ความคิดเห็นทั้งหมด : 4

สิ่งดีๆที่หายไป


   ( ไม่รู้ว่าเคยอ่านกันแล้วยังนะ )
ในวันสุดท้ายก่อนวันคริสต์มาส ฉันรีบไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต
เพื่อซื้อของขวัญที่ฉันไม่ได้ซื้อไว้แต่เนิ่นๆ
เมื่อฉันเห็นผู้คนทั้งหมดที่นั่น ฉันก็เริ่มบ่นกับตัวเอง
ฉันคงต้องเสียเวลาเป็นชาติที่นี่แน่ๆ ฉันควรไปที่อื่นดีกว่า
คริสต์มาสนี่ทำให้รู้สึกแออัดและน่ารำคาญขึ้นทุกๆปีจริงๆ
สิ่งที่ฉันอยากจะทำคือเอนตัวลงนอนแล้วก็หลับไปและตื่นขึ้นมาเมื่อเวลานี้ผ่านพ้นไปแล้วจริงๆ
แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไปที่แผนกของเล่น
และฉันก็เริ่มหัวเสียเกี่ยวกับราคาของมันและแปลกใจว่า
เด็กๆเนี่ยเล่นของเล่นที่แพงขนาดนี้เชียวหรือ
ขณะที่กำลังเดินดูของอยู่ในแผนกของเล่นนั้น
ฉันสังเกตเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง อายุประมาณ 5 ขวบ กำลังอุ้มตุ๊กตาไว้แนบกับอก เขาค่อยๆลูบผมของตุ๊กตานั้นและมองดูอย่างเศร้าสร้อย
ฉันสงสัยว่าเด็กผู้ชายคนนี้จะเอาตุ๊กตาไปให้ใครกัน
เด็กผู้ชายคนนั้นหันไปหาหญิงชราที่อยู่ข้างๆ

"คุณย่าแน่ใจหรือฮะว่าเงินของผมมีไม่พอ”

หญิงชราตอบว่า
“หลานก็รู้นี่ว่าหลานมีเงินไม่พอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้หรอก”

หลังจากนั้นหญิงชราก็บอกให้เขารออยู่ตรงนั้นประมาณ 5 นาทีระหว่างที่เธอจะไปเดินดูรอบๆ
แล้วเธอก็จากไปอย่างรวดเร็ว เด็กชายยังคงอุ้มตุ๊กตาอยู่ในมือ
ในที่สุดฉันก็เริ่มเดินเข้าไปหาเขา
ฉันถามเค้าว่าเค้าจะเอาตุ๊กตาตัวนั้นไปให้ใคร

" มันเป็นตุ๊กตาที่น้องสาวของผมชอบที่สุดฮะ
และเธอก็อยากจะได้มันมากเป็นของขวัญวันคริสต์มาส
เธอมั่นใจมากว่าซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตาตัวนี้แก่เธอ "

ฉันบอกเค้าว่า ซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตานี้แก่น้องสาวของเขาแน่ๆ
และก็ไม่ต้องกังวลหรอก

( มาถึงตรงนี้ นึกหละสิครับว่า เรื่องนี้ จะเหมือยนกับเรื่องปกติทั่วๆไปที่คุณเคยอ่าน เดาผิดแล้วหละครับ ลองอ่านต่อนะ .... )

แต่เขาตอบฉันด้วยท่าทางเศร้าสลดว่า

“ไม่หรอกฮะ ซานตาคลอสไม่สามารถเอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอในที่ๆเธออยู่ตอนนี้ได้
ผมจะเอาตุ๊กตาตัวนี้ไปให้แม่
แม่จะได้เอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอเมื่อแม่ไปที่นั่น”

ดวงตาของเขาเศร้ามากขณะที่เขาพูดต่อไป

“น้องสาวของผมไปอยู่บนสวรรค์
พ่อบอกว่าแม่ก็จะไปเหมือนกันในเร็วๆนี้
ผมก็เลยคิดว่าแม่น่าจะเอามันไปให้น้องสาวของผมได้”

หัวใจของฉันเกือบจะหยุดเต้น เด็กชายเงยหน้ามองฉันแล้วพูดว่า

"ผมบอกพ่อให้บอกแม่ว่าอย่าพึ่งไปให้รอผมจนกว่าผมจะกลับจากซุปเปอร์มาร์เก็ตฮะ”

แล้วเขาก็หยิบรูปที่น่ารักมากของเขาซึ่งกำลังหัวเราะให้ฉันดู แล้วก็บอกว่า

"ผมอยากให้แม่เอารูปนี้ไปด้วยฮะเธอจะได้ไม่ลืมผม
ผมรักแม่ฮะและผมก็หวังว่าเธอจะไม่ต้องจากผมไป
แต่พ่อบอกว่าเธอต้องไปอยู่กับน้องสาวของผม”

แล้วเขาก็จ้องมองตุ๊กตาอีกครั้งอย่าอาลัย
ฉันรีบคว้ากระเป๋าตังออกมาอย่างรวดเร็ว
หยิบธนบัตรออกมา 2-3ใบ แล้วพูดว่า

“ทำไมเราไม่ลองตรวจดูอีกที เผื่อว่าเราจะมีเงินพอ”

"ตกลงฮะ” เขาพูด “ผมหวังว่าผมจะมีเงินพอนะฮะ”

ฉันแอบใส่เงินของฉันลงในกระเป๋าตังของเขาโดยไม่ให้เขาเห็นแล้วเขาก็เริ่มนับมัน
มันไม่ได้มีเงินแค่พอซื้อตุ๊กตาเท่านั้น แต่ยังเหลืออีกด้วย เด็กชายพูด

"ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเงินให้ผมฮะ”

เขามองฉัน แล้วพูดเสริมว่า

"ผมอธิษฐานกับพระเจ้าก่อนนอนเมื่อวานฮะ
ว่าขอให้ผมมีเงินพอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้เพื่อแม่จะได้เอาไปให้น้องสาวของผมฮะ แล้วพระองค์ก็ได้ยิน
ความจริงผมอยากได้เงินที่จะซื้อกุหลาบสีขาวให้แม่ด้วยฮะ แต่ผมไม่กล้าขอมากเกินไป
แต่พระองค์ก็ให้เงินผมมากพอที่จะซื้อทั้งตุ๊กตาและกุหลาบ แม่ของผมชอบกุหลาบขาวฮะ”

2-3 นาทีต่อมา หญิงชราก็กลับมา
ฉันเดินออกมากับรถเข็นของฉัน(รถเข็นที่ใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต)
ฉันซื้อของจนเสร็จด้วยความรู้สึกที่ต่างจากตอนมาโดยสิ้นเชิง
ฉันไม่สามารถเอาภาพของเด็กชายคนนั้นออกจากจิตใจฉันได้
หลังจากนั้นฉันก็จำข่าวที่อยู่ในหนังสือพิมพ์เมื่อ 2 วันก่อนได้

มันบอกว่าคนขับรถบรรทุกที่เมาเหล้าคนหนึ่งขับรถชนรถอีกคันหนึ่งที่มีหญิงสาวคนหนึ่งกับเด็กหญิงตัวเล็กๆในรถ
เด็กหญิงคนนั้นเสียชีวิตทันที แต่แม่ของเธออยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัส ครอบครัวของพวกเขาต้องตัดสินใจว่าจะดึงปลั๊กเครื่องช่วยหายใจดีหรือไม่
เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่สามารถดีขึ้นไปกว่าขั้นโคม่าได้ครอบครัวนี้จะเป็นของเด็กชายคนนั้นรึเปล่านะ

2 วันหลังจากได้พบกับเด็กชายคนนั้น ฉันอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่า หญิงสาวคนนั้นได้เสียชีวิตแล้ว
ฉันไม่สามารถหยุดตัวเองไว้ได้ที่จะไปซื้อกุหลาบช่อหนึ่ง แล้วไปที่ Mortuary
ซึ่งร่างของหญิงคนนั้นได้ถูกเปิดให้คนได้ดูและอธิษฐานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนฝัง

เธออยู่ในนั้น

ในโลงศพของเธอในมือมีดอกกุหลาบสีขาวดอกหนึ่งกับรูปถ่ายของเด็กชายคนนั้น
และมีตุ๊กตาวางอยู่บนหน้าอกฉันออกไปข้างนอกทั้งน้ำตารู้สึกว่าชีวิตของฉันได้เปลี่ยนไปตลอดกาล
ความรักที่เด็กผู้ชายคนนี้มีให้แม่และน้องสาวของเขานั้นจะยังคงอยู่ยืนยาวสุดแก่การจินตนาการ

แต่เพียงแค่เศษเสี้ยววินาทีเท่านั้น

คนดื่มเหล้าคนหนึ่งก็ได้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเค้า


Posted by : -_-" , Date : 2004-08-27 , Time : 10:29:30 , From IP : 172.29.4.189

ความคิดเห็นที่ : 1


   เยี่ยมาก ขอซูฮกให้ อ่านไปน้ำตาไหลพราก

Posted by : E , Date : 2004-08-27 , Time : 14:53:05 , From IP : 172.29.1.96

ความคิดเห็นที่ : 2


   อยากให้มีอะไรดีๆแบบนี้มาให้ได้อ่านกันเยอะๆจัง
น่าประทับใจจริงๆค่ะ


Posted by : ^_^ , Date : 2004-08-27 , Time : 21:01:44 , From IP : 172.29.4.235

ความคิดเห็นที่ : 3


   เรียกน้ำตาคนอย่างเราได้

แต่ก็ทำให้รู้ว่าโลกนี้ยังมีสิ่งที่น่าจดจำในความทรงจำที่เลวร้าย


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2004-08-28 , Time : 00:03:04 , From IP : 172.29.5.107

ความคิดเห็นที่ : 4


   เศร้าจังเลยค่ะ แต่ก็ทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง ดีค่ะชอบอ่าน

Posted by : ตม , Date : 2004-08-28 , Time : 20:34:35 , From IP : 172.29.3.131

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<