การเปลี่ยนแปลงทีมบริหาร ทำถูกต้องแล้วการเปลี่ยนแปลงทีมเวชสารสนเทศ เรียน อจ.ทุกท่าน อย่างที่ทราบกันดีคือ ทีมบริหารได้มีการเปลี่ยนแปลงกันอย่างมาก ทีม ผู้อำนวยการ, ทีมแพทยศาสตร์ศึกษา, ทีมการวิจัย , ทีมบริหารสารสนเทศ เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องธรรมดาของงานบริหารที่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดการพัฒนาให้มีสิ่งที่ดีขึ้น (แต่ก็อาจจะพบว่าบางทีเป็นการทำให้เกิดสิ่งไม่ดีขึ้น ซึ่งมันจะต้องทดลองดูไม่น่าจะเสียหาย ถ้าเราไม่กล้าเปลี่ยนก็ไม่รู้) แต่เฉพาะในงานของทีมเวชสารสนเทศ ผมไม่แน่ใจว่าเราจะทดลองกันได้ไหม ? เพราะว่าในการพัฒนางานบางอย่าง โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ จำเป็นต้องมีการศึกษาค้นคว้าทุ่มเทเวลาฝึกฝนกันมาอย่างยาวนาน จนมีลักษณะของ Specialist เกิดขึ้น พวกเราคงจะไม่ค่อยมีใครทราบว่าระบบโรงพยาบาลของเรา (H.I.S) ที่ทำให้เราเริ่มจะเป็น Paperless System โดย มีการสั่งยา, สั่ง LAB, สั่ง X-ray การดูติดตามผลของ LAB, Patho, การจัดคิว, การนัดหมาย, การ Set ผ่าตัด เป็นต้น เหล่านี้มีการพัฒนามาเช่นไร แม้ว่าระบบของเรายังไม่สมบูรณ์แบบเสร็จสิ้น คงจะแทบไม่มีใครทราบว่า ระบบที่เราใช้ในโรงพยาบาล เป็นระบบที่เรียกกว่า L.A.M.P (คือใช้ Linux , Apache , MySQL และ PHP) + กับ Visual Basic ที่เป็น Front end ให้ User เราใช้ และถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้นวัตกรรมนี้ (นานกว่า 4 ปี) ปัจจุบันมีการตื่นตัวแห่จะมาใช้ตามกันอย่างแพร่หลาย เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งจะมีการประชุมกันที่ศูนย์สิริกิตต์ โดย Nectec เพื่อชักชวนให้ใช้ระบบ LAMP นี้ ทั้งนี้ (ทางศูนย์คอมพิวเตอร์ มอ. ยังต้องมาขอผลงานเราไปแสดงที่งานประชุม Nectec เกี่ยวกับ Open source เป็นหน้าเป็นตาของ มอ. ) เพราะว่าระบบ LAMP นี่เป็น Open Source ที่เป็น Freeware ทั้งสิ้น ทำให้เราไม่ต้องเสียค่า Software เป็นเงินมหาศาล (มากกว่าร้อยล้านบาท) ที่ รพ.เชียงใหม่ซื้อ Software ของ Medtrack ราคา 120 ล้านบาท + ค่า Maintenance อีกปีละ 12 ล้านบาท แถมยังทำไม่สำเร็จเท่าไหร่ ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มก่อนเราประมาณ 1-2 ปี แต่เมื่อปีที่แล้วทีมบริหารได้เปลี่ยนแปลงและพิจารณาว่าระบบของ Medtrack ไม่ดี เมื่อมาดูงานที่เราจึงขอล้มระบบและมาใช้ LAMP โดยได้มาขอดูงานต้นแบบและถามดูว่าจะซื้อจากเรา? ไม่เพียงแต่ที่ มช. มาดูงานและจะขอซื้อจากเรา อจ. เอื้อชาติ จากกลุ่มรพ.รามคำแหง ได้มาเห็นงานระบบ HIS ของเรา ก็มาติดต่อผ่าน อจ.สุเมธ ขอซื้อระบบของเรา ส่งคนมาดูงานของรา 2 รอบแล้ว เมื่อ 2 ปีก่อน ก็เคยมีกลุ่มวิศวกรที่เป็นบริษัททางคอมพิวเตอร์ Software มาเห็นระบบของเราโดยการชักชวนของ อจ.วิทูร มาติดต่อขอซื้อโปรแกรมจากเรา ซึ่งทั้งหมดได้รับการปฏิเสธไป เนื่องจากการพัฒนาระบบของเรายังไม่สมบูรณ์ ผมขอเน้นว่ายังไม่สมบูรณ์ เรายังต้องพัฒนากันอีกอย่างมาก อจ.สรยุทธ ได้ทุ่มเททั้งชีวิตในงานนี้ อจ.สรยุทธ เริ่มมาตั้งกลุ่มหน่วยคอมพิวเตอร์ โดยการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความรักในคอมพิวเตอร์ ช่วงแรกเมื่อ 14-15 ปีก่อน มี อจ.ชัยโรจน์ ซึงสนธิพร ร่วมด้วย ผมเองได้รับการชักชวนจาก อจ.สรยุทธ เข้ามาช่วยงานประมาณ 10 ปี จึงได้เห็นการทำงาน ความเป็นมาของระบบแทบทั้งหมด เราได้ไปดูงานทางระบบสารสนเทศจากที่อื่น ๆ มากมาย ทั้งระบบ รพ.รัฐบาล และ เอกชน มากมายในช่วงแรก ๆ เราไปเข้าประชุมกันกับกลุ่มเวชสารสนเทศของ รพ. ต่าง ๆ งานประชุม T.M.I แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในกลุ่ม อจ.สรยุทธ เคยไปดูระบบ HIS ที่สิงคโปร์ ผมเองเมื่อตอนไปดูงานที่ญี่ปุ่น MIYAZAKI 1 เดือน ก็ได้ดูงานระบบ HIS ของทางประเทศญี่ปุ่นด้วย เราเรียกบริษัทต่าง ๆ จากเอกชนมาคุยเรื่อง Features ต่าง ๆ จอง Software จนเรา + Programmer ทุกคน ร่วมหัวจมท้ายมาปรึกษากันจนกระทั่งได้ข้อสรุป และผลลัพธ์ที่สำเร็จเดินมาด้วยดีดังกล่าวข้างต้น จนในช่วงหลังนี้เราเป็นที่กล่าวขวัญและขอดูงานระบบสารสนเทศมากมาย ทั้ง รพ.จุฬาฯ รพ.รามา รพ.ศิริราช รพ.เซ็นต์หลุยส์ รพ.ลำปาง เป็นต้น มาถึงตอนนี้ อจ.บางท่านอาจจะรู้สึกว่าไม่เห็นว่าระบบ HIS ของเราจะดีอย่างไร ยังรวบรวมข้อมูลเพื่องานวิจัยส่วนของภาค หรือ ของส่วนตัวไม่เห็นได้ (Research Information System) ผู้บริหารบางท่านยังรู้สึกว่าระบบโปรแกรมยังไม่ Serve ในแง่ของข้อมูล M.I.S ที่เป็น Realtime (Management Information System) แต่ในความเป็นจริงก็คือ เรามีข้อมูลของ MIS. ที่ทางผู้บริหารขอได้ ซึ่งทุกท่านก็คงจะทราบดีที่ได้เห็นข้อมูลของสารสนเทศในการประชุมกรรมการคณะต่าง ๆ เช่นข้อมูลจำนวนผู้ป่วย , เวลาการรอตรวจ ที่เรานำมาใช้ในการบริหารได้ (แต่ยังไม่ Realtime) เรานำมาใช้ในการตรวจสอบของระบบ HA , TQM , SAR จากทางส่วนกลาง ซึ่งทุกทีมที่มาตรวจสอบระบบสารสนเทศล้วนแต่ชื่นชมและอิจฉาที่เรามีระบบ HIS ที่ดี ราคาถูก (ประหยัดเงินให้ทาง รพ. หลายร้อยล้านบาท) ในแง่ข้อมูลที่เป็นงาน Research เราต้องขอยอมรับว่าเป็นความจริงที่เรายังทำไม่ถึง การเร่งงานในระบบสารสนเทศมิใช่เรื่องง่าย หลายท่านคิดง่าย ๆ ว่า ใช้เงินจ้าง Programmer มาเยอะ ๆ จะได้ทำระบบที่ดีขึ้นเร็วขึ้น! ในความเป็นจริงคือเมื่อได้ Programmer มา 1 คน ต้องใช้เวลาฝึกงานอีกเป็นปี ในขณะที่คนที่เป็น Programmer เก่าก็ยังต้องทำงานต่าง ๆ อย่างเร่งด่วนล้นมือ? ปัญหาตรงนี้เองที่ทำให้ผู้บริหารไม่ยอมเข้าใจจึงคิดว่าจะเปลี่ยนตัวผู้ทำงานคือ รองคณบดีฝ่ายเวชสาร อจ.สรยุทธ์ + ผู้ช่วยคณบดี คือ ผม แล้วเอา อจ.ธีรสาส์น + อจ.สุเชษฐ์ เข้ามาทำแทน ซึ่ง ผมเองรู้สึกไม่สบายใจและไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ผมได้เล่าให้ฟังแล้ว (เป็นเพียงบางส่วน) ถึงระบบความเป็นมาของสารสนเทศเรา ผมอยากจะเปรียบเทียบว่าเหมือนกับการให้ Specialist ที่กำลังผ่าตัดตาอยู่ (ยังไม่เสร็จ Case) แล้วให้ อจ.แพทย์แผนกอื่นที่ไม่ใช่ specialist ทางนี้ เข้ามาผ่าตัดแทน ทั้งที่แพทย์specialist คนเก่าก็มีผลงานที่ดีอยู่แล้วแน่นอนว่าอย่างมากก็แค่ตาบอดไม่หายมันไม่ถึงตายหรอก แต่ผมไม่เข้าใจเลยว่าจะทำเช่นนี้ เพื่อประโยชน์เช่นไร ผมเดาว่าผู้บริหารและ อจ.แพทย์ แผนกอื่นที่เข้ามาผ่าตัดแทนไม่เข้าใจถึงระบบสารสนเทศที่ถูกต้อง ไม่รู้ถึงความเป็นมา การทุ่มเทฝึกฝนตนเอง การเข้าอบรมต่าง ๆ จนเป็นSpecialist ขึ้นมา การคลุกคลีทำงานกับ Programmer ต่างๆทั้งวันทั้งคืนมากกว่า 10 ปี จนเรารู้ฝีมือ รู้ถึงความสามารถในด้านต่าง ๆ เหมือนกับรู้จักเครื่องมือการผ่าตัดใน Spacialist เป็นอย่างดี เราถูกกระชากลงมาจากเก้าอี้แล้วให้หมอแผนกอื่นมาผ่าแทนเรา โดยคิดว่า Programmer ของเราจะทำงานสารสนเทศนี้แทนได้เองเป็น Autonomy อยู่แล้ว มิใช่ฝีมือของแพทย์ผู้ผ่าตัด น่าจะเปลี่ยนแพทย์คนไหนก็ได้ขึ้นมาทำแทนได้ แพทย์คนอื่นก็มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์เหมือนกัน (สามารถเล่น Net , Chat , ICQ etc.) แน่นอนว่าการดำเนินงานในระบบที่เราร่วมกันสร้างขึ้นมานั้นยังคงดำรงต่อไปได้โดยโปรแกรมเมอร์ แต่การพัฒนาก้าวต่อไปของระบบจะต้องชะงักงันและถอยหลังเข้าคลอง ซึ่งผมขอยืนยันว่าการบริหารงานเช่นนี้เป็นความคิดความเข้าใจที่ผิดพลาดอย่างมากของผู้บริหาร ซึ่งจำเป็นต้องถูกบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของ มอ. เรา 1 มิ.ย. 2547 นพ. อารักษ์ ทองปิยะภูมิ Posted by นพ. อารักษ์ ทองปิยะภูมิ(tarak@ratree.psu.ac.th) 2004-06-01 , 17:04:28 , 172.29.1.177 ไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ อาจารย์แพทย์ท่านอื่นก็มีความสามารถดีเช่นกัน เรื่องแบบนี้เรียนรู้กันได้และพัฒนาต่อไปได้โดยไม่ต้องใช้ทีมเดิม ถ้าพูดอย่างนั้นแสดงว่าใครทำอะไรไว้ก็ต้องผูกขาดต่อไปโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นที่มีความสามารถ(อาจดีกว่าคนเดิม)ทำนะซิ ใจกว้างหน่อยนะและยอมรับความจริงเสียเถอะ อย่ายึดมั่นถือมั่นกับตำแหน่งเลย ให้มองประโยชน์ของคณะแพทย์เป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างย่อมทำให้บางคนรับไม่ได้ อย่างเช่นตำแหน่งรองคณบดีฝ่ายวิจัยฯเราก็ไม่เห็นด้วยนะ คนนี้ไม่รู้ว่ามี...หรือเปล่า โดยส่วนตัวไม่ชอบมากแต่อย่างที่บอกนะว่าไม่ถูกใจทุกอย่างกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่ก็จะยอมรับเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม หวังว่าผู้ที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ทุกท่านคงตั้งใจและทุ่มเทเพื่อคณะแพทย์ของเรา Posted by artitis อาจารย์แพทย์เหมือกัน(artitis@ratree.psu.ac.th) 2004-06-03 , 08:56:02 , 172.29.1.209 ขอเสนอให้มีการติดตาม "ประเมิน" ผลการใช้งานระบบสารสนเทศด้วยและรับฟัง feed back จากผู้ใช้งานให้มากขึ้นด้วยค่ะ Posted by แมวดำ() 2004-06-03 , 10:01:09 , 172.29.1.209 สิ่งที่ท่านได้สร้างผลงานเอาไว้นั้นมีสิ่งดีที่หลายๆคนเข้าใจ อันนี้ขอชม แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ท่านทำให้ผู้อืนเดือดร้อน ก่อนเอามาใช้ท่านไม่ให้รองดู(อาจให้บางคนรองใช้แต่คงไม่กว้างขวางพอ) แค่กึ่งบังคับให้ไปหัดใช้ บอกว่าติชมได้ อันไหนมีปัญหาจะแก้ไข เอาเข้าจริงresponse น้อย rigid ในการรับฟัง และอีกหลายๆอย่างในกระทู้เกี่ยวกับ lan ของรพ. การเชื่อมต่อ การขอมีเครื่องคอมพิวเตอร์ programmer ที่ดีต้องฟังเสียง user ด้วย งานที่สร้างมาจึงจะทำให้ user ใช้ได้อย่างดีและพึงพอใจ Posted by อาจารย์คนหนึ่ง() 2004-06-03 , 14:15:44 , 172.29.3.118 การเปลี่ยนแปลงก่อให้เกิดการพัฒนา ขอชื่นชมทีมบริหารชุดใหม่และเป็นกำลังใจให้กับรองคณบดีทุกท่านโดยเฉพาะ ฝ่ายเวชสารสนเทศ ทีมเดิมท่านคงไม่ทราบว่า ท่านได้ก่อให้เกิดปัญหาเพียงใดในการทำงานบริการผู้ป่วยในปัจจุบัน เพราะท่านไม่เคยฟังเสียง feedback ของผู้ใช้ระบบ ที่ผมได้ฟังในอีกแง่มุมหนึ่งจากโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์อื่นคือ ไม่มีใครกล้าใช้ระบบแบบ มอ. เพราะมันอันตรายและไม่ user friendly ผมหวังเพียงแต่ให้ทีมบรีหารชุดใหม่ ทำให้ระบบนี้เป็นมิตรกับผู้ใช้บ้างก็พอ Posted by staff() 2004-06-04 , 08:34:18 , 172.29.3.172 เรื่องนี้เป็นเรื่อง conflict of interest ของเจ้าของกระทู้ เมื่อตัวเองหลุดออกจาก ตำแหน่ง จงอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองทำมาหลายๆปีที่แล้ว มีวลีหนึ่งกล่าวไว้ว่า "อำนาจทำให้ดูเหมือนไม่มีใครตรวจสอบท่าน แต่กระบวนการตรวจสอบสิ่งที่ท่านทำผิด จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อท่านหมดอำนาจ" เราอยากให้ทีมบริหารชุดใหม่จัดการความไม่โปร่งใสเก่าๆ ที่ได้ยินมา และ แก้conflict of interest ของทีมเก่าด้วยเพื่อการพัฒนาขององค์กรต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกคน สุดท้าย ...อยากให้อาจารย์ สรยุ.... และ อารั....เก็บไปคิดด้วยอย่ามองกระจกด้านเดียว ขอบคุณ Posted by Surgery() 2004-06-04 , 09:50:48 , 172.29.3.111 จงคิดเสมอว่า คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ มีให้ใช้งาน(ให้คุ้ม) อย่าทำเหมือนท่านมีสิ่งวิเศษในมือ แล้วนำมาต่อรอง แสวงอำนาจ เขาไปกันถึงไหนๆแล้ว ลองคำนวณกำไรขาดทุน จากที่คณะแพทย์ลงทุนในด้าน IT และผลรับที่ได้ในปัจจุบัน ขาดทุนแน่นอน ตัวเลขที่นำมากล่าวอ้าง ขี้โม้ทั้งเพ อยากเห็นตัวเลขที่เป็นจริงมากกว่ากล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอย Posted by 100%user() 2004-06-04 , 11:05:33 , 172.29.1.164 อยู่มานานก็ยังงี้แหละ ยึดติดจนคิดว่าเป็นเจ้าของแล้ว เสียงสะท้อนคือกระจก ลองมองดูว่าที่ผ่านมาเคยมีการ feed back ตัวเองหรือเปล่า ไม่เคยมอง กฏ กติกา มารยาท ของสังคมเลย อ่านทีแรกก็ไม่สนใจจะตอบกระทู้ แต่พอได้รับ จดหมายที่อุตส่าห์ส่งไปวางที่โต๊ะเช้านี้ก็เบื่อมาก ใช้งบของใครมาพิมพ์จดหมาย กระดาษ หมึก ของหลวงหรือไม่ การกระทำก็ไม่เหมาะสมที่จะมาบริหารคณะแพทย์ ก็ขอให้กำลังใจกับทีมบริหารใหม่ คงจะโปร่งใสกว่าเก่านะครับ และคงต้องรับฟัง feed back ของ user ด้วย ไม่ใช่ ข้าเก่งคนเดียว Posted by user() 2004-06-04 , 11:45:36 , 172.29.3.71 ดีใจที่ทุกคนที่เข้ามาโพสฯมองเห็นอะไรๆที่ผู้บริหารเกี่ยวกับสารสนเทศชุดเก่าทำไว้ไม่สมกับที่กล่าวอ้างไว้ และดีใจที่ท่านคณบดีฯมองเห็น สิ่งที่ลงทุนไปจะสมกับราคาที่คุยไว้จะต้องมีการประเมิน 180 องศา มิได้มาจากการคาดคะเนโดยตนเองหรือหลงตัวเอง และไม่ยอมรับฟังความคิดหรือข้อเสนอแนะของ user ที่ผ่านมาหน่วยงานนี้ค่อนข้างทำอะไรโดยเอาตัวเองเป็นผู้ตัดสินใจเป็นหลัก ( เผด็จการ ) สมควรปรับเปลี่ยนออกแล้วลองมองดูคนอื่นเขาทำงานกันบ้างว่าดีกว่าแน่นอน Posted by Dr.ขี้โม้ทั้งเพ(IT ตัวจริง) 2004-06-04 , 11:46:02 , 172.29.1.209 Posted by : คนคณะแพทย์ช่วยกันออกความคิดเห็ , E-mail : ((a)) , Date : 2004-06-04 , Time : 12:02:11 , From IP : 172.29.1.209 |
ใครช่วยแก้ไขระบบ barcode ปัจจุบันทีเถอะ... เหมือนป้ายราคาสินต้ายังไงยังงั้นเลย อันตรายมาก Posted by : แมวดำ , Date : 2004-06-04 , Time : 13:04:16 , From IP : 172.29.1.209 |
แบบนี้แหละถึงจะเรียกว่า "ลูกผู้ชายตัวจริง" บรรยากาศในการทำงาน น่าจะเป็นแบบแตะมือเปลี่ยนอย่างมิตร มิใช่ศัตรู ไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไรได้ไปตลอดชั่วนิรันดร์หรอก ไม่ควรยึดติดและประมาทว่าผู้อื่นจะทำไม่ได้ ดูจะเป็นการทนงตนมากเกินไป ทุกอย่างต้องให้โอกาสทีมใหม่ได้ใช้ความสามารถพิสูจน์ดูก่อน และหากไม่ดีจริงก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ Posted by : ให้โอกาสทีมใหม่ , E-mail : (...) , Date : 2004-06-04 , Time : 16:38:11 , From IP : 172.29.1.98 |
อ๋อ นึกออกแล้ว โปรแกรมดู x-ray นี่เอง Posted by : ปีศาจลูกหมี , Date : 2004-06-05 , Time : 03:08:32 , From IP : 172.29.4.179 |
หากสนใจเรื่อง LAMPV ผมเคยเขียนบทความเอาไว้ เมื่อปีที่แล้วครับ ลองอ่านได้ที่ http://mcu1.psu.ac.th/menublog.asp Posted by : กิตติภูมิ วรฉัตร , E-mail : (wkittiph@ratree.psu.ac.th) , Date : 2004-06-05 , Time : 11:58:24 , From IP : 172.29.1.19 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.01 seconds. <<<<< |