ความคิดเห็นทั้งหมด : 9

บทสรุปที่ นศพ. ทุกคนควรอ่านเอ้าพวกเรา นศพ. มาช่วย อ.จิตวัต กันเร็ว


   เรื่อง block hemato oncology ผมเข้ามาขอบคุณทุกท่านที่ให้ความเห็นและตอบสิ่งที่ทุกท่านสงสัย และอยากให้ช่วยออกความเห็นมากกว่านี้อ

ขอความมเห็น นศพ. เกี่ยวกับการเรียนใน block hematology and oncology ( block 14 )

ขณะนี้ใกล้ที่ นศพ. ปี 3 จะเรียน block 14 แล้ว ผมในฐานะประธานรายวิชาของ block นี้ใคร่ขอความคิดเห็นจาก นศพ.ที่เคยเรียน block นี้ไปแล้วทุกท่านให้ความเห็นในเรื่องต่อไปนี้นะครับเพื่อประโยชน์ต่อรุ่นน้องปี 3 ที่จะเรียนในปีนี้ ผมพร้อมที่จะนำไปปร้บปรุงการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น
1. เนื้อหาที่สอนบรรยาย ต้องการให้เปลี่ยนแปลงหรือปรับเรื่องใด แต่ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานที่แพทย์สภากำหนดไว้นะครับ ซึ่งทางหน่วยแพทย์ศาสตร์คงจะแจกเกณฑ์มาตรฐานความรู้ที่แพทย์สภากำหนดไว้ให้ นศพ. ทุกท่านครับ
2. การสอนบรรยายปีนี้จัดเป็น power point ทั้งหมดและจะแจกเป็นเอกสารที่ print จาก power point ให้ พศพ. ทุกท่าน
3. การสอนภาคปฎิบัติ มีอาจารย์บางท่านในหน่วยแพทย์ศาสตร์มีความเห็นว่าผมทุ่มเทการสอนมากไป(ซึ่งผมเต็มใจสอนอยู่แล้ว) เมื่อ นศพ.ขึ้นชั้นคลีนิกก็ลืมหมด อ่านและแปลผลCBCไม่เป็นเสนอให้ผมลดจำนวนการสอนทางห้องปฎิบัติลง และลดจำนวนสไลด์ที่ให้นักศึกษาได้เรียนลงครับ
4. การตั้งแสดงรูป cells ต่างๆจากกล้องจุลทรรศน์มีไม่เพียงพอ ผมได้จัดทำเป็นแผ่นรูปโปสการ์ดพร้อมคำบรรยายไว้ให้ นศพ. ดูเพิ่มอีกจำนวนที่เพียงพอ ส่วนการอ่านและแปลผล hemoglobin typing ได้จัดทำเป็น CAI ไว้ให้
*** 5. ข้อนี้อยากให้ นศพ. ออกความเห็นมากๆนะครับ เรื่องกล้องจุลทรรศน์ที่มีอยู่ มีชำรุดบ้างและไม่เพียงพอต่อจำนวน นศพ. ที่เพิ่มขึ้น ทางผมและ อาจารย์ สินีนาฎ เห็นว่าจำเป็นต้องมีการเพิ่มจำนวนกล้องจุลทรรศน์ให้เพียงพอกับจำนวน นศพ. และควรมีจำนวนหนึ่งสำรองไว้เวลากล้องฯ ที่กำลังใช้อยู่ขัดข้อง จึงได้เสนอให้มีการจัดซื้อกล้องฯเพิ่ม โดยทำหน้งสือผ่านไปทางหน่วยแพทย์ศาสตร์ อาจารย์ทางหน่วยแพทย์ศาสตร์ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ หรือแม้กระทั่งหัวหน้าภาควิชาพยาธิวิทยาท่านใหม่ผู้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล กล้บมองว่าเป็นการสิ้นเปลื่องงบประมาณครับ และมีการเสอนให้ นศพ.สองท่านใช้กล้องจุลทรรศน์ด้วยกันเพียงหนึ่งกล้อง ผมไม่เข้าใจว่าอาจารย์ที่เคยเรียนทักษะเกี่ยวกับการศึกษาสิ่งต่างๆด้วยกล้องจุลทรรศน์มาแล้วตอนตนเป็น นศพ. จึงคิดแบบนั้น ผมได้แย้งไปแต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าเห็นด้วยกับผมหรือไม่ ท่านมองแต่การสิ้นเปลืองงบประมาณเป็นหลักครับ แต่ผมมองว่าการเรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยกล้องจุลทรรศน์ด้วยตนเองและอย่างจริงจังเป็นสิ่งที่ นศพ. จะได้ทักษะ ความรู้และต้องมีการการฝึกฝนด้วยตนเองครับ นศพ.ที่เรียน block นี้จบไปแล้วอาจมีโอกาศได้ใช้กล้องจุลทรรศน์น้อยลงครับ ผมจึงไม่เห็นด้วยที่จะให้ นศพ.สองคนมานั่งรอใช้กล้องต้วเดียวกันครับ และยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้เสนอเพื่อปรับปรุงห้องปฏิบัติการไป ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะได้รับการตอบรับหรือไม่เพราะท่านมองการสิ้นเปลืองเป็นหลักครับ.
6. เรื่องการปรับเปลี่ยน scinario นั้น ทาง block กำลังดำเดินการครับโดยดูเกณฑืมาตรฐานแพทย์สภาเป็นหลักครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่ลงมาร่วมให้ความเห็นครับ เพื่อนำไปปรับปรุงให้ นศพ.ได้ความรู้และประโยชน์มากที่สุดครับ


Posted by จิตวัต รุ่งเจิดฟ้า(jittawat) 2004-09-10 , 11:31:27 , 203.155.183.229






ไม่เห็นด้วยกับการลดจำนวนการสอนทางห้องปฏิบัติการ เพราะการได้ดูกล้องทำให้นศพได้เห็นของจริง ยิ่งเห็นบ่อยก็จะยิ่งจำได้ ถ้าพื้นฐานดี ถึงแม้ว่าจะลืมบ้าง แต่ก็สามารถฟื้นความรู้ได้เร็ว ดีกว่าที่ไม่รู้เรื่องเลย ถ้าจะเอาไว้สอนตอนอยู่wardแล้ว มันไม่ทันเนื่องจากมีความรู้อีกมากบนwardที่จำเป็นต้องรู้และเป็นความรู้ใหม่ๆด้วย ดังนั้นควรสอนอย่างเต็มที่เลยจะดีหว่า

Posted by heart() 2004-09-10 , 11:57:29 , 172.29.2.135






ผมไม่เห็นด้วยกับการซื้อกล้องจำนวนมากมาตั้งไว้โดยเปล่าประโยชน์ คงต้องวิเคราะห์ความจำเป็นและบริหารจัดการจำนวนกล้องที่มีอยู่ให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด เช่นจัดการเรียนการสอนเป็นผลัด เพื่อที่กล้องจะได้ไม่ต้องตั้งไว้โดยไม่มีคนใช้ในบางเวลา

Posted by Heart() 2004-09-10 , 14:54:32 , 172.29.2.98






อยากให้สอนเยอะๆคะ
ที่อาจารย์สอนเต็มที่ก็ดีแล้วนี่คะ
จะได้รู้กันเยอะ
ถึงนานไปแล้วลืม ทบทวนแป๊บเดียวก็น่าจะเข้าใจได้
ขอบคุณนะคะ ที่เปิดโอกาสให้หนูๆได้แสดงความคิดเห็นอย่างนี้

Posted by น้องหนู() 2004-09-10 , 15:23:06 , 172.29.2.210






hemato เป็นวิชาเดียวที่รู้สึกว่าติดตัวมาถึง ปี4 ตอนเรีนย lecture เยอะๆ เบื่อมากๆ แต่ตอนนี้รู้แล้วรค่ะว่าได้ความรู้มาเยอะก็จากเรียนในห้องนั้นแหละ ขอให้ อาจารย์สอนเยอะๆ เหมือนเดิมนะค่ะ เป็นผลดีต่อชั้นคลินคกที่ไม่มีใครสอนมากค่ะ
ปล. ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ

Posted by ปี 4() 2004-09-10 , 16:35:42 , p48-rasskalf1.S.cslo






เป็นไปได้ไหมครับที่ slide section ต่างๆสามารถทำเป็น digital ได้? ถ้าได้จะแก้ปัญหาเรื่องกล้องไปหมดเลย รักษาคุษณภาพรูปภาพตาม resolution ที่ต้องการ ยิ่งเดี๋ยวนี้ นศพฬ มีโน้ตบุคหมดแล้ว แจก CD หรือ DVD HISTOLOGY, PATHOLOGY IMMUNO HEMATO ในหนึ่งแผ่น (640 MB- 19 GB) ก็อาจจะพอ เรียนถามเพราะไม่ทราบว่าเป็นไปได้หรือไม่นะครับ



Posted by Phoenix() 2004-09-10 , 17:24:28 , 203.156.45.207






หนูเห็นด้วยกับ อ.จิตวัติ คะที่จะให้มีกล้องเพียงพอ เพราะจากที่เรียนมาการดูกล้องบ่อยๆช่วยได้มากๆ ทำให้เข้าใจแล้วเห็นภาพมากกว่าในหนังสือ ส่วนเรื่องที่ อ. ทุ่มเทการสอนนั้น หนูว่าเป้นสิ่งที่ดีคะ เพราะ อ. ช่วยสรุปให้พวกเราเห็น concept โดยรวมและเข้าใจกลไกต่างๆมากยิ่งขึ้น ซึ่งใช้เวลาทำความเข้าใจยากในการอ่านเอง เห็นว่าblockอื่นควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างคะ หนูเห็นว่าการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นสิ่งที่ดีแต่ก็ไม่ควรมากจนเกินไปคะ

Posted by นศพ คนหนึ่ง() 2004-09-10 , 22:03:08 , 172.29.2.164






ขอแสดงความเห็นครับ
ข้อ 1 ตอบไม่ได้ ผ่านมาแล้วผมลืมไปแล้วว่าต้องการอะไร

ข้อ 2 ได้ข่าวว่าอาจารย์ ทำ Power point ใหม่แต่ไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง ว่าเป็นอย่างไร แต่น่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา อันนี้ผมเห็นด้วย แต่เรื่องการแจกชีท power point ไม่ทราบว่า นอกจากชีทแล้วมีหนังสือเล่นเหลืองๆ อีกด้วยหรือไม่ หนังสือเล่มนั้นดีมากนะครับ เป็นเล่มเดียว ที่ผมเก็บไว้ขึ้นปีสี่ ไม่ได้ให้น้องรหัส และก็สามารถนำมาเปิดทบทวน เนื้อหาในระดับพื้นฐาน ได้ดีมากเล่มนึงครับ เกรงว่าถ้าอ. แจกแต่ชีท power point น่าจะไม่เพียงพอ ผมว่าไม่ต้องแจกก็ได้ ให้ นศพ. ดูดเอาจากที่สอนได้โดยตรง เพราะทุกคนมี Laptop อยู่แล้ว

ข้อที่ 3 อ.ท่านใด ว่าอย่างงี้อยากรู้จัง ผมว่าสอนมากก็ดีอยู่แล้ว อาจจะลืมไปบ้างแต่ก็กลับมาทบทวนได้ น่าจะแนะนำ ว่าเรื่องนี้ต้องรู้ เรื่องนี้ควรรู้ นศพ. จะได้มี guide line ในการศึกษา ใครขยันก็ได้มาก ใครไม่ขยันก็รู้เฉพาะที่จำเป็น เพื่อนๆ บอกกันมาว่า Heamato เป็น Block ที่มีความรู้ขึ้นมาชั้น คลินิก มากที่สุดแล้ว (แบบ Reliative นะครับ)

ข้อที่ 4 เห็นด้วยครับ

ข้อที่ 5 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งถ้าให้ นศพ. 2 คนใช้ 1 กล้อง โดยไม่มีเหตุที่สุดวิสัยจริงๆครับโอเค ถ้าหากคณะเราจนมากๆๆ จริงๆ จนไม่มีกล้องพอ อันนี้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าทำได้กรุณาให้ใช้ 1ต่อ 1 เถอะครับ ถ้าท่านได้มาเป็น นศพ แล้วน่าจะรู้ ว่ามันเสียเวลาแค่ไหน ถ้าต้องมานั่งสลับกันดู สมาธิก็ไม่มี ต้องคอยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อยากจะดู slide อื่นที่สนใจก็ต้องขอเปลี่ยน ชัวโมงนึงก็อาจจะเรียนรู้ได้แค่ครึ่งเดียว ผมเคยเจอกล้องเสียมาแล้วครับ อ.ก็สอนไป เราก็ดูไม่ได้ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ซ่อม ก็ใช่ว่าจะเสร็จภายในชั่วโมงนั้น สรุปก็ต้องไปแบ่งเพื่อนข้างๆ ความรู้สึกยากที่จะบรรยายจริงๆ สงสารรุ่นน้องแทนน่าเรื่องนี้เกิดขึ้น

ข้อ 6 เรื่อง scinario จำอะไรไม่ได้เลย มีเรื่องอะไรบ้างไม่รู้เลยครับ ตายแล้ว เรียนไปลืมหมด ทำไงดี




Posted by Xylem() 2004-09-10 , 23:09:00 , 172.29.4.197






นะครับว่า...การที่เอาแต่พึ่ง slide digital โดยไม่ได้ Practiceกับกล้องจริงจริง แล้วจะใช้กล้องเป็นเหรอครับ......

Posted by นะครับ....() 2004-09-10 , 23:19:35 , ppp-210.86.184.120.r






Phoenix
เป็นไปได้ไหมครับที่ slide section ต่างๆสามารถทำเป็น digital ได้?
เป็นไปได้ครับ ลองเข้าไปดูตามลิงค์นี้นะครับ เผื่ออ.จะลงทุนทำ

http://www.microscopy-uk.org.uk/mag/indexmag.html?http://www.microscopy-uk.org.uk/mag/artjun03/gophotomic.html

Posted by Xylem() 2004-09-10 , 23:25:30 , 172.29.4.197






ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของอาจารย์ว่า เนื้อหาส่วนใดที่อยู่ใน PBL หรือเป็น SDL ที่ยากแก่การทำความเข้าใจด้วยตัวเอง ควรจัดให้มีการสอน Lecture ที่มีคุณภาพโดยอาจารย์ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งในด้านเนื้อหาความรู้และการถ่ายทอดวิชา และควรมีเอกสารเพิ่มเติมในส่วนที่เป็น SDL และเนื้อหาในส่วนที่อาจารย์เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจ

Posted by นายพรานผู้ล่านก() 2004-09-11 , 01:27:45 , 172.29.5.120






ขอบคุณครับคุณ Xylem

คือที่ผมเรียนถามว่าเป็นไปได้นั่นหมายว่าถึงในสถาบันเราว่ามีกล้องอย่างที่ว่ารึเปล่า ตอนผมไปเรียนเคยใช้กล้องคล้ายๆกัน แต่เป็น videoscope ต่อ real-time กับ fluorescent microscope ดูภาพที่มอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ ถ้าราคากล้องถ่ายภาพ (ที่เคยเห็นน่าจะขายเป็น set คือ กล้อง อาจจะเป็นแบบ fluorescent เพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้งาน บวกคอมพิงเตอร์ (มันต้องมี light-source พิเศษอีก box นึง) ประมาณเท่าๆกับกล้อง microscope ธรรมดาหลายๆตัวรวมกัน ในระยะยาวอาจจะคุ้มทุน และข้อสำคัญคือแก้ปัญหาเรื่อง assessibility เนื่องจาก นศพ.จะสามารถดูได้ตลอดเวลาและที่ไหนก็ได้ที่มีคอมพิงเตอร์และ picture viewer software เบื้องต้น ข้อแตกต่างที่สำคัญที่อาจจะต้องคำนึงถึงคือระบบกลไกการลั่นชัตเตอร์ เพราะถ้าถ่ายผ่าน microscope โดยเฉพาะอย่างยิ่ง dark field บางครั้งชัตเตอร์อาจจะต้องตั้งนานเป็นนาทีและ "ห้ามสั่น" เด็ดขาด ดังนั้นกล้องระบบ full-digital + software-controlled shutter จะดีกว่า (แต่ราคาก็จะขึ้นไปอีก)

อาจารย์จิตวัตอาจจะสนใจเรื่องนี้นะครับ คุ้มไม่คุ้มน่าจะขึ้นกับหลายปัจจัยอื่นๆด้วย อาจจะหา co-users ของภาควิชาอื่นมาร่วมโครงการ เพราะถ้าทำ teaching slide นี้เสร็จ เดี๋ยวจะต้องหา project อื่นๆมารองรับ ภาควิชาที่น่าจะสนใจก็เช่น microbiology, molecular-cellular biology, pathology, histology, hematology เป็นต้น ผลงานที่ออกมาจะตีพิมพ์ได้สวยงามมากอย่างใน website ที่คุณ Xylem ให้มานั่นแหละครับ



Posted by Phoenix() 2004-09-11 , 09:46:01 , 203.156.49.23






ก่อนอื่นอยากจะบอกอาจารย์จิตติวัต รวมทั้งน้อง ๆ ทุกคนนะคะว่า วิชา Hemato เป็นระบบเดียวจริง ๆ ที่เป็นเนื้อหาติดตัวมาจากตอนชั้นปรีคลีนิค เป็นวิชาเดียวที่มาเรียนต่อใน block medicine แล้วไม่รู้สึกว่ายากที่จะทำความเข้าใจ (ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีใครมาสอนก็ตาม) เนื่องจากยังพอมีพื้นฐานอยู่บ้าง ข้อนี้เพื่อนทุก ๆ คนก็เห็นด้วยค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งลงกอง Medicine มาเหมือนกัน รวมทั้งรุ่นพี่ ปี 5 และ ปี 6 เท่าที่เคยคุยด้วย ก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันเช่นกัน
นอกจากนี้หนังสือ hemato เล่มเหลืองที่อาจารย์แจกตอนเรียนเป็นหนังสือเล่มเดียวที่ นศพ.ปี 4 ทุกคนไม่คิดที่จะทิ้ง เพราะเป็นหนังสือที่อ่านง่ายและสามารถนำมาใช้ต่อบน ward ได้อย่างดี และส่วนตัวคิดว่าจริง ๆ แล้ว power point อาจจะไม่ค่อยจำเป็น เพราะจำได้ว่าปีที่แล้ว เพื่อนส่วนใหญ่ก็เต็มใจที่จะตั้งใจเรียน แล้วฟังที่อาจารย์สอนในห้อง เนื้อหาส่วนใหญ่ก็จะมีในหนังสือแล้ว
ส่วนเรื่องกล้องนั้น คิดว่าจำเป็นมาก ๆ ที่ควรจะมีให้พอ 1:1 เพราะการดูกล้องเป็น skill ควรจะดูหมั่นดูเอง ดูมาก ๆ มันจะซึมเข้าไปเอง ไปดูในหนังสือก็จะแค่รู้จักอยู่ภาพเดียว เพราะเค้าก็จะคัดเลือกภาพที่สวย ภาพที่ดูแล้ว "ใช่เลย" มาให้เราดู แต่ในชีวิตจริง เราไม่ได้เจอแบบนั้นตลอดทุกครั้งนี่คะ
สำหรับเรื่องที่อาจารย์บางท่านบอกอาจารย์ว่า สอนมากเกิน ทุ่มเทมากเกิน อาจารย์ไม่ต้องไปสนใจนะคะ เพราะนศพ.ทุกคนเต็มใจที่จะเรียนจริง ๆ ไม่มีใครบ่นเบื่อหรือรู้สึกว่าสอนมากไปหรอกค่ะ ไม่อย่างนั้นอาจารย์คงไม่ได้เป็นปิยอาจารย์ของพวกเราหรอกค่ะ




Posted by นศพ.ปี 4() 2004-09-11 , 12:34:39 , 172.29.4.30






หนูเป็นอีกคนน่ะคาะ ที่ชอบวิธีการสอนของอาจารย์ อาจารย์ทุ่มเทให้นักศึกษาทุกคนค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะอาจารย์

Posted by นศพปี4() 2004-09-11 , 22:59:01 , 203.150.217.114






1 คิดว่าไม่ควรลดการเรียนในภาคปฏิบัติค่ะ เนื่องจากว่าที่อาจารย์จิตวัตสอนนั้นดีอยู่แล้ว ทำให้พวกเราเข้าใจได้มากขี้น และมีประโยชน์มากตอนที่เราขึ้นชั้นคลินิกแล้ว ยังเก็บหนังสือของblock นี้ไว้เหมือนกันค่ะ อยากทราบว่าอาจารย์ท่านไหนคะ ที่บอกว่า เรียนไปพอขึ้นชั้นคลินิกก็ลืม อยากบอกว่าไม่ได้ลืมหรอกค่ะ อาจจะต้องใช้เวลาคิดนิดนึงแต่ไม่นานก็จะนึกออก เพราะมันเป้นเรื่องที่เข้าใจมาแล้วพอมานึกอีกทีก็ใช้เวลาไม่นาน จำได้ด้วยซำว่าเป็นสไลด์ไหนที่เคยหัดเคยฝึกดูมาตอนที่อยู่พรีคลินิก พอนึกได้ยังงี้แล้วก็จำนึก pathophysio ของโรคได้ ก็มันเคยดูมากับตา เคยสงสัยตอนเรียนพรีคลินิก และก็เพราะการที่อาจารย์จิตวัตทุ่มเทการสอนให้เราได้เกิดทักษะ เกิดความเข้าใจพวกนี้ไม่ใช่เหรอคะ ถึงยังเข้าใจ มาจนถึงชั้นคลินิก
2การที่อาจารย์บางท่านคิดว่าควรจะลดเวลาสอนในภาคปฏิบัติการลงนั้น ไม่ทราบว่าเพื่ออะไรคะ ประหยัดเวลา อยากให้นศพ. ได้เรียนรู้เอง(ซึ่งก็ไม่รับประกันว่าจะเข้าใจจริงๆ) อันนี้ไม่ทราบว่าจะเกิดประโยชน์อันใด และจะเกิดจริงหรือไม่ แต่ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ ก็คือการที่นศพ.ขาดทักษะในการดูกล้อง การมองสไสด์ของผู้ป่วยจริงๆ (ก็ถ้าจะมาใช้สื่อการสอนอื่นๆเช่นดิจิตอล มันก็คงจะเอาภาพที่มี finding แล้ว แต่การที่เรามานั่งเรียนแล็ป เราต้องหาเอง ต้องแยกได้ว่าอันไหนเป็น artifact แล้วสไลด์ผู้ป่วยจริงๆก็คงไม่เต็มไปด้วย มาลาเรียมันทุกฟิลด์หรอกค่ะ )ถามว่าถ้าไม่ฝึกตอนพรีคลินิกแล้วจะให้ไปฝึกตอนไหนคะ ตอนอยู่ปี 4 5 6 หรือคะ อยากจะบอกว่าการที่อาจารย์บางท่านที่ว่า พอขึ้นคลินิกก็ลืม แล้วมันเกิดอะไรขึ้นตอนชั้นคลินิกรู้มั้ยคะ ก็พอขึ่นคลินิก อาจารย์ก็จะบอกว่า ก็เคยเรียนมาแล้วตอนพรีคลินิกแล้วนี่ เป็นงัยคะ พอจะนึกภาพออกรึยังคะ ถ้าเราเคยฝึกเคยเรียนเคยเข้าใจมันมาก่อน เราก็จะใช้เวลาไม่นานก็จะนึกออก แต่หากไม่ค่อยได้ฝึกมันมาเลย เข้าใจแบบงูๆปลาๆมาตลอด พอขึ้นชั้นคลินิกเจอคำถามนี้จะเอาอะไรไปตอบคะ เวลาเจอเคสผู้ป่วยมิต้องไม่อ่านใหม่หมดเลยเหรอคะ
3 อะไรที่บอกว่าการซื้อกล้องมาให้นศพ.ฝึกดู นั้นเป็นการฟุ่มเฟือย คะ ไม่เข้าใจค่ะ ก็ถ้ากล้องไม่พอ ต้องมานั้งดู สองคนต่อหนึ่งกล้องมันก็ลำบาก อีกอย่างการที่คณะรับนศพ.เพิ่มก็ควรจะมีสื่อการสอนรองรรับเพิ่มขึ้นไม่ใช่หรือคะ ถ้าจะมองกันจริงๆแล้ว จะเห็นว่ามันมีประโยชน์จริง นศพ.ได้ใช้ประโยชน์จริง ได้มีทักษะจริง ถ้าจะเปรียบกับการใช้งบเป็นจำนวนหลายล้านเพื่อปรับปรุงห้องทองจันทร์ (ซึ่งก็ไม่ได้ทรุดโทรมมากนัก แต่ปรับซะหรูมาก)คิดว่าอันไหนจะมีประโยชน์แน่ๆ กว่ากันคะ

Posted by ion() 2004-09-12 , 14:09:41 , 172.29.4.112

ผม นพ.จิตวัตครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาออกความเห็น ผมขอตอบว่าทุกอย่างที่ทุกท่านแนะนำ ผมจะนำไปปรับปรุงเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ นศพ. ทุกท่านครับ
ขอตอบผู้ที่โพสมาว่า เรื่องการเสนอจัดอาจารย์คุม LAB นศพ. เป็น 2 ช่วงเพื่อจะได้ไม่ต้องซื้อกล้องจุลทรรศน์เพิ่มนั้น ทางผมและอาจารย์ที่เห็นประโยชน์ของ นศพ. เป็นหลักได้เสนอแล้วในที่ประชุมอาจารย์ภาควิชาพยาธิฯภายใต้การปกครองโดยหัวหน้าภาคฯคนใหม่(ผู้ที่คิดและวางแผนได้เก่ง แต่เรื่องปฎิบัติ.......เก่ง.....ผมมิทราบครับ) แต่การเสนอนั้นถูกปฎิเสธที่จะไม่มาสอน 2 ผลัดจากอาจารย์บางท่านที่ช่างคิดช่างพูดแต่ไม่ช่างทำ เรื่องจึงมาสรุปตรงที่จะให้นศพ. 2 คนใช้กล้องด้วยกัน 1 กล้อง ก็อย่างที่น้องๆส่วนใหญ่ให้ความเห็นนะครับว่าการเรียน LAB ด้วยการศึกษาจากกล้องจุลทรรศน์ด้วยต้วเองนั้นเป็นการฝึกฝน skill ได้ดีที่สุด การดู urine stool หรือสไลด์เม็ดเลือด ดีที่สุดคือการได้เห็นของจริง เพราะสิ่งที่เห็นมันมี variation มาก เช่น monocyte หรือ lymphocyte หรือลักษณะของเม็ดเลือดแดง แค่ 3 อย่างนี้ก็มี variation มากมาย นศพ. ก็ต้องดูจนเหนื่อยแล้วครับ ดังนั้นผมจึงยังคงยืนยันว่า นศพ. ควรมีกล้องศึกษาคนละ 1 กล้อง ซึ่งนศพ. จะได้ผลประโยชน์สูงสุด ผมขอย้ำว่าไม่มีโรงเรียนแพทย์ที่ไหนหรอกครับที่ให้ นศพ. ใช้กล้องร่วมกัน 1 กล้องต่อ นศพ. 2 คน ไม่แน่นะครับที่นี่อาจเป็นแห่งแรกก็ได้ ส่วนการบริหารจัดการโดยนำวิทยาการใหม่ๆเข้ามาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนนั้นทางผมได้ปรับปรุงไปแล้วบางส่วน และขอขอบคุณที่มีบางท่านให้ข้อมูลเรื่องการจัดทำสื่อต่างๆที่ทันสมัยมา ผมจะพยายามศึกษาและนำมาใช้ครับ
เรื่องเอกสารประกอบการสอนที่ block แจกให้ทุกปีผมยังคงแจกให้ต่อไปและดีใจครับที่น้องๆได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อในชั้นคลีนิก
ท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้ความเห็นที่ดีๆ ขอความเห็นมากๆครับเพื่อนำไปชี้แจงให้ผู้ที่เคยลืมไปว่าตอนตนเองเป็น นศพ. (ซึ่งบางคนผมเคยสอนมาด้วยนั้น) ว่าถ้าอาจารย์สมัยนั้นให้ท่านใช้กล้องจุลทรรศน์ 1 กล้อง ต่อท่าน 2 คนท่านจะเห็นด้วยหรือเปล่าครับ.

Posted by จิตวัต รุ่งเจิดฟ้า(jittawat) 2004-09-12 , 18:37:36 , 203.155.183.176






ผมลืมบอกนะครับว่ากล้องจุลทรรศน์ที่นำมาให้ นศพ. ได้เรียนรู้ทักษะการดูสิ่งต่างๆจากกล้องฯไม่ได้ใช้เฉพาะ block ใด block หนึ่งเท่านั้น แต่ใช้สอนในหลาย block เพราะฉะนั้นถ้าให้ นศพ. ใช้กล้องจุลทรรศน์ 1 กล้องต่อ นศพ. 2 คน ทุก block ที่มีการเรียนรู้ด้วยกล้องฯจะกระทบเหมือนกันหมด นั่นคือ นศพ. ปี 2 ก็จะถูกกระทบด้วยครับ ผมว่าอาจารย์ที่สอน LAB หลายคนคงไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะ LAB ทาง CLINICAL PATHOLOGY ซึ่งต้องสอนให้ นศพ. ดู urine stool CSF และ HEMATOLOGY ซึ่งจะไม่เหมือนการดู slide section ที่ทางอาจารย์ ANATOMICAL PATHOLOGY สอนชึ่งสอนโดยให้ นศพ. ดูแค่รูปถ่ายก็คิดว่าพอแล้วและเมื่อ นศพ. ขึ้นชั้นคลีนิกก็ไม่จำเป็นต้องอ่าน slide section ด้วย
ขอย้ำถึงอาจารย์ผู้เกี่ยวข้องเรื่องการตัดสินใจว่าจะให้เพิ่มกล้องจุลทรรศน์หรือไม่ทุกท่านคำนึงถึง นศพ.ทุกท่านด้วย คำนึงถึงกระบวนการเรียนรู้ที่ท่านย้ำแล้วย้ำอีกว่าเน้น SKILL ของ นศพ. และขอให้ท่านอาจารย์นั้นลองย้อนไปถึงตอนที่ท่านเป็น นศพ. ซิครับว่าท่านอยากให้อาจารย์ท่านสอนท่านอย่างไรท่านถึงคิดว่าดีที่สุด ท่านhappy ที่จะใช้กล้องฯ 1 กล้องต่อ2คนหรือครับ.

Posted by นพ.จิตวัต รุ่งเจิดฟ้า(jittawa) 2004-09-12 , 20:09:45 , 203.155.183.176






ช่วงนี้ใกล้สอบกันอยู่คะ
คิดว่าสอบเสร็จ คงมีคนเข้ามาดูกันมากขึ้น
ขอบคุณคะ

Posted by ปี-() 2004-09-13 , 11:04:07 , 172.29.5.169






เพิ่งเข้ามาอ่าน ก็เห็นด้วยกับหลายๆจุด แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ไม่เห็นด้วย เช่นเรื่องกล้องจุลทรรศน์ อยากให้มองในแง่ของการเรียนในภาวะที่มี การใช้งบอย่างจำกัดบ้างและมีประสิทธิภาพ 1:2 แต่สนใจจะดู สนใจจะรู้ทำไมจะไม่เพียงพอ

Posted by ร่วมคิด() 2004-09-13 , 13:34:42 , 172.29.3.63






กรุณาอย่าลดจำนวนกล้องจุลทรรศน์เลยนะคะ เท่าที่กำลังเรียนอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกหวั่นใจว่าจะมีความรู้อะไรไปขึ้นคลินิกแล้วเนี่ยถ้ายังจะลดจำนวนกล้องอีกถามหน่อยเถอะคะว่าทั้งๆที่รู้ว่ามีแต่ข้อเสียกับนศพ(ที่มักจะโดนว่าเป็นประจำว่าเรียนผ่านแต่ละblockมาได้ยังไง)แล้วจะลดทำไมไม่มีใครอยากดูกล้องกับคนอื่นหรอกคะ...............อาจารย์จิตวัตคะหนูอยากให้อาจารย์สอนเต็มที่เหมือนเดิม หนูสัญญาคะว่าจะตั้งใจเรียนblock hemato ถ้าปล่อยให้เรียนรู้เองพวกเราจะไปรู้ได้ยังไงคะว่าตรงไหนที่สำคัญบางทีก็อ่านเรืองที่ไม่ค่อยได้ใช้ลึกมากทำให้ความรู้ของนศพแพทย์แต่ละคนแตกต่างกันมาก.....สุดท้ายมาตรฐานของแพทย์ที่จบไปจากมอ(โดยเฉพาะระบบ PBL)ก็จะตำลงผลเสียก็จะตกอยู่ที่คนไข้มันสมควรแล้วเหรอคะ...............

Posted by ปี 3() 2004-09-17 , 18:
แจ้งข่าวดีแก่ นศพ. ปี2 และ 3 และคำขอบคุณที่น้องๆ นศพ.มาช่วยกันออกความเห็นดีๆจนได้รับการอนุมัติให้จัดซื้อกล้องจุลทรรศน์

ผม นพ.จิตวัต ขอขอบพระคุณ อ.สินีนาฎ และท่าน อ.มยุรี เป็นอย่างสูงที่ได้ช่วยผลักดัน รวมทั้งน้องๆ นศพ.ทุกท่านที่เข้ามาโพสฯสิ่งดีๆ จนทำให้เราได้กล้องจุลทรรศน์เพิ่ม เพื่อใช้ในการเตรียมให้ นศพ.รุ่นน้องที่จะเพิ่มขึ้นอีกมีกล้องจุลทรรศน์ใช้ 1 กล้องต่อ 1 คน โดยที่ไม่ต้องใช้ 1 กล้องต่อ 2 คน ตามที่มีอาจารย์บางคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลมองครับ และกล้องนี้ใช้กับทุก block ในการเรียนการสอน นศพ.ปี 2 ,3 ตลอดทั้งปีครับไม่ใช่ซื้อมาตั้งไว้ว่างๆครับ ผม, อ.สินีนาฎ และท่าน อ.มยุรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญ และประโยชน์สูงสุดในการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆ นศพ. ท่านใดมีโอกาสจะเสนอแนะอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียน น้องๆทุกคนก็ควรออกมาเสนอแนะมากๆนะครับ แล้วสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อน้องๆก็จะสำเร็จครับ เพราะยุคนี้ประชาธิปไตรครับไม่ใช่ยุคที่ หัวหน้าหรือ อาจารย์ท่านใดจะใช้ระบบเผด็จการกับ นศพ. ครับ

Posted by นพ.จิตวัต รุ่งเจิดฟ้า(jittawa) 2004-09-14 , 11:25:01 , 172.29.1.209






อ่า คับ

Posted by P|atino() 2004-09-14 , 11:47:59 , 172.29.5.59






ขอให้ความเห็นนะครับ จากใจจริง...

การจัดสื่อการเรียนการสอนจะคำนึงถึงผู้เรียนเป็นอันดับแรก และการซื้อสื่อเป็นสิ่งที่ง่าย และทำให้เพียงพอได้ในบัดดลทันตาเห็น แต่ผมคิดว่าคงไม่ใช่ระบบเผด็จการอย่างที่ อ.จิตวัต ว่านะครับ เพราะการจะทำอะไรมันต้องมองทุกๆด้าน เรามีกล้องใช้เพียงพอหรือยังเป็นเรื่องที่น่าคิด และคิดว่าทางภาควิชาต้องถกเรื่องนี้แล้ว และคงมีความเห็นเป็น 2 กลุ่มที่ไม่ตรงกัน และทุกฝ่ายคงไม่อยากลดคุณภาพว่ากล้อง 1 ตัว ใช้ 2 คน น่าจะมองที่นักเรียน มองคณะ มองประเทศชาติ ถ้ากล้องได้ใช้งานมากจริง เช่น เรียนทั้ง เช้า และ บ่าย ก็ควรซื้อเพราะใช้งานอย่างเต็มที่ แต่ถ้าใช้ตอนเช้า และ บ่าย ไม่มีคนใช้ (ไม่ทราบว่าเป็นอย่างนี้หรือไม่ เพราะมีบ่อยครั้งที่ผ่นไปแล้วพบว่าห้องว่าง ไม่มีคนใช้) ก็แสดงว่า เราน่าจะจัดการบริหารให้ใช้ของที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดก่อนที่จะคิดว่าต้องซื้อเพิ่ม เช่นเป็นไปได้มั๊ยที่จะแบ่ง นศพ. เป็น 2 กลุ่ม อย่างเก่งก็กลุ่มละไม่เกิน 100 ก็จะทำให้กล้องเหลือ และเป็นการใช้กล้องให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าสูงสุด แต่ก็หมายความว่า อ.ก็ต้องสอน 2 รอบ ซึ่งตรงนี้คงกระทบบ้าง แต่จำนวนอาจารย์ก็ต้องอิงกับจำนวนนักเรียนอยู่แล้ว ภาระงานของอาจารย์เมื่อมี นศ เพิ่มก็ควรจะเพิ่มด้วย ไม่ใช่ว่า นศ.100 คน ใช้ อ. 5 คน พอมี นศ. 150 คน ก็เพิ่มกล้อง อีก 50 แต่ อ. สอนเท่าเดิม ควรเพิ่มสัดส่วนตามจำนวนนักเรียน ดังนั้น เมื่อ นศ. เพิ่มขึ้น ก็ควรเพิ่มจำนวน อ. ด้วย แต่ถ้า อ. มีจำนวนเท่าเดิม อยากให้ผลเท่าเดิม อ. ต้องเพิ่มงานครับ

Posted by อาจารย์() 2004-09-14 , 11:53:41 , 172.29.3.134






ขอบคุณอาจารย์ที่แนะนำดังกระทู้ข้างบน ครับเห็นด้วยกับอาจารย์ที่แนะนำทุกอย่างครับ แต่ในที่ประชุมภาคฯมีอาจารย์บางท่านเสนอให้แบ่งสอน 2 ผลัดเหมือนกันครับ ซึ่งผมและอาจารย์ CLINICAL PATHOLOGY ( CP ) เกือบทั้งหมดยินดี เห็นด้วย และเต็มใจทุ่มเทสอนอยู่แล้วครับ แต่อย่างที่กล่าวไว้ในกระทู้เรื่อง "block hemato oncology ผมเข้ามาขอบคุณทุกท่านที่ให้ความเห็นและตอบสิ่งที่ทุกท่านสงสัย และอยากให้ช่วยออกความเห็นมากกว่านี้ " ว่ามีอาจารย์ส่วนหนึ่งจะไม่มาสอนครับ ทำไงได้ละครับผมคงมิอาจสั่งให้ท่านมาสอนได้หรอกครับ เรื่องการใช้กล้องจุลทรรศน์ให้คุมค่าและได้ประโยชน์สูงสุดก็แน่นอนครับ คงต้องร่วมกันกับทางหน่วยงานแพทย์ศาสตร์ว่าควรบริหารจัดการห้อง LAB ให้ใช้ประโยชน์เต็มวันได้อย่างไร. ขอบคุณอาจารย์ที่แนะนำครับ.


Posted by จิตวัต รุ่งเจิดฟ้า(jittawa) 2004-09-14 , 12:32:37 , 172.29.1.209






ไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีที่อ.จิตวัตนำมา post บนกระดานอภิปรายแบบนี้ เหมือนว่าไม่ได้รับการยอมรับความเห็นจากที่ประชุมแล้วมาโวยวายข้างนอก พอไม่ได้ตามที่ต้องการก็กลายเป็นว่าผู้ที่ไม่เห็นชอบเป็นเผด็จการ หรือวิสัยทัศน์-สายตาแคบ ออกจะไม่เป็นธรรม และไม่ใช่วิธีการที่อาจารย์ควรทำเลย

Posted by อาจารย์-กัน() 2004-09-15 , 15:39:48 , 172.29.3.184






การให้ลูกศิษย์มาpostบนกระดานข่าวโดยที่เด็กๆไม่ทราบความมาเป็นไป มันน่าเกลียดที่จะเอาความดีใส่ตัว ความชั่วให้คนอื่น

Posted by อาจารย์ใหญ่() 2004-09-15 , 21:51:47 , 172.29.3.239






เป็นอีกหนึ่งบทเรียน ที่บุคคลที่เกี่ยวข้องควรตระหนัก แต่ละคน แต่ละกลุ่ม ย่อมมีวิธีคิด ที่แตกต่างกัน ระบอบประชาธิปไตย ย่อมแสดงความคิดเห็นกันได้ เมื่อระดับบุคคล สู้เสียงในกลุ่มไม่ได้ก็ควรเคารพกติกากันบ้าง เพราะส่วนใหญ่ย่อมคิดได้รอบด้านและชั่งความเหมาะสมได้ดีกว่าคนเดียว แต้ถ้ารู้สึกว่าถูกพวกมากลากไปแล้วต้องการความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่เหนือกว่าก็น่าจะกระทำได้ แต่มีสิ่งที่น่าคิดคือ ผู้อยู่เหนือกว่าควรต้องคิดพิจารณาอย่างรอบคอบว่าทำไมกลุ่มจึงมีความคิดเห็นไปอีกด้าน ต้องสอบถามจากทุกฝ่ายก่อนตัดสินใจ

Posted by ร่วมคิด() 2004-09-16 , 08:37:57 , 172.29.3.156






ที่ประชุมภาคน่าจะเป็นความเห็นของคนหมู่มากอยู่แล้ว การ lobby ข้ามขั้นเป็นประชาธิปไตยแล้วหรือ

Posted by อ.?() 2004-09-16 , 12:32:33 , 172.29.2.118






" การให้ลูกศิษย์มาpostบนกระดานข่าวโดยที่เด็กๆไม่ทราบความมาเป็นไป มันน่าเกลียดที่จะเอาความดีใส่ตัว ความชั่วให้คนอื่น" แล้วคุณอาจารย์ใหญ่คิดว่าคุณเป็นคนชั่วมากกว่าเป็นคนดีใช่ไหม? คุณรู้ไหมว่าเด็กเขารู้ว่าใครชั่วใครดีทั้งนั้นแหละ. แน่จริงคุณอาจารย์ใหญ่แสดงออกมาซิว่าคุณเป็นคนดีมากกว่าเป็นคนชั่ว.


Posted by อาจารย์ใหญ่กว่า(อาจารย์ใหญ่กว่า) 2004-09-16 , 17:19:43 , 203.155.183.231






อย่างน้อยคิดว่าอาจารย์จิตวัตก็ทุ่มเทการเรียนการสอนให้กับนักศึกษา ขนาดอาจารย์อยู่ภาควิชาพยาธิวิทยายังต้องสละเวลามาช่วยสอน lab hemato ของภาควิชาอายุรศาสตร์และยังทุ่มเทการสอนดีกว่าอาจารย์ hemato ภาคmed เองเสียด้วยซ้ำ

Posted by ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์() 2004-09-16 , 23:12:34 , 172.29.4.98






อาจารย์-กัน----ตัวจิงเรอะ
อาจารย์ใหญ----ใช้ชื่อท่านผู้มีพระคุณได้ไง เด๋วท่านก้อเอาไปอยู่ด้วยร่อก

Posted by 1:1น่ะดีแล้ว() 2004-09-17 , 18:29:55 , 172.29.4.129






การแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม ถ้ามีพวกมากลากไปอะไรๆที่สรุปออกมามันก็ไม่เป็นธรรมกับ นศพ. อย่างพวกเราซิ เอาใจช่วย อ.จิตวัต ที่ทำอะไรๆเพื่อ นศพ.มาตลอดโดยท่านไม่เคยคิดว่าเป็นการเอาความดีเข้าตัว เอาความชั่วให้คนอื่น อาจารย์อื่นๆควรดูเป็นตัวอย่างนะ จาก นศพ.คนขาเดี้ยงเชิดหุ่นคนแคระความดีความชอบมาเร็วโดยไม่ออกแรงทำเองมาก

Posted by คนขาเดี้ยงเชิดหุ่นคนแคระ หวังค(คนขาเดี้ยงเชิดหุ่นคนแคระ หวังค) 2004-09-18 , 14:05:48 , 203.155.172.114




Posted by : เอ้าพวกเรา นศพ. มาช่วย อ.จิตวั , E-mail : (คนขาเดี้ยงเชิดหุ่นคนแคระ) ,
Date : 2000-01-01 , Time : 14:33:52 , From IP : 203.155.172.114


ความคิดเห็นที่ : 1


   ตอนนี้ผมเป็น พชท. ครับ ไม่ได้เรียน med หรอกครับ
และไม่ค่อยได้ใช้กล้องจุลทรรศ์มากนัก
แต่อยากบอกว่า ขณะที่ผมทำงานในปัจจุบัน
การแปลผล CBC หรืออย่างอื่น เป็นสิ่งที่สำคัญกับผม
การใช้กล้องจุลทรรศ์ ก้อมีความจำเป็นมากสำหรับผมในการดูเพื่อหาตัวเชื้อโรคหรือ cell ที่แปลก และจำเป็นต่อการรักษาคนไข้ของผม แม้จะไม่บ่อยก้อตาม
ซึ่งผมคิดว่า การใช้เป็นหรือไม่ การดูออกว่าเป็นตัวอะไร cell อะไร
มันคิดตัวผมมาตั้งแต่ตอนเรียนแล้วครับ
และคงติดตัวคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน
ดังนั้นการเรียนรู้การใช้กล้อง การดูสิ่งต่างมีความจำเป็นมากต่อการเป็นแพทย์
รวมทั้งการแปลผลด้วย
ตอนเรียน ผมใช้กล้องเก่าๆ ครับ แต่ก้อ1 : 1
ถ้าผมต้องใช้ร่วมกับคนอื่น ทักษะคงเกิดขึ้นน้อยมาก
การขี้เหนียวเรื่องการซื้อกล้อง ไม่เห็นด้วยครับ ยิ่งต้องแบ่งแล้ว ไม่น่าสนุกนัก
ได้มีการตบตีแย่งชิ่งกันดูแน่
แต่ยังงัยก้อคงต้องให้ นศพ.ที่ใช้ช่วยกันดูแลรักาที่มีอยู่ด้วยครับ
ประโยชน์จะได้ตกแก่ท่าน ผู้อื่น จนถึงรุ่นน้องต่อๆไป


Posted by : x-men , Date : 2004-09-20 , Time : 19:31:13 , From IP : 172.29.3.75

ความคิดเห็นที่ : 2


   สงสัยนิดหน่อยครับพี่เอ็กซเมน การตรวจนับเม็ดเลือดแบบ CBC ในปัจจุบันใช้เครื่อง cytometry น่ะครับ ลองดูบนรายงานที่แลปส่งมาให้สิครับ (หากเป็นโรงพยาบาลของเราไม่มีให้ดูครับ เพราะรายงานผลผ่านระบบเครื่อข่าย) มันจะมีรูปเซลล์วิ่งเป็นกระจุกบนกราฟสองมิติที่พลอทระหว่างขนาดของเซลล์กับขนาดของออร์กาเนล
.
อันนี้เราควรเรียนวิธีการอ่านกราฟกันด้วยไหมครับผม
.
เวลาเราส่งตรวจแลปชนิดเดียวกันนี้ (CBC) แล้วมักจะวงเล็ปแนบท้ายว่า "ขอสไลด์" นั้น มีสไลด์กี่ใบในร้อยใบที่ได้รับการเอามา "ส่อง" ดูเพื่อทบทวน
.
เวลาที่เราได้รับรายงานว่าในขี้ของคนไข้มีไข่พยาธิ มีกี่ครั้งที่เราได้ไปดูด้วยตนเอง หรือมีกี่ครั้งที่ผลการย้อมกรัมบนหอผู้ป่วย ได้ถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจให้การรักษาผู้ป่วยอย่างจริงจัง
.
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกล้องเดียวสองกล้องนะครับ ผมมิกล้าวิพากษ์เรื่องนั้นจริง ๆ ด้วยความเคารพ (สมัยผมเรียนแถว ๆ สวนลุม เขาก็ให้เรียนคนละครึ่งกล้องครับ) แต่ประเด็นที่ผมฉุกคิดขึ้นมาเมื่อพี่เอ็กซ์เม็นจุดประกายก็คือ
.
บริบทในการใช้ข้อมูลทางคลินิกได้เปลี่ยนไปมาก และเปลี่ยนอยู่ทุกวัน บางครั้งเราส่งเราสั่งเป็นกิจวัตรโดยที่มิได้แน่ใจว่าเรา rely on ข้อมูลเหล่านั้นได้มากแค่ไหน หรือผลที่กลับมาจะมีส่วนในการสั่งการรักษาอย่างไร มีการส่งตรวจหลายอย่างที่น่าคิดน่าศึกษาจริง ๆ ครับ เช่น
.
การส่ง CBC UA BUN CR Electrolyte ในคนไข้ศัลยศาสตร์ทุกรายที่รับไว้
การส่ง Chest X-rays ก่อนการดมยาสลบ
การเลือกส่ง acute abdominal x-rays เป็นอันดับแรกในผู้ป่วยปวดท้อง
การส่ง UA ในผู้ป่วยซึ่งแน่ใจว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ
ฯลฯ
.
เห็นคล้องกับพี่เอ็กซ์ครับว่า การดูเม็ดเลือดให้เป็น การหาเซลล์ประหลาดให้เก่งจะทำให้เราเก๋าในงานคลินิกมากขึ้นและควรกระหายที่จะเรียน (ขนาดซื้อกล้องมาให้ครบคน)
.
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เมื่อพ้นวันที่ขยันดูกล้องเหล่านั้นมาแล้ว ทุกวันนี้พวกเราสนใจ "เม็ดเลือดหรือตัวประหลาด" ที่ว่านั่น
.
จริงอ๊ะเป่านะ


Posted by : Shonigega , Date : 2004-09-21 , Time : 12:02:41 , From IP : pedsurg.med.osaka-u.

ความคิดเห็นที่ : 3


   ความคิดเห็น การยอมรับ ความคิดเห็นที่แตกต่าง บทสรุป ความขัดแย้ง การแสดงออก ทางเลือก ทางปฏิบัติ หน้าที่ บทบาท อาจารย์ นักศึกษา เส้นทางสายกลาง ความเหมาะสม ความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ได้ คิดผิดเห็นชอบ วิธีการ ความเป็นผู้ใหญ่ ความคิดเห็นแบบเด็ก การเรียนรู้ ทักษะ การควบคุมอารมณ์ อาจารย์แพทย์ นักศึกษาแพทย์ ความเพียร การฝึกฝน การตั้งมั่นอยู่ในความชอบ การเคารพในความคิดเห็น เป้าหมายของชีวิต การวางกรอบ

Posted by : ระเมียดระไม , Date : 2004-09-21 , Time : 22:29:55 , From IP : 203.150.217.112

ความคิดเห็นที่ : 4


   ก็ไม่ใช้เงินพ่อแม่ ตัวเองนี่ครับ เป็นภาษี ประชาชนนี่หว่า ไม่เห็นต้องสนใจเลย ซื้อ ไปเลยครับ เอาเยอะๆ เหลือใช้ก็ตั้งไว้ไม่เห็นเป็นไร น่าเห็นใจผู้บริหารนะครับ วันๆ นั่งคิดว่าจะใช้งบประมาณอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด แต่พวกเด็ก กลับคิดว่าจะทำยังไงให้ตัวเองสบายที่สุด

Posted by : r , Date : 2004-09-22 , Time : 05:50:44 , From IP : 203.107.133.182

ความคิดเห็นที่ : 5


   ขอแสดงความคิดเห็นในส่วนของการที่อ.จิตวัตมา post บน web board เพื่อขอความเห็นนักศึกษาคิดว่าเป็นส่วนที่ดีเนื่องจาก อันดับแรกคือเราเรียนแบบใช้นักศึกษาเป็นศูนย์กลางหากว่าส่วนใดที่เป็นความพึงพอใจของนักศึกษาส่วนใหญ่ก็น่าจะได้รับการพิจารณาบ้างและอีกอย่างรู้สึกว่าอาจารย์แพทย์บางครั้งในที่ประชุมอาจารย์ขอความเห็นนักศึกษาแต่กลับกลายเป็นว่าความเห็นของนักศึกษาไม่ได้รับการพิจารณาและมีนักศึกษาแพทย์ส่วนหนึ่งที่ไม่กล้าออกความคิดเห็นในที่ประชุมอีกด้วย วิธีนี้จึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง

Posted by : นักศึกษาแพทย์ , Date : 2004-09-30 , Time : 20:11:46 , From IP : 172.29.2.93

ความคิดเห็นที่ : 6


   ขอแสดงความคิดเห็นในส่วนของการที่อ.จิตวัตมา post บน web board เพื่อขอความเห็นนักศึกษาคิดว่าเป็นส่วนที่ดีเนื่องจาก อันดับแรกคือเราเรียนแบบใช้นักศึกษาเป็นศูนย์กลางหากว่าส่วนใดที่เป็นความพึงพอใจของนักศึกษาส่วนใหญ่ก็น่าจะได้รับการพิจารณาบ้างและอีกอย่างรู้สึกว่าอาจารย์แพทย์บางครั้งในที่ประชุมอาจารย์ขอความเห็นนักศึกษาแต่กลับกลายเป็นว่าความเห็นของนักศึกษาไม่ได้รับการพิจารณาและมีนักศึกษาแพทย์ส่วนหนึ่งที่ไม่กล้าออกความคิดเห็นในที่ประชุมอีกด้วย วิธีนี้จึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง

Posted by : นักศึกษาแพทย์ , Date : 2004-09-30 , Time : 20:12:14 , From IP : 172.29.2.93

ความคิดเห็นที่ : 7


   อาจารย์จิตวัตสุดยอดเลยค่ะ block hemato เป็น block ไม่กี่ block ที่ยังจำได้จนทุกวันนี้ อาจารย์ทุมเทเพื่อพวกเรามากๆ ตอนนั้นเรียนกันแทบสลบ แต่ตอนนี้รู้สึกว่ายังจำความรู้ที่อาจารย์สอนได้ดี
ขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะที่ทำเพื่อพวกเรา


Posted by : student , Date : 2005-08-09 , Time : 17:07:37 , From IP : 172.29.4.197

ความคิดเห็นที่ : 8


   น่าจะมีรูปกล้องจุลทรรศ์ประกิบ


Posted by : เด็กดี , E-mail : (ljutrnje) ,
Date : 2006-02-14 , Time : 15:44:46 , From IP : 203.172.165.17


ความคิดเห็นที่ : 9


   น่าจะมีรูปกล้องจุลทรรศ์ประกิบ


Posted by : เด็กดี , E-mail : (ljutrnje) ,
Date : 2006-02-14 , Time : 15:44:47 , From IP : 203.172.165.17


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<