>> " เวลา" " />โรคแพ้ความใกล้ชิด

ความคิดเห็นทั้งหมด : 4

โรคแพ้ความใกล้ชิด


   

PBL1 Block4 GI &Nutri
โรคแพ้ความใกล้ชิด

ศัพท์ทางการแพทย์เรียกโรคนี้ว่า
"thinking more than....spectolocomotif"
epidermiology
มีต้นกำเนิดจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบครั้งแรกระบาดในโรงเรียนแพทย์ทางภาคใต้ของไทยต่แมเกิดการระบาดอย่างรุนแรงcontrolไม่ได้
พบได้ทั่วไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก
Riskfactor

แต่ได้รับรายงานส่วนใหญ่ว่า risk factorของ
โรคนี้คืออ่อนแอทางจิตใจขั้นรุนแรง
pathopsysiology&pathogenesis
เริ่มจากเชื้อพาหะจะเข้ามาใกล้
สร้างความสนิทสนมกันตามประสาคนรู้จัก

แต่จะส่งผลถึงคลื่นไฟฟ้าในสมอง
ซึ่งจะแปรเปลี่ยนคลื่นความถี่จากความรู้สึกธรรมดาฉันท์เพื่อน พี่ น้อง
ให้เป็นตามที่ใจตนเองต้องการ

ต่อจากนั้น เมื่อเชื้อโรคได้เข้าสู่ร่างกายแล้ว
จะกระจายตัวอย่างรวดเร็วด้วยระยะเวลาอันสั้น


ซึ่งจะแปรตามความสัมพันธ์ที่มีมากหรือน้อยระหว่างผู้รับเชื้อกับผู้แพร่เชื้อ
ยิ่งมีมาก เชื้อก็จะยิ่งแพร่กระจายได้ไกล

ปัจจัยเสริม(predisposing)


โดยที่สภาพอากาศมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ด้วย

ฤดูฝน มีคนโทรมาห่วงว่ากลัวจะเป็นหวัด : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 30%
ฤดูหนาว มีคนสัมผัสมือแก้หนาว : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 70%
ฤดูร้อน มีคนชวนไปเที่ยวทะเล : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 25%
ปัจจัยเสี่ยงเสริมหลักคือความใกล้ชิด
อยู่pblกลุ่มเดียวกัน : มีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้น 80%
ทำกิจกรรมด้วยกัน :65%
เจอหน้ากันบ่อยๆ :20%
กินข้าวด้วยกัน 90%
ดูวิดิโอด้วยกัน 30%
ยืมชีตและโพยกัน 55%
พูดคุยกัน 95%


อาการของโรคนี้ โดยมากแล้วจะเริ่มจากการคิดเข้าข้างตัวเอง
จากนั้นก็จะเริ่มมีอาการอ่อนแอทางจิตใจมากขึ้นเรื่อยๆ

จะส่งผลกระทบต่อไปถึงชีวิตประจำวัน เช่น ตื่นสายเพราะมัวคุย ไม่มีกะจิตกะใจจะทะpbl ไม่อยากเข้าlectureเพราะไม่อยากเจอหน้าเทอ

ทางองค์การอนามัยโลก
จัดให้เป็นโรคที่อันตรายอีกโรคหนึ่ง

เพราะได้มีผลกระทบต่อทั้งตัวผู้ติดเชื้อเอง
ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผลการวิจัยของสถาบันการแพทย์ชั้นนำ
ได้ข้อสรุปตรงกันว่า โรคแพ้ความใกล้ชิดนั้น

อาการจะรุนแรงมากหรือน้อยต่างกันขึ้นอยู่กับตัวผู้รับเชื้อเอง
หากเกิดอาการอ่อนแอทางจิตใจยิ่งมีมากเท่าไหร่

อาการของโรคนี้ก็จะน่ากลัวมากยิ่งขึ้น

ผลกระทบจากโรคนี้คือ
เมื่อเชื้อโรคได้แพร่เข้าสู่หัวใจโดยทางเส้นเลือดนั้น
จะทำให้เกิดอาการท้อแท้ หมดหวัง สิ้นหวัง โทษตัวเอง น้อยใจชีวิต บางรายอาจรุนแรงถึงขั้น hypolove-volumic shock มักพบอาการแทรกซ้อนเช่นcongestive love failure ,love arrythemia,rukturcardia,

ปัจจุบันนี้ ทางการแพทย์ยังไม่สามารถที่จะหาวัคซีนป้องกันได้
เพราะเนื่องจากเป็นลักษณะของmalignant ที่มักจะมีการกำเริบขึ้นมาเรื่อยๆ ผู้ใดเคยเป็นมักจะรักษาได้ไม่หายขาด

ทำให้โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะเป็นๆ หายๆ
ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นอีกเมื่อไหร่ และจะหายเมื่อไหร่

ขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใด
แพทย์หลายท่านระบุว่า ======>>> " เวลา" <<<======
จะเป็นยารักษาโรคนี้ได้ดีที่สุด


รัก รัก
รัก





รัก
รัก







รัก
รัก
รัก



รัก
ยังไงก็รัก

Posted by ความรักและคงามสำเร็จมักจะมาพร้(รักเธอ@เฝ้าคิด คิดถึงคนึงเรื่อ) 2004-10-16 , 21:30:52 , 203.150.217.118



Posted by : รักแสนยากลำบากสุดใจ , E-mail : (จะรอ@รอเป็นเพื่อน.รอด้วย) ,
Date : 2004-10-17 , Time : 20:51:48 , From IP : 203.150.217.114


ความคิดเห็นที่ : 1


   เป็นโรคที่น่าสนใจ และน่าเป็นห่วงในเวลาเดียวกันเลยนะเนี่ย ว่าแต่อัตราการทำร้ายตนเองจากโรคนี้สูงไหมจ๊ะ

Posted by : pisces , Date : 2004-10-17 , Time : 21:59:35 , From IP : 172.29.7.21

ความคิดเห็นที่ : 2


   กำกำมะเคยคิจาทำร้ายตัวเองดอก แค่อยาก บอกได้ระบายเหมือนกันเปงไข้ต้องลดอุนพูมนั้นแล

Posted by : คนคนเดิม , Date : 2004-10-18 , Time : 00:40:04 , From IP : 203.150.217.119

ความคิดเห็นที่ : 3


   ......ความรักเหมือนโคถึก
กำลังคึกผิขังไว้.....
ก็....โลด.....จากคอกไป
บ่ยอมอยู่.....ณ.ที่ขัง.....


Posted by : องคต , Date : 2004-10-18 , Time : 12:05:35 , From IP : 172.29.1.110

ความคิดเห็นที่ : 4


   ฉัน : "โหล.. เป็นงัย งานยุ่งมั้ย? กินไรยัง?"
เธอ : "ยังเลย หิวเป็นบ้า.."
ฉัน : "ก็หาไรกินดิ"
เธอ : "ยังไม่ว่างอ่ะ งานตู๊มเลย เค้ากินตัวเองไปก่อนได้ป่ะ?"
ฉัน : "ไอ่บ้า!"
เธอ : "น่า...นะ"
ฉัน : "ไอ่บ้า!!"
เธอ : "ฮ่าๆๆ.. เอ่อนี่ เย็นนี้ไปดูหนังกันมั้ย?"
ฉัน : "เอาดิ เลิกงานแล้วตัวเองมารับเค้าน๊า~"
เธอ : "อื้อ.. เดี๋ยวไปรับ"



[ เย็นวันนั้น ].

เค้ามารับที่ออฟฟิศแหละ พี่ๆที่ทำงานแซวกันใหญ่
ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกนะ มารับออกจะบ่อยไป
แต่ที่โดนแซวนี่ไม่ใช่เรื่องมารับน่ะสิ
ด อ ก ไ ม้ ช่ อ นี้ ต่ า ง ห า ก ล่ ะ !

ฉันขอให้เขาซื้อป็อบคอร์นให้หน่อย
แล้วฉันก็หลบไปซื้อซีดีเพลงที่เค้าอยากได้ที่ร้านใกล้ๆกันมาให้เค้าแหละ
เห็นเค้าหน้าแดงไปเลย! อิอิ
ปกติเค้าจะเป็นคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกอะไรนะ แต่วันนี้หน้าแดงแจ๊ดเลย..ท่าทางจะชอบมาก

ไม่รู้ดิ ฉันรู้สึกว่าวันนี้เค้าผิดปกติไปนะ ไม่รู้ทำไม?

ในโรงหนังก็กุมมือแรงผิดปกตินะ
เดินอยู่ก็โอบเอวฉันแทนเดินจับมืออ่ะ
พาฉันไปนั่งทานอาหารร้านที่ฉันชอบด้วยนะ(แต่เค้าไม่ชอบ)
รถจอดติดไฟแดงอยู่ก็แอบหอมแก้มฉันด้วยแหละ
อาย..จนไม่รู้จะอายยังงัยเลย มอเตอร์ไซด์ข้างๆเห็นด้วยหล่ะ

ส่งฉันที่บ้านเสร็จ
เค้ากลับไปถึงบ้านแล้วก็โทรกลับมาหาอีกด้วย
คุยกันน๊านนานนะ(ทุกทีไม่เคยคุยนานเลย แค่บอกว่าถึงบ้านแล้วแค่นั้นเอง)

แปลกมั้ย?
ฉันก็ว่ามันก็เหมือนวันนี้เราไปดูหนังหลังเลิกงานตามปกติแค่นั้นเองนะ

แ ล้ ว ค ว า ม รู้ สึ ก อ บ อุ่ น เ ป็ น พิ เ ศ ษ นี่ มั น ม า จ า ก ไ ห น กั น น๊ ะ ?


ไม่รู้สิ.. สงสัยพรุ่งนี้ต้องถามซะแล้ว มั้ง.....


Posted by : เราเอง , Date : 2004-10-18 , Time : 12:55:56 , From IP : 172.29.1.110

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<