ทศท จับมือร.พ.ดังภูเก็ตรุกตลาดไว-ไฟ หมอสุรพงษ์ผันปี 49 ขึ้นชั้น Hub Health โลก
ทศท จับมือร.พ.ดังภูเก็ตรุกตลาดไว-ไฟ หมอสุรพงษ์ผันปี 49 ขึ้นชั้น Hub Health โลก
--------------------------------------------------------------------------------
ทศท ยอมรับปัญหาโครงข่ายพื้นที่ภูเก็ตยังไม่ครอบคลุม เดินหน้าขยายชุมสายเพิ่มอีก 22,530 เลขหมาย ชี้ปี 48 ประชาชนในพื้นที่ใช้บริการได้กว่าร้อยละ 80
ด้านโครงการบรอดแบนด์พร้อมเปิดให้บริการ 5,000 พอร์ตสิ้นก.ค.นี้ ล่าสุดจับมือร.พ.
กรุงเทพภูเก็ตเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย สุรพงษ์ ลูกหนุมารเจ้าเผยก่อนสิ้น
ปีนี้ นำหุ่นยนต์เข้ามารักษาคนไข้ที่แรกในประเทศ
นายกำธร ไวทยกุล ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์มัลติมีเดีย เพื่อการบันเทิงและการศึกษา บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยถึงความพร้อมการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ปัจจุบันยังไม่สามารถขยายโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา อย่างไรก็ตาม บมจ.ทศท เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เตรียมแผนที่จะขยายโครงข่ายเพิ่มอีกจำนวน 37 ชุมสาย จำนวน 22,530 เลขหมาย โดยจะเริ่มขยายโครงข่าย 19 ชุมสาย รวม 8,100 เลขหมาย ภายในปี 2547 นี้ ส่วนที่เหลืออีก 18 ชุมสาย 14,430 เลขหมาย จะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2548 คาดว่าหลังจากนั้นจะทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สามารถใช้บริการโทรศัพท์พื้นฐานของ บมจ.ทศท ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80
สำหรับโครงการขยายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) นั้น ทางบมจ.ทศท ได้ใช้งบประมาณในการลงทุนไปแล้วประมาณ 90 ล้านบาท และคาดว่าภายในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะเปิดให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ได้ประมาณ 5,000 พอร์ต ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการติดตั้งระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับการให้บริการบรอดแบนด์ที่ได้มาตรฐาน
นอกจากนี้บมจ.ทศท จะมีการปรับปรุงชุมสายโทรศัพท์แต่ละชุมสายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในปี 2548 ให้มีระยะห่างไม่เกิน 6 กิโลเมตร
ด้านน.พ.สุรพงษ์ ลูกหนุมารเจ้า กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เปิดเผยถึง การนำระบบไอทีเข้ามาประยุกต์ใช้ในการรักษาคนไข้ของโรงพยาบาลในปัจจุบันว่า หลังจากที่โรงพยาบาลได้ร่วมมือกับบมจ.ทศท นำระบบไอทีเข้ามาใช้ใน โรงพยาบาล โดยที่บมจ. ทศท จะเป็นผู้เข้ามาวางไฟเบอร์ออพติก และชุมสายให้กับโรงพยาบาล ซึ่งที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้ลงทุนติดตั้งระบบไอทีทั้งในส่วนปฏิบัติการ และด้านเครือข่ายประมาณ 200 ล้านบาทแล้วนั้น ล่าสุดทางโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ได้ร่วมกับบมจ. ทศท นำระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงหรือ ไว-ไฟ เข้ามาให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยในการเข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยทำการติดตั้งทั้งหมดจำนวน 18 จุด นอกจากนี้ยังได้มีการนำระบบไอที เข้ามาสนับสนุนการบริการทางการแพทย์ ด้วยการนำระบบการสื่อสารทางไกล (VDO Conference) เข้ามาใช้เพื่อวินิจฉัยโรคร่วมกันระหว่างคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตทุกเครือข่าย ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการนำระบบการค้นหาที่อยู่คนไข้จากโทรศัพท์ด้วยเทคโนโลยี Hot Line และ Call ID เข้ามาใช้ด้วย และนอกจากนี้โรงพยาบาลยังได้นำเครื่องควบคุมโปรแกรมการอัดฉีดสารทึบแสง (Angio Medieine) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยในการรักษาผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจตีบ ด้วยวิธีการทำบัลลูน ที่สำคัญช่วงสิ้นปี 2547 โรงพยาบาล จะร่วมมือกับประเทศสหรัฐอเมริกาในการนำหุ่นยนต์เข้ามาช่วยในการตรวจร่างกาย และช่วยผ่าตัดในกรณีที่มีขั้นตอนซับซ้อน ยุ่งยาก
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันโรงพยาบาล ได้มีการพัฒนาคุณภาพการรักษา พยาบาลเทียบเท่ากับมาตรฐานต่างประเทศจึงนับว่าโรงพยาบาลคือ Hub Health of Asia และด้วยความเป็นโรงพยาบาลชั้นนำด้านไอที มั่นใจว่าโรงพยาบาลของเรา จะสามารถ สร้างแบรนด์ การเป็น Hub Health ในตลาดโลกได้ภายในปี 2549 แต่ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องเข้ามาช่วยสนับสนุนในเรื่องการประชาสัมพันธ์และรับรองคุณภาพของประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติการที่จะเป็นแบรนด์ในตลาดโลกได้
จะต้องมีการพัฒนาในเรื่องของภาษา และวัฒน-ธรรม ทั้งนี้ปัจจุบันโรงพยาบาลมีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจำนวน 15 ภาษา จึงไม่ใช่เรื่องยากที่โรงพยาบาลจะเป็น Hub Health ในตลาดโลกในปี 2549 นี้.
Posted by : superman , Date : 2004-06-11 , Time : 18:20:42 , From IP : 172.29.1.93
|