ความคิดเห็นทั้งหมด : 23

คิดยังไงกับหนังเรื่อง " หมอเจ็บ"


   อยากรู้ว่านักศึกษาแพทย์คิดยังไงกับหนังเรื่องนี้ ช่วยๆแสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะ จะเก็บข้อมูลไว้ลง Medtime น่ะ ขอเป็นข้อมูลที่สร้างสรรค์ๆหน่อยนะ thank you

อ้อ สำหรับคนที่ไม่ใช่ นศพ. ก็ร่วมแสดงความคิดเห็นได้นะ เราเปิดรับทุกความคิด


Posted by : ทีมงาน medtime , Date : 2004-07-21 , Time : 13:22:05 , From IP : 172.29.2.143

ความคิดเห็นที่ : 1


   ไม่อาจตัดสินหนังสือที่หน้าปกฉันใด จะให้วิจารณ์หนังที่ยังไม่เข้าฉาย ก็ฉันนั้น
แต่ดูตัวอย่างแล้วตลกดี และคิดว่าคงไม่ได้ทำให้วงการแพทย์เสียหาย ไว้ถ้าได้ดูหนังแล้วจะมาวิจารณ์อีกที


Posted by : pooh , Date : 2004-07-21 , Time : 15:50:03 , From IP : proxy3.chula.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 2


   ไม่อาจตัดสินหนังสือที่หน้าปกฉันใด จะให้วิจารณ์หนังที่ยังไม่เข้าฉาย ก็ฉันนั้น
แต่ดูตัวอย่างแล้วตลกดี และคิดว่าคงไม่ได้ทำให้วงการแพทย์เสียหาย ไว้ถ้าได้ดูหนังแล้วจะมาวิจารณ์อีกที


Posted by : pooh , Date : 2004-07-21 , Time : 15:50:10 , From IP : proxy3.chula.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 3


   ถ้าจำไม่ผิดหนังเข้าฉายตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วนะ (ไม่รู้ออกหรือยัง)

Posted by : นามสมมุติ , E-mail : (-) ,
Date : 2004-07-21 , Time : 16:37:45 , From IP : 172.29.1.233


ความคิดเห็นที่ : 4


   ยังไม่ได้ดู เลย บอก ไม่ได้


Posted by : munich , Date : 2004-07-21 , Time : 16:56:00 , From IP : 172.29.3.148

ความคิดเห็นที่ : 5


   ยังไม่ได้ดูเหมือนกัน เห็นแต่ title แล้วก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่เห็นเพื่อนคนอื่นที่ไม่ใช่คนในวงการ อยากดูกันมากๆ เราเองถึงไม่ชอบแต่ก็ต้องไปดู ฮึ่ม..ว่ามันจะเจ็บซักแค่ไหน โอ๊ยๆๆ

Posted by : vecchio , Date : 2004-07-21 , Time : 17:19:39 , From IP : 203.155.29.60

ความคิดเห็นที่ : 6


   ฉายวันที่ 29 ก.ค. นี้ อย่าลืมไปดูกันนะ

Posted by : ชมรมคนรักหนัง , Date : 2004-07-21 , Time : 18:11:35 , From IP : 172.29.2.191

ความคิดเห็นที่ : 7


   เปนหนังสือมาก่อนนี่ ที่หมอพายเขียน

Posted by : ใช่อันเดียวกันป่ะ , Date : 2004-07-21 , Time : 18:33:49 , From IP : 172.29.2.80

ความคิดเห็นที่ : 8


   หมอพายคือใคร ชื่อคุ้นๆนะ


Posted by : แบร , Date : 2004-07-21 , Time : 20:16:21 , From IP : 172.29.4.142

ความคิดเห็นที่ : 9


   คือว่ายังไม่ได้ดูหนังอ่ะนะ แต่ว่าเคยอ่านหนังสือแล้ว ก้อรู้สึกว่าฮาฮา มีทั้งเรื่องเรียน เล่น ความรัก หลากหลายดี แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดหรอกนะ (ในหนังสือว่ายังงั้น) มีการใส่ไข่นิดหน่อยให้มันสนุกขึ้น สรุปว่าไปดูกันเองละกันนะ ส่วนเราก้อคงรอ VCD

Posted by : TaRzAn , Date : 2004-07-21 , Time : 22:40:13 , From IP : 172.29.4.44

ความคิดเห็นที่ : 10


   มะช่ายแพทย์อ่ะ แต่อยากดูมากเลย

Posted by : haha , Date : 2004-07-21 , Time : 23:04:12 , From IP : 172.30.129.58

ความคิดเห็นที่ : 11


   อยากดูจาง....
แต่ไม่มีเวลาไปดูอ่ะ
รอว VCD


Posted by : """ , Date : 2004-07-22 , Time : 12:03:35 , From IP : 172.29.4.180

ความคิดเห็นที่ : 12


   ถ้าเขียนบทตรงกับหนังสือ อาจไม่สนุก
พอที่จะเป็นหนังcomedyได้
เดาเอาว่าคงเขียนบทคงเติมสีสันลงไป
เหมือนหนังตลกนะ ให้มีเว่อร์ๆบ้าง
อยากให้ พวกเราดูกับแบบหนังcomedy

ที่ไม่เว่อร์แน่ๆคือหมอผู้ชายสมัยนี้ก็หล่อๆแบบนั้นหละ555


Posted by : ก็หมอ , Date : 2004-07-25 , Time : 01:46:08 , From IP : dial-41.ras-1.pbn.n.

ความคิดเห็นที่ : 13


   ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ที่จบเป็นหมอแล้ว เคยดู title เรื่องนี้แล้วไม่ชอบเลยครับ
รู้สึกเสียภาพพจน์การเป็นหมอ


Posted by : หมอมอ. , Date : 2004-07-25 , Time : 08:54:40 , From IP : 172.29.2.84

ความคิดเห็นที่ : 14


   หัวใจของความเป็นแพทย์ คือมารยาท การให้เกรียติผู้ป่วยและความสัมพันธ์ที่ควรจะเป็นแบบdoctor-patient relationship ในหนังมันทำให้ดูแล้วเสียหายไปมากเลย ดูแล้วไม่สนุกแต่กระอักกระอ่วนใจ ผลที่ได้อาจเป็นความเสื่อมศรัทธาในวิชาชีพ เพราะมันหักมุมหัวใจหรือปรัชญาของวิชาชีพหมอที่จริง และบังคับให้เป็นในแบบที่เราต้องไม่ใช และห้ามเป็น อย่างเช่นฉากตรวจภายในผู้ป่วย สงสารคนไข้จังที่ต้องไปดูเรื่องไม่จริงแบบนี้

Posted by : pisces , Date : 2004-07-27 , Time : 06:58:58 , From IP : 172.29.3.234

ความคิดเห็นที่ : 15


   ยังไม่ได้ดูแต่มีบางมุมสะท้อน

ในขณะที่เรา (หมอ) อาจจะคิดว่าเรื่องนี้ผู้สร้างต้องการ dramatize หรือ sensationalize เกินจริงเพียงเพื่อขายหนัง หรือ ความหลงผิด หรือ bad-taste humour หรือรากของการไม่คำนึงถึง autonomy ของผู้ป่วย แต่อีกด้านหนึ่งก็คือสิ่งที่แสดง "อาจจะ" สะท้อนจากประสบการณ์บางอย่าง อาจจะมีการทำให้เกินจริงบ้างแตที่เราควรคำนึงคือมันมี element ของจริงสักกี่มากน้อย เป็นของที่ใส่ไข่ไปสักกี่มากน้อย

หนังตลกก็อาจจะสะท้อน Threat ต่อวงการวิชาชีพได้



Posted by : Phoenix , Date : 2004-07-27 , Time : 09:11:45 , From IP : 172.29.3.104

ความคิดเห็นที่ : 16


   ผมคิดว่าตอนนี้ภาพพจน์ของหมอในภาพสายตาประชาชนหรือวงการต่าง ๆ ดูแย่ขึ้นทุกวัน เวลามีอะไรเกิดขึ้นหรือผลการรักษาไม่เป็นไปตามที่ญาติผู้ป่วยต้องการ ก็มักจะพุ่งประเด็นไปว่าหมอผิดพลาดหรือเปล่า ถ้ามีช่องโหว่หรือข้อผิดพลาดก็มักจะฟ้องไว้ก่อนเสมอ
การทีหนังเรื่องนี้ออกมาผมว่ายิ่งตอกย้ำความรู้สึกของประชาชนว่าจริงๆ แล้วมีหมอประเภทนั้นมากแค่ไหน หมอจะทำตามในเรื่องนั้นหรือไม่ ยิ่งทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจและเสื่อมศรัทธาในตัวหมอมากขึ้น


Posted by : Intern , Date : 2004-07-29 , Time : 16:42:29 , From IP : 172.29.1.243

ความคิดเห็นที่ : 17


   ไปดูมาแล้ว ก็จะให้ความคิดเห็นในฐานะที่"ได้ดูแล้ว"นะ
ถ้าดูให้เป็นหนังมันก็เป็นหนังที่ตอบโจทย์"ชื่อเรื่อง"ได้ดี คือ มัน"เจ็บ"จริงๆ

ในฐานะคนชายขอบระหว่าง "แพทย์-ไม่ใช่แพทย์" ก็ออกจะประทับใจ 2 หมอ นี่อยู่มากแต่กับคนอื่นๆ ก็อย่างว่าล่ะนะ ร้อยพ่อร้อยแม่จะให้ความรู้สึกนึกคิด บุคลิก พฤติกรรมเหมือนกันไปได้อย่างไร จะว่าไปเราก็สามารถพบความแตกต่างนี้ได้ในทุกอาชีพ ไม่ใช่เฉพาะอาชีพแพทย์ มันก็มีดีบ้างไม่ดีบ้างแล้วแต่ใครจะใช้บรรทัดฐานใดมาตัดสิน คือในที่สุดก็แค่แบ่งใจมายอมรับว่าเราต่างกันก็แค่นั้นเอง ในแวดวงวิชาชีพแพทย์ไม่มีใครเหมือนใคร ก็เหมือนกับคนอื่นที่อยู่บนวิถีชีวิตอื่นเขาก็ไม่เหมือนกัน แล้วแพทย์จะถืออภิสิทธิวิเศษกว่าอาชีพอื่นตรงไหน
บ่อยครั้งที่คนชายขอบอย่างเราพบว่า การยกย่องอย่างพิเศษจากผู้คนรอบข้างหมอนั้นแหละที่ ทำให้หมอหลงไปว่า ตัวนั้นมีอภิสิทธิเหนือปุถุชนอื่น การนี้นำมาซึ่งความยึดมั่น ถือมั่น ที่สำคัญคือการเรียกร้องที่ต้องพิเศษกว่า อันที่จริงเราต่างเป็นปุถุชนเหมือนกัน การลืมสิ่งที่เหมือนโดยพื้นความเป็นมนุษย์แต่ไม่ยอมรับสิ่งที่ต่างไปด้วยเจริญจากโอกาส สิ่งแวดล้อม ความเชื่อและวัฒนธรรมที่ต่างกันนั้นต่างหากที่ดูจะอันตรายต่อศรัทธา และความสัมพันธ์

ยังไม่ค่อยเข้าใจ "doctor-patient relationship" แต่จะลองเปรียบเทียบสัมพันธภาพระหว่าง 2 externsกับคนไข้และหมอตี๋กับคนไข้ ดูนะ เราพบว่าเรา appriciate หมอพายมากกว่าหมอตี๋เยอะ เช่น หมอพายกับหลวงปู่ ถ้าเป็นเราก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะละความเห็นแก่ตัวยอมจบช้าไปอีกปีได้ไหม ---เพื่อคนไข้ที่ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่หรือตาย รู้แต่ว่า ณ ขณะเวลานั้นเราอยู่ในฐานะหมอที่เขานึกถึง ความไว้ใจที่วางไว้กับสมองและสองมือเรานั่นกับการเรียนซ้ำชั้นแน่ๆ อีก หนึ่งปี ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน และในหนัง หมอพาย เลือกทางแรก ซึ่งไม่ว่าการกระทำนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ในที่สุดหนังบอกเราว่า"หมอพายเลือกทางแรก"ก็เลยไม่เข้าใจว่าการดู"น้ำใจของหมอพาย"นั้นจะสร้างความกระอักกระอ่วนใจอย่างไร เทียบกับ หมอตี๋นะ ตอนที่คนไข้มาโวยเรื่องการวินิจฉัยที่ต่างจากหมอในกทม. แล้วสิ่งที่เขาตอบสนองกับคนไข้นั่นต่างหากที่ทำให้เราดูแล้วรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ยก 2 ตัวอย่างนี้มาเพื่อจะบอกว่า มันมีสิ่งที่เป็นจริงและสิ่งที่ควรเป็น เราท่านต่างอยู่ระหว่างช่องว่างของ 2 สิ่งนี้หรือมิใช่ ถ้าเรายอมรับว่า no one perfect เราต่างไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อมในทุกมิติเราก็ไม่อาจหวังให้คนอื่นเป็นเช่นกัน

"doctor-patient relationship" ที่ควรเป็น นั้นเป็นอย่างไรแล้วเราจำเป็นต้องปฏิบัติอย่างนั้นในทุกกรณีหรือไม่ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ศรัทธาของประชาชนต่อวิชาชีพแพทย์จะต่างไปจากนี้กี่มากน้อย




Posted by : Lucifer , Date : 2004-07-31 , Time : 13:03:32 , From IP : 172.29.5.103

ความคิดเห็นที่ : 18


   เหมือนดูอดีตของตัวเอง เพียงแต่ในชีวิตจริงผมไม่อาจรั้งแฟนที่ไม่ได้อยู่ในวงการ
เดียวกันได้


Posted by : หมอเศร้า , Date : 2004-07-31 , Time : 15:12:44 , From IP : l225ppp193.ksc.net.t

ความคิดเห็นที่ : 19


   ทางเลือกสุดท้ายก่อนจบเป็นการเสียสละจริงหรือครับ....ในขณะนั้นคงต้องพิจารณาว่าหน้าที่และความรับผิดชอบในขณะนั้นคืออะไร การตัดสินใจแบบนั้นสมเหตุสมผลจริงหรือไม่..

Posted by : นะครับ... , Date : 2004-08-02 , Time : 08:40:53 , From IP : 172.29.3.230

ความคิดเห็นที่ : 20


   หนัง คือการสะท้อนถึงภาพสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี ปะปนกันไปในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมของหมอหรือสังคมของใคร ก็อยู่ที่ตัวเราเท่านั้นแหละที่จะเลือกเอาสิ่งไหนดีมาใช้ก้บสภาวะใดให้เหมาะสม
หากคุณคิดว่า หมอที่ดีคืออะไรที่ผู้ป่วยหรือสังคมทั่วไปต้องการ
1. ความรับผิดชอบที่สูงต่อหน้าที่ที่มีอยู่
2. มีจริยธรรม มีความเมตตา กรุณาเหนือคนธรรมดาสามัญ
3. ความขยันขวนขวายหาความรู้เพื่อที่จะได้สิ่งที่ดีมารักษาคนไข้ นอกเหนือจากความมั่งมี หรือชื่อเสียงที่จะตามมาเมื่อคุณพบกับความสำเร็จ
อยากให้เขามองว่า หมอดีหรือไม่ดี หากคุณเป็นหมอ คุณก็ต้องเริ่มจากตัวคุณว่า คุณจะเป็นยังไง
ข้อ 3 อยากให้นักศึกษาแพทย์มีสิ่งนี้มาก ๆ อยากให้น้อง ๆ ขยันเรียนกันมากกว่านี้นะคะ


Posted by : คนหนึ่งในมอ. , Date : 2004-08-13 , Time : 19:18:35 , From IP : ip1684-54.cc.psu.ac.

ความคิดเห็นที่ : 21


   ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ที่จบเป็นหมอแล้ว เคยดู title เรื่องนี้แล้วไม่ชอบเลยครับ
รู้สึกเสียภาพพจน์การเป็นหมอ


Posted by หมอมอ.() 2004-07-25 , 08:54:40 , 172.29.2.84

-----------------------------------------------------------------------------

เป็นหมอต้องรักษาคนไข้นะครับ ไม่ได้รักษาภาพพจน์

สำหรับคนที่ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นหนังที่ออกมาเพื่อจะลดภาพพจน์ของ นศพ. แสดงว่าคุณยังดูหนังไม่เป็น ยังตีความไม่ออกว่า " เขา ต้อง การ สื่อ ถึง อะ ไร "


Posted by : หมอเจ็บครับ , Date : 2004-08-17 , Time : 20:50:11 , From IP : 203.113.77.73

ความคิดเห็นที่ : 22


   งั้นก็ไปดูซะ


Posted by : 1 , E-mail : (1) ,
Date : 2004-08-18 , Time : 13:15:32 , From IP : 192.168.33.179


ความคิดเห็นที่ : 23


   หนุกมากๆเลย
หมอก็เก่งๆๆๆ


Posted by : m , Date : 2004-08-20 , Time : 19:47:06 , From IP : 172.29.3.204

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.009 seconds. <<<<<