนำไม่ทราบว่าจะเชื่อหรือเปล่า แต่ผมหวังดีและเชื่อจริงๆว่าถ้าหากเราทำได้น่าจะเป็นสิ่งที่ดี คำถามเพี้ยนไปสักนิดก็สามารถได้ใจความเช่นเดียวกัน อาทิเช่น อาจจะถามว่า ภรรยาของสามีจำเป็นต้องบริสุทธ์หรือไม่? ผมก็จะให้คำตอบที่เหมือนกันทุกประการกับที่ได้ให้ไปแล้วครับ

ความเป็นตัวตนแม้บนกระดานกระทู้ก็เป็นรูปลักษณ์ได้ ผมสร้างบุคลิกของ Phoenix ขึ้นมา ณ ชุมชน แห่งนี้ด้วยเวลาพอสมควร ผมเชื่อว่าเวลาพูดถึง Phoenix สมาชิกที่ป็นขาประจำก็จะพอมี idea และนึกออกถึงวิธีการเขียนของผม รวมทั้งจากที่ผมได้ปูความคิดไว้มากมาย (บางทีอาจจะมากกว่าเพื่อนของใครบางคนเสียอีก) คุณก็ได้ "รู้จัก" ผมไม่มากก็น้อย ผมอดมิได้ก็เลยมีการคาดหวัง respect อย่างที่ปุถุชนทั่วๆไปพึงคาดเท่านั้นเองครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-01 , Time : 00:36:47 , From IP : 172.29.3.214

ความคิดเห็นที่ : 18


   เรื่องนี้ไม่ใช่ 1+1=2 ครับ

ในความเป็นผู้ชายเรื่องนี้ละเอียดอ่อนครับ ขึ้นกับอะไรต่อมิอะไรอีกมาก (ซึ่งผมก็ไม่อาจระบุได้ชัดว่า อะไรนั้นคือ อะไร)

เริ่มที่ตรงนี้ก่อนดีกว่า
ในความเป็นผู้หญิง (ที่ผมจะลองคิดแทน) สมมติว่าผมเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว อืมมมมม..... (คำถามมันโผล่มาเต็มหัวเลยแห๊ะ...) เอางี้ ตอนผมเสียความบริสุทธิ์ไปเนี่ย (ผมเป็นผู้หญิงนะ)
1.ก่อนทำ(ก่อนยอมให้เข้ามา...)ผมมีสติ, ผมไม่มีสติ หรือผมไม่อาจขัดขืน
2. ขณะทำ ผมมีความสุขที่จะให้หรือไม่มี
3. เสร็จแล้ว ผมปลาบปลื้มกับสิ่งที่ทำลงไป หรือผมอยากหนีไปให้ไกลๆ อยากฆ่าตัวตาย??

(เอ ทำไมต้องคิดอย่างนั้นนะ)

ที่นี้ผมกลับมาอยู่ในสังคม (ผมยังเป็นผู้หญิง แต่-สามีทิ้ง-ถูกข่มขืน-เลิกกับแฟน-สามีตาย-อยากเปลี่ยนแฟน etc. อย่างใดอย่างหนึ่ง) ผมเสียพรหมจรรย์ ไปแล้ว ผมอยู่คนเดียว ผมจะรู้สึกยังงัย (เก็บไว้ในใจก่อน)

อยู่ๆไปมีความสัมพันธ์เกิดขึ้นใหม่ (สมมติละกันว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีงาม และใช่เลย ต้องสร้างครอบครัวกับคนๆนี้ ต้องอยู่ร่วมกันไปตลอด จนแก่เฒ่า ไม่ทิ้งกันขนาดที่ว่าจะขอตายก่อน เพราะไม่อาจจะอยู่ได้ ถ้าไม่มีคนๆนี้-สมมตินะครับ สมมติ และผู้ชายก็คิดเหมือนกัน)

เอาหละผมกลับมาเป็นผู้ชายคนนั้นเอง แล้วผมมารู้เรื่องราวของเธอ ผมว่านะ ผมมีคำตอบแล้วหละ ว่าอะไรสำคัญที่สุด


Posted by : OmniSci , Date : 2003-05-01 , Time : 00:37:11 , From IP : proxy2.chula.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 19


   ถามใหม่นะคะการเสียความบริสุทธิ์ ก่อนการสู่ขอ หรือไปอำเภอเพื่อจดทะเบียนสมรส หรือจัดงานเพื่อประกาศว่าจะเป็นสามีภรรยาให้คนอื่นรับรู้ ผิดมั้ยคะ


ขึ้นอยู่กับ "ผิดอะไร" ครับ

ถ้าตามวัฒนธรรมหรือขนบธรรมเนียมประเพณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตะวันออกก็จะคิดว่าผิดวัฒนธรรม ถามว่าผิดวัฒนธรรมแล้ว "So What?" แปลว่าทั้งสองคนเป็นคนเลวหรือไม่? ตรงนี้ผมว่าเป็นขอบเขตกว้างที่จะมองครับ ขออนุญาตยกตัวอย่างสักสองสามกรณี เช่น
...ถ้าทั้งสองมีความเห็นว่า sex life นั้นมีผลต่อความยั่งยืนของชีวิตครอบครัว ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะมีการทดลองกันก่อน ก่อนที่จะแต่งแล้วหย่าร้าง ซึ่งเปนการสูญเสียเวลาทั้งสองฝ่าย (และสูญเสียอื่นๆอีกมากมาย)
...ถ้าทั้งสองรักกันจริงและยังไงๆก็จะแต่งงานกันอย่างแน่นอน ก็ไม่เห็นแปลก จะก่อนหรือหลังแต่งแล้วค่อยได้เสียกันก็ไม่เกิดความแตกต่าง
...หรือถ้าทั้งสองคน OK จะแต่งหรือไม่แต่งก็ได้ นั่นคือ sexual relationship ก็เป็นแค่ความสัมพันธ์ระดับหนึ่งแค่นั้น

ประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับทั้งสามตัวอย่าง (และอื่นๆ) คือความเห็นพ้องต้องกันว่าถูกต้องจากทั้งคู่ ซึ่งตรงนี้น่าจะมีเงื่อนไขอีกนิดหน่อยเช่น ทั้งสองคน mature พอที่จะตัดสินใจด้วยตนเองและเลี้ยงดูตนเอง รับผิดชอบตนเองได้ รวมทั้ง consequence จากการมีเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดมีลูกขึ้นมา และอาจจะต้องรวมถึงการคำนึงถึงสถานะของครอบครัวผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย (พูดง่ายๆคือ อิงเอนไปทาง modern western แค่ไหน ซึ่งเดายากครับ ครอบครัวคนไทยปัจจุบัน)



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-01 , Time : 00:50:47 , From IP : 172.29.3.214

ความคิดเห็นที่ : 20


   ขอบคุณOmniSci คะ คุณเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่ดีจริงๆนะคะ

แล้วคุณmercuryละคะ ถ้าผู้หญิงคนนั้นผืดศีลข้อสาม
คือเคยเสพเมถุณด้วยความพึงพอใจมาก่อน
รับได้มั้ยคะ
อย่าโกรธนะคะที่ถาม


Posted by : พลังหญิง , Date : 2003-05-01 , Time : 00:53:43 , From IP : 203.107.200.109

ความคิดเห็นที่ : 21


   สำหรับข้อสอง ผมเป็นคนหัวโบราณครับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธความคิดใหม่ ๆ โดยเฉพาะท่านอื่นจะเห็นอย่างไรนั้นก็อีกเรื่อง แต่สำหรับความเห็นของผมนั้นอยากให้มองคุณค่า ของคำว่าพรมจารีย์มากว่าเพียงแค่ ชิ้นเนื้อนะครับ เพราะการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ได้ อย่างน้อยคงต้องมีความมั่นคงทางจิตใจเป็นอย่างสูง รักนวลสงวนตัว ประพฤติตนอยู่ในจารีตประเพณ๊ในระดับหนึ่ง คงจะปฏิเสธไม่ได้นะครับว่า สังคมปัจจุบันมีสิ่งยั่วยวนเยอะจะมีสักกี่คนที่ทนต่อแรงกระตุ้นเหล่านี้ได้ มันจึงช่วยชี้วัดอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้บ้างนะครับ เพราะฉนั้นโดยส่วนตัว ถ้าให้เลือกผู้หญิงสองคนที่นิสัยดี (ย้ำว่านิสัยใจคอต้องดีและเข้ากันได้นะครับ) คนหนึ่งยังรักษาพรมจรรย์ แต่อีกคนหนึ่งเสียไปแล้ว สำหรับผมขอเลือกคนแรกนะครับ อย่างน้อย ๆ ก็มั่นใจในน้ำอดน้ำทนของเค้าได้นะครับ แต่ถามว่าคนที่สองผิดอะไรตรงไหนที่ผมไม่เลือก เค้าไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่ qualifications ไม่ครบอย่างที่ผมวางเอาไว้ เรื่องนี้ผู้หญิงที่จะเลือกผุ้ชายสักคนก็คงจะมีคุณสมบัติเฉพาะแต่ละคนไปเหมือนก้นหรือว่าไม่ใช่ล่ะครับ แต่ที่นี้ถ้าบังเอิญแต่งไปแล้วมารู้ที่หลัง ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาคิดกันอีกแล้วนะครับ คนเราถ้าคิดจะรักใครสักคนและถ้ามั่นใจในสิ่งที่เค้าเป็นแล้วก็ ก็จงเชื่อมั่น ให้เกียรติและอภัยให้กัน จริงมั้ยครับ ....

Posted by : Mercury , Date : 2003-05-01 , Time : 00:55:11 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 22


   ตอบคุณ "ผู้หญิง"

ถ้าถามคำถามเดียวกันที่ถามphoenix กับคุณว่าว และ kant จะกล้าตอบตรงๆมั้ยละ หรือว่า ผู้ชายทั้งโลกไม่กล้า?


อืม...ผมสงสัยมากๆว่า หลังจากที่ผมได้บังอาจแนะนำเรื่องมารยาทไปแล้วก็ตาม พี่ว่าวได้มา reinforce ว่าเราสามารถจะ expect อะไรๆ ทำนองเดียวกันแล้วก็ตาม คุณ "ผู้หญิง" ก็ยังยืนยันที่จะถามนะครับ น่าชื่นชมในความเด็ดเดี่ยวจริงๆ

การที่ผม ได้ตอบคำถามไปแล้ว ก็น่าจะสรุปได้นะครับว่าสมมุติฐานว่าผู้ชายทั้งโลกไม่กล้าตอบนั้น ไม่เป็นจริง (Null hypothesis is not equal to zero) และถึงแม้สมมุตฺว่าผมไม่ตอบ พี่ว่าวไม่ตอบ คุณ Kant ไม่ตอบ เราก็ยังห่างไกลจากข้อสรุปที่ว่าผู้ชายทั้งโลกไม่กล้าตอบอยู่ดีครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-01 , Time : 00:57:03 , From IP : 172.29.3.214

ความคิดเห็นที่ : 23


   เออ...
คุณพลังหญิงครับ ผมไม่ได้ต้องการสื่อให้คุณคิดเช่นนั้น

และคุณรู้คำตอบของผมหรือครับ

ทั้งหมดเป็นการสมมมติครับ เพียงแต่ทำไปทีละลำดับ

ของจริงมันยากกว่านั้นมาก

และอย่างที่ผมบอกเรื่องนี้ไม่ใช่ 1+1=2

จึงมีหลายท่านเข้ามาอภิปรายกันตรงนี้

เพียงแต่ผมว่าผู้ชายส่วนใหญ่ก็ต้องออกมาแนวข้างบนนั้นแหละ จริงๆ



Posted by : OmniSci , Date : 2003-05-01 , Time : 00:59:15 , From IP : proxy2.chula.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 24


   โธ่เอ๊ย
มีqualifications ผู้หญิงไม่ใช่วัตถุนะคะ
ผู้ชายเสียตัวก่อนแต่งก็มากกว่าผู้หญิง บางคนก็เห็นเป็นเรื่องปกติ
แล้วผู้หญิงก็แย่สิคะคิดกันแบบนี้


Posted by : oh+ , Date : 2003-05-01 , Time : 01:12:19 , From IP : 203.107.200.109

ความคิดเห็นที่ : 25


   ตอบคุณพลังหญิงครับ คงจะให้ผมพิจารณาผู้หญิงที่ผิดศีลโดยไม่มีเหตุปัจจัยอื่น ๆ มาพิจารณาร่วมเลยคงยากนะครับ อย่างน้อยผมต้องรู้จักนิสัยใจคอโดยรวมของผู้หญิงคนนี้ก่อน และอีกอย่างจำเป็นแค่ไหนละครับที่ผมต้องเลือกผู้หญิงคนนี้ ถ้ามีตัวเลือกอื่น ๆ ที่ดีกว่า หรือว่าคุณจะไม่ให้โอกาสผมเลือกเลยหรือครับ.... :-)

ผมได้กล่าวไปแล้วนะครับว่าผมหัวโบราณและไม่ได้ตีค่าพรมจารีย์ของผู้หญิง แค่ชิ้นเนื้อ แต่ผมให้ความหมายรวมไปถึงบุคลิก, ลักษณะนิสัยและจิตใจของผู้หญิงคนนั้นอีกด้วยนะครับ อย่างน้อย ๆ คนที่จะมาเป็นแม่ของลูกก็ต้องเป็นแม่แบบที่ดีในทุก ๆ ด้านจริงมั้ยครับ


Posted by : Mercury , Date : 2003-05-01 , Time : 01:13:20 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 26


   แล้วมีใครเห็นใจผู้หญิงบ้าง
สุดท้ายก็หวัง












vergin!!!






นะคุณผู้ชาย


Posted by : ผิดหวังหมอหวัง , Date : 2003-05-01 , Time : 01:20:23 , From IP : 203.107.200.109

ความคิดเห็นที่ : 27


   ไม่ว่าหญิงหรือชาย ผมว่าไม่ได้สำคัญที่คนอื่นตีค่าตนเองหรอกครับ สำคัญที่ "ตัวเรา" ตีค่าตนเองที่ตรงไหน อย่างไร มากกว่า

ค่าที่คนอื่นตีนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรหรอกครับ ถ้าอาตี๋ข้างบ้านชอบนุ่งน้อยห่มน้อย อาแป๊ะหลังซอยชอบทู-พีซ คุณวิทูรที่ทำงานชอบขี้เล่น แต่คุณสมานชั้นบนชอบตรงไปตรงมา ฯลฯ เราปวดหัวตายเลยครับ เป็นตัวของตัวเอง สร้างคุณค่าของเราเองขึ้นมาดีกว่าครับ แล้วเราสามารถที่จะมั่นใจในคุณค่าว่ามันมีรากฐานจากอะไร ไม่ต้องไปสนใจคุณค่าในสายตาของผู้ชายขี้กะโล้โท้ที่ไหนก็ไม่รู้ ที่ที่มา post อยู่นี่ก็หลากเชื้อหลายพันธุ์ คุณไม่ได้รู้จักหัวนอนปลายเท้าสักกะหน่อย พอเรามีคุณค่าของตัวเราเองแล้วก็รอพระเอกคนที่สามารถมองเห็นคุณค่าดังกล่าว นั่นแหละครับ The Right Guy

Good Luck



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-01 , Time : 01:25:03 , From IP : 172.29.3.214

ความคิดเห็นที่ : 28


   "ผู้ชายต้องการสิ่งที่ดีที่สุด"

ถ้าผู้หญิงเสียตัวแล้วก็เป็นแค่พลเมืองชั้นสอง
คงไม่ถามเพราะทำที่อ่านมาคุณๆทำให้รู้สึกแบบนั้น



Posted by : . , Date : 2003-05-01 , Time : 01:27:27 , From IP : 203.107.200.109

ความคิดเห็นที่ : 29


   คุณ Oh+ ครับหรือว่าคุณไม่มี spec ผู้ชายในฝันบ้างเลยหรืองัยครับ ผิดด้วยหรือครับที่ผมจะมี spec ในแบบที่ผมต้องการ ถ้ามีให้เลือกแล้วผมไม่เลือกคู่ชีวิตให้ดีที่สุดนี้สิครับแปลก คนนะครับไม่ใช่แมว แต่งกันแล้วกว่าจะตายจากกัน ไม่ไช่แค่ปี 2 ปีนี้ครับ ก่อนแต่งถ้าเลือกได้ผมจะเลือก แต่ถ้าแต่งแล้วนั้นคือผมมั่นใจและพอใจแล้วจะบริสุทธิ์หรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้วละครับ จะว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้นะครับ แต่ผมบอกตรง ๆ ครับผมไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับสังคมในภายหลัง

Posted by : Mercury , Date : 2003-05-01 , Time : 01:28:14 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 30


   ผมเห็นด้วยนะครับ กับคุณ Phoenix ที่ว่าคุณค่าของตัวคุณก็อยู่ที่ตัวคุณเองละครับ จะเอาเพียงแค่ความคิดเห็นจากพวกผมไปวัดผู้ชายทั้งประเทศคงไม่ได้ คนแต่ละคนก็จะมี คู่ที่ match กันอยู่ทั้งในเรื่องความคิด ทัศนคติและนิสัยใจคอ อย่างถ้าคุณบอกให้ผมไม่แคร์ในเรื่องบริสุทธิ์หรือไม่ ผมก็คงบอกไม่ได้ เพราะผมมีความคิดแบบนี้ฝั่งหัวอยู่จะเขี่ยออกจนหมดก็คงยากมันก็ต้องมีอยู่บ้างอ่ะครับ แต่ที่นี่ในสังคมก็อาจจะมีบางคนที่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่และนิสัยใจคออาจ match กับคุณ นั้นก็คือผู้ชายที่คุณรอคอยนะครับ ขอให้คุณโชคดีนะครับ



Posted by : Mercury , Date : 2003-05-01 , Time : 01:41:57 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 31


   "ผู้ชายต้องการสิ่งที่ดีที่สุด"
ถ้าผู้หญิงเสียตัวแล้วก็เป็นแค่พลเมืองชั้นสอง
คงไม่ถามเพราะทำที่อ่านมาคุณๆทำให้รู้สึกแบบนั้น


สงสัยว่าเราต้องไปแคร์กับผู้ชายที่คิดว่าผู้หญิงมีชั้นหนึ่งชั้นสองด้วยทำไมครับ? ถ้าหากผมทราบว่าคนไหนมีการแบ่ง class คนแบบนี้ ความคิดอะไรๆของหมอนี้คงจะลดความมีนัยสำคัญต่อผมลงไปอย่างมากมาย



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-01 , Time : 01:49:41 , From IP : 172.29.3.214

ความคิดเห็นที่ : 32


   เอาเข้าจริงๆนะ พวกเราก็ vergin กันเป็นส่วนใหญ่ อะไรที่ดีอยู่แล้วก็ทำไป
ขอให้รู้ว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว ก็แล้วกัน สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นกับเราอยู่แล้ว ไม่ปล่อยตัวไปตามสิ่งยั่วยุที่มีอยู่มากในปัจจุบัน


เอ หรือว่า แถวๆนี้......


Posted by : OmniSci , Date : 2003-05-01 , Time : 01:57:20 , From IP : proxy2.chula.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 33


   ความผิดพลาด...คู่กับมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม
จริยธรรม เป็นสิ่งที่สื่อ ถึงความดีงาม
มีอยู่แล้วที่ความไม่ดีงาม ความผิดพลาด จะเกิดขึ้น...
ค่าของตนเอง อยู่ที่ตัวของตนเองต่างหากที่ให้ค่า
ต้องมาจากภายใน....ภายในตัวตน
จริยธรรม ในความคิดแล้ว....ก็เป็นสิ่งสมมุติ โดยเรา


Posted by : 123 , Date : 2003-05-01 , Time : 08:43:05 , From IP : 172.29.1.101

ความคิดเห็นที่ : 34


   ความผิดพลาด...คู่กับมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม
จริยธรรม เป็นสิ่งที่สื่อ ถึงความดีงาม
มีอยู่แล้วที่ความไม่ดีงาม ความผิดพลาด จะเกิดขึ้น...
ค่าของตนเอง อยู่ที่ตัวของตนเองต่างหากที่ให้ค่า
ต้องมาจากภายใน....ภายในตัวตน
จริยธรรม ในความคิดแล้ว....ก็เป็นสิ่งสมมุติ โดยเรา


Posted by : 123 , Date : 2003-05-01 , Time : 08:43:54 , From IP : 172.29.1.101

ความคิดเห็นที่ : 35


   virgin virgin virgin virgin virgin โอ๊ย ปวดหมอง
คิด คิด คิด คิด คิด มันสำคัญตรงไหน
การที่คุณจะรักใครซักคน คุณรักที่ความบริสุทธิ์อย่างนั้นหรือ

ถึงแม่ว่าผู้หญิงคนนึงจะเสียความบริสุทธิ์ด้วยความเต็มใจ
ผู้หญิงคนนั้นกลายเป้นผู้หญิงที่ำวางตัวไม่เหมาะสม ไร้คุณค่า อย่างนั้นหรือ

คำตอบที่ดีที่สุด ในความคิดดิฉัน คงเป็น ความคิดเห็นของคุณ 123

ความบริสุทธิ์ เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆในชีวิต
อย่าให้ความสำคัญกับมัน จนเผลอละเลยส่วนอื่นเลยนะคะ


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-05-01 , Time : 12:01:44 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 36


   ผมเห็นด้วยกับคุณpheonixกับคุณ123นะครับ ไม่มีใครมาตัดสินเราได้นอกจากตัวเราเอง ถ้าเราคิดว่าตัวเองมีค่ามันก็มีค่า ถ้าเราคิดว่าไร้ค่าเราก็ไร้ค่า
ผมไม่ได้มีหลักการอะไรมาอ้างนอกจากคิดเองเออเองครับผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย


Posted by : Epoo , Date : 2003-05-01 , Time : 12:02:54 , From IP : 203.157.14.247

ความคิดเห็นที่ : 37


   ผมไม่เข้าใจว่าคุณหมายความคำว่าบริสุทธิ์ว่าอะไร

หมายถึงการไม่เคยผสมพันธุ์

หรือว่า ความบริสุทธิ์อย่างอุดมคติ

ผู้หญิงที่สำส่อนก็ย่อมเลวในขณะที่เขาสำส่อนนั้น แต่ผมไม่ได้สรุปรวมว่าเขาจะเลวไปทุกส่วน

แต่ผู้หญิงที่ดีย่อมไม่สำส่อน

ที่เป็นสิ่งสำคัญที่มนุษย์ทุกคนต้องยึดถือไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย คือต้องไม่สำส่อน

ความบริสุทธิ์(ใจ)เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตที่ต้องยึดถือ



Posted by : Immanuel Kant , Date : 2003-05-01 , Time : 12:12:06 , From IP : 172.29.2.147

ความคิดเห็นที่ : 38


   บางครั้งเวลาเราไม่ตอบอะไรฟันธงลงไปมันคงไม่ใช่หมายถึงไม่กล้าได้เพียงอย่างเดียวกระมังครับ อย่างในกรณีนี้ คำตอบว่าถูกหรือผิดมันไม่มีความหมายเอาเสียเลย ลองเอาผมเป็นที่ตั้งก็แล้วกัน ถ้าผมตอบว่า "ดีแล้วครับ มี sex ก่อนแต่ง ผมว่าดีแล้ว" มันก็ไม่ได้มีความหมายทั้งการเชิญชวนใครให้มาเอาอย่าง ไม่ได้มีความหมายทั้งที่จะบอกว่าแฟนผมบริสุทธิ์หรือเปล่า มันคนละเรื่อง! กับคำถามนี้คำถามเดียว คุณจะตอบหรือถูกว่าผิดมันขึ้นอยู่กับไม้บรรทัดที่คุณใช้ ไม้บรรทัดที่ว่านี่หมายถึงบรรทัดฐานที่คุณยึดเป็นหลักเป็นรากทางศีลธรรมของคุณเอง หากคุณยึดสุภาษิตสอนหญิง มันคงไม่งาม หากคุณหัวโบราณ ก็ขึ้นอยู่กับว่าโบราณขนาดไหนอีก โบราณมากหน่อยสมัยทุบหัวลากเข้าถ้ำ นี่อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา อรรถาธิบายอีกที ผมอธิบายความคิดอันนี้ได้ด้วยสองประโยคที่ผมคิดว่ามีความหมายเดียวกัน
๑. ผมไม่จำเป็นต้องตอบว่าถูกหรือผิด เพราะผมไม่ได้เลือกใช้ชีวิตบนความถูกหรือความผิด แต่เลือกว่าจะทำอะไร เพราะอะไรและสิ่งที่เกิดตามมาจากการกระทำของผมคืออะไร ผมจะรับผิดชอบมันได้หรือไม่
๒. ถูกหรือผิดหากจะตอบ เป็นเรื่องจำเพาะบุคคลและจำเพาะสถานการณ์ ไม่อาจประยุกต์เป็นสากล
เช่น ถ้าจะต้องมี premarital sex แล้วต้องทะเลาะกับแม่จนบ้านแตก ผมก็จะเลือกไม่ทำ ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิด ไม่ต้องรู้ เพราะไม่อยากทำเรื่องที่แม่ไม่ชอบ
หรือถ้าจะคิดว่าจะมี sex ในหมู่เพื่อนแล้วคาดว่าอาจทำให้ถลำ ควบคุมตัวเองไม่ได้จนเสี่ยงต่อการไม่มีสมาธิในการเรียน เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และโรคติดต่อ ถึงแม้ใครจะบอกว่าถูก น้องมาลีอาจเลือกอย่างเด็ดเดี่ยวว่าหนูไม่เอา

กับความเห็นของคุณผู้ชายเองก็ตาม เราไม่จำเป็นต้องไปคาดคั้นให้ใครตอบกระมังว่าเขาชอบแบบไหน มักอย่างไร เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะตอบ และก็เป็นสิทธิ์ของแม่หญิงเองที่จะเลือกมักชายที่มีทัศนคติต้องตรงกัน

คุณขานไปเอารูปชายผมน้อยท่านนั้นมาจากไหน น่ากลัวพิลึก

พี่ว่าว


Posted by : พี่ว่าว , Date : 2003-05-01 , Time : 12:14:12 , From IP : 133.1.67.161

ความคิดเห็นที่ : 39


    เรารักผู้หญิงคนหนึ่งตรงที่ยังเหลือเยื่อพรหมจารีหรือ ผมว่าเราต้องแยกให้ออกถึงคุณค่าของคน ๆ หนึ่งกับชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่งนะครับ เรื่องนี้ไม่น่าจะเอามาปนกันตั้งแต่แรก ความรักไม่ได้ก่อกำเนิดมาจากความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์นี้ครับ แต่มันเกิดจากความรู้สึกของสองคนที่มีทัศนคติตรงกันเข้าใจกันและกันและปราถนาจะใช้ชีวิตร่วมกันจะแต่งหรือไม่แต่งก็แล้วแต่ ส่วนเรื่องความบริสุทธิ์ผมว่ามันเป็น option มากกว่านะครับมีก็ดีไม่มีก็ไม่เป็นไรและก็สุดแล้วแต่ปัจเจกชนแต่ละคนจะมีทัศนดติต่อสิ่งเหล่านี้ เรื่องหลัก ๆ คงอยู่ที่คุณจะให้คุณค่ากับมันมากแค่ไหนล่ะครับ ถ้าคุณเห็นว่าการรักษาพรมจารีย์ไว้เป็นสิ่งดี ก็ดีแล้วล่ะครับที่จะทำต่อไปและคงไม่มีใครห้ามไม่ให้คุณทำด้วยเพราะมันเป็นสิทธิของคุณเอง ส่วนใครที่ไม่สนใจก็เรื่องของคน ๆ นั้นไป คงไม่ใช้ประเด็นที่จะมาบอกว่าอะไรดีไม่ดีหรืออะไรถูกผิด คนทุกคนล้วนมีสิทธิ์ที่จะเลือก มีสิทธิ์ที่จะเป็นอย่างที่ต้องการ คุณมีวิจารณญาณที่จะคิดนี้ครับอยากเป็นแบบไหนนั้นก็เลือกดูสิครับ

Posted by : Mercury , Date : 2003-05-01 , Time : 12:42:40 , From IP : 172.29.1.100

ความคิดเห็นที่ : 40


   "เรารักผู้หญิงคนหนึ่งตรงที่ยังเหลือเยื่อพรหมจารีหรือ ผมว่าเราต้องแยกให้ออกถึงคุณค่าของคน ๆ หนึ่งกับชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่งนะครับ เรื่องนี้ไม่น่าจะเอามาปนกัน"

"คนแบบนี้ ความคิดอะไรๆของหมอนี้คงจะลดความมีนัยสำคัญต่อผมลงไปอย่างมากมาย "

ทุกท่านกรุณาทำในสิ่งที่พูดด้วยแล้วกัน
ไม่งั้นมันก็ไม่มีความหมาย
ทุกคนมีสิทธิ์ตอบหรือไม่ตอบคำถามแต่ดิฉันว่าคำตอบมันผุดขึ้นมาจากในใจคุณ
ตั้งแต่อ่านจบแล้วละคะ ส่วนแต่ละคนจะยอมรับความเลวในตัวได้แค่ไหนก็พิจารณากันเอาเองแล้วกันนะ




Posted by : พลังหญิง , Date : 2003-05-02 , Time : 11:14:02 , From IP : 202.28.80.4

ความคิดเห็นที่ : 41


   แวะเข้ามาอ่าน ขอเสนอความคิดเห็นบ้างนะ สำหรับตัวหนูคิดว่า ความบริสุทธิ์ไม่น่าจะเกี่ยวกับจริยธรรม หมายความว่าการที่คนคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายจะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ก็ไม่เห็นเกี่ยวข้องกับว่าเขาจะทำดีหรือไม่ดี หรือเราจะตัดสินเขาหรือเธอว่าเป็นคนดีหรือไม่ดีจากความบริสุทธิ์ เธอที่บริสุทธิ์แต่เลวก็มีถมไป เธอที่ไม่บริสุทธิแต่ดีก็มีถมไปอีกเช่นกัน หนูมีเพื่อนคนไทย มีแฟนมาแล้วหลายคน เพราะเป็นคนสวย สุดท้ายก็ได้แต่งงานกับผู้ชายที่คิดว่าดีได้ โดยไม่ได้สนใจในความบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นบริสุทธิ์หรือไม่นั้นไม่สำคัย เท่ากับว่า ทำไมเราถึงจะไปยุ่งกับคนอื่น เขามีค่าพอหรือเปล่า เรารักเขาจริงหรือเปล่า เขารักเราจริงไหม เราพร้อมที่จะยอมรับผลที่เกิดขึ้นหรือยัง แต่การที่เราจะมีอะไรกับใครสักคนโดยไม่มีความรัก ผิดหรือเปล่า? จึงไม่ได้หมายความว่าถ้าความบริสุทธิ์ไม่สำคัญ ดังนั้นคิดจะไปยุ่งกับใครที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ได้ คนละประเด็นกันนะ อย่างไรก็ตามถ้าผู้ชายในสมัยนี้หวังความบริสุทธิ์ ก็คงลำบาก เพราะเขาจะหาผู้หญิงที่บริสุทธิ์ได้น้อยลง น้อยลง และถ้าเขาพบ เขาก็มั่วแต่สงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นที่บอกเขาว่าบริสุทธิ์ บริสุทธิ์จริงหรือเปล่า ชีวิตนี้คงไม่มีความสุข
ไปละ บาย


Posted by : คนแปลกหน้า , Date : 2003-05-05 , Time : 02:49:54 , From IP : 203.148.180.32

ความคิดเห็นที่ : 42


   เยี่ยม!! เป็นกำลังใจไห้ทุกคน

Posted by : ผู้หญิง , Date : 2003-05-05 , Time : 03:25:04 , From IP : 203.107.199.233

ความคิดเห็นที่ : 43


    คำถามตั้งแต่ต้น พรหมจารีย์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดจริงหรือ ( สำหรับชายเลือกหญิงแต่งงานด้วย ) ขอตอบว่า ไม่
ขอถาม ชายกับหญิงใครแคร์เรื่องพรหมจรรย์มากกว่ากัน
ส่วนตัวตอบ ผู้หญิง
ถ้าเธอคนนั้นได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน ฉันอยากจะบอกเธอว่า คุณค่าของเธอได้ลดลงในสายตาของฉันที่ได้รู้ว่าเธอได้เคยนอนกับใครมาก่อน ยิ่งมากคนก็ยิ่งลดค่า แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ฉันไม่ได้เลือกเธอ ความรัก ความพึงพอใจและการให้อภัย สำคัญยิ่งสำหรับหญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกฉัน
ขอโทษด้วยที่เขียนว่าชายเลือกหญิง เพราะ กระทู้ตั้งมาอย่างนี้ จริงๆแล้วผู้หญิงทุกคนก็มีสิทธิ์เลือก ชายและหญิงมีสิทธ์เลือกเท่าเทียมกัน

" มั่นใจในสิ่งที่ตนมีดีกว่าไปแคร์ในสิ่งที่เขาต้องการ "


Posted by : perf. , Date : 2003-05-13 , Time : 02:02:40 , From IP : r175-skaHS1.S.loxinf

ความคิดเห็นที่ : 44


   น่าสนใจครับตรงประเด็นที่ว่า "ยิ่งนอนมากคนยิ่งลดค่า" ช่วยกรุณาขยายความสักนิดได้ไหมครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-13 , Time : 13:09:33 , From IP : 172.29.3.160

ความคิดเห็นที่ : 45


   อธิบาย มันเป็นความรู้สึก ทำไมผู้ชายถึงแคร์เรื่องพรหมจรรย์ เพราะ เขาใช้ความรู้สึก บอกแล้วว่ามันไม่ใช่เหตุผลหลัก คนเราจะเป็นคู่กันได้มันต้องมีส่วนประกอบมากกว่านี้
พูดถึงโสเภณี คุณมองเขาในด้านยกย่องหรือดูถูก ครั้งแรกที่คุณคิด.....คุณคิดว่าเขามีพฤติกรรมอย่างไร ใครเคยจะถามเหตุผลเขาบ้างไหมว่าทำไมถึงต้องทำอย่างนั้น และจะมีสักกี่คนที่อยากจะเข้าใจ
" ฉันหวังว่าเธอจะเป็นดังดอกไม้ที่สดใส เรื่องที่ผ่านมาแล้วให้มันพ้นไป
เก็บแต่สิ่งดีๆคงเหลือไว้ในใจ อย่าให้ใครได้บังอาจลบหลู่เธอ "


Posted by : perf. , Date : 2003-05-15 , Time : 03:15:36 , From IP : 172.29.3.126

ความคิดเห็นที่ : 46


   ตกลงคุณคิดว่าคุณค่าของคนลดลงไปทุกครั้งที่มีการหลับนอนกันหรือไม่ครับ? ฟังดูเหมือนจะไม่ใช่ แต่ก็ฟังดูเหมือนคุณคิดว่าบางคนคิดอย่างนั้น หรือเปล่า? การคาดการณ์เผื่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าเขาคิดว่าอย่างไรนั้นยากที่จะบอกได้ว่าแม่นยำเพียงไร ปกติแล้วผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่เราควรจะหลีกเลี่ยงไม่กระทำ

โสเภณีก็เป็นอาชีพหนึ่ง เขาสามารถหาเงินได้โดยบริสุทธิ์ใจ สามารถส่งลูกไปเรียนหนังสือหนังหาจบมหาวิทยาลัยก็ยังได้ มีคุณค่าไม่น้อยไปกว่าคนที่ประกอบอาชีพสุจริตไม่ว่าอาชีพไหนๆ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-15 , Time : 04:18:29 , From IP : 172.29.3.208

ความคิดเห็นที่ : 47


   คำถามแรกขอตอบว่า ไม่ใช่ครับ
ส่วนคำแนะนำที่ตามมาก็มีส่วนถูก ต้องขอขอบคุณที่ช่วยเตือน คราวหลังจะระวังให้มากขึ้นครับ
และสุดท้าย ผมไม่ได้ดูถูกโสเภณีเลย และมีความคิดเห็นเช่นเดียวกับท่าน คงเป็นเพราะส่วนที่ผมคิดเผื่อคนอื่น ต้องขอโทษด้วยจริงๆ
"สักวันหนึ่งฉันจะโต อยากจะโตเป็นคนที่มีคุณภาพ "


Posted by : perf. , Date : 2003-05-15 , Time : 14:39:53 , From IP : 172.29.3.123

ความคิดเห็นที่ : 48


   สำหรับคำถามของกระทู้นี้ ("ความบริสุทธิ์เป็นจริยธรรมหรือไม่") นั้น

"ความบริสุทธิ์" เป็น "สภาวะ" ครับ และอาจจะแตกแยกลงไปเป็นกายและใจ อย่างที่ผมเคยยกตัวอย่างเรื่องการถูกข่มขืน ผมไม่ classify ว่า victim สูญเสียความบริสุทธิ์ purely เพราะว่าใจนั้นผมให้น้ำหนักมากกว่ากาย เหมือนกับที่คุณ mercury ได้กล่าวหลายครั้งหลายหนเรื่อง physical verginity นั้นก็คือ intact of hymen membrane เท่านั้นเอง

"จริยธรรม" เป็น "หลักการ" ครับ เพราะฉะนั้นคำตอบโจทย์นี้ก็คงจะเป็นความบริสุทธิ์นั้น "ไม่เป็น" จริยธรรม เนื่องด้วยเป็นคนละ frame of reference



Posted by : Phoenix , Date : 2003-05-15 , Time : 23:35:31 , From IP : 203.155.144.49

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.04 seconds. <<<<<