ความคิดเห็นทั้งหมด : 3

ข้อสอบ---ไม่รั่ว


   กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ชุด "ดร.สุเมธ" เป็นประธาน ระบุชัด เอ็นท์ไม่รั่ว ชี้ "วรเดช"-"ศศิธร อหิงสโก" มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พร้อม แต่งตั้ง "วีรศักดิ์ วงศ์สมบัติ" เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป





นายอดิศัย โพธารามิก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา นายอดิศัย โพธารามิกได้เปิดแถลงข่าวเรื่องการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีข่าวข้อสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ปี 2547 โดยมีการสรุปความว่า ตามที่มีข่าวว่าข้อสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ปี 2547 รั่วไหล และกระทรวงศึกษาธิการ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงประกอบด้วย นายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นประธานคณะกรรมการนั้น บัดนี้ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้สรุปผลการสืบสวนมาแล้ว ดังนี้

1.คณะกรรมการฯ เห็นว่าระบบการสอบวัดความรู้เพื่อสมัครเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาได้มีวิวัฒนาการต่อเนื่องมานานกว่า 40 ปี โดยใช้ธรรมเนียมและจารีตปฏิบัติเป็นหลัก มีการควบคุมและป้องกันอย่างรัดกุมพอสมควร จากข้อเท็จจริงที่ประมวลได้ในครั้งนี้ น่าจะมีปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามระบบดังกล่าว เช่น การผู้ที่เกี่ยวข้องละเลยการควบคุม และรักษาความปลอดภัยของข้อสอบ ความเคยชินจากการปฏิบัติต่อเนื่องมายาวนานจนมองข้ามปัญหาต่างๆ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การที่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับแต่งตั้งหรือมอบหมายให้ทำหน้าที่ติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน โดยไม่มีระบบตรวจสอบ การปฏิบัติเหล่านี้ทำให้เป็นปัญหา และเป็นจุดอ่อนอันอาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อสอบได้



สื่อมวลชนร่วมฟังการแถลงข่าวอย่างล้มหลามเพราะเป็นเรื่องที่สังคมกำลังจับตาอยู่

2.คณะกรรมการฯ ได้ศึกษาความเป็นไปที่ข้อสอบจะรั่วไหลในการสอบวัดความรู้ในเดือนมีนาคม 2547 แล้ว เห็นว่ายังไม่ปรากฏหลักฐานสำคัญใดว่าจะมีการรั่วไหลของข้อสอบได้ จากการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการสอบวัดความรู้ฯในบางวิชา เช่น วิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษา ด้วยวิธีวิทยาทางสถิติที่ถูกต้องแล้วปรากฏว่า การเปลี่ยนแปลงในผลการสอบวัดความรู้ทั้งสองครั้งในปีการศึกษา 2547 ไม่มีความแตกต่างเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ และเป็นไปในทำนองเดียวกับในปีการศึกษาที่ผ่านมา จึงไม่มีข้อสงสัยว่าได้มีการรั่วไหลของข้อสอบ

3.คณะกรรมการฯ เห็นว่าการที่ศาสตราจารย์ ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร ได้นำเอาซองต้นฉบับการ์ดข้อสอบวิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษามาดู โดยไม่เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการสร่งข้อสอบ และไม่เชิญอาจารย์ทั้งสองมาร่วมรู้เห็นนั้น เป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่พึงกระทำ ไม่ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ ได้ก่อให้เกิดความไม่วางใจในกระบวนการสอบวัดความรู้ นอกจากนี้ นางศศิธร อหิงสโก ผอ.สำนัก ทดสอบกลาง สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา ซึ่งมาส่วนรับผิดชอบ มิได้ท้วงติงการกระทำดังกล่าว จึงเข้าข่ายมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สมควรถูกดำเนินการทางวินัย

4.คณะกรรมการฯ เห็นว่าการดำเนินการในกระบวนการสอบวัดความรู้ เพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ไม่ปรากฏมีระเบียบวิธีปฏิบัติไว้เป็นลายลักษณ์อักษร จึงควรให้กระทรวงศึกษาธิการจัดให้มีการศึกษา ปรับปรุง และประมวลวิธีปฏิบัติต่างๆ ในเรื่องนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้รับทราบผลการสืบสวนของคณะกรรมการฯแล้ว และได้ดำเนินการมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาปรับประบวนการสอบวัดความรู้เพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ตามข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ละได้แต่งตั้งคระกรรมการสอบสวนวินัยผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 รายแล้ว

สำหรับคณะกรรมการสอบสวนวินัย ศ.ร.ต.อ.วรเดช จันทรศร เลขาธิการคณะกรรมการสภาการศึกษา และ นางศศิธร อหิงสโก ผู้อำนวยการสำนักทดสอบกลาง นั้น ได้แต่งตั้งคณะกรรมการทำหน้าที่ดังต่อไปนี้

1.นายวีรศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เป็นประธานคณะกรรมการฯ
2.นายใจเด็ด พรไชยา รองอัยการสูงสุด เป็นกรรมการฯ
3.นางศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการฯ
4.นายนิราศ สร่างนิทร ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการฯ
5.นายศิลปชัย หอมทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักนิติการ สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการฯ

ทั้งนี้ให้คณะกรรมการทั้ง 5 ท่าน เร่งพิจารณาสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อดำเนินการขั้นต่อไป




Posted by : before y , Date : 2004-06-04 , Time : 15:10:32 , From IP : 172.29.2.127

ความคิดเห็นที่ : 1


   สงสัยเรื่อง methodology ในการสรุปว่าไม่มีรั่วนิดหน่อย

คณะผู้ตรวจสอบใช้ "ผลสอบ" รวมมาดู trend ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ (assume ว่าถ้า "รั่ว" จะต้องรั่วให้ "นักเรียนจำนวนมาก") นั้น ไม่ได้ครอบคลุมความน่าจะเป็นอีกประการคือรั่วสำหรับคนเพียงบางคน ซึ่งจะทำให้ผลเฉลี่ยของคะแนนทั้งหมดไม่เปลี่ยน เป็นแค่ noise ที่เพิ่มขึ้น ยกตวอย่างถ้าเอาตำตอบหรือข้อสอบไปให้คนสัก 10-20 คน ผมสงสัยมากว่าผลลัพธ์จะแสดงออกทางสถิติของ trend ได้หรือไม่

การ "สรุป" โดยอาศัย facts ที่ได้จากการศึกษาค่าเฉลี่ยของคะแนน ว่า การเปลี่ยนแปลงในผลการสอบวัดความรู้ทั้งสองครั้งในปีการศึกษา 2547 ไม่มีความแตกต่างเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ และเป็นไปในทำนองเดียวกับในปีการศึกษาที่ผ่านมา จึงไม่มีข้อสงสัยว่าได้มีการรั่วไหลของข้อสอบ
จึงน่าจะเป็น over-assumption และ oversimplified ไปนิดนึง



Posted by : Phoenix , Date : 2004-06-04 , Time : 17:01:46 , From IP : 172.29.3.128

ความคิดเห็นที่ : 2


   โดย Large Number Theory แล้ว หากมีคะแนนดิบที่เพิ่มมากๆเช่นมีเด็กกลุ่มหนึ่ง
รู้ข้อสอบ 100 ราย หากสอบวิชาเพิ่มมาก(Scores มีค47 ลบ ตค46) สมมุตินะว่าเป็น วิชาเคมี ได้เพิ่มเป็น 99 คะแนนทุกคน(Score ตค 46 = 1; Score มีค47 = 100และบังเอิญทำคะแนนเก่งมากทุกคน) และตัวเลขผู้สอบเป็น 110,000คน (Large Number) ค่า Mean และ Standadrd Deviation จะคงที่ กล่าวคือ เด็ก ที่สอบเคมีทั้ง100คนๆหนึ่งได้เพิ่ม= 99 คะแนน จะไม่มีผลต่อค่า Mean and Standard Deviation ของวิชาเคมี เลย กล่าวคือจะคงเดิมดั่ง ดร. อดิศรัยว่า เขาเร๊ยกผลดังกล่าวว่า Stationary in Parameters( Mean and STD)
ดังนั้นต้องเอา Scores ของกลุ่มเป้าหมายที่คะแนนเคมี ทั้ง 100 คนมาดูก็จะรู้ผลว่า รั้วหรือไม่รั่ว


Posted by : Passedby , Date : 2004-06-05 , Time : 10:23:29 , From IP : ppp-203.118.112.39.r

ความคิดเห็นที่ : 3


   ปัญหาคือเราไม่สามารถ identify กลุ่มผู้รับประโยชน์ (ถ้ามี) ในกรณีนี้

ขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่ว่าเราคิดว่าเหตุผลหลักของการทุจริตกรณ๊นี้เกิดจากอะไร ถ้าเกิดจากความต้องการหาเงินของคนที่รับผิดชอบโดยการขายข้อสอบให้คนจำนวนมาก การดู mean ของผลสอบอาจจะแสดงถ้าขายข้อสอบไปมากพอจริง สำหรับลูกค้าก้อาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไรถ้าถึงขนาดปรับ mean ได้ ข้อสอบวิชานั้นก้แทบจะไม่มีผลในการช่วยให้ได้หรือตก

แต่ถ้าเหตุผลคือต้องการช่วยคนบางคนหรือคนกลุ่มเล็กๆ (แต่ค่าตอบแทนไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันก้ได้) การไปค้นหาค่า mean SD ของคะแนนนั้นก็จะเป็นขั้นตอนที่ไร้ประโยชน์ในการสอบสวนครั้งนี้อย่างยิ่ง และยิ่งเป็นการไม่ถูกต้องในการที่กรรมการผู้สอบสวนมาประกาศว่าไม่มีใครผิดเพราะ mean ไม่เปลี่ยน ค่อนไปทางดูถูกคนฟังพอสมควรทีเดียว



Posted by : Phoenix , Date : 2004-06-05 , Time : 17:00:07 , From IP : 172.29.3.204

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<