ความคิดเห็นทั้งหมด : 15

การเปลี่ยนแปลงทีมเวชสารสนเทศ


   เรียน อจ.ทุกท่าน

อย่างที่ทราบกันดีคือ ทีมบริหารได้มีการเปลี่ยนแปลงกันอย่างมาก ทีม ผู้อำนวยการ, ทีมแพทยศาสตร์ศึกษา, ทีมการวิจัย , ทีมบริหารสารสนเทศ เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องธรรมดาของงานบริหารที่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดการพัฒนาให้มีสิ่งที่ดีขึ้น (แต่ก็อาจจะพบว่าบางทีเป็นการทำให้เกิดสิ่งไม่ดีขึ้น ซึ่งมันจะต้องทดลองดูไม่น่าจะเสียหาย ถ้าเราไม่กล้าเปลี่ยนก็ไม่รู้)
แต่เฉพาะในงานของทีมเวชสารสนเทศ ผมไม่แน่ใจว่าเราจะทดลองกันได้ไหม ? เพราะว่าในการพัฒนางานบางอย่าง โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ จำเป็นต้องมีการศึกษาค้นคว้าทุ่มเทเวลาฝึกฝนกันมาอย่างยาวนาน จนมีลักษณะของ Specialist เกิดขึ้น พวกเราคงจะไม่ค่อยมีใครทราบว่าระบบโรงพยาบาลของเรา (H.I.S) ที่ทำให้เราเริ่มจะเป็น Paperless System โดย มีการสั่งยา, สั่ง LAB, สั่ง X-ray การดูติดตามผลของ LAB, Patho, การจัดคิว, การนัดหมาย, การ Set ผ่าตัด เป็นต้น เหล่านี้มีการพัฒนามาเช่นไร แม้ว่าระบบของเรายังไม่สมบูรณ์แบบเสร็จสิ้น
คงจะแทบไม่มีใครทราบว่า ระบบที่เราใช้ในโรงพยาบาล เป็นระบบที่เรียกกว่า L.A.M.P (คือใช้ Linux , Apache , MySQL และ PHP) + กับ Visual Basic ที่เป็น Front end ให้ User เราใช้ และถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้นวัตกรรมนี้ (นานกว่า 4 ปี) ปัจจุบันมีการตื่นตัวแห่จะมาใช้ตามกันอย่างแพร่หลาย เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งจะมีการประชุมกันที่ศูนย์สิริกิตต์ โดย Nectec เพื่อชักชวนให้ใช้ระบบ LAMP นี้ ทั้งนี้ (ทางศูนย์คอมพิวเตอร์ มอ. ยังต้องมาขอผลงานเราไปแสดงที่งานประชุม Nectec เกี่ยวกับ Open source เป็นหน้าเป็นตาของ มอ. ) เพราะว่าระบบ LAMP นี่เป็น Open Source ที่เป็น Freeware ทั้งสิ้น ทำให้เราไม่ต้องเสียค่า Software เป็นเงินมหาศาล (มากกว่าร้อยล้านบาท) ที่ รพ.เชียงใหม่ซื้อ Software ของ Medtrack ราคา 120 ล้านบาท + ค่า Maintenance อีกปีละ 12 ล้านบาท แถมยังทำไม่สำเร็จเท่าไหร่ ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มก่อนเราประมาณ 1-2 ปี แต่เมื่อปีที่แล้วทีมบริหารได้เปลี่ยนแปลงและพิจารณาว่าระบบของ Medtrack ไม่ดี เมื่อมาดูงานที่เราจึงขอล้มระบบและมาใช้ LAMP โดยได้มาขอดูงานต้นแบบและถามดูว่าจะซื้อจากเรา? ไม่เพียงแต่ที่ มช. มาดูงานและจะขอซื้อจากเรา อจ. เอื้อชาติ จากกลุ่มรพ.รามคำแหง ได้มาเห็นงานระบบ HIS ของเรา ก็มาติดต่อผ่าน อจ.สุเมธ ขอซื้อระบบของเรา ส่งคนมาดูงานของรา 2 รอบแล้ว เมื่อ 2 ปีก่อน ก็เคยมีกลุ่มวิศวกรที่เป็นบริษัททางคอมพิวเตอร์ Software มาเห็นระบบของเราโดยการชักชวนของ อจ.วิทูร มาติดต่อขอซื้อโปรแกรมจากเรา ซึ่งทั้งหมดได้รับการปฏิเสธไป เนื่องจากการพัฒนาระบบของเรายังไม่สมบูรณ์ ผมขอเน้นว่ายังไม่สมบูรณ์ เรายังต้องพัฒนากันอีกอย่างมาก อจ.สรยุทธ ได้ทุ่มเททั้งชีวิตในงานนี้ อจ.สรยุทธ เริ่มมาตั้งกลุ่มหน่วยคอมพิวเตอร์ โดยการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความรักในคอมพิวเตอร์ ช่วงแรกเมื่อ 14-15 ปีก่อน มี อจ.ชัยโรจน์ ซึงสนธิพร ร่วมด้วย ผมเองได้รับการชักชวนจาก อจ.สรยุทธ เข้ามาช่วยงานประมาณ 10 ปี จึงได้เห็นการทำงาน ความเป็นมาของระบบแทบทั้งหมด เราได้ไปดูงานทางระบบสารสนเทศจากที่อื่น ๆ มากมาย ทั้งระบบ รพ.รัฐบาล และ เอกชน มากมายในช่วงแรก ๆ เราไปเข้าประชุมกันกับกลุ่มเวชสารสนเทศของ รพ. ต่าง ๆ งานประชุม T.M.I แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในกลุ่ม อจ.สรยุทธ เคยไปดูระบบ HIS ที่สิงคโปร์ ผมเองเมื่อตอนไปดูงานที่ญี่ปุ่น MIYAZAKI 1 เดือน ก็ได้ดูงานระบบ HIS ของทางประเทศญี่ปุ่นด้วย เราเรียกบริษัทต่าง ๆ จากเอกชนมาคุยเรื่อง Features ต่าง ๆ จอง Software จนเรา + Programmer ทุกคน ร่วมหัวจมท้ายมาปรึกษากันจนกระทั่งได้ข้อสรุป และผลลัพธ์ที่สำเร็จเดินมาด้วยดีดังกล่าวข้างต้น
จนในช่วงหลังนี้เราเป็นที่กล่าวขวัญและขอดูงานระบบสารสนเทศมากมาย ทั้ง รพ.จุฬาฯ รพ.รามา รพ.ศิริราช รพ.เซ็นต์หลุยส์ รพ.ลำปาง เป็นต้น มาถึงตอนนี้ อจ.บางท่านอาจจะรู้สึกว่าไม่เห็นว่าระบบ HIS ของเราจะดีอย่างไร ยังรวบรวมข้อมูลเพื่องานวิจัยส่วนของภาค หรือ ของส่วนตัวไม่เห็นได้ (Research Information System) ผู้บริหารบางท่านยังรู้สึกว่าระบบโปรแกรมยังไม่ Serve ในแง่ของข้อมูล M.I.S ที่เป็น Realtime (Management Information System) แต่ในความเป็นจริงก็คือ เรามีข้อมูลของ MIS. ที่ทางผู้บริหารขอได้ ซึ่งทุกท่านก็คงจะทราบดีที่ได้เห็นข้อมูลของสารสนเทศในการประชุมกรรมการคณะต่าง ๆ เช่นข้อมูลจำนวนผู้ป่วย , เวลาการรอตรวจ ที่เรานำมาใช้ในการบริหารได้ (แต่ยังไม่ Realtime) เรานำมาใช้ในการตรวจสอบของระบบ HA , TQM , SAR จากทางส่วนกลาง ซึ่งทุกทีมที่มาตรวจสอบระบบสารสนเทศล้วนแต่ชื่นชมและอิจฉาที่เรามีระบบ HIS ที่ดี ราคาถูก (ประหยัดเงินให้ทาง รพ. หลายร้อยล้านบาท)
ในแง่ข้อมูลที่เป็นงาน Research เราต้องขอยอมรับว่าเป็นความจริงที่เรายังทำไม่ถึง การเร่งงานในระบบสารสนเทศมิใช่เรื่องง่าย หลายท่านคิดง่าย ๆ ว่า ใช้เงินจ้าง Programmer มาเยอะ ๆ จะได้ทำระบบที่ดีขึ้นเร็วขึ้น! ในความเป็นจริงคือเมื่อได้ Programmer มา 1 คน ต้องใช้เวลาฝึกงานอีกเป็นปี ในขณะที่คนที่เป็น Programmer เก่าก็ยังต้องทำงานต่าง ๆ อย่างเร่งด่วนล้นมือ?
ปัญหาตรงนี้เองที่ทำให้ผู้บริหารไม่ยอมเข้าใจจึงคิดว่าจะเปลี่ยนตัวผู้ทำงานคือ รองคณบดีฝ่ายเวชสาร อจ.สรยุทธ์ + ผู้ช่วยคณบดี คือ ผม แล้วเอา อจ.ธีรสาส์น + อจ.สุเชษฐ์ เข้ามาทำแทน ซึ่ง ผมเองรู้สึกไม่สบายใจและไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ผมได้เล่าให้ฟังแล้ว (เป็นเพียงบางส่วน) ถึงระบบความเป็นมาของสารสนเทศเรา
ผมอยากจะเปรียบเทียบว่าเหมือนกับการให้ Specialist ที่กำลังผ่าตัดตาอยู่ (ยังไม่เสร็จ Case) แล้วให้ อจ.แพทย์แผนกอื่นที่ไม่ใช่ specialist ทางนี้ เข้ามาผ่าตัดแทน ทั้งที่แพทย์specialist คนเก่าก็มีผลงานที่ดีอยู่แล้วแน่นอนว่าอย่างมากก็แค่ตาบอดไม่หายมันไม่ถึงตายหรอก แต่ผมไม่เข้าใจเลยว่าจะทำเช่นนี้ เพื่อประโยชน์เช่นไร ผมเดาว่าผู้บริหารและ อจ.แพทย์ แผนกอื่นที่เข้ามาผ่าตัดแทนไม่เข้าใจถึงระบบสารสนเทศที่ถูกต้อง ไม่รู้ถึงความเป็นมา การทุ่มเทฝึกฝนตนเอง การเข้าอบรมต่าง ๆ จนเป็นSpecialist ขึ้นมา การคลุกคลีทำงานกับ Programmer ต่างๆทั้งวันทั้งคืนมากกว่า 10 ปี จนเรารู้ฝีมือ รู้ถึงความสามารถในด้านต่าง ๆ เหมือนกับรู้จักเครื่องมือการผ่าตัดใน Spacialist เป็นอย่างดี เราถูกกระชากลงมาจากเก้าอี้แล้วให้หมอแผนกอื่นมาผ่าแทนเรา โดยคิดว่า Programmer ของเราจะทำงานสารสนเทศนี้แทนได้เองเป็น Autonomy อยู่แล้ว มิใช่ฝีมือของแพทย์ผู้ผ่าตัด น่าจะเปลี่ยนแพทย์คนไหนก็ได้ขึ้นมาทำแทนได้ แพทย์คนอื่นก็มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์เหมือนกัน (สามารถเล่น Net , Chat , ICQ etc.) แน่นอนว่าการดำเนินงานในระบบที่เราร่วมกันสร้างขึ้นมานั้นยังคงดำรงต่อไปได้โดยโปรแกรมเมอร์ แต่การพัฒนาก้าวต่อไปของระบบจะต้องชะงักงันและถอยหลังเข้าคลอง ซึ่งผมขอยืนยันว่าการบริหารงานเช่นนี้เป็นความคิดความเข้าใจที่ผิดพลาดอย่างมากของผู้บริหาร ซึ่งจำเป็นต้องถูกบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของ มอ. เรา

1 มิ.ย. 2547
นพ. อารักษ์ ทองปิยะภูมิ


Posted by : นพ. อารักษ์ ทองปิยะภูมิ , E-mail : (tarak@ratree.psu.ac.th) ,
Date : 2004-06-01 , Time : 17:04:28 , From IP : 172.29.1.177


ความคิดเห็นที่ : 1


    ไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ อาจารย์แพทย์ท่านอื่นก็มีความสามารถดีเช่นกัน เรื่องแบบนี้เรียนรู้กันได้และพัฒนาต่อไปได้โดยไม่ต้องใช้ทีมเดิม ถ้าพูดอย่างนั้นแสดงว่าใครทำอะไรไว้ก็ต้องผูกขาดต่อไปโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นที่มีความสามารถ(อาจดีกว่าคนเดิม)ทำนะซิ ใจกว้างหน่อยนะและยอมรับความจริงเสียเถอะ อย่ายึดมั่นถือมั่นกับตำแหน่งเลย ให้มองประโยชน์ของคณะแพทย์เป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างย่อมทำให้บางคนรับไม่ได้ อย่างเช่นตำแหน่งรองคณบดีฝ่ายวิจัยฯเราก็ไม่เห็นด้วยนะ คนนี้ไม่รู้ว่ามี...หรือเปล่า โดยส่วนตัวไม่ชอบมากแต่อย่างที่บอกนะว่าไม่ถูกใจทุกอย่างกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่ก็จะยอมรับเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม หวังว่าผู้ที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ทุกท่านคงตั้งใจและทุ่มเทเพื่อคณะแพทย์ของเรา

Posted by : artitis อาจารย์แพทย์เหมือกัน , E-mail : (artitis@ratree.psu.ac.th) ,
Date : 2004-06-03 , Time : 08:56:02 , From IP : 172.29.1.209


ความคิดเห็นที่ : 2


   ขอเสนอให้มีการติดตาม "ประเมิน" ผลการใช้งานระบบสารสนเทศด้วยและรับฟัง feed back จากผู้ใช้งานให้มากขึ้นด้วยค่ะ

Posted by : แมวดำ , Date : 2004-06-03 , Time : 10:01:09 , From IP : 172.29.1.209

ความคิดเห็นที่ : 3


   สิ่งที่ท่านได้สร้างผลงานเอาไว้นั้นมีสิ่งดีที่หลายๆคนเข้าใจ อันนี้ขอชม แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ท่านทำให้ผู้อืนเดือดร้อน ก่อนเอามาใช้ท่านไม่ให้รองดู(อาจให้บางคนรองใช้แต่คงไม่กว้างขวางพอ) แค่กึ่งบังคับให้ไปหัดใช้ บอกว่าติชมได้ อันไหนมีปัญหาจะแก้ไข เอาเข้าจริงresponse น้อย rigid ในการรับฟัง และอีกหลายๆอย่างในกระทู้เกี่ยวกับ lan ของรพ. การเชื่อมต่อ การขอมีเครื่องคอมพิวเตอร์ programmer ที่ดีต้องฟังเสียง user ด้วย งานที่สร้างมาจึงจะทำให้ user ใช้ได้อย่างดีและพึงพอใจ

Posted by : อาจารย์คนหนึ่ง , Date : 2004-06-03 , Time : 14:15:44 , From IP : 172.29.3.118

ความคิดเห็นที่ : 4


   การเปลี่ยนแปลงก่อให้เกิดการพัฒนา
ขอชื่นชมทีมบริหารชุดใหม่และเป็นกำลังใจให้กับรองคณบดีทุกท่านโดยเฉพาะ ฝ่ายเวชสารสนเทศ ทีมเดิมท่านคงไม่ทราบว่า ท่านได้ก่อให้เกิดปัญหาเพียงใดในการทำงานบริการผู้ป่วยในปัจจุบัน เพราะท่านไม่เคยฟังเสียง feedback ของผู้ใช้ระบบ ที่ผมได้ฟังในอีกแง่มุมหนึ่งจากโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์อื่นคือ ไม่มีใครกล้าใช้ระบบแบบ มอ. เพราะมันอันตรายและไม่ user friendly
ผมหวังเพียงแต่ให้ทีมบรีหารชุดใหม่ ทำให้ระบบนี้เป็นมิตรกับผู้ใช้บ้างก็พอ


Posted by : staff , Date : 2004-06-04 , Time : 08:34:18 , From IP : 172.29.3.172

ความคิดเห็นที่ : 5


    เรื่องนี้เป็นเรื่อง conflict of interest ของเจ้าของกระทู้ เมื่อตัวเองหลุดออกจาก ตำแหน่ง จงอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองทำมาหลายๆปีที่แล้ว มีวลีหนึ่งกล่าวไว้ว่า
"อำนาจทำให้ดูเหมือนไม่มีใครตรวจสอบท่าน แต่กระบวนการตรวจสอบสิ่งที่ท่านทำผิด จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อท่านหมดอำนาจ"
เราอยากให้ทีมบริหารชุดใหม่จัดการความไม่โปร่งใสเก่าๆ ที่ได้ยินมา และ แก้conflict of interest ของทีมเก่าด้วยเพื่อการพัฒนาขององค์กรต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกคน
สุดท้าย ...อยากให้อาจารย์ สรยุ.... และ อารั....เก็บไปคิดด้วยอย่ามองกระจกด้านเดียว
ขอบคุณ


Posted by : Surgery , Date : 2004-06-04 , Time : 09:50:48 , From IP : 172.29.3.111

ความคิดเห็นที่ : 6


   จงคิดเสมอว่า คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ มีให้ใช้งาน(ให้คุ้ม) อย่าทำเหมือนท่านมีสิ่งวิเศษในมือ แล้วนำมาต่อรอง แสวงอำนาจ เขาไปกันถึงไหนๆแล้ว

ลองคำนวณกำไรขาดทุน จากที่คณะแพทย์ลงทุนในด้าน IT และผลรับที่ได้ในปัจจุบัน ขาดทุนแน่นอน ตัวเลขที่นำมากล่าวอ้าง ขี้โม้ทั้งเพ

อยากเห็นตัวเลขที่เป็นจริงมากกว่ากล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอย


Posted by : 100%user , Date : 2004-06-04 , Time : 11:05:33 , From IP : 172.29.1.164

ความคิดเห็นที่ : 7


   อยู่มานานก็ยังงี้แหละ ยึดติดจนคิดว่าเป็นเจ้าของแล้ว เสียงสะท้อนคือกระจก ลองมองดูว่าที่ผ่านมาเคยมีการ feed back ตัวเองหรือเปล่า ไม่เคยมอง กฏ กติกา มารยาท ของสังคมเลย อ่านทีแรกก็ไม่สนใจจะตอบกระทู้ แต่พอได้รับ จดหมายที่อุตส่าห์ส่งไปวางที่โต๊ะเช้านี้ก็เบื่อมาก ใช้งบของใครมาพิมพ์จดหมาย กระดาษ หมึก ของหลวงหรือไม่ การกระทำก็ไม่เหมาะสมที่จะมาบริหารคณะแพทย์

ก็ขอให้กำลังใจกับทีมบริหารใหม่ คงจะโปร่งใสกว่าเก่านะครับ และคงต้องรับฟัง feed back ของ user ด้วย ไม่ใช่ ข้าเก่งคนเดียว


Posted by : user , Date : 2004-06-04 , Time : 11:45:36 , From IP : 172.29.3.71

ความคิดเห็นที่ : 8


    ดีใจที่ทุกคนที่เข้ามาโพสฯมองเห็นอะไรๆที่ผู้บริหารเกี่ยวกับสารสนเทศชุดเก่าทำไว้ไม่สมกับที่กล่าวอ้างไว้ และดีใจที่ท่านคณบดีฯมองเห็น สิ่งที่ลงทุนไปจะสมกับราคาที่คุยไว้จะต้องมีการประเมิน 180 องศา มิได้มาจากการคาดคะเนโดยตนเองหรือหลงตัวเอง และไม่ยอมรับฟังความคิดหรือข้อเสนอแนะของ user ที่ผ่านมาหน่วยงานนี้ค่อนข้างทำอะไรโดยเอาตัวเองเป็นผู้ตัดสินใจเป็นหลัก ( เผด็จการ ) สมควรปรับเปลี่ยนออกแล้วลองมองดูคนอื่นเขาทำงานกันบ้างว่าดีกว่าแน่นอน

Posted by : Dr.ขี้โม้ทั้งเพ , E-mail : (IT ตัวจริง) ,
Date : 2004-06-04 , Time : 11:46:02 , From IP : 172.29.1.209


ความคิดเห็นที่ : 9


   เห็นด้วยอย่างยิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงทีมนี้ ที่ผ่านมาคงคิดว่าตัวเองมีความสำคัญมาก คิดจะให้ใครทำตามที่ตัวเองกำหนดทั้งหมด ไม่เคยประเมินผลงานของตนเองดลย โดยเฉพาะด้านบริการผู้ป่วย สร้างความลำบากให้ผู้ปฏิบัติการเป็นอย่างมาก และไม่คิดจะปรับปรุงแก้ไข ปล่อยให้ user รับผิดชอบกันเอาเอง ทุกคนทำงานด้วยความเสี่ยง... ในขณะที่ผู้สร้างระบบที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ ..ได้หน้าไปแล้ว

Posted by : ส้ม , Date : 2004-06-04 , Time : 13:11:45 , From IP : 172.29.1.209

ความคิดเห็นที่ : 10


   อ่านดูแล้วก็เข้าใจนะคะ ว่าโครงการพัฒนาระบบ เป็นเรื่องที่เป็นโครงการระยะยาว และต้องการความต่อเนื่อง แล้วในฐานะ USer หลายครั้งก็หงุดหงิดใจกับคอมพิวเตอร์ในรพ. ก็เป็นคนที่ถ้ามีโอกาสให้เสนอสิ่งที่อยากให้แก้ไขก็จะพยายามทำ และก็รู้สึกว่าทีมพัฒนาระบบก็พยายามแก้ไขอยู่เสมอ ถึงแม้จะช้าบ้างก็อาจเป็นเพราะ ในความรู้สึกของตัวเองแล้วตัวโปรแกรมที่จะเป็น user friendly เนื่ยมันก็ต้องผ่านการพัฒนา ติชมจากผู้ใช้ แล้วก็ค่อย ๆ แก้ไขกันไปเพราะรพ.เราก็ไม่ใช่ microsoft อะไรเทือกนั้น
โดยส่วนตัวแล้วก็อยากขื่นชมทีมงานเก่าคิดว่าเท่าที่เป็นอยู่ ต้องผ่านการทุ่มเทมาไม่น้อย แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่แน่ใจว่าในลักษณะการพัมนาปรับตำแหน่งแล้วจะมีผลอย่างไร แต่ส่วนตัวก็คิดว่าทีมใหม่ที่เข้ามาก็น่าจะชื่มชมและให้เกียรติผู้ริเริ่มระบบ หรือเป็นผู้บุกเบิก เพราะถ้าเอามุมมองของทีมใหม่ และการให้เกียรติทีมเก่า ร่วมมือกัน ก็คงจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมาก ๆ ถ้าให้เกียรติกันและกัน คงจะมีความสุขทั้งสองฝ่ายนะคะ
เอาใจช่วยค่ะ


Posted by : พชท.คนหนึ่ง , Date : 2004-06-04 , Time : 15:30:35 , From IP : 172.29.2.98

ความคิดเห็นที่ : 11


   เอ แต่ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นา ระบบคอมพ์ของเราเนี่ย ดี ใช้งานง่าย
ไม่รู้แหละ ใครจะมีตำแหน่งอะไรก็ช่าง แต่คนดี มีความสามารถอยู่ที่ไหน ก็มีคุณค่า คนอื่นไม่เห็นไม่เป็นไร ดาบคมไม่จำเป็นต้องโชว์ให้คนอื่นเห็น ว่าไปนั้น
ให้กำลังใจทุกคนครับ


Posted by : โซดา โค้ก , Date : 2004-06-05 , Time : 02:40:01 , From IP : 172.29.3.209

ความคิดเห็นที่ : 12


    การแสดงความคิดเห็นใด ๆ ในกระทู้ผมว่าเราสามารถนำเสนอมุมมองได้หลายแบบนะครับ
และรู้สึกเสียดายนะครับ ถ้าเราจะมองความคิดของคน ๆ หนึ่งเพียงแต่ด้านเดียว
โดยลืมมองเจตนารมย์ในด้านอื่น ๆ ไป ผมจึงอยากจะจับประเด็นเพื่อนำเสนอแง่มุมอื่น ๆ
ดูบ้าง ท่านผู้อ่านก็ลองพิจารณาดูนะครับ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างใดก็เป็นสิทธิ
ส่วนบุคคลครับ เพียงแค่อยากให้มองแบบ win win ดูบ้าง
.
โดยส่วนตัวผมมีความสนใจในวิทยาการด้านนี้มานาน และได้มีโอกาสไปสัมผัสทีมงาน
ศูนย์เวชสารสนเทศอยู่พอสมควร เท่าที่ทราบทีมโปรแกรมเมอร์มีอยู่ประมาณ 7 คน
ที่ทำหน้าที่พัฒนาระบบ HIS ของโรงพยาบาล โดยปัจจุบันมีโปรแกรมที่เป็นผลผลิต
จากทีมกลุ่มนี้หลายสิบโปรแกรม เมื่อเทียบปริมาณงานกับจำนวนคนแล้ว ผมว่าอยู่
ในเกณฑ์ดี แม้หลายคนมักจะบ่นว่าโปรแกรมไม่ user friendly แต่ในสายตาผมคิดว่า
ผลงานขนาดนี้ก็จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ไปกันได้กับด้วยระยะเวลาการพัฒนาเพียง3 ปีกับด้วย
คนเพียง 7 คน เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่าบริษัท Microsoft ใช้คนหลายพันคนเป็นทีมพัฒนา
โปรแกรมให้ได้หน้าตา friendly โดยใช้เวลาเป็นปี จึงจะมีการออกผลิตภัณฑ์สักหนึ่งตัว
ออกมา แถมเมื่อออกโปรแกรมมาแล้ว ยังต้องมีการมาแก้ไขข้อผิดพลาด ที่เป็นการติชม
และค้นพบจากผู้ใช้อีกนานกว่าจะเข้าที่ ผมว่าเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่หลายคนควรจะได้เข้าใจ
ในระบบงาน และยอมรับความเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีไปพร้อม ๆ กันน่ะครับ ทุกระบบ
ล้วนต้องใช้เวลาในการพัฒนาและการพัฒนาในระบบราชการนั้นก็ต้องทำไปตามกรอบตาม
แนวทาง การจะให้ทำงานแบบคู่ขนานในเวลาเดียวกันให้ได้ผลงานทุกอย่างออกมาพร้อม ๆ
กันนั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงตัวแปรในเรื่องปริมาณคน ลักษณะงาน และระยะเวลาด้วย
เรื่องนี้ผมจึงอยากชี้ให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ที่เราทุกคนจะร่วมกันให้คำติชมใน
การพัฒนาศักยภาพของโปรแกรมต่อ ๆ ไปดีกว่ามาใส่เชื้อไฟเพื่อทำลายกันนะครับ เราอยู่
คณะเดียวกันก็ควรช่วยเหลือให้ คณะของเรามุ่งสู้ความเป็นเลิศจริงมั้ยครับ
.
ถ้าหลายท่านได้อ่านบนความของคุณกิตติภูมิ ที่ได้มีการ link ไว้ในกระทู้ "การเปลี่ยน
แปลงทีมบริหาร ทำถูกต้องแล้ว" เป็นบทความเกี่ยวกับเรื่อง LAMPV ที่มี link ดังนี้
http://mcu1.psu.ac.th/menublog.asp คงทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติม ว่าโรงพยาบาลเรา
สามารถประหยัดงบประมาณในเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ซอฟแวร์เป็นจำนวนมหาศาล รวมถีง
เป็นสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยเลื่อกใช้สิ่งที่มีอยู่มาใช้งานร่วมกัน จึงนับเป็นเรื่องที่ดี
และน่าชื่นชม ซึ่งแน่นอนความดีในส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ย่อมจะเกิดไม่ได้หากขาดผู้ผลักดันที่
มองเห็นความสำคัญและมีวิสัยทัศน์ นั้นก็คือผู้บริหารศูนย์เวชสารสนเทศชุดเก่าที่ประกอบไปด้วย
อ.สรยุทธและอ.อารักษ์ ที่ให้การสนับสนุนและคำปรึกษามาหลายสมัย อย่าหาว่าผมสนับสนุน
อ.สองคนนี้จนออกนอกหน้านะครับ เพราะในส่วนดีเราก็ควรให้เกียรติคนที่ริเริ่มที่ทำให้มีโอกาส
ในการเกิดระบบใหม่ ๆ ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ควรปฎิเสธการให้โอกาสคนใหม่ได้พิสูจน์ฝึมือใน
การสานต่องานด้วย เรื่องนี้ผมก็มองว่าการที่จะใครจะมาเป็นผู้บริหารคงเป็นเรื่องของความ
เหมาะสมที่ผู้ใหญ่แต่ละท่านจะจัดการกันไปนะครับ เราไม่เกี่ยว
.
ท้ายสุดผมไม่แปลกใจที่ อ.อารักษ์ จะนำเสนอบทความด้านบนไว้ เพราะถ้าจะให้เปรียบเทียบกับตัว
ผมเองถ้าได้ดูแลและอยู่ในทีมผู้ริเริ่มตั่งแต่แรก ก็คงจะมีความรู้สึกเป็นห่วงระบบงานอยู่มากไม่ต่างกัน
โดยเฉพาะยิ่งถ้าไม่เคยเห็นผลงานที่ชัดเจนของผู้บริหารชุดใหม่ก็ยิ่งกังวลไปกันใหญ่ ว่าจะมาสานต่อ
งานที่ต้องการสายตาและวิสัยทัศน์เฉพาะด้านได้เทียบเท่าหรือดีกว่าหรือไม่ ความห่วงใยนี้ก็คงจะโยงไปถึง
ความปราถนาให้สิ่งที่อ.ท่านร่วมผลักดันมาได้มีความต่อเนื่องต่อไป เพื่อเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีให้กับคณะ
ของเรา เรื่องนี้ผมจึงได้จับเป็นประเด็นให้ทุนคนได้ร่วมกันมองถึงความปราถนาดี มากกว่าการมอง
ในแง่ลบ และอยากฝากให้ทุกคนในฐานะบุคลากรในคณะแพทย์คนนึงคิดว่าเราต้องช่วยกันคิดช่วยกัน
พัฒนาและให้โอกาส "การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อเปลี่ยนแล้วจะให้ผลออกมาทางใด" และข้อสำคัญอย่าเพิ่งตระหนกในสิ่งที่ยังไม่เกิด ผลย่อมเกิดจากเหตุ ถ้าได้ก่อเหตุใด ๆ ไว้ดีแล้วผลก็ย่อมออกตามนั้น


Posted by : คิดดี ทำดี , Date : 2004-06-07 , Time : 13:27:49 , From IP : 172.29.1.201

ความคิดเห็นที่ : 13


   เห็นด้วยกับท่านคิดดี ทำดี และขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ หนูเข้าใจความรู้สึก และความห่วงใยที่อ.มีต่องาน สิ่งที่อ.สรยุมะทธ์และอ.ทำเป็นที่ประจักษ์ทั่วร.พ. ขอให้อานิสงส์แห่งความดีที่ทำมาส่งเสริมให้อาจารย์เจริญยิ่งขึ้นไป และเราผู้ที่ทำงานใกล้ชิดรู้ว่าอาจารย์เป็นคนสุภาพ ถ่ิอมตน ที่อาจารย์กล่าวมาเป็นความอัดอั้นที่จริงใจ
ด้วยรักและผูกพัน
ทีมรักคนดีด้วย เก่งด้วย


Posted by : ตาที่ 3 , Date : 2004-06-08 , Time : 10:57:55 , From IP : 172.29.3.110

ความคิดเห็นที่ : 14


   แม้รู้ดีว่าชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง แต่ก็รู้สึกเสียใจที่ต้องพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก ส่วนหนึ่งก็เข้าใจความรู้สึกผู้ที่จากไป บางจุดที่เห็นก็รู้สึกว่าการส่งไม้ แตะมือไม่ค่อยสวยงามเท่าไร เหล่านี้เป็นเรื่องที่ sensitive และกระทบต่อความรู้สึกของนักวิ่ง และผู้ชมด้วยเช่นกัน เราจึงต้องมานั่งอ่านนิทานแห่งความแตกแยก บางคนอาจหัวเราะ เพราะไม่เคยมีบทเรียนเรื่องนี้ คนที่ร้องไห้ต่างเป็นพวกที่ก่อกองทรายมาด้วยกัน อยากให้ผู้ที่ผูกเงื่อนได้เรียนรู้ที่จะแก้เงื่อน และแสดงบทบาทที่ถูกต้อง แม้อดีตผู้บริหารที่กำลังกลายเป็นผู้ร้ายเพราะหมดอำนาจ แต่จริงๆแล้วเขาเหล่านี้เทียบได้กับวีรชนผู้กล้าหาญที่ต้องพบกับความเจ็บปวด และผลงานที่เขาำก็คือผลงานของเราท่าน อย่านั่งสะใจหรือสมน้ำหน้าเพราะใครจะไปรู้ว่าอนาคตอาจเป็นท่าน ใครก็ได้ช่วยทำให้หนังม้วนนี้จบแบบสวยงามหน่อยได้ไหม

Posted by : ปรองดอง , Date : 2004-06-09 , Time : 09:31:10 , From IP : 172.29.3.110

ความคิดเห็นที่ : 15


   แม้รู้ดีว่าชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง แต่ก็รู้สึกเสียใจที่ต้องพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก ส่วนหนึ่งก็เข้าใจความรู้สึกผู้ที่จากไป บางจุดที่เห็นก็รู้สึกว่าการส่งไม้ แตะมือไม่ค่อยสวยงามเท่าไร เหล่านี้เป็นเรื่องที่ sensitive และกระทบต่อความรู้สึกของนักวิ่ง และผู้ชมด้วยเช่นกัน เราจึงต้องมานั่งอ่านนิทานแห่งความแตกแยก บางคนอาจหัวเราะ เพราะไม่เคยมีบทเรียนเรื่องนี้ คนที่ร้องไห้ต่างเป็นพวกที่ก่อกองทรายมาด้วยกัน อยากให้ผู้ที่ผูกเงื่อนได้เรียนรู้ที่จะแก้เงื่อน และแสดงบทบาทที่ถูกต้อง แม้อดีตผู้บริหารที่กำลังกลายเป็นผู้ร้ายเพราะหมดอำนาจ แต่จริงๆแล้วเขาเหล่านี้เทียบได้กับวีรชนผู้กล้าหาญที่ต้องพบกับความเจ็บปวด และผลงานที่เขาำก็คือผลงานของเราท่าน อย่านั่งสะใจหรือสมน้ำหน้าเพราะใครจะไปรู้ว่าอนาคตอาจเป็นท่าน ใครก็ได้ช่วยทำให้หนังม้วนนี้จบแบบสวยงามหน่อยได้ไหม

Posted by : ปรองดอง , Date : 2004-06-09 , Time : 09:31:24 , From IP : 172.29.3.110

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<