ความคิดเห็นทั้งหมด : 16

เรียนผู้อำนวยการ


   เป็นแพทย์เพิ่งจบใหม่เพิ่งมาอยู่ที่นี่ ช่วงนี้อยู่เวรบ่อยและเวรยุ่งมาก กว่าจะได้ลงจาก ward มาอาบน้ำที่หอพักก็ตีสองตีสามเข้าไปแล้ว
งานหนักไม่ว่าหรอกครับแต่พอเดินมาจะพ้น รพ. ก็ต้องหงุดหงิดทุกทีเพราะประตูทางออกจาก รพ. บริเวณข้างห้องเก็บศพปิดทุกที
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าปิดทำไมครับ กลัวคนจะมาขโมยศพหรือครับ?
ไม่ทราบว่ากฎระเบียบนี้ใครเป็นคนตั้งขึ้นมา? สงสัยตั้งโดยไม่ทันคิดถึงเหตุถึงผล
ทราบมั้ยครับว่าผมต้องเดินย้อนกลับไปหน้า รพ. แล้วเดินอ้อมลงไปข้างล่างตึก ฉบ. ไปใต้ตึกแพทยศาสตร์ มืดก็มืด เหนื่อยก็เหนื่อย กว่าจะถึงหอก็ครึ่งชั่วโมงเข้าไปแล้ว สรุปแล้วใช้เวลาอาบน้ำอีกครึ่งชั่วโมงเดินกลับอีกครึ่งชั่วโมง กว่าจะได้นอนก็ตีสี่ครึ่งแล้วครับ
ตื่นหกโมงเช้าเพื่อไปอาบน้ำมาทำแผลหกโมงครึ่งกว่าจะ round ward เสร็จ สองทุ่มครึ่งถึงสามทุ่มครึ่ง สรุปแล้วได้ได้นอนชั่วโมงครึ่งในสามสิบเก้าชั่วโมงที่ทำงาน
ไม่อยากจะบ่นหรอกครับแต่อยากได้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง กฎอะไรที่ไม่จำเป็นผมก็เห็นสมควรให้ลบทิ้งซะบ้าง
อาชีพอื่นไม่ลองไม่รู้หรอกครับ เจ้าหน้าที่ของ รพ. ตั้งแต่พยาบาลยันคนงานลองไปเช็คดูซิครับได้ทำงานวันละกี่ชั่วโมง วันไหนมีเวรบ่ายดึกก็ได้ OT กันสะใจ แต่คนอย่างผมได้นอนแค่ชั่วโมงครึ่งในสามสิบเก้าชั่วโมงเท่านั้นเอง ได้เงินเดือนก็น้อยนิด


Posted by : แพทย์จบใหม่ , Date : 2004-05-18 , Time : 21:03:14 , From IP : 172.29.2.98

ความคิดเห็นที่ : 1


   ควรคิดคำนวณอัตราส่วนระหว่างผู้ป่วยกับ แพทย์ดูบ้าง
OPD มี pt. เยอะมากกกก เห็นสมควรให้รับ resident + พชท. เพิ่มได้แล้ว
(ให้มันเท่ากับสถาบันแพทย์อื่นๆ)--> รับ staff เพิ่ม
อย่ามัวแต่ งกค่าจ้างอยู่เลย งานเยอะทำไม่ทันแล้ว
ถ้าอยากให้คุณภาพงานดี ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำข้างบน


Posted by : w.j , Date : 2004-05-18 , Time : 23:00:26 , From IP : 172.29.3.114

ความคิดเห็นที่ : 2


   ประตูทางออกนั้นเขามีกฏเกณฑ์ทีต้องปิดมาตั้งนานแล้ว และทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรในคณะ แพทย์จบใหม่ที่จะมาอยู่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ใหม่ ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้แต่ต่อไปก็ต้องรู้และพยายามปฏิบัติตาม กฏเขามีเขาก็คงพิจารณาแล้ว ไม่ใช่ว่ามาอยู่ใหม่ก็จะมาแก้ไขไปหมด โดยไม่คิดหน้าคิดหลัง อย่าลืมว่าตอนอยากจะมาอยู่อะไรก็ยอมแต่พอมาอยู่แล้วก็จะเอาอย่างโน้นอย่างนี้

Posted by : คนรพ. , Date : 2004-05-18 , Time : 23:25:13 , From IP : r156-skaHS1.S.loxinf

ความคิดเห็นที่ : 3


   ตำแหน่งของแพทย์ใช้ทุนและแพทย์ประจำบ้านของแต่ละสถาบันที่สามารถรับได้นั้นมีเกณฑ์กำหนดไว้ชัดเจนจากราชวิทยาลัยต่างๆ เป็นเพราะว่าที่ มอ.เป็นสถาบันฝึกอบรมครับ และจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฏที่มีไว้เพื่อรักษามาตรฐานของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ไม่แน่ใจที่คุณหมอใหม่ที่เริ่มกระทู้เดินมาเจอประตูปิดทุกทีนี่ ทำอยู่ทั้งหมดกี่ครั้งนะครับ ถึงตอนนี้ไม่ทราบว่ายังเดินกลับทางนี้อยู่รึเปล่า ถ้าคุณเป็นแพทย์ใช้ทุนใหม่ปีนี้ มีอีกวิธีหนึ่งคือนึกถึงเกมไพ่ที่เราไปเล่นกันที่ รร.หาดแก้ว ตอน Walk Rally รู้สึกเราจะพูดถึงเรื่องกฏระเบียบในที่ใหม่ๆกับวิธีการปรับตัวอยู่บ้าง

สุดท้ายคือไม่แน่ใจว่าเรื่องชั่วโมงทำงานของคนงานโรงพยาบาลเกี่ยวอะไรกับกฏการปิดประตูโรงพยาบาล อาจจะช่วยขยายความเติมความสัมพันธ์ตรงกลางให้สักนิดหนึ่ง



Posted by : Phoenix , Date : 2004-05-19 , Time : 00:55:35 , From IP : 203.155.172.85

ความคิดเห็นที่ : 4


   อดทนไว้ครับน้อง

Posted by : The Gunners , Date : 2004-05-19 , Time : 02:40:10 , From IP : 172.29.1.139

ความคิดเห็นที่ : 5


   เคยคิดไว้ว่า พชท คือ แพทย์ใช้ทน ไม่ใช่ใช้ทุนนะ ต้องทนทำงานให้อึดไว้ คิดไว้เถอะว่าทำงานให้มาก แล้วจะเก่ง เพราะได้เห็นคนไข้เยอะๆๆๆๆ และพอจบไปแล้วเราจะรู้สึกภูมิใจในตัวเราเองที่สามารถฝ่าด่านอันทรงความทุกข์มาได้และเก่งขึ้น และอาจจารย์ได้สอนให้เราเป็นคนอดทนและแกร่ง ด้วยวิถีทางแบบที่เราก็ไม่เคยคิด แต่อย่าลืมตอนนั้น ควรpละทิ้งอารมณ์ที่ติดค้างออกไปจากใจเราด้วยนะ
เวลาเหนื่อยและมีอารมณ์negativeแบบไหนก็ตาม กฎเกณท์อะไรทุกอย่างที่ต้องพบ มันก็จะถูก project ให้ดูเป็นเรื่องใหญ่เกินจะรับได้แน่นอน และหน้าเห็นใจ ถ้าทำให้เขาไม่รู้สึกเหนื่อยเสียหน่อย อะไรมันก็คงจะรับได้หมด


Posted by : pisces , Date : 2004-05-19 , Time : 07:01:53 , From IP : 172.29.3.228

ความคิดเห็นที่ : 6


   คุณแำพทย์จบใหม่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการปิดประตูด้านหลังโรงพยาบาลว่าใครเป็นคนตั้ง มีเหตุผลอย่างไร เปลี่ยนแปลงได้ไหม เพื่อความสะดวกแก่แพทย์ซึ่งต้องการไปอาบน้ำหลังตีสอง
.
คุณแพทย์จบใหม่ให้ข้อมูลเรื่องชั่วโมงการทำงานและชั่วโมงในการนอนของเขามาด้วย และยังแถมพกการวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบช่วงเวลาทำงานของเขากับพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ท่านอื่นมาด้วย (ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าให้มาทำไม)
.
ผมไม่ได้เข้ามาตอบครับ เข้ามาเสือก
.
ผมเคยเดินอ้อมหน้าโรงพยาบาลเหมือนกันครับ เวลาออกจากห้องผ่าตัดหลังตีสอง ตอนนั้นก็รู้สึกหัวเสียอยู่เหมือนกันว่าทำไมประตูปิด ง่วงก็ง่วง พักหลังพอมีจักรยานขี่และจอดจักรยานไว้ด้านหน้า รู้สึกดีขึ้นบ้าง
.
และมาคิดเอาตอนหลังเหมือนกันว่า การที่เขาเลือกปิดประตูหลังสองนาฬิกา นั่นคงเป็นเพราะเจ้าหน้าที่กะดึกเดินทางมาขึ้นเวรกันแล้ว เจ้าหน้าที่เวรบ่ายได้พักเหนื่อยและเดินกลับกันหมดแล้ว แพทย์ที่อาบน้ำตามเวลาปกติ ได้กลับไปอาบน้ำแล้ว คนส่วนใหญ่ กิจกรรมส่วนใหญ่ ที่มีกับประตู เสร็จสิ้นลง
.
ประตูจึงปิดครับ
.
เหลืือประตูใหญ่ที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กับประตูห้องฉุกเฉินที่มีคนผ่านเข้าออกและไฟเปิด การเปิดประตูเพิ่มหนึ่งทาง หมายถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนึ่งท่าน ประกอบกับความเสี่ยงที่สิ่งไม่พึงประสงค์จะเข้ามา สิ่งที่มีค่าจะออกไปในยามวิกาลเช่นนั้น อันนี้ผมคิดง่าย ๆ ครับ คิดแบบเด็ก ๆ ที่พยายามจะอธิบายอะไรที่มันเกิดมันเป็นอยู่
.
แต่อย่าช้าครับ หากคุณแพทย์จบใหม่เห็นว่า ประตูเป็นปัญหาใหญ่ กระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนหมู่มาก หรือแม้กระทั่งของคุณเองคนเดียว แต่ต้องเดินทางนี้ทุกวัน ก็อย่าช้าครับ ลองคิดหาทางออกดูสิครับ เช่นขอกุญแจประตูนั้นไว้กับตัว หรือรวมพลคนอาบน้ำตีสองลองยื่นจดหมายถึงผู้บริหาร
.
ลองหาทางออกดูสิครับ ทางที่คุณไปอาบน้ำได้ และโรงพยาบาลก็ไม่เสียหลักการของการปิดประตู พูดภาษาชาวบ้านคือทางออกแบบที่มีชัยกันทั้งสองฝ่ายน่ะครับ
.
แต่หากคิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ก็ลองกลับมาที่ตัวเอง ลองหาทางที่จะลดปัญหาของคุณที่เกิดจากประตู ด้วยการแก้การทำในส่วนที่คุณทำได้ดูสิครับ เช่น จัดแบ่งเวลาทำงานใหม่ ฝากงานเพื่อนหรือแบ่งกันกลับไปพัก หรือขนของมาอาบน้ำที่โรงพยาบาล ฯลฯ
.
มีอยู่ครั้ง ผมซวยขนาดไม่ใช่แค่ต้องเดินอ้อมหรอกครับ แต่กลับไปถึงห้องแล้วยังพบว่าตัวเองลืมกุญแจไว้ที่โรงพยาบาลอีก วันนั้นผมหัวเราะก๊ากเลยครับ


Posted by : Shonigega , Date : 2004-05-19 , Time : 17:17:00 , From IP : pedsurg.med.osaka-u.

ความคิดเห็นที่ : 7


   ทำไมต้องพาดหัวว่าเรียนผู้อำนวยการด้วย?
- เพราะจริงๆแล้วผู้อำนวยการไม่อ่านหรอก
- ถึงจะอ่านก็ไม่สนใจข้อความร้องเรียนอะไรแบบนี้หรอก
ทำไมต้องพยายามที่จะสนใจว่าใครออกกฎ?
- คุณไม่มีทางได้ทราบแน่นอน
- ถึงคุณจะทราบคุณก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้
ทางแก้ไข?
- ไม่มีใครสนใจเรื่องประตูหรอก จนกว่าคุณจะโดนจี้ระหว่างเดินอ้อมโรงพยาบาล โดยยิ่งถ้าถูกโจรแทงตายจะยิ่งช่วยให้อะไรง่ายขึ้น อย่างน้อยก็จะมีคนฟังคุณ มากกว่าไอ้พวกโง่ที่ดีแต่ถามว่ามีใครเดือดร้อนบ้างเพราะประตูปิด หรือว่าต้องเดินผ่านตอนที่ปิดแล้วกี่ครั้ง
- เห็นด้วยกับ Shonigega เรื่องแนวทางแก้ไข พยายามอย่ากลับดึก ฝากงานเพื่อนก็ได้ หรือถ้าเลิกช้านักก็นอนมันที่โรงพยาบาลเลย อย่าไปเสี่ยงตายเลยเพราะเราเคยโดนหมาวิ่งไล่กัดเกือบตาย
- ถ้ามีกฎระเบียบบ้าๆออกมาใหม่ จงระลึกไว้เสมอกว่า อย่าพยายามยอมรับอะไรง่ายๆ เพราะถ้ากลายเป็นการปฎิบัติขึ้นมาแล้ว เวลาคุณจะล้มล้างอะไรพวกนั้น คุณจะต้องไประดมคน และยื่นหนังสือร้องเรียนวุ่นวาย และสุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรจากการไม่ทำอะไร
- เวลาจะโวยวายอะไร อย่าพยายามดึงคนจำนวนมากมาเกี่ยวหรือเขียนอะไรยืดยาว เพราะจะมีพวกบ้ามานั่งจับผิดและดึงประเด็นที่พยายามเขียนให้เข้าป่าเพื่อคนจะได้ไม่สนใจ
- ทุ่มเทให้กับงานนั้นดี แต่ต้องใส่ใจตัวเองด้วย อย่าทำอะไรให้ตัวเองเดือดร้อนมากนักโดยไม่จำเป็น
- สุดท้าย อดทนค่ะ และจำไว้ว่า อยากได้อะไรดีต้องลงมือทำเอง อย่าพยายามเรียกร้องหรือเฝ้ารอว่าจะมีคนมาช่วย เพราะนั่นมีแต่ในนิยายเท่านั้นนะค่ะ


Posted by : Lover of the Death , Date : 2004-05-20 , Time : 02:30:17 , From IP : 172.29.3.173

ความคิดเห็นที่ : 8


   ขณะที่กำลังพิมพ์ความเห็นนี้อยู่ผมกำลังยิ้มขอรับ
.
เข้ามาเพื่อขยายความหมายโดยนัยเพิ่มเติมของการเขียนความเห็นข้างบน หรือการเข้ามาพิมพ์ความเห็นในหลายครั้งที่ผ่านมา
.
ผมอยากจะบอกอยากจะรณรงค์ว่า
.
เราไม่ควรแก้ปัญหา โดยการเสียดสี ด่าทอ มองโลกในแง่ร้าย และโกหก
เราไม่ควรแก้ปัญหาโดยการสร้างให้เกิดฝ่ายตรงข้ามและพยายามกำจัดทำลาย
.
ชีวิตจริงไม่เหมือนนิยาย แต่ก็ไม่เหมือนเกมส์ในคอมพิวเตอร์
ถ้าไม่มีศัตรู ก็อย่าพยายามไปอุปโลกว่าใครเป็นศัตรู เป็นฝ่ายตรงข้าม ต้องสู้ ต้องเอาชนะกันลูกเดียว
.
เพราะบางครั้งคุณประกาศว่า "เอาละ ผมยอมแพ้แล้ว" คนที่คุณสู้ด้วย เขายังไม่รู้ตัวเลยว่า อะไรของมันกันวะเนี่ยะ ใครมาสู้กับฉันกันตั้งแต่เมื่อไหร่
.
ผมรณรงค์ให้พวกเราแก้ปัญหาโดยการ
ก. verify ให้ชัด ว่ามันเป็นปัญหาจริง define ผลกระทบของมัน
ข.หาสาเหตุของปัญหาแบบนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้มากกว่าวิชานั่งเทียน การคิดประชดว่าเขาปิดประตูเพราะมีคนมาขโมยศพ ไม่ใช่การคิดแบบวางอคติ หรือการคิดว่าการที่คณะไม่รับบุคลากรเพิ่มเป็นเพราะความงก อาจไกลความจริงไปหน่อยถ้าลองคลิกเข้าไปดูประกาศรับแพทย์ในหน้าแรก ปัญหาหลักคือ มิได้มีคนมาสมัครเต็มตามจำนวนรับ
ค. วางเป้าหมายของสภาวะพ้นปัญหาที่อยากให้เป็น
ง. มองหาทางที่จะทำให้มันเกิด ซึ่งแน่นอน ต้องอาศัยการคุยการสื่อสารกับผู้ที่รับผิดชอบ การทำความเข้าใจในระเบียบขององค์กร การมองไปไกล ๆ ถึงผลกระทบเมื่อเลือกใช้ทางใดทางหนึ่ง เป็นทางผ่านที่จะทำให้เกิดข้อ ค.
.
ถ้าทำทั้งหมดแล้ว มันไม่ได้ผล
.
ก็ทำใหม่
.
เพียรทำใหม่ ทำอีก อดทนทำต่อไปอีก
.
ทำเช่นนี้การเปลี่ยนแปลงสู่ข้อ ค. มันจึงมีโอกาสจะเกิด (ผมใช้คำว่ามีโอกาส ไม่ใช่ มันจะต้องเกิดแน่) ไม่ถึงเชียงใหม่ แต่หากออกเดินไปถูกทาง อย่างน้อยคุณก็ถึงพัทลุง ถึงสุราษฎรธานี มันใกล้ขึ้นมาได้
.
แต่หากคิดแก้ปัญหาด้วยวิธีการโวยวายอย่างเดียว ประชดเข้าว่า หรือเสียดสีไว้ก่อน มันคงไม่ต่างจากจะเดินไปเชียงใหม่แต่มุ่งไปกัวลาลัมเปอร์ ผลสำเร็จ มันก็มีแต่ในนิยายแนวเพ้อฝันเท่านั้นกระมังครับ


Posted by : Shonigega , Date : 2004-05-20 , Time : 11:14:36 , From IP : pedsurg.med.osaka-u.

ความคิดเห็นที่ : 9


   ถ้าอยากได้ OT ให้สะใจ ก็ลองมาเป็นพยาบาลดูซิ บางทีเราก็ไม่ได้อยากจะได้หรอกแต่สงสารคนไข้ถ้าไม่มาทำงาน แล้วใครที่ไหนจะมาดูแล ค่าตอบแทนที่ได้มันไม่คุ้มกันเท่าไหร่หรอก เดือนหนึ่งก็ 2-4 โอ แต่เวรธรรมดาบ่ายก็ 120 ดึกก็150บาท (เขาให้ค่าตอบแทนเท่านี้มาเป็นชาติแล้วไม่เคยคิดจะเพิ่มหรอก ทำไมผู้บริหารไม่คิดบ้างว่าคนอื่นก็ต้องกินต้องใช้ ค่านำมัน ค่ารถ ค่ายา ค่าอาหารมันก็ขึ้นราคาทั้งนั้น ทีค่าFlushing ค่าล้างปากคนไข้ทำอะไรก็คิดหมดคิดละเอียดด้วย คนที่เป็นแค่พนักงานมหาลัยถ้าพ่อ แม่ไม่สบายช่วยค่ารักษาแค่60%แตที่เหลือจะเอาปัญญาที่ไหนไปจ่ายยิ่งเรื่องยาไม่ต้องพูดแบบไหนถูกสุดก็ใช้แบบนั้น)สบคุ้มกันเหรอกับการอดนอน 9 ชั่วโมง เสียสุขภาพ แถมยังแก่เร็วกว่าพยาบาลที่อื่นด้วย

Posted by : koo , Date : 2004-05-20 , Time : 18:42:21 , From IP : 172.29.3.222

ความคิดเห็นที่ : 10


   ถ้าคุณแพทย์จบใหม่อญู่หรือทนไม่ได้ก็ลาออกเถอะ ไม่ได้ประชดนะ หมอคนอื่นๆเขาก็โดนแบบนี้กันทั้งนั้นที่ลาออกไปแล้วก็มีเพราะทนไม่ไหว แต่ที่ทนอยู่ได้ก็มีและตอนนี้เขาก็กำลังจะถึงฝั่งฝันแล้ว 4 ปีเองไม่นานหรอก แต่ที่สำคัญจะเกลียดใคร ไม่พอใจอะไรอย่าไปลงกับคนไข้ดูแลเขาให้ดีๆ อ้ออีกอย่างหัดเปิดใจให้กว้างหน่อยอย่าตัดสินอะไรเพียงแค่ตาคุณเห็น หัดมองด้วยใจบ้างแล้วคุณจะเป็นคนที่น่า...

Posted by : koo again , Date : 2004-05-20 , Time : 18:55:26 , From IP : 172.29.3.222

ความคิดเห็นที่ : 11


   Pay per workload,please!!!!

Posted by : Enoxaparin , Date : 2004-05-20 , Time : 19:38:07 , From IP : ls12.internode.on.ne

ความคิดเห็นที่ : 12


   เห็นด้วยกับ คุณ Enoxaparin ครับ คนนะไม่ใช่ควา-

Posted by : เหอเหอ , Date : 2004-05-22 , Time : 00:56:39 , From IP : ppp-210.86.223.221.r

ความคิดเห็นที่ : 13


   ประตูทางหน้าสิคงมีคนใช้น้อยกว่าประตูหลัง

ปิดประตูหน้าแล้วเปิดประตูหลัง ให้ยามมานั่งเฝ้าประตูหลังแทนจะได้มั๊ย

(ผมก็เคยลงไปอาบน้ำแต่ประตูปิด หัวเสียเหมือนกัน ล็อกทำไมฟะ)


Posted by : เหอๆ , Date : 2004-05-22 , Time : 04:13:52 , From IP : 172.29.4.179

ความคิดเห็นที่ : 14


   เท่าที่รู้แต่ละจุดก็มีกำหนดเวลาเปิด - ปิดประตูอยู่แล้ว หน้าห้องเก็บศพ เปิด 6 โมง ปิดตีหนึ่งครึ่ง แถมยังมีจนท.รปภ.มาเฝ้าตั้งแต่หลัง 2 ทุ่มไปอีก ส่วนประตูอื่นๆ เปิดเวลา 6 โมง และปิดเวลา 2 ทุ่ม หากว่าพ้นกำหนดเวลานั้นแล้ว เราก็ควรไปออกทางหน้ารพ.จะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของเราทุกคนยิ่งถ้ามีทางเข้า-ออกหลายทางการดูแลในยามค้ำคืนย่อมจะลำบากมากขึ้นอย่างแน่นอน

Posted by : เพื่อน , Date : 2004-05-24 , Time : 14:29:03 , From IP : 172.29.3.194

ความคิดเห็นที่ : 15


   ....Lover of the Death???



Posted by : Death , Date : 2004-06-02 , Time : 23:34:01 , From IP : 172.29.3.205

ความคิดเห็นที่ : 16


   ผมไม่ได้เข้ามานาน เพราะออกจากมอ มานานเสียด้วยเหตุผลที่ปิดเพราะมีโจรจี้นศพ หญิงและผมเป็นคนวิ่งไล่จับเองหลังจากนั้นก็มีการปิดประตูเพราะขาดการรักษาความปลอดภัยตอนแรก รู้สึกว่าจะปิดหกโมงเย็นตอนนี้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนแปลงแค่ไหนแล้ว

Posted by : BOON , Date : 2004-06-04 , Time : 17:12:48 , From IP : 61.19.211.250

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<