ความคิดเห็นทั้งหมด : 13

การตั้ง รร.มอ. วิทยานุสรณ์ขึ้น โดยรับเด็ก ม 1 ม 4 เข้ามาอยู่ในรั้ง มอ.


   เด็กจะสร้างปัญหารึปล่าว กลัวว่าเหมือนมีเด็กตัวเล็ก ๆ เข้ามาอยู่ไม่รู้จะสร้างปัญหารึเปล่า หรือจะเป็นการดี อยากขอความเห็น med หน่อย

Posted by : อยากทราบความเห็นทุกคน ที่จะมีก , Date : 2004-10-03 , Time : 13:21:11 , From IP : 172.29.2.153

ความคิดเห็นที่ : 1


   น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการส่งเสริมการศึกษา อย่าไปคิดว่าเด็กจะสร้างปัญหาเลย ใครๆก็สร้างปัญหาได้ทั้งนั้นถ้าไม่มีสำนึกที่ดีต่อตนเองและสังคม

Posted by : มดงาน , Date : 2004-10-03 , Time : 13:39:41 , From IP : 172.29.3.204

ความคิดเห็นที่ : 2


   ผมว่าดีนะครับ เพราะว่าเด็กส่วนนี้ได้เห็นว่าพี่ๆที่เรียนมหาลัยเค้าเตรียมตัวอย่างไร
เรียนอย่างไร และที่สำคัญเค้าอาจจะได้เห็นการทำกิจกรรมซึ่งหลายๆร.ร.ไม่ค่อยมี
เราจะได้มีนที่เก่งมากว่าการเรียนเพิ่มมากขึ้นครับ


Posted by : Cruz , Date : 2004-10-03 , Time : 15:37:42 , From IP : 172.29.4.116

ความคิดเห็นที่ : 3


    ผมว่าดีนะครับ เพราะว่าเด็กส่วนนี้ได้เห็นว่าพี่ๆที่เรียนมหาลัยเค้าเตรียมตัวอย่างไร
เรียนอย่างไร และที่สำคัญเค้าอาจจะได้เห็นการทำกิจกรรมซึ่งหลายๆร.ร.ไม่ค่อยมี
เราจะได้มีคนที่เก่งมากกว่าการเรียนเพิ่มมากขึ้นครับ


Posted by : Cruz , Date : 2004-10-03 , Time : 15:38:17 , From IP : 172.29.4.116

ความคิดเห็นที่ : 4


   แล้วแบบนี้จะเป็นโรงเรียนในเครือสาธิตไหม

Posted by : st , Date : 2004-10-03 , Time : 20:29:38 , From IP : 172.29.4.176

ความคิดเห็นที่ : 5


   น่าจะดี ว่าแต่จะใช้พื้นที่ส่วนใหนของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ปัจจุบันช่วง เช้า และเย็นหลังเลิกงานรถก็ติดอยู่แล้ว ถ้ามีโรงเรียนขึ้นมารถคงติดเข้าไปอีก คงต้องวางแผนการจารจรไว้รองรับด้วย เพราะเป็นความปลอดภัยของเด็ก

เรื่องอาหาร เขาจะไปกินกันที่ใหน จะมีโรงอาหารของตัวเองใหม ตอนนี้ช่วงเวลาที่มีประชุมวิชาการก้แทบหาข้าวกินได้ลำบากอยู่แล้ว

เรื่องขยะ ที่มักตามมากับชุมชน มหาวิทยาลัยจะจัดการอย่างไร

เด็กที่มาเรียนเป็นแบบประจำด้วยหรือเปล่า เป็นเด็กที่มาจากต่างจังหวัดด้วยหรือเปล่า จะมีหอพักให้อยู่ใหม หรือต้องไปเช่าหอข้างนอก

ครูที่จะมาสอนเป็นใครมาจากใหน

จะต้องไปแชร์สาธารณูปโภคที่ไม่ค่อยจะเพียงพอเดิมหรือเปล่า น้ำกับไฟที่ใหล ๆ ดับ ๆ สนามกีฬา สระว่ายน้ำเข้าใจว่าก็ไม่ค่อยพอ อยู่แล้ว จะสร้างเพิ่มหรือจะให้ไปแย่งกันเอาเอง

ผมเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยคงมีแผนสำหรับสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว

โดยรวมผมว่าน่าจะดี แต่ปัจจุบันแค่เพิ่มคณะใหม่เข้ามาจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้น ปัญหาก็ตามมามากมาย การจารจรที่สับสนของถนนปุณกันฑ์ จำนวนอุบัติเหตุ หรือแม้แต่เด็กหอพักแถวนั้น แทงกันก็มีให้เห็นเรื่อย ๆ นักเรียนที่มาเห็นการเรียนของรุ่นพี่ อาจมาเห็นการอยู่ด้วยกันเป็นคู่ ๆ การพนันบอล การกินเหล้า สิ่งเหล่านี้ย่อมแสดงให้เห็นความสามารถของมหาวิทยาลัยในการจัดการอยู่แล้วว่าประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ใหน ถ้ามัวแต่ภูมิใจกับผลงานตัวเลขบัณฑิต( ไม่รู้จะเรียกว่าบัณฑิตได้เต็มปากเต็มคำแค่ใหน ) ที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้สนใจคุณภาพชีวิต คุณภาพผลผลิต ก็อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงการสร้างโรงเรียนมัธยมเพิ่มเลยครับ


Posted by : Dhan , Date : 2004-10-03 , Time : 20:56:13 , From IP : 172.29.3.201

ความคิดเห็นที่ : 6


   มีโควต้าบุคลากรเหมือนรร. สาธิตหรือเปล่า มหาวิทยาลัยสร้างระบบจัดการกับสิ่งแวดล้อมอื่นๆหรือเปล่า

Posted by : คนมีลูก , Date : 2004-10-03 , Time : 21:38:43 , From IP : 172.29.3.252

ความคิดเห็นที่ : 7


   เข้าไปหาคำตอบให้หายสงสัย ได้ที่ http://www.psu.ac.th/news/school.doc


Posted by : แมวดำ , Date : 2004-10-04 , Time : 12:31:42 , From IP : 172.29.1.209

ความคิดเห็นที่ : 8


   โรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ เตรียมเปิดปีหน้า
มุ่งสร้างเยาวชนให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ที่มีสุนทรีย์ในชีวิต

หลังจากได้มีการดำเนินการจัดตั้ง และเตรียมความพร้อมมาด้วยระยะเวลาพอสมควร ในปีการศึกษา 2548 “โรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์” ก็จะรับนักเรียน ชั้น ม.1 และ ม. 4 เข้าเรียนจำนวนชั้นละ 140 คน โดยจะใช้พื้นที่บางส่วนของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นอาคารเรียนชั่วคราว เรื่องนี้เป็นที่สนใจของนักเรียน ผู้ปกครอง และคนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง “งานประชาสัมพันธ์ วิทยาเขตหาดใหญ่” จึงได้สอบถามรายละเอียด พร้อมคำตอบที่เป็นที่สนใจของบุคลากรและชุมชน จาก รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ วรัญ ตันชัยสวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาบุคลากร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในฐานะประธานคณะกรรมการมูลนิธิโรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนฯ โดยส่วนหนึ่งที่น่าสนใจคงเป็นเรื่องของการรับครู และนักเรียนรุ่นบุกเบิกของโรงเรียน

โรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ อยู่ในสถานะอย่างไร ขึ้นตรงกับหน่วยใดของมหาวิทยาลัย
โดยความเห็นของกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แนะนำให้ตั้งโรงเรียนในลักษณะของโรงเรียนเอกชน ขึ้นอยู่กับมูลนิธิโรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ และตัวมูลนิธิจะเป็นผู้ดำเนินการขออนุญาตเปิดโรงเรียน

รูปแบบของโรงเรียนแห่งนี้ จะให้นึกถึงโรงเรียนอะไรเป็นตัวอย่าง
เราไม่มีโรงเรียนต้นแบบ บางคนคิดว่าคงเหมือนโรงเรียน มหิดลวิทยานุสรณ์ แต่ไม่ใช่ เราจะจัดรูปแบบการเรียนการสอนเน้นทางด้านวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ได้มุ่งไปถึงขั้นสร้างนักวิทยาศาสตร์ ดีเด่นระดับประเทศ เรามุ่งจะสร้างเยาวชนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักคิดแบบนักวิทยาศาสตร์ มีเหตุ มีผล ขณะเดียวกันก็จะไม่ทิ้งสุนทรีย์ของชีวิต มีชีวิตที่เป็นปกติสุข เป็นประโยชน์แก่ตนเองและสังคม

การบริหารงานของโรงเรียนเป็นอย่างไร
ดังที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า เป็นโรงเรียนที่ขึ้นอยู่กับมูลนิธิ ซึ่งเป็นอีกนิติบุคคลหนึ่ง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยเพียงแต่มูลนิธินี้ได้รับความเอื้อเฟื้อจากมหาวิทยาลัยในการใช้สถานที่ เรากำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการขอจัดตั้งมูลนิธิผ่านกระทรวงมหาดไทย คาดว่าไม่เกินเดือนตุลาคมนี้การจัดตั้งคงเสร็จสิ้น ในเบื้องต้นได้รับการเอื้อเฟื้อจากคณะวิทยาศาสตร์ให้สถานที่เรียนชั่วคราวของนักเรียนรุ่นแรก รวมทั้งเรื่องของอาจารย์พี่เลี้ยงช่วยดูแลครูของโรงเรียน

ถ้าเป็นเรื่องของมูลนิธิค่าเล่าเรียนน่าจะถูก
ในระยะเริ่มต้นมูลนิธินี้จะไม่มีเงินบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น การดำเนินการมูลนิธินี้คือ เราจะจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ โดยไม่หวังผลกำไร แต่จะให้มีคุณภาพได้ก็ต้องอาศัยเงินเป็นปัจจัยสำคัญ ดังนั้น การจัดการต่างๆ เพื่อให้โรงเรียนมีคุณภาพและดำเนินงานอยู่ได้ ในระยะแรกต้องอาศัยค่าเล่าเรียนเป็นหลัก จึงบอกได้ว่าค่าเล่าเรียนคงจะไม่ถูกดังที่ตั้งคำถามเอาไว้ ระดับค่าเล่าเรียนคงเหมือนโรงเรียน เอกชน แต่จะมีส่วนของการพัฒนาคุณภาพรวมอยู่ด้วย ค่าใช้จ่ายของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ส่วนใหญ่จะหนักไปที่ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ซึ่งพื้นฐานด้านนี้ของโรงเรียนต้องดีพอ เราคาดหวังว่านักเรียนจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงมากกว่าเรียนรู้จากกระดาษ สิ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น

ฟังแล้วดูเหมือนนักเรียนสายศิลป์จะไม่มีสิทธิ์เข้าเรียน
ความจริงเราไม่ได้เน้นวิทย์หรือศิลป์ แต่เราอยากจะเน้นว่านักเรียนจะต้องเป็นนักวิทยา-ศาสตร์ที่มีสุนทรีย์ในตนเอง โรงเรียนจะไม่สอนแต่วิทยาศาสตร์ด้านเดียว จะมีศิลปะและดนตรีด้วย แต่คงไม่ใช่สำหรับนักเรียนที่เรียนทางด้านศิลปศาสตร์เป็นหลัก

เรื่องการก่อสร้างโรงเรียนและงบประมาณเราจัดการอย่างไร
ด้านสถานที่ก่อสร้าง“โรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์”นี้ คณะกรรมการผังแม่บทของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้อนุเคราะห์เรื่องการจัดสรรสถานที่ให้ใกล้ ๆ กับ ธรรมสถาน ถนนปุณณกัณฑ์ เรื่องการก่อสร้างกำลังหารือกับสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำกัด โดยสหกรณ์จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมใหญ่ เพื่อขอความเห็นชอบในการก่อสร้างโรงเรียน และมูลนิธิจะเช่าอาคารโรงเรียนจากสหกรณ์อีกครั้งหนึ่ง เพราะเรายังไม่มีทุนของตนเองในการก่อสร้าง โรงเรียน

ม.อ.วิทยานุสรณ์ จะเปิดเรียนปีการศึกษาหน้าแล้ว เราจะเปิดรับนักเรียนเมื่อไหร่
คาดว่าจะประกาศรับได้ตั้งแต่มกราคม 2548 ก่อนหน้านั้นต้องมีการรับสมัครครูก่อน และเตรียมฝึกครูให้มีความพร้อม

กลุ่มเป้าหมายของนักเรียนจะเน้นที่กลุ่มใด
เราไม่ได้จำกัดว่าเป็นกลุ่มใด ภาคใด แต่มีส่วนหนึ่งที่เป็นการให้โอกาสกับบุตรของบุคลากรของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทุกวิทยาเขต อีกจำนวนหนึ่งสำหรับการเปิดสอบทั่วไป ในสัดส่วน 50:50 ในตัวเลขที่เราตั้งไว้คือ ม.1 จำนวน 140 คน และ ม.4 จำนวน 140 คน แบ่งเป็น 4 ห้องเรียน ๆ ละ 35 คน หากแยกเป็นประเภทการรับคือ ในจำนวน 140 คน นั้น เป็นการให้โอกาสบุตรบุคลากร ม.อ.70 คน อีก 50 คน เป็นการเปิดสอบทั่วไป ส่วน 20 คนที่เหลือสำหรับผู้มีอุปการคุณของมหาวิทยาลัยและโรงเรียน

การให้โอกาสบุตรบุคลากรมหาวิทยาลัยถึงร้อยละ 50 จะถูกมองจากคนทั่วไปว่า มากไปหรือเปล่า
ดูเผิน ๆ ดูเหมือนจะมาก แต่ก็เป็นตัวเลขที่เราตั้งมาจากจำนวนบุตรบุคลากรในวัยที่จะเข้าเรียน ม.1 และ ม.4 ในปีหน้า ซึ่งจำนวนนี้ก็รับได้เพียงประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น อีกประการหนึ่งก็เนื่องมาจากคำถามเรื่องค่าเล่าเรียน ซึ่งไม่ถูกนัก เพราะของดีแต่ราคาถูกคงไม่มี ดังนั้นเรื่องค่าเล่าเรียนคงจะเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องมาประกอบการตัดสินใจเข้าเรียน
ตอนนี้นักเรียนที่ต้องการสอบเข้าเรียนโรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร
นักเรียนที่จะเข้าเรียนต้องเป็นผู้สามารถแสวงหาความรู้ได้ในระดับชั้นของตน เราไม่ได้เน้นเด็กเก่ง แต่ต้องเป็นคนดี มีความเอื้อเฟื้อไม่ดูดาย ในการทดสอบเพื่อเข้าเรียน จะมีทั้งการสอบในห้องเรียน การเข้ากลุ่มเพื่อดูพฤติกรรมในกลุ่ม การทดสอบเจตคติของนักเรียน และการประเมินความพร้อมและความเข้าใจของผู้ปกครองด้วย

เด็กสายวิทย์ถูกมองว่า เรียนหนักและค่อนข้างเครียด เราได้มีการเตรียมเพื่อลดความเครียดจากเรียนหรือไม่
จะเครียดหรือไม่ อยู่ที่วิธีการจัดการเรียนการสอนมากกว่า ถ้าเราเน้นแต่เนื้อหาวิชาล้วน ๆ
และมีผู้ปกครองที่มีความคาดหวังสูง เด็กคงถูกกดดัน แต่ในรูปแบบการเรียนที่เราได้คุยกัน คงเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เพราะในทางวิทยาศาสตร์ต้องอาศัยการลงไปปฏิบัติด้วย เราจึงเน้นเรื่องห้องปฏิบัติการ และประมวลมาเป็นความรู้ สุดท้ายก็มีครูมาสรุปเป็นความคิดรวบยอดว่า สิ่งที่เขาได้เรียนมา สามารถตอบคำถามอะไร ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจะนำมาสู่คำตอบได้อย่างไร ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่นำมาประกอบผลทดลองคืออะไร

การจัดการเรียนการสอนที่พูดถึงนี้ ใครจะเป็นผู้กำหนดให้เรา
คณะกรรมการโรงเรียนจะเป็นผู้กำหนด ซึ่งประกอบด้วย คณาจารย์ที่มาจากหลากหลายคณะ เรามีระบบการสอนที่ประยุกต์บางส่วนมาจากสากล แม้จะไม่ได้สอนเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม

บุคลากรสายครูเราจะมีการรับเมื่อไร และต้องมีคุณสมบัติอย่าไร
เราจะรับครูจากสายตรง หมายถึงถ้าจะรับครูฟิสิกส์ก็ต้องจบฟิสิกส์ มีอายุไม่เกิน 30 ปี วุฒิปริญญาตรีขึ้นไป เราจะรับหลากหลายสาขา เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา วิทยาศาสตร์ทั่วไป ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์และแนะแนว เมื่อเข้ามาแล้วจะมีการอบรมวิธีการสอนและการเตรียมสื่อการสอน

ทำไมต้องรับครูอายุไม่เกิน 30 ปี
เหตุผลใหญ่คือ ต้องการให้เขามาร่วมสร้างโรงเรียนด้วยกัน เพราะการมาเป็นครูรุ่นบุกเบิกของโรงเรียนใด ๆ นั้นย่อมต้องมีการลงแรงค่อนข้างมาก ต้องเตรียมหลายอย่างจึงต้องรับคนหนุ่มสาว ส่วนสายบริหารก็คงจะอายุมากกว่านั้น

จะรับจำนวนเท่าใด และมีวิธีการรับครูอย่างไร
เริ่มตั้งแต่ครูประจำการจะรับ 20 อัตรา จะรับครูทางเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคมศึกษา พลศึกษา ศิลปศึกษา สายละ 2 อัตรา และมีครูทางคอมพิวเตอร์ ครูแนะแนวอีกสายละ 1 อัตรา ส่วนสายธุรการจะรับพนักงานธุรการ 1 คน พนักงานห้องปฏิบัติการ 2 คน แบ่งเป็นทางวิทยาศาสตร์กายภาพ และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ อย่างละ 1 คน พนักงานโสตทัศนศึกษา 1 คน นักกิจกรรมนักเรียน 1 คน นายช่างเทคนิค 1 คน ส่วนตำแหน่งบริหารซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการหารายละเอียดวิธีการรับ จะประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียน อย่างละ 1 อัตรา
ครูประจำการเราจะรับสมัครในเดือนตุลาคมนี้ โดยจะสอบทั้งข้อเขียนและปฏิบัติการสอน ผู้ที่ผ่านข้อเขียนและปฏิบัติจะเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์ และการทดสอบทางจิตวิทยา
รายละเอียดสอบถามได้ผ่านงานสวัสดิการ กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

โรงเรียน ม.อ.วิทยานุสรณ์ จะเสร็จสมบูรณ์ มีสถานที่ตั้งของตนเองเมื่อใด
คาดว่าในปี 2550 น่าจะมีอาคารเรียนของตนเองแล้ว ทั้งนี้หมายความว่า นักเรียนรุ่นที่ 3 จะสามารถย้ายไปเรียนในอาคารเรียนถาวรได้แล้ว และเมื่อนั้นเราจะมีนักเรียนครบทั้ง ม.1 ถึง ม.6

ปีการศึกษาหน้า จะมีเด็กนักเรียน 280 คนไปเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์ ได้มีการเตรียมพร้อมรับภาระนี้อย่างไร
คณะวิทยาศาสตร์ได้เตรียมจัดสถานที่ทั้งห้องปฏิบัติการ ห้องเรียนและสถานที่อำนวยความสะดวกอื่นๆไว้แล้ว ในการเรียนวิชาบรรยายจะเรียนรวมกันในห้องใหญ่ ส่วนวิชาที่มีการปฏิบัติการจะแยกกันเรียนเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัย วิชาพลศึกษาจะใช้ศูนย์กีฬาของมหาวิทยาลัย ด้านศิลปจะได้ระบความร่วมมือจากศูนย์ส่งเสริมศิลปและวัฒนธรรม วิทยาเขตหาดใหญ่ เข้ามาช่วยดูแล
นักเรียนเหล่านี้และบุคลากรของโรงเรียน คือสมาชิกส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัยตามที่สมควรแก่วัยของเขา

ได้มองไปถึงสิทธิของนักเรียนในการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์หรือไม่
คณะกรรมการโรงเรียนได้มีแนวคิดเรื่องนี้ แต่จะออกมาเป็นแนวปฏิบัติอย่างไรนั้น ต้องรอความชัดเจนเรื่องระเบียบการศึกษาก่อนว่าจะเปิดช่องได้แค่ไหน

นักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัย ควรจะวางตัวอย่างไร เพื่อรับสมาชิกใหม่ ซึ่งยังอยู่ในวัยเด็กเหล่านั้น
อยากฝากถึงบุคลากรและนักศึกษาของเราทุกคนว่า ในปีหน้าจะมีสมาชิกตัวเล็ก ๆ จำนวนหนึ่งเข้ามาอยู่ร่วมในแวดวงสังคมของเรา อยากให้ช่วยกันดูแลในเรื่องความประพฤติที่จะช่วยกันกล่อมเกลาให้เขาเป็นเยาวชนที่ดี เพื่อให้เป็นคนไทยที่ดีในอนาคต มีคุณความดีในตนเอง และอยู่ในสังคมได้ โดยไม่เดือดร้อนทั้งตนเองและผู้อื่น


Posted by : 010 , Date : 2004-10-04 , Time : 16:46:10 , From IP : 172.29.2.153

ความคิดเห็นที่ : 9


   ผมเองอาจเหมือนคนหลายคนที่กลัวความยุ่งยากต่างๆ แต่เมื่อมองภาพรวมแล้วผมว่า รร น่าจะสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า (อาจจะเป็นประโยชน์ที่ต่อคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวผม และตัว นศ มอ. ) มันป็นประโยชน์ต่อน้องๆ ที่จะเข้ามารับโอกาสที่ดี ผมจึงเห็นด้วยกับโครงการนี้

Posted by : ttt , Date : 2004-10-05 , Time : 00:19:53 , From IP : 172.29.4.192

ความคิดเห็นที่ : 10


   อยากทราบว่าลูกบุคลากรที่ชื่อไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้านของมหาวิทยาลัยจะมีสิทธิ์เข้าเรียนในโควต้าหรือต้องสอบเพราะปัจจุบันเรยนอยู่ต่างจังหวัด

Posted by : km , Date : 2004-10-07 , Time : 23:14:01 , From IP : 172.29.7.27

ความคิดเห็นที่ : 11


   จาเข้าม.1อ่าค๊าบ อยากเข้าม.อ.ว. ไม่แน่ใจว่าจาเข้าได้เปล่า ขอแนวข้อสอบได้เปล่าคับพี่น้อง ช่วยๆกานบ้างนะ

Posted by : ด.ช.ฐาปนพงศ์ สุขอนันต์ , E-mail : (golfdof1@hotmail.com) ,
Date : 2006-11-16 , Time : 22:34:15 , From IP : 124.157.223.55


ความคิดเห็นที่ : 12


   อยากสมัครม.อ.ทำไงค่ะ


Posted by : เด็กวิทย์ , Date : 2006-11-29 , Time : 17:09:53 , From IP : 61.19.150.150

ความคิดเห็นที่ : 13


   ดีมาก หนูก็อยากอยู่



Posted by : พัดชา , Date : 2006-12-14 , Time : 08:50:19 , From IP : 61.19.75.18

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<