ความคิดเห็นทั้งหมด : 8

เกลียดใครสักคน


   ตอนแรกๆมันก็เริ่มจากความโกรธ จนกลายเป็นเกลียดตั้งแต่เมื่อไรก้อไม่รู้
ไม่อยากพบหน้า ไม่อยากสัมผัสตัว เหมือนเชื้อโรคน่ารังเกียจ
แค่เห็นหน้า sympathetic ก็ทำงานก่อนที่สมองจะสั่ง เลือดพุ่งขึ้นหน้าทันที
....
ก้อรู้ว่ามันไม่ควร แต่ไม่สามารถยับยั้งได้ ไม่ได้อยากทำร้ายใครหรอก
แต่ไม่ชอบที่ต้องมีความรู้สึกแบบนี้เลย
...
ทำไงดี??


Posted by : คน , Date : 2004-07-28 , Time : 00:28:26 , From IP : 172.29.4.196

ความคิดเห็นที่ : 1


   ไม่ชอบหน้าคนนี่มีหลายสาเหตุ ตั้งแต่ศรศิลป์ไม่กินกันจนไปถึงไม่ชอบพฤติกรรม หรือไม่ชอบสิ่งที่เขาชอบ (หรือชอบของอย่างเดียวกัน!)

แบบศรศิลป์ไม่กินกันนี่อาจจะจะต้องย้อนกลับไปไกลนิดนึงอาจจะเจอสาเหตุ เช่น หน้าเหมือนคนเลี้ยงหรือครูตอนเด็กๆที่ใจร้ายหรือดุมาก ประเภทนี้แก้ไขยากถ้านึกไม่ออก จำไม่ได้ รู้อย่างเดียวตานี่ยัยคนนี้ฉันไม่ถูกชะตา แบบอื่นๆถ้าพอหาสาเหตุได้ก็จะไม่ยากที่จะปฏิบัติ

ปฏิบัติในที่นี้คงจะมีตั้งแต่เปลี่ยนจากเกลียดเป็นเฉยๆ ไปจนถึงสามารถคบค้าสมาคมได้ วิธีหนึ่งก็คือการ "รู้ตัว" เราเอง และรู้ว่าอารมณ์เกลียดนั้นมันไม่ส่งเสริมสุขภาพต่อเราเอง ไยจึงจะปล่อยให้มันมาเผาผลาญเราเอง? คิดๆดูไป อารมณ์เกลียดนี่ใครจะรับไปเนื้อๆที่สุด? เราหรือเขา (เธอ)

สิ่งเบี่ยงเบนที่สร้างสรรค์นั้นมีเยอะ ถ้าเราไม่ชอบพฤติกรรม เราก็ทำอะไรที่เราคิดว่าดีและตั้งอกตั้งใจทำตรงนั้น อันนี้จะง่ายถ้าพฤติกรรมของตานั่นไม่ดี แต่ถ้าเกิดเป็นประเด็นอิจฉาของเราเอง อันนี้อาจจะต้องเบี่ยงเบนเป็นการแข่งขันให้มันรู้ว่าเราก็สิบนิ้วเหมือนกัน ใช้ได้ในงานประเภทพรแสวง แต่ถ้าเป็นกลุ่มพรสวรรค์ก็ปล่อยเขาดีไปเถอะครับ เราไปหาจุดเด่น ข้อถนัดของเราดีกว่า ดีกว่าไปใส่ใจในกรรมของคนอื่น

ขอตอบอย่างเหวี่ยงๆแหก็แล้วกัน เพราะไม่มีรายละเอียด ถามเพิ่มเติมได้นะครับ



Posted by : Aquarius , Date : 2004-07-28 , Time : 01:50:33 , From IP : 172.29.3.236

ความคิดเห็นที่ : 2


    ขอข้อมูลเพิ่มอีกหน่อยนะ คืออยากให้ช่วยลองนึกๆๆๆหน่อยนะว่า วันแรกที่เราเริ่มรู้ว่าโกรธนั้นเหตุการณ์มันคืออะไรหนะ แล้วจะลองตอบต่อจ้า
อาจนึกไม่ออกเพราะข้อมูลมันถูกsupressเก็บกดลงไปลึกมากในระดับunconscious จิตใต้สำนึก ไม่อาจรับรู้ได้ เหลือไว้แต่อารมณ์ที่ยังไม่ถูกกดลงไป มันจึงอยู่ในระดับที่รับรู้และสัมผัส ได้คือ อยู่ในระดับ conscious งัย เวลาเจอตัวกระตุ้น อารมณ์จึงโผล่ และแสดงให้เราสัมผัสได้ว่าโกรธ เกลียด แต่ไม่มีเหตุผลของข้อมูลที่เก็บกดไว้ลึกสุดใจ เป็นตัวอธิบายเราเลยงงงงงง
แต่พยายามลองนึกหน่อยจากคำถามข้างต้นหนะ จะได้เจอต้นตอ


Posted by : aries , Date : 2004-07-28 , Time : 06:25:11 , From IP : 172.29.3.197

ความคิดเห็นที่ : 3


   อ่านสิ่งที่ตั้งกระทู้มาซ้ำอีกรอบ อดไม่ได้ที่จะต้องpostชื่นชมหน่อยนะว่า เยี่ยมมากที่มีself awarenessตระหนักรู้ตัวตนและรู้เท่าทันอารมณ์ความคิดความรู้สึกซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายง่ายเลย และก็กล้ายอมรับออกมาตรงๆว่าในขณะนี้เราไม่ไหวแล้ว ต้องขอความเห็น ขอความช่วยเหลือด้านมุมมองต่างมุม มาเป็นข้อมูลเพื่อการเปลี่ยนแปลง?????
เข้าใจว่าในขณะนี้เรากำลังพยายามใช้ศักยภาพของego functionที่มีอยู่ทั้งหมด มาbalance และยับยั้ง id อารมณ์โกรธเกลียด แค้น อยากทำลายล้าง และมาdebateกับ superego มโนธรรม จริยธรรมที่คอยเตือนเราอยู่ตลอดเวลาว่าการทำร้ายเขาแบบนี้มันไม่ดี เหนื่อยเหมือนกันนะที่ต้องพยายามทำแบบนี้ทุกครั้งที่เจอคนที่ไม่ชอบ อืมจะเอาใจช่วยนะค้นหาคำตอบต่อไป อย่าท้อเสียก่อนหล่ะ


Posted by : aries , Date : 2004-07-28 , Time : 07:14:07 , From IP : 172.29.3.204

ความคิดเห็นที่ : 4


   ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำ ก็จะพยายามเอาไปใช้แต่ไม่รู้จะได้ผลรึป่าว
อืม...
ตอนแรกก็เริ่มจากการไม่พอใจเล็กๆน้อยๆล่ะมั้ง ที่ต้องทำงานร่วมกันทำให้รู้ว่าคนๆนี้ทำสิ่งที่เราไม่ชอบ ..แต่ไม่เป็นไร..ทนๆไปล่ะกัน
ต่อมาก็มีเรื่องให้มีปากมีเสียง ทุกอย่างเลยประทุออกมาหมด
ตอนแรกที่คิดว่าไม่ชอบ ...กลายเป็นโกรธและเกลียดในที่สุด

ตอนนี้กลายเป็นว่า ไม่ชอบสิ่งที่เค้าทำไปซะทุกอย่าง
เหมือนมองด้วยอคติตลอดเวลาในทุกการกระทำของเค้า...

ยิ่งได้แรงสนับสนุนจากคนรอบข้างด้วยว่าเราถูก คนนั้นเค้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เคยทำกับคนนั้นด้วย คนนี้ด้วย ยิ่งคล้อยตามจริงๆว่าเราคิดถูกแล้วที่ไม่ชอบเค้า
....
เลยกลายเป็น "การอภัยให้ไม่ได้" ไป
....
ยังสงสัยทำไม ??? คนที่บอกกับเราว่ารู้สึกอย่างเดียวกัน เค้ายังสามารถทำตัวตามปกติและคุยเล่นกับคนๆนั้นได้ ... อยากรู้น่ะค่ะ และอิจฉาด้วย อยากทำให้ได้แบบนั้น (เพื่อตัวเองจะได้สบายใจขึ้น)


Posted by : คน , Date : 2004-07-28 , Time : 10:57:29 , From IP : 172.29.4.196

ความคิดเห็นที่ : 5


    เวลาที่เราไปหาข้อมูลจากคนอื่นเพื่อมาสนับสนุนสิ่งที่เราคิด แน่นอนคนอื่นอาจเดาใจเราออกว่าเราต้องการคำตอบแบบไหน อาจเห็นเรากำลังทุกข์ก็เลยพูดสนับสนุนไปก่อน เพราะไม่อยากให้เราบาดเจ็บไปอีกงัย เป็นความหวังดีของเพื่อนนั่นแหละ ไม่ได้โกหกนะ แต่อาจกลัวการทำร้ายหนูซ้ำเติม และอาจไม่รู้ว่าจะใช้ทักษะการconsulingให้คำปรึกษาเพื่อนอย่างไร
อีกอย่างอาจเป็นไปได้ว่ามีบางคนพูดเป็นกลาง แต่การรับรู้ของเราในขณะนั้นมันอาจเลือกรับแต่สิ่งที่กำลังอยากฟังเพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนความคิด คือเขาเป็นคนไม่ดี มันเลยอาจได้ยินแต่เรื่องไม่ดีของเขา และไม่ได้ยินเลยในเรื่องที่เพื่อนกำลังบอกว่าเขาดีก็เป็นได้
แต่เอาเถอะ ชอบมากที่น้องบอกว่าอาจอคติกับเพื่อนคนนี้เกินไป ในช่วงระยะหลังๆ และชอบมากเหมือนเดิมในเรื่องการหยั่งรู้ตน น้องเยี่ยมมาก และหวังว่าการให้อภัยจะเกิดขึ้นได้หลังจากอารมณ์มันลดลงกว่านี้จ้า อืมอีกอย่างเป็นกำลังใจให้เสมอนะ


Posted by : aries , Date : 2004-07-28 , Time : 18:40:26 , From IP : 172.29.3.199

ความคิดเห็นที่ : 6


   มีของมากมายในโลกนี้ที่เราไม่ชอบ แต่เราไม่ได้โกรธเกลียดมันทั้งหมดใช่ไหมครับ?

เราไม่ชอบห้องน้ำสาธารณะ กลิ่นและสภาพมันไม่สะอาด (ถึงคราวจำเป็นสุดยอดก็ต้องจำยอมใช้) เราก็ไม่ได้โกรธเกลียดห้องน้ำ เราไม่ชอบสีม่วง เราไม่ชอบนักร้องบางคน เราไม่ชอบหนังบางเรื่อง ฯลฯ

ฉะนั้นโกรธเกลียดมันเป็นอะไรที่ "เสริมแต่ง" จากรสนิยมของเรา จากสิ่งที่เรา "approve" ที่น้องบอกออกมาเองว่า "ไม่เป็นไร ทนๆไปละกัน" นี่แหละคือน้องใช้ตรรกะ ใช้ superego มาปรับสภาพรับรู้ ปรับพฤติกรรม ไปเรียบร้อย เพื่อที่เราจะได้ไม่บูด จะได้ทำงานอะไรต่อมิอะไรต่อไปได้

โกรธเกลียดบางทีมันพยายามจะ "ห้อย" ตามเราไปที่ต่างๆ เป็นสิ่งเสริมแต่งที่รุงรัง ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง พี่คิดว่าน้องเข้าใจถูกแล้ว และทำถูกต้องที่จะสลัดอารมณ์ความรู้สึกส่วนทิ้งไป เพราะมันไร้ค่า ไร้ความหมาย ถนอมอารมณ์เราไว้ดีกว่าเนอะ ดีกว่าให้พวกนี้มารบกวนเรา การได้พวกมาสนับสนุนอารมณ์เกลียด อารมณ์ไม่ชอบ นอกเหนือจากอาจจะเป็น perception ที่ไม่ตรงทีเดียว แต่อาจจะกลายเป็นปุ๋ยให้เจ้าสิ่งรกรุงรังนี้เจริญงอกงามเกินควร

พี่สนับสนุนน้อง และ adjustment ที่สลัดอารมณ์ไร้สาระนี้ไป เชื่อใน instinct ส่วนนี้ เพราะมันออกมาเพื่อทำให้พฤติกรรมและความรู้สึกของเราอยู่รอดได้ดีกว่า



Posted by : Aquarius , Date : 2004-07-28 , Time : 20:03:48 , From IP : 172.29.3.205

ความคิดเห็นที่ : 7


   ขอบคุณทุกๆความเห็นค่ะ...
ต่อไปจะพยายามทำใจให้เย็นขึ้น ฟังคนอื่นให้น้อยลง (คิดว่าคงดีขึ้นนะคะ)
เอาไว้ได้ผลยังงัยจะมาบอกอีกทีค่ะ...


Posted by : คน , Date : 2004-07-28 , Time : 21:28:21 , From IP : 172.29.4.169

ความคิดเห็นที่ : 8


   ก็คิดถึงความดีของเขาดิ

Posted by : oooo , E-mail : (ooo) ,
Date : 2005-03-10 , Time : 13:09:40 , From IP : 172.29.3.191


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<