ยังมีคนอื่นที่ทุกข์มากกว่าเราเยอะแยะ ทุกข์ของเรามันแค่เรื่องขี้ผง > >@ เพื่อนมีมือถือ แต่เราไม่มี >โชคดีแล้วล่ะที่ไม่มี มือถือเนี่ยตัวดูดเงินเลย วัยรุ่นบางคน เมาท์จนล้มละลาย >อย่าเห่อไปตามกระแสหน่อยเลย ชีวิตนี้ไม่ได้ดีขึ้นเพราะมือถือหรอกนะ > >@ เราหน้าตี๋ กลม ๆ เหมือนดวงจันทร์ ..อายจัง >โด่..หล่อจะตาย สมัยก่อนนู้น เขาคลั่งไคล้มาก ขนาดที่เมืองจีน >เวลาปั้นพระพุทธรูป เขายังปั้นให้หน้าอูม ๆ เลย >จริงอยู่สมัยนี้เขานิยมคนหน้าตาแบบลูกครึ่งฝรั่ง แต่อีกหน่อยก็เลิกฮิต >เชื่อเหอะ ไม่แน่นะ ในอนาคตแฟชั่นหน้าตี๋อาจจะกลับมานิยมอีกก็ด้าย...อ้อ ! >อีกอย่างสมัยนี้ สาว ๆ ที่ฉลาด เขาชอบคนดีมากกว่าคนหล่อ นะจะบอกให้ > >@ ชอบเขา แต่เขาไม่ชอบเราง่ะ >ธรรมดาเลย.. ปิ๊งใครง่าย ๆ มันก็ต้องกิน"แห้ว"ประจำ >ที่จริงชีวิตของเรานั้นมีคุณค่ามากนะ จะปล่อยให้เรื่องเล็กๆ >แค่นี้มาทำให้ชีวิตของเราไร้ค่าได้อย่างไร ทำตัวเองให้มีค่า ดีกว่า >เดี๋ยวก็มีคนดี ๆ มาชอบเราเองหรอกน้า..า > >@ เฮ้อ ! แฟนดูรูปโป๊ประจำ >ดูเข้าไปเลย..เห็นพระท่านว่าพวกผู้ชายที่ชอบดูรูปโป๊มาก ๆ >ชาติหน้าพวกนี้จะไปเกิดเป็นผู้หญิงกันหมด เพราะจิตใจฝักใฝ่แต่รูปร่างผู้หญิง >ดีสม..! ชอบเอา เปรียบกันนักไปเกิดเป็นผู้หญิงเองเสียบ้าง จะได้รู้สึก >(เขาเรียกว่าไป "ที่ชอบๆ" ฮิ ฮิ) > >@ ผิดหวังผลสอบดูหนังสือแทบตายได้แค่ เกรด B >เรียนแล้วได้วิชาความรู้ มันก็เหมือนทำงานแล้วได้เงินเดือน การได้เกรด A >ก็คล้ายๆ กับว่าเราได้โบนัส ทีนี้ถึงเราจะไม่ได้โบนัส มันก็ไม่น่าจะเสียใจอะไร >ก้อเราได้เงินเดือนแล้วนี่นา > >@ เข้าคิวซื้อตั๋วหนังอยู่ดีๆเพื่อนเล่นแซงคิวหน้าตาเฉย >โถ.. ! น่าสงสาร ยอมเสียนิสัย เพื่อแลกกับตั๋วหนังเพียงใบเดียว > >@ ข้างห้องเปิดเพลงเสียงดังหนวกหูทั้งวัน >เสียงภายนอกดังสนั่น แต่เสียงภายในเงียบสนิท ถึงเสียงวิทยุจะดังปานใด >แต่ใจฉันก็ไม่เคยหงุดหงิด ฉันยังคงทำงานของฉันไปอย่างมีความสุข > >@ คนชอบมาแซวเราว่า"น้องดำ ดอทคอม" >ผิวอย่างฉันเขาเรียกว่า "คมขำ" ย่ะ หนุ่มๆ ฝรั่งหลงใหลจะตายไป >พวกนายคงโดนโฆษณาหลอกแล้วล่ะ"ฉันคือตัวฉัน" ไม่ต้องให้ใครมาจูงจมูกหรอกนะ > >@ เฮ้อ..! ไม่รู้จะทำอะไรดีเซ็ง..ง ระเบิด ! >แอ็คทีฟเข้าไว้เพื่อน อย่าให้ความเซ็งเข้าครอบงำ >ทำทุกอย่างด้วยความกระฉับกระเฉง หนึ่ง สอง..ๆๆๆ หาอะไรทำให้มันสนุก หนึ่ง >สอง... ๆๆ > >@ รู้สึกว่าตัวเองโง่โดนคนอื่นหลอกอยู่เรื่อย >นึกว่าตัวเองโง่ ยังดีกว่านึกว่าตัวเองฉลาด >พระท่านว่าคนฉลาดคือคนที่รู้ตัวเองว่าโง่นะ (แต่อย่าเผลอไปโดนเขาหลอกอีกล่ะ อิ >อิ) > >@ เพื่อนเห็นแก่ตัวกินไหนกินด้วยแต่ไม่เคยช่วยสักบาท >เฮ้อ..นึกว่าช่วยชีวิตเพื่อนให้รอดไปได้สักมื้อก็แล้วกัน ได้บุญดีนะ >(แหะๆ....แต่นาน ๆ เจอกันสักที ก็แล้วกัน) > >@ กลุ้มใจจังไม่มีใครมาจีบ >"กลุ้มใจ" ไม่มีคนมาจีบ มันยังดีกว่า "ช้ำใจ" ที่โดนคนมาหลอก >ถ้าอยากจะพบรักแท้ มันก็ต้องอดทนไว้ก่อนนะเธอ > >@ หน้าเป็นสิวไปไหนมาไหนอายเพื่อน >วัยรุ่นมีสิวน่ารักจะตายไป เออถ้าคนแก่มีสิวสิ ค่อยน่าอายหน่อย >พวกบริษัทขายยาแก้สิวทั้งหลายนี่แหละตัวดี ชอบโฆษณาทำร้ายจิตใจวัยรุ่นดีนัก >ระวังตัวใว้ดีๆเหอะ ชาติหน้ากรรมสนอง ไปเกิดเป็น "ท้าวแสนปม" ไม่รู้ด้วย อิอิ > >@ ทำตังค์ตกหาย 500 แง..! >ไม่เป็นไร..คิดเสียว่าเสียค่าหน่วยกิต วิชา "ละเอียดรอบคอบระมัดระวัง" >ก็แล้วกัน นี่ถ้าชีวิตเรามีความรอบคอบมากขึ้น เพราะเงิน หายในคราวนี้ >ก็นับว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว > >@ พ่อแม่ชอบเห็นเราเป็นเด็กตลอดชาติ >ถึงใครจะมองเราว่าเป็นเด็ก แต่เราก็จะเคารพตัวเองว่าเรานั้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว >ผู้ใหญ่คือคนที่ไม่ทำอะไรตามใจตนเอง แต่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรอบคอบ >ใคร่ครวญด้วยสติปัญญา (เอ...ชักยากแฮะ >หรือว่าจะยอมเป็นเด็กเหมือนเดิมดีกว่าม้าง...ง ) > >@ อิจฉาเพื่อนแฟนมันสวยอะ >มีแฟนสวยก็ยินดีด้วย แต่เราว่ามีแฟนนิสัยดีดูแลเอาใจใส่ดี แบบนี้สุดยอดกว่านะ > >@ รักเธอแต่ว่าไม่กล้าเอ่ยปาก >อย่างนี้ต้องซ้อมบอกรักกับคนอื่นให้เกิดความเคยชินเสียก่อน พ่อคับ >ผมรักคุณพ่อมากคับ .. แม่คับ ผมรักคุณแม่มากคับ .. ไอ้ตูบ ข้ารักเอ็งมากนะ .. >เฮ้ย..เจ้าศักดิ์ เรารักนายจริงๆ ว่ะ .. ฯลฯ อิอิ.. >ทีนี้พอพูดคล่องแล้วจึงค่อยไปบอกรักกะเธอ > >@ ช่วยเพื่อนแทบตายแต่เพื่อนยังคิดร้ายกะเราอีก >เฮ้อ..คิดว่าช่วยเสือตกน้ำให้รอดตายสักตัวก็แล้วกัน เสือเนี่ยนะ ถึงเราช่วยมัน >แต่ถ้าเราเข้าใกล้มัน มันก็กัดเราอยู่ดี คงต้องปล่อยเข้าป่าไป >เจ้าเพื่อนคนนี้ก็เหมือนกัน ฉันช่วยแกแค่เอาบุญ แต่คราวหน้าคงไม่ช่วยแล้วล่ะ >ปรับปรุงตัวเองให้นิสัยดีกว่านี้ก่อน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ > >@ พอแฟนเจอคนที่รวยกว่าเธอบอกเลิกกับผมทันที >อย่างนี้เรียกว่า..โชคดีที่เลิกกัน จริงๆ นะ >..คนที่เห็นเงินทองสำคัญกว่าความรักอย่างเงี้ยะ ขืนได้แต่งงานด้วย >รับรองว่าเจอปัญหาตลอดชีวิตแน่เราโชคดีแล้วล่ะ ที่แคล้วคลาดออกมาได้ > >@ เหงามากขอบอก >มองรอบๆ ดู .. อะไรต่ออะไรล้วนแต่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือเราทั้งน้าน.น >โต๊ะก็เพื่อนเรา เก้าอื้ก็เพื่อนเรา หน้าต่างก็เพื่อนเรา หนังสือก็เพื่อนเรา >แก้วน้ำก็เพื่อนเรา ฯลฯ...(สามชั่วโมงผ่านไป) .....ฯลฯ หมาก็เพื่อนเรา >ต้นหญ้าก็เพื่อนเรา ท่อระบายน้ำก็เพื่อนเรา ตู้ไปรษณีย์ก็เพื่อนเรา... ฯลฯ >.... (ต่อไปอีกห้าชั่วโมง)..... ฯลฯ > >@ เพื่อนกวนยียวนมากอยากชกสักที >โด่..คนกวนๆ แบบนี้ไปที่ไหนก็มีคนอยากชกกันทั้งนั้น >เราจะต้องไปชกเองทำไมให้เจ็บมือ เดี๋ยวก็มีคนอื่นชกให้เองแหละ >แต่ดูๆแล้วก็น่าสงสารนะ...โถ..! เกิดมาชาตินี้มีแต่คนอยากชก > >@ อยากตัดใจจากคนรักค่ะทรมานใจมากอยากทำใจให้ไวสุดๆ >ทุกครั้งที่นึกถึงเขาให้ทำอย่างนี้ดิ " หายใจเข้าลึกๆ นึกถึงเขา(คนนั้น) >หายใจออกยาว ๆ สลายภาพของเขาใหัหายไป " แล้วก็พูดในใจว่า "โอ้..! >ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ไม่ใช่ของเรา มันเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย " >(จับฝึกกรรมฐานเสียเลย อิอิ ) > >@ พ่อบังคับผมจะให้สอบเอ็นฯติดให้ได้..เครียดมาก >โอเคครับ...ผมจะพยายามเพื่อพ่อ แต่ผมขอเวลาทำอะไรเพื่อตัวผมเองบ้างนะครับ >อ้อ..! ถ้าเอ็นฯไม่ติด ก้อไม่ว่ากันนะครับ เพราะสุดฝีมือแล้ว >แต่พ่อไม่ต้องห่วงอนาคตของผมหรอกครับ เพราะถึงผมจะเอ็นฯไม่ติด >ผมได้เตรียมหนทางของผมไว้แล้ว รับรองไปได้สวยอย่างแน่นอนครับ > >@ นอนไม่หลับกระสับกระส่าย >ฮ้าว..ว (หาว) แล้วส่งกระแสจิตไปยังสัตว์โลกแบบนี้ดิ หนึ่ง.. ฉันรักแมว >สอง..ฉันรักหมา สาม..ฉันรักยีราฟ สี่...ฉันรักหนอน ห้า...ฉันรักสิงโต >หก...ฉันรักนก เจ็ด.. ฉันรักเม่น.... ฯลฯ ( >ส่งความรักไปถึงสัตว์โลกอย่างนี้เรื่อยๆ สักร้อยตัว >รับรองประเดี๋ยวก็..คร้อกก..ก) > >@ เพื่อนรักต่อหน้าทำดีกับเราแต่ลับหลังเผาเราเซียะไม่มีดี >ไม่เป็นไร..เราให้อภัย เพราะนายเคยทำดีกะเราไว้เยอะ >เอาเป็นว่าถ้านายเลิกนิสัยนี้ได้เมื่อไหร่ เราทั้งสองคน ค่อยมาคบกันใหม่นะ >...สวัสดี ( โห..! เลิกคบเลย ) > >@ ท้อใจอยากโดดตึก >ขืนโดดก็โง่ดิ .. โด่....ชีวิตนี้มันก็แค่แบบฝึกหัดเล่มใหญ่ >ปัญหาผ่านมาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันมาแวะทักทายเราให้ลองแก้ไขดูเท่านั้นเอง >แก้ปัญหาไม่ได้ ก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอทางออก ยอมแพ้ได้ไง > >@ เพื่อนชอบพูดข่มเราประจำ >คนมีปมด้อยมาก ๆ ก็อย่างนี้แหละ ชอบข่มคนอื่นให้ด้อย เพื่อตัวเองจะได้เด่น >เราไม่ถือสานายหรอก เอาไว้นายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นายก็จะรู้เอง > >@ เวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆรู้สึกประหม่า ๆไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนเอง >เวลายืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ ให้คิดอย่างนี้ดิ " ฉันคือราชสีห์ผู้สง่างาม >ยืนอยู่ท่ามกลาง หมู่สัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย ( ก็เพื่อน ๆ ไง ) นั่น ยีราฟ >(คนสูง ๆ ) โน่น ฮิปโป้ (อิ อิ) นู่น เม่น (คนผมแข็ง ๆ) ฯลฯ " >..เดี๋ยวก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาเองแหละ > >@ เกิดมาจนโธ่ ! คนอย่างเรา >เกิดมาจน ก็ได้เปรียบน่ะสิ เพราะได้มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัว >ด้วยลำแข้งของตัวเองจริง ๆ ชีวิตจะแข็งแกร่งกว่าคนที่เกิดมาสบาย ๆ ตั้งแต่เด็ก >แหม..ได้เปรียบแล้ว ยังมาทำบ่นอีก > >@ เพื่อนจะขายตัวบอกว่าไม่เห็นจะหนักหัวใครเลย >ช่าย..ย ..เราก้อเห็นด้วยกับเธอนะ นั่นไง เจ้า HIV ยังพยักหน้าเห็นด้วยเลย > >@ เรา"นมเล็ก"อยากใหญ่กว่านี้ทำไงดีอะ >เล็กๆ กระทัดรัด น่ารักนะจะบอกให้ แล้วอีกอย่าง ธรรมชาติของผู้ชายเนี่ย >เขาต้องการความอบอุ่น จาก "การดูแลเอาใจใส่" ต่างหาก ไม่ใช่จาก "หน้าอกใหญ่ ๆ >" > >@ เรียนหนังสือยังไงให้เป็นเลิศและไม่ให้เครียดครับ >คิดอย่างนี้ทุกวัน รับรองเป็นเลิศ"ฉันจะตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง >ฉันจะขยันอย่างไม่หยุดหย่อน ฉันจะค้นคว้าด้วยความอยากรู้จริง ๆ >และ...ฉันจะไม่แข่งขันกับใคร นอกจากแข่งขันกับตัวเอง " > >@ ไม่รู้เป็นอะไรอยากได้โน่นได้นี่ตลอดเวลาแต่ไม่มีเงิน แหะๆ >"อยากได้โน่นอยากได้นี่" มีแต่เสียเงินลูกเดียว " อยากทำโน่นอยากทำนี่ " >ดีกว่า สนุกดี แฮปปี้ตลอดวัน แถมไม่ต้องเสียเงินสักบาท > >@ แง ... เพื่อนไม่สนใจเราเลยทำดีเอาใจทุกอย่างแล้วนะ >ทำดีเพื่อให้คนอื่นมาสนใจมันก็เหื่ยวแห้งอย่างนี้แหละเธอ >เป็นแม่พระดีกว่านะ... ดูแลเพื่อน ๆ เหมือนอย่างกับแม่ที่ดูแลลูก >ให้ความอบอุ่นอย่างทั่วถึง แล้วแอบยิ้มอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ....เฮ้อ ! >เห็นคนอื่นมีความสุข แล้วก้อสบายใจ > >@ ถ้าหนูจะต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำเช่น ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน(อ้าว ! ) >ทำยังไงไม่ให้ขี้เกียจ ให้คิดดูว่า เราจะได้อะไรจากงานที่ทำนี้บ้าง >คิดไปเรื่อย ๆ จนเกิดความรู้สึก "อยากทำ" เช่น "ล้างส้วม" เราได้อะไรบ้าง โห >!เยอะแยะ >1."ได้ออกกำลัง" ดีจังเรายิ่งอ้วน ๆ อยู่ด้วย >2."ได้เสียสละ" เพื่อพ่อแม่จะได้เข้าห้องน้ำอย่างมีความสุข >3. "ได้ฝึกอดทน" โตขึ้นเราจะได้แข็งแกร่ง ลุยได้ทุกที่ >4. "ได้บุญ" ใครเห็นห้องน้ำสะอาด เขาก็จะสบายใจ เราก้ออิ่มบุญ >ฯลฯ ..(คิดไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก้อทนไม่ไหว อยากจะไปทำเองแหละ) > >@ ช่วยตัวเองบ่อยมากทำไงให้ลดลง >เบรคตัวเองแรง ๆ ดิ เช่น .. " ไม่คุ้มเลย.. สุขวูบเดียว >เพลียไปทั้งวัน...มันก็แค่อร่อยเหมือนแทะเนื้อติดกระดูก แทะยังไงก็ไม่อิ่ม ... >ไม่มีปัญญาคิดสร้างสรรค์ความสุขอื่น ๆ แล้วหรือไง >ถึงได้จมอยู่แต่เรื่องพวกนี้... เราวุ่นกับมัน มันก็วุ่นกับเรา >ไม่เป็นอิสระสักที " ฯลฯ(ถ้าคิดแล้วยังเอาไว้ไม่อยู่ ก็ตามบายเหอะ >มันไม่เสียหายอะไรนักหรอก) > >@ คืนนี้ อยู่คนเดียวกลัวผีอะบรื๋วว..ว์ >นี่พวกผี ตอนนี้ฉันกำลังสวดนะโม ตัสสะ ฯ อยู่นะ >เตือนไว้ก่อนว่าพระพุทธเจ้าท่านกำลังประทับอยู่ในใจฉัน >ผีตัวไหนอย่าอุตริโผล่ขึ้นมาหลอกล่ะ >บาปกรรมหัวแตกเป็นเจ็ดเสี่ยงไม่รู้ด้วยนะเออ > >@ คนตามจองล้างจองผลาญกลั่นแกล้งเราไม่ยอมเลิก >" เจ้ากรรมนายเวร" ภาค 2 ชัวร์ !! อย่างนี้ยิ่งตอบโต้ยิ่งเกมยาว (ถึงชาติหน้า) >เจ๊ากันไปดีกว่า เอาเป็นว่าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เรื่อยๆ >ศัตรูได้ส่วนบุญเยอะ ๆ เดี๋ยวก็เลิกรากันไปเองแหละ > >@ กระเป๋ารถเมล์สายที่นั่งประจำพูดจาไม่สุภาพฟังแล้วไม่สบอารมณ์เลย >น่าเห็นใจนะอาชีพนี้ นี่ถ้าฉันลองไปทำดูบ้าง ฉันก็คงจะเครียด >และต้องแสดงอาการกริยาแบบนี้แหละ > >@ ทำตัวดีไม่เป็นภัยกับใครแต่กลับถูกใส่ร้ายป้ายสี >ภูผาหินไม่กลัวพายุร้าย เราบริสุทธิ์ใจเสียอย่าง จะไปหวั่นไหวอะไรกะอีแค่ลมปาก >เขาพูดป้ายสี สีก็เลอะที่ปากเขาสิ เราไม่เกี่ยว.. > >@ ผมเป็นคนจับจดทำงานอะไรไม่เคยสำเร็จชาตินี้จะเอาดีกะเขาได้มั้ยเนี่ย >นึกถึงภาระกิจที่จะต้องทำแล้วคิดด้วยความมั่นใจว่า " เข้ามาเล้ย..ย งานน่ะ >ไม่กลัวอยู่แล้ว (ทุบกำปั้นบนฝ่ามือ) เรามั่นใจ ทำได้แน่ไม่เลี่ยง ไม่หนี >ลุยลูกเดียว " (คิดทั้งวันทั้งคืน ชาตินี้จะไม่มีวันเป็นคนจับจด) > >@ นิสัยตัวเองไม่ดีชอบจ้องจับผิดคนอื่น >" มิน่าเล่า เราถึงไม่มีเพื่อนที่ดีเหลือเลยสักคน จับผิดตัวเองดีกว่า >สนุกกว่ากันเยอะเลย " > >@ ติดเกมงอมแงมเสียการเสียงานอยากเลิก แต่เลิกไม่ได้ >พูดท้าทายตัวเองดิ เช่น" เล่นเกมสนุก แต่ไม่มีสาระ เสียเวลาไปเปล่าๆ >ไหนเก่งจริง ลองทำงานให้สนุกเหมือนเกมดูซิโด่...ทำได้หรือเปล่า มีปัญญาอ๊ะป่าว >" > >@ ทำสิ่งที่ไม่ดีบางอย่างมา(ทำอะไรไม่บอกอะ) >รู้สึกกังวลและเครียดมากหายใจไม่ทั่วท้องเลย หายใจเข้าออกลึก ๆ >ให้สุดปอดตลอดทั้งวัน และบอกกับตัวเองว่า "ถ้ามันไม่ร้ายแรงถึงกับตาย >เราก็ไม่ต้องไปกลัวไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรารับได้อยู่แล้ว >เราแก้ไขปรับปรุงตัวเองได้ สบายมาก " > >@ ถูกขาใหญ่ตบกระโหลกที่หน้าปากซอยฮึ่ม..แค้นมาก เดี๋ยวจะลากปืนไปยิงมัน >โห..! คิดได้ไงเนี่ยจะเอาเพชรไปแลกกะถ่าน คุ้มจริงๆ นะเพ่ > >@ ทำไมโรงเรียนต้องบังคับนักเรียนชายให้ตัดผมด้วยหมดหล่อเลยเรา เผด็จการชัด ๆ >ลดความหล่อบ้างสักนิดก็ดีนะสาว ๆ จะได้ไม่กวน ขอบคุณคับคุณครู >ที่ช่วยให้ผมได้เรียนหนังสือเต็มที่กับเขาสักที > >@ ไม่สบอารมณ์คนนั่งข้าง ๆ (ใครหว่า ?)ขอคาถาขับไล่หน่อยสิ >ได้สิ.. " โอมเพี้ยง.. ชิ๊ว ๆ ๆ ไปพวกความคิดที่ไม่ดีทั้งหลาย >หายวับกับตาไปให้หมดเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะได้ใจเย็นๆ สักที " > >@ ฮือ..ๆๆเราติดเอดส์เรากลัวตาย..ฮือๆๆ >เข้มแข็งๆ กล้าหาญไว้ โอ.!.ฉันขอบคุณโรคเอดส์ >เพราะมันทำให้ฉันไม่ประมาทในชีวิตอีกต่อไป ฉันจะรักษาสุขภาพกายใจให้ดีๆ >อายุจะได้ยืนยาวไปอย่างน้อยอีกสิบปี (ไม่แน่นะ >ถึงตอนนั้นอาจจะมียารักษาให้หายแล้วก็ได้ ) ฉันจะทำความดีให้มากๆๆๆ >จวบจนวินาทีสุดท้ายเพราะพระท่านว่าคนที่ทำความดีไม่ต้องกลัวโลกหน้า >ตายไปเมื่อไหร่จะสุขเหลือล้นจนคนข้างหลังอิจฉาเลยทีเดียวเชียว > >@ เจอพวกชอบโทร(สาธารณะ)นานแทบจะกางมุ้งนอนรอ >ถ้าไม่กล้าเคาะเตือน ขณะที่เรายืนรอ ลองฝึกสังเกต คนพวกนี้เล่นๆ ก็ได้ >สนุกดีนะ เช่น"อึมม์..เจ้าหมอนี่ นุ่งกางเกงยีนส์ปะๆแต่ว่าซักสะอาด >แสดงว่าชอบโชว์ความเก๋า แต่.. เล็บมือด๊ำดำ ว๊า ! หมดท่าเลย สังเกตดูเสื้อ >สก๊อตสีน้ำเงินซะด้วย แต่ดูดีๆ ตะเข็บเย็บไม่ประณีต สงสัยจะเป็นเสื้อโหล >ชอบยืนพิงตู้โทรคุยแบบนี้ น่าจะเป็นคนขี้เกียจนะ นั่น ๆ >มีสมุดเรียนเหน็บที่กระเป๋าหลัง อ๋อ ! เรียนอยู่สถาบันนี้เอง แหวะ .. >ทีหลังมีเราลูก เราไม่ส่งเรียนที่นี่หรอก นิสัยไม่ดี ฯลฯ " >(บางคนกว่าจะออกจากตู้ สงสัยสังเกตจนเขียนตำราได้หนึ่งเล่ม หุ หุ ) " > >@ เป็นคนขึ้อายมากกกกค่าเวลาคุยกะใครม้วนไปม้วนมา >จะคุยกับหนุ่มใช่มั๊ยล่า..า รู้ทันหรอกน่า ให้คิดว่าเขาเป็นลูกชายคนโตของเราดิ >แม่รู้สึกยังไงกะลูกล่ะ เอ็นดูใช่มั๊ย สงสารใช่มั๊ย >ให้มีเมตตากรุณาต่อผู้ชายทุกคนที่คุยด้วย แต่ไม่หวั่นไหวกะใครง่าย ๆ >ความอายจะหายไป ............ทำได้ป่าว > >@ มีคนใส่ร้ายเราเราโกรธมากจนนอนไม่หลับ >เขาทำความชั่วเขาก็ได้ผลชั่วของเขาเอง เรามามัวนอนโกรธ จนนอนไม่หลับ >อย่างนี้ก็สมใจเขาสิ เปลี่ยนไม่ถือสาหาความ เมตตาเอ็นดูเขาดีกว่านอนหลับสบาย >แถมฝันดีอีกต่างหาก > >@ มีแฟนหลายคนสับหลีกไม่ทันอะ >มีแฟนเยอะ แสดงว่าเรายังไม่เจอรักแท้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะลองแกล้งป่วยดู >ถ้าคนไหนมาเยี่ยม แสดงว่าคนนั้นก็ผ่านรอบคัดเลือก >เราจะทดสอบกลั่นกรองให้เหลือคนที่ดีที่สุด >เพราะรักเดียวใจเดียวคือความสุขที่แท้จริง > >@ ครูสอนน่าเบื่อโดดเรียนดีกว่าเรา >โดดเรียน ได้ผ่อนคลาย มีเสรี จะไปไหนก็ได้ อึมม์...มันก้อดีเหมือนกันนะ >แต่ทว่า...มันเป็นการหนีปัญหา เพราะอีกหน่อยเราก็คงต้องหนีเรื่อยไป หนีหน้าคน >-หนีการงาน -หนีความรับผิดชอบ ขืนเป็นอย่างนี้ อนาคตของเราคงจะไปไม่รอดแน่ๆ >สู้เลย..! จะไปกลัวอะไร ถ้าครูสอนน่าเบื่อ เราก็เรียนให้มันน่าสนุกสิ >ง่ายจะตายไป เรื่องอะไรจะหนีเรียนให้เสียชื่อ เราสู้วันนี้ วันหน้าสบายมาก >เย.." > >@ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับทำไมผู้ใหญ่ชอบบังคับกันเรื่อย >ถ้าไม่อยากให้รู้สึกว่ามีคนมาบังคับ ก็ต้องทำอะไรด้วยเหตุผลของตัวเอง >เช่น :- > >โรงเรียนบังคับให้ตัดผม >เราก็คิดว่า "เราตัดผมไม่ใช่เพราะกลัวลงโทษ >แต่เราตัดผมเพราะเราเคารพกฎของโรงเรียนต่างหาก" > >แม่สั่งให้เก็บที่นอนทุกเช้า >เราก็คิดว่า "ที่เราทำไม่ใช่เพราะกลัวแม่ด่า >แต่เพราะเห็นว่ามันเป็นระเบียบเรียบร้อยดีต่างหาก" > >พ่อบังคับไม่ให้เราไปเที่ยวไหนในวันหยุด >เราก็คิดว่า ที่เราไม่ไปไหน ไม่ใช่เพราะกลัวพ่อดุ >แต่เพราะเราต้องการจะฝึกตัวเองให้เข้มแข็งต่างหาก" ฯลฯ > >@ มีครูอยู่วิชาหนึ่งไม่ให้เกียรตินักเรียนชอบพูดสบประมาทเด็กอยู่เรื่อยเลย >ทุกครั้งที่ได้ยินถ้อยคำดูหมิ่น ให้ยิ้มน้อยๆด้วยความเข้าใจและเห็นใจ(ผู้พูด) >และ ให้คิดในใจว่า" พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญเราผู้ที่มีความหนักแน่น >อดทนต่อถ้อยคำ ประกอบดัวย เมตตา และ ปัญญา ว่าเป็น ผู้ใหญ่ หาใช่ เด็ก ไม่ " > >@ เป็นโรคใจง่ายเข้าใกล้คนหล่อ ๆทีไรหวั่นไหวทุกที >เวลาเข้าใกล้คนหล่อ ให้นึกถึงอะไรที่น่าเกลี๊ยด น่าเกลียดภายในตัวของเขาสิ >เช่น ขนจมูกของเขา ขี้หูของเขา ขี้ตา... .. รังแค.... อึ ..(แหวะ) คิดอย่างนี้ >เดี๋ยวก็หายหวั่นไหวไปเอง ..ไม่เชื่อ ลองดูดิ > >@ เพื่อนๆ ในห้องมีแฟนกันหมดแล้วมีเหลือแต่เรา "แหง่ว..ว" อยู่คนเดียว >คิดมุมกลับ.. " เพื่อนๆ ในห้องหาเรื่องไปร้อนรนทุรนทุรายกันหมดแล้ว >เหลือแต่เราอยู่เย็นเป็นสุขอยู่คนเดียว เย..! " > >@ อยากเที่ยวกลางคืนให้มันสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย >สุดเหวี่ยงจนลงเหวน่ะสิไม่ว่า เที่ยวกลางคืนเนี่ยปากทาง >แห่งความเสื่อมเลยนะตัวเอง > >@ ข้างบ้านชอบแต่งตัวโป๊ขอคาถาข่มใจหน่อยดิ >โอม ! ... ธรรมดาๆๆ ๆไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นอะไร เหม็นขี้เหงื่อ เหม็นขี้ไคล ใคร >ๆ ที่ไหน ก็เหมือนกัน (ท่องไปจ้องไปนะ ) PS. ใครทำตามได้ทั้งหมดนี้ละนับถือเลย " />สารพัดวิธีมองโลกแง่ดี

ความคิดเห็นทั้งหมด : 4

สารพัดวิธีมองโลกแง่ดี


   
>
>@ เพื่อนนินทา เพื่อนนินทาเรา
>แสดงว่าเราต้องมีดีอะไรสักอย่าง
>จนเพื่อนมันอิจฉาอย่างนี้เราน่าจะภูมิใจตัวเองแทนที่จะไปโกรธเพื่อนคนนั้น
>พูดง่ายๆ เขาไม่มีจุดเด่นเหมือนเราเขาจึงนินทาว่างั้นเหอะ
>
>@ ส่งยิ้มให้เธอแล้ว ไม่แยแส
>ยังดี..นะเนี่ย ที่เธอไม่ด่ากลับมา
นี่แสดงว่าเธอยังมีน้ำใจดีอยู่บ้างโอ..
>ซาบซึ้งเหลือเกิน ถึงเราจะแห้ว..แต่เราก็ยังประทับใจในความดีของหล่อน
>
>@ โดนแม่ด่าแต่เช้าตรู่
>แม่ด่าเรา แสดงว่าแม่ยังรักและห่วงใยเราอยู่ โห..ซาบซึ้งมากเลย
>อีกอย่างหนึ่งในคำด่าของแม่ต้องมีอะไรดีๆ ซ่อนไว้แน่ ๆ
>ไม่อย่างนั้นแม่ไม่ด่าซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ อย่างนี้หรอก
>
>@ ครูสอนไม่รู้เรื่องเลย
>ท้าทายมาก ..ท้าทายมาก นี่หมายความว่าคุณครูกำลังท้าทายเรา
ว่าถ้าข้าสอนห่วยๆ
>แบบนี้ เอ็งจะรู้เรื่องหรือเปล่า
อย่างนี้ยอมไม่ได้..เราต้องขวนขวายเอาเอง
>เพื่อพิสูจน์กึ๋นให้คุณครูรู้ว่าเรานี้ก็ไม่เบาเหมือนกาน..น
>
>@ เพื่อนหักหลัง
>ไม่เป็นไร..ขอกันกินมากกว่านี้ แต่น่าสงสารนายนะ เพราะนิสัยของนาย
>คงจะทำให้นายต้องเสียเพื่อนไปหมดทุกคนในไม่ช้า
>เพราะคงไม่มีใครหรอกที่จะไว้ใจคนที่หักหลังเพื่อน.
>
>@ เพื่อนล้อว่าเสี่ยว
>โห..! ตัวเรานี่มีอะไรดีๆ เยอะแยะ
>แต่พวกนายกลับมองไม่เห็นคุณค่าสงสัยว่าการมองโลกของพวกนายคงจะมีปัญหาแล้วล่ะ
>เสียใจด้วยนะ.ที่นายคงหมดโอกาสจะได้คบกับคนดี ๆ อย่างเรา
>
>@ เช็คเมล์เจอแต่จดหมายขยะชวนดูรูปโป๊
>ทดสอบ ๆ ทดสอบพลังจิต ถ้าเราลบเมล์พวกนี้ทิ้ง แสดงว่าจิตใจของเราเข้มแข็ง
>ถ้าเปิดดู ก็อ่อนแอ (เผลอ ๆ โดนหลอกให้เปิดไวรัสอีกต่างหาก อิอิ)
>
>@ วันหยุดการบ้านเพียบ
>สบายมาก..คุณครูกำลังท้าทายความสามารถของเรา(อีกแล้ว) เรารู้ทันหรอกน่า
>การบ้านเยอะอย่างนี้เราก็ว่าดีนะ เพราะได้ฝึก ตัวเองให้เป็นคนสู้งานหนัก
>ถ้าเราสู้ไม่ถอยในวันนี้ อนาคตไปโลด
>
>@ อกหักอีกแล้ว
>ไม่เป็นไร ได้เรียนรู้ชีวิต นี่ป็นการพิสูจน์สัจจธรรมอีกครั้งว่า
>รักแท้คือแม่เรา ว่าแต่ตัวเราเอง คอยปรับปรุงตัวเองให้ดีๆ เหอะ
>ชีวิตดีขึ้นเดี๋ยวก็มีคนมาชอบเราเองแหละ
>
>@ รถติดหงุดหงิดๆ
>นั่งสมาธิมันเสียเลย จิตใจสว่างไสว เรียนหนังสือจะได้จำแม่น ง่ายจะตาย
>หลับตาหายใจเข้าออกลึก ๆ นับ 1 2 3 4 5 ดูลมหายใจเข้าออกเพลิน ๆ
>ไม่ต้องไปรอคอยอะไร
>
>@ โห..ใช้เงินเพลินหมดเรียบเลย
>" เงินหมด ก็อดอย่างเสือ" ดีสิ..จะได้ฝึกนิสัยอดทนสักระยะ
>ยังมีคนอื่นที่ทุกข์มากกว่าเราเยอะแยะ ทุกข์ของเรามันแค่เรื่องขี้ผง
>
>@ เพื่อนมีมือถือ แต่เราไม่มี
>โชคดีแล้วล่ะที่ไม่มี มือถือเนี่ยตัวดูดเงินเลย วัยรุ่นบางคน
เมาท์จนล้มละลาย
>อย่าเห่อไปตามกระแสหน่อยเลย ชีวิตนี้ไม่ได้ดีขึ้นเพราะมือถือหรอกนะ
>
>@ เราหน้าตี๋ กลม ๆ เหมือนดวงจันทร์ ..อายจัง
>โด่..หล่อจะตาย สมัยก่อนนู้น เขาคลั่งไคล้มาก ขนาดที่เมืองจีน
>เวลาปั้นพระพุทธรูป เขายังปั้นให้หน้าอูม ๆ เลย
>จริงอยู่สมัยนี้เขานิยมคนหน้าตาแบบลูกครึ่งฝรั่ง แต่อีกหน่อยก็เลิกฮิต
>เชื่อเหอะ ไม่แน่นะ ในอนาคตแฟชั่นหน้าตี๋อาจจะกลับมานิยมอีกก็ด้าย...อ้อ
!
>อีกอย่างสมัยนี้ สาว ๆ ที่ฉลาด เขาชอบคนดีมากกว่าคนหล่อ นะจะบอกให้
>
>@ ชอบเขา แต่เขาไม่ชอบเราง่ะ
>ธรรมดาเลย.. ปิ๊งใครง่าย ๆ มันก็ต้องกิน"แห้ว"ประจำ
>ที่จริงชีวิตของเรานั้นมีคุณค่ามากนะ จะปล่อยให้เรื่องเล็กๆ
>แค่นี้มาทำให้ชีวิตของเราไร้ค่าได้อย่างไร ทำตัวเองให้มีค่า ดีกว่า
>เดี๋ยวก็มีคนดี ๆ มาชอบเราเองหรอกน้า..า
>
>@ เฮ้อ ! แฟนดูรูปโป๊ประจำ
>ดูเข้าไปเลย..เห็นพระท่านว่าพวกผู้ชายที่ชอบดูรูปโป๊มาก ๆ
>ชาติหน้าพวกนี้จะไปเกิดเป็นผู้หญิงกันหมด
เพราะจิตใจฝักใฝ่แต่รูปร่างผู้หญิง
>ดีสม..! ชอบเอา เปรียบกันนักไปเกิดเป็นผู้หญิงเองเสียบ้าง จะได้รู้สึก
>(เขาเรียกว่าไป "ที่ชอบๆ" ฮิ ฮิ)
>
>@ ผิดหวังผลสอบดูหนังสือแทบตายได้แค่ เกรด B
>เรียนแล้วได้วิชาความรู้ มันก็เหมือนทำงานแล้วได้เงินเดือน การได้เกรด A
>ก็คล้ายๆ กับว่าเราได้โบนัส ทีนี้ถึงเราจะไม่ได้โบนัส
มันก็ไม่น่าจะเสียใจอะไร
>ก้อเราได้เงินเดือนแล้วนี่นา
>
>@ เข้าคิวซื้อตั๋วหนังอยู่ดีๆเพื่อนเล่นแซงคิวหน้าตาเฉย
>โถ.. ! น่าสงสาร ยอมเสียนิสัย เพื่อแลกกับตั๋วหนังเพียงใบเดียว
>
>@ ข้างห้องเปิดเพลงเสียงดังหนวกหูทั้งวัน
>เสียงภายนอกดังสนั่น แต่เสียงภายในเงียบสนิท ถึงเสียงวิทยุจะดังปานใด
>แต่ใจฉันก็ไม่เคยหงุดหงิด ฉันยังคงทำงานของฉันไปอย่างมีความสุข
>
>@ คนชอบมาแซวเราว่า"น้องดำ ดอทคอม"
>ผิวอย่างฉันเขาเรียกว่า "คมขำ" ย่ะ หนุ่มๆ ฝรั่งหลงใหลจะตายไป
>พวกนายคงโดนโฆษณาหลอกแล้วล่ะ"ฉันคือตัวฉัน" ไม่ต้องให้ใครมาจูงจมูกหรอกนะ
>
>@ เฮ้อ..! ไม่รู้จะทำอะไรดีเซ็ง..ง ระเบิด !
>แอ็คทีฟเข้าไว้เพื่อน อย่าให้ความเซ็งเข้าครอบงำ
>ทำทุกอย่างด้วยความกระฉับกระเฉง หนึ่ง สอง..ๆๆๆ หาอะไรทำให้มันสนุก หนึ่ง
>สอง... ๆๆ
>
>@ รู้สึกว่าตัวเองโง่โดนคนอื่นหลอกอยู่เรื่อย
>นึกว่าตัวเองโง่ ยังดีกว่านึกว่าตัวเองฉลาด
>พระท่านว่าคนฉลาดคือคนที่รู้ตัวเองว่าโง่นะ
(แต่อย่าเผลอไปโดนเขาหลอกอีกล่ะ อิ
>อิ)
>
>@ เพื่อนเห็นแก่ตัวกินไหนกินด้วยแต่ไม่เคยช่วยสักบาท
>เฮ้อ..นึกว่าช่วยชีวิตเพื่อนให้รอดไปได้สักมื้อก็แล้วกัน ได้บุญดีนะ
>(แหะๆ....แต่นาน ๆ เจอกันสักที ก็แล้วกัน)
>
>@ กลุ้มใจจังไม่มีใครมาจีบ
>"กลุ้มใจ" ไม่มีคนมาจีบ มันยังดีกว่า "ช้ำใจ" ที่โดนคนมาหลอก
>ถ้าอยากจะพบรักแท้ มันก็ต้องอดทนไว้ก่อนนะเธอ
>
>@ หน้าเป็นสิวไปไหนมาไหนอายเพื่อน
>วัยรุ่นมีสิวน่ารักจะตายไป เออถ้าคนแก่มีสิวสิ ค่อยน่าอายหน่อย
>พวกบริษัทขายยาแก้สิวทั้งหลายนี่แหละตัวดี
ชอบโฆษณาทำร้ายจิตใจวัยรุ่นดีนัก
>ระวังตัวใว้ดีๆเหอะ ชาติหน้ากรรมสนอง ไปเกิดเป็น "ท้าวแสนปม" ไม่รู้ด้วย
อิอิ
>
>@ ทำตังค์ตกหาย 500 แง..!
>ไม่เป็นไร..คิดเสียว่าเสียค่าหน่วยกิต วิชา "ละเอียดรอบคอบระมัดระวัง"
>ก็แล้วกัน นี่ถ้าชีวิตเรามีความรอบคอบมากขึ้น เพราะเงิน หายในคราวนี้
>ก็นับว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว
>
>@ พ่อแม่ชอบเห็นเราเป็นเด็กตลอดชาติ
>ถึงใครจะมองเราว่าเป็นเด็ก
แต่เราก็จะเคารพตัวเองว่าเรานั้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว
>ผู้ใหญ่คือคนที่ไม่ทำอะไรตามใจตนเอง
แต่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรอบคอบ
>ใคร่ครวญด้วยสติปัญญา (เอ...ชักยากแฮะ
>หรือว่าจะยอมเป็นเด็กเหมือนเดิมดีกว่าม้าง...ง )
>
>@ อิจฉาเพื่อนแฟนมันสวยอะ
>มีแฟนสวยก็ยินดีด้วย แต่เราว่ามีแฟนนิสัยดีดูแลเอาใจใส่ดี
แบบนี้สุดยอดกว่านะ
>
>@ รักเธอแต่ว่าไม่กล้าเอ่ยปาก
>อย่างนี้ต้องซ้อมบอกรักกับคนอื่นให้เกิดความเคยชินเสียก่อน พ่อคับ
>ผมรักคุณพ่อมากคับ .. แม่คับ ผมรักคุณแม่มากคับ .. ไอ้ตูบ
ข้ารักเอ็งมากนะ ..
>เฮ้ย..เจ้าศักดิ์ เรารักนายจริงๆ ว่ะ .. ฯลฯ อิอิ..
>ทีนี้พอพูดคล่องแล้วจึงค่อยไปบอกรักกะเธอ
>
>@ ช่วยเพื่อนแทบตายแต่เพื่อนยังคิดร้ายกะเราอีก
>เฮ้อ..คิดว่าช่วยเสือตกน้ำให้รอดตายสักตัวก็แล้วกัน เสือเนี่ยนะ
ถึงเราช่วยมัน
>แต่ถ้าเราเข้าใกล้มัน มันก็กัดเราอยู่ดี คงต้องปล่อยเข้าป่าไป
>เจ้าเพื่อนคนนี้ก็เหมือนกัน ฉันช่วยแกแค่เอาบุญ
แต่คราวหน้าคงไม่ช่วยแล้วล่ะ
>ปรับปรุงตัวเองให้นิสัยดีกว่านี้ก่อน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่
>
>@ พอแฟนเจอคนที่รวยกว่าเธอบอกเลิกกับผมทันที
>อย่างนี้เรียกว่า..โชคดีที่เลิกกัน จริงๆ นะ
>..คนที่เห็นเงินทองสำคัญกว่าความรักอย่างเงี้ยะ ขืนได้แต่งงานด้วย
>รับรองว่าเจอปัญหาตลอดชีวิตแน่เราโชคดีแล้วล่ะ ที่แคล้วคลาดออกมาได้
>
>@ เหงามากขอบอก
>มองรอบๆ ดู .. อะไรต่ออะไรล้วนแต่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือเราทั้งน้าน.น
>โต๊ะก็เพื่อนเรา เก้าอื้ก็เพื่อนเรา หน้าต่างก็เพื่อนเรา
หนังสือก็เพื่อนเรา
>แก้วน้ำก็เพื่อนเรา ฯลฯ...(สามชั่วโมงผ่านไป) .....ฯลฯ หมาก็เพื่อนเรา
>ต้นหญ้าก็เพื่อนเรา ท่อระบายน้ำก็เพื่อนเรา ตู้ไปรษณีย์ก็เพื่อนเรา...
ฯลฯ
>.... (ต่อไปอีกห้าชั่วโมง)..... ฯลฯ
>
>@ เพื่อนกวนยียวนมากอยากชกสักที
>โด่..คนกวนๆ แบบนี้ไปที่ไหนก็มีคนอยากชกกันทั้งนั้น
>เราจะต้องไปชกเองทำไมให้เจ็บมือ เดี๋ยวก็มีคนอื่นชกให้เองแหละ
>แต่ดูๆแล้วก็น่าสงสารนะ...โถ..! เกิดมาชาตินี้มีแต่คนอยากชก
>
>@ อยากตัดใจจากคนรักค่ะทรมานใจมากอยากทำใจให้ไวสุดๆ
>ทุกครั้งที่นึกถึงเขาให้ทำอย่างนี้ดิ " หายใจเข้าลึกๆ นึกถึงเขา(คนนั้น)
>หายใจออกยาว ๆ สลายภาพของเขาใหัหายไป " แล้วก็พูดในใจว่า "โอ้..!
>ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ไม่ใช่ของเรา มันเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย "
>(จับฝึกกรรมฐานเสียเลย อิอิ )
>
>@ พ่อบังคับผมจะให้สอบเอ็นฯติดให้ได้..เครียดมาก
>โอเคครับ...ผมจะพยายามเพื่อพ่อ แต่ผมขอเวลาทำอะไรเพื่อตัวผมเองบ้างนะครับ
>อ้อ..! ถ้าเอ็นฯไม่ติด ก้อไม่ว่ากันนะครับ เพราะสุดฝีมือแล้ว
>แต่พ่อไม่ต้องห่วงอนาคตของผมหรอกครับ เพราะถึงผมจะเอ็นฯไม่ติด
>ผมได้เตรียมหนทางของผมไว้แล้ว รับรองไปได้สวยอย่างแน่นอนครับ
>
>@ นอนไม่หลับกระสับกระส่าย
>ฮ้าว..ว (หาว) แล้วส่งกระแสจิตไปยังสัตว์โลกแบบนี้ดิ หนึ่ง.. ฉันรักแมว
>สอง..ฉันรักหมา สาม..ฉันรักยีราฟ สี่...ฉันรักหนอน ห้า...ฉันรักสิงโต
>หก...ฉันรักนก เจ็ด.. ฉันรักเม่น.... ฯลฯ (
>ส่งความรักไปถึงสัตว์โลกอย่างนี้เรื่อยๆ สักร้อยตัว
>รับรองประเดี๋ยวก็..คร้อกก..ก)
>
>@ เพื่อนรักต่อหน้าทำดีกับเราแต่ลับหลังเผาเราเซียะไม่มีดี
>ไม่เป็นไร..เราให้อภัย เพราะนายเคยทำดีกะเราไว้เยอะ
>เอาเป็นว่าถ้านายเลิกนิสัยนี้ได้เมื่อไหร่ เราทั้งสองคน
ค่อยมาคบกันใหม่นะ
>...สวัสดี ( โห..! เลิกคบเลย )
>
>@ ท้อใจอยากโดดตึก
>ขืนโดดก็โง่ดิ .. โด่....ชีวิตนี้มันก็แค่แบบฝึกหัดเล่มใหญ่
>ปัญหาผ่านมาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันมาแวะทักทายเราให้ลองแก้ไขดูเท่านั้นเอง
>แก้ปัญหาไม่ได้ ก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอทางออก ยอมแพ้ได้ไง
>
>@ เพื่อนชอบพูดข่มเราประจำ
>คนมีปมด้อยมาก ๆ ก็อย่างนี้แหละ ชอบข่มคนอื่นให้ด้อย
เพื่อตัวเองจะได้เด่น
>เราไม่ถือสานายหรอก เอาไว้นายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นายก็จะรู้เอง
>
>@ เวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆรู้สึกประหม่า ๆไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนเอง
>เวลายืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ ให้คิดอย่างนี้ดิ " ฉันคือราชสีห์ผู้สง่างาม
>ยืนอยู่ท่ามกลาง หมู่สัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย ( ก็เพื่อน ๆ ไง ) นั่น ยีราฟ
>(คนสูง ๆ ) โน่น ฮิปโป้ (อิ อิ) นู่น เม่น (คนผมแข็ง ๆ) ฯลฯ "
>..เดี๋ยวก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาเองแหละ
>
>@ เกิดมาจนโธ่ ! คนอย่างเรา
>เกิดมาจน ก็ได้เปรียบน่ะสิ เพราะได้มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัว
>ด้วยลำแข้งของตัวเองจริง ๆ ชีวิตจะแข็งแกร่งกว่าคนที่เกิดมาสบาย ๆ
ตั้งแต่เด็ก
>แหม..ได้เปรียบแล้ว ยังมาทำบ่นอีก
>
>@ เพื่อนจะขายตัวบอกว่าไม่เห็นจะหนักหัวใครเลย
>ช่าย..ย ..เราก้อเห็นด้วยกับเธอนะ นั่นไง เจ้า HIV
ยังพยักหน้าเห็นด้วยเลย
>
>@ เรา"นมเล็ก"อยากใหญ่กว่านี้ทำไงดีอะ
>เล็กๆ กระทัดรัด น่ารักนะจะบอกให้ แล้วอีกอย่าง ธรรมชาติของผู้ชายเนี่ย
>เขาต้องการความอบอุ่น จาก "การดูแลเอาใจใส่" ต่างหาก ไม่ใช่จาก
"หน้าอกใหญ่ ๆ
>"
>
>@ เรียนหนังสือยังไงให้เป็นเลิศและไม่ให้เครียดครับ
>คิดอย่างนี้ทุกวัน รับรองเป็นเลิศ"ฉันจะตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง
>ฉันจะขยันอย่างไม่หยุดหย่อน ฉันจะค้นคว้าด้วยความอยากรู้จริง ๆ
>และ...ฉันจะไม่แข่งขันกับใคร นอกจากแข่งขันกับตัวเอง "
>
>@ ไม่รู้เป็นอะไรอยากได้โน่นได้นี่ตลอดเวลาแต่ไม่มีเงิน แหะๆ
>"อยากได้โน่นอยากได้นี่" มีแต่เสียเงินลูกเดียว " อยากทำโน่นอยากทำนี่ "
>ดีกว่า สนุกดี แฮปปี้ตลอดวัน แถมไม่ต้องเสียเงินสักบาท
>
>@ แง ... เพื่อนไม่สนใจเราเลยทำดีเอาใจทุกอย่างแล้วนะ
>ทำดีเพื่อให้คนอื่นมาสนใจมันก็เหื่ยวแห้งอย่างนี้แหละเธอ
>เป็นแม่พระดีกว่านะ... ดูแลเพื่อน ๆ เหมือนอย่างกับแม่ที่ดูแลลูก
>ให้ความอบอุ่นอย่างทั่วถึง แล้วแอบยิ้มอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ....เฮ้อ !
>เห็นคนอื่นมีความสุข แล้วก้อสบายใจ
>
>@ ถ้าหนูจะต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำเช่น ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน(อ้าว
! )
>ทำยังไงไม่ให้ขี้เกียจ ให้คิดดูว่า เราจะได้อะไรจากงานที่ทำนี้บ้าง
>คิดไปเรื่อย ๆ จนเกิดความรู้สึก "อยากทำ" เช่น "ล้างส้วม" เราได้อะไรบ้าง
โห
>!เยอะแยะ
>1."ได้ออกกำลัง" ดีจังเรายิ่งอ้วน ๆ อยู่ด้วย
>2."ได้เสียสละ" เพื่อพ่อแม่จะได้เข้าห้องน้ำอย่างมีความสุข
>3. "ได้ฝึกอดทน" โตขึ้นเราจะได้แข็งแกร่ง ลุยได้ทุกที่
>4. "ได้บุญ" ใครเห็นห้องน้ำสะอาด เขาก็จะสบายใจ เราก้ออิ่มบุญ
>ฯลฯ ..(คิดไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก้อทนไม่ไหว อยากจะไปทำเองแหละ)
>
>@ ช่วยตัวเองบ่อยมากทำไงให้ลดลง
>เบรคตัวเองแรง ๆ ดิ เช่น .. " ไม่คุ้มเลย.. สุขวูบเดียว
>เพลียไปทั้งวัน...มันก็แค่อร่อยเหมือนแทะเนื้อติดกระดูก
แทะยังไงก็ไม่อิ่ม ...
>ไม่มีปัญญาคิดสร้างสรรค์ความสุขอื่น ๆ แล้วหรือไง
>ถึงได้จมอยู่แต่เรื่องพวกนี้... เราวุ่นกับมัน มันก็วุ่นกับเรา
>ไม่เป็นอิสระสักที " ฯลฯ(ถ้าคิดแล้วยังเอาไว้ไม่อยู่ ก็ตามบายเหอะ
>มันไม่เสียหายอะไรนักหรอก)
>
>@ คืนนี้ อยู่คนเดียวกลัวผีอะบรื๋วว..ว์
>นี่พวกผี ตอนนี้ฉันกำลังสวดนะโม ตัสสะ ฯ อยู่นะ
>เตือนไว้ก่อนว่าพระพุทธเจ้าท่านกำลังประทับอยู่ในใจฉัน
>ผีตัวไหนอย่าอุตริโผล่ขึ้นมาหลอกล่ะ
>บาปกรรมหัวแตกเป็นเจ็ดเสี่ยงไม่รู้ด้วยนะเออ
>
>@ คนตามจองล้างจองผลาญกลั่นแกล้งเราไม่ยอมเลิก
>" เจ้ากรรมนายเวร" ภาค 2 ชัวร์ !! อย่างนี้ยิ่งตอบโต้ยิ่งเกมยาว
(ถึงชาติหน้า)
>เจ๊ากันไปดีกว่า เอาเป็นว่าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เรื่อยๆ
>ศัตรูได้ส่วนบุญเยอะ ๆ เดี๋ยวก็เลิกรากันไปเองแหละ
>
>@ กระเป๋ารถเมล์สายที่นั่งประจำพูดจาไม่สุภาพฟังแล้วไม่สบอารมณ์เลย
>น่าเห็นใจนะอาชีพนี้ นี่ถ้าฉันลองไปทำดูบ้าง ฉันก็คงจะเครียด
>และต้องแสดงอาการกริยาแบบนี้แหละ
>
>@ ทำตัวดีไม่เป็นภัยกับใครแต่กลับถูกใส่ร้ายป้ายสี
>ภูผาหินไม่กลัวพายุร้าย เราบริสุทธิ์ใจเสียอย่าง
จะไปหวั่นไหวอะไรกะอีแค่ลมปาก
>เขาพูดป้ายสี สีก็เลอะที่ปากเขาสิ เราไม่เกี่ยว..
>
>@ ผมเป็นคนจับจดทำงานอะไรไม่เคยสำเร็จชาตินี้จะเอาดีกะเขาได้มั้ยเนี่ย
>นึกถึงภาระกิจที่จะต้องทำแล้วคิดด้วยความมั่นใจว่า " เข้ามาเล้ย..ย
งานน่ะ
>ไม่กลัวอยู่แล้ว (ทุบกำปั้นบนฝ่ามือ) เรามั่นใจ ทำได้แน่ไม่เลี่ยง ไม่หนี
>ลุยลูกเดียว " (คิดทั้งวันทั้งคืน ชาตินี้จะไม่มีวันเป็นคนจับจด)
>
>@ นิสัยตัวเองไม่ดีชอบจ้องจับผิดคนอื่น
>" มิน่าเล่า เราถึงไม่มีเพื่อนที่ดีเหลือเลยสักคน จับผิดตัวเองดีกว่า
>สนุกกว่ากันเยอะเลย "
>
>@ ติดเกมงอมแงมเสียการเสียงานอยากเลิก แต่เลิกไม่ได้
>พูดท้าทายตัวเองดิ เช่น" เล่นเกมสนุก แต่ไม่มีสาระ เสียเวลาไปเปล่าๆ
>ไหนเก่งจริง ลองทำงานให้สนุกเหมือนเกมดูซิโด่...ทำได้หรือเปล่า
มีปัญญาอ๊ะป่าว
>"
>
>@ ทำสิ่งที่ไม่ดีบางอย่างมา(ทำอะไรไม่บอกอะ)
>รู้สึกกังวลและเครียดมากหายใจไม่ทั่วท้องเลย หายใจเข้าออกลึก ๆ
>ให้สุดปอดตลอดทั้งวัน และบอกกับตัวเองว่า "ถ้ามันไม่ร้ายแรงถึงกับตาย
>เราก็ไม่ต้องไปกลัวไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรารับได้อยู่แล้ว
>เราแก้ไขปรับปรุงตัวเองได้ สบายมาก "
>
>@ ถูกขาใหญ่ตบกระโหลกที่หน้าปากซอยฮึ่ม..แค้นมาก เดี๋ยวจะลากปืนไปยิงมัน
>โห..! คิดได้ไงเนี่ยจะเอาเพชรไปแลกกะถ่าน คุ้มจริงๆ นะเพ่
>
>@ ทำไมโรงเรียนต้องบังคับนักเรียนชายให้ตัดผมด้วยหมดหล่อเลยเรา
เผด็จการชัด ๆ
>ลดความหล่อบ้างสักนิดก็ดีนะสาว ๆ จะได้ไม่กวน ขอบคุณคับคุณครู
>ที่ช่วยให้ผมได้เรียนหนังสือเต็มที่กับเขาสักที
>
>@ ไม่สบอารมณ์คนนั่งข้าง ๆ (ใครหว่า ?)ขอคาถาขับไล่หน่อยสิ
>ได้สิ.. " โอมเพี้ยง.. ชิ๊ว ๆ ๆ ไปพวกความคิดที่ไม่ดีทั้งหลาย
>หายวับกับตาไปให้หมดเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะได้ใจเย็นๆ สักที "
>
>@ ฮือ..ๆๆเราติดเอดส์เรากลัวตาย..ฮือๆๆ
>เข้มแข็งๆ กล้าหาญไว้ โอ.!.ฉันขอบคุณโรคเอดส์
>เพราะมันทำให้ฉันไม่ประมาทในชีวิตอีกต่อไป ฉันจะรักษาสุขภาพกายใจให้ดีๆ
>อายุจะได้ยืนยาวไปอย่างน้อยอีกสิบปี (ไม่แน่นะ
>ถึงตอนนั้นอาจจะมียารักษาให้หายแล้วก็ได้ ) ฉันจะทำความดีให้มากๆๆๆ
>จวบจนวินาทีสุดท้ายเพราะพระท่านว่าคนที่ทำความดีไม่ต้องกลัวโลกหน้า
>ตายไปเมื่อไหร่จะสุขเหลือล้นจนคนข้างหลังอิจฉาเลยทีเดียวเชียว
>
>@ เจอพวกชอบโทร(สาธารณะ)นานแทบจะกางมุ้งนอนรอ
>ถ้าไม่กล้าเคาะเตือน ขณะที่เรายืนรอ ลองฝึกสังเกต คนพวกนี้เล่นๆ ก็ได้
>สนุกดีนะ เช่น"อึมม์..เจ้าหมอนี่ นุ่งกางเกงยีนส์ปะๆแต่ว่าซักสะอาด
>แสดงว่าชอบโชว์ความเก๋า แต่.. เล็บมือด๊ำดำ ว๊า ! หมดท่าเลย
สังเกตดูเสื้อ
>สก๊อตสีน้ำเงินซะด้วย แต่ดูดีๆ ตะเข็บเย็บไม่ประณีต สงสัยจะเป็นเสื้อโหล
>ชอบยืนพิงตู้โทรคุยแบบนี้ น่าจะเป็นคนขี้เกียจนะ นั่น ๆ
>มีสมุดเรียนเหน็บที่กระเป๋าหลัง อ๋อ ! เรียนอยู่สถาบันนี้เอง แหวะ ..
>ทีหลังมีเราลูก เราไม่ส่งเรียนที่นี่หรอก นิสัยไม่ดี ฯลฯ "
>(บางคนกว่าจะออกจากตู้ สงสัยสังเกตจนเขียนตำราได้หนึ่งเล่ม หุ หุ ) "
>
>@ เป็นคนขึ้อายมากกกกค่าเวลาคุยกะใครม้วนไปม้วนมา
>จะคุยกับหนุ่มใช่มั๊ยล่า..า รู้ทันหรอกน่า
ให้คิดว่าเขาเป็นลูกชายคนโตของเราดิ
>แม่รู้สึกยังไงกะลูกล่ะ เอ็นดูใช่มั๊ย สงสารใช่มั๊ย
>ให้มีเมตตากรุณาต่อผู้ชายทุกคนที่คุยด้วย แต่ไม่หวั่นไหวกะใครง่าย ๆ
>ความอายจะหายไป ............ทำได้ป่าว
>
>@ มีคนใส่ร้ายเราเราโกรธมากจนนอนไม่หลับ
>เขาทำความชั่วเขาก็ได้ผลชั่วของเขาเอง เรามามัวนอนโกรธ จนนอนไม่หลับ
>อย่างนี้ก็สมใจเขาสิ เปลี่ยนไม่ถือสาหาความ
เมตตาเอ็นดูเขาดีกว่านอนหลับสบาย
>แถมฝันดีอีกต่างหาก
>
>@ มีแฟนหลายคนสับหลีกไม่ทันอะ
>มีแฟนเยอะ แสดงว่าเรายังไม่เจอรักแท้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะลองแกล้งป่วยดู
>ถ้าคนไหนมาเยี่ยม แสดงว่าคนนั้นก็ผ่านรอบคัดเลือก
>เราจะทดสอบกลั่นกรองให้เหลือคนที่ดีที่สุด
>เพราะรักเดียวใจเดียวคือความสุขที่แท้จริง
>
>@ ครูสอนน่าเบื่อโดดเรียนดีกว่าเรา
>โดดเรียน ได้ผ่อนคลาย มีเสรี จะไปไหนก็ได้ อึมม์...มันก้อดีเหมือนกันนะ
>แต่ทว่า...มันเป็นการหนีปัญหา เพราะอีกหน่อยเราก็คงต้องหนีเรื่อยไป
หนีหน้าคน
>-หนีการงาน -หนีความรับผิดชอบ ขืนเป็นอย่างนี้
อนาคตของเราคงจะไปไม่รอดแน่ๆ
>สู้เลย..! จะไปกลัวอะไร ถ้าครูสอนน่าเบื่อ เราก็เรียนให้มันน่าสนุกสิ
>ง่ายจะตายไป เรื่องอะไรจะหนีเรียนให้เสียชื่อ เราสู้วันนี้
วันหน้าสบายมาก
>เย.."
>
>@ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับทำไมผู้ใหญ่ชอบบังคับกันเรื่อย
>ถ้าไม่อยากให้รู้สึกว่ามีคนมาบังคับ ก็ต้องทำอะไรด้วยเหตุผลของตัวเอง
>เช่น :-
>
>โรงเรียนบังคับให้ตัดผม
>เราก็คิดว่า "เราตัดผมไม่ใช่เพราะกลัวลงโทษ
>แต่เราตัดผมเพราะเราเคารพกฎของโรงเรียนต่างหาก"
>
>แม่สั่งให้เก็บที่นอนทุกเช้า
>เราก็คิดว่า "ที่เราทำไม่ใช่เพราะกลัวแม่ด่า
>แต่เพราะเห็นว่ามันเป็นระเบียบเรียบร้อยดีต่างหาก"
>
>พ่อบังคับไม่ให้เราไปเที่ยวไหนในวันหยุด
>เราก็คิดว่า ที่เราไม่ไปไหน ไม่ใช่เพราะกลัวพ่อดุ
>แต่เพราะเราต้องการจะฝึกตัวเองให้เข้มแข็งต่างหาก" ฯลฯ
>
>@
มีครูอยู่วิชาหนึ่งไม่ให้เกียรตินักเรียนชอบพูดสบประมาทเด็กอยู่เรื่อยเลย
>ทุกครั้งที่ได้ยินถ้อยคำดูหมิ่น
ให้ยิ้มน้อยๆด้วยความเข้าใจและเห็นใจ(ผู้พูด)
>และ ให้คิดในใจว่า" พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญเราผู้ที่มีความหนักแน่น
>อดทนต่อถ้อยคำ ประกอบดัวย เมตตา และ ปัญญา ว่าเป็น ผู้ใหญ่ หาใช่ เด็ก
ไม่ "
>
>@ เป็นโรคใจง่ายเข้าใกล้คนหล่อ ๆทีไรหวั่นไหวทุกที
>เวลาเข้าใกล้คนหล่อ ให้นึกถึงอะไรที่น่าเกลี๊ยด
น่าเกลียดภายในตัวของเขาสิ
>เช่น ขนจมูกของเขา ขี้หูของเขา ขี้ตา... .. รังแค.... อึ ..(แหวะ)
คิดอย่างนี้
>เดี๋ยวก็หายหวั่นไหวไปเอง ..ไม่เชื่อ ลองดูดิ
>
>@ เพื่อนๆ ในห้องมีแฟนกันหมดแล้วมีเหลือแต่เรา "แหง่ว..ว" อยู่คนเดียว
>คิดมุมกลับ.. " เพื่อนๆ ในห้องหาเรื่องไปร้อนรนทุรนทุรายกันหมดแล้ว
>เหลือแต่เราอยู่เย็นเป็นสุขอยู่คนเดียว เย..! "
>
>@ อยากเที่ยวกลางคืนให้มันสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย
>สุดเหวี่ยงจนลงเหวน่ะสิไม่ว่า เที่ยวกลางคืนเนี่ยปากทาง
>แห่งความเสื่อมเลยนะตัวเอง
>
>@ ข้างบ้านชอบแต่งตัวโป๊ขอคาถาข่มใจหน่อยดิ
>โอม ! ... ธรรมดาๆๆ ๆไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นอะไร เหม็นขี้เหงื่อ
เหม็นขี้ไคล ใคร
>ๆ ที่ไหน ก็เหมือนกัน (ท่องไปจ้องไปนะ )





PS. ใครทำตามได้ทั้งหมดนี้ละนับถือเลย



Posted by : lovely , Date : 2003-04-24 , Time : 11:11:46 , From IP : client-cache9.wa.iin

ความคิดเห็นที่ : 1


   fake




Posted by : um , Date : 2003-04-24 , Time : 17:26:10 , From IP : dialup156.net39.sama

ความคิดเห็นที่ : 2


   ถ้าอยากรู้ว่าเราเป็นใคร
ลองสังเกตดีๆ มีผู้หญิงคนนึง หน้าตาคล้าย นางเอกเรื่อง fake เหอเหอ


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-04-24 , Time : 22:48:57 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 3


   อยากมองโลกในแง่ดี










^
^
^
^
อย่ามองคนโพสต์ข้างบน


Posted by : เพราะมัน FAKE! , Date : 2003-04-25 , Time : 06:08:01 , From IP : 172.29.3.202

ความคิดเห็นที่ : 4


   เอ...ทำไมเรียนมาตั้งปีนึงเราถึงไม่เห็นซักคนอย่าที่ร้อยชั่งจังบอกเลยหว่า หรือว่า100ชั่งเค้าปลอมตัวมาเรียน

Posted by : Epoo , Date : 2003-04-26 , Time : 18:14:19 , From IP : 203.157.14.247

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.04 seconds. <<<<<