แพทย์สรุปแล้ว คลื่นโทรมือถือมีฤทธิ์ก่อมะเร็งแพทย์สรุปแล้ว คลื่นโทรมือถือมีฤทธิ์ก่อมะเร็ง ศัลยแพทย์จุฬาฯระบุ ผลวิจัยของ ฮาร์วาร์ด ที่ได้รับทุนจากบริษัทมือถือสรุปผลออกมาแล้วว่า การใช้โทรศัพท์มือถือส่งผลให้เซลล์มนุษย์เปลี่ยนแปลง และอาจก่อให้เกิดมะเร็งหรือเนื้องอกในสมองได้ แนะให้กดรับ โทรศัพท์ให้ห่างตัวก่อนพูดคุยตามปกติ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม น.พ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา ศัลยแพทย์ระบบประสาท คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้รายงานของคณะกรรมการพิเศษ สภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทโทรศัพท์มือถือทุกยี่ห้อทุกระบบ ให้คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเป็นผู้บริหารจัดการ โดยศึกษาวิจัยการใช้โทรศัพท์มือถือผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว และได้ทยอยเปิดเผยรายงานวิจัยดังกล่าวออกมาเป็นระยะล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนนี้ นักวิจัยได้เปิดเผยผลการศึกษาในสัตว์ทดลองที่ศึกษามานานกว่า 7ปี พบว่า การใช้โทรศัพท์มือถือมีผลกระทบต่อความเปลี่ยนแปลงในระดับเซลล์ของมนุษย์ ทำให้การซ่อมแซมดีเอ็นเอในร่างกายเสื่อมสมรรถภาพ และมีความเป็นไปได้ทำให้เกิดเนื้องอกหรือมะเร็งที่สมองได้ จากการศึกษาดังกล่าว นักวิจัยได้นำไปศึกษาต่อในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งสมอง พบว่าเนื้องอกที่สมองมีความสัมพันธ์กับการใช้โทรศัพท์มือถือ กล่าวคือพบว่าผู้ป่วยที่เป็นเนื้องอกในสมองจะเป็นข้างเดียวกับข้างที่ใช้ โทรศัพท์ ถ้าถือโทรศัพท์มือถือข้างขวาก็เป็นเนื้องอกที่สมองข้างขวา และยังพบว่าในเนื้องอกนั้นมีเซลล์ลักษณะพิเศษที่พบเฉพาะในผู้ที่ใช้ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งนักวิจัยพยายามหาข้อมูลเชิงระบาดวิทยาให้มากขึ้น เพื่อยืนยันผลการทดลองดังกล่าว แต่โดยสรุปแล้วคณะกรรมการพิเศษเห็นว่าผลการศึกษานี้มีมูล รวมทั้งจะพิมพ์เป็นตำราอย่างเป็นทางการภายในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ จนเป็นเหตุให้บริษัทที่ทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือพยายามวิ่งล็อบบี้ ไม่ให้ผลการวิจัยนี้ออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน น.พ.ธีรวัฒน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศอังกฤษ ยังได้ออกประกาศเตือนประชาชน โดยเฉพาะวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปี ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะเชื่อว่า ช่วงอายุดังกล่าวสมองของเด็กวัยรุ่นยังเติบโตพัฒนาไม่เต็มที่ อีกทั้งกะโหลกศีรษะไม่หนาพอที่จะรับผลกระทบจากคลื่นแม่เหล็กหรือ รังสีจากโทรศัพท์มือถือได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างไรก็ตามจากการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพจากโทรศัพท์มือถือทั่วโลก ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการใช้โทรศัพท์มือถือครั้งละ 1 นาที 10 ครั้ง ติดต่อกันช่วงระยะเวลาหนึ่ง กับการใช้โทรศัพท์มือถือครั้งละ 10 นาที มีอันตรายมากน้อยต่างกันหรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ตาม ในต่างประเทศนั้นมีคำแนะนำให้ผู้ที่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือเป็นประจำ ให้ใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีช่วยเพื่อให้ปริมาณและอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือ ห่างสมองมากที่สุด ขณะเดียวกันก็มีนักวิจัยถกเถียงเรื่องแฮนด์ฟรีนี้อยู่มากว่าจะช่วยบรรเทา ผลกระทบต่อสมองได้มากน้อย เพียงใด เนื่องจากพลังงานคลื่นแม่เหล็กจากโทรศัพท์มือถือ จะมีมากที่สุดขณะที่มีสายเรียกเข้า ซึ่งระหว่างนั้นเสาสัญญาณจะปล่อยพลังงานออกมากเพื่อรับส่งสัญญาณ ผมจึงอยาก แนะนำว่าโทรศัพท์มือถือในยุคนี้สมัยนี้อาจจะมีความจำเป็น สำหรับประชาชนอยู่ เพราะฉะนั้นหากจำเป็นต้องใช้ขอให้ใช้น้อยที่สุด และเมื่อมีสัญญาณโทรศัพท์ เรียกเข้ามา กดรับสายให้ห่างตัวสักพักจึงค่อยนำมาแนบหู เพื่อความปลอดภัย เพราะผลกระทบทบจากโทรศัพท์มือถือทุกระบบ ทุกยี่ห้อ ไม่ได้แสดงออกให้เห็นทันทีทันใด แต่จะเป็นผลสะสมระยะยาว >> Posted by : No name No.1 , E-mail : (warit74@hotmail.com) , Date : 2004-09-03 , Time : 23:48:17 , From IP : 203.113.71.169 |
รู้สึกว่า อ.ธีรวัฒน์ เป็น neuromed ไม่ใช่ nuero Sx นะครับ Posted by : ทากษิณ , Date : 2004-09-04 , Time : 09:30:02 , From IP : 172.29.3.138 |
ยังไม่มีผลรายงานความเข้มคลื่นในประเทศไทย แบบเช่นความเข้มควันบนถนน หากสถานีส่งคื่นใกล้กันในพื้นที่ขนาด หนึ่งตารางิโลเมตร อาจเกิดปัญหาได้ และยิ่งความชุกในการใช้สูง เรื่องนี้อาจจริงกว่าที่ฮาเวิร์ด Posted by : meiing@yahoo.ca , E-mail : (คนพอรู้) , Date : 2004-09-05 , Time : 16:52:42 , From IP : 172.29.3.236 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.012 seconds. <<<<< |