ความคิดเห็นทั้งหมด : 22

อยากถามความเห็นจากเพื่อนๆในคณะว่า -- จากระบบการเรียนที่ทำให้เราเป็นเช่นนี้ คณะควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเราบ้างมั้ย --


   พวกเรา เสียเวลา เสียเงิน(เป็นคณะแพทย์ขจงรัฐที่มีค่าเทอมแพงที่สุดในประเทศไทย) เสียแรงกายแรงใจ พยายามเรียนรู้(เท่าที่ทำได้ตามความเป็นจริง) ตามระบบที่คณะบอกว่าดีแล้ว
แต่ผลลัพธ์เป็นอย่างที่เห็น

เพื่อนๆคิดว่า คณะความต้องแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเราบ้างมั้ย และอย่างไร ??????






Posted by : .... , Date : 2004-09-03 , Time : 10:57:32 , From IP : 172.29.2.127

ความคิดเห็นที่ : 1


   เดี๋ยวนะครับ ช่วยชี้แจงซักนิดก่อนได้มั้ยเอ่ย ว่าไอ้ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่เนี่ย เป็นไงเรอะ

Posted by : เด๋อ , Date : 2004-09-03 , Time : 12:50:04 , From IP : 172.29.1.243

ความคิดเห็นที่ : 2


   กระทู้แบบนี้เคยมีแล้วตอนเป็นนศพ.ขณะอยู่ปี 2-3 แต่จะขณะนี้ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว ก็ไม่เห็นมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีชึ้น ยังคงมี PBL SDL เหมือนเดิม

Posted by : ... , Date : 2004-09-03 , Time : 14:07:36 , From IP : 172.29.4.129

ความคิดเห็นที่ : 3


   กระทู้แบบนี้เคยมีแล้วตอนเป็นนศพ.ขณะอยู่ปี 2-3 แต่จะขณะนี้ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว ก็ไม่เห็นมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีชึ้น ยังคงมี PBL SDL เหมือนเดิม

Posted by : ... , Date : 2004-09-03 , Time : 14:07:42 , From IP : 172.29.4.129

ความคิดเห็นที่ : 4


   น้องยังเรียนไม่จบเลย แล้วน้องรู้ได้ไงว่าการเรียนอยู่ในระบบนี้มันไม่ work น่ะ?

Posted by : Euphoria , Date : 2004-09-03 , Time : 15:33:06 , From IP : 172.29.5.118

ความคิดเห็นที่ : 5


   หรือเวลาสำหรับ SDL มากไปสำหรับใครบางคน ทำให้เกิดการฟุ้งซ่าน
ลองใช้เวลาที่มี SDL อย่างวางแผน(ตัวเองกำลังพยายามอยู่) PBL ให้เกิดประโยชน์กับเรามากที่สุด(โดยเฉพาะไม่ลืมมองอนาคต) ก็น่าจะได้ผลบ้างล่ะหน่า... พยายามอีกนิด เพิ่มความรับผิดชอบต่อตัวเองและคนไข้ที่รอเราอยู่ในอีกไม่กี่ปี(คูณ 365 แล้วนับเป็นจำนวนวันจะรู้สึกดีขึ้นมาก) อีกหน่อย ...ไม่น่าจะเกินกำลัง ความสามารถของกลุ่มปัญญาชนระดับ(หัว)กะทิของประเทศหรอก...พยายามไปด้วยกันนะ


Posted by : brace , Date : 2004-09-03 , Time : 16:05:05 , From IP : p204-adsl-snilf1.S.c

ความคิดเห็นที่ : 6


   ผมว่ามันดีนะระบบนี้ แต่ว่าต้องแก้อีกหลายจุดล่ะ แต่ผมว่ามันก็เป็นธรรมดาของทุกระบบต้องมีการแก้ไข

Posted by : เหอๆๆ , Date : 2004-09-03 , Time : 17:00:57 , From IP : wwwtrh.moph.go.th

ความคิดเห็นที่ : 7


   เผอิญได้มีโอกาสสัมผัสการเรียนการสอนนักเรียนแพทย์ในต่างประเทศเป็นระยะเวลานานพอควร ทั้งในระดับก่อนและหลังปริญญา ผมยังไม่เห็นว่าเขาเหนือกว่าที่สงขลาตรงไหนเลยนะ ผมไม่แน่ใจว่าน้องๆเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ผลลัพธ์เป็นอย่างไรหรือครับ ถ้าคิดว่าจะรู้อะไรมากมายหรือเรียนแล้วรู้เรื่องง่ายๆเหมือนสมัยเรียนมัธยมหล่ะก้อ ผมคิดว่าคงเข้าใจผิดแล้วหล่ะ yesterday boys and girls คุณยังไม่เริ่มตั้งไข่เลย ไม่มีอะไรง่ายๆอีกแล้วครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอยากเป็นจอมยุทธ

แต่ไม่ได้หมายความว่าในรุ่นของผมเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วจะดีกว่าพวกคุณนะ พวกผมและผมก็รู้สึกในตอนนั้นว่า ไม่รู้อะไรเยอะแยะไปหมด เรียนไม่รู้เรื่อง อ่านหนังสือไม่ทัน ปวดหัว พอเรียนจบปี 6 ก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งนะครับ แต่รับรองว่าเราไม่ด้อยกว่าที่ไหนในประเทศไทยเลย และในรุ่นของผม เพื่อนของผมที่จบจากมอ และเป็นแพทย์ใช้ทุนที่มอ นั้นมีทั้งความรู้และ performance ดีกว่าพชท ที่จบจากที่อื่นๆ ด้วยซ้ำไป เลิกดูถูกตัวคุณเองและสถาบันของคุณได้แล้วครับ ผมเห็นนักเรียน
แพทย์ไทยที่เรียน พบ ในต่างประเทศและนักเรียนแพทย์ชาวต่างชาติเองก็ไม่ได้เห็นว่าเขาแตกต่างจากจากพวกคุณเลย บางคนนั้นเรียกได้เต็มๆว่า really stupid แต่สิ่งที่ไอ้พวกฝรั่งทุกคนมี คือความมั่นใจในตัวเองและ"ความนับถือตัวเอง"
บ่อยครั้งที่ผมเห็นเขา discuss ผิดอย่างมั่นใจ

ผมอยากจะเตือน "รุ่นพี่และ staff" บางท่านว่า เวลาที่เราจะประเมินนักเรียนหรือตำหนิว่าเขาไม่รู้เรื่องหรือไม่มีความรู้นั้น ขอให้คิดให้ดีๆ ดิดถึงตอนที่คุณเป็นเด็กๆบ้าง เชื่อเถอะว่ารุ่นของคุณและรุ่นของผมไม่ได้ฉลาดหรือดีไปกว่าเด็กในรุ่นปัจจุบันเลย



Posted by : NN , Date : 2004-09-03 , Time : 19:18:08 , From IP : WNPP-p-203-54-22-67.

ความคิดเห็นที่ : 8


   ผมคิดว่าอาจารย์ทำถูกแล้วครับที่นำระบบ PBL มาใช้ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ...

Posted by : Euphoria , Date : 2004-09-03 , Time : 20:28:36 , From IP : 172.29.2.101

ความคิดเห็นที่ : 9


   เห็นด้วยกับการจัดการเรียนการสอนแบบ PBL นักศึกษาต้องดูตัวเองว่าเหมาะหรือไม่หากไม่เหมาะ ไม่ชอบไม่ควรเลือกมาเรียนในคณะนี้ นักศึกษาต้องรู้ก่อนว่าที่นี่เรียนแบบไหน หากไม่เหมาะกับตนไม่ควรจะมาเสียเวลาในคณะนี้ ในประเทศมาเลเซีย แม้กระทั่งอาจารย์ที่ไม่เห็นด้วยกับระบบนี้เขาก็ไม่รับมาเป็นอาจารย์เช่นกัน

Posted by : อ , Date : 2004-09-03 , Time : 23:43:20 , From IP : 203.113.76.71

ความคิดเห็นที่ : 10


   อยากถามความเห็นจากเพื่อนๆในคณะว่า -- จากระบบการบริหารประเทศที่ทำให้เราเป็นเช่นนี้ บรรพบุรุษควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเราบ้างมั้ย

อยากถามความเห็นจากเพื่อนๆในคณะว่า -- จากระบบทุนนิยมที่ทำให้เราเป็นเช่นนี้ อเมริกาควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเราบ้างมั้ย

อยากถามความเห็นจากเพื่อนๆในคณะว่า -- จากค่านิยมที่ทำให้เราเป็นเช่นนี้ ศาสนาควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเราบ้างมั้ย

อยากถามความเห็นจากเพื่อนๆในคณะว่า -- จากปัญหาทุกอย่างที่ทำให้เราเป็นเช่นนี้ ตัวเราควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเราบ้างมั้ย

หรือจะโทษใครไปวันๆ


Posted by : คิกๆ , Date : 2004-09-03 , Time : 23:52:19 , From IP : p154-rasbkkSP1.C.csl

ความคิดเห็นที่ : 11


   สอนไปสอนมา ก็โดนด่าแล้วยังไม่รู้สึกตัว.....

เด็กข้างใน comment ตั้งหลายครั้งไม่เคยฟัง เอาแต่ลดแรงต้านด้วยการปล่อยเกรดในปี 2-3 ตอนนี้ความจริงปรากฏ Extern โดนอาจารย์ข้างนอกด่ากลับมา คุณถึงเริ่มตระหนัก แต่ก็ยังปากแข็ง นักเรียนปี 2-5 เริ่มรู้ความจริง เริ่มตีรวนแต่คุณก็บอกว่าไม่มีอะไร ไม่ทำอะไร ไม่ต้องกังวลน้องๆ ทำไมน้องไม่แก้ไขตัวเองบ้าง ทำไมเอาแต่โวยวาย น้องรู้ไหมตอนนี้ เราเก่งแค่ไหนแล้ว


ช่วยกรุณาอยู่ในโลกแห่งความจริงหน่อยได้ไหม

ถามจริงๆ คำสอนพระราชบิดา..ยังจำได้อยู่ไหม ยังปฏิบัติอยู่ไหม




หรือคิดแต่ว่า พวกข้า ทำถูกเสมอ

ผมเสนอทางออกคือ คุณต้องดันมาตราฐานความรู้ขั้นต่ำให้สูงขึ้น ด้วยการเพิ่ม lecture ส่วน PBL ควรมีให้น้อยลงบ้าง ไม่ใช่ มานั่งแสดงละคร หรือ เอาความรู้ผิดๆ มาสอนกัน น่าเกลียดมาก กลายเป็นว่า facilitator ที่ดีในสายตาผมคือ อาจารย์กันยิกา ซึ่งปล่อยให้เรา discuss กันเต็ม ตั้งแต่ บ่ายโมงถึง 5 โมงเย็น แล้ว มาสรุปความรู้ (ของจริง) ในตอนสุดท้าย อีก 2ชั่วโมง วันนั้น เลิก 1 ทุ่ม ขอโทษนะครับ แทบ รากเลือด แต่คุณเข้าใจไหมว่าเราได้อะไรกลับไป เราได้ความเข้าใจจริง คุณเชื่อไหม ขณะที่ผม present อยู่ ถึงเรื่อง ข้อ จำได้เลย วันนั้น คุยกันเรื่อง
gouty arthritis ผมรับหน้าที่ พล่ามเรื่อง anatomy ผมก็หาpaper มาพล่ามอย่างดี ทั้งที่ ตัวเอง ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะไม่เคยเห็น พล่ามไปพล่ามมา ถึงก็tendon อาจารย์เห็นว่าคงไม่รู้เรื่องจริง เพราะทั้งกลุ่มไม่มีใครเข้าใจเรย อาจารย์ก็ถามว่า เอ็นเนี่ยมันคืออะไร ผมก็ตาเหลือก คว้าpaper มาพล่ามต่อบอกว่ามันคือ connective tissue อาจารย์ถามว่า connective tissue คืออะไร เชื่อไหมผมตอบไม่ได้ basic sci กระจอกขนาดไหน สรุปพูดมาตั้งนานเนี่ย พูดแบบนกแก้วนกขุนทอง

อาจารย์ขึ้นกระดานเลย แยกย่อย ชนิด ของ tissue
endocardial
nerve
parenchymal
....

สรุปง่ายๆ สั้น ก็คือ ในขณะที่ร่างกาย มีเซลล์ที่รวมกันทำหน้าที่เพื่อจะเป็นอวัยวะต่างๆ connective tissue ก็คือ เซลล์อันอื่นที่ไม่ได้มีหน้าที่อื่นนอกจาก เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ที่มัน ยึดร่างกายเราไว้ด้วยกัน

แล้วพวกผมจะได้ไม่กลายเป็นนกแก้ว

เนี่ยผมต้องการแค่เนี่ย...concept สั้นๆ ในทุกเรื่องที่จะยืนยันได้ว่าเราไม่ได้มั่ว เนี่ยแค่ เนี่ย สรุป หลัง PBL สั้นๆ ไม่ต้องยืดยาวเท่าอาจารย์ กันย์ หรอก

แค่เนี่ย ขอได้ไหม

อาจารย์เป็นคนสอนผมเองนะ อาจารย์กุมารนี่แหละ บอกว่า
แพทย์ที่ไม่มีความรู้ด้าน basic science ก็เหมือนกัปตันเรือที่ออกเรือโดยไม่มีเข็มทิศ....

แล้วจะบอกให้ผมหัดทำเข็มทิศเอง....ตรูจะบ้า จะให้ตรูใช้เรดาร์หรือไงฟะ ไม่ให้ความรู้ตรูมาเลย.....หนอย ..



ตอนเข้ามาก็เป็นคน เรียนไปเรียนมา เป็นนกแก้ว ตอนนี้กลายเป็น ควาย...เจริญจริงๆ


Posted by : คือผมทนมานานแล้ว , Date : 2004-09-04 , Time : 12:23:30 , From IP : 172.29.2.176

ความคิดเห็นที่ : 12


   เรื่องนี้ต้องไปถามอาจารย์อานุภาพ

Posted by : แพทย์ , Date : 2004-09-04 , Time : 13:59:49 , From IP : 172.29.2.145

ความคิดเห็นที่ : 13


   เห็นด้วย ๆ

Posted by : ผมก็ทนมากันคุณนั่นแหละ , Date : 2004-09-04 , Time : 19:04:48 , From IP : 172.29.1.243

ความคิดเห็นที่ : 14


   ประสบการณ์ของคุณที่ทนมานานแล้วมันสะท้อนปัญหาบางอย่างได้ตรงประเด็นเลยล่ะ เพราะรู้สึกว่าได้อะไรตอบแทนจาก PBL ที่ไม่คุ้มค่านัก ลักษณะของ PBLจริงๆมันกลายเป็นการแสดงละครมากกว่า และเป้าหมายของนักเรียนส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่การเรียนรู้แต่จะทุ่มน้ำหนักไปที่การแสดงให้ถูกใจผู้ประเมินมากกว่า ความจริงข้อนี้นักเรียนไม่ได้พูดกันเอง อาจารย์บางท่านที่มาคุม PBL ก็รู้ทันอันนี้และก็ไม่เห็นด้วย

คิดว่าประเด็นหลักของ PBL ก็คือต้องอ่านเนื้อหาทั้งหมดเองมาก่อน มิฉะนั้นก็จะแทบไม่ได้อะไรกลับไปเลย หากจะคิดมาฟังคนอื่นพูดแบบสรุป 10 นาทีแค่นี้ก็คงไม่รู้เรื่องแน่ๆและส่วนใหญ่ก็จะเป็นในลักษณะนี้ เรื่องการ discuss นี่แทบไม่ต้องพูดถึงเพราะแหล่งความรู้ของเพื่อนแต่ละคนก็ใกล้เคียงกันและถึงจะมีความคำถามขัดแย้งก็คงไม่มีข้อสรุปได้แต่เออออห่อหมกกันไป แต่ไม่เป็นไรหรอกถึงจะรู้เรื่องไม่มากนักก็พอพล่ามได้ รู้ไม่ต้องลึกมากรู้ไม่ต้องปะติดปะต่อมากก็พอจะพูดให้คนอื่นฟังได้ การประเมินนั้นบอกไม่ได้หรอกว่า product ของการเรียนรู้จริงๆของนักศึกษาจะแค่ไหน

พูดก็พูดเถอะ ขอบอกว่าจบ preclinic มาแล้วผมก็ยังรู้สึกว่า integrate ความรู้ไม่ได้ ความรู้ที่เป็นผลมาจากการท่องจำมันยังแยกเป็นส่วนๆๆๆๆอยู่ เชื่อมโยงกันไม่ได้ เพราะมันยากมากกับการที่จะวิเคราะห์จัดหมวดหมู่ความรู้ให้สอดคล้องกันและใช้ร่วมกันได้ และหากจะให้ทำก็คงต้องเสียเวลามากที่จะต้องรู้ลึกไปเสียทุกเรื่อง คิดว่ามันน่าจะง่ายขึ้นหากอาจารย์มีเวลามากขึ้นมาช่วยสอนช่วยฟังคำถามและช่วยสรุป


Posted by : gut , Date : 2004-09-04 , Time : 21:37:04 , From IP : 61.19.201.135

ความคิดเห็นที่ : 15


   คนที่เป็นควายน่าสงสารมากเลย ควรจะลาออกไปเถอะอย่าเป็นควายเลย ไปเป็นคนต่อไปเถอะ

Posted by : ผมก็ทนมาเหมือนกัน , Date : 2004-09-04 , Time : 23:14:43 , From IP : 203.150.217.116

ความคิดเห็นที่ : 16


   คิดว่าเป็นระบบที่ดีนะคะ
แต่ว่าต้องยอมรับควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ในช่วงเวลา SDL เลยทำให้ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
แต่ดูจากเพื่อนๆคนอื่นที่เขาขยัน เขาก็ได้อะไรเยอะมากจากการเรียนแบบนี้ค่ะ


Posted by : แคน อิสรงค์ , Date : 2004-09-05 , Time : 12:36:41 , From IP : 172.29.5.105

ความคิดเห็นที่ : 17


   ข้าพเจ้าคิดว่า การเรียนการสอนทุกระบบ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ละระบบย่อมมีจุดเด่นเป็นของตนเอง คนที่ฉลาดจะรู้ว่า ทำอย่างไรเราจึงได้รับประโยชน์มากที่สุดจากระบบ คนโง่มักจะบอกว่าระบบนี้ไม่ดีตรงนั้นไม่ดีตรงนี้ สุดท้ายจึงยังยืนยันว่า คนโง่ก็ยังเป็นเหยื่อคนฉลาด วันยังค่ำ

Posted by : เป็นกลาง , Date : 2004-09-05 , Time : 13:08:03 , From IP : 172.29.2.182

ความคิดเห็นที่ : 18


   ไม่ว่าเรียนแบบไหนก็ยัง integrate ไม่ได้ ต้องรอไประยะแล้วจะเห็นว่าการเรียนแบบใหม่ได้ประโยชน์กว่าแบบเก่ามาก เพราะแบบเก่าเรียนก็มากจบมาก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เรียนไปหนักสมองเปล่าๆ จบแล้วก็ต้องมาหาเองใหม่ทั้งหมด เวลาทั้งหมดที่เรียนสูญเปล่า อย่างเรียน anatomy เรียนกันได้ตั้งมากมายจบมาไม่ได้ใช้เลย ไม่รู้ท่องกันทำไม่มากมาย เสียเวลามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

Posted by : คนรุ่นเก่า , Date : 2004-09-05 , Time : 14:42:55 , From IP : 203.150.217.112

ความคิดเห็นที่ : 19


    ผมว่าคุณต้องทำใจนะ (นศพ.)ยอมรับสภาพแล้วปรับปรุง... ผมดูมา6-7 ปีแล้ว พบว่า ทุกอย่างถูกปรับปรุงและตลอดเวลา มีอยู่สิ่งหนึ่งซึ่งไม่เคยปรับปรุงเลย คือ ตัวพวกคุณเอง ....รักสบายจนเคยตัว ลองทำตัวทุ่มเทให้คนไข้และการเรียนเพิ่ม สัก 10 เท่าจากเดิมสิ ผม เชื่อว่าพวกคุณจะเก่งเหมือนอาจารย์ในอดีต ซึ่งจริงๆแล้วไม่เคยได้รับการดูแลที่ดีแบบพวกคุณเลย......ลองดูซิไอ้น้องแล้วจะสำเร็จเอง ผมขอเอาหัวเป็นประกันเลย

Posted by : Surgery , Date : 2004-09-05 , Time : 15:26:28 , From IP : 172.29.3.225

ความคิดเห็นที่ : 20


   ความรู้มันเยอะlactureไม่พอหรอก
แหมถ้ามันเหมือนฟางก็ง่ายจะได้พอให้พวกแกเคี้ยว


Posted by : :-D , Date : 2004-09-06 , Time : 00:28:19 , From IP : 172.29.3.198

ความคิดเห็นที่ : 21


   PBL เป็นการฝึกการเรียนรู้ด้วยตนเอง การหาความรู้ด้วยตัวเอง เป็นการเตรียมพร้อมที่จะเป็นแพทย์ในอนาคต ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นประโยชน์ อดทนหน่อยนะ ...จากพี่ระบบเก่า


Posted by : senna , Date : 2004-09-09 , Time : 15:19:31 , From IP : 203.121.160.34

ความคิดเห็นที่ : 22


   PBL และ SDL ทำให้คนขยัน เก่งขึ้น แต่ทำให้คนขี้เกียจ ยิ่งโง่ลงเรื่อยๆ

Posted by : SDL man , Date : 2004-09-11 , Time : 02:15:53 , From IP : 172.29.4.162

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.009 seconds. <<<<<