ความคิดเห็นทั้งหมด : 8

คลินิกทั่วไป ร.พ. มอ.


   เนื่องจากมีญาติเป็นผุ้ตรวจการโรงงานที่ทุ่งลุงต้องการนำพนักงานมาตรวจสุขภาพที่ มอ. ต้องการตรวจ cbc ua film chrst amphetamine GA เลยโทรไปคุยกับธุรการ อยากให้ทำใบเสนอราคา แฟกซืมาให้ที่โรงงานตามรายการที่ขอไป ทางธุรการ ร.พ. แฟกซ์มาให้แต่เป็นรายการที่เราไม่ต้องการพอขอไปอีกครั้ง ธุรการก็โอนสายไปที่หัวหน้าคลินิกทั่วไป กลับได้คำตอบว่าโรงงานของคุณไม่เคยติดต่อกับ มอ. ทาง มอ. จะไม่ทำรายการให้เพราะมอ. ไม่แน่ใจว่าปีต่อๆไปจะส่งพนักงานมาตรวจอีกหรือเปล่า จะ ให้บริการเฉพาะหน่วยงานที่เป็นขาประจำ พูดแบบห้วนมากเลย ทางมอ.ไม่มีนโยบายการตลาดเชิงรุก พูดแบบห้วนมากเลย ทางโรงงานจึงติดต่อไปทาง ร.พ.หาดใหญ่กลับได้รับตอบที่ดีมาก ตกลงทางโรงงาน ซึ่งเป็นเครือเดียวกับน้ำตาลทรายมิตรผล จึงส่งพนักงาน 450 คน ไปตรวจสุขภาพที่ ร.พ. หาดใหญ่ ทั้งๆที่รายได้จากการตรวจสุขภาพเป็นรายได้ของโรงพยาบาลเต็มๆ ไม่ต้องรอเรียกเก็บจาก 30 บาท ทำไมไม่มีหัวคิดกันในเรื่องนี้บ้าง และเราเป็นพยาบาลใน มอ.ด้วยนะ กลับพูดกับเราแย่มากๆ ฝากถึงผู้บริหารด้วยนะคะ


Posted by : thanya , Date : 2004-08-15 , Time : 21:29:01 , From IP : 203.156.41.30

ความคิดเห็นที่ : 1


   ถ้าเป็นเรื่องมีมูล ก็คุยกับผู้บริหารได้เลยครับ
อย่าปล่อยไปครับ


Posted by : วิศว , Date : 2004-08-15 , Time : 23:36:37 , From IP : 172.29.3.234

ความคิดเห็นที่ : 2


   ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ทั้งธุรการ รพ. และ หัวหน้าคลินิกทั่วไปต้องรับผิดชอบนะ เพราะการปฏิบัติสวนทางกับนโยบายเชิงรุกของคณะ

Posted by : แมวดำ , Date : 2004-08-16 , Time : 09:51:32 , From IP : 172.29.1.209

ความคิดเห็นที่ : 3


   ผมไม่แน่ใจว่านี่เป็นนโยบายของโรงพยาบาลหรือไม่ เท่าที่ทราบไม่มีข้อมูลสนับสนุนการตรวจเช่นนี้ในด้านการแพทย์ที่ดีพอ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้ ถ้าจะทำ รพ.มอ. อาจจะต้องเสนอรูปแบบที่มีข้อมูลทางการแพทย์สนับสนุน ไม่ได้ทำแบบตลาด ๆ ที่ทำ ๆ กันอยู่ เนื่องจากต้องการแต่เงิน เท่านั้น โดยไม่มีวิชาการสนับสนุน และไม่ทราบประโยชน์ที่แท้จริงของการเจาะเลือดแต่ละตัว อีกประการหนึ่ง รพ.มอ. ไม่ได้มีหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากงานที่มีก็ทำไม่ทันอยู่แล้ว ไม่ได้ว่าง ๆ ลำพังเงินก็น่าจะอยากได้อยู่ แต่ถ้าทำไม่ไหวก็ไม่รู้จะหลอกท่านไปทำไม ถ้าโรงพยาบาลจะเปลี่ยนนโยบายว่าจะทำในด้านนี้จริง ก็จะต้องคุยกันในระดับ รพ. ว่าจะทำอย่างไร แต่แน่นอนเราไม่ได้ทำเพราะอยากได้แต่เงินเหมือนโรงพยาบาลอื่น ๆ เท่านั้น เราจะทำโดยพื้นฐานของข้อมูลทางวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อเงินที่ท่านจ่ายมาจริง ๆ และน่าจะมีระบบการติดตามด้วย ไม่ได้ทำแล้วทิ้ง คนที่มีปัญหาทางสุขภาพที่ตรวจพบแล้ว ไม่ได้ถูกติดตามอย่างจริงจังครับ ท่านอย่าคิดว่า package การตรวจสุขภาพที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ตามโรงพยาบาลของรัฐและโดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน ถูกต้อง และดีจริง เพราะพื้นฐานความคิดนั้นมาจาก ความไม่รู้จริงต่อข้อมูล และความต้องการเงินเท่านั้นครับ

Posted by : หมอจริง ๆ , Date : 2004-08-16 , Time : 16:44:36 , From IP : 172.29.3.64

ความคิดเห็นที่ : 4


   ตกลง "นโยบายเชิงรุก" ของคณะฯมีใจความว่าอะไรครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2004-08-17 , Time : 07:00:52 , From IP : 172.29.3.241

ความคิดเห็นที่ : 5


   เรียนคุณ thanya

คุณ thanya คงเกี่ยวข้องกับโรงงานไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในฐานะสมาชิกองค์กร (รพ.มอ.) นับว่าเป็นการดีที่จะช่วยกันและกัน แต่คงต้องอาศัยความเข้าใจระบบภายใน (คือตัวเราเอง) ว่าเป็นอย่างไร โดยดูแบบภาพรวม ไม่ใช่ดูแบบแยกส่วน หากเดินไปดูที่คลินิกทั่วไป จะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่นั่นทำงานตั้งแต่ยังไม่ 8 น.แบบที่บางวัน"โงหัวไม่ขึ้น" การติดต่อหาคำตอบที่เขา ขณะที่เขาเป็นผู้ปฏิบัติ และคาดคั้นหาคำตอบจากเขา โดยที่ผู้ป่วยและญาติตรงบริเวณนั้นก็ต้องการรับการบริการ คงเป็นการยากที่เขาจะให้คำตอบได้

การต้องการบริการระหว่างหน่วยงานมีช่องทางทำได้อยู่แล้ว ระหว่างโรงงานกับโรงพยาบาล แต่อย่างที่ "คุณหมอจริง ๆ" ได้เขียนไว้ การตรวจ Lab นั้นไม่ใช่แนวทางของการให้คนมีสุขภาพดี แต่ต้องมีการดำเนินการควบคู่คือ การหาผู้ทีมีความเสี่ยง และมีการดำเนินการต่อหลังตรวจเช็ค หากทำแต่การตรวจ Lab โดยไม่ทำส่วนอื่นประกอบ จะได้ประโยชน์น้อยมาก และทำให้ผู้ได้รับการตรวจและผู้สั่งให้ไปตรวจเข้าใจผิดได้ด้วย ทางรพ.เรา (ตามความเข้าใจส่วนตัวของผม) จึงไม่ได้ทำงานลักษณะนี้ให้เป็น "งานเชิงรุก"

ด้วยสภาวะการณ์ปัจจุบัน รพ.มอ.ยังต้องตั้งรับกับการให้บริการหลายอย่างที่ผู้รับบริการควรได้รับการดูแลใกล้บ้าน หรือใกล้ที่ทำงาน งานเชิงรุกที่มอ.ควรทำคือให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของรพ.ต่าง ๆ ในภาคใต้ มีการบริการที่ดี มีคุณภาพ และเป็นที่ยอมรับ แต่ด้วยงานเฉพาะหน้าที่มีอยู่ต่อหน้าเราทุกวัน ทำให้มอ.ยังอยู่ในสภาพตั้งรับอยู่

ก็ต้องเป็นหน้าที่เรา สมาชิกองค์กรเดียวกัน (คณะแพทย์-รพ.มอ.) ที่จะให้ข้อเสนอแนะในเชิงสร้างสรรต่อองค์กร เพื่อเราจะได้ทำภาระกิจหลักที่แท้จริงของเราได้ครับ


Posted by : นพ.กอปรชุษณ์ ตยัคคานนท์ , E-mail : (tkorp@ratree.psu.ac.th) ,
Date : 2004-08-17 , Time : 09:14:01 , From IP : 172.29.3.127


ความคิดเห็นที่ : 6


   จุดแข็งที่น่าจะเป็นจุดขายของโรงพยาบาลเราคงเหมือนกับหัวข้อประชุมวิชาการปีนี้ "การแพทย์เชิงประจักษ์ เพื่อเวชปฏิบัติเป็นเลิศ" Evidence-based Medicine for the Best Practice

ถ้าตาม Balanced Score Card เป้าหมายสูงสุดของ Non-profited Organization คงไม่ใช่ F (finance) แต่เป็น C (customers) โดยคุณภาพและประสิทธิผลต่อ customer จะไปดึงหรือดันให้ Finance ดีขึ้นทางอ้อม ที่ว่านี้ไม่ได้ว่าเอง แต่เป็นคุณ Kaplan & Norton คนแต่ง Balanced Score Card

ทีนี้ก็คงกลับมาที่ความเป็นตัวตนหรือวัฒนธรรมองค์กรของเราว่าอะไรอยู่ยอดสุดของ Strategic Planning เสร็จแล้วยุทธศาสตร์ทุกส่วนก็คงจะรองรับอันบนสุดนี้ ที่คุณ "หมอจริงๆ" กับ อาจารย์กอปรชุษณ์ว่าดูเหมือนข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่น่าจะมีความสคัญคืออะไรคือ package of annual health examination ที่ให้ value for money แก่ประชาชน ชุมชน อย่างแท้จริง ตำราปัจจุบันเริ่มมีการบ่งชี้ถึง trend ที่เปลี่ยนแปลงระดับ epidemiology เนื่องจากการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือที่เข้ามาดูภายใน ตับไตไส้พุงของคนได้ละอียดมากขึ้น อุบัติการการผ่าตัด thyroid nodule เพ่มขึ้นในตำราตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว เนื่องจากการใช้ ultrasonography เข้ามาแพร่หลาย ผลก็คือเรามี pathological report ของ benign tumour thyroid มากขึ้น (คือไม่ได้เป็นมะเร็งอะไร) ในปัจจุบันจากแนวโน้มที่ปฏบัติ routine เราอาจจะเพิ่มปริมาณการผ่าตัด silent gallstone มากขึ้นหรือไม่ในอนาคต เพราะ annual check up ที่รวมเอา ultrasonography abdomen เข้าไปด้วย?

ตกลงนโยบายเชิงรุกของเราคืออะไร?



Posted by : Phoenix , Date : 2004-08-18 , Time : 08:41:24 , From IP : 203.156.47.31

ความคิดเห็นที่ : 7


   เรียน คุณ thanya
คุณก็เป็นพยาบาลคนหนึ่งที่เคยทำงานใน รพ.มอ. เช่นกัน น่าจะทราบดี
ว่า ระบบการทำงานของโรงพยาบาลเป็นอย่างไร ในแต่ละวันคลินิกทั่วไปของโรงพยาบาลต้องทำอะไรบ้าง งานที่เข้ามาในแต่ละวันมันเยอะจริง ๆ แทบจะทำกันไม่หวาดหวั่น (ต้องมีบ้างละค่ะ บางครั้งที่พยาบาลต้องพูดออกไปอย่างนั้น เพราะคนไข้บางรายก็ไม่ใช่ว่าจะรู้เรื่องทุกรายไป มันต้องอธิบาย น่ะค่ะ บางรายไม่ใช่อธิบายเพียงครั้งเดียวและรู้เรื่อง คุณก็เคยเป็นพยาบาลมาก่อน ก็น่าจะรู้ดี มันเป็นยังไง หรือว่าคุณคงไม่เคยอารมณ์เสีย เมื่อมีคนไข้เยอะ ๆ (คงไม่จริงมั่งถ้าคุณจะปฏิเสธ)


Posted by : ตุ่งติ่ง , Date : 2004-08-18 , Time : 10:57:00 , From IP : 172.29.3.105

ความคิดเห็นที่ : 8


   คุณธัญญาขา บางครั้งการเห็นแต่ยอดเงินอย่างเดียวมันเสี่ยงนะคะ การตรวจร่างกายแบบเหมาจ่ายแบบนั้นนะ เกิดคนไข้ไปตรวจที่รพ.อื่น แล้วเจอโรคซึ่งไม่อยู่ในโปรแกรมเหมาจ่าย แต่เขาจะอ้างว่าตรวจร่างกายเป็นประจำที่มอ.ซึ่งเราก็เคยได้ยินคนไข้มักอ้างว่าตรวจเป็นประจำที่รพ.เอกชนนั้นๆ ปกติ เราอยากให้รพ.เราเป็นอย่างนั้นหรือค่ะ (วันหลังไม่ต้องบอกว่าเป็นพยาบาลนะคะ อายเขาค่ะ)

Posted by : tamarin , Date : 2004-08-22 , Time : 07:09:11 , From IP : 172.29.3.224

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<