ความคิดเห็นทั้งหมด : 3

ประทับใจทั่วไทยด้วยเงินเพียง 2 บาท


   ประทับใจทั่วไทยด้วยเงินเพียง 2 บาท

ผมตั้งใจไว้ที่จะเขียนเรื่องนี้มานานทีเดียว จนเมื่อไม่กี่วันก่อนได้เห็นโฆษณาทางโทรทัศน์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีช้างเขียนไปรษณียบัตรส่งคนโน้นคนนี้บอกว่าตัวเองมีความสุขเหลือคณาที่ได้เที่ยวเมืองไทย ดูแล้วคิดว่าถึงเวลาที่จะเขียนเรื่องนี้เสียที ลองติดตามดูซิครับ

เคยสักครั้งมั้ยที่เพื่อน ๆ นึกถึงสถานที่ที่เคยไปมาในอดีตรู้สึกชอบ ประทับใจและมีความสุข แล้วยังคงเป็นความรู้สึกที่ชัดเจน อยู่ในความทรงจำชนิดที่ ทุกรายละเอียด แทบจะไม่มีการตกหล่นใด ๆ เลย

ยากใช่มั้ยครับ เพราะเรามักจะต้องมีหลายเรื่อง ที่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านจนวันหนึ่ง เราอาจจะลืมเหตุการณ์ ประทับใจบางอย่างไปโดยไม่ตั้งใจ ตัวผมเอง สามารถคงความประทับใจ ที่ชัดเจนได้ครับ และเชื่อว่าใคร ๆ ก็ทำอย่างผมได้เช่นกัน ภาพความสุข ความตื่นเต้น และความประทับใจ ที่ไม่อยากลืมยังคงติดตา และอยู่ในความทรงจำของผม ชัดเจนทุกครั้งที่ผมหยิบเจ้าไปรษณียบัตรใบเล็ก ๆ ขึ้นมาอ่าน

ผมเกริ่นเสียยาวขนาดนี้ เชื่อว่าหลายคนคงทราบแล้ว ว่าผมหมายถึง ไปรษณียบัตร ที่บันทึกเรื่องราวของการท่องเที่ยว ไปยังที่ต่าง ๆ ของผมนั่นเอง แรกที่เดียวที่เพื่อน ๆ ในทีม จะพากันสงสัยและถามผมว่า " ทำไมต้องแลบลิ้นเลียแสตมป์ แล้วแปะมันลงบนบัตรภาพที่ซื้อ" จากนั้น ก็ขอร้องให้คนขับรถ สอดส่ายสายตาหาตู้ไปรษณีย ์ข้างทางแล้วหยอดไปรษณีย์บัตรนั้นลงไป

ผมทำเช่นนี้ทุกครั้ง ที่ได้เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือสถานที่ต่าง ๆ คำตอบของผมก็คือ อีก 2 วันต่อมา เพื่อนคนสงสัยโทรมาบอกว่า ได้รับไปรษณียบัตรที่ผมส่งให้แล้ว เขาตื่นเต้นมากไม่นึกว่า ผมได้ส่งถึงเขาด้วย

เขายังบอกว่า รู้สึกดีมาก ที่ได้เห็นตราประทับ ของที่ทำการไปรษณีย์ที่อยู่ ณ สถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเราเพิ่งจะไปกันมา รวมทั้งสิ่งที่ผมเขียนบรรยาย ลงบนไปรษณียบัตรใบนั้น คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริง ๆ ระหว่างที่เราใช้ชีวิตชาวเต็นท์ร่วมกัน เขาจะเก็บมันไว้ให้ดีที่สุด และจะขอทำอย่างนี้บ้าง

หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมก็เห็นทุกคนมีแสตมป์ดวงละ 2 บาทติดกระเป๋า และทำอย่างเดียวกันเสมอ ๆ สำหรับบัตรภาพก็หาซื้อได้ทั่ว ๆ ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวนั่นแหล่ะครับ เพราะปกติก็มีขายอยู่ทั่วไปแต่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คนไทยเองไม่ค่อยสนใจ สนนราคา ก็ถูกแสนถูกใบหนึ่งราคา 5 - 6 บาทเท่านั้นเอง

แต่สำหรับผม มันมีค่ามากเหลือเกิน เมื่อมีตราประทับบอกแหล่งที่มาของมัน เพราะทำได้ไม่บ่อยนัก คือต้องไปจริง ๆ จึงจะทำได้ ซึ่งก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย และโอกาส(ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อีก) ทุกครั้งที่ส่งก็จะไม่ต่ำกว่า 2 ใบ โดยจะเขียนบรรยาย รายละเอียดเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ระหว่างการเดินทางนั้น แถมท้ายด้วยความรู้สึกสั้น ๆ ของทุกคนในคณะที่ไปด้วยกัน แล้วจ่าหน้าถึงตัวเอง 1 ใบและถึงเพื่อนคนที่อยากให้รับรู้ ถึงความสนุกสนานด้วย อีก 1 ใบ

จากนั้นก็พยายาม หาตู้ไปรษณีย์ในบริเวณท้องที่นั้น ซึ่งปกติก็มีทุกที่ทุกหมู่บ้าน ทั่วประเทศอยู่แล้ว เพียงแต่จะหาเจอหรือไม่ก็แค่นั่นเอง ถ้าไม่เจอ ก็จะฝากไว้กับชาวบ้าน หรือไม่ก็ตำรวจตามป้อมยาม ให้หยอดตู้ไปรษณีย์ให้ด้วย(มักจะได้รับความเอ็นดูกับพฤติกรรมแปลก ๆ นี้เสมอ) จากนั้น ก็กลับมานอนรอที่บ้าน ไม่เกิน 3 วันสิ่งที่รอคอย ก็จะผ่านมือบุรุษไปรษณีย์ถึงผมด้วยความตื่นเต้นทุกครั้ง

6 ปีกับไปรษณียบัตร ประมาณ 200 ใบ ดูจะเป็นการสะสมชิ้นใหญ่ของผม จะซ้ำกันบ้างเพราะบางสถานที่ไปมากกว่า 1 ครั้ง เช่น ไปรษณียบัตร ที่ประทับตราภูกระดึง จะมีมากหน่อยร่วม 10 ใบ ก็จะเรียงครั้งที่ 1 - 10 ว่าไปเมื่อไหร่มีใครไปด้วยบ้าง

6 ปีก่อน ผมพบกับเพื่อนคนหนึ่ง ที่เกาะเสม็ดคุยกันถูกคอ เลยแลกที่อยู่กัน จนถึงบัดนี้ผมไม่เคยเจอเธออีกเลย แต่สิ่งที่เราติดต่อกันตลอด 6 ปีคือเจ้าไปรษณียบัตรนั่นเอง ไม่ว่าเธอจะไปเที่ยวที่ไหน เธอจะเขียนมาเล่าให้ผมฟัง และผมก็จะส่งให้เธอด้วยทุกครั้งเช่นกัน และก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ผมกับเพื่อน ๆ อีก 21 คน ติดอยู่ในป่าปิดภูกระดึง หาทางออกไม่ได้ ต้องพยายามหาทางอยู่ 2 วัน 2 คืน จึงหาทางออกได้ ด้วยสภาพที่อิดโรย แต่ก่อนจะกลับ ทุกคนก็ควักเจ้าไปรษณียบัตร ที่เตรียมมาแลกกันเขียนและบรรยายความลำบากนั้น โดยไม่ยอมน้อยหน้าใคร

จนบัดนี้ความสนุกตื่นเต้น ของการเดินทางครั้งนั้น ยังอยู่ในความทรงจำที่ไม่อาจลืมได้เลย แม้ปัจจุบัน เราจะสามารถส่งข้อความถึงกันทั่วโลก ได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที แต่การได้รับจดหมาย หรือโปสการ์ดจากใครสักคน ก็ยังคงเป็นความตื่นเต้นที่รู้สึกดีเสมอ ๆ แม้จะรับจากตัวเอง

ผมถือว่านี่คือการสะสมที่ยิ่งใหญ่ของตัวเอง ผมจะทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ หากเพื่อน ๆ คนใดจะทำบ้างก็ยินดีอย่างยิ่งไม่สงวนสิทธิ์ใด ๆ หรือแม้แต่ใครอยากได้รับจากผมก็ส่งที่อยู่มาได้เลยครับ ปล.อย่าลืมระบุรหัสไปรษณีย์ด้วยนะครับ
++++++++
++++++++++++
+++

ดีนะคะ เป็นแนวความคิดที่ฟังแล้วอบอุ่น ในยุคที่เทคโนโลยีทำเอาโลกปั่นป่วน แบบนี้ แต่ว่าก็ยังมีเขาคนนี้ ที่ทำให้เห็นว่า โลกนี้มีความประทับใจเกิดขึ้นโดยทั่วไป


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-04-25 , Time : 14:06:33 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 1


   เจอกันอีกแล้วนะฮะ
สาวน้อยร้อยชั่ง
ผมเฝ้ารออ่านที่คุณมาโพสทุกวันเลย
ดีใจจัง
พรุ่งนี้มาอีนะฮะ
จะรอ






ปล.ได้ข่าวว่าคุณสวยมากๆเลยเหรอฮะ


Posted by : B , Date : 2003-04-25 , Time : 14:14:14 , From IP : dialup38.net43.samar

ความคิดเห็นที่ : 2


   เอ่อ ไม่รู้ว่าไปได้ยินอะไรแปลกๆมา
รู้แต่ว่า คงโดนแกล้งอีกแล้วสิเรา แงแงงงงงงงงงงงงงงๆๆๆๆๆๆๆๆ
(แต่ที่เค้าพูดมา มันก็มีส่วนถูกอยู่เหมือนกันนา อิอิ)


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-04-25 , Time : 15:49:41 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 3


   ไปเที่ยวทุกที ก็คิดจะทำทุกครั้ง แต่ลืมทุกครั้ง เฮ้อ..

Posted by : ArLim , Date : 2003-04-26 , Time : 04:54:44 , From IP : r25-skaHS1.S.loxinfo

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<