ความคิดเห็นทั้งหมด : 7

การรับ/ส่งเวร ที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร


   ผมอยากทราบความคิดเห็นว่า คิดว่าการรับส่งเวรที่เหมาะสม และที่ดีควรเป็นอย่างไร ผมว่าเราเป็นโรงเรียนแพทย์แห่งเดียวในภาคใต้ แต่ว่ายังไม่ระบบการรับ/ส่งเวรที่เหมาะสมกันเลย บางคร้งทำให้ผู้ป่วยเสียประโยชน์ และเกิด medical error ขึ้นได้ครับ ภาควิชาแต่ละภาควิชาก็มีวิธีต่างกันไป อย่างเช่นภาควิชาผมเป็นแบบ ตัวใครตัวมันครับไม่มีระบบ
พอดี ได้อ่านเรื่อง Safe Handover: Safe Patients ที่มีคนส่งมาให้ครับ อ่านแล้วรู้สึกว่าถ้าเราทำได้ก็น่าจะดีนะครับ หรือ ประยุกต์มาใช้ให้เหมาะสมน่าจะดี เอกสารชุดนี้ มาจาก British Medical Association (ประเทศสิงโตสามตัวที่ คุณ Phoenix เคยไปฝึกวิทยายุทธน่ะครับ) ผมเลยอยากให้เข้าไปอ่านกัน แล้วลองช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยซิครับว่าเราจะพัฒนา หรือปรับปรุงให้บังเกิดขึ้นดีหรือไม่ เรียนเชิญคุณPhoenix ด้วยนะครับ ในฐานะเคยมีประสบการณ์จริง
เข้าไปดูกันนะครับที่ http://www.bma.org.uk/ap.nsf/Content/Handover

ผมเอาตัวอย่าง ความบกพร่องของ handover แล้วทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมาให้อ่านกันครับ

Saturday morning handover:
‘Please take Mrs Smith’s bloods, I think her kidney function may be deteriorating.’
Saturday day shift Mrs Smith’s blood taken. Busy shift so results not checked.
Saturday night handover:
‘Please check Mrs Smith’s results.’
Saturday night shift Results chased and found with some difficulty after the ward insisted they had not been taken. Results appear normal.
Sunday morning handover Handover interrupted by emergency call... Mrs Smith suffers cardiac arrest.

Critical incident review
1. Handover did not detail that there were two patients called Mrs Smith on the ward. Bloods were taken from the wrong Mrs Smith.
A. Why were her bloods not checked?
2. The results of bloods taken from the incorrect patient were not chased by the team that knew the reason for the tests. They may have been cautious about a normal set of results from a patient known to have renal problems.
B. Where did the problem start?
3. The outgoing team did not fully hand over the reasons for investigation. The potassium kept rising over the weekend for the correct Mrs Smith affecting her safety. Later that weekend she suffered a hyperalaemic cardiac arrest.


Posted by : Kangaroo on board , Date : 2004-09-09 , Time : 08:06:15 , From IP : 202.174.35.123

ความคิดเห็นที่ : 1


   ผม ไม่เข้าใจ เรื่องการรับส่งเวร ครับว่าพูดกันถึงประเด็น ไหน

ถ้าจำไม่ผิด เคยมี กระทู้ล่าง ๆ พูดถึงการส่งเวร ว่า ขณะ ส่งเวร ไม่มีคนรับ ออเดอร์ หรือ ดูคน ไข้ ไม่รู้ ว่าพูดถึง ประเด็น นี้ หรือป่าว


Posted by : sopenee , Date : 2004-09-09 , Time : 13:20:00 , From IP : ppp-61.90.25.143.rev

ความคิดเห็นที่ : 2


   ผมคิดว่าระบบส่งเวรทีดีกับระบบโรงพยาบาลที่ดีนั้นไปด้วยกัน ในเมืองไทยก็สามารถหาตัวอย่างได้พอสมควร ผมไม่ได้อยู่ moonlight ที่อังกฤษ แต่ขอวิจารณ์จากของที่เราทำกัน และข้อบกพร่องต่างๆก็แล้วกัน

ลักษณะการทำงานจะค่อนข้างสำคัญมากครับ การทำงานของ Med Surgery OBgyn ต่างๆจะมีรายละเอียดและผลกระทบไม่เหมือนกัน การทำงานของศัลย์นั้น จะเป็นลักษณะที่จำเพาะและ customized สำหรับผู้ป่วยแต่ละรายมาก ข้อมูลสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ operative findings นั้นประกอบเป็นหลักฐานข้อมูลที่จะกระทบกระเทือนต่อการตัดสินใจสูงมาก ไม่เพียงแต่เท่านั้น เมื่อลงเอยมาถึงการตัดสินใจ options ต่างๆในการผ่าตัด ยังมีหลากหลายยประเด็นที่เป็น personal preferences ได้อีก เช่น continuous stitching, suture materials, types and sub-type of operation, etc บางอย่างเปรียบเทียบผลการรักษาแบบ evidence-based ยากเพราะเป็น manual skill ซะเยอะ ใครถนัดยังไงก็จะทำยังงั้นดี สวย และได้ผลดี ถ้าให้เปลี่ยนก็จะอาจจะไม่ได้ผลดีเท่ากับการทำอีกแบบ ซึ่งคนอื่นถนัด หรือถ้ายังพยายามจะเลียนแบบก็อาจจะไม่สู้ของที่ตนทำอยู่ทุกวี่วัน

ด้วยเหตุผลข้างต้น บางระบบจึงเป็นการอยู่เวรของสาย คือทีมในสายนั้นๆผลัดกันอยู่เวร เพราะจะรู้ข้อมูลและเหตุผลในการตัดสินใจ โดยทั่วไป chief สายของศัลย์ตามระบบนี้ก็จะมีความหมายโดยนัยว่าอยู่เวรทุกวันนั่นเอง เพราะจะเป็นคนที่รับทราบรายงานจากน้องๆในทีมก่อนตัดสินใจหรือรายงานอาจารย์ทุก case และ staff ก็จะรู้สึก comfortable ที่จะมี final say ถ้าเป็น case ของตนเองมากกว่าที่จะมอบหมายให้ staff ทีมอื่นที่อาจจะอยู่เวรฉุกเฉินของวันนั้นๆ (ซึ่งก็จะไปรับคนไข้ใหม่แทน)

ทำอย่างนี้ความเข้าใจเบื้องต้นอย่างตัวอย่างข้างบนจะไม่เกิดขึ้น จะไม่มีการเข้าใจผิดว่าป้าสายหยุดคือป้าสายฝน ลุงคล้อยกลายเป็นลุงเคลื่อน ซึ่งจะเกิดขึ้นในการ "ส่งเวรข้ามสาย" ผมว่าเป็น common practice อีกอย่างใน case ที่หนัก หรือวิกฤติที่ทีมในสายจะเฝ้าเอง ดูเองจนพ้นวิกฤติ ตรงนี้จะประหยัดเวลาการส่งเวรอย่างมาก ถ้าเราเห็นความหนาของเวชระเบียนของผู้ป่วยบางราย

สรุปแล้วการอยู่เวรเป็นทีมหรือสายดูของสายเป็นระบบหนึ่งที่ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหา break down in communication ได้ effective ที่สุดอย่างหนึ่ง



Posted by : Phoenix , Date : 2004-09-09 , Time : 16:01:24 , From IP : 172.29.3.62

ความคิดเห็นที่ : 3


   Part II

ที่นี้ว่าถึงระบบทั่วๆไปที่มีการส่งต่อโดยแพทย์คนละทีมนะครับ

จริงอยู่ที่โดยทั่วๆไป เราจะรู้ว่าคนไข้คนไหนในสายของเราจะมีปัญหา และเพื่อให้การทำตรงนี้ smooth ที่สุด เราต้องทำยังไงก็ได้ให้มั่นใจที่สุด (และเราสบายใจที่สุด) ว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับคนไข้เรา ก็จะต้องบอกให้เวรรับทราบ ตรงนี้แม้แต่ระบบที่ดูเป้นสายอย่างข้างต้นก็ทำกันอยู่ พวกเล้กๆน้อยๆ เช่น ฝากทำแผล ฝาก follow up Hct ฝากตามผล Elytes นิดหน่อยๆ สมัยผมอยู่ พชท. เรามีด้วยกัน 7 คนสามชั้นปี ก็เดินวนไปวนมาฝากไปฝากมานี่แหละครับ ไม่งั้นก็ไม่ได้ไปไหนกันพอดี เพื่อนเราพี่เราที่อยู่เวรถ้ารู้ล่วงหน้าจะมีอะไรโยนลงมาบ้าง (ตอนนั้นเนื่องจากคนมันน้อย วันนึงมีแค่สอง call บางที่ first call ก็กลายเป็นรุ่นพี่เราได้เหมือนกัน!!!) จะได้ไม่หงุดหงิดตอนพยาบาลกำลังปอกมะม่วงให้แล้ว ward ตามเพื่อจะรายงานผลอิเลคโตรไลต์ให้มันเสีย mood เสีย momentum ซะเปล่าๆ ถ้อยทีถ้อยอาศัยครับ

ตรงนี้ผมว่ามันไม่ได้ขึ้นกับระบบมากเท่ากับอีกสองอย่าง คือ ๑) ความรับผิดชอบต่อคนไข้ และ ๒) ความเห็นใจและเข้าใจเพื่อนร่วมงาน ถ้าเรามีสองอย่างนี้ เรื่องการส่งเวรจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ข้อมูลที่จำเป็นต่างๆมันจะไปตกกับถูกบุคคลและครบถ้วนแน่ๆ

"แต่ถ้า" อยากให้ระบบเป็นตัวควบคุมคุณภาพการส่งเวรก็ทำได้หลายวิธีครับ เช่น
๑) written report and counter sign ผมเป็น safety officer of department และคุม lab ของภาควิชาฯ ที่อังกฤษ เวลามีคนเข้ามทำ lab หรือเข้ามาใน premise ที่ผมดูแลอยู่ หน้าที่รับผิดชอบของผมคือ make sure ว่าคนๆนั้นรู้เรื่อง safety precautions ทุกอย่าง เช่น การใส่ goggle ป้องกันดวงตา การใส่ถุงมือสีต่างๆสำหรับสารเคมีชนิดต่างๆ บันไดหนีไฟอยู่ตรงไหน ที่ดับเพลิงอยู่ตรงไหน มีใครแพ้สารอะไร กล่องยาฉุกเฉินอยู่ที่ไหน ฯลฯ ผมก็จะมี note เรื่องนี้อยู่เล่มนึง เอาคนๆนั้นมานั่งฟังๆๆๆๆ เสร็จแล้วก็เซ็นชื่อโดยทั้งสองคน จบ ถ้าจะดัดแปลงที่เรา ก็อาจจะแค่ signs "ใบส่งเวร" ระหว่างตัวแทนสายหรือตัวแทนทีมทุกทีมกับคนที่อยู่เวร ถ้าเกิดอะไรนอกเหนือจากข้อมูล (ตรงนี้อาจจะต้องบอกด้วยว่าส่งเฉพาะเตียงไหน ห้องไหน) คนส่งหรือถูกส่งจะต้องรับผิดชอบไปตามระเบียบ
๒) oral passing เดินราวน์ส่งเวรก่อนสะบัดก้นออกจากโรงพยาบาล (สะบัดขึ้นอยู่กับความใหญ่และความแรงของเอว บางคนก็อาจจะไม่ค่อยไหวแล้ว) เป็น routine work ดังนั้น ทุกคนรู้กันอัตโนมัติว่าต้องทำ ไม่ต้อง sign ให้เมื่อยตุ้ม ถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นทั้งสอง parties รับไป (เสร้จแล้วไปจัดการส่วนตัวกันเอง หรือเขียนคำร้องเรียนให้สอบสวน)
๓) ใช้เรื่องนี้เป็นหนึ่งใน KPI การประเมินเพื่อสอบ ก็ตรงไปตรงมาครับ ถ้าใครถูกรายงาน (โดย chief) ว่าไม่ได้ส่งเวร ก็นับคะแนนไปเรื่อยๆ จบปีการศึกษาก็ drop บ้าง freeze บ้าง หรือเชิญออกตาม criteria บ้าง ไม่ส่งสอบบ้าง

ก็สุดแล้วแต่บริบท ส่วนของภาคอื่นๆ ไม่กล้าวิจารณืนะครับ มันคงมีรายละเอียดเยอะเหมือนกัน



Posted by : Phoenix , Date : 2004-09-09 , Time : 16:24:52 , From IP : 172.29.3.62

ความคิดเห็นที่ : 4


   อันที่จริงในสำนักวิชาการปาดของเราก็มีการ "ส่งเวร" อย่างไม่เป็นทางการอยู่ครับ
ผมไม่แน่ใจว่าวัฒนธรรมในรุ่นน้อง ๆ ได้พัฒนาไปเป็นอย่างไร ในรุ่นของผมนั้น เนื่องจากห้องพักแพทย์เป็นที่สุมหัวยามเย็น เป็นเหมือนร้านกาแฟของมือดาบสำนักเขาคอหงส์จะมานั่งทอดหุ่ย คุยระบายความเหนื่อย แลกเปลี่ยนเรื่องที่พบเจอในแต่ละวัน ในเรื่องที่คุยเหล่านั้น นอกจากการนินทาซินแสซึ่งเป็นเรื่องยอดนิยมแล้ว ก็จะมีบทสนทนาทำนอง
.
วันนี้ตี๋อยู่เวรเหรอ
.
ครับศิษย์พี่
.
พี่ฝากดูคุณเสริมเตียงยี่สิบหน่อยสิ ท่าทางแกจะมีไข้ พี่สั่งตรวจเลือดไว้แล้ว เดี๋ยวพี่ต้องพาแม่นางฮุยไปกินไก่ซะหน่อย
.
ครับศิษย์พี่ หากเม็ดเลือดขาวสูงข้าให้โอสถแกเลยนะครับ
.
ดี ยังไงเดี๋ยวพี่มา
.
ซื้อไก่ฝากข้าด้วยละกัน
.
...
ผมเองเป็นผู้น้อยที่ตระเวนศึกษามาหลายสำนักและได้เห็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมการส่งเวรอยู่เวร อยู่บ้าง บางสำนักแม้แต่คนไข้ฉุกเฉินที่รับมาจากห้องตรวจผู้ป่วยนอก แต่พ้นห้วงเวลาไปแล้ว ก็ฝากเวรปาดให้ บางสำนักนั้นทุกวันจะสามารถจัดจอมยุทธในสายทุกสายอยู่เวร และถือว่า ชิบ (ชิฟ,ฉิบ,ชีพ, Chief) ของสายนั้นจะต้องรับผิดชอบตามตัวได้ตลอดเวลา การที่เรามีคนน้อยกว่าอาจเป็นข้อจำกัดที่จะทำเช่นนั้น แต่เราก็มีวัฒนธรรมของการ "รับผิดชอบผู้ป่วยในความดูแล" ในแบบของเราที่เข้มแข็งไม่ต่าง ผมได้ข่าวมาว่าเดี๋ยวนี้เรามีการส่งเวรศัลยกรรมในหออภิบาล
.
กระนั้นก็ตามเรื่อง "ความถูกต้องและครบถ้วนในการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วย" ที่ท่านกังการูยกมากล่าวนั้น เป็นเรื่องไม่อาจมองข้าม ตามสังกัปของ risk management ในเมื่อการส่งเวรที่ไม่ครบถ้วน เป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ผู้ป่วยได้รับภยันตรายจากการไม่ได้รับการดูแลในเวลาที่ทีมแพทย์เจ้าของไข้มิได้ประจำการ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เรา คิด วางแผนลดความเสี่ยงไว้ก่อนได้ เรื่องที่เราจะต้องคิดก็คือ
.
ปัญหาที่อาจเกิด นอกจากจะเกิดกับสุขภาพของผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นเรื่องที่อาจต้องมาคิดหนักว่า หากมีเหตุเกิดขึ้น และสาวได้ว่าอาจสัมพันธ์กับการประสานงานที่ไม่ดีพอระหว่างแพทย์ทีมหลักกับแพทย์ผู้ดูแลนอกห้วงเวลา ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบและจะใช้หลักฐานใดอ้างความครบถ้วนในการปฏิบัติหน้าที่ เราคงไม่สามารถใช้นาฬิกาเพียงอย่างเดียวมาปัดความรับผิด
.
เราจะป้องกันปัญหานั้นได้อย่างไร ทั้งโดยการทำให้พวกเราเองตระหนักและทำด้วยความสมัครใจเอง และการสร้าง "ระบบ" ขึ้นมารับประกันคุณภาพ หรือเป็นเครื่องมือขจัดความเสี่ยง
...
การประดิษฐ์ระบบที่ดีที่สามารถแสดงให้เห็นได้ชัดว่า "ลด" ความเสี่ยง ลดเรื่องผิดพลาด หรือคุณภาพการรักษานอกห้องผ่าตัดเพิ่มนั้น ได้บุญไม่ต่างจากการคิดค้นสร้างวิธีปาดที่ดี เป็นสิริมงคลแก่วิชาชีพพอกัน
.
เดี๋ยวผมคงได้ชมฝีมือดาบของจอมยุทธท่านอื่นบ้าง


Posted by : Shonigega ฌŠO , Date : 2004-09-09 , Time : 20:25:04 , From IP : pedsurg.med.osaka-u.

ความคิดเห็นที่ : 5


   จริงอย่างศิษย์พี่โชกล่าวไว้

ในสมัยที่ศิษย์รุ่นระญำยังอยู่ที่สำนักคอหงษ์ ก็มีการส่งเวรแบบไม่เป็นทางการแบบนั้นเช่นกัน

เช่น


เฮ้ย สายเรามีใครอยู่เวรไหมวะ?

มีพี่ ไอ้สัปเหร่ออยู่

เออ เตียง 18 ศัลย์หญิง ไข้ขึ้นว่ะ พี่ว่าถ้ามีอีกพีก เอ็งไปซัดยาเลยนะ นะ นะ นะ

ครับพี่ เอ แล้วพี่รีบไปไหนล่ะ

อ๋อ กูจะรีบกลับบ้านไปเฝ้าแม่ มีอะไรโทรตามกูละกัน โทรให้ติดนะ นะ นะ นะ


ถ้าหากวันนั้นไม่มีคนในสายอยู่เวร sheepสายก็อาจจะต้องสละเวลาโทรมาถามคุณพยาบาลเองบ้าง เพื่อไม่ให้มีปัญหา

ส่วนที่หออภิบาลผู้ป่วยหนักนั้น จะมีการส่งเวรแบบเป็นทางการมาประมาณ 4-5 ปี แล้วครับ

ส่วนเรื่องเครียดๆ อย่าง"ระบบ" ที่พี่โช รอฟังอยู่ ผมคงต้องขอความเห็นจอมยุทธท่านอื่นกระมัง



Posted by : กะหลั่วเป็ด evolution , Date : 2004-09-09 , Time : 22:01:57 , From IP : 202.28.6.18

ความคิดเห็นที่ : 6


   ขอขอบคุณท่านจอมยุทธ ทั้งหลายที่เข้ามาร่วมเสวนากับข้าผู้น้อย... รู้สึกจะหนังจีนไปหน่อย...
จริงๆแล้วเมื่อก่อนหน้าที่ผมจะพลัดบ้านพลัดเมืองมา ผมก็รู้สึกว่าส่งเวรก็คือส่งเวร ส่งๆให้เสร็จแล้วก็กลับบ้าน บางครั้งส่งทางโทรศัพท์ หรือเขียนๆแล้วก็ปะเอาไว้ที่กระดานห้องพักแพทย์ บางคร้งก็ไม่ส่งมันซะยังงั้น... ทั้งๆที่ภาควิชาผมก็พยายามจะจัดระบบให้มันเรียบร้อย แต่ไม่เคยบังเกิดเป็นจิงดังที่คาดหวังไว้สักที แถมไม่มีการติดตามผลงานเสียด้วย บางครั้งมาดูตอนเช้า อ้าว...คนไข้ตายซะแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าตายจากอะไรกันแน่ เกิดอะไรขึ้น พอเข้า dead case ก็มั่วนิ่มซิครับ เฮ้อ....
พอได้พลัดเมืองมาอยู่ที่เกาะแห่งความหวัง เจอของจริงว่าส่งเวรเขาทำกันอย่างไร ถึงกลับอึ้งๆๆๆๆครับ ผมว่าเขาทำกันได้มีระบบระเบียบดีมาก ส่งเวรทุกครั้งที่คนไข้มีการเปลี่ยนหน่วย หรือเปลี่ยนมือ เช่น จาก er ไป ward จาก ward ไป ICU จาก ICU/ward ไป-กลับจาก OR แต่กระนั้นก็ตาม เขาก็ยังบอกผมว่ายังไม่ดีที่สุด ผมก็งงๆว่ามันมีมากกว่านี้อีกเหรอ เนื่องจากว่าเขาให้ความสำคัญกับ patient safety กันมากครับ เขาคิดว่าคนของเขามีค่ามากๆสำหรับประเทศของเขา และความผิดพลาดต่างๆสามารถป้องกันได้ และไม่สมควรให้เกิดขึ้นครับ ตอนนี้ถึงกับมีการทำวิจัยในเรื่อง รูปแบบที่เหมาะสมของการส่งเวร กับ patient safety กันเลยนะครับ ผมก็กำลังรอๆฟังผลอยู่เหมือนกันครับ อยากรู้ว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงกันอย่างไร
ผมคิดว่า เราน่าจะช่วยกันพัฒนาให้เป็นระบบระเบียบดีไหมครับ แต่ละภาควิชาก็มีงานที่ต่างกันไป ผมว่ารูปแบบอาจจะต่างกันไป ทางสำนักปาด(ขอใช้คำของ คุณพี่โช...) ก็คงมีรูปแบบของท่านเอง ส่วนทางสำนักผมคงต้องมีการรื้อระบบกันใหม่มั้งครับ ผมคิดว่าถ้าเราอยากพัฒนาเราคงต้องเริ่มที่ระบบเล็กน้อยๆก่อนครับ ถ้าถมดินแน่น เสาเอกก็อยู่ทน และบ้านก็คงไม่พังง่ายๆจริงไหมครับ


Posted by : Kangaroo on board , Date : 2004-09-10 , Time : 13:01:03 , From IP : ppp184.ar1.adl1.airn

ความคิดเห็นที่ : 7


    เรียนถามพี่ Kangaroo ถ้ายังมา update กระทู้นี้อยู่
อยากให้พี่ช่วยแจกแจงรายละเอียด เรื่องการส่งเวรที่ดีในสถาบันพี่ให้ละเอียดหน่อยได้ไหมครับ เผื่อจะนำมาประยุกต์ให้สำนัก medicine ของเรามาใช้บ้าง
อืม นอกเรื่องหน่อยนะครับ คือว่าดีใจครับที่มี คนในสำนักเรามาตอบหรือตั้งกระทู้บ้าง เพราะรู้สึกว่าเหมือนเป็นกระดานข่าวของน้อง นศพ. + ศัลยกรรม ซะเยอะ หวังว่าบรรดาน้อง ๆ หรือ พี่ ๆ med น่าจะออกมาแสดงความเห็นบ้าง อย่าเอาแต่ไถนาอยู่


Posted by : Pooh , Date : 2004-09-14 , Time : 16:27:38 , From IP : proxy2.chula.ac.th

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<