ความคิดเห็นทั้งหมด : 0

มหาวิทยาลัยไทย ฤๅจะเป็นแค่"หน่วยขายปริญญาบัตร"


   ในความเห็นผมเด็กจบมหาวิทยาลัยไทย 100 คน ใช้งานจริงได้แค่ 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ในขณะที่เด็กของสิงคโปร์จบมา 100 คน ใช้ได้ 80-90 คน พวกนี้มีมันสมอง มีความรู้ความสามารถสามารถไปแข่งขันกับคนทั่วโลกได้ ต่างจากของเรา ซึ่งผู้รับผิดชอบการศึกษามักเน้นเรื่องปริมาณอย่างเดียว ไม่สนใจคุณภาพ และผู้คนในสังคมไทยก็มุ่งกระดาษใบเดียว" เป็นคำวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาของ นายวิกรม กรมดิษฐ์ เจ้าของนิคมอุตสาหกรรม "อมตะ" ที่ประสบปัญหาในการจ้างบัณฑิต ซึ่งแม้จะจบมหาวิทยาลัยรัฐมีชื่อเสียง แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าคนคนนั้นมีความรู้ความสามารถสมกับที่เรียนจบปริญญาตรี

ดังนั้น ข่าวใหญ่หน้าหนึ่งที่เสนอข่าวรับจ้างทำวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาโท-เอกและสารนิพนธ์ในระดับปริญญาตรี ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น จึงเป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมไทยไม่ได้ตกอกตกใจหรือตื่นเต้นอะไร เพราะทราบกันมานานหลายสิบปีแล้ว เพียงแต่ว่าสมัยก่อนการรับจ้างทำไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนมากเท่านี้ ปัจจุบันถึงขั้นเปิดเว็บไซต์ให้บริการกันอย่างโจ๋งครึ่ม รวมทั้งการเปิดร้านในย่านหัวหมาก โดยติดป้ายเพียงรับถ่ายเอกสาร เย็บเล่มรายงานและทำปกเท่านั้น ทว่าเป็นที่รับรู้กันในหมู่นักศึกษาว่าเป็นแหล่งรับจ้างทำวิทยานิพนธ์

ข้อมูลนี้สอดรับกับสิ่งที่ นายบุญเสริม วีสกุล อธิการบดีกิตติคุณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ฉายภาพให้เห็นว่า ปัญหาของมหาวิทยาลัยไทยขณะนี้คือ เน้นแต่ปริมาณ แต่คุณภาพลดลง มีการเปิดสอนภาคสมทบกันมากมาย ทำให้การศึกษาไม่เป็นมาตรฐาน แม้แต่คนใช้ที่บ้านก็เรียนนิติศาสตร์ ปี 4 มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ยังท่องเอถึงแซดไม่ได้ กลายเป็นว่าทุกวันนี้คนอยากเรียนเพื่อมีปริญญา แต่ไม่ได้อยากเรียนเพื่อหาความรู้

ปัญหาอุดมศึกษาไทยอีกประเด็นหนึ่งคือ กระแสการเรียนต่อปริญญาโท ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเน่าเหม็นของระบบการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยไทยชัดเจน ด้วยเป็นการเรียนต่อเพื่อเลื่อนฐานะทางสังคม-เศรษฐกิจ และยิ่งระบบราชการใช้ปริญญาเป็นเงื่อนไขสำคัญในการแต่งตั้งเลื่อนซีเลื่อนตำแหน่ง ข้าราชการไทยทั้งหลายจึงแห่กันไปเรียนปริญญาโทกันเป็นแถว คนพวกนี้เองเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญของบรรดามือปืนรับจ้างทำวิทยานิพนธ์ เพราะพร้อมด้วยเงินทอง

เรื่องเหล่านี้อาจารย์ที่ปรึกษาทำวิทยานิพนธ์บางคนก็ไม่รู้เนื่องจากไม่ได้ใส่ใจหรือตรวจสอบวิทยานิพนธ์จริงจัง บางคนก็เป็นประเภทเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะเห็นว่าเป็นคนทำงานแล้วมาเรียนเพื่อเพิ่มวุฒิเท่านั้น จึงไม่ได้เข้มงวดกวดขัน นักศึกษาบางคนถึงขนาดยอมเสียตัวให้อาจารย์เพื่อให้วิทยานิพนธ์ผ่านก็มี

ลองมาศึกษาความคิดนอกกรอบและการศึกษานอกกระแสหลักได้เพิ่มเติมที่ http://www.nokkrob.org/index.php


Posted by : อ่านดู , Date : 2004-09-25 , Time : 12:52:15 , From IP : 172.29.4.163

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.002 seconds. <<<<<